ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #30 : องครักษ์แห่งฉางอาน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24.76K
      1.2K
      2 ม.ค. 61

    ระหว่างที่ด้านนอกวิเคราะห์สถานการณ์กันไปต่าง ๆ นานา       พวกเขาก็ได้หลงลืมผู้ที่เป็นคนปลุกชีพมหานครฉางอานขึ้นมาอย่างยี่ฟงไปเสียสนิท  ความสนใจทั้งหมดแทบจะเทไปยังเพลเยอร์ระดับสูงเพื่อกระตุ้นยอดวิวผู้เข้าชมซะส่วนใหญ่  กระทั่งร่างกายของยี่ฟงกลับมาสมบูรณ์  พร้อมจะลุยอีกครั้ง

    หวังว่ามอนสเตอร์ในนี้จะไม่โหดเกินไปหรอกนะ

    ยี่ฟงเอ่ยเสียงเบาหวิว  เขาได้แต่อ้อนวอนอยู่ภายในใจ

    เส้นทางแคบเก่าแก่มากถึงกับมีหยากไย่เต็มไปหมด     ยี่ฟงจำต้องใช้กระบี่กวาดออกเพื่อเปิดทางไปอย่างเชื่องช้า  แต่ดูเหมือนยิ่งเดินลึกเข้าไปเท่าไรหยากไย่ก็ยิ่งหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนน่ารำคาญ     ยี่ฟงหยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะนำเอาคบไฟออกมาเพื่อใช้เผาเปิดเส้นทางแทน         หากเพลเยอร์ไม่มีไอเทมประเภทคบไฟก็คงสามารถประยุกต์ใช้คบไฟติดผนังตามทางเดินแทนได้

    ซึ่งผลลัพธ์ดูจะออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้  พริบตาหยากไย่ที่เชื่อมต่อกันอยู่ก็ลุกไหม้สลายไปอย่างรวดเร็ว

    รู้งี้เผามันซะแต่แรกก็ดี

    ยี่ฟงเผยยิ้มสะใจ

    การเดินทางกลับกลายเป็นรุดหน้าไปได้เร็วขึ้น  ยี่ฟงต้องเลี้ยวอยู่หลายโค้งและเผาหยากไย่เปิดทางอีกพักใหญ่  จวบจนสายตาของเขามองเห็นปากทางออกไปจากเส้นทางแคบนี้ในที่สุด

    จะอยู่หรือตายก็วัดจากมอนสเตอร์ชุดแรกนี่ล่ะ

    ยี่ฟงเดาได้เลยว่าห้องกว้างเบื้องหน้าต้องมีบางอย่างเฝ้ารออยู่แน่นอน

    ชายหนุ่มก้าวช้า ๆ ไปที่ปากทางออก  สายตากวาดมองอย่างถี่ถ้วนระมัดระวัง           ดูเหมือนห้องโถงนี้จะเป็นสุสานมีระดับพอสมควร  ยี่ฟงตัดสินจากโลงศพประดับเพชรพลอยที่วางเรียงกันอยู่นับไม่ถ้วน

    เกมนี้มันแสบจริงแฮะ  ถ้าใครกลัวผีมีหวังไม่กล้าทำอะไรแน่ ๆ

    ยี่ฟงกล่าวทำลายความเงียบวังเวง

    เขาตัดสินใจเหยียบย่ำเข้าสู่ห้องโถงแรก          แต่ล้ำออกไปได้ไม่เกินห้าก้าวก็พลันเห็นโลงศพที่อยู่ใกล้สุดเลื่อนเปิดออกอย่างเชื่องช้า  เสียงครูดสะท้านจิตใจดังเป็นทอด ๆ จนยี่ฟงเผลอก้าวถอยหลังกลับไป

    ฉิบหาย!  อย่าลุกออกมาพร้อมกันหมดทั้งห้องนะโว้ย

    ความจริงแล้วมีแค่สามโลงที่อยู่ใกล้เลื่อนเปิดออกเท่านั้น   เมื่อฝาโลงหล่นกระทบพื้นก็ปรากฏร่างของนักรบลุกขึ้นมานั่ง  ร่างท่อนบนที่เผยออกมาถูกพันไว้ด้วยผ้าสีขาวคล้ายมัมมี่        บางส่วนกร่อนสลายเหลือให้เห็นแค่กระดูกน่าขนลุก  ผิวของนักรบทั้งสามซีดดำราวกับถูกคำสาป          ดวงตาลึกโบ๋มืดมิดกำลังจ้องมาทางยี่ฟงโดยปราศจากคำพูด     แต่แล้วพวกมันก็พากันแหกปากแผดเสียงคำรามก้องส่งให้ยี่ฟงขวัญกระเจิงไปชั่วครู่

    ทหารองครักษ์แห่งฉางอาน เลเวล 37 โจมตี

    เสียงระบบแจ้งซ้ำขึ้นมาสามครั้งขณะเดียวกับที่นักรบทั้งสามดีดร่างทะยานเข้าหายี่ฟง

    ชายหนุ่มขมวดคิ้วเคร่งเครียด  ไม่ทราบโลงศพอื่น ๆ จะมีตัวที่เลเวลสูงกว่านี้อีกหรือไม่        แต่ไม่มีเวลาให้ยี่ฟงไตร่ตรองมากนักเพราะเขาต้องเพ่งสมาธิรับมือกับนักรบทั้งสาม  การประมาทศัตรูที่เลเวลมากกว่าย่อมไม่เป็นผลดี

    ยี่ฟงทดลองเรียกใช้เพลงกระบี่ใบไม้ไหวในสภาวะที่รอบข้างไม่มีใบไม้แม้แต่เศษเสี้ยว  แต่ผลลัพธ์ไม่ได้แย่อย่างที่คิดเพราะยังมีสายลมจู่โจมออกไปเช่นเดิม  เพียงแต่ความเสียหายที่ทำได้ลดลงส่วนหนึ่ง  นักรบตัวแรกที่นำอยู่ด้านหน้ารีบไขว้แขนต้านรับการโจมตีเอาไว้จนร่างหยุดชะงัก  ส่งให้อีกสองตัวทะยานล้ำออกไปแทน   ด้านยี่ฟงโยนกระบี่ขึ้นสูงก่อนคว้าหอกในช่องเก็บของซัดออกไป  จากนั้นเขาก็ทะยานร่างตามเข้าไปในจังหวะต่อมา             คมหอกพุ่งกระแทกใส่นักรบตัวที่สองดึงความสนใจมันไว้  ส่วนยี่ฟงซึ่งตามมาติด ๆ พอดีกับที่กระบี่ร่วงกลับลงมาตามแผน  เขาจึงคว้าเอาไว้พร้อมผ่าคมกระบี่ใส่นักรบตัวที่สามต่อเนื่อง

    แต่ศัตรูคราวนี้ไม่โง่  มันสะบัดแขนปัดกระบี่ออกไปแลกกับการถูกบาดลึก     ทว่ารอยแผลนั้นแทบไม่มีผลอะไร  โลหิตสักหยดก็ไม่มีให้เห็น  ขณะเดียวกันยี่ฟงก็ไม่ได้มองศัตรูด้อยกว่าอยู่แล้ว   พอการโจมตีแรกไม่เป็นผลเขาก็หมุนตัวยกฝ่าเท้าถีบออกไป  เมื่อนักรบตัวที่สามเซถอยหลังยี่ฟงก็ต้องปะทะกับตัวที่สองต่อเนื่อง  หลังจากมันทำลายหอกขาดเป็นสองส่วนก็พุ่งเข้ากระแทกหมัดใส่ยี่ฟงทันที   ตูม!      ยี่ฟงขวางกระบี่ขึ้นต้านรับอย่างกะทันหัน  พลังหมัดของทหารองครักษ์รุนแรงมาก  หากไม่ใช่ว่าเป็นกระบี่คลาส D มันคงหักสะบั้นไปแล้ว     ส่วนแรงปะทะกระแทกยี่ฟงปลิวถอยหลังจนกลับไปยืนอยู่หน้าปากทางเข้าอีกครั้ง

    แรงเกินไปแล้ว!

    ยี่ฟงสะท้าน  เขารู้สึกได้ว่าพลังเมื่อครู่เพียงด้อยกว่ามัจจุราชซานจื่อไปไม่กี่ขั้นเท่านั้น!

    สถานการณ์เริ่มวิกฤตเมื่อนักรบตัวแรกทะยานเข้ามาสมทบ    ยี่ฟงจึงกัดฟันทะลวงขีดจำกัดเลเวลด้วยวิชายุทธ์วิหคอหังการที่เพิ่งคูลดาวน์เสร็จไปไม่นานอีกครั้ง  เพียงเข้าเขตแดนยอดฝีมือมายังไม่ครบวันดี   เขาถึงกับต้องพึ่งพาการทะลวงขีดจำกัดเลเวลเพื่อเอาชีวิตรอดซ้ำแล้วซ้ำเล่า  นี่บ่งชี้ให้เห็นว่ายี่ฟงอ่อนแอมากเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นที่พัฒนาตัวละครมาอย่างปกติทั่วไป     พวกเขายังมีความสามารถมากพอจะจัดการมอนสเตอร์ที่เลเวลสูงกว่าได้อย่างสบาย  นั่นเพราะเพลเยอร์ทั่วไปมีวิชายุทธ์ที่หวังผลได้อยู่จำนวนหนึ่ง         ผิดกับยี่ฟงซึ่งมีเพียงสามวิชาและเป็นสายโจมตีแค่หนึ่งวิชาเท่านั้น  ทั้งวิชาที่ว่ายังเป็นระดับต่ำเตี้ยเรี่ยดินอย่างมาก

    การที่ชายหนุ่มก้าวหน้ารวดเร็วเกินไปก็มีผลเสียอยู่บ้างเหมือนกัน

    เมื่อวิชายุทธ์แสดงผล  เลเวลของยี่ฟงก็เลื่อนขึ้นเป็น 37

    คงต้องฟาร์มอยู่ที่นี่ยาว ๆ ละตรู

    ตัวยี่ฟงเองก็ตระหนักดี      เขาจึงไม่คิดจะรีบเร่งไปจากจุดนี้และอดทนสร้างพื้นฐานเลเวลเพื่อทดแทนในสิ่งที่ยังขาดไป

    หลังจากมีเลเวลเท่าศัตรู  ยี่ฟงก็พบว่านักรบตายซากเหล่านี้มีดีแค่พลังกายและไม่รู้สึกเจ็บปวด   ความสามารถเช่นนี้จึงทำให้พวกมันโหมบุกได้ต่อเนื่องมากกว่ามอนสเตอร์ชนิดอื่น   แต่ก็แลกมาด้วยร่างกายที่ไม่อาจบ่มเพาะพลังลมปราณได้  นั่นหมายความว่าแท้จริงแล้วร่างกายของเหล่านักรบตายซากอ่อนแอกว่ามาก  เพลเยอร์อาจโดนตบตาได้เพราะท่าทางที่พวกมันแสดงออกไม่มีอาการหวาดกลัวใด ๆ

    เมื่อได้แลกหมัดปะทะกันตรง ๆ ขณะที่เลเวลเท่ากัน  ผลลัพธ์แท้จริงก็ปรากฏ    ถึงแม้ผิวหนังของนักรบตายซากจะแกร่งกว่ามนุษย์ปกติก็ยังไม่เหนือไปกว่ายี่ฟงซึ่งมีพลังลมปราณหมุนเวียนอยู่ได้      ทุกหมัดที่ปะทะกันจะเป็นฝ่าย ยี่ฟงผลักดันศัตรูให้ต้องก้าวถอยหลังไป

    ทว่าความจริงแล้ว      ทหารองครักษ์แห่งฉางอานจะแสดงพลังกายที่เหนือชั้นได้ก็ต่อเมื่อพวกมันมีเลเวลสูงกว่าเพลเยอร์ถึงแม้จะแค่ 1 เลเวลก็ตาม  พอเลเวลเท่ากันผลลัพธ์ที่ว่าจึงสลายไป       แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเพลเยอร์จะล้มพวกมันลงได้ง่าย ๆ

    เฮ้ย!

    ยี่ฟงอุทานตาโตเท่าไข่ห่าน

    นักรบตายซากตัวแรกที่แขนหักบิดเบี้ยวจากการปะทะตรง ๆ กับยี่ฟงไปเมื่อครู่   บัดนี้สามารถซ่อมแซมจนกลับมาใช้งานได้ดังเดิมอย่างรวดเร็ว  ตัวที่สองและสามก็ซ่อมแซมส่วนที่เสียหายสาหัสได้ไม่ต่างกัน  จากนั้นพวกมันก็ทำหน้ามึนพุ่งเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ไม่ตลกนะโว้ย!

    ยี่ฟงเริ่มหอบหายใจถี่

    การปะทะหนักหน่วงรอบที่สองบังเกิด       แต่ไม่กี่อึดใจยี่ฟงก็ค้นพบจุดอ่อนของเหล่านักรบตายซากได้ในที่สุด  บริเวณร่างกายที่กร่อนสลายจนเผยให้เห็นกระดูกของพวกมันนั้นเปราะบางมาก  เพียงรอคอยจังหวะดี ๆ และจู่โจมเข้าที่จุดอ่อนเหล่านั้นก็สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงเป็นเท่าตัวได้แล้ว  ไม่ช้าทหารองครักษ์แห่งฉางอานทั้งสามก็แตกหักร่วงผล็อยกองลงกับพื้น

    เพลเยอร์ยี่ฟงทำการสังหารทหารองครักษ์แห่งฉางอาน เลเวล 37 สำเร็จ        ด้รับชิ้นส่วนย่อยคัมภีร์ร่างอมตะจำนวน 1 / 50  ได้รับเงิน

    ยี่ฟงเลิกคิ้วประหลาดใจก่อนจะหยิบชิ้นส่วนย่อยคัมภีร์ร่างอมตะขึ้นมาพินิจดู

     

    เมื่อรวบรวมชิ้นส่วนคัมภีร์ได้ครบตามที่ระบุไว้  เพลเยอร์สามารถนำไปอัพเกรดเป็นคัมภีร์วิชายุทธ์ที่สมบูรณ์ได้

    ต้องการชิ้นส่วนย่อยคัมภีร์ร่างอมตะอีกจำนวน 49 ส่วน

    ต้องการชิ้นส่วนหลักของคัมภีร์ร่างอมตะอีกจำนวน 2 ส่วน

     

    ชิ้นส่วนหลักจะไปหาได้จากไหนวะ

    ยี่ฟงกล่าวสีหน้าสนใจอยู่บ้างแต่ก็เลือกที่จะเก็บไว้ก่อน  ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการฟาร์มเลเวล

    เนื่องจากวิชายุทธ์วิหคอหังการมีคูลดาวน์ถึงหนึ่งชั่วโมง    ยี่ฟงจึงไม่คิดจะรออยู่เฉย ๆ อย่างสูญเปล่า     เขาทดลองซัดหอกใส่โลงศพที่อยู่ใกล้สุดหวังจะปลุกทหารองครักษ์แห่งฉางอานขึ้นมาทีละตัวในระหว่างที่รอคูลดาวน์ของวิชายุทธ์วิหคอหังการ  ซึ่งยี่ฟงก็ไม่ผิดหวัง

    ทหารองครักษ์แห่งฉางอาน เลเวล 37 โจมตี

    แม้จะเลเวลน้อยกว่าแต่ถ้าปะทะกันหนึ่งต่อหนึ่งแล้วยี่ฟงก็ยังพอถูไถไปได้   ในช่วงแรกเขาไม่ทราบเลยว่านักรบตายซากเหล่านี้มีทักษะพิเศษช่วยให้เหนือกว่าเพลเยอร์ที่มีเลเวลน้อยกว่าพวกมัน      กระทั่งเกือบจะครบหนึ่งชั่วโมงชายหนุ่มจึงเพิ่งตระหนักได้  และใช้สมองไตร่ตรองถึงความเป็นไปได้หลาย ๆ อย่าง

    สุดท้ายสรุปออกมาใกล้เคียงประมาณว่าเหล่านักรบตายซากมีทักษะพิเศษหนุนเสริมด้านพลังกาย

    เมื่อวิชายุทธ์วิหคอหังการพร้อมใช้งาน  ยี่ฟงก็เริ่มต้นฟาร์มเลเวลอีกครั้ง     เขาปลุกทหารองครักษ์แห่งฉางอานขึ้นมาทีละตัวอย่างไม่เร่งรีบ  การได้ต่อสู้กับพวกมันช่วยให้ทักษะของยี่ฟงพัฒนาขึ้น     ทุก ๆ หนึ่งชั่วโมงชายหนุ่มจะสังหารศัตรูได้มากขึ้นเรื่อย ๆ  สมองเขาเริ่มจดจำไว้ว่าตัวเองเหนือกว่านักรบตายซากเหล่านี้ไปโดยไม่รู้ตัว  ทักษะการเคลื่อนที่ก็พัฒนาขึ้นตามความชำนาญและคุ้นชิน

    จวบกระทั่งถึงตีสามภายในเกม  ระบบก็แจ้งว่า

    เพลเยอร์ยี่ฟงสำเร็จในการเลื่อนเลเวลขึ้นเป็น 35

    วิชายุทธ์คลาส B ท่าเท้าเมฆาซ่อนมังกรถูกเลื่อนขึ้นเป็นวิชายุทธ์คลาส A

    ยี่ฟงเผยยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน    เนื่องจากเต็นท์ที่เขาซื้อมาเพียงหลังเดียวถูกทำลายไปแล้วจึงต้องล้มตัวนอนลงไปกับพื้นหินอย่างช่วยไม่ได้  ยี่ฟงวางแผนจะเริ่มฟาร์มเลเวลต่อในตอนเช้า      อย่างน้อยก็ต้องจัดการทหารองครักษ์แห่งฉางอานได้โดยไม่ต้องลำบากเสียก่อนเขาจึงคิดที่จะผ่านห้องโถงแห่งนี้ไป


    จัดหน้าแบบนี้ดีเปล่า  ตัวอักษรสีดำด้วย?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×