I Give My First Love to You Review - I Give My First Love to You Review นิยาย I Give My First Love to You Review : Dek-D.com - Writer

    I Give My First Love to You Review

    บทสัมภาษณ์นักแสดง เรืองI Give My First Love to You

    ผู้เข้าชมรวม

    1,160

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.15K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 ม.ค. 53 / 00:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       I’ll give My First Love to you 




       สัมภาษณ์ มาโอะ อิโนะอุเอะ (รับบทเป็น มายุ ทาเนดะ)
       

      บทบาทของคุณคือผู้หญิงที่ต้องเติบโตขึ้นกับผู้ชาย ซึ่งรับบทโดย มาซากิ ดังนั้นคุณก็ต้องมีความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับเขา คุณสร้างสิ่งนั้นขึ้นมาได้อย่างไร

      เป็นเรื่องที่ลำบากในการสร้างมันขึ้นมาค่ะ ฉันเป็นคนขี้อาย ถึงแม้ว่าบุคลิกของตัวเองอาจดูไม่เหมือนคนแบบนั้น แต่มันก็กลายเป็นว่า มาซากิ เองก็มีบุคคลิกขี้อายเช่นกัน ดังนั้นการหาสิ่งที่ชอบเหมือนกัน หรือความสนใจแบบเดียวกัน น่าจะเป็นวิธีที่ทำให้เราทั้งคู่รู้จักกันมากขึ้น พวกเราถามผลัดกันถามคำถาม

      แต่สุดท้ายก็มารู้ว่าเราทั้งคู่แทบไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย (หัวเราะ) กลายเป็นว่าสิ่งเดียวที่เราเหมือนกันคือการเลี้ยงสุนัข และมือถือรุ่นเดียวกัน แต่ฉันคิดว่ามันเป็นวิธีการที่ดีนะ มันดีที่พวกเรามีการพูดคุยกันก่อน ฉันพยายามทำความรู้จักเขา และนั้นก็เป็นวิธีเดียวที่ฉันคิดออก (หัวเราะ)

                คุณคิดว่าตัวละครอย่าง ทาคุมะ เป็นคนอย่างไร
      ฉันมั่นใจว่าผู้หญิงหลายคนจะต้องตกหลุมรักผู้ชายอย่าง ทาคุมะ เขาอาจดูเหมือนผู้ชายที่สมบูรณ์แบบจนไม่น่าไว้วางใจ แต่จริงๆแล้วเขาก็เป็นคนที่มีเลือดเนื้อ เขาเป็นเผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายคนรวมถึงฉันด้วย หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะในฉากที่เขาเข้ามาในหอพักหญิง และฉากในห้องพยาบาลของโรงเรียน

      ช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็คือตอนที่พวกเราถ่ายทำฉากนั่งบนม้านั่ง ด้วยความที่หนังเรื่องนี้มีฉากน่าหดหู่เกี่ยวกับความอาการเจ็บป่วย แต่ในช่วงเวลานี้ที่ทำให้ มาซากิ และฉันกลายเป็นเพื่อนที่ดีแก่กันและกัน และทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองสามารถมีความสุขกับการถ่ายทำได้ ถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะหนาวแค่ไหนก็ตาม

                คุณคิดยังไงกับภาพยนตร์เรื่องนี้
      ส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าตัวเองจะต้องไปดูอีกรอบวันพรุ่งนี้ (หัวเราะ) เพราะครั้งแรกที่ดู ฉันมัวกังวลถึงฉากที่ฉันรู้สึกไม่แน่ใจระหว่างการถ่ายทำ ซึ่งทำให้ฉันไม่ได้ดูหนังในฐานะผู้ชมอย่างที่ควรเป็น อย่างไรก็ตามทีมงานบางคนดูเหมือนจะร้องไห้ และคนที่ได้ดูแล้วก็ต่างบอกฉันว่ามันดีมาก ฉันรู้สึกดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น ฉันจึงอยากให้ทุกคนรู้สึกเคลื่อนไหวไปกับเนื้อหาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

                


      สัมภาษณ์ มาซากิ โอคาดะ (รับบทเป็น ทาคุมะ คาคิโนอุชิ)  
                

      คุณคิดว่าบทภาพยนตร์เป็นอย่างไรบ้าง
      ผมเคยอ่านตอนที่มันเป็นหนังสือการ์ตูน ผมสงสัยว่าโลกการ์ตูนจะสามารถดัดแปลงเป็นโลกแห่งความจริงได้ยังไง ถึงแม้ว่ารายละเอียดปลีกย่อยจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ช่วงเวลาสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่าง ทาคุมะ และ มายุ รวมถึงระยะห่างระหว่างคนทั้งสองก็ดูซื่อตรงต่อต้นฉบับ ดังนั้นผมจึงพยายามแสดงออกมาให้เต็มที่ที่สุดเท่านั้น

                คุณต้องรับบทเป็นเด็กผู้ชาย ตั้งแต่มัธยมต้นจนถึงมัธยมปลายในภาพยนตร์เรื่องนี้
      มันลำบากนิดหน่อยในการรับเป็นบทเด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้น เพราะนักแสดงคนอื่นๆก็ล้วนเป็นเด็กอายุ 12 ถึง 13 จริงๆ และนั้นก็ทำให้พวกเขาดูเด็กกว่าผมตั้งเยอะ (หัวเราะ) อย่างไรก็ตามเมื่อผมได้ดูหนังที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็พบว่ามันดูไม่แตกต่างมากนัก

                ทาคุมะ พบกับ มายุ ครั้งแรกตอนอายุ 8 ขวบ ในช่วงเวลานั้นคุณทำอะไรอยู่
                ผมเล่นเบสบอลตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันครับ 
                

      คุณกำลังบอกว่าตัวเองและ ทาคุมะ ไม่มีอะไรที่เหมือนกันอย่างนั้นเหรอ
      ผมก็ไม่แน่ใจครับ ผมไม่เคยเทียบตัวเองกับ ทาคุมะ มาก่อน แต่ มาโอะ (อิโนะอุเอะ) บอกผมว่า บุคลิกขี้อายแต่จริงจังเมื่อจำเป็นของผมในชีวิตจริง มีส่วนที่คล้ายคลึงกับ ทาคุมะ ซึ่งผมว่า มาโอะ เองก็มีการมองโลกในแง่ดีเช่นเดียวกับ มายุ และเธอก็คอยช่วยแนะนำผมในหลายๆเรื่อง ผมคิดว่านั้นแหละคือสิ่งที่เหมือนกันระหว่างพวกเรากับตัวละครที่ต้องรับบท

                คุณคาดหวังว่าผู้ชมจะได้อะไรกลับไปจากการดูหนังเรื่องนี้
      ผมว่ามันเป็นเรื่องราวของความรักที่บริสุทธิ์ มันคงเป็นจะดีถ้าเรามีความสัมพันธ์แบบนี้ ซึ่งใครคนหนึ่งจะสามารถแสดงความรักต่ออีกคนได้ยาวนานขนาดนี้ ผมรู้สึกสงสัยว่า มายุ จะใช้ชีวิตที่เหลือของเธอต่อไปเช่นไร และแน่นอนที่ผมอยากจะดูหนังเรื่องนี้บนจอไปพร้อมกับทุกคน

                

      สารจากผู้กำกับ ทาเคฮิโกะ ชินโจ 


      จุดมุ่งหมายที่ผมใส่ใจที่สุดในการสร้างภาพยนตร์จากการ์ตูนก็คือ การสร้างความสมดุลระหว่างความสมจริงและโลกแฟนตาซี เพราะบางสิ่งที่ใช้ได้ผลกับโลกการ์ตูน อาจจะเป็นสิ่งที่ดิบเกินไปสำหรับนักแสดงที่เล่นเป็นตัวละครนั้นๆ อย่างเช่นเรื่องของสถานที่ หลายฉากในเรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล ซึ่งถ้าเราซื่อตรงต่อตัวต้นฉบับมากเกินไป ภาพยนตร์ก็อาจดูไม่บันเทิงเท่าไรนัก

      ผมไม่ต้องการให้มันเป็นหนังที่พูดถึงความทรมานของโรคร้าย แต่ผมต้องการให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสำคัญของการเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ให้ผู้ชมเข้าใจถึงความหมายของการรักใครบางคน และการใช้ชีวิตอยู่ด้วยความห่วงใยใครสักคน ผมต้องการให้หนังเรื่องนี้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด

      ทาคุมะ และ มายุ เป็นวัยรุ่นสองคนที่มีจิตใจดี พวกเขามีความบริสุทธิ์ที่แทบไม่พบแล้วในสังคมปัจจุบัน พวกเขาผลิตความรักขึ้นมาจนสามารถจับต้องได้ ผมไม่ต้องการให้ทั้งคู่เหมือนกับตัวละครที่ออกมาจากเทพนิยาย ผมพูดคุยกับ มาโอะ และ มาซากิ อย่างลึกซึ้ง พวกเราพยายามค้นหาวิธีการในการสร้างความรักเสหมือนจริงของคนทั้งสอง ซึ่งสุดท้ายแล้วผมก็รู้สึกพอใจกับผลลัพธ์นะ

               

      สารจากนักเขียนการ์ตูน โคโตมิ อาโอกิ  

      ฉันใช้เวลาในการเขียนจดหมายฉบับนี้ถึง 10 วัน เพราะสิ่งที่ทำให้ฉันกังวลก็คือ ไม่ว่าตัวเองจะเขียนอะไรออกมา มันอาจฟังดูเหมือนว่าฉันกำลังชมตัวเองอยู่ ซึ่งมันก็คงทำให้สิ่งที่ฉันอยากจะพูดจากใจสูญเสียความน่าเชื่อถือไป

      มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ฉันคิดว่าตัวเองรักหนังเรื่องนี้ แม้กระทั่งว่าตัวเองไม่ใช่นักเขียนเรื่องนี้ก็ตาม

      มายุ เป็นผู้หญิงหัวแข็ง เธอเป็นตัวละครที่มีลำบากในการตีความ เธอจะพูดประโยคอย่าง "ฉันจะฆ่านาย" กับ ทาคุมะ ผู้รับรู้ถึงความเปราะบางในชีวิตตัวเองตลอดเวลา แต่มุมมองนี้ในตัวละครอย่าง มายุ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ

      ยกตัวอย่างเช่น ก่อนสอบเอนทรานซ์ ผู้คนก็อาจกังวลกับคำว่า "ไม่ผ่าน" หรือ "แห้ว" แต่ความจริงแล้วฉันชอบคำเหล่านั้น ผู้คนมักกังวลกับความหมายของคำ ซึ่งทำให้พวกเขาถูกลากเข้าไปสู่เขตแดนของ "ความคิดในแง่ลบ" พวกเขากลัวถึง "จิตวิญญาณ" ที่สิงสถิตอยู่ในคำเหล่านั้น

      เช่นเดียวกันกับความตาย ถ้าเกิดเราอยู่ในสถานการณ์ความเป็นความตาย หรือมันกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ผู้คนรอบตัวฉันก็จะหลีกเลี่ยงในการพูดถึงคำอย่าง "ความตาย" หรือ "การเสียชีวิต" หรือ "การตายก่อนกำหนด"

      ฉันคิดว่าถ้าผู้คนเริ่มกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น จากนั้นบางทีพวกเราก็อาจไม่มีความจำเป็นในการใช้ชีวิตต่อไป ชีวิตไม่เหมือนกับการสอบเอนทรานซ์ ซึ่งเดี๋ยวเดียวก็คงผ่านไป เพราะสิ่งนี้อาจขยายครอบคลุมไปทั่วทั้งชีวิต

      จากมุมมองของฉันถึงคนในช่วงเวลาวัยเยาว์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่จากมุมมองของเด็กวัยรุ่น ช่วงเวลาระหว่าง 8 ขวบถึง 20 อาจจะสั้นเพียงนิดเดียว หรือนานชั่วชีวิตได้ในเวลาเดียวกัน

      ฉันคิดว่าเมื่อ มายุ พบว่าช่วงชีวิตของ ทาคุมะ มีวันหมดอายุที่มาเร็วกว่ากำหนด เธอจึงต้องการแสดงให้เขาเห็นว่า เธอไม่กังวลเลยแม้แต่นิดเดียว และเขาก็อาจจะไม่ตาย

      ผู้คนทั่วไปอาจไม่พูดอะไรอย่างนั้นกับ ทาคุมะ ฉันรู้ เพราะฉันเองก็คงไม่สามารถพูดแบบนั้นได้เช่นกัน

      แต่นั้นหมายความว่า ทาคุมะ ถูกห้อมล้อมไปโดยผู้คนทั่วไป ซึ่งนั้นเองที่ทำให้เขาตกหลุมรักกับ มายุ ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่กล้าพูดว่า "ฉันจะฆ่านาย" ต่อหน้าเขา

      ฉันต้องการให้ มายุ เป็นผู้หญิงที่พูดในสิ่งที่เธอคิด แต่ในทางกลับกันมันก็อาจทำให้เธอถูกเข้าใจผิดว่า เธอเป็นคนไร้น้ำใจ ฉันรู้สึกกังวลเล็กน้อยในช่วงเวลาที่ฉันวาดเธอ

      ดังนั้นเมื่อฉันได้รับข้อเสนอให้ทำสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดง แน่นอนที่มันทำให้ฉันรู้สึกมีความสุข แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันกังวลก็คือตัวตนของ มายุ

      เมื่อฉันได้ยินว่า มาโอะ จะเข้ามารับบทเป็น มายุ ฉันก็ไม่ค้านเลยแม้แต่น้อย และเมื่อฉันได้เห็นภาพยนตร์ที่เสร็จสมบูรณ์ มาโอะ ก็สามารถแสดงตัวตนของ มายุ ได้อย่างไร้ที่ติ เธอแสดงความอ่อนโยนที่ถูกซ่อนไว้ภายใต้ความแข็งแกร่ง

      ถ้าจะให้พูดถึงคุณ มาซากิ โอคาดะ อืม ฉันกลัวอยู่แล้วตอนที่เขียนถึงเขา แต่ฉันขอสารภาพจากใจจริงเลยว่า... ฉันคิดว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก แต่ฉันหมายความว่าตัวเองตกหลุมรัก มาซากิ ที่อยู่ในภาพยนตร์ (ฉันว่าตัวเองคงไม่ต้องไขความกระจ่างหรอกนะ)

      ตอนนี้ฉันกำลังเขียนการ์ตูนเรื่องใหม่อยู่ นั้นหมายความว่าจิตวิญญาณของฉันกำลังจมลงสู่สิ่งที่ตัวเองต้องทำในขณะนี้ แต่หลังจากที่ฉันได้ดูหนัง ความรักของฉันที่เคยมีให้แก่ ทาคุมะ ก็กลับมาลุกโชนอีกครั้ง

      ทาคุมะ เป็นผู้ชายที่เป็นห่วงทุกคนรอบตัวเขา เขารู้สึกถึงความคาดหวังของแต่ละคน และเขาก็มักจะลงเอยด้วยการเป็นคนสูญเสีย ทาคุมะ ทำเรื่องโง่ๆเพราะว่าเขารัก มายุ มากเกินไป

      ฉันสร้าง ทาคุมะ ขึ้นมาจากจุดด้อยหลายอย่าง แต่มันกลับกลายเป็นจุดด้อยที่ทำให้ผู้หญิงตกหลุมรัก ฉันต้องการให้เขาเป็นตัวละครที่ไม่มีเสน่ห์ในแบบที่ผู้ชายในอุดมคติควรเป็น เขาไม่ใช่นักกีฬา เขาไม่ร่ำรวย และเขาก็ไม่ใช่อัจฉริยะ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ทาคุมะ กลายเป็นคนที่ผู้หญิงหลงรัก เขากลายเป็นผู้ชายในดวงใจของพวกเธอทุกคน

      ฉันเองก็ตกหลุมรักกับ ทาคุมะ เหมือนกับ มายุ และฉันคิดว่าทุกคนก็คงรู้สึกแบบเดียวกันหลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้

      โอ้ ให้ตายสิ ฉันคิดว่าตัวเองเขียนยาวเกินไปแล้ว
      ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากเขียนถึง ไม่ว่าจะเป็นคุณชินโจ ผู้กำกับ และคุณบันโด ผู้ดัดแปลงบท แต่ฉันคงไม่อยากทำให้มันยาวกว่าที่ควรเป็น แต่อย่างน้อยขอให้ฉันได้เขียนถึงตอนจบของเรื่องนี้ละกัน

      ในตอนจบของการ์ตูน ฉันคิดว่ามันคงเป็นเรื่องซ้ำซาก ในการแสดงให้เห็นถึงชะตากรรมสุดท้ายในชีวิตของ ทาคุมะ ฉันต้องการบอกว่า หนังสือการ์ตูนความยาว 12 เล่มจบไม่ได้เกี่ยวกับ "ผลลัพธ์" หรือ "จะอยู่หรือรอด" ฉันต้องการแสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตของผู้ชาย เมื่อความตายนั่งรอเขาอยู่ด้านหน้า

      ในภาพยนตร์ มายุ คือตัวดำเนินเรื่อง ผลลัพธ์ของ ทาคุมะ อาจไม่ใช่ผลลัพธ์ของ มายุ จุดมุ่งหมายของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ "มายุ จะทำอย่างไรเมื่อเธอต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์" และแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ของเธอ ผลลัพธ์ของ ทาคุมะ จึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญในภาพยนตร์เรื่องนี้

      สำหรับใครก็ตามที่ไม่เคยอ่านผลงานของฉัน นี้คงเป็นการพล่ามที่ฟังดูไร้สาระ และฉันก็ขอโทษเอาไว้ณ.ที่นี้ แต่ฉันรู้สึกว่าตัวเองต้องการพูดกับให้แฟนๆหนังสือของฉัน ให้เข้าใจถึงความรู้สึกที่แท้จริงของฉันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น



      credit http://www.toho.co.jp/lineup/bokunohatsukoi/ 

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×