ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #118 : บุกฝ่าซึ่งหน้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.12K
      1.13K
      18 มิ.ย. 61

    กลุ่มคนหกคนนี้เป็นศิษย์จากพรรคพญายักษา  ผู้นำกลุ่มนามช้างพลายเจ้าเดิมซึ่งมารอเก็บเงินค่าผ่านทางเข้าเมืองหังโจวตามหน้าที่   ครั้งนี้ยืนเก๊กอยู่ข้างหลังสุดเพื่อคอยสกัดกั้นเหยื่อที่คิดจะหลบหนีแบบคราวก่อนเอาไว้อย่างรัดกุมมากขึ้น  เพียงส่งสมุนกาก ๆ สามคนออกไปรับหน้าขัดขวาง ส่วนตัวมันกับคนสนิทอีกสองคนเวลานี้แววตากระเหี้ยนกระหือรือสุด ๆ เพราะตัวละครลึกลับสวมใส่หน้ากากปิดบังตัวตน   ย่อมหมายความว่าเป็นคนมีค่าหัวหรืออาจเป็นฆาตกรชื่อแดง

    กลับกันภายใต้หน้ากากครึ่งขาวครึ่งดำคือใบหน้าที่กำลังหงุดหงิดรำคาญใจ แววตาส่องประกายอำมหิตไม่เห็นหัวศัตรูทุกระดับชั้นโดยสิ้นเชิง  หากกลุ่มของช้างพลายมองทะลุได้ต้องมีสะดุ้งตกใจกันบ้าง

    ยี่ฟงซึ่งรีบออกเดินทางกะทันหันไม่คิดจะตรวจสอบเมืองเล็ก  ๆ  อย่างหังโจว  เขาตั้งใจมาดึงตัวสามมารเฒ่าให้สำเร็จและคิดจะจากไปทันทีอย่างไม่เหลียวแลเพื่อจะดำเนินแผนการใหญ่ต่อไป   เรื่องยิบย่อยภายในเมืองหังโจวกับสังคมคนเถื่อนไม่ได้อยู่ในสายตาของยี่ฟงมาตั้งแต่ต้นแล้ว

    เจตนาร้ายพลันถูกปลดปล่อยอย่างไม่มีการยับยั้ง บนฝ่ามือขวาของยี่ฟงก็ปรากฏกระบี่ในช่วงจังหวะไหนมิอาจทราบขณะร่างกายวิ่งขึ้นหน้าไม่หยุด กว่าศัตรูจะตอบสนองตระหนักได้ถึงอันตรายก็สายไปแล้ว  เงากระบี่เก้าเล่มดีดทะยานออกจากตัวกระบี่ตั้งต้น   พวกมันถูกบังคับให้โจมตีออกไปรวดเร็วมากกระทั่งจำนวนที่แน่ชัดยังไม่ทันกระจ่างแก่สายตาคนทั้งหกดี!

    พลังฝีมือของยี่ฟงพัฒนาก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว?

    ศิษย์พรรคพญายักษาสามคนแรกที่ขวางอยู่ใกล้สุดไม่มีโอกาสได้ตอบโต้หรือป้องกันอะไรทั้งสิ้น   ต่างก็โดนแรงระเบิดกับคมกระบี่ปราณทิ่มแทงทำร้าย  ร่างกายลอยขึ้นเหนือพื้นกระเด็นไปหลายเมตร เงาเก้ากระบี่เวหาอีกส่วนยังแผลงฤทธิ์อาละวาดใส่สามคนหลังอย่างต่อเนื่อง    เพียงแต่ช้างพลายกับคนสนิทของมันมีเวลาให้ถอยหลบไปได้เส้นยาแดงผ่าแปด  ถึงอย่างไรพวกมันก็มีศักดิ์ฐานะยอดฝีมือค้ำคออยู่ย่อมไม่แตกพ่ายย่อยยับง่ายจนเกินไปนัก

    ไอ้เวรนี่แกคงเป็นเรดพีเค(Red PK) สินะ ไอ้ฆาตกรชื่อแดงไม่รู้จักเจียมกะลาหัว อย่าหวังจะหลบพ้นสายตาพวกข้าไปได้ง่าย ๆ เลย” ช้างพลายตะคอกเสียงดังข่มขู่ ภายในเมืองหังโจวแห่งนี้พรรคพญายักษามีอำนาจล้นเหลือ ช้างพลายมันมั่นใจเช่นนี้ไม่นับว่าแปลก

    มาถึงคำว่าเรดพีเค ซึ่งคือระบบลงโทษเพลเยอร์กลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบการสังหารเพลเยอร์ด้วยกันเอง ยิ่งมีโทษมาก สุดท้ายชื่อตัวละครของตนจะโชว์หราอยู่เหนือศีรษะด้วยสีเลือดแดงเถือก   ซึ่งวิธีการใส่หน้ากากก็จะช่วยปกปิดฐานะฆาตกรเอาไว้ได้เล็กน้อยเท่านั้นเพราะไม่ว่าใครมองมาก็จะคิดและตัดสินไปก่อนแล้วว่าตัวละครลึกลับจำพวกนี้  หากไม่มีค่าหัวก็ต้องเป็นเรดพีเคชื่อแดงแน่นอน

    เรียกแบบชาวยุทธ์ สายเรดพีเคก็เหมือนเส้นทางของมาร บางวิชาถึงกับมีเงื่อนไขว่าต้องติดโทษชื่อแดง คะแนนการสังหารเพลเยอร์ด้วยกันเองต้องรวบรวมให้ได้ตามเกณฑ์ที่วิชายุทธ์สายมารกำหนดไว้   ถือเป็นทางเลือกที่มีเสน่ห์เย้ายวนสายดาร์คพอสมควร  เพลเยอร์ครึ่งต่อครึ่งในเซิร์ฟเวอร์ไทยตอนนี้ก็มีสายมารปะปนอยู่ไม่น้อย  เทียบกับสายธรรมมะขาวสะอาดแล้วเพียงน้อยกว่าไม่กี่ส่วน

    กลับมาที่การปะทะ ทางช้างพลายเพิ่งข่มขู่ออกไปยังไม่ทันจบดี ยี่ฟงก็แหวกฝ่าแนวหน้าเข้าประชิดพวกมันสามคนในแนวหลังได้เรียบร้อยแล้ว   กระบวนท่าทะยานฟ้าของหนึ่งในสิบฝ่ามือกำหนดฟ้าแสดงอำนาจสูงสุดสมกับเป็นวิชายุทธ์คลาสโบราณ นัยน์ตาของศัตรูทั้งสามเหล่ลงมอง  ใช่  พวกมันมีโอกาสตอบสนองต่อความรวดเร็วในระดับนี้ได้เพียงแค่การเหลือบตามองตาม  ร่างกายที่ชะงักและยังไม่ทันปักหลักมั่นคงพอ หนึ่งถูกหมัดเพลิงกระแทกทรวงอกดังพลั่กหงายหลังล้มกลิ้งไปหลายตลบ   ตามด้วยกรงเล็บเพลิงตวัดวาดกลับมาโจมตีคนที่สองจนม้วนกลิ้งไปอีกทาง พริบตาก็เหลือแต่หัวหน้ากลุ่มช้างพลายที่ยังยืนประจันหน้าอยู่ได้

    แม้มันจะตื่นตระหนกต่อผลลัพธ์สุดเลวร้าย ทว่ายี่ฟงจำต้องเสียเวลาโจมตีคนสนิทของมันถึงสองคน ย่อมทำให้ช้างพลายพอมีเวลาตั้งตัวและตอบโต้กลับมาบ้าง   ซึ่งขณะนี้ช้างพลายปล่อยหมัดคู่แฝงพลังวิชาพญายักษ์คลุ้มคลั่ง  ส่วนยี่ฟงยืนเบี่ยงข้างอยู่เล็กน้อย  การหลบหลีกไม่ง่ายอีกต่อไป  แถมหมัดคู่เปี่ยมล้นพลังปราณยังดิ่งกระแทกเข้ามากะทันหัน  ไม่ต้องพูดถึงระดับพลังวิชาในตอนนี้เพราะถ้าโดนเข้าสักทีการบุกฝ่าของยี่ฟงก็จะถูกทำลายลง กระนั้นผลปรากฏว่ายี่ฟงเคลื่อนกายหลบหลีกไปได้หน้าตาเฉย  สองตาของช้างพลายเบิกกว้าง ประสบการณ์ทำให้มันตระหนักได้ทันทีว่าศัตรูคนนี้ครอบครองวิชาตัวเบาชั้นสูงจนอาจเหนือกว่ายอดฝีมือเลเวล 60 ขึ้นไปอีกหลายระดับ

    เทพยุทธ์!?

    คำ ๆ นี้ผุดขึ้นมาในหัวช้างพลาย   ตัวมันเองเลเวล  61 ระดับวิชาตัวเบาพื้นฐานก็เข้าขั้นสูงสุดแล้วสำหรับคลาสยอดฝีมือ ทว่าเมื่อเริ่มต้นสู้กันมายังไม่ถึงหนึ่งนาที  ฝ่ายตรงข้ามจัดการคนไปแล้วห้าและตอนนี้ยังเคลื่อนที่รวดเร็วชิงความได้เปรียบเหนือกว่าตัวของมันไปได้อีกจนการโจมตีไล่ตามไม่ทัน! สุดท้ายทำให้คลื่นปราณจากหมัดคู่พญายักษ์คลุ้มคลั่งระเบิดออกดังสนั่นแต่ไม่โดนใคร  เพียงปัดเป่าอากาศสร้างกระแสลมปั่นป่วนขึ้นมาเท่านั้น

    ทางยี่ฟงอาศัยประสาทโต้ตอบขั้นสูงและท่าเท้าเมฆาซ่อนมังกรอ้อมหลบจากจุดอันตราย  ซึ่งไม่ใช่เป็นการหลบเพียงอย่างเดียว เวลานี้ยี่ฟงยืนอยู่ไม่ห่างตัวของช้างพลายเท่าไรนัก เขามุดเข้าประชิดอีกครั้งและรัวกำปั้นกระแทกใส่เป็นชุดสลับด้วยกระบวนท่าฝ่ามือถี่ยิบ ทั้งหมดยังเป็นการโจมตีด้วยเพียงกระบวนยุทธ์พื้นฐานล้วน ๆ โดยไร้พลังวิชาแอบแฝงอย่างสิ้นเชิง   ถึงแม้ตัวละครยี่ฟงจะมีเลเวลค้างอยู่ที่  57  แต่พลังกายหรือความแข็งแกร่งทัดเทียมยอดฝีมือเลเวล 60 เข้าไปแล้ว

    สาเหตุมาจากค่าพลังกายที่บวกเพิ่มอยู่ถึง 5.1%

    ซึ่งองค์ประกอบรวมทั้งหมดก็มาจากหลายสิ่ง หนึ่งคือชุดเกราะลมปราณเกล็ดอสูรคลาส D ที่ช่วยบวกพลังกาย 2%  ถัดมาคือรางวัลจากด่านประลองกำลังภายในดันเจี้ยนลับ 1% และความแข็งแกร่งที่จะเพิ่มขึ้นตามความเข้มข้นของโลหิตมังกรที่จะสูบฉีดสูงสุดได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ตามระยะเวลาการซึมซับคุณสมบัติยา ปัจจุบันอยู่ที่ 21% ช่วยบวกพลังกายอีก 2.1%

    ยี่ฟงเลือกปะทะกับอีกฝ่ายด้วยวิธีนี้เพราะตั้งใจหยั่งวัดความสามารถโดยรวมตัวละครของเขาเอง   และผลลัพธ์ออกมายอดเยี่ยมได้อย่างเหลือเชื่อจนพาให้รู้สึกคึกคักไปด้วย  ทุกการประมือสิบกระบวนท่ายี่สิบกระบวนท่า  ตอนนี้ช้างพลายที่เลเวลสูงกว่าเริ่มทนเจ็บปวดต่อไปไม่ไหว  หมัดปะทะหมัด เท้าปะทะเท้า ฝ่ายที่เจ็บปวดและเสียกระบวนหนักขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นฝ่ายช้างพลายทั้งนั้น  ขณะยี่ฟงแทบจะเฉยเมย ลุยดะกระแทกหมัดยกฝ่าเท้าเตะราวกับตนเป็นเครื่องจักรสังหารไร้ความรู้สึก แต่ก็ไม่ใช่เฉพาะพลังกายที่เข้มแข็งกว่าถึงช่วยให้เขาได้เปรียบอยู่ในตอนนี้ ยังมีสถานะร่างอมตะที่แสดงผลในระดับเลเวล 55 อีกด้วยซึ่งมันกำลังทำให้ความเจ็บปวดทั้งหมดลดทอนลง  ตัวละครยี่ฟงถึงได้ถึกทนอย่างไม่ธรรมดา

    ลูกสมุนห้าคนของช้างพลายเพิ่งลุกกลับขึ้นมาอย่างโกรธแค้นแต่ภาพที่เห็นกลับเป็นหัวหน้าของพวกตนถูกซ้อมเจ็บหนักอยู่ฝ่ายเดียว  ไม่มีโอกาสแม้แต่จะปลดปล่อยพลังวิชายุทธ์ด้วยซ้ำไป

    ยืนมองเชี่ยไรกันวะ เข้ามาช่วยกันหน่อยโว้ย!! ช้างพลายกล้ำกลืนศักดิ์ศรีเอ่ยปากเรียกขอการสนับสนุนทันที เหล่าสมุนห้าคนของมันก็ไม่อาจปฏิเสธจำต้องยื่นมือเข้ากลุ้มรุมหกต่อหนึ่ง  ระหว่างพุ่งเข้าวงในยังได้เตรียมวิชายุทธ์กันมาอย่างไม่มียางอายบ้างแล้ว  ทั้งหมัดไท่ซาน กายาแกร่งพันปี กระบี่แสงมาร

    กระนั้นทางยี่ฟงก็ไม่ได้เอารัดเอาเปรียบจนเผลอตัว  สายตายังมีเหลือบมองศัตรูอีกห้าคนอยู่ตลอดเพื่อระวังภัย และเมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนไหวชิงลงมือ   ยี่ฟงมีหรือจะอยู่เฉยรอบนเขียงให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก  ฉะนั้นเขาจึงเร่งจังหวะการโจมตีขึ้นจนถึงขีดจำกัดสูงสุด การ์ดป้องกันของช้างพลายถึงกับพังทลายไม่มีชิ้นดี  ถูกหมัดกระแทกเข้าหน้า โดนฝ่าเท้าหวดกวาดข้อพับจนลำตัวย่อลงเข่ากระแทกพื้นดินเสียงดังจนปวดร้าวสั่นสะเทือนไปจรดศีรษะ  ทว่ายี่ฟงไม่จบแค่นั้น เขาถีบเท้าทะยานถอยหลังเพิ่มระยะห่างกระทั่งรัศมีการโจมตีของพลังวิชาขุนศึกคำรามครอบคลุมกลุ่มคนทั้งหกไว้พอดิบพอดี

    ไอ้พวกงูไร้หัว!ยี่ฟงคำรามสวนกลับไป  ซึ่งถ้อยวาจากระแทกกระทั้นจิตใจนำไปก่อนแล้ว

    สิ้นเสียงกระหึ่มที่ว่าก็ปรากฏคลื่นพลังปราณทำลายล้างกระจายออกในรูปของกรวยจนกลืนกินเหล่าศิษย์พรรคพญายักษาเอาไว้ภายใต้รัศมีอันจะก่อให้เกิดค่าความเสียหายไม่มีขาดเกิน  ร่างที่คุกเข่าอยู่จนหมดความน่าเกรงขามของช้างพลายถูกคลื่นกระแทกจนร่างม้วนกลิ้งไถลไปชนลูกสมุนที่พยายามจะเข้ามาช่วย สุดท้ายพากันบาดเจ็บกลับไปทั้งกายและใจตาม ๆ กันอย่างไม่น่าดูเท่าไรนัก

    ยี่ฟงเมื่อจัดการขวากหนามบนเส้นทางได้แล้วก็ออกทะยานขึ้นหน้าผ่านไปยังเมืองหังโจวทันที  ศัตรูทั้งหกคนจะตายไม่ตายก็ไม่ได้อยู่ในแผนแต่แรก  ขอเพียงทำให้หลบไปกินดินอยู่ข้างทางและไม่ตามมาเกาะแข้งเกาะขาได้ก็พอ

    ช้างพลายเงยหน้าที่เปื้อนดินขึ้นมาก่อนใครเพื่อน สายตากวาดมองหาศัตรูตัวฉกาจ แต่ก็ต้องผิดหวังและเจ็บช้ำไปถึงทรวงเมื่อพบเห็นเงาร่างเลือนรางกำลังมุ่งไปที่ตัวเมืองนู่นแล้วทั้ง ๆ ที่พวกตนยังอยู่ตรงนี้อีกฝ่ายกลับมองไม่เห็นหัวอย่างที่ว่าไว้จริง ๆ น่ะหรือ   เรื่องนี้ไม่อาจยอมรับหรือปล่อยไปง่าย ๆ แบบนี้ได้เด็ดขาด  หน้าตาของเขาต่อลูกน้องทั้งห้าจะเก็บกู้คืนมาได้อย่างไรเล่า

    มียอดฝีมือแหกด่านเข้าไป! คาดว่าจะเป็นเรดพีเคที่พลังฝีมืออยู่ในระดับเทพยุทธ์” ช้างพลายรีบติดต่อแจ้งไปยังคนระดับสูงภายในกิลด์  พยายามอดกลั้นน้ำเสียงกับคำพูดไม่ให้เสียมารยาทออกไป

    เรดพีเค? ฮึ  ต้องโง่ขนาดไหนถึงคิดจะหนีเข้ามาในรังของพวกเรา  ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหน่วยที่สองแล้วกัน ส่วนพวกนายก็ทำตามหน้าที่ต่อไปให้ดี” ปลายสายสั่งการกลับมาอย่างไม่ใส่ใจ แต่ช้างพลายยากจะยอมรับได้อย่างทุกที  ครั้งนี้เขาเดือดมาก  ก่อนหน้านี้ก็เป็นไอ้แก่คนหนึ่งแล้วที่หลุดรอดเงื้อมมือของพวกเขาไป แต่เรดพีเคสุดห้าวคนนี้ไม่เหมือนกัน   มันย่อมไม่เกี่ยวข้องกับสามมารเฒ่า  แม้จะเก่งกว่าคนหกคนอย่างพวกตนมาก  แต่ท่ามกลางดงตีนจำนวนนับไม่ถ้วนต่อให้เป็นถึงจ้าววังจากกิลด์ใหญ่กิลด์ใดก็ต้องยอมศิโรราบกองลงดินเป็นซากด้วยกันทั้งนั้น!

    ด้วยเหตุนี้เอง  ช้างพลายมันจึงนำคนของตัวเองไล่ติดตามเป้าหมายไปอย่างไม่ใยดีต่อหน้าที่อีก

     

    บนยอดกำแพงเมือง  ภายในหอตรวจตรา

    สามมารเฒ่าสอดส่องเหตุการณ์เมื่อครู่ได้ตั้งแต่ต้นยันจบส่วนมังกรเฒ่าที่ยืนอยู่ไม่ไกลเริ่มวิตกกังวล เขาคาดไว้ไม่มีผิดว่าไอ้ตัวแสบย่อมไม่มีทางยินยอมให้ตัวเองถูกรีดไถ แต่ไม่คิดเลยว่าแม้แต่เปิดบทสนทนายังไม่มีให้เห็น มาถึงก็ซัดกันนัวราวกับอาฆาตแค้นกันมานานตั้งแต่ชาติปางก่อน พวกช้างพลายนั่นก็คงไม่ยอมเลิกราไปเท่านี้ จากท่าทางที่เห็นแล้วคงติดต่อแจ้งเรื่องให้ทางกิลด์ทราบและได้เตรียมปิดล้อมจัดการตั้งแต่ก้าวแรกที่ยี่ฟงเข้าเมืองแล้วกระมัง

    นี่พวกเอ็งจะทดสอบกันไปถึงขั้นไหน  เกิดเรื่องราวบานปลายจนกู่ไม่กลับจะไม่แย่หรือ” มังกรเฒ่าอดที่จะเอ่ยปากคัดค้านเตือนสติขึ้นมาเสียไม่ได้

    เพิ่งเริ่มต้นเองนะโว้ย  เอ็งใจเย็น ๆ แล้วเฝ้าดูไปก่อนเถอะน่ามารตะกละตอบด้วยน้ำเสียงสนุกเฮฮา

    ไอ้เด็กคนนี้แรงกว่าแกอีกว่ะ  มาถึงก็จัดหนักจัดเต็มเชียว” เฒ่าทารกกล่าวขึ้นมาบ้าง  ไม่รู้กำลังชมหรือด่าอยู่กันแน่

    เหอะ ๆ  นี่ยังไม่ได้ครึ่งของหายนะที่ไอ้ตัวแสบมันทำได้เลย ถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้ข้าไม่อยากจะจินตนาการมังกรเฒ่ากล่าวตอบตามจริง  สายตาก็จับจ้องเงาร่างของยี่ฟงไม่ไปไหน  ในใจวิงวอนขอให้เรื่องราวจบลงด้วยดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×