คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #110 : รางวัลภารกิจ
คำตอบของวาทินพอจะทำให้ภรรยาเผยยิ้มออกมาได้บ้าง
“ทางนี้ฝากคุณจัดการแล้วกันนะ เดี๋ยวฉันกลับไปรับหน้าคนอื่น ๆ ก่อน” ดารากล่าวท่าทางผ่อนคลายขึ้นมาก
วาทินเพียงพยักหน้าตอบรับและมองดูเธอก้าวเดินย้อนกลับไป ทางเขาเองก็ไม่รีรอชักช้ารีบนำบุ๊กไทป์ออกมาติดต่อไปหาบุคคลปริศนาทันที แม้วาทินกับดาราถือเป็นนักประดิษฐ์อัจฉริยะ แต่ก็เท่านั้น คนทั้งสองไม่มั่นใจสักนิดจะดูแลความปลอดภัยให้กันได้ ฉะนั้นไม่แปลกที่พวกเขาจะมีนักสู้คอยคุ้มกันสนับสนุนให้อยู่ในเงามืด ผลงานประดิษฐ์ต่าง ๆ
ที่สมบูรณ์แบบล้วนไม่อาจประเมินค่า
วาทินกับดาราจึงมักตกเป็นเป้าโจมตีของเหล่าอาชญากรเป็นระยะ
บอดี้การ์ดธรรมดาที่ถูกส่งมาคุ้มกันคนทั้งสองก็เพื่อการนี้ ทว่าหากต้องเผชิญกับอำนาจมืดที่อันตรายมากกว่า วาทินกับดาราจึงไม่อาจเชื่อมั่นในบอดี้การ์ดทั่วไปเพียงไม่กี่คนได้อีก และยิ่งเป็นงานที่ไม่สามารถกระทำได้ในที่แจ้ง บัดนี้จึงเหลือแต่ต้องพึ่งพาสายลับที่ไว้ใจพอจะฝากฝังงานเสี่ยง
ๆ ได้เท่านั้น
เนื่องจากวาทินกดตัวเลขพิเศษเฉพาะ อีกฝ่ายที่ตอบรับสายจึงเข้าใจจุดประสงค์ได้ทันที ภายในจอดิจิตอลบางเฉียบปรากฏชายหนุ่มอายุประมาณ
28-29
หน้าตาแม้ไม่หล่อแต่ก็ไม่ได้แย่
แววตากับสีหน้าเรียบเฉยไม่อาจบ่งบอกว่าเย็นชา มันเหมาะกับคำว่าว่างเปล่าเสียมากกว่า นี่คงนับเป็นเอกลักษณ์ใช้ดึงดูดเพศตรงข้ามกลุ่มหนึ่งให้สนใจในตัวเขาได้อยู่บ้าง
“ท่านวาทินอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตหรือเปล่าครับ?” ชายหนุ่มยิงตรงเข้าประเด็น น้ำเสียงไร้อารมณ์ ไม่มีการเรียกร้องกล่าวถึงสัญญาที่วาทินเคยให้ไว้แต่อย่างใด
“เฮอ ตอนนี้ยังหรอก ว่าแต่นายไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ นะ ฉันอุตส่าห์สั่งสอนดูแลหวังให้นายเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง เส้นทางชีวิตที่นายเลือกฉันไม่เคยคัดค้าน
แต่พอมาเห็นตัวตนของนายตอนนี้ฉันดันรู้สึกเสียใจมากที่ไม่ห้ามปรามแต่แรก” วาทินเก็บเรื่องของตัวเองไว้ก่อน สิ่งที่เขากำลังพูดถึงอยู่คือจิตใจเย็นชาว่างเปล่าของบุรุษคนนี้กับความรู้สึกผิดอันนำมาซึ่งอารมณ์หน่วง
ๆ ชวนโศกเศร้า วาทินสบตาไอ้หนูที่เขาคอยให้การสนับสนุนมาตลอดอย่างจริงจังกล่าวต่อไปว่า “ฉันขอโทษที่ผิดสัญญา เป็นเพราะฉันกับดาราประมาทถึงได้มาจบลงในแบบที่ไม่เคยต้องการ”
“ท่านไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกครับ ผมตัดสินใจรับใช้ท่านทั้งสองถึงได้เลือกเส้นทางนี้ สัญญาของท่านเองก็คงอยู่มาเกือบห้าปีแล้ว ตัวผมพักผ่อนมานานเกินไปแล้วล่ะครับ เชิญท่านวาทินสั่งงานใหม่มาได้เลย” ชายหนุ่มที่ฟังอยู่เงียบ ๆ มาสักพักพลันตอบกลับด้วยสีหน้าท่าทางสงบนิ่ง ไม่มีสั่นคลอนไปกับคำกล่าวทั้งหมดของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
วาทินแสดงความเสียใจผ่านสีหน้าอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็บอกเล่าเรื่องราวที่กำลังผูกเป็นปมปัญหาให้สายลับผู้นี้ฟัง ภัยเงียบที่ไม่อาจนิ่งเฉยปล่อยผ่านไปได้ ทั้งหมดถูกร้อยเรียงเป็นข้อมูลมอบให้แก่สายลับอย่างครบถ้วนไม่มีตกหล่น กระทั่งวาทินอดที่จะกล่าวเสริมขึ้นอีกเล็กน้อยไม่ได้ว่า “ครั้งนี้เสี่ยงอันตรายมาก ฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่บุคคลธรรมดาสักนิดเดียว เส้นสายพรรคพวกของวีระกับสินทองต่างโยงใยเต็มไปด้วยผู้ทรงอิทธิพลเกือบทุกด้าน ถ้าเป็นไปได้ช่วยส่งคนไปเฝ้าลูกชายของฉันเป็นการลับให้สักหน่อยป้องกันเผื่อไว้ก่อนก็ดีเหมือนกัน”
“ผมเข้าใจครับท่าน จะจัดการให้เดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มตอบกลับทันทีเช่นเคย และคิดจะตัดการติดต่อเพื่อไปเริ่มงานที่ได้รับมอบหมายโดยไม่มีการทักทายดังเช่นที่คนรู้จักเขากระทำกันออกมาให้เห็น ถึงอย่างไรก็ควรมีบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ใช่แสดงเหมือนหุ่นยนต์ที่รอรับคำสั่งและปฏิบัติตามเพียงอย่างเดียวแบบนี้ วาทินทอดถอนหายใจและเป็นฝ่ายรีบเอ่ยเรียกรั้งเอาไว้ก่อน
“จำไว้ว่าคำสั่งของฉันต้องปฏิบัติและลงมืออย่างเด็ดขาด ห้ามลังเลใด ๆ ต่อให้เป็นคำสั่งที่ต้องทิ้งฉันไว้กับศัตรูเบื้องหลังก็ตาม เข้าใจใช่ไหมไอ้หนูตุลา?”
“…”
ครั้งนี้ชายหนุ่มพลันเงียบงันไป
แต่ก็เพียงอึดใจเดียวเท่านั้น “ผมเข้าใจดีครับท่าน”
“ดีมากไอ้หนู พบเจออะไรผิดสังเกตก็ติดต่อกลับมาได้ทุกเมื่อ” วาทินกล่าวทิ้งท้ายก่อนการติดต่อจะสิ้นสุดลง
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสายลับ วาทินทำได้เพียงเชื่อใจและอดทนรอให้ตุลาแทรกซึมเข้ามาเพื่อช่วยเหลืออยู่ในเงามืดเท่านั้น ย่อมไม่มีการติดต่อกันอีกในเร็ว ๆ นี้แน่นอน ก็จนกว่าจะมีความคืบหน้าอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้น
นายวาดสะดุ้งเล็กน้อยขณะกำลังนอนคิดอะไรเพลิน
ๆ ไม่ไกลนักเสียงเตือนจากสายรัดศีรษะดังรบกวนไม่เลิกจนเขาต้องเอื้อมไปหยิบมากดตกลงอะไรสักอย่างอยู่สองสามทีถึงค่อยเงียบลงจากนั้นย่อมไม่มีรอช้ารีบสวมมันไว้กับศีรษะเพื่อใช้ออนไลน์เข้าเกมตามความตั้งใจเดิมทันที
ซ่า!
ภายในเกมตอนนี้ปรากฏเสียงดังอื้ออึงจากเม็ดฝนที่กระหน่ำเทลงมาไม่หยุด ความชุ่มชื้นได้แผ่ขยายออกไปทุกหย่อมหญ้า สัมผัสอากาศเย็นสบายชวนให้รู้สึกง่วงครอบคลุมไปในหมู่เพลเยอร์อย่างสมจริงจนน่ากลัว ตัวละครยี่ฟงโผล่มาในตำแหน่งเดิมคือห้องลับภายในอาคารนักผจญภัยแห่งเมืองดาบมังกร ปัจจุบันมีเขาอยู่คนเดียว ส่วนกลุ่มของตนจากที่ตรวจสอบดูบนลิสรายชื่อเพื่อนของระบบแล้วทำให้ทราบว่า มังกรเฒ่าอยู่ห่างออกไปยังเมืองหังโจวซึ่งไม่ไกลนัก สามพี่เลี้ยงเก้า สิบลี้และสองกำลังไล่ทำภารกิจหลักให้วังฟีนิกซ์เยือกแข็งที่พวกตนสังกัด สุดท้ายคือกลุ่มของเหนือฟ้าซึ่งยังไม่มีใครออนไลน์เลย
คงเพราะตัวเกมเพิ่งจะอัปเดตแพตช์เสริมแล้วเสร็จเพียงไม่นาน เพลเยอร์จึงกำลังค่อย ๆ ทยอยกลับเข้ามาในเกมตามวาระที่แต่ละคนสะดวก
“ท่านยี่ฟง ข้าได้เตรียมน้ำแกงผสมสูตรยาสมุนไพรไว้แก่ท่าน โปรดเชิญลิ้มลองเจ้าค่ะ” เพียงเพิ่งออนไลน์ไม่ถึงนาที หญิงสาวนามมู่ฟางเหลียนฮวาก็สืบเท้าก้าวเดินใกล้เข้ามาหาแล้ว ฝีเท้าของนางแผ่วเบานุ่มนวลอย่างที่สุด ยิ่งสภาพรอบข้างเวลานี้คลอเคล้าไปด้วยเสียงสายฝนโปรยปราย ยิ่งช่วยขับเน้นให้รู้สึกว่าอีกฝ่ายมิใช่กำลังเยื้องย่างเช่นปุถุชนแต่เป็นการล่องลอยอยู่เหนือพื้นราวเทพยดาเสียมากกว่า
หลังจากช่วยเหลือมารดาของนางกลับมาได้จริง ยี่ฟงนอกจากสามรถใช้สอยห้องลับแห่งนี้ได้ตามใจ ก็ยังทราบถึงนามแท้จริงของหญิงสาวตรงหน้าอีกด้วย แต่ดูเหมือนว่ารางวัลจากการสำเร็จภารกิจจะยังไม่หมดเท่านี้ ล่าสุดเห็น จะเป็นการที่มู่ฟางเหลียนฮวาปรนนิบัติรับใช้ต่อชายหนุ่มดุจภรรยาที่ดีไปเสียแล้ว ยี่ฟงบัดนี้อาศัยพักที่อาคารของนักผจญภัยแทนโรงเตี๊ยมทั่วไปได้ ท้องหิวก็ยังอาศัยกินฟรีได้ที่นี่อีกเช่นเดียวกัน
“สูตรยาสมุนไพรหรือ…บอกได้เปล่าว่ามันเป็นสูตรยาแบบใด” ยี่ฟงทดสอบถามดู ในเมื่อนางยกให้เขาสูงส่งเพียงนี้ย่อมต้องรีดเร้นประโยชน์ทั้งหมดเท่าที่ระบบจะเอื้ออำนวยแล้ว…
และมู่ฟางเหลียนฮวาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นางตอบคำถามทันทีโดยไม่เสียเวลาคิด “บดกระดูกพยัคฆ์กับก้านของต้นหญ้าแดงลงในน้ำที่ต้มเดือดแล้วเจ้าค่ะ หากท่านสนใจข้าถ่ายทอดให้ได้”
“ก็ดีสิ ข้าขอชมตอนนี้เลย” ยี่ฟงเรียกร้องอย่างหน้าไม่อาย
เมื่อมู่ฟางเหลียนฮวาหยิบยื่นตำราฉบับหนึ่งให้ชายหนุ่ม เสียงระบบก็แจ้งทันทีว่า “เพลเยอร์ยี่ฟงได้รับตำราปรุงยาเสริมกำลังระดับ
1 : น้ำแกงก้านกระดูก”
‘เหอะ
ๆ ไม่คิดว่าจะกากขนาดนี้’ ยี่ฟงลอบก่นด่าระบบเกมในใจ แต่ภายนอกแสดงตรงกันข้าม เขายิ้มขอบคุณหญิงสาวและซดน้ำแกงก้านกระดูกที่นางนำมามอบให้ จากนั้นเริ่มสัมผัสได้ถึงพละกำลังที่เพิ่มขึ้นมานิดหน่อย เรียกว่าน้อยนิดจนแทบไม่ส่งผลใด ๆ เลยจะดีกว่า แต่ถ้าในด้านของสรรพคุณเสริมล่ะก็ มันช่วยให้ร่างกายของยี่ฟงอบอุ่นขึ้นมาก ในช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็นอย่างในตอนนี้นับว่ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง
“ฟางเหลียนฮวา
ที่เมืองนี้ร้านเกี่ยวกับยาสมุนไพรตั้งอยู่ตรงไหนเจ้ารู้หรือเปล่า” เป็นเพราะหญิงสาวจึงช่วยให้ยี่ฟงตระหนักได้ถึงตำราสมุนไพรที่เขาเก็บมาจากใต้มหานครฉางอาน มันเป็นตำราเก่าแก่หนึ่งพันกว่าหน้ากระดาษ
ครั้งก่อนที่เขาเกือบสิ้นท่าเพราะกับดักค่ายกลนรกแตก สาเหตุหลัก ๆ ก็มาจากความยุ่งเหยิงภายในตารำสมุนไพรที่ว่านี้เอง มันไม่ได้จัดเรียงใด ๆ ทั้งสิ้น สมุนไพรนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายมั่วซั่วไปหมดทำให้ยากจะศึกษาได้อย่างเป็นระบบ
“แน่นอนข้ารู้ หอสมุนไพรเตี๋ยเทียนอยู่ห่างจากที่นี่ไปไม่ถึงยี่สิบก้าวเท่านั้น” หญิงสาวตอบ นางให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยยี่ฟงก็รู้แจ้งถึงตำแหน่งอันชัดเจน
หลังซดน้ำแกงก้านกระดูกจนหมด ยี่ฟงก็วางถ้วยลงพร้อมลุกขึ้นกล่าวว่า “ข้าต้องไปที่เตี๋ยเทียนนั่นสักหน่อย ขอบใจเจ้ามาก”
ยี่ฟงไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก กล่าวจบก็เดินจากมาทันที ท่ามกลางสายฝนปรากฏเพลเยอร์จำนวนหนึ่งเดินขวักไขว่ ยี่ฟงย่อมไม่ลืมที่จะต้องสวมหน้ากากอำพรางค่าหัวของตนไว้ ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจเมฆฝน เปียกก็เปียก ต่างเดินจังก้าอยู่บนถนนหนทาง เห็นดังนั้นยี่ฟงก็ทำบ้าง เขาไม่ได้รีบร้อนอะไรจึงสอดส่ายพินิจทั้งซ้ายขวาเพื่อสังเกตดูว่าเพลเยอร์จัดการกับร่างกายและเสื้อผ้าที่เปียกแฉะของตนกันด้วยวิธีใด ปรากฏว่าพวกเขาหลบเข้าใต้หลังคาของตัวตึกข้างทางพร้อมเร่งเร้าพลังลมปราณขึ้นมาจนเกิดเป็นไอลอยฟุ้งราวน้ำเดือด ยี่ฟงกระจ่างแล้วจึงเร่งฝีเท้าตรงไปยังหอสมุนไพรเตี๋ยเทียนมากขึ้น จากตำแหน่งปัจจุบันของเขาก็สามารถมองเห็นยอดหอที่ว่าได้ไม่น้อยเช่นกัน มันสูงห้าชั้น
หลังคาโค้งสวยงามแบบจีนเก่าแก่
ยี่ฟงคาดหวังไว้ว่าเขาจะสามารถทำอะไรบางอย่างกับตำราสมุนไพรยุ่งเหยิงในครอบครองได้บ้าง
อีกประการหนึ่ง เขาไม่ลืมว่าภายในคลังไอเท็มของตนยังมีรากชีพจรด่านกษัตริย์อยู่ด้วย มันคือหนึ่งในรางวัลที่เขาได้มาจากใต้มหานครฉางอานเหมือน ๆ กัน ไม่ทราบมีประโยชน์อย่างไร ฉะนั้นหอสมุนไพรเตี๋ยเทียนย่อมเป็นสถานที่ที่จะตอบคำถามค้างคาใจให้แก่เขาได้อย่างดีที่สุดในตอนนี้แล้ว
_________________
อาจจะมีหยุดเว้นบ้างอาทิตย์ละครั้งนะครับ
ความคิดเห็น