คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : หกเซียนประทับฟ้า
“มันไม่ง่ายอย่างที่เอ็งคิดหรอกว่ะ กระทู้แบบนี้ก็เคยมีคนมาตั้งเล่นกันอยู่บ่อย ๆ
ซึ่งเป็นเรื่องหลอกลวงแทบทั้งนั้น”
มังกรเฒ่าพยายามอธิบาย
“ลุงลองเปิดกระทู้ของฉันอ่านดูก่อน อิอิ”
ยี่ฟงอมยิ้มกล่าวเป็นปริศนา
ชายแก่ได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับเปิดกระทู้ของไอ้ตัวแสบขึ้นมาอ่าน ข้อความตั้งแต่ต้นยันจบก็เป็นไปตามที่ยี่ฟงว่าไว้ ทว่าภาพที่แนบมาด้วยเล่นเอามังกรเฒ่าเบิกตากว้าง รีบกล่าวขึ้นว่า
“เฮ้ย ๆ นี่มันหอกหักกับไอ้คู่หูนรกใช่หรือเปล่า”
“ถ่ายมาชัดขนาดนี้จะเป็นใครได้อีก ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ยี่ฟงเงยหน้าหัวเราะสะใจ
มังกรเฒ่าไม่คิดเลยว่ายี่ฟงมันจะมีเวลาไปถ่ายภาพศัตรูไว้ได้ ยังมีข้อความชี้แจงรายละเอียดต่อจากรูปที่แนบเอาไว้อีกด้วย ใจความสั้น ๆ ก็ไม่มีอะไรมาก ยี่ฟงเพียงเล่าว่าหอกหักและสมุนของมันวางแผนผิดพลาดสุดท้ายถูกกองโจรสังหารโดยไม่อาจทำภารกิจลับได้สำเร็จ
‘ถ้าขนาดนี้ล่ะก็
บางทีอาจจะล่อลวงเพลเยอร์ได้อยู่บ้าง’
มังกรเฒ่าคิดในใจ
แต่ไม่กี่วินาทีจากนั้นกระทู้ของยี่ฟงก็มีคนมาเพิ่มหลักฐานชิ้นสำคัญให้ มันเป็นรูปภาพของไอ้หอกหักที่ไปเกิดใหม่ยังเมืองเจี้ยนหลงหรือเมืองดาบมังกร ไม่ช้าเพลเยอร์มากมายก็เข้าไปร่วมตอบกระทู้กันนับไม่ถ้วน กลายเป็นว่าข้อความของยี่ฟงเริ่มจะมีน้ำหนักมากขึ้น มีผู้คนมากมายก้าวมาติดกับดักและพากันตัดสินใจจะลองไปตรวจสอบสถานที่ด้วยตัวเองดูสักครั้ง
“พวกเจ้าสองแม่ลูกอยู่พักที่นี่กันสักคืนคงไม่เป็นไรใช่ไหม”
หลังปิดหน้าต่างระบบแล้วยี่ฟงก็หันไปถาม
“ท่านเทพไม่ต้องกังวล พวกเรายังมีเรื่องอีกมากมายที่จะสนทนากัน”
หมิงเหอตอบท่าทางนอบน้อม ซวงหลันอี้ก็พยักหน้าสนับสนุน
“งั้นคงต้องล่ำลากันตรงนี้ ข้าคิดว่าจะออกเดินทางแต่เช้ามืด”
ยี่ฟงบอกกล่าวอย่างเรียบง่ายพร้อมลุกขึ้นยืน
“เอ็งจะไม่อยู่ลาพวกเหนือฟ้าก่อนหรือ”
มังกรเฒ่าถามและลุกตาม
“ไม่จำเป็นมั้งลุง พวกเราก็แอดเฟรนด์ลิสกันไว้แล้วมีอะไรก็ติดต่อมาได้ทันทีไม่ใช่หรือ”
“เออ ๆ ตามใจเอ็งเลย”
มังกรเฒ่ารีบโบกมือไล่หย็อย
ๆ
พวกเขาพากันล่ำลาซวงหลันอี้และสองแม่ลูกตามมารยาท ทว่ายังไม่ทันได้เปิดประตูกลับออกไป ซวงหลันอี้ก็ลุกขึ้นกล่าวก่อนว่า
“ช้าก่อน”
“มีอะไรรึหลันอี้”
มังกรเฒ่าหันกลับไปถาม
“จงนำเข็มกลัดนี้ไปมอบแก่เจ้าของร้านตัดเสื้อในทันที นางจะช่วยซ่อมแซมแก้ไขเสื้อผ้าของเจ้าให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม”
ซวงหลันอี้เดินเข้าใกล้พลางยื่นเข็มกลัดรูปหมุดปักเสื้อให้ยี่ฟง
“ไอ้ตัวแสบ
เอ็งผ่านเงื่อนไขอะไรอีกแล้ววะ”
มังกรเฒ่าถาม
เขารู้สึกว่ายี่ฟงมันจะโชคดีเกินหน้าเกินตาคนอื่นมากไปแล้ว
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันลุง…ท่านช่วยเป็นคนบอกแทนได้หรือเปล่า”
ยี่ฟงตอบและหันไปถามกับซวงหลันอี้อย่างสงสัยเช่นกัน
“เพราะเจ้าใส่ชุดเริ่มต้นมาหาข้าอย่างไรล่ะ ครั้งแรกที่พบกันนั้นระบบไม่ถือว่าผ่านเงื่อนไขเนื่องจากเจ้ามาหาข้าเพื่อดำเนินภารกิจ แต่ครั้งนี้เจ้ามาหาข้าด้วยตัวเองและยังสวมใส่ชุดเริ่มต้นอยู่เหมือนเดิมจึงต่างออกไป”
ซวงหลันอี้อธิบายด้วยรอยยิ้ม แม้แต่นางเองก็ยังประหลาดใจเช่นกัน
“นี่เอ็งเป็นตัวดูดภารกิจลับหรือยังไงวะ”
มังกรเฒ่ากล่าวประชดเมื่อทราบว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้โชคดีอีกแล้ว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ลุงก็พูดเกินไป มันก็แค่บังเอิญเท่านั้น”
ยี่ฟงตอบตามตรง
ความจริงแล้วหากยี่ฟงเริ่มต้นมาเหมือนคนอื่น
ๆ เขาย่อมไม่มีทางจะผ่านเงื่อนไขประหลาด ๆ แบบนี้แน่นอน
“เจ้าจะเดินทางตอนฟ้าสางไม่ใช่หรือ เช่นนั้นก็รีบนำมันไปมอบให้ที่ร้านตัดเสื้อเถิด”
ซวงหลันอี้เอ่ยปากเตือน
ยี่ฟงรวบกำเข็มกลัดที่ได้รับมาแน่นขึ้นพลางขานรับ จากนั้นจึงรีบไปดำเนินการในทันที
“ข้าว่าจะออฟไลน์ไปพักหน่อย ไว้ค่อยเจอกันใหม่แล้วกันไอ้หนุ่ม”
ระหว่างเดินไปจนถึงทางแยก มังกรเฒ่าก็ชิงกล่าวขึ้นก่อน
“โอเคลุง”
ยี่ฟงตอบรับสั้น
ๆ
เมื่อแยกกับชายแก่แล้วยี่ฟงก็มุ่งตรงไปยังร้านตัดเสื้อตามเดิม เขาถามทางอยู่สองสามครั้งก็บรรลุถึงเป้าหมาย ยี่ฟงไม่รอช้ารีบเปิดประตูเข้าไปภายในร้านทันที
“ยินดีต้อนรับหนุ่มน้อย”
หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยทักขึ้น
“ท่านใช่เจ้าของร้านหรือไม่”
ยี่ฟงมีประสบการณ์มาแล้วจึงค่อนข้างระวังคำพูดตัวเอง
“ร้านนี้มีแค่ข้าเท่านั้น เชิญว่าจุดประสงค์ของเจ้ามาได้เลย”
หญิงสาวในเสื้อผ้ากระโปรงสีเขียวกล่าว นางปล่อยผมยาวสยายดูสง่า หน้าตาธรรมดาทว่ามีผิวเนียนขาวไม่สมวัย
“ข้านำเข็มกลัดนี่มามอบให้ท่านตามคำบอกกล่าวของท่านหลันอี้”
ยี่ฟงไม่พูดเปล่าแต่หยิบยื่นแสดงเข็มกลัดที่ว่าให้ดูด้วย
“โฮ่ ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีผู้ที่สามารถผ่านเงื่อนไขได้รับเข็มกลัดนี้มาจริง
ๆ”
เจ้าของร้านตัดเสื้อเอ่ยด้วยแววตาเป็นประกาย นางเดินเข้ามาคว้าเข็มกลัดกลับไปจากนั้นกล่าวต่อว่า
“ข้าจะช่วยยกระดับชุดเริ่มต้นของเจ้าให้เอง”
สิ้นเสียงของหญิงสาวก็ปรากฏหน้าต่างข้อมูลขึ้นมา มันระบุว่าให้เลือกระหว่างอัพเกรดชุดเริ่มต้นหรือเลือกชุดใหม่ในร้านตัดเสื้อแทน ยี่ฟงไม่เสียเวลาคิด เขากดยืนยันอัพเกรดชุดเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว
เจ้าของร้านตัดเสื้อเดินเข้าใกล้กว่าเดิมจนแทบจะชิดกับชายหนุ่ม นางยื่นฝ่ามือสัมผัสชุดเริ่มต้นบริเวณทรวงอกจนยี่ฟงรู้สึกขนลุก
“เอ่อ…ให้ข้าถอดชุดออกก่อนไหม”
“ไม่จำเป็น
เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ก็พอแล้ว”
เจ้าของร้านตัดเสื้อเอ่ยปากสั่งเสียงหวาน
ยี่ฟงไม่อยากมีปัญหาจึงยืนอยู่นิ่ง
ๆ แต่ไม่ช้าเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังลมปราณ มันแตกแขนงออกเป็นสายนับไม่ถ้วนชอนไชไปตามเส้นใยของเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ทุกอณู กระทั่งมันเปล่งแสงสีน้ำตาลส้มออกมา
‘เพลเยอร์ยี่ฟงสำเร็จในการอัพเกรดชุดเริ่มต้น ได้รับชุดลมปราณเกล็ดอสูรไม่สมบูรณ์คลาส E’
‘เพลเยอร์ยี่ฟงสามารถอัพเกรดชุดลมปราณเกล็ดอสูรเป็นคลาส
S ได้ เพียงค้นหาหกเซียนประทับฟ้าผู้ถูกยกย่องให้เป็นช่างตัดเสื้อในตำนานอีก
5 คนที่เหลือให้เจอ’
“ท่าน…คือหนึ่งในหกเซียนประทับฟ้าหรือ!?”
ยี่ฟงอุทานด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
แม้เขาจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อเหล่านี้เป็นครั้งแรกก็ตาม
“มีอะไรต้องแปลกใจรึ ข้าเพียงชอบชีวิตเรียบง่ายสงบสุข ต่างจากอีกห้าคนที่เหลือเท่านั้น”
เจ้าของร้านตัดเสื้อตอบอย่างไม่ใส่ใจ
ขณะนี้ชุดของยี่ฟงเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปเล็กน้อย มันปรากฏปลอกแขนและขาโลหะดูคล้ายเกล็ดขึ้นมา สายคาดเอวและชายเสื้อยาวขึ้นแต่โดยรวมแล้วยังคงสีหม่นทึบไม่โดดเด่นอะไร แน่นอนว่าความสามารถซ่อมแซมตัวเองยังคงเดิม เพียงแต่มันช่วยลดทอนความเสียหายให้แก่ผู้สวมใส่ได้มากขึ้น
“เจ้าไปได้แล้ว
ข้าจะพักผ่อน”
เจ้าของร้านตัดเสื้อกล่าวตัดบท
ดูเหมือนนางจะเสียพลังไปไม่น้อยเพื่อช่วยอัพเกรดชุดให้ชายหนุ่ม
ยี่ฟงก็ไม่คิดจะซักถามรบกวนอะไร เขารีบประสานฝ่ามือคารวะก่อนจะเดินออกจากร้านไป ยี่ฟงตัดสินใจเดินไล่ซื้อของใช้จำเป็น ตอนนี้เขามีเงินอยู่มากพอจะซื้อเต็นท์ระดับต่ำราคา
5000 ตำลึงทองได้สบาย
ๆ รวมถึงน้ำยาเพิ่มเลือดอีกจำนวนหนึ่ง ยี่ฟงไม่ลืมที่จะซื้ออาหารตุนไว้ด้วย
กระทั่งรุ่งสาง ยี่ฟงก็ตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้งหลังจากพักผ่อนมาเกินพอแล้ว
ขณะเดียวกันภายในเมืองดาบมังกร
“พี่หอกหัก! เสนาธิการเรียกตัวพี่กลับไปที่กิลด์หลักทันที ดูเหมือนจ้าววังจะอารมณ์เสียสุด ๆ และต้องการคำอธิบายครับ”
ลูกสมุนของหอกหักกล่าวขึ้น
“โธ่โว้ย! ไอ้เวรตัวไหนมันแอบถ่ายรูปฉันวะ”
หอกหักโวยวาย เวลานี้มันกำลังนั่งอยู่ที่ร้านน้ำชาภายในเมือง
“เราสมควรเดินทางกลับไปที่กิลด์หลักในทันทีนะครับ เดี๋ยวมันจะลามไปกันใหญ่ซะก่อน”
สมุนคนเดิมพยายามแนะนำ
“เรื่องนั้นข้ารู้โว้ย!
แต่ขอพักกินอะไรรองท้องก่อนได้ไหม”
หอกหักจ้องกลับไปดวงตากร้าว
ตั้งแต่มันตายกลับมาที่เมืองดาบมังกรก็ยังไม่ได้ติดต่อสองคู่หูนรกกลับไปแม้แต่ครั้งเดียว หอกหักมันรู้สึกอับอายจนไม่กล้าสู้หน้าเพื่อนตัวเองในตอนนี้ นั่นจึงทำให้มันยังไม่ทราบว่าคนที่เข้ามาป่วนต่อจากมันก็คือยี่ฟง
“อ้าวว่าไงหอกหัก
ดังชั่วข้ามคืนเชียวนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ชายหนวดเคราดกเข้มสีขาวกล่าวทักทายหลังจากมันเดินเข้ามาในร้านน้ำชา
“แกอยากจะดังอย่างฉันบ้างไหมล่ะ ไอ้หนวดพยัคฆ์”
หอกหักสวนกลับไปอย่างหาเรื่อง
“นายเพิ่งตายมาไม่ใช่หรือ ถ้าต้องการปะทะกันเดี๋ยวนี้ฉันก็ไม่เกี่ยงหรอกนะ”
หนวดพยัคฆ์กล่าวยังไม่ทันจบ เหล่าสมุนของหอกหักก็ทุบโต๊ะพร้อมลุกขึ้นข่มขู่อย่างเดือดดาล
“แกอยากจะโดนลบกิลด์มากสินะ!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ฉันเพียงหยอกล้อหัวหน้าของพวกนายเท่านั้น
ยามเช้าอากาศเย็นแบบนี้อย่าเพิ่งหัวร้อนกันง่าย ๆ สิ”
หนวดพยัคฆ์กล่าวติดตลก จากนั้นเดินไปนั่งลงห่างออกไปไม่ไกล
“ฉันไปเป็นเพื่อนให้แกมาล้อเล่นได้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรวะ!?”
หอกหักที่พยายามสะกดระงับโทสะตวาดลั่นถาม
“ถ้าข้องใจก็เข้ามา อย่ามัวแต่เห่าหอนไร้สาระอยู่เลย”
หนวดพยัคฆ์คว้าตะเกียบขึ้นมาคู่หนึ่งขณะท้าทายกลับไป
“ตายซะไอฉิบหาย!!”
หอกหักกวาดโต๊ะจนล้มพลางพุ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง สมุนของมันสองคนก็รีบทะยานร่างตามไป
หนวดพยัคฆ์เหยียดยิ้มสมเพช มันรีบซัดตะเกียบเข้าใส่หอกหักในพริบตา เลเวลของหอกหักเวลานี้คือ 27 มันจึงยากที่จะหลบพ้น ตะเกียบสองอันกระแทกใส่เกือบจะโดนดวงตา ไอ้หอกหักร่างหยุดชะงักทรุดลงคุกเข่าพลางร้องเจ็บปวด
“ไอ้พวกไร้หัวคิด”
หนวดพยัคฆ์กล่าวเมื่อเห็นสมุนสองคนของไอ้หอกหักยังคงพุ่งเข้ามา มันลุกขึ้นพร้อมคว้าเอาเก้าอี้ตัวหนึ่งติดมาด้วยก่อนจะขว้างสวนออกไป โครม! สมุนของไอ้หอกหักหลบได้แต่พริบตาร่างของหนวดพยัคฆ์ก็มาโผล่ตรงหน้าของพวกมันทั้งสองแล้ว ตูม! ฝ่ามือถูกผลักกระแทกใส่สมุนสองคนของไอ้หอกหักพร้อม
ๆ กัน ส่งร่างพวกมันลอยกลับไปกระแทกไอ้หอกหักที่เพิ่งจะลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้งจนพากันล้มกลิ้งไปกับพื้นอย่างหมดท่า
“แม้เมืองดาบมังกรจะเป็นด่านแรก แต่ก็นับว่าอยู่ในเขตแดนยอดฝีมือ พวกนายรีบไสหัวไปซะถ้ายังไม่อยากจะเลเวลลดลงไปมากกว่านี้”
หนวดพยัคฆ์คำรามอย่างไม่กลัวเกรงแม้จะทราบดีว่าพวกมันเป็นศิษย์วังจักรพรรดิก็ตาม
ความคิดเห็น