คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : ทำเนียบยอดยุทธ์
เสียงโครมครามดังลั่นไล่หลังมาพร้อม
ๆ กับบันไดทางลับถูกปิดตาย
ดูเหมือนฝูงนักรบโครงกระดูกจะปีนป่ายอยู่บนซากปรักหักพังเป็นจำนวนมากเกินไปจนน้ำหนักที่คานกันไว้เสียสมดุลพังทลายลงมา กระทั่งเส้นทางลับนี้ถูกซ่อนอำพรางเอาไว้อยู่ข้างใต้จนยากจะพบเจอโดยง่าย…
ยี่ฟงซึ่งกลิ้งตกบันไดลงมาจำต้องนอนงอตัวด้วยท่าทางเจ็บปวด เขาอยู่ท่ามกลางความมืดทะมึนไม่นาน ก็ปรากฏแสงจากคบไฟติดผนังลุกไหม้ขึ้นมาแสดงให้เห็นเส้นทางแคบทอดยาวออกไป รอบข้างและทุกอย่างเงียบเชียบหลงเหลือแต่เสียงครางของยี่ฟงเท่านั้น บรรยากาศวังเวงชวนขนลุกจนอาจมีผลทำให้คนที่กลัวผีสางไม่กล้าเดินหน้าต่อก็เป็นได้
“ขอเล่นเกมปกติอย่างคนอื่นเขาบ้างได้ไหมเนี่ย!”
ยี่ฟงดันร่างลุกขึ้นนั่งพลางเอ่ยตัดพ้อ
เมื่อครู่แม้จะต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดชายหนุ่มก็ยังทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบัน และอีกไม่นานเพลเยอร์ทั้งเซิร์ฟเวอร์คงพุ่งตรงมายังที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งเดียวที่ยี่ฟงไม่ทราบก็คือความเปลี่ยนแปลงรอบอาณาเขตมหานครฉางอาน บัดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองรกร้างอีกต่อไป ยี่ฟงจึงเป็นคนเดียวซึ่งบรรลุถึงดันเจี้ยนใต้ดินของมหานครที่ล่มสลายแห่งนี้และมีโอกาสจะกอบโกยผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่โดยไม่จำเป็นต้องแบ่งปันใคร!
ยี่ฟงรีบดื่มน้ำยาเพิ่มเลือดเพื่อฟื้นฟูร่างกายเป็นลำดำแรก เขาไม่อยากเดินร่อนไปมาทั้งที่มือยังด้วนอยู่แบบนี้เพราะไม่ทราบจะเผชิญพบอันตรายอีกเมื่อไร
“คงต้องรอให้ร่างกายสมบูรณ์พร้อมก่อน ว่าแต่เมื่อไรมือฉันจะงอกกลับมาฟะ!”
เขายกแขนข้างที่ฝ่ามือกุดขึ้นมาพินิจดูก่อนจะทำเป็นไม่สนใจมัน ยี่ฟงเลือกจะเปิดหน้าต่างระบบเพื่อตามข่าวแทน
“อ้าว
อยู่ในพื้นที่พิเศษทำให้การใช้งานระบบถูกจำกัดไว้ด้วย!?…นี่มันปิดกั้นการสื่อสารทุกอย่างเลยนี่หว่า”
ยี่ฟงขมวดคิ้วหงุดหงิดหลังอ่านคำอธิบายที่ทำให้เขาไม่สามารถเข้าบอร์ดข่าวสารยุทธภพได้
“ให้ตายเถอะ
จะเรียกว่าโชคดีก็พูดได้ไม่เต็มปากเลยแฮะ”
ยี่ฟงทิ้งร่างกลับลงไปนอนแผ่หลาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เมื่อเหลือบไปเห็นหน้าต่างระบบเฟรนด์ลิสที่ยังเปิดค้างไว้เขาก็ถอนหายใจโล่งอก แม้มันจะใช้ติดต่อสื่อสารกับใครไม่ได้ตอนนี้ทว่ายังคงใช้บอกเวลาภายในเกมได้ปกติ
เขตจงหยาง
“สถานะของไอ้ตัวแสบเปลี่ยนเป็นสีส้ม ดูเหมือนมันจะอยู่ในพื้นที่พิเศษ”
มังกรเฒ่าที่ตัดสินใจร่วมเก็บเลเวลไปกับกลุ่มเหนือฟ้ากล่าวขึ้น
“ลุงมั่นใจหรือว่าเป็นฝีมือของยี่ฟง”
เหนือฟ้าถามอย่างชั่งใจ
“สัญชาตญาณข้ามันฟ้อง อีกอย่างมหานครฉางอานก็อยู่ในจุดที่ใกล้กับเมืองดาบมังกรอีกด้วย รวมกับสถานะของไอ้ตัวแสบตอนนี้แล้วมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นฝีมือมัน”
มังกรเฒ่าตอบกลับพลางวิเคราะห์ไปด้วย
“ฉันเห็นด้วยกับลุงนะ หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ฉันยังเห็นสถานะของยี่ฟงปกติอยู่เลย”
หยกราตรีกล่าวสนับสนุน
“หือ
เธอเช็คความเคลื่อนไหวของเขาอยู่ตลอดเลยหรือ!?”
เหนือฟ้าถามพร้อมหรี่ตาจ้องอย่างแปลกใจ
“จะบ้าหรือ!
ก็แค่บังเอิญย่ะ”
หยกราตรีรีบกล่าวแก้ตัวกลับไป
“แต่ยี่ฟงเขาสุดยอดไปเลย แปปเดียวก็เจอดันเจี้ยนลับซะแล้ว ถ้ารวมกับเรื่องที่ลุงเล่าให้พวกเราฟังฉันก็เริ่มจะอิจฉาดวงและโชคของเขาบ้างแล้วเหมือนกัน”
มุกทิวาเอ่ยปากชื่นชมและสารภาพตามที่คิด
“ข้าคิดว่าไอ้ตัวแสบคงลำบากอยู่บ้าง จากที่ระบบประกาศออกมาดูเหมือนจะมีการต่อสู้เกิดขึ้นที่นั่น”
“เพราะงั้นพวกเราเลยต้องรีบเก่งขึ้นยังไงล่ะลุง ถ้ายี่ฟงเขาได้รับการสนับสนุนที่ดีพอจะต้องก้าวไปได้ไกลแน่
ๆ”
เหนือฟ้ากล่าวด้วยสีหน้ามาดมั่นและคาดหวัง
ขณะเดียวกันทางด้านกิลด์ใหญ่ทั้งห้าก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว
ภายในที่ประชุมวังวิหคเพลิงฟ้าหรือกิลด์อันดับหนึ่งของเซิร์ฟเวอร์ประเทศไทย
“นอกจากสมบัติทั้งหมดในมหานครฉางอานแล้วพวกเราจะต้องได้ตัวนักผจญภัยปริศนาคนนี้ด้วย เข้าใจกันแล้วนะ”
หญิงสาวภายใต้ชุดจอมยุทธ์สีฟ้ากล่าวสรุปอยู่บริเวณหัวโต๊ะ ส่งให้ทุกคนในห้องประชุมพยักหน้าตอบรับ
นางมีท่าทางห้าว
ๆ ทั้งยังรวบผมไว้จนดูสั้นละต้นคอ
เหนือศีรษะมีรัดเกล้าสีทองเปล่งประกายล้ำค่า รูปโฉมใบหน้างดงามเกินจินตนาการเมื่อได้รับการปรับแต่งด้วยความสามารถของระบบเกม ทว่าบรรยากาศรอบตัวและท่วงท่าที่นางแสดงออกไม่ใช่จะปรับแต่งกันได้ หญิงสาวดูสุขุมรวมถึงมีเสน่ห์เย้ายวนในแบบของนางเอง
เกมนี้เพลเยอร์ทุกคนคือจอมยุทธ์ แต่ยังมีการแบ่งสายกันออกไปอีกมากมาย อาทิ
นักปรุงยา นักล่าวัตถุดิบ ส่วนนักผจญภัยที่หญิงสาวเรียกนั้นเป็นหนึ่งในสายที่เกี่ยวข้องกับความสามารถส่วนตัว ไม่ใช่ใครก็สามารถพบเจอสถานที่ลึกลับได้ นอกจากจะเก่งแล้วยังต้องพึ่งโชควาสนาอีกด้วย
สำหรับวังวิหคเพลิงฟ้าที่เป็นกิลด์อันดับหนึ่ง พวกเขามีจอมยุทธ์เก่งเทพจำนวนมากจนเกินพอ ความสนใจจึงไปตกอยู่ที่นักผจญภัยเสียมากกว่า หากได้คนที่มีความสามารถในด้านการค้นหาสถานที่แปลกประหลาดรวมถึงภารกิจลับแล้ว พวกเขาก็จะมีโอกาสในเรื่องของทรัพยากรชั้นสูงมากกว่ากิลด์อื่นไปอีกขั้น
“ในอีกสามเดือนโลกจริงก็จะถึงงานแข่งขันประจำปีแล้วแต่ดันมาเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นซะก่อน ฉันว่าพวกนั้นคงไม่พลาดที่จะไปเสี่ยงวัดดวงเพื่อหวังก้าวข้ามเธอแน่
ๆ นภา”
หญิงสาวร่างเล็กไว้ผมเปียสองข้างกล่าวขึ้น สีหน้าเธอดูสบาย ๆ
ไม่ได้เคร่งเครียดไปกับการประชุมแม้แต่น้อย
“นั่นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วลวงภพ แต่ฉันเองก็ไม่มีทางอยู่เฉยเช่นกัน”
นภา จ้าววังวิหคเพลิงฟ้าตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง
“เธอก็จะร่วมเดินทางไปยังมหานครฉางอานด้วยสินะ แต่แบบนั้นคงได้วุ่นวายกันยกใหญ่แน่ ๆ”
หญิงสาวอีกคนซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับลวงภพกล่าวขึ้นมาบ้าง เธอมีแววตาดุมาก
แม้จะยังฉีกยิ้มอยู่แต่คนอื่นก็ยากจะคาดเดาอารมณ์แท้จริงของเธอได้ เธอสูงกว่าลวงภพและรวบผมเปิดหน้าผากมัดเป็นหางม้าไว้อย่างลวก
ๆ
“นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เหมือนกันเพลิงพิษ การสืบทอดพลังที่ว่าจะต้องไม่ธรรมดาแน่ ฉันคงปล่อยผ่านไปไม่ได้”
นภากล่าวพลางอมยิ้ม
ดูเหมือนยุทธภพจะสงบเงียบมานานเกินไปแล้ว เหล่าเพลเยอร์ระดับสูงจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมานาน
ๆ ครั้ง
“เอ่อ
แบบนี้ไม่ใช่ว่า 3 กึ่งเซียน 7
เทพยุทธ์
จะมุ่งหน้าไปแย่งชิงสมบัติกันที่มหานครฉางอานหรอกหรือครับ!?”
สมาชิกคนหนึ่งที่เข้าร่วมประชุมด้วยอดที่จะกล่าวขึ้นมาไม่ได้
หญิงสาวทั้งสามซึ่งกุมอำนาจสูงสุดภายในเกมนี้มองหน้ากันครู่หนึ่ง จากนั้นแรงกดดันมหาศาลพลันถาโถมกลืนกินไปทุกอณูภายในห้องประชุมแห่งนี้ สมาชิกคนอื่น ๆ ถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นเยียบก่อนจะได้ยินจ้าววังของพวกเขาหรือสตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในเซิร์ฟเวอร์กล่าวอย่างหนักแน่นเกรี้ยวกราดขึ้นว่า
“ใครเล่าจะยอมพลาดโอกาสที่จะได้ก้าวหน้าในรอบปีแบบนี้ไปง่าย
ๆ ฉันเองก็มีเป้าหมายในระดับประเทศ ไม่ว่าใครหน้าไหนที่คิดจะแย่งชิงทรัพยากรกับพวกเราวิหคเพลิงฟ้าล่ะก็ อย่าหวังจะได้อยู่อย่างสงบ!”
ภายนอกเกม
สื่อจากทุกช่องทางที่เกี่ยวข้องกับเกมลำนำจ้าวยุทธจักรบัดนี้กำลังถ่ายทอดสดสถานการณ์ภายในเกมแบบเรียลไทม์ เพียงเพราะมหานครฉางอานที่ปรากฏขึ้นมาทำให้ทุกฝ่ายเคลื่อนไหวกันใหญ่โตมากในรอบปี
นั่นหมายถึงจะต้องมีการปะทะกันของเพลเยอร์ระดับสูงเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ และนั่นคือสิ่งที่ผู้ชมภายนอกให้ความสนใจ ตัวเลขยอดวิวผู้เข้าชมจึงทวีเพิ่มขึ้นแทบจะไม่หยุดนิ่งเลยด้วยซ้ำ
สื่อในวงการเกมของต่างประเทศก็นำประเด็นนี้ไปกระจายให้อีกแรง พริบตาทั่วโลกก็กำลังจับจ้องมายังที่เดียวกัน…
“มีความเป็นไปได้สูงมากที่ 3 กึ่งเซียน 7 เทพยุทธ์ จะได้เผชิญหน้ากันที่เมืองดาบมังกรครับน้องเหมียว”
พิธีกรหนุ่มใบหน้าเกลี้ยงเกลาเปิดประเด็น
“กลุ่มคนที่พี่ชัยกล่าวถึงเป็นใครกันคะ ช่วยเล่าคร่าว ๆ ให้แก่ผู้ชมที่ยังไม่ทราบสักหน่อยรวมถึงน้องเหมียวเองก็อยากทราบด้วยค่ะ”
พิธีกรสาวคู่บุญกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างเป็นงาน
“พี่คิดว่าคงจะหาคนที่ไม่รู้จักพวกเขายากอยู่นะครับ
ฮ่า ฮ่า
เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ก็คือเพลเยอร์ในทำเนียบยอดยุทธ์ตั้งแต่อันดับ 1-10 นั่นเอง!”
กล่าวมาถึงตรงนี้ก็พลันปรากฏภาพข้อมูลของทำเนียบยอดยุทธ์ขึ้นมาให้ได้ชม
“อย่างที่ทุกคนทราบกันนะครับ เกมนี้มีการแบ่งคลาสเลเวลออกเป็นห้าคลาส เพลเยอร์สามอันดับแรกที่มีเลเวลสูงมากทว่ายังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ของคลาสเซียนอมตะ พวกเขาทั้งสามจึงถูกยกให้เป็นแค่
กึ่งเซียนเท่านั้น
ส่วนเพลเยอร์อีกเจ็ดคนที่เหลือก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน พวกเขาล้วนอยู่ในคลาสเทพยุทธ์ด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งสิบคนนี้ที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดจึงถูกขนานนามว่า
3 กึ่งเซียน 7
เทพยุทธ์ มาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเองครับ”
“เป็นบุคคลอันยอดเยี่ยมจริง ๆ นะคะเนี่ย
จำนวนยอดคนที่ลงทะเบียนไว้กับเกมลำนำจ้าวยุทธจักรเซิร์ฟเวอร์ประเทศไทยขั้นต่ำก็มีมากถึง
50,000,000 คน
เข้าไปแล้ว แต่พวกเขาเพียงแค่สิบคนเท่านั้นกลับผลักดันขึ้นมาสู่จุดสูงสุดได้ถึงขนาดนี้นับว่าน่าชื่นชมอย่างยิ่งจริง
ๆ ค่ะ ท่านผู้ชมเองก็เห็นด้วยกับเหมียวใช่มั้ยคะ”
เมื่อภาพของทำเนียบยอดยุทธ์ถูกพับเก็บไป พิธีกรชายจึงนำเสนอต่อว่า
“ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่น่าตื่นเต้นนะครับ สำหรับมหานครฉางอานที่ถูกปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้งเองก็กำลังเป็นที่สนใจไม่แพ้กัน จากข้อมูลเชิงลึกแล้วภายในดันเจี้ยนใต้ดินอาจจะมีเรื่องของ
13 รางวงศ์จีนซุกซ่อนอยู่ก็เป็นได้ ทางด้านของผู้วิเคราะห์เกมต่างก็สันนิษฐานไปในทางเดียวกันเป็นครั้งแรก นับว่าน่าลุ้นมากจริง ๆ ครับ…”
การถ่ายทอดสดนี้จะกินเวลายาวนานมากจนกระทั่งจบเรื่องเลยทีเดียว อาจจะมีช่วงพักเบรกให้พิธีกรได้พักผ่อนบ้างแต่คนทั้งสองจะอย่างไรก็ไม่พ้นต้องเจองานหนักต่อเนื่องกันหลายวันแน่
ๆ แล้ว
HAPPY NEW YEAR 2018 JA
ความคิดเห็น