ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #129 : ดัชนีคู่อรหันต์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.26K
      1.06K
      2 ก.ย. 61

    เฮ้ย ๆ เดี๋ยวก็ได้เป็นเรื่องเป็นราวอีกหรอกมังกรเฒ่าชักจะหวั่น ๆ จนต้องเอ่ยแทรก

    ยี่ฟงเหล่กลับไปมองชายชราพลางกล่าว ถ้ามันเป็นเรื่องขึ้นมาจริง ๆ คนผิดก็ไม่ใช่ฉันแน่ ๆ

    สิ่งที่มังกรเฒ่าเป็นกังวล  ย่อมเกี่ยวข้องกับระบบของเกม  ไม่แน่ว่าเอไอเหิงอีตัวนี้ก็อาจจะเป็นบั๊ก  และยิ่งถ้ามันสามารถช่วยลบสถานะผิดปกติภายในตัวละครยี่ฟงขึ้นมาได้จริง ๆ มีหวังต้องไปเยือนบริษัทเกมไมโครดราก้อนอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้

    มีปัญหารึเจ้าคนนอก?เหิงอีถามเสียงเหี้ยมแสดงความไม่พอใจ  กระทั่งมันเพิ่งสังเกตและให้ความสนใจผู้มาเยือน  จึงกระแอมไอเล็กน้อยก่อนจะวาดฝ่ามือตวัดลงพื้นดิน  ไม่ช้าพลังสายหนึ่งก็ทิ่มแทงลงไปพร้อมกับก่อรูปสร้างหุ่นดินจำแลงขึ้นมายืนข้าง ๆ จำนวนเท่ากับอีกฝ่าย

    จงไปทำหน้าที่ของพวกเจ้าซะ!เหิงอีคำรามสั่งการ  สายตาเหลือบกลับมาจ้องเขม็งไปทางกลุ่มเพลเยอร์ทั้งเจ็ดคนอีกครั้ง  ไหนดูสิว่าผู้มาเยือนกลุ่มนี้จะอดทนกันได้สักเท่าไร  หนีไปซะ  จนกว่าขาของพวกเจ้าจะหมดกำลัง  นี่คือการทดสอบที่ต้องปฏิบัติตาม  ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน

    กลุ่มของยี่ฟงทราบมาก่อนล่วงหน้าแล้ว  จึงไม่แสดงอาการดื้อรั้นและยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี  พวกเขาเริ่มทยอยกันเหินทะยานหนีไปตามเส้นทางที่ถูกกำหนด  ขณะมีหุ่นดินจำแลงวิ่งไล่พร้อมขว้างปาก้อนหินแฝงพลังปราณใส่เป็นระยะ

    คนของเจ้านับว่าไม่เลว  มาเถอะ  อาจารย์จะลองช่วยแก้ปัญหาให้อย่างเต็มที่เหิงอีบอกกล่าวกับยี่ฟงและเริ่มก้าวเดินนำขึ้นไปตามชั้นหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  กระทั่งหยุดลงบนพื้นดินสูงจากพื้นเกือบสิบเมตร  สายน้ำเล็ก ๆตัดผ่านจนไปบรรจบร่วงหล่นกระแทกเป็นผาน้ำตกที่อีกฟาก พื้นที่บริเวณนี้ยื่นออกมาจากผนังถ้ำอย่างพิสดาร  ปรากฏเส้นทางสายเล็กกับต้นหญ้าปะปนดอกไม้อยู่สองข้างทาง  บรรยากาศดูร่มรื่นถ่ายเทสะดวกแม้ว่าที่นี่จะถูกฝังอยู่ใต้ดินก็ตาม  สัมผัสที่เหนือกว่าเพลเยอร์ทั่วไปช่วยกระตุ้นเตือนยี่ฟงว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา

    เหิงอีเดินนำต่อไปอีกช่วงหนึ่งจนหยุดอยู่ที่ขอบผาน้ำตก  เบื้องล่างคือส่วนที่ยี่ฟงไม่เคยเห็นมาก่อน  มันถูกตัดขาดออกจากพื้นที่ทดสอบโดยสมบูรณ์  แต่จะอย่างไรก็ตาม  ที่นี่ล้วนไม่ปรากฏสิ่งมีชีวิตอื่นใดแม้กระทั่งหนอนแมลงเล็ก ๆ  ไม่มีเสียงนกร้องขับขานเฉกเช่นเดียวกับพื้นที่ส่วนอื่น ๆ  เสียงเดียวที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจอันโดดเดี่ยววังเวงก็คือเสียงน้ำตกข้างหน้านี้เท่านั้น

    เฉพาะพื้นที่ข้างบนนี้คือเขตแดนลมปราณประตูฟ้า เหิงอีช่วยคลายข้อสงสัยในใจศิษย์ของตนด้วยการประกาศถึงเขตแดนอันลี้ลับ

    ศิษย์รู้สึกมาสักพักหนึ่งแล้ว  ดูเหมือนว่าเขตแดนนี้จะมีส่วนช่วยเพิ่มความเข้มแข็งให้กับพลังยุทธ์โดยตรง  ศิษย์กล่าวถูกต้องหรือไม่?ยี่ฟงแสดงภูมิปัญญาความสามารถ

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า  สัมผัสของเจ้าไม่เลว  โลหิตมังกรสมควรให้คุณประโยชน์กับเจ้าไม่ใช่น้อยเหิงอีหัวเราะชอบใจ

    ศิษย์ย่อมไม่ลืมเลือนพระคุณของท่านอาจารย์ยี่ฟงตอบกลับ  โลหิตมังกรที่ว่าก็เป็นเหิงอีมอบให้

    เอาล่ะ เอาล่ะ ถูกอย่างที่เจ้าว่า  เขตแดนลมปราณประตูฟ้าจะช่วยหล่อเลี้ยงพลังยุทธ์ ขณะเดียวกันก็จะชำระล้างสิ่งแปลกปลอมทั่วร่างให้สะอาดไปด้วย  พลังยุทธ์หรือลมปราณก็จะค่อย ๆ บริสุทธิ์ขึ้นตามระยะเวลาการฝึกฝน  สุดท้ายมันจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย  ก่อตั้งรากฐานให้แข็งแรงกว่าเดิมจนสามารถฝึกฝนและใช้วิชาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    นั่นรวมถึงความก้าวหน้าทางพลังยุทธ์ที่จะเร่งรุดว่องไวขึ้นตามไปด้วย

    จากสิ่งที่เหิงอีอธิบายมา  ยี่ฟงสรุปง่าย ๆ ว่ามันเป็นเขตแดนที่จะช่วยให้ค่าประสบการณ์ฝึกฝนคูณสองหรืออาจมากกว่านั้น  เมื่อเข้าใจดีแล้วยี่ฟงจึงรู้ทันทีว่ามันไม่อาจช่วยแก้ปัญหาอะไรได้  แต่เขาก็ไม่คิดปฏิเสธโอกาสดี ๆ แบบนี้ที่จะทำให้สามารถเก็บกักค่าประสบการณ์ได้มหาศาลในเวลาอันสั้น

    แต่เพียงแค่เขตแดนนี้คงยังไม่พอ ลักษณะของเจ้าร้ายแรงกว่าคนทั่วไปมาก ฉะนั้นเหิงอีหยุดวาจาครู่หนึ่งเพื่อประเมินบางสิ่งบางอย่าง  สุดท้ายกล่าวขึ้นว่า  อาจารย์ตัดสินใจจะสละพลังบำเพ็ญเพียรบางส่วน  นั่นก็เพื่อจะช่วยทะลวงจุดชีพจรลมปราณที่อุดตันให้แก่เจ้า  อาจารย์ไม่ทราบว่าเจ้าได้ไปเผชิญพบสิ่งใดมา  แต่อาการบาดเจ็บครานั้นคงทำให้จุดชีพจรสำคัญในร่างเจ้าปิดตายลง  ส่งผลให้จนบัดนี้เจ้าก็ยังไม่อาจก้าวหน้า  บอกตามตรง  เจ้าได้พิการและยากที่จะเดินบนเส้นทางผู้ฝึกตนแล้วล่ะเหิงอีอธิบายด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดมากทีเดียว  ราวกับเป็นคนละคนกับเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง

    ตอนอยู่ต่อหน้าคนของเจ้า  อาจารย์พยายามไม่แสดงออกถึงความเสียใจ ทว่าเมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว เรื่องนี้ไม่สมควรปิดบังต่อเจ้าจริง ๆ

    ฟังมาถึงตรงนี้ยี่ฟงก็ยังไม่สามารถเอ่ยวาจาได้  ในหัวพยายามประมวลผลเชื่อมต่อความเป็นไปได้ที่ทางระบบเกมได้ปรับแก้ตัวละครยี่ฟงอย่างละเอียด  ระงับการเลื่อนเลเวลจุดชีพจรสำคัญถูกปิดตาย สองประโยคนี้เกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้ง  และด้วยอัจฉริยะภาพของยี่ฟง  เขาก็กระจ่างแจ้งในเรื่องราวทั้งหมดภายในเวลาอันรวดเร็วนี้เอง

    ความจริง  ทางบริษัทเกมได้ลงมือระงับการเลื่อนเลเวลตัวละครยี่ฟงตามหน้าที่แล้ว  เพียงแค่วิธีการนั้นไม่ใช่อะไรที่เรียบง่ายไร้ซึ่งศิลปะอย่างที่ใครคิด  พวกเขาได้นำเอาหนึ่งในโปรแกรมที่ปกติจะใช้พัฒนาสร้างตัวละครเอไอภายในเกมมาใช้กับตัวละครยี่ฟงแทน  โปรแกรมที่ว่าเป็นการกำหนดวิถีและชีวิตของผู้ฝึกตนที่จะต้องเกิดมาพิการ  จุดชีพจรหลักสำคัญปิดตายลง  ยากที่จะเดินไปบนเส้นทางแห่งการต่อสู้และพลัง  ส่วนมากโปรแกรมนี้จะถูกนำไปใช้กับตัวละครเอไอชาวบ้านธรรมดาทั่ว ๆ ไป  ข้อมูลทั้งหมดนี้มีเอาไว้ก็เพื่ออรรถรสเนื้อเรื่องภายในเกมลำนำจ้าวยุทธจักรทั้งสิ้น

    อย่างไรก็ตาม  เหตุการณ์พลิกฟ้าคว่ำดินเฉกเช่นที่ยี่ฟงเผชิญอยู่  ไม่ใช่อะไรที่เพลเยอร์ปกติเขาพบเจอกันแน่ ๆ  ซึ่งแน่นอนว่าทางบริษัทเกมย่อมคิดไม่ถึงเช่นกัน  ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องดูแลให้เรื่องราวภายในเกมมันดำเนินไปอย่างถูกต้องตามที่เซิร์ฟเวอร์หลักกำชับมา  ผลลัพธ์จึงลงเอยอย่างที่เห็น

    หากไปแก้ไขปรับปรุงอะไรมั่วซั่ว  ก็อาจส่งผลให้ตัวละครเอไอมันเอ๋อหรือบั๊กตามได้

    ความรู้ความเข้าใจของเหิงอีไม่ผิดไปแม้แต่นิดเดียว อาจารย์ผู้นี้มองออกทะลุปรุโปร่งเท่าที่เอไอตัวหนึ่งจะทำได้แล้ว  และเขากำลังยอมเสียสละเพื่อช่วยเหลือศิษย์ของตนอย่างสุดความสามารถตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้จริง ๆ

    ฟังให้ดี”  เหิงอีเอ่ยเรียกสติชายหนุ่ม  อาจารย์เพียงช่วยเปิดจุดชีพจรขึ้นมาได้แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น  จากการตรวจสอบ  โชคยังดีที่หนึ่งในพลังวิชาเทวะที่เจ้าครอบครอง  ทุกครั้งที่ใช้ออก  มันจะกรุยเปิดทางจุดชีพจรภายในร่างให้เจ้าเสมอ  นั่นแสดงว่า  จุดชีพจรของเจ้าจริง ๆ แล้วยังไม่ได้ปิดตายลงอย่างที่อาจารย์ได้สันนิษฐานไว้  เจ้ายังมีสิทธิ์ที่จะกลับมาหายดีอีกครั้ง

    ยี่ฟงเผยยิ้ม  แสดงความเคารพต่ออาจารย์ผู้นี้อย่างเต็มใจ  ชั่วขณะหนึ่งเขาแทบลืมเลือนไปว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่เอไอหรือปัญญาประดิษฐ์ตัวหนึ่งเท่านั้น

    ส่วนที่เหิงอีว่า  วิชาเทวะนั้น  คงหมายถึงวิหคอหังการกระมัง  เพราะวิชานี้มันคือการฝืนทะลวงขีดจำกัดเลเวล  ในสถานะนี้จุดชีพจรคงถูกกรุยเปิดออก  ก่อนที่มันจะปิดตายลงหลังสิ้นสุดการทำงานของวิชา  คำถามก็คือ  ระหว่างขั้นตอนที่ว่านี้เหตุใดตัวละครเขาก็ยังไม่อาจเลื่อนระดับเลเวลได้?

    ยี่ฟงเลิกคิดให้ปวดหัวเพราะคงยากจะได้คำตอบที่ชัดเจน

    ศิษย์ซาบซึ้งในพระคุณของท่านอาจารย์ยิ่งนัก  ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ท่านอาจารย์คิดจะมอบให้  ศิษย์จะใช้มันให้คุ้มค่าอย่างที่สุดยี่ฟงผงกศีรษะประสานฝ่ามือคารวะพลางตอบรับความช่วยเหลืออย่างลึกซึ้งจริงใจ

    ดีมาก!  ถ้าเช่นนั้นก็นั่งเข้าฌานซะ  อาจารย์จะประกบสร้างดัชนีด้วยพละกำลังส่วนหนึ่ง  และจี้ปะทะตามจุดชีพจรสำคัญบนร่างของเจ้า  จงฝืนอดทนต่อความเจ็บปวดเข้าไว้  อย่าได้ล้มพับหมดสติลงไปเด็ดขาดเหิงอีอธิบายพร้อมสั่งกำชับน้ำเสียงจริงจัง  แสดงให้เห็นว่าขั้นตอนเหล่านี้ไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อย

    ยี่ฟงปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย  เมื่อนั่งขัดสมาธิเรียบร้อยแล้วสองตาก็ปิดลง  ลมหายใจเข้าออกค่อย ๆ เชื่องช้าเป็นจังหวะสม่ำเสมอ  เขตแดนลมปราณประตูฟ้าที่ครอบคลุมโดยรอบพื้นที่กำลังชอนไชเกาะกุมลงบนผิวกายทีละจุด  จากเล็กไปสู่ขนาดที่ควรจะเรียกว่าออร่าเสียมากกว่าในช่วงเวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น

    ส่วนทางเหิงอีรับรู้ได้ถึงสภาวะเข้าฌานจากศิษย์  ก็เผยร่องรอยชื่นชมผ่านสีหน้าและแววตา  อัจฉริยะแบบเจ้าหาไม่ได้อีกแล้วกระมัง  เช่นนั้นข้าย่อมต้องช่วยเหลือเจ้าสุดกำลัง

    เหิงอีเตรียมตัวปรับสภาพจิตใจอยู่เล็กน้อย  จากนั้นเริ่มประกบฝ่ามือเข้าหากันคล้ายพนมมือ  คลื่นปราณที่เขาใช้เวลาฝึกฝนเพิ่มพูนมาเป็นเวลาชั่วชีวิตกำลังถูกดูดกลืนออกไปรวมรั้งอยู่ที่ฝ่ามือ  ทันใดนั้นเหิงอีก็ตวัดฝ่ามือขวาแยกออกมา  ชูเพียงนิ้วชี้กับนิ้วกลางแนบสนิทจนปรากฏเป็นสภาวะดัชนีคู่อรหันต์  เมื่อบังคับสภาวะที่ว่าทิ่มแทงจี้ปะทะไปบนจุดชีพจรตามร่างยี่ฟง  เหงื่อเม็ดโตก็เริ่มผุดพรายเต็มใบหน้า  แต่ละจุดจำต้องใช้สมาธิสูงสุดเพื่อเสริมความแม่นยำและประสิทธิภาพ  ขณะเดียวกัน  ทางยี่ฟงเองก็กำลังกัดฟันอดทนอดกลั้น  ความเจ็บปวดที่ถึงแม้จะได้ร่างอมตะช่วยลดทอนลงแล้วกึ่งหนึ่งก็ยังนับเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะทานทน  ตามร่างกายตั้งแต่ทรวงอกลงไปจนถึงท้องน้อย  เผยให้เห็นร่องรอยดัชนีคู่อรหันต์ที่กดเนื้อจนเป็นรูเป็นหลุมค้างอยู่แบบนั้น  พลังลมปราณขุมหนึ่งแผ่ซ่านม้วนตลบ  คอยฉุดกระชากสติของชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง

    นี่นับเป็นเหตุการณ์พิเศษอย่างที่สุดแล้วในแพตช์เกมปัจจุบัน  ไม่ใช่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ว่ามันเกิดขึ้นเร็วเกินไปต่างหาก  ทางเซิร์ฟเวอร์หลักแฝงข้อมูลเอาไว้มากมายมหาศาลลงไปนับไม่ถ้วน  นั่นทำให้เซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ต้องมีข้อมูลพิเศษเหล่านี้ติดไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้  และยี่ฟงค้นพบมันแล้วอย่างน้อยหนึ่งเรื่องโดยบังเอิญ!

    ปุ  เสียงเล็ก ๆ นี้ระเบิดกังวานขึ้นมาสอดแทรกเสียงน้ำตก  ร่องรอยดัชนีคู่อรหันต์จุดแรกบนทรวงอกของยี่ฟง  บัดนี้ได้ดีดทะยานกลับขึ้นมาจนเป็นรอยแดง  จุดที่สองซึ่งยังถูกกดเป็นหลุมอยู่  ไม่ช้าเมื่อเสียง ปุ ดังขึ้นใหม่มันก็ดีดกลับขึ้นมาเป็นรอยแดงเหมือนกับจุดแรก  สุดท้ายก็เกิดเสียง ปุ ดังระรัวต่อเนื่องจนนับไม่ทันอีกต่อไป  และแล้วเหิงอีก็หยุดท่าร่างดัชนีลงพลางสูดลมหายใจเข้าลึกจนหน้าท้องขยายใหญ่

    ช่วงเวลานี้สำคัญต่ออนาคตของเจ้ายิ่งนัก  จงอย่าได้หวนกลับมานึกเสียใจภายหลังซะล่ะ  เหิงอีฝืนเอ่ยปากเตือน

    เพลเยอร์ยี่ฟงได้รับการทะลวงเปิดจุดชีพจร  ส่งผลให้พลังตกค้างถูกแปรเปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์  ระดับเลเวลเลื่อนขึ้นเป็น 58

    แน่นอนว่าเพียงแค่พลังตกค้างจากเหิงอี  ย่อมไม่อาจทำให้ได้รับค่าประสบการณ์มากมายอะไร  ทว่าคนทั้งสองเวลานี้รั้งอยู่ภายในเขตแดนลมปราณประตูฟ้า!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×