ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #20 : ห้านาที

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26.61K
      1.21K
      20 ธ.ค. 60

    หลังเสียงรายงานของระบบจบลง  ยี่ฟงพลันสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณบริเวณท้องน้อย  มันก่อตัวหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นกระจายออกเป็นเส้นสายแล่นพล่านไปทั่วร่าง  หากเปรียบเทียบจุดตันเถียน (ท้องน้อย) เป็นบ่อน้ำหรือแหล่งกำเนิดลมปราณแล้ว  พลังที่ชอนไชอยู่ตามเส้นเลือดในขณะนี้ก็เปรียบได้กับทางน้ำร้อยสาย

    ยี่ฟงรับรู้ถึงพลังและความแข็งแกร่งของตัวเองได้ชัดเจนมากขึ้นอย่างประหลาด

    เลเวล 30 เป็นเพียงหนึ่งก้าวสัมผัสสู่โลกยอดฝีมือ  ทว่าเส้นแบ่งที่แท้จริงกลับเป็นวินาทีซึ่งพลังลมปราณได้ถูกปลดล็อค

    เพลเยอร์ทุกคนเมื่อเลเวล 35 จึงสมควรแก่การเรียกว่าเหยียบย่างสู่เขตแดนยอดฝีมือได้อย่างแท้จริง

    นั่นอะไร!?

    เทียนไห่เอ่ยตะกุกตะกัก

    ความจริงแล้วไม่ใช่แค่หัวหน้าโจรที่มีท่าทางเช่นนี้แต่ยังรวมไปถึงชาวบ้านทุกคนและกลุ่มเพลเยอร์อย่างพวกเหนือฟ้าด้วย  เบื้องหน้าสายตาของพวกเขาปรากฏเปลวไฟดวงเล็กพวยพุ่งอยู่เหนือศีรษะยี่ฟง  มันวูบไหวไปมาอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะเปลี่ยนรูปลักษณ์จนดูคล้ายเป็นนกเพลิงอย่างไรอย่างนั้น  ตามติดมาด้วยการแผดเสียงคำรามลากยาวกระทั่งเปลวเพลิงนั้นดับสลายไป

    หือ  ฉันไม่เห็นรู้มาก่อนว่ามีเอฟเฟกต์หลังเรียกใช้วิชายุทธ์ด้วย

    ยี่ฟงคิดในใจ  แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับเขานัก

    ท่านเทพ!

    ผู้ปกปักรักษาของพวกเรา!

    เหล่าชาวบ้านพากันอุทานออกมาพร้อมทรุดลงคุกเข่า  ต่างจากกลุ่มเหนือฟ้าและมังกรเฒ่าที่ได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่เชื่อถือ

    เอฟเฟกต์แบบนั้นมีแต่วิชายุทธ์คลาส S ขึ้นไปไม่ใช่หรือ

    มุกทิวารำพึงออกมา

    ไม่ผิดแน่!  อีตานั่นเพิ่งเรียกใช้วิชายุทธ์คลาส S…!

    หยกราตรีเอ่ยปากยืนยันแม้จะยังทำใจเชื่อได้ยากก็ตาม

    ส่วนมังกรเฒ่าและเหนือฟ้าอึ้งจนไม่อาจกล่าวคำใดได้  เพียงทราบว่าวิชายุทธ์คลาส S ล้วนแต่หายากยิ่ง

    เวลาเริ่มเดินแล้วไอ้โจรชั่ว

    ยี่ฟงรวบกำฝ่ามือจนกระดูกลั่น

    บัดซบ!  เจ้าช่วงชิงการทดสอบผาเทวะวิญญาณไปแล้วรึ!?

    เทียนไห่ที่จิตใจเริ่มไม่มั่นคงสมควรหลีกหนีเฉกเช่นทุกครั้ง  ทว่าครั้งนี้มันกลับถูกความโกรธแค้นกลืนกินจนขาดสติ

    และบอกได้เลยว่าหากมันคิดจะหลบหนีย่อมเป็นเรื่องยากที่จะติดตามสังหารมอนสเตอร์ตัวนี้ลงได้!

    รับมือ!

    ยี่ฟงไม่เสียเวลาอธิบาย  เขารีบดีดเท้าพุ่งทะยานเข้าหาอีกฝ่ายทันที  ส่วนเทียนไห่ขบกรามแน่นพุ่งเข้ามาไม่ต่างกัน

    พลังวิหคเทวะที่ข้าสืบค้นมานานนับปีมันต้องเป็นของข้า  จงตายซะ!!

    เทียนไห่คำรามเดือดดาลอย่างไม่อาจยอมรับ

    ไม่ช้าคนทั้งสองก็วาดกระบี่ปะทะกัน  แต่เมื่อผ่านไปหลายสิบกระบวนท่ายี่ฟงก็ตระหนักได้แล้วว่าตนมีฝีมือด้านวรยุทธต่ำกว่า  อย่างไรก็ตามยี่ฟงยังดึงดันไล่ปะทะพัวพันไม่ยอมล่าถอย  แม้เขาจะพลาดพลั้งได้บาดแผลกลับมาบ้างก็ไม่ใช่ปัญหานัก

    ลุง!  ผมว่าเราเข้าไปช่วยยี่ฟงสู้กันดีไหม

    เหนือฟ้ากังวลจนต้องกล่าวขึ้น

    เอ็งอย่าเพิ่งด่วนสรุปไป  ไอ้ตัวแสบมันแค่ถูกคมกระบี่บาดผ่าน ๆ ไม่ลึกมาก  ข้าคิดว่ามันคงมีแผนรับมืออยู่แล้ว  ถ้าพวกเราเข้าไปช่วยเกรงว่าจะเป็นภาระเปล่า ๆ ว่ะ  เลเวลพวกเรามันห่างชั้นกับหัวหน้าโจรกันเกินไป

    มังกรเฒ่าตอบหลังจากเฝ้าดูมาสักพัก

    พวกเรายังมีแค้นต้องชำระอยู่นะเหนือฟ้า

    หยกราตรีกล่าวขึ้นพลางชี้คมกระบี่ไปทางคู่หูนรกที่คลานอยู่กับพื้นด้วยสีหน้าซีดเผือด

    เหนือฟ้ายิ้มแห้ง ๆ แต่ก็ไม่คิดปฏิเสธอะไร  คนทั้งสี่จึงมุ่งความสนใจไปที่การชำระหนี้แค้น  สุดท้ายจอมทัพกระบี่ดำกับขุนพลทะเลเพลิงก็ถูกรุมล้อม  สภาพของพวกมันไม่มีทางที่จะต่อต้านได้จึงต้องรับกรรมรับตีนไปตามระเบียบ

    ขณะเดียวกันทางยี่ฟงก็ยังคงยืนยันที่จะไล่ปะทะกับหัวหน้าโจรเทียนไห่ไม่ยอมปล่อย  ด้วยเวลาที่จำกัดและฝีมือต่ำต้อยกว่า  ยี่ฟงจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้ความสามารถที่เขาฝึกฝนและร่ำเรียนมาแต่เด็กให้เป็นประโยชน์  นั่นก็คือวิธีควบคุมลมหายใจเข้าออก  ชายหนุ่มชอบเล่นกีฬาอยู่แล้วจึงสละเวลาทุกวันเผื่อสำหรับออกกำลังกาย  กระทั่งมันติดเป็นนิสัยอย่างช่วยไม่ได้

    เมื่อฉุดรั้งให้ศัตรูต้องปะทะต่อเนื่องไม่หยุดพักไปได้เฉกเช่นนี้  อีกไม่นานชายหนุ่มก็จะกลับมามีเปรียบในท้ายที่สุด

    คนทั้งสองวัดกำลังโดยการต้านกระบี่  สายตาก็สบจ้องไม่กะพริบ  แต่ยี่ฟงเลือกจะผ่อนแรงและยินยอมให้ศัตรูผลักดันจนต้องล่าถอย  แผ่นหลังชายหนุ่มแทบจะประชิดเข้ากับเสาที่ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน  ทว่ายี่ฟงใช้ฝ่าเท้ายันไว้จากนั้นดีดเท้ากับตัวเสาเพิ่มแรงตีโต้สวนกลับไปบ้าง  แรงที่กักเก็บมาเมื่อครู่ถูกใช้ออกจนฟาดฟันกระแทกตัวกระบี่ของอีกฝ่ายกระเด็นออกข้าง  ยี่ฟงรีบยกฝ่าเท้าถีบใส่อย่างรวดเร็วแต่เทียนไห่เองก็ไม่ยอมง่าย ๆ มันจึงยกฝ่าเท้าถีบสวนกลับมาเช่นกัน

    ตูม!

    คนทั้งสองปลิวแยกจากกัน  ยี่ฟงถึงกับสบถออกมาเล็กน้อยแต่โชคดีที่เขาลอยเข้าหาเสาอีกครั้งจึงสามารถใช้มันเป็นหลักเพื่อดีดร่างพุ่งทะยานกลับเข้าไปหาศัตรูได้รวดเร็วกว่า  ส่วนเทียนไห่เพิ่งจะม้วนตัวกลับลงไปยืนบนพื้นได้ไม่ถึงอึดใจมันก็ต้องเบิกตากว้าง  เพราะพริบตาเดียวมันก็ถูกกดดันเข้ามาจนแทบไม่ได้พักหายใจ

    ยี่ฟงมีสีหน้าทรมานน้อยกว่ามากนัก  เขากวาดกระบี่ลงพื้นจากนั้นตวัดเศษดินและใบไม้เพื่อปั่นป่วนศัตรู  ส่วนตัวเองบิดข้อเท้าเปลี่ยนทิศทางโดยอาศัยฝุ่นผงปิดบังตัวตนไว้ชั่วคราว  เทียนไห่ที่หลงกลจำต้องยกฝ่ามือขึ้นป้องดวงตาส่งผลให้ทัศนวิสัยยิ่งแคบลงไปอีก  ส่วนอีกมือก็วาดกระบี่ฟันไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งพร้อม ๆ กับการก้าวถอยหลังไปด้วย

    เจ้ากล้าเล่นลูกไม้สกปรกเชียวหรือ!

    เทียนไห่ตวาดอย่างหัวเสีย

    แต่ดูเหมือนเมื่อฝุ่นผงเริ่มจางลงมันก็คลาดสายตาจากยี่ฟงไปแล้ว

    การต่อสู้เป็นตายมันไม่มีกฎกติกาหรอกโว้ย

    ยี่ฟงตอบกลับมาจากด้านหลังพร้อม ๆ กับการนำอาวุธทั้งกระบี่และหอกโยนขึ้นตรงหน้า  จากนั้นก็กระแทกฝ่ามือเข้าใส่ด้ามอาวุธทั้งหลายในเวลาไล่เลี่ยกัน  แรงปะทะส่งให้กระบี่และหอกพุ่งทะยานเข้าหาหัวหน้าโจรเทียนไห่ราวห่าฝน

    เทคนิคนี้ยี่ฟงจดจำมาจากหนังจีนกำลังภายในอีกตามเคย  นอกจากมันจะเท่แล้วยังดูรับมือได้ยากอีกด้วย

    เมื่อเทียนไห่หันไปตามเสียงก็เผชิญพบคมอาวุธห่างออกไปไม่ถึงสองก้าวแล้ว  มันรีบตวัดกระบี่ปัดป้องเบี่ยงวิถีอาวุธที่พุ่งเข้ามาแทบไม่มีเวลาพัก  กระทั่งมันก็ยังไม่อาจปัดป้องได้หมดจนถูกกระบี่เล่มหนึ่งเฉือนผ่านสีข้างไป

    พอเริ่มเสียกระบวน  ยี่ฟงซึ่งรอคอยอยู่แล้วก็จู่โจมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  การเคลื่อนไหวตอบสนองของเทียนไห่เองก็เชื่องช้าลงเป็นผลมาจากออกซิเจนไม่เพียงพอ  ยี่ฟงยิ่งมายิ่งมีเปรียบมากขึ้นจนการโจมตีของเขาผ่านการป้องกันอีกฝ่ายไปได้ในที่สุด

    อ๊ากกก!

    หัวหน้าโจรเทียนไห่ส่งเสียงร้องหลังจากถูกฟันจนแขนซ้ายขาดสะบั้น  แต่มันก็อาศัยจังหวะที่ยี่ฟงเข้ามาใกล้ใช้ไหล่กระแทกผลักชายหนุ่มกระเด็นถอยกลับไปได้  บาดแผลสาหัสที่ได้รับถึงกับเรียกสติของมันกลับมาได้เลยทีเดียว

    ข้าจะไม่ยอมพ่ายแพ้ไปเช่นนี้!

    เทียนไห่กล่าวพลางสำนึกเสียใจที่เข้าปะทะกับยี่ฟง

    แต่ในขณะที่มันกำลังมองหาช่องทางหลบหนีอยู่นั้นเหล่าสมุนโจรก็พากันกลับมาที่หมู่บ้านในที่สุด  เทียนไห่ดวงตาวาวโรจน์รีบตะโกนสั่งการทันทีว่า

    ฆ่าพวกมันให้หมดไม่ต้องละเว้น!

    กลุ่มเหนือฟ้าพากันหยุดกระทืบใส่คู่หูนรกและตั้งท่ารับมือกะทันหัน  แต่พอเห็นจำนวนของโจรภูเขาแล้วคนทั้งสี่ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาได้ในทันที

    อะไร  พวกเจ้าเหตุใดจึงเหลือกันแค่นี้!?

    เทียนไห่ตวาดถามสีหน้าซีดเผือด

    มีคนลอบวางกับดักไปทั่วทั้งป่า  พวกเราส่วนหนึ่งพลาดบาดเจ็บและอีกส่วนตายหมดแล้วขอรับ

    โจรภูเขาคนหนึ่งตอบอย่างสิ้นหวัง

    มามอบซะดี ๆ ไอ้ไห  เวลานี้ภายในป่ามีคนของฉันซุ่มอยู่ทุกซอกมุม  แกอย่าคิดจะหนีให้เหนื่อยเปล่าเลย

    ยี่ฟงฉวยโอกาสโกหกคำโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  สถานการณ์แบบนี้คำกล่าวของเขาย่อมเป็นไปได้จริง

    ข้าไม่ยอมตายอยู่ฝ่ายเดียวแน่  พวกเจ้าจงไปสังหารชาวบ้านให้ได้มากที่สุดเสีย!

    เทียนไห่กัดฟันกล่าวสั่งการด้วยแววตาบ้าคลั่ง

    วิชายุทธ์วิหคอหังการหลงเหลือเวลาอีก 1 นาที

    ยี่ฟงขมวดคิ้วรำคาญใจก่อนจะพุ่งฝ่าเข้าไปกลางดงศัตรู  จากนั้นระเบิดพลังปราณกระแทกพวกมันในระยะจนกลิ้งคะมำกันไปไม่เป็นท่า  ส่วนหัวหน้าโจรเทียนไห่ไม่มีทางเลือกจนต้องระเบิดพลังปราณต้านทานเอาไว้

    เมื่อหลงเหลือเทียนไห่หยัดยืนอยู่คนเดียว  ยี่ฟงก็ไม่รอช้าจึงเข้าปะทะหวังปิดบัญชีในยกที่สองให้ได้โดยเร็วที่สุด  พวกเหนือฟ้าและมังกรเฒ่าได้แต่ตั้งท่ารอจนเก้อ

    ไหนอีตานั่นบอกจะให้พวกเราช่วยไง!?

    หยกราตรีบ่นออกมาเป็นคนแรก

    ข้าเห็นด้วย!  นี่มันกะไม่ให้คนอื่นได้โชว์เลยหรือไงวะไอ้ตัวแสบ

    มังกรเฒ่าสนับสนุนอีกเสียง

    ต่างจากมุกทิวาและเหนือฟ้าซึ่งรู้สึกโล่งอกที่ไม่ต้องวิ่งวุ่นช่วยชีวิตชาวบ้านเบื้องหลัง

    ส่วนยี่ฟงยังต้องทุ่มแรงและฝีมือเท่าที่มีเพื่อล้มหัวหน้าโจรเทียนไห่ภายในหนึ่งนาทีให้ได้  ตอนนี้มันเหลือแขนขวาข้างเดียวจึงรับมือได้ลำบากอย่างเห็นได้ชัด  ความเจ็บปวดยิ่งฉุดรั้งการเคลื่อนไหวของเทียนไห่จนความเก่งกาจของมันลดลงราวกับเป็นคนละคน  กระทั่งยี่ฟงไล่กดดันอีกฝ่ายไปจนหลังชนเขา  ไม่มีทางให้ถอยอีกต่อไป

    กระบี่ของแกคลาสอะไรวะ!?

    ยี่ฟงเอ่ยปากถามยิ้ม ๆ โดยไม่หวังว่าจะได้คำตอบอะไร  หวังแต่จะกวนตีนอย่างเดียว

    ยี่ฟงทะยานร่างเข้าใส่ตรง ๆ เป็นครั้งสุดท้าย  แต่ระหว่างทางเขากลับโยนกระบี่คลาส D ขึ้นกลางอากาศ  จากนั้นกระโดดสุดตัวเหวี่ยงฝ่าเท้ากระแทกใส่ด้ามกระบี่อย่างแม่นยำ  เทียนไห่ขบกรามแน่นจนโลหิตไหลซึมเพื่อรวบรวมพลังขวางกระบี่ของตัวเองรับการโจมตีเอาไว้  แม้มันต้องการจะฉากหลบออกไปก็ไม่อาจกระทำได้  นอกจากจะเป็นการพลิกแพลงจู่โจมกะทันหันแล้วตัวมันยังเคลื่อนไหวช้าลงกว่าเดิมอย่างยิ่ง  กระบี่ของยี่ฟงเองก็พุ่งทะยานเข้ามารวดเร็วมากกระทั่งทิ่มแทงเข้าใส่ตัวกระบี่ที่ต้านรับไว้ถึงขั้นกระแทกร่างเทียนไห่จนถอยไปชนกับก้อนหินได้เลยทีเดียว

    มาดูกันว่าแกจะทนได้ถึง 10 วินาทีไหม

    ยี่ฟงซึ่งตามติดมาทีหลังจัดการเหวี่ยงหมัดทั้งสองอัดใส่ร่างเทียนไห่ที่หลังชิดก้อนหินไร้ซึ่งทางหนีนับครั้งไม่ถ้วน  แรงปะทะทุกหมัดล้วนเรียกโลหิตจากหัวหน้าโจรได้ไม่ยากนัก  ไม่ช้าก้อนหินที่เทียนไห่มันใช้เป็นที่พิงก็เริ่มแตกร้าวเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×