คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : ล้าหลัง
“ตัวเมืองออกจะใหญ่โต ทำไมพวกเราไม่แบ่งส่วนกันล่ะ”
เซียนหิมะที่เงียบมาตลอดพยายามหาทางลงให้ทุกฝ่าย
“งั้นส่วนของเธอกับไอ้งูบินนี่ก็คงน้อยหน่อยนะแม่หนู”
สังหารเทพตอบพลางเหลือบตาไปทางจักรพรรดิมังกรและเซียนหิมะ
“แกมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินวะ”
จักรพรรดิมังกรยังคงเดือดไม่เลิก ส่งให้สังหารเทพจ้องเด็กรุ่นหลังอย่างมันขณะตอบเสียงเหี้ยมกลับไปว่า
“โลกนี้ผู้แข็งแกร่งกว่าย่อมมีสิทธิ์จะตัดสินใจอยู่แล้วไอ้หนู!”
“พูดได้ดี
เพราะงั้นกลุ่มของฉันย่อมต้องมีสิทธิ์มากกว่าใครในที่นี้ใช่หรือเปล่าคะลุง”
นภาสบโอกาสเอ่ยแทรกขึ้นมายิ้ม
ๆ
“เสียเวลาเปล่า! มาลุยให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยดีกว่า”
จักรพรรดิมังกรตะโกนพร้อมชักอาวุธขึ้นมา สมุนด้านหลังของมันต่างก็รีบทำตาม
ทว่ายังไม่มีใครทันได้เคลื่อนไหวมากไปกว่านี้ ภายในมหานครฉางอานก็บังเกิดเสียงคำรามแว่วดังมาให้ได้ยิน กำแพงเมืองบริเวณหนึ่งที่มีรูโหว่ขนาดใหญ่พลันปรากฏนักรบโครงกระดูกก้าวล้ำออกมา พอมันเห็นศัตรูก็โก่งกระดูกคอแผดเสียงคำรามดังขึ้นมาได้หน้าตาเฉย ไม่กี่อึดใจต่อมาเสียงคำรามโหยหวนก็ส่งไปเป็นทอด
ๆ อยู่หลังกำแพงใหญ่ พริบตาทัพโครงกระดูกจำนวนมหาศาลก็ปีนป่ายกันออกมาทั้งจากเหนือกำแพงสูงและรูโหว่ตามจุดต่าง
ๆ เท่าที่จะมีได้
“นี่แหละทางออกของพวกเรา!”
นทีรีบเอ่ยขึ้นก่อน จากนั้นอธิบายต่อว่า
“กลุ่มไหนฝ่าเข้าไปได้เร็วกว่าย่อมมีโอกาสพบเจอทางเข้าสู่ดันเจี้ยนใต้ดินลับเร็วกว่าด้วยเช่นกัน”
“อย่ามานั่งเสียใจทีหลังแล้วกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
สังหารเทพไม่ปฏิเสธ หลังกล่าวจบเขาก็ชิงนำกลุ่มของตัวเองทะยานออกไปด้านหนึ่งแทบจะทันที
“ขอให้โชคดีนะครับคุณฟ้า”
นทีสบโอกาสเรียกชื่อเล่นจริง
ๆ ของนภาขึ้นมา
ก่อนจะไล่ติดตามกลุ่มตัวเองไปทีหลังสุด
“เป็นผู้ชายที่น่ารำคาญจริง ๆ ว่างั้นไหม”
ลวงภพกล่าวอย่างไม่ชอบใจขณะหันไปขอความเห็นจากเพื่อนอย่างเพลิงพิษ
“เพิ่งจะรู้หรือ
นายนั่นเจอหน้านภากี่ครั้งก็ทำตัวน่ารำคาญตลอดแหละ”
“ไม่มีเวลาให้นินทาใครแล้วสาว ๆ ตามฉันมาเร็วเข้า”
นภาสั่งการหลังจากนางตัดสินใจเลือกทิศทางที่จะมุ่งไปได้แล้ว
ไม่ช้ากลุ่มเพลเยอร์ทั้งหมดก็แยกย้ายกระจายออกไปคนละทิศทาง พวกเขาเข้าปะทะกับนักรบโครงกระดูก เลเวล 60 กันเต็มกำลัง วิชายุทธ์รัศมีทำลายเป็นวงกว้างถูกเรียกใช้จนก่อให้เกิดเสียงอึกทึกโครมครามไปทั่วทั้งมหานครฉางอาน นักรบโครงกระดูกแม้ตัวแตกกระจายเป็นส่วน ๆ
แต่พวกมันก็สามารถฟื้นคืนกลับขึ้นมาใหม่ได้ภายในเวลาแค่ 5
วินาที
และตั้งแต่เริ่มต้นการปะทะก็ยังไม่ปรากฏมอนสเตอร์กระดูกถูกสังหารเลยแม้แต่ตัวเดียว
แต่กลุ่มเพลเยอร์ระดับสูงชั้นแนวหน้าไม่ใช่คนโง่เพราะระหว่างฟันฝ่าลึกเข้าไปภายในตัวเมือง พวกเขาก็ค้นหาเส้นทางลับใต้ดินไปด้วย เพียงแค่สองสามนาทีแรกคนทั้งหมดก็ทราบแล้วว่านักรับโครงกระดูกเหล่านี้ถูกโปรแกรมขึ้นมาให้ไม่มีทางตาย!
จวบกระทั่งสิบนาทีผ่านไป
กลุ่มคนทั้งห้าก็ค้นพบเส้นทางบันไดลับซุกซ่อนอยู่ภายในโบราณสถานตามจุดต่าง
ๆ พวกเขาแทบจะเหาะดิ่งลงไปเลยถ้าหากทำได้โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากเหยียบย่างลงไปแล้วฝูงนักรบโครงกระดูกก็เลิกไล่ล่าคนทั้งหมดในทันทีคล้ายหน้าที่ของพวกมันจบลงแค่ตรงนี้
ส่วนจ้าววังทั้งห้าต่างพากันดีใจเพราะคิดว่ามีแค่กลุ่มของตัวเองเท่านั้นที่ค้นพบเส้นทางลับใต้ดินนี้เป็นกลุ่มแรก
เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายชั่วโมง
ยี่ฟงขณะนี้จำต้องอดทนมากกว่าครั้งไหน
ๆ เขาต้องรอให้คูลดาวน์ของวิหคอหังการกลับมาใช้ได้อีกครั้งทุก
ๆ หนึ่งชั่วโมง เพราะหากเขาประมาทและปลุกขุนพลกับบริวารของมันขึ้นมาทั้งที่ไม่สามารถทะลวงขีดจำกัดเลเวลให้สูงกว่า
44 ได้แล้ว การปะทะจะกลายเป็นยากลำบากยิ่งถึงขั้นอาจพลาดพลั้งตกตายไปง่าย
ๆ อย่างน่าเสียดาย
สุดท้ายวันแรกยี่ฟงก็ไม่ได้กลืนยาโอสถทิพย์ผลัดเปลี่ยนเส้นเอ็น เขายังคงรอช่วงเวลาที่เหมาะสมมากกว่านี้อยู่
ซึ่งทางด้านของกิลด์ใหญ่ทั้งห้าหลังจากลงสู่เส้นทางลับใต้ดินเหมือน
ๆ กันแล้ว พวกเขาก็มุ่งหน้าต่อเนื่องจนพบเจอห้องโถงแรกซึ่งเต็มไปด้วยโลงศพไม่ต่างอะไรจากที่ยี่ฟงพบเจอมา แต่ทุกกลุ่มไม่ได้ฝ่าออกไปทันทีพวกเขาทราบว่ามอนสเตอร์ที่นี่ดรอปชิ้นส่วนย่อยคัมภีร์และมันจะต้องเป็นคัมภีร์คลาส
A ไม่ก็ B แน่ ๆ สุดท้ายจึงพากันปักหลักฟาร์มเพื่อรวบรวมชิ้นส่วนคัมภีร์ที่ว่าให้ครบเสียก่อนถึงจะยอมออกเดินทางต่อ
ผลัดมาอีกวันหนึ่งช่วงเย็น เลเวลของยี่ฟงก็เลื่อนขึ้นเป็น 41 แต่มันยังไม่เพียงพอจะให้เขากลืนกินยาโอสถทิพย์เพื่อจะได้รับประโยชน์สูงสุดในตอนนี้ การอดทนฟาร์มอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงดำเนินต่อเนื่องและเชื่องช้ายิ่ง
สองวันต่อมา
ยี่ฟงสังหารขุนพลกับบริวารของมันได้รวดเร็วขึ้นเลเวลจึงเลื่อนเป็น
43 แล้ว เขาค้นพบบางอย่างในระหว่างการต่อสู้ หากล่อลวงให้ทหารฝีมือดีทิ่มแทงหอกไม่ว่าจะกระแทกใส่เสาหินหรือกำแพงบ่อยครั้งมันก็จะเสียหายหักสะบั้นเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยแต่มันก็ช่วยให้ยี่ฟงรับมือกับศัตรูได้ง่ายและจัดการพวกมันได้เร็วขึ้น
และแล้วก็เข้าสู่วันที่ห้าจวบจนช่วงเย็น
ยี่ฟงก็ผลักดันตัวเองสุดความสามารถ เลเวลจึงเลื่อนขึ้นเป็น 44 จากโลงศพนับร้อยเขาก็เคลียร์ไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วจากการกะด้วยสายตาคร่าว ๆ
“ออฟไลน์ออกไปพักกินข้าวเย็นก่อนดีกว่า…”
ยี่ฟงกล่าวน้ำเสียงหอบเหนื่อยและออฟไลน์ไป
ส่วนทางด้านของกิลด์ใหญ่ทั้งห้า พวกเขารวบรวมชิ้นส่วนย่อยคัมภีร์ได้ครบตั้งแต่วันที่สี่แล้วกระทั่งบรรลุถึงเส้นทางขาดในช่วงสายของวันที่ห้า จุดนี้เป็นอุปสรรคขวางกั้นได้ดีกว่าที่คิด โดยเฉพาะกลุ่มของจักรพรรดิมังกร
เมื่อมีคนพลาดร่วงตกลงไปในหลุมลึก พวกเขากลับไม่ตายแต่เหมือนจะหล่นไปเริ่มใหม่ที่ห้องโถงแรกเสียอย่างนั้น ทว่าระดับความสูงก็ส่งผลให้ร่างของผู้โชคร้ายเจ็บหนักทีเดียว ทั้งยังซวยซ้ำซ้อนตกกระแทกใส่โลงศพจนไปปลุกนักรบตายซากขึ้นมาอีกต่างหาก
สำหรับกลุ่มของจักรพรรดิมังกรแล้วพวกเขาเสียเวลาไปทั้งวันกว่าจะทะยานฝ่าเส้นทางขาดจุดนี้ไปได้ กลับกัน
กลุ่มของนภาเสียเวลาไปน้อยที่สุดเพียงสี่ชั่วโมงก็ผ่านได้แล้ว รองลงมาคือกลุ่มของสังหารเทพและตามด้วยกลุ่มนที
ยี่ฟงใช้เวลากินข้าวเย็นและทำธุระประมาณครึ่งชั่วโมงก็กลับเข้ามาออนไลน์ต่อเนื่องทันที
“อีกสองเลเวลเท่านั้น ลุยโว้ย!”
ชายหนุ่มตะโกนปลุกใจตัวเอง
การฟาร์มเลเวลจึงเริ่มต้นอีกครั้ง ด้วยการทะลวงขีดจำกัดทำให้เลเวลของเขาสูงถึง 48 ความเร็วในการเคลียร์มอนสเตอร์ที่มีเลเวลเฉลี่ย
40-44 จึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ถึงอย่างนั้นยี่ฟงก็ยังไม่ยอมกลืนยาโอสถทิพย์ผลัดเปลี่ยนเส้นเอ็น
แม้ช่วงเวลาของการทะลวงขีดจำกัดเลเวลจะหมดลง ยี่ฟงก็ยังสามารถฝืนปะทะไปได้อยู่บ้างโดยไม่จำเป็นต้องรออยู่เฉยเป็นชั่วโมงอย่างวันแรก
ๆ อีกต่อไป
สามวันต่อมา
ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเลื่อนเลเวล เขาถึงกับเสียเวลาไปสามวันกว่า เลเวลจึงเลื่อนขึ้นเป็น 45 และสูญเวลาไปอีกสามวันเกือบจะล่วงเข้าเช้าของวันที่สี่เพื่อเลื่อนเลเวลขึ้นเป็น
46 ได้ตามที่หวังไว้ ยังดีที่มอนสเตอร์ในห้องโถงแห่งนี้ช่วยดรอปน้ำยาเพิ่มเลือดมาให้ด้วย
“เฮอ หกวันกว่าเลื่อนสองเลเวล”
ยี่ฟงกล่าวอย่างห่อเหี่ยว
เวลานี้โลงศพถูกจัดการไปได้เกือบหมดแล้ว หลงเหลืออีกแค่กองเดียวและโลงศพบนแท่นยกสูงเท่านั้นเนื่องจากยี่ฟงหักโหมมาทั้งคืนเขาจึงต้องสละเวลาพักผ่อนบ้าง ไม่เช่นนั้นอาจจะหลับไประหว่างต่อสู้ได้
ทางด้านห้ากิลด์ใหญ่ที่มีแต่เพลเยอร์ระดับสูง พวกเขาสบายกว่ามากนัก หลังผ่านเส้นทางขาดและพบเจอรางวัลระหว่างทางซึ่งก็คือห้องโอสถทิพย์แห่งวังหลวงแล้วไม่ช้าคนทั้งห้ากลุ่มก็บรรลุถึงห้องโถงที่สองเฉกเช่นเดียวกันกับเส้นทางของยี่ฟง
ดูเหมือนไม่ว่าจะเข้ามาจากเส้นทางใดภายในดันเจี้ยนลับใต้ดินแห่งนี้ก็จะได้พบด่านทดสอบเหมือนกันทั้งหมด
ระยะเวลาหกวันกว่าที่ผ่านมา กลุ่มของนภาเสียไปแค่สองวันก็จัดการบริวารทั้งหมดรวมถึงเจ้าของโลงบนแท่นยกสูงและผ่านไปได้แล้ว ถัดมาคือกลุ่มสังหารเทพและนทีซึ่งใช้เวลาไล่เลี่ยกันเกือบเข้าวันที่สามจึงจะผ่านไปได้ตามติดกลุ่มแรกไปไม่มีปล่อย
กลายเป็นว่ายี่ฟงที่บรรลุถึงดันเจี้ยนลับเป็นคนแรกบัดนี้ถูกนำหน้าไปเป็นที่เรียบร้อย
ยี่ฟงลืมตาตื่นขึ้นมาช่วงสายของวันที่เจ็ด เขาอ่อนล้าและงัวเงียมาก ร่างกายที่ฝืนหักโหมหนักหน่วงมาติด ๆ กันเล่นเอาปวดระบมไปทั้งตัว เมื่อไม่มีทางเลือกยี่ฟงจึงกลืนโอสถทิพย์ผลัดเปลี่ยนเส้นเอ็นระดับห้าเข้าไป หลังผ่านไปห้านาทียี่ฟงก็เหมือนได้เกิดใหม่ ร่างกายเขาเบาหวิวและพลังงานเต็มเปี่ยมล้นเหลือได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ยังเหลือการทดลองอยู่อีกหนึ่ง หากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้เขาจะใช้ยาโอสถทิพย์นี้ได้อย่างคุ้มค่าแน่ ๆ แต่ก่อนหน้านั้นจำต้องผ่านห้องโถงนี้ไปเสียก่อนและต้องใช้เวลาให้น้อยที่สุดเพื่อคงสถานะยาโอสถทิพย์ผลัดเปลี่ยนเส้นเอ็นเอาไว้
ยี่ฟงไม่รีรอก่อนจะซัดหอกแฝงลมปราณกระแทกใส่โลงศพกลุ่มสุดท้าย จากนั้นเรียกใช้วิชายุทธ์หากินขึ้นมา
“วิหคอหังการ”
เลเวลของเขาทะลวงขึ้นเป็น
50 ผ่านเงื่อนไขพิเศษ การเรียกใช้ซ้อนครั้งที่สองจึงเกิดขึ้นนั่นทำให้เลเวลทะลวงขีดจำกัดมากกว่าเดิมจนขึ้นเป็น
55
ยี่ฟงสัมผัสได้ถึงลมปราณที่ทะลักพุ่งพล่าน เรี่ยวแรงมหาศาลที่ไม่เคยได้รู้สึกมาก่อนหลั่งไหลไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย ลมหายใจที่พ่นออกมาจากปากกลายเป็นไอฟุ้งดูน่าเกรงขาม แต่ดูเหมือนขุนพลและบริวารกลุ่มสุดท้ายจะไม่รับรู้ถึงสิ่งนั้นพวกมันจึงได้ทะยานเข้าโจมตีมาตรง
ๆ
“เพลงกระบี่ใบไม้ไหว”
ยี่ฟงทดลองปลดปล่อยวิชายุทธ์ที่กระจอกสุดของตัวเองสวนกลับไป
บึม!
คลื่นลมที่ทะยานออกจากตัวกระบี่ปะทะเข้ากับศัตรู ก่อให้เกิดการระเบิดรุนแรงถึงขั้นกองทหารฝีมือดีทั้งสี่ร่างขาดกระจุยตกตายในกระบวนท่าเดียว
ส่วนขุนพลผู้ภักดีไม่ได้มีสภาพดีไปกว่ากันนัก ร่างของมันร่อแร่ขาดแหว่งเพียงแค่หยัดยืนเฉย ๆ ยังเซไปมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า
อย่าซ่ากับพี่เดี๋ยวศพจะไม่สวยนะน้อง”
ยี่ฟงประกาศกร้าวคล้ายปลดปล่อยความตึงเครียดที่สะสมมาหลายวันออกไปในทีเดียว กระทั่งขุนพลตัวสุดท้ายร่วงผล็อยลงไปกับพื้น เสียงระบบจึงแจ้งกะทันหันขึ้นว่า
‘เพลเยอร์ยี่ฟงทำลายบริวารของ ขุนศึกสะท้านฟ้า สำเร็จ การตื่นของมอนสเตอร์ตัวสุดท้ายจึงเริ่มขึ้น’
‘ขุนศึกสะท้านฟ้าฉวนฉู่ เลเวล 50 ตื่นจากการหลับใหล’
ความคิดเห็น