คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #118 : บุกฝ่าซึ่งหน้า
กลุ่มคนหกคนนี้เป็นศิษย์จากพรรคพญายักษา ผู้นำกลุ่มนามช้างพลายเจ้าเดิมซึ่งมารอเก็บเงินค่าผ่านทางเข้าเมืองหังโจวตามหน้าที่ ครั้งนี้ยืนเก๊กอยู่ข้างหลังสุดเพื่อคอยสกัดกั้นเหยื่อที่คิดจะหลบหนีแบบคราวก่อนเอาไว้อย่างรัดกุมมากขึ้น เพียงส่งสมุนกาก ๆ สามคนออกไปรับหน้าขัดขวาง ส่วนตัวมันกับคนสนิทอีกสองคนเวลานี้แววตากระเหี้ยนกระหือรือสุด
ๆ เพราะตัวละครลึกลับสวมใส่หน้ากากปิดบังตัวตน ย่อมหมายความว่าเป็นคนมีค่าหัวหรืออาจเป็นฆาตกรชื่อแดง
กลับกันภายใต้หน้ากากครึ่งขาวครึ่งดำคือใบหน้าที่กำลังหงุดหงิดรำคาญใจ แววตาส่องประกายอำมหิตไม่เห็นหัวศัตรูทุกระดับชั้นโดยสิ้นเชิง หากกลุ่มของช้างพลายมองทะลุได้ต้องมีสะดุ้งตกใจกันบ้าง
ยี่ฟงซึ่งรีบออกเดินทางกะทันหันไม่คิดจะตรวจสอบเมืองเล็ก ๆ อย่างหังโจว เขาตั้งใจมาดึงตัวสามมารเฒ่าให้สำเร็จและคิดจะจากไปทันทีอย่างไม่เหลียวแลเพื่อจะดำเนินแผนการใหญ่ต่อไป เรื่องยิบย่อยภายในเมืองหังโจวกับสังคมคนเถื่อนไม่ได้อยู่ในสายตาของยี่ฟงมาตั้งแต่ต้นแล้ว
เจตนาร้ายพลันถูกปลดปล่อยอย่างไม่มีการยับยั้ง บนฝ่ามือขวาของยี่ฟงก็ปรากฏกระบี่ในช่วงจังหวะไหนมิอาจทราบขณะร่างกายวิ่งขึ้นหน้าไม่หยุด กว่าศัตรูจะตอบสนองตระหนักได้ถึงอันตรายก็สายไปแล้ว เงากระบี่เก้าเล่มดีดทะยานออกจากตัวกระบี่ตั้งต้น พวกมันถูกบังคับให้โจมตีออกไปรวดเร็วมากกระทั่งจำนวนที่แน่ชัดยังไม่ทันกระจ่างแก่สายตาคนทั้งหกดี!
พลังฝีมือของยี่ฟงพัฒนาก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว?
ศิษย์พรรคพญายักษาสามคนแรกที่ขวางอยู่ใกล้สุดไม่มีโอกาสได้ตอบโต้หรือป้องกันอะไรทั้งสิ้น ต่างก็โดนแรงระเบิดกับคมกระบี่ปราณทิ่มแทงทำร้าย ร่างกายลอยขึ้นเหนือพื้นกระเด็นไปหลายเมตร เงาเก้ากระบี่เวหาอีกส่วนยังแผลงฤทธิ์อาละวาดใส่สามคนหลังอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ช้างพลายกับคนสนิทของมันมีเวลาให้ถอยหลบไปได้เส้นยาแดงผ่าแปด ถึงอย่างไรพวกมันก็มีศักดิ์ฐานะยอดฝีมือค้ำคออยู่ย่อมไม่แตกพ่ายย่อยยับง่ายจนเกินไปนัก
“ไอ้เวรนี่! แกคงเป็นเรดพีเค(Red
PK) สินะ ไอ้ฆาตกรชื่อแดงไม่รู้จักเจียมกะลาหัว อย่าหวังจะหลบพ้นสายตาพวกข้าไปได้ง่าย ๆ เลย” ช้างพลายตะคอกเสียงดังข่มขู่ ภายในเมืองหังโจวแห่งนี้พรรคพญายักษามีอำนาจล้นเหลือ ช้างพลายมันมั่นใจเช่นนี้ไม่นับว่าแปลก
มาถึงคำว่าเรดพีเค ซึ่งคือระบบลงโทษเพลเยอร์กลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบการสังหารเพลเยอร์ด้วยกันเอง ยิ่งมีโทษมาก สุดท้ายชื่อตัวละครของตนจะโชว์หราอยู่เหนือศีรษะด้วยสีเลือดแดงเถือก ซึ่งวิธีการใส่หน้ากากก็จะช่วยปกปิดฐานะฆาตกรเอาไว้ได้เล็กน้อยเท่านั้นเพราะไม่ว่าใครมองมาก็จะคิดและตัดสินไปก่อนแล้วว่าตัวละครลึกลับจำพวกนี้ หากไม่มีค่าหัวก็ต้องเป็นเรดพีเคชื่อแดงแน่นอน
เรียกแบบชาวยุทธ์ สายเรดพีเคก็เหมือนเส้นทางของมาร บางวิชาถึงกับมีเงื่อนไขว่าต้องติดโทษชื่อแดง คะแนนการสังหารเพลเยอร์ด้วยกันเองต้องรวบรวมให้ได้ตามเกณฑ์ที่วิชายุทธ์สายมารกำหนดไว้ ถือเป็นทางเลือกที่มีเสน่ห์เย้ายวนสายดาร์คพอสมควร เพลเยอร์ครึ่งต่อครึ่งในเซิร์ฟเวอร์ไทยตอนนี้ก็มีสายมารปะปนอยู่ไม่น้อย เทียบกับสายธรรมมะขาวสะอาดแล้วเพียงน้อยกว่าไม่กี่ส่วน
กลับมาที่การปะทะ ทางช้างพลายเพิ่งข่มขู่ออกไปยังไม่ทันจบดี ยี่ฟงก็แหวกฝ่าแนวหน้าเข้าประชิดพวกมันสามคนในแนวหลังได้เรียบร้อยแล้ว กระบวนท่าทะยานฟ้าของหนึ่งในสิบฝ่ามือกำหนดฟ้าแสดงอำนาจสูงสุดสมกับเป็นวิชายุทธ์คลาสโบราณ นัยน์ตาของศัตรูทั้งสามเหล่ลงมอง ใช่ พวกมันมีโอกาสตอบสนองต่อความรวดเร็วในระดับนี้ได้เพียงแค่การเหลือบตามองตาม ร่างกายที่ชะงักและยังไม่ทันปักหลักมั่นคงพอ หนึ่งถูกหมัดเพลิงกระแทกทรวงอกดังพลั่กหงายหลังล้มกลิ้งไปหลายตลบ ตามด้วยกรงเล็บเพลิงตวัดวาดกลับมาโจมตีคนที่สองจนม้วนกลิ้งไปอีกทาง พริบตาก็เหลือแต่หัวหน้ากลุ่มช้างพลายที่ยังยืนประจันหน้าอยู่ได้
แม้มันจะตื่นตระหนกต่อผลลัพธ์สุดเลวร้าย ทว่ายี่ฟงจำต้องเสียเวลาโจมตีคนสนิทของมันถึงสองคน ย่อมทำให้ช้างพลายพอมีเวลาตั้งตัวและตอบโต้กลับมาบ้าง ซึ่งขณะนี้ช้างพลายปล่อยหมัดคู่แฝงพลังวิชาพญายักษ์คลุ้มคลั่ง ส่วนยี่ฟงยืนเบี่ยงข้างอยู่เล็กน้อย การหลบหลีกไม่ง่ายอีกต่อไป แถมหมัดคู่เปี่ยมล้นพลังปราณยังดิ่งกระแทกเข้ามากะทันหัน ไม่ต้องพูดถึงระดับพลังวิชาในตอนนี้เพราะถ้าโดนเข้าสักทีการบุกฝ่าของยี่ฟงก็จะถูกทำลายลง กระนั้นผลปรากฏว่ายี่ฟงเคลื่อนกายหลบหลีกไปได้หน้าตาเฉย สองตาของช้างพลายเบิกกว้าง ประสบการณ์ทำให้มันตระหนักได้ทันทีว่าศัตรูคนนี้ครอบครองวิชาตัวเบาชั้นสูงจนอาจเหนือกว่ายอดฝีมือเลเวล
60 ขึ้นไปอีกหลายระดับ
เทพยุทธ์!?
คำ ๆ นี้ผุดขึ้นมาในหัวช้างพลาย ตัวมันเองเลเวล 61 ระดับวิชาตัวเบาพื้นฐานก็เข้าขั้นสูงสุดแล้วสำหรับคลาสยอดฝีมือ ทว่าเมื่อเริ่มต้นสู้กันมายังไม่ถึงหนึ่งนาที ฝ่ายตรงข้ามจัดการคนไปแล้วห้าและตอนนี้ยังเคลื่อนที่รวดเร็วชิงความได้เปรียบเหนือกว่าตัวของมันไปได้อีกจนการโจมตีไล่ตามไม่ทัน! สุดท้ายทำให้คลื่นปราณจากหมัดคู่พญายักษ์คลุ้มคลั่งระเบิดออกดังสนั่นแต่ไม่โดนใคร เพียงปัดเป่าอากาศสร้างกระแสลมปั่นป่วนขึ้นมาเท่านั้น
ทางยี่ฟงอาศัยประสาทโต้ตอบขั้นสูงและท่าเท้าเมฆาซ่อนมังกรอ้อมหลบจากจุดอันตราย ซึ่งไม่ใช่เป็นการหลบเพียงอย่างเดียว เวลานี้ยี่ฟงยืนอยู่ไม่ห่างตัวของช้างพลายเท่าไรนัก เขามุดเข้าประชิดอีกครั้งและรัวกำปั้นกระแทกใส่เป็นชุดสลับด้วยกระบวนท่าฝ่ามือถี่ยิบ ทั้งหมดยังเป็นการโจมตีด้วยเพียงกระบวนยุทธ์พื้นฐานล้วน ๆ โดยไร้พลังวิชาแอบแฝงอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ตัวละครยี่ฟงจะมีเลเวลค้างอยู่ที่ 57 แต่พลังกายหรือความแข็งแกร่งทัดเทียมยอดฝีมือเลเวล 60 เข้าไปแล้ว
สาเหตุมาจากค่าพลังกายที่บวกเพิ่มอยู่ถึง
5.1%
ซึ่งองค์ประกอบรวมทั้งหมดก็มาจากหลายสิ่ง หนึ่งคือชุดเกราะลมปราณเกล็ดอสูรคลาส D
ที่ช่วยบวกพลังกาย 2% ถัดมาคือรางวัลจากด่านประลองกำลังภายในดันเจี้ยนลับ
1% และความแข็งแกร่งที่จะเพิ่มขึ้นตามความเข้มข้นของโลหิตมังกรที่จะสูบฉีดสูงสุดได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ตามระยะเวลาการซึมซับคุณสมบัติยา ปัจจุบันอยู่ที่ 21% ช่วยบวกพลังกายอีก 2.1%
ยี่ฟงเลือกปะทะกับอีกฝ่ายด้วยวิธีนี้เพราะตั้งใจหยั่งวัดความสามารถโดยรวมตัวละครของเขาเอง และผลลัพธ์ออกมายอดเยี่ยมได้อย่างเหลือเชื่อจนพาให้รู้สึกคึกคักไปด้วย ทุกการประมือสิบกระบวนท่ายี่สิบกระบวนท่า ตอนนี้ช้างพลายที่เลเวลสูงกว่าเริ่มทนเจ็บปวดต่อไปไม่ไหว หมัดปะทะหมัด เท้าปะทะเท้า ฝ่ายที่เจ็บปวดและเสียกระบวนหนักขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นฝ่ายช้างพลายทั้งนั้น ขณะยี่ฟงแทบจะเฉยเมย ลุยดะกระแทกหมัดยกฝ่าเท้าเตะราวกับตนเป็นเครื่องจักรสังหารไร้ความรู้สึก แต่ก็ไม่ใช่เฉพาะพลังกายที่เข้มแข็งกว่าถึงช่วยให้เขาได้เปรียบอยู่ในตอนนี้ ยังมีสถานะร่างอมตะที่แสดงผลในระดับเลเวล 55
อีกด้วยซึ่งมันกำลังทำให้ความเจ็บปวดทั้งหมดลดทอนลง ตัวละครยี่ฟงถึงได้ถึกทนอย่างไม่ธรรมดา
ลูกสมุนห้าคนของช้างพลายเพิ่งลุกกลับขึ้นมาอย่างโกรธแค้นแต่ภาพที่เห็นกลับเป็นหัวหน้าของพวกตนถูกซ้อมเจ็บหนักอยู่ฝ่ายเดียว ไม่มีโอกาสแม้แต่จะปลดปล่อยพลังวิชายุทธ์ด้วยซ้ำไป
“ยืนมองเชี่ยไรกันวะ เข้ามาช่วยกันหน่อยโว้ย!!” ช้างพลายกล้ำกลืนศักดิ์ศรีเอ่ยปากเรียกขอการสนับสนุนทันที เหล่าสมุนห้าคนของมันก็ไม่อาจปฏิเสธจำต้องยื่นมือเข้ากลุ้มรุมหกต่อหนึ่ง ระหว่างพุ่งเข้าวงในยังได้เตรียมวิชายุทธ์กันมาอย่างไม่มียางอายบ้างแล้ว ทั้งหมัดไท่ซาน กายาแกร่งพันปี กระบี่แสงมาร
กระนั้นทางยี่ฟงก็ไม่ได้เอารัดเอาเปรียบจนเผลอตัว สายตายังมีเหลือบมองศัตรูอีกห้าคนอยู่ตลอดเพื่อระวังภัย และเมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนไหวชิงลงมือ ยี่ฟงมีหรือจะอยู่เฉยรอบนเขียงให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก ฉะนั้นเขาจึงเร่งจังหวะการโจมตีขึ้นจนถึงขีดจำกัดสูงสุด การ์ดป้องกันของช้างพลายถึงกับพังทลายไม่มีชิ้นดี ถูกหมัดกระแทกเข้าหน้า โดนฝ่าเท้าหวดกวาดข้อพับจนลำตัวย่อลงเข่ากระแทกพื้นดินเสียงดังจนปวดร้าวสั่นสะเทือนไปจรดศีรษะ ทว่ายี่ฟงไม่จบแค่นั้น เขาถีบเท้าทะยานถอยหลังเพิ่มระยะห่างกระทั่งรัศมีการโจมตีของพลังวิชาขุนศึกคำรามครอบคลุมกลุ่มคนทั้งหกไว้พอดิบพอดี
“ไอ้พวกงูไร้หัว!” ยี่ฟงคำรามสวนกลับไป ซึ่งถ้อยวาจากระแทกกระทั้นจิตใจนำไปก่อนแล้ว
สิ้นเสียงกระหึ่มที่ว่าก็ปรากฏคลื่นพลังปราณทำลายล้างกระจายออกในรูปของกรวยจนกลืนกินเหล่าศิษย์พรรคพญายักษาเอาไว้ภายใต้รัศมีอันจะก่อให้เกิดค่าความเสียหายไม่มีขาดเกิน ร่างที่คุกเข่าอยู่จนหมดความน่าเกรงขามของช้างพลายถูกคลื่นกระแทกจนร่างม้วนกลิ้งไถลไปชนลูกสมุนที่พยายามจะเข้ามาช่วย สุดท้ายพากันบาดเจ็บกลับไปทั้งกายและใจตาม ๆ กันอย่างไม่น่าดูเท่าไรนัก
ยี่ฟงเมื่อจัดการขวากหนามบนเส้นทางได้แล้วก็ออกทะยานขึ้นหน้าผ่านไปยังเมืองหังโจวทันที ศัตรูทั้งหกคนจะตายไม่ตายก็ไม่ได้อยู่ในแผนแต่แรก ขอเพียงทำให้หลบไปกินดินอยู่ข้างทางและไม่ตามมาเกาะแข้งเกาะขาได้ก็พอ
ช้างพลายเงยหน้าที่เปื้อนดินขึ้นมาก่อนใครเพื่อน สายตากวาดมองหาศัตรูตัวฉกาจ แต่ก็ต้องผิดหวังและเจ็บช้ำไปถึงทรวงเมื่อพบเห็นเงาร่างเลือนรางกำลังมุ่งไปที่ตัวเมืองนู่นแล้วทั้ง ๆ ที่พวกตนยังอยู่ตรงนี้อีกฝ่ายกลับมองไม่เห็นหัวอย่างที่ว่าไว้จริง
ๆ น่ะหรือ เรื่องนี้ไม่อาจยอมรับหรือปล่อยไปง่าย
ๆ แบบนี้ได้เด็ดขาด หน้าตาของเขาต่อลูกน้องทั้งห้าจะเก็บกู้คืนมาได้อย่างไรเล่า
“มียอดฝีมือแหกด่านเข้าไป! คาดว่าจะเป็นเรดพีเคที่พลังฝีมืออยู่ในระดับเทพยุทธ์” ช้างพลายรีบติดต่อแจ้งไปยังคนระดับสูงภายในกิลด์ พยายามอดกลั้นน้ำเสียงกับคำพูดไม่ให้เสียมารยาทออกไป
“เรดพีเค? ฮึ ต้องโง่ขนาดไหนถึงคิดจะหนีเข้ามาในรังของพวกเรา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยที่สองแล้วกัน ส่วนพวกนายก็ทำตามหน้าที่ต่อไปให้ดี” ปลายสายสั่งการกลับมาอย่างไม่ใส่ใจ แต่ช้างพลายยากจะยอมรับได้อย่างทุกที ครั้งนี้เขาเดือดมาก ก่อนหน้านี้ก็เป็นไอ้แก่คนหนึ่งแล้วที่หลุดรอดเงื้อมมือของพวกเขาไป แต่เรดพีเคสุดห้าวคนนี้ไม่เหมือนกัน มันย่อมไม่เกี่ยวข้องกับสามมารเฒ่า แม้จะเก่งกว่าคนหกคนอย่างพวกตนมาก แต่ท่ามกลางดงตีนจำนวนนับไม่ถ้วนต่อให้เป็นถึงจ้าววังจากกิลด์ใหญ่กิลด์ใดก็ต้องยอมศิโรราบกองลงดินเป็นซากด้วยกันทั้งนั้น!
ด้วยเหตุนี้เอง ช้างพลายมันจึงนำคนของตัวเองไล่ติดตามเป้าหมายไปอย่างไม่ใยดีต่อหน้าที่อีก
บนยอดกำแพงเมือง ภายในหอตรวจตรา
สามมารเฒ่าสอดส่องเหตุการณ์เมื่อครู่ได้ตั้งแต่ต้นยันจบส่วนมังกรเฒ่าที่ยืนอยู่ไม่ไกลเริ่มวิตกกังวล เขาคาดไว้ไม่มีผิดว่าไอ้ตัวแสบย่อมไม่มีทางยินยอมให้ตัวเองถูกรีดไถ แต่ไม่คิดเลยว่าแม้แต่เปิดบทสนทนายังไม่มีให้เห็น มาถึงก็ซัดกันนัวราวกับอาฆาตแค้นกันมานานตั้งแต่ชาติปางก่อน พวกช้างพลายนั่นก็คงไม่ยอมเลิกราไปเท่านี้ จากท่าทางที่เห็นแล้วคงติดต่อแจ้งเรื่องให้ทางกิลด์ทราบและได้เตรียมปิดล้อมจัดการตั้งแต่ก้าวแรกที่ยี่ฟงเข้าเมืองแล้วกระมัง
“นี่พวกเอ็งจะทดสอบกันไปถึงขั้นไหน เกิดเรื่องราวบานปลายจนกู่ไม่กลับจะไม่แย่หรือ” มังกรเฒ่าอดที่จะเอ่ยปากคัดค้านเตือนสติขึ้นมาเสียไม่ได้
“เพิ่งเริ่มต้นเองนะโว้ย เอ็งใจเย็น ๆ แล้วเฝ้าดูไปก่อนเถอะน่า” มารตะกละตอบด้วยน้ำเสียงสนุกเฮฮา
“ไอ้เด็กคนนี้แรงกว่าแกอีกว่ะ มาถึงก็จัดหนักจัดเต็มเชียว” เฒ่าทารกกล่าวขึ้นมาบ้าง ไม่รู้กำลังชมหรือด่าอยู่กันแน่
“เหอะ ๆ นี่ยังไม่ได้ครึ่งของหายนะที่ไอ้ตัวแสบมันทำได้เลย ถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้ข้าไม่อยากจะจินตนาการ…” มังกรเฒ่ากล่าวตอบตามจริง สายตาก็จับจ้องเงาร่างของยี่ฟงไม่ไปไหน ในใจวิงวอนขอให้เรื่องราวจบลงด้วยดี
ความคิดเห็น