คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : วุ่นวาย
“พี่สองคนอย่าคิดมากเลยค่ะ พวกเราไม่ใช่เพิ่งรู้จักกันในเกมแต่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว” มุกกล่าวด้วยรอยยิ้มแห้งและรีบหันไปทางมังกรเฒ่าเพื่อเปลี่ยนเรื่องโดยการแนะนำตัวเอง “หนูชื่อในเกมว่ามุกทิวานะคะ ลุงจะเรียกว่ามุกเฉย ๆ ก็ได้”
“แล้วก็ผู้หญิงเมื่อกี้ชื่อในเกมว่าหยกราตรี ส่วนพี่สองคนทางนี้” มุกทิวาผายมือไปยังคู่หูนรก “พี่จอมทัพกระบี่ดำ และพี่ขุนพลทะเลเพลิงค่ะ”
มังกรเฒ่าพยักหน้ารับรู้และแนะนำตัวเองกลับไปตามมารยาท
ขณะเดียวกันภายในเต็นท์ของเหนือฟ้า
หยกราตรีคลานเข้าประชิดร่างที่นอนตะแคงอยู่ภายใต้ผ้าผืนบาง เธอไม่ทันได้พินิจสิ่งใดนักและใบหน้าของชายหนุ่มก็ยังได้รับการปิดบังไว้ด้วยผ้าอยู่เช่นกัน
“ตื่นได้แล้วจ้ะยัยคุณหนูจอมขี้เกียจ” หญิงสาวกล่าวประชดแกมหยอกล้อ เมื่ออีกฝ่ายยังนิ่งงันไม่ตอบสนอง เธอจึงใช้วิธีการปลุกในแบบฉบับเพื่อนสนิท
“หมับเข้าให้! โธ่แย่จัง ตัวละครชายมันไม่มีหน้าอกอะ ฮิฮิ”
หยกราตรีทรุดร่างลงไปโอบยี่ฟงเอาไว้ แถมฝ่ามือของเธอยังลูบไล้ซุกซนอยู่บริเวณทรวงอกชายหนุ่มอีกต่างหาก กระทั่งหญิงสาวรู้สึกว่าสัดส่วนมันไม่ใช่ ‘ใคร!?’
“หมอนข้างจ๋า” ยี่ฟงพึมพำออกมาพร้อมหมุนตัวเข้าหาหยกราตรี จากนั้นค่อยใช้ฝ่ามือโอบศีรษะหญิงสาวแนบไปยังทรวงอกตัวเอง
“ว้ายยย!!”
หยกราตรีแตกตื่นตระหนก แม้พยายามดิ้นและผลักอีกฝ่ายสุดแรงก็ยังไม่สามารถกระทำได้ จะอย่างไรเธอก็สู้แรงของยอดฝีมือไม่ไหวด้วยเพียงเลเวลแค่
19
เสียงกรี๊ดของหยกราตรีดังลั่น คนที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากเต็นท์ของเหนือฟ้าเองก็ตกใจพากันลุกขึ้นยืน คนที่ออกตัวแรงย่อมไม่พ้นเป็นจอมทัพกระบี่ดำ ตามติดมาด้วยมุกทิวา แต่ในจังหวะที่คนทั้งสองวิ่งไปเกือบจะถึงนั้นก็พลันปรากฏร่างของเหนือฟ้าโผล่มาจากในป่าพอดีด้วยสีหน้าซีดเผือด
“เหนือฟ้า! แกไม่ได้อยู่ในเต็นท์!?” จอมทัพกระบี่ดำอุทานสีหน้าสับสน ขณะที่ด้านของมังกรเฒ่าคล้ายกระจ่างแจ้งขึ้นมาแทบจะทันทีว่าไอ้ตัวแสบที่แท้หายหัวไปไหน
“หยกเข้าไปปลุกนาย” มุกทิวากล่าวสรุปสั้น ๆ ให้เพื่อนของตนทราบ
เหนือฟ้าถึงกับกุมขมับก่อนจะรีบเอ่ยปิดใช้งานเต็นท์ หลังจากนั้นร่างของชายหญิงในสภาพโอบกอดกันกลมก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็นเบื้องหน้า
“ช่วยฉันด้วย!!”
หยกราตรีร้องขอความช่วยเหลือ
“ไอ้ตัวแสบ! นี่เอ็งหลับหรือตายกันแน่วะ” มังกรเฒ่าคิดจะเข้าไปแยกทว่าจอมทัพกระบี่ดำชิงพุ่งเข้าไปเสียก่อน มันเลือดขึ้นหน้า พอเข้าประชิดได้ก็เตะอัดเข้าที่แผ่นหลังของยี่ฟงสุดแรงเกิด
“ไอ้ระยำ ปล่อยเธอนะโว้ย!”
จอมทัพกระบี่ดำเตะใส่ไปสองที ตัวมันเลเวล 21 จึงมั่นใจมากว่าจะสามารถส่งเพลเยอร์ในชุดเริ่มต้นกลับไปเกิดใหม่ได้ง่าย ๆ แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นเช่นนั้น ความเสียหายที่ได้รับเพียงทำให้ยี่ฟงสะดุ้งตัวลุกขึ้นนั่งในสภาพตื่นเต็มตาเท่านั้น
“อะไรวะ
คนจะนอนโว้ย!” ยี่ฟงตะโกนสวนกลับไปสีหน้าไม่พอใจมาก
หยกราตรีเมื่อหลุดจากพันธนาการแล้วจึงรีบตะเกียกตะกายลุกหนีเข้าไปกอดแขนมุกทิวาไว้ ส่วนจอมทัพกระบี่ดำสีหน้าเอาเรื่อง มันถึงกับนำกระบี่ออกมาฟันใส่อย่างกะทันหัน แกร๊ง! แต่มังกรเฒ่าที่ระวังอยู่ก่อนพลันพุ่งเข้ามาขวางกระบี่ต้านรับเอาไว้ได้ทันฉิวเฉียด
“ใจเย็นไอ้หนุ่ม! เรื่องเข้าใจผิดแค่นี้จะให้หลั่งเลือดกันเลยเรอะ”
ความจริงแล้วชายแก่ไม่ได้ห่วงยี่ฟงนัก เขาเพียงกันไม่ให้ฝ่ายจอมทัพกระบี่ดำเจ็บตัวเสียมากกว่า
“ฉันผิดเอง
หยุดอาละวาดได้แล้วจอมทัพ!” กระทั่งเป็นเหนือฟ้าที่เข้ามาตวัดกระบี่แยกคนทั้งสองออกจากกัน
“แกก็เห็นอยู่ว่าไอ้เวรนั่นมันลวนลามน้องหยก”
ขุนพลทะเลเพลิงสนับสนุนคู่หูตัวเอง เหนือฟ้าจึงชำเลืองสายตาไปมองพลางสวนกลับไปว่า
“ถ้างั้นทำไมระบบป้องกันถึงไม่แบนเขาล่ะ!?” เหนือฟ้ากวาดสายตาไปทั่วและอธิบายเพิ่มเติมว่า “นั่นเพราะยี่ฟงแค่ละเมอ หากเขาคิดที่จะลวนลามจริงล่ะก็ ระบบของเกมนี้ไม่มีทางปล่อยผ่านแน่นอน”
ได้ฟังแล้วทุกคนจึงเพิ่งสำนึกได้ แต่จอมทัพกระบี่ดำและขุนพลทะเลเพลิงคล้ายเสียหน้าจึงไม่คิดจะยอมง่าย
ๆ
“แล้วมันไปอยู่ในเต็นท์ของแกได้ไง”
“เออ
แกนอนกับมันเมื่อคืนรึไงวะ!?”
คู่หูนรกหนุนเสริมกันอย่างทุกทีจนเหนือฟ้ารู้สึกอ่อนใจเลยเผลอตอบไปว่า
“ใช่ เขายังไม่มีเต็นท์ของตัวเอง ฉันจึงให้เขานอนด้วยเป็นการทดแทนบุญคุณที่ได้เขาช่วยชีวิตไว้”
มุกทิวากับหยกราตรีตาโต เหนือฟ้าที่เหลือบไปเห็นจำต้องเผยยิ้มแห้ง ใบหน้าแดงก่ำอีกครั้ง โชคดีที่คู่หูนรกมันไม่ทันได้สังเกตเห็น แต่เปลี่ยนไปจับจ้องอยู่ที่ยี่ฟงแทน
“ไอ้กากชุดเริ่มต้นเนี่ยนะช่วยชีวิตแก!?” จอมทัพกระบี่ดำถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
“น้อย ๆ หน่อยโว้ย มันเดินทางมากับข้าก็เหมือนเอ็งด่าข้าไปด้วย” มังกรเฒ่าเอ่ยปากอย่างไม่ชอบใจ
“ถ้าไม่ใช่ไอ้กากก็อย่าร้อนตัวสิวะ!”
เหตุการณ์ดูเหมือนจะไปกันใหญ่ แต่ตัวต้นเรื่องกลับยืนหาวหวอด ๆ ไม่สนโลกเสียอย่างนั้น เหนือฟ้ารีบตั้งสติและออกตัวแทนด้วยการประกาศน้ำเสียงหนักแน่นขึ้นว่า
“พวกเขาสองคนจะร่วมเดินทางไปกับกลุ่มของเราด้วย เพราะงั้นก็เลิกหาเรื่องกันได้แล้ว ส่วนใครไม่พอใจก็แยกกลุ่มออกไปได้เลย”
“ไอ้กากแบบนี้อะนะ มันจะช่วยอะไรได้นอกจากไปเป็นภาระเปล่า ๆ”
ขุนพลทะเลเพลิงคล้ายไม่ชอบใจยิ่งกว่าเดิม
“ตามที่บอก
ถ้าไม่พอใจเชิญออกกลุ่มได้เลย”
เหนือฟ้าย้ำด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
คู่หูนรกขบกรามแน่นอย่างโกรธเคืองแต่ก็ไม่อาจทำอย่างไรได้
“ฉันขอโทษทีแล้วกัน หากทำอะไรผิดไป”
ยี่ฟงหันไปกล่าวยอมรับผิดทางสองสาว เมื่อเห็นว่าจบเรื่องแล้วชายหนุ่มจึงหันกลับมาถามมังกรเฒ่าขึ้นว่า “ว่าแต่มีอะไรกินไหมลุง ฉันรู้สึกหิวจะแย่แล้ว”
ชายแก่ละสายตาออกจากคู่หูนรกกลับมามองยี่ฟงพลางคิ้วกระตุก “เห็นข้าเป็นคนรับใช้เอ็งรึไงวะ”
“ก็ฉันไม่มีอะไรติดตัวมาเลยอะลุง ตอนนี้ลุงเป็นที่พึ่งคนเดียวสำหรับฉัน” เห็นท่าทางอ้อนของยี่ฟงแล้วเหนือฟ้าก็ต้องเผลออมยิ้มโดยไม่ทันสังเกตเลยว่าเพื่อนสาวทั้งสองกำลังเหลือบมองอยู่
“นายมาแบ่งอาหารจากฉันไปก็ได้นะ” เหนือฟ้าหยิบยื่นไมตรีให้ด้วยความจริงใจ
“นี่สิถึงจะเรียกว่าเป็นการทดแทนบุญคุณกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ตอนนี้ฉันชอบนายมากกว่าลุงอีก
เหนือฟ้า” ยี่ฟงเดินเข้าไปเนียนคล้องคออีกฝ่ายเอาไว้ราวกับสนิทกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน เหนือฟ้าได้แต่ตัวแข็งทื่อให้ยี่ฟงลากเดินไปอย่างเก้
ๆ กัง ๆ
“ก็แค่ปลิงเกาะไปเรื่อย ไอ้กากเอ๊ย”
จอมทัพกระบี่ดำพึมพำเสียงเบา
“ปล่อยมันไปก่อนเพื่อน มันอวดดีได้ไม่นานหรอก” ขุนพลทะเลเพลิงกระซิบด้วยสีหน้าชั่วร้าย
ทุกคนยกเว้นคู่หูนรกไปนั่งรวมกันหน้ากองไฟเพื่อกินข้าวเช้า เมื่อยี่ฟงได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว ส่วนหยกราตรีแม้จะทราบว่าชายหนุ่มไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินเธอก็ตาม แต่เธอก็ไม่ค่อยชอบบุคคลประเภทที่เกาะคนอื่นหวังผลประโยชน์ไปเรื่อยอยู่ดี มุกทิวาที่นั่งข้าง ๆ กันก็ได้แต่ห้ามปรามเป็นมารยาท ความจริงแล้วเธอก็ไม่ชอบขี้หน้ายี่ฟงอยู่เหมือนกัน
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จทุกคนก็แยกย้ายไปเตรียมตัวสำหรับการเดินทาง สองสาวไม่พลาดที่จะลากเหนือฟ้าหลบไปที่ลับตา
“นี่
ทำไมยอมให้ไอ้บ้านั่นนอนกับเธอได้”
หยกราตรีชิงถามขึ้นก่อน
“ยัยหยก!
เธออย่าพูดอะไรสองแง่สองง่ามจะได้ไหม” เหนือฟ้าเอ่ยด้วยความเขินอาย “อีกอย่างเธอลืมไปแล้วรึไง ตอนนี้ตัวละครฉันเป็นเพศชาย ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกน่า”
“ฉันล่ะอยากจะให้พี่สาวกับพ่อเธอรู้เรื่องจริง
ๆ ดูสิว่าพวกเขาจะเข้าใจง่าย ๆ
ได้อย่างที่เธอว่ารึเปล่า”
เหนือฟ้าหน้าซีดรีบโบกมือหย็อย ๆ กล่าวว่า
“พวกเธอเป็นเพื่อนรักฉันนะ! ช่วยปิดไว้เป็นความลับอย่าไปบอกพี่สาวกับพ่อฉันล่ะ ไม่งั้นฉันตายแน่ ๆ”
ทั้งสามคนพลันได้ยินเสียงเรียกของมังกรเฒ่าขัดขึ้นมา ดูเหมือนทุกคนจะพร้อมเดินทางกันแล้ว หยกราตรีกับมุกทิวาจึงเพียงพยักหน้าเป็นการให้สัญญาแก่เหนือฟ้าก่อนจะพากันเดินกลับไปรวมกลุ่มอีกครั้ง
การเดินทางสู่อาณาเขตป่ากลืนวิญญาณในวันที่สองจึงได้เริ่มต้นภายใต้ความวุ่นวายเฉกเช่นนี้
ยี่ฟงเนียนเดินอยู่กลางกลุ่มเพราะไม่อยากออกแรงในช่วงที่อากาศดี หยกราตรีสังเกตเห็นจึงแดกดันขึ้นว่า
“ยี่ฟง
นายช่วยอะไรได้บ้าง”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วก่อนจะตอบกลับไปยิ้ม ๆ อย่างไม่ถือสา
“ใคร ๆ ก็ยกให้ฉันเป็นเทพด้านกลยุทธ์
งั้นฉันขอเป็นเสนาธิการให้กลุ่มนี้ชั่วคราวแล้วกัน”
“ภารกิจครั้งนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน ฉันไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีเสนาธิการเลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หยกราตรี เธอต้องคิดให้มากกว่านี้” คำกล่าวของยี่ฟงทำให้หญิงสาวใช้สายตาดุ
ๆ จ้องกลับมา
“น้องหยกอย่าไปสนใจมันเลย เดี๋ยวเข้าเขตอันตรายแล้วมันก็จะสำนึกเอง”
จอมทัพกระบี่ดำไม่วายข่มขู่กดดันยี่ฟง
เหนือฟ้าที่เดินนำอยู่ด้านหน้าสุดได้แต่ส่ายศีรษะเบื่อหน่าย กระทั่งคนทั้งเจ็ดเดินมาจนสุดปลายของเส้นทางสัญจรหลัก ล้ำออกไปเบื้องหน้าล้วนกลับกลายเป็นพื้นที่ป่ารกชัฏ
“เรามาถึงชั้นนอกของอาณาเขตป่ากลืนวิญญาณแล้ว จากนี้ขอให้ทุกคนระวังตัวทุกฝีก้าวด้วย”
ทุกคนยกเว้นคู่หูนรกต่างพยักหน้าตอบรับคำเตือนของเหนือฟ้า ทว่าทันทีที่พวกเขาก้าวเดินอีกครั้งก็พลันปรากฏเพลเยอร์อีกกลุ่มพุ่งเข้ามาโจมตีกะทันหันจากทุกทิศทาง พวกมันมีจำนวน 10 คน มากกว่าพวกเขาอยู่เล็กน้อย
“ตาย!! ไอ้พวกเวรจากวังฟีนิกซ์เยือกแข็งนิรันดร์” หนึ่งในศัตรูตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
เหนือฟ้าและสองสาวสีหน้ากลับกลายเป็นเครียดขึ้ง
“ศิษย์จากวังจักรพรรดิ!? แม้แต่เขตจงหยางพวกมันก็ไม่เว้นหรือเนี่ย” เหนือฟ้าอุทานออกมาเสียงเครียด
“ทุกคนหันหลังชนกัน อย่าแตกกลุ่มออกไปเชียว!” มังกรเฒ่าซึ่งมีสติมากที่สุดเอ่ยสั่งการ
ส่วนยี่ฟงกำลังช็อก ในหัวเขาประมวลผลเร็วมากจนเมื่อได้คำตอบแล้วถึงกับต้องกุมขมับ
‘นี่ฉันผิดพลาดตรงไหนถึงได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับสงครามของกิลด์ใหญ่รวดเร็วแบบนี้วะเนี่ย!!’
ความคิดเห็น