คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #129 : ดัชนีคู่อรหันต์
“เฮ้ย
ๆ เดี๋ยวก็ได้เป็นเรื่องเป็นราวอีกหรอก” มังกรเฒ่าชักจะหวั่น ๆ
จนต้องเอ่ยแทรก
ยี่ฟงเหล่กลับไปมองชายชราพลางกล่าว
“ถ้ามันเป็นเรื่องขึ้นมาจริง
ๆ คนผิดก็ไม่ใช่ฉันแน่ ๆ”
สิ่งที่มังกรเฒ่าเป็นกังวล ย่อมเกี่ยวข้องกับระบบของเกม ไม่แน่ว่าเอไอเหิงอีตัวนี้ก็อาจจะเป็นบั๊ก และยิ่งถ้ามันสามารถช่วยลบสถานะผิดปกติภายในตัวละครยี่ฟงขึ้นมาได้จริง
ๆ มีหวังต้องไปเยือนบริษัทเกมไมโครดราก้อนอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้
“มีปัญหารึเจ้าคนนอก?” เหิงอีถามเสียงเหี้ยมแสดงความไม่พอใจ กระทั่งมันเพิ่งสังเกตและให้ความสนใจผู้มาเยือน จึงกระแอมไอเล็กน้อยก่อนจะวาดฝ่ามือตวัดลงพื้นดิน ไม่ช้าพลังสายหนึ่งก็ทิ่มแทงลงไปพร้อมกับก่อรูปสร้างหุ่นดินจำแลงขึ้นมายืนข้าง
ๆ จำนวนเท่ากับอีกฝ่าย
“จงไปทำหน้าที่ของพวกเจ้าซะ!” เหิงอีคำรามสั่งการ สายตาเหลือบกลับมาจ้องเขม็งไปทางกลุ่มเพลเยอร์ทั้งเจ็ดคนอีกครั้ง “ไหนดูสิว่าผู้มาเยือนกลุ่มนี้จะอดทนกันได้สักเท่าไร หนีไปซะ
จนกว่าขาของพวกเจ้าจะหมดกำลัง นี่คือการทดสอบที่ต้องปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
กลุ่มของยี่ฟงทราบมาก่อนล่วงหน้าแล้ว จึงไม่แสดงอาการดื้อรั้นและยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี พวกเขาเริ่มทยอยกันเหินทะยานหนีไปตามเส้นทางที่ถูกกำหนด ขณะมีหุ่นดินจำแลงวิ่งไล่พร้อมขว้างปาก้อนหินแฝงพลังปราณใส่เป็นระยะ
“คนของเจ้านับว่าไม่เลว
มาเถอะ
อาจารย์จะลองช่วยแก้ปัญหาให้อย่างเต็มที่” เหิงอีบอกกล่าวกับยี่ฟงและเริ่มก้าวเดินนำขึ้นไปตามชั้นหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ กระทั่งหยุดลงบนพื้นดินสูงจากพื้นเกือบสิบเมตร สายน้ำเล็ก ๆตัดผ่านจนไปบรรจบร่วงหล่นกระแทกเป็นผาน้ำตกที่อีกฟาก พื้นที่บริเวณนี้ยื่นออกมาจากผนังถ้ำอย่างพิสดาร ปรากฏเส้นทางสายเล็กกับต้นหญ้าปะปนดอกไม้อยู่สองข้างทาง
บรรยากาศดูร่มรื่นถ่ายเทสะดวกแม้ว่าที่นี่จะถูกฝังอยู่ใต้ดินก็ตาม
สัมผัสที่เหนือกว่าเพลเยอร์ทั่วไปช่วยกระตุ้นเตือนยี่ฟงว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา
เหิงอีเดินนำต่อไปอีกช่วงหนึ่งจนหยุดอยู่ที่ขอบผาน้ำตก เบื้องล่างคือส่วนที่ยี่ฟงไม่เคยเห็นมาก่อน มันถูกตัดขาดออกจากพื้นที่ทดสอบโดยสมบูรณ์ แต่จะอย่างไรก็ตาม ที่นี่ล้วนไม่ปรากฏสิ่งมีชีวิตอื่นใดแม้กระทั่งหนอนแมลงเล็ก
ๆ ไม่มีเสียงนกร้องขับขานเฉกเช่นเดียวกับพื้นที่ส่วนอื่น
ๆ เสียงเดียวที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจอันโดดเดี่ยววังเวงก็คือเสียงน้ำตกข้างหน้านี้เท่านั้น
“เฉพาะพื้นที่ข้างบนนี้คือเขตแดนลมปราณประตูฟ้า” เหิงอีช่วยคลายข้อสงสัยในใจศิษย์ของตนด้วยการประกาศถึงเขตแดนอันลี้ลับ
“ศิษย์รู้สึกมาสักพักหนึ่งแล้ว
ดูเหมือนว่าเขตแดนนี้จะมีส่วนช่วยเพิ่มความเข้มแข็งให้กับพลังยุทธ์โดยตรง ศิษย์กล่าวถูกต้องหรือไม่?” ยี่ฟงแสดงภูมิปัญญาความสามารถ
“ฮ่า
ฮ่า ฮ่า สัมผัสของเจ้าไม่เลว
โลหิตมังกรสมควรให้คุณประโยชน์กับเจ้าไม่ใช่น้อย” เหิงอีหัวเราะชอบใจ
“ศิษย์ย่อมไม่ลืมเลือนพระคุณของท่านอาจารย์” ยี่ฟงตอบกลับ โลหิตมังกรที่ว่าก็เป็นเหิงอีมอบให้
“เอาล่ะ
เอาล่ะ ถูกอย่างที่เจ้าว่า เขตแดนลมปราณประตูฟ้าจะช่วยหล่อเลี้ยงพลังยุทธ์ ขณะเดียวกันก็จะชำระล้างสิ่งแปลกปลอมทั่วร่างให้สะอาดไปด้วย พลังยุทธ์หรือลมปราณก็จะค่อย ๆ บริสุทธิ์ขึ้นตามระยะเวลาการฝึกฝน สุดท้ายมันจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย ก่อตั้งรากฐานให้แข็งแรงกว่าเดิมจนสามารถฝึกฝนและใช้วิชาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
“นั่นรวมถึงความก้าวหน้าทางพลังยุทธ์ที่จะเร่งรุดว่องไวขึ้นตามไปด้วย”
จากสิ่งที่เหิงอีอธิบายมา ยี่ฟงสรุปง่าย ๆ ว่ามันเป็นเขตแดนที่จะช่วยให้ค่าประสบการณ์ฝึกฝนคูณสองหรืออาจมากกว่านั้น เมื่อเข้าใจดีแล้วยี่ฟงจึงรู้ทันทีว่ามันไม่อาจช่วยแก้ปัญหาอะไรได้ แต่เขาก็ไม่คิดปฏิเสธโอกาสดี ๆ แบบนี้ที่จะทำให้สามารถเก็บกักค่าประสบการณ์ได้มหาศาลในเวลาอันสั้น
“แต่เพียงแค่เขตแดนนี้คงยังไม่พอ ลักษณะของเจ้าร้ายแรงกว่าคนทั่วไปมาก ฉะนั้น…” เหิงอีหยุดวาจาครู่หนึ่งเพื่อประเมินบางสิ่งบางอย่าง สุดท้ายกล่าวขึ้นว่า “อาจารย์ตัดสินใจจะสละพลังบำเพ็ญเพียรบางส่วน นั่นก็เพื่อจะช่วยทะลวงจุดชีพจรลมปราณที่อุดตันให้แก่เจ้า อาจารย์ไม่ทราบว่าเจ้าได้ไปเผชิญพบสิ่งใดมา แต่อาการบาดเจ็บครานั้นคงทำให้จุดชีพจรสำคัญในร่างเจ้าปิดตายลง ส่งผลให้จนบัดนี้เจ้าก็ยังไม่อาจก้าวหน้า บอกตามตรง
เจ้าได้พิการและยากที่จะเดินบนเส้นทางผู้ฝึกตนแล้วล่ะ” เหิงอีอธิบายด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดมากทีเดียว ราวกับเป็นคนละคนกับเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง
“ตอนอยู่ต่อหน้าคนของเจ้า อาจารย์พยายามไม่แสดงออกถึงความเสียใจ ทว่าเมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว เรื่องนี้ไม่สมควรปิดบังต่อเจ้าจริง ๆ”
ฟังมาถึงตรงนี้ยี่ฟงก็ยังไม่สามารถเอ่ยวาจาได้ ในหัวพยายามประมวลผลเชื่อมต่อความเป็นไปได้ที่ทางระบบเกมได้ปรับแก้ตัวละครยี่ฟงอย่างละเอียด ระงับการเลื่อนเลเวล…จุดชีพจรสำคัญถูกปิดตาย สองประโยคนี้เกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้ง และด้วยอัจฉริยะภาพของยี่ฟง เขาก็กระจ่างแจ้งในเรื่องราวทั้งหมดภายในเวลาอันรวดเร็วนี้เอง
ความจริง ทางบริษัทเกมได้ลงมือระงับการเลื่อนเลเวลตัวละครยี่ฟงตามหน้าที่แล้ว เพียงแค่วิธีการนั้นไม่ใช่อะไรที่เรียบง่ายไร้ซึ่งศิลปะอย่างที่ใครคิด
พวกเขาได้นำเอาหนึ่งในโปรแกรมที่ปกติจะใช้พัฒนาสร้างตัวละครเอไอภายในเกมมาใช้กับตัวละครยี่ฟงแทน
โปรแกรมที่ว่าเป็นการกำหนดวิถีและชีวิตของผู้ฝึกตนที่จะต้องเกิดมาพิการ จุดชีพจรหลักสำคัญปิดตายลง ยากที่จะเดินไปบนเส้นทางแห่งการต่อสู้และพลัง ส่วนมากโปรแกรมนี้จะถูกนำไปใช้กับตัวละครเอไอชาวบ้านธรรมดาทั่ว
ๆ ไป ข้อมูลทั้งหมดนี้มีเอาไว้ก็เพื่ออรรถรสเนื้อเรื่องภายในเกมลำนำจ้าวยุทธจักรทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์พลิกฟ้าคว่ำดินเฉกเช่นที่ยี่ฟงเผชิญอยู่ ไม่ใช่อะไรที่เพลเยอร์ปกติเขาพบเจอกันแน่ ๆ ซึ่งแน่นอนว่าทางบริษัทเกมย่อมคิดไม่ถึงเช่นกัน ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องดูแลให้เรื่องราวภายในเกมมันดำเนินไปอย่างถูกต้องตามที่เซิร์ฟเวอร์หลักกำชับมา ผลลัพธ์จึงลงเอยอย่างที่เห็น
หากไปแก้ไขปรับปรุงอะไรมั่วซั่ว ก็อาจส่งผลให้ตัวละครเอไอมันเอ๋อหรือบั๊กตามได้
ความรู้ความเข้าใจของเหิงอีไม่ผิดไปแม้แต่นิดเดียว อาจารย์ผู้นี้มองออกทะลุปรุโปร่งเท่าที่เอไอตัวหนึ่งจะทำได้แล้ว
และเขากำลังยอมเสียสละเพื่อช่วยเหลือศิษย์ของตนอย่างสุดความสามารถตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้จริง
ๆ
“ฟังให้ดี” เหิงอีเอ่ยเรียกสติชายหนุ่ม “อาจารย์เพียงช่วยเปิดจุดชีพจรขึ้นมาได้แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น จากการตรวจสอบ
โชคยังดีที่หนึ่งในพลังวิชาเทวะที่เจ้าครอบครอง ทุกครั้งที่ใช้ออก มันจะกรุยเปิดทางจุดชีพจรภายในร่างให้เจ้าเสมอ นั่นแสดงว่า
จุดชีพจรของเจ้าจริง ๆ แล้วยังไม่ได้ปิดตายลงอย่างที่อาจารย์ได้สันนิษฐานไว้ เจ้ายังมีสิทธิ์ที่จะกลับมาหายดีอีกครั้ง”
ยี่ฟงเผยยิ้ม แสดงความเคารพต่ออาจารย์ผู้นี้อย่างเต็มใจ
ชั่วขณะหนึ่งเขาแทบลืมเลือนไปว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่เอไอหรือปัญญาประดิษฐ์ตัวหนึ่งเท่านั้น
ส่วนที่เหิงอีว่า วิชาเทวะนั้น
คงหมายถึงวิหคอหังการกระมัง
เพราะวิชานี้มันคือการฝืนทะลวงขีดจำกัดเลเวล ในสถานะนี้จุดชีพจรคงถูกกรุยเปิดออก
ก่อนที่มันจะปิดตายลงหลังสิ้นสุดการทำงานของวิชา คำถามก็คือ
ระหว่างขั้นตอนที่ว่านี้เหตุใดตัวละครเขาก็ยังไม่อาจเลื่อนระดับเลเวลได้?
ยี่ฟงเลิกคิดให้ปวดหัวเพราะคงยากจะได้คำตอบที่ชัดเจน
“ศิษย์ซาบซึ้งในพระคุณของท่านอาจารย์ยิ่งนัก ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ท่านอาจารย์คิดจะมอบให้ ศิษย์จะใช้มันให้คุ้มค่าอย่างที่สุด” ยี่ฟงผงกศีรษะประสานฝ่ามือคารวะพลางตอบรับความช่วยเหลืออย่างลึกซึ้งจริงใจ
“ดีมาก! ถ้าเช่นนั้นก็นั่งเข้าฌานซะ อาจารย์จะประกบสร้างดัชนีด้วยพละกำลังส่วนหนึ่ง และจี้ปะทะตามจุดชีพจรสำคัญบนร่างของเจ้า จงฝืนอดทนต่อความเจ็บปวดเข้าไว้ อย่าได้ล้มพับหมดสติลงไปเด็ดขาด” เหิงอีอธิบายพร้อมสั่งกำชับน้ำเสียงจริงจัง แสดงให้เห็นว่าขั้นตอนเหล่านี้ไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อย
ยี่ฟงปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย เมื่อนั่งขัดสมาธิเรียบร้อยแล้วสองตาก็ปิดลง ลมหายใจเข้าออกค่อย ๆ
เชื่องช้าเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เขตแดนลมปราณประตูฟ้าที่ครอบคลุมโดยรอบพื้นที่กำลังชอนไชเกาะกุมลงบนผิวกายทีละจุด จากเล็กไปสู่ขนาดที่ควรจะเรียกว่าออร่าเสียมากกว่าในช่วงเวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น
ส่วนทางเหิงอีรับรู้ได้ถึงสภาวะเข้าฌานจากศิษย์ ก็เผยร่องรอยชื่นชมผ่านสีหน้าและแววตา “อัจฉริยะแบบเจ้าหาไม่ได้อีกแล้วกระมัง เช่นนั้นข้าย่อมต้องช่วยเหลือเจ้าสุดกำลัง”
เหิงอีเตรียมตัวปรับสภาพจิตใจอยู่เล็กน้อย จากนั้นเริ่มประกบฝ่ามือเข้าหากันคล้ายพนมมือ คลื่นปราณที่เขาใช้เวลาฝึกฝนเพิ่มพูนมาเป็นเวลาชั่วชีวิตกำลังถูกดูดกลืนออกไปรวมรั้งอยู่ที่ฝ่ามือ ทันใดนั้นเหิงอีก็ตวัดฝ่ามือขวาแยกออกมา ชูเพียงนิ้วชี้กับนิ้วกลางแนบสนิทจนปรากฏเป็นสภาวะดัชนีคู่อรหันต์ เมื่อบังคับสภาวะที่ว่าทิ่มแทงจี้ปะทะไปบนจุดชีพจรตามร่างยี่ฟง เหงื่อเม็ดโตก็เริ่มผุดพรายเต็มใบหน้า แต่ละจุดจำต้องใช้สมาธิสูงสุดเพื่อเสริมความแม่นยำและประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน
ทางยี่ฟงเองก็กำลังกัดฟันอดทนอดกลั้น ความเจ็บปวดที่ถึงแม้จะได้ร่างอมตะช่วยลดทอนลงแล้วกึ่งหนึ่งก็ยังนับเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะทานทน ตามร่างกายตั้งแต่ทรวงอกลงไปจนถึงท้องน้อย เผยให้เห็นร่องรอยดัชนีคู่อรหันต์ที่กดเนื้อจนเป็นรูเป็นหลุมค้างอยู่แบบนั้น พลังลมปราณขุมหนึ่งแผ่ซ่านม้วนตลบ คอยฉุดกระชากสติของชายหนุ่มอย่างต่อเนื่อง
นี่นับเป็นเหตุการณ์พิเศษอย่างที่สุดแล้วในแพตช์เกมปัจจุบัน ไม่ใช่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ว่ามันเกิดขึ้นเร็วเกินไปต่างหาก
ทางเซิร์ฟเวอร์หลักแฝงข้อมูลเอาไว้มากมายมหาศาลลงไปนับไม่ถ้วน นั่นทำให้เซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ ต้องมีข้อมูลพิเศษเหล่านี้ติดไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ และยี่ฟงค้นพบมันแล้วอย่างน้อยหนึ่งเรื่องโดยบังเอิญ!
ปุ เสียงเล็ก ๆ
นี้ระเบิดกังวานขึ้นมาสอดแทรกเสียงน้ำตก ร่องรอยดัชนีคู่อรหันต์จุดแรกบนทรวงอกของยี่ฟง บัดนี้ได้ดีดทะยานกลับขึ้นมาจนเป็นรอยแดง จุดที่สองซึ่งยังถูกกดเป็นหลุมอยู่ ไม่ช้าเมื่อเสียง ปุ
ดังขึ้นใหม่มันก็ดีดกลับขึ้นมาเป็นรอยแดงเหมือนกับจุดแรก สุดท้ายก็เกิดเสียง ปุ ดังระรัวต่อเนื่องจนนับไม่ทันอีกต่อไป และแล้วเหิงอีก็หยุดท่าร่างดัชนีลงพลางสูดลมหายใจเข้าลึกจนหน้าท้องขยายใหญ่
“ช่วงเวลานี้สำคัญต่ออนาคตของเจ้ายิ่งนัก จงอย่าได้หวนกลับมานึกเสียใจภายหลังซะล่ะ” เหิงอีฝืนเอ่ยปากเตือน
“เพลเยอร์ยี่ฟงได้รับการทะลวงเปิดจุดชีพจร ส่งผลให้พลังตกค้างถูกแปรเปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์ ระดับเลเวลเลื่อนขึ้นเป็น 58”
แน่นอนว่าเพียงแค่พลังตกค้างจากเหิงอี
ย่อมไม่อาจทำให้ได้รับค่าประสบการณ์มากมายอะไร
ทว่าคนทั้งสองเวลานี้รั้งอยู่ภายในเขตแดนลมปราณประตูฟ้า!
ความคิดเห็น