ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ver. wonkyu

    ลำดับตอนที่ #3 : 2

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 55


    แสงแดดยามบ่ายอันแสนเจิดจ้ามันช่างทำให้นักเรียนวัยกระเตาะอย่างเขาเกิดนึกอยากเอาหัวทุยๆซุกกับหนังสือที่หนาเหมือนหมอนไม่ปาน แต่ก็ได้แค่คิด เพราะสิ่งที่เป็นเหมือนมารขวางการงีบหลับก็คืออาจารย์ฮีชอลที่สอนอยู่หน้าห้อง เห็นสวยๆหน้าเหวี่ยงๆแบบนี้โหดสมชื่อ มิน่าล่ะอาจารย์ถึงไม่มีใครมาจีบเลย LOL

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กระดาษสีขาวใบเล็กๆจากการถูกฉีกออก ได้ส่งไปหาร่างโปร่งที่ทำท่าเหมือนจะสัปหงกเป็นครั้งคราว ร่างโปร่งได้รับมาแบบงงๆ พลิกเศษกระดาษไปมาดู ตากลมก้มลงอ่านข้อความที่เหมือนใช้อวัยวะเบื้องล่างเขียนมากกว่าใช้มือเขียน

     

     

    เราเคยได้ยินมานะว่าพี่วอนเคยทำผู้หญิงท้องด้วย

     

     

     

     

     

     

     

     

    -_-…

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    บอกกูทำแสรดอะไรครับ? - -+   ลายมือแบบนี้ของทงเฮชัวร์มันต้องไปกับพวกซองมินกับฮยอกแจแน่ ไอ้พวกนี้เห็นความลับเพื่อนเป็นเรื่องสนุก คงไปซักประวัติมาแล้วจนไปทำfactได้ ส่วนมากเรื่องที่พวกมันเล่าต้องนำไปหารอีก1000ถึงจะได้ความจริง ฉะนั้นเชื่อได้แค่พองามอย่าไปปักใจเชื่อมัน100%  #สัจธรรม

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่เชื่อหรอก   เขียนลายมือชุ่ยๆส่งกลับไป แล้วมองกระดานต่อ

     

     

     

     

     

    จริงๆนะเว้ยมันยังส่งกลับมาอีก  - -

     

     

     

     

    พอเลยมึงกูจะหลับในนนนนนนนนนนนนนส่งกลับไปแล้วทำท่ากอดหนังสือกอดโต๊ะประหนึ่งเป็นตุ๊กตากันดั้มชิ้นโปรดสมัยอยู่อนุบาลสาม

     

     

     

     

     

     

    “แกมันไม่เชื่ออ่ะ” ทงเฮกระซิบเบาๆข้างๆซองมิน พูดดังไม่ได้เดี๊ยวอาจารย์ฮีชอลเห็นล่ะซวยเลย - -

     

     

     

    “บอกแล้ว กูว่านะข่าวมันต้องมั่วชัวร์”ฮยอกแจเสริมขึ้นมาเบาๆอีกเช่นกัน พลางมองไปทางร่างโปร่งที่กำลังทำหน้าเคลิ้มมองกระดาน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    คุยอะไรกัน

     

     

     

     

    ใครส่งมาวะสัด - -ลายมือคุ้นๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เรื่องของกู  เขียนส่งไปแล้วหันไปซุบซิบกับ ทงเฮ ซองมินต่อ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แต่ชั้นสอนอยู่

     

     

     

     

    ห๊ะ? ชักเสียวสันหลัง ทั้ง3ค่อยๆสบตากันช้าๆก่อนจะเงยหน้ามาสบตาปริบๆ ให้กับอาจารย์ฮีชอลที่ทำหน้าเป็นซาตานหิววิญญาณที่พร้อมจะกระชากพวกกูลงหลุมได้ทุกเมื่อ

     

     

     

     

     

     

    “ยืนขึ้น!!” เชี่ยแล้วเสียงมารแผดแล้ว ลุกขึ้นยืนช้าๆ ความรู้สึกเหมือนตัวหดลงเหลือ2นิ้ว

     

     

     

     

     

    “ตอบชั้นมาซิคำนี้แปลว่าอะไร!!” นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่กระดานดำหน้าห้องที่มีลายมือที่ติสม์ที่สุดเท่าที่เคยพบตั้งแต่เกิดมา โชว์หราหน้าห้อง Inspiration แปลว่าอะไรวะ ขอใช้ตัวเลือกหน่อยได้มั๊ยครับ - -

     

     

     

     

     

     

    “ตอบ” กดเสียงเน้นๆย้ำๆ กูรู้แล้วครับขอเวลากูหน่อยสิ - -

     

     

     

     

    เหลือบไปมองมุมห้องข้างหลังอาจารย์ คยูฮยอนถือสมุดโน้ตที่เขียนเฉลยไว้ ชูแบบเนียนๆโดยทุกคนรู้หมดยกเว้นอาจารย์ฮีชอลคนเดียวโอนลี่

     

     

     

     

     

    “อ๋ออออ แปลว่าแรงบันดาลใจครับ” ;w; ตอบเสียงสั่นไหวเล็กๆ เพื่อเพิ่มความยิ่งใหญ่ของอาจารย์ว่าท่านคือเดอะเบสที่ใครๆต่างเกรงกลัวและเกรงใจอีกหลายเท่าตัว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    yes ..ถูกต้อง มันแปลว่าแรงบันดาลใจ ยังไม่ทันพูดจบสายตาคมตวัดไปพบกับเจย์คิม อาจารย์สอนพลศึกษาประจำโรงเรียน ซึ่งกำลังเดินหลังตรงสง่าไปยังห้องหมวดพละที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง แถมยังค่อมหัวเล็กน้อยเป็นการทักทายกูอีก อา.. อาจารย์เจย์ช่างวิ้งกระแทกตาอาจารย์ฮีชอลอย่างกูยิ่งนัก -//-

     

     

     

     

     

    “คนเราทุกคนต้องมีแรงบันดาลใจ ครูยังมีเลย “ พูดไปทำหน้าเคลิ้มอมยิ้มไปด้วย อาจารย์ของพวกกูโดนอะไรสิงวะครับ

     

     

     

     

     

     

     

    “ครูชอบ..-///- เหยดแม่วันนี้หิมะตกกลางโรงอาหารแน่ อาจารย์ฮีชอลโดนของเข้าสิงเดินไปหน้าห้องเหมือนจะเดินออกไปด้วยซ้ำ ยังกับกำลังเดินท่ามกลางทุ่งดอกไม้ ท่ามกลางเหล่านักเรียนที่สตั๊นรับประทานไปแล้วว่าครึ่งห้อง

     

     

     

     

     

     

    -_-  ... เหมือนเพิ่งรู้สึกตัว รีบกลับมาทำหน้าโหดแล้วเดินกลับมาหน้าห้องใหม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

     

     

     

     

    “เงียบอะไรกัน?! ท่องคำศัพท์บนกระดานไปสิ!!

     

     

     

     

     

    “คร๊าบบบบบบบบบบบบบบบ” อาจารย์คนเดิมของกูกลับมาแล้ว (y)

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ขอบคุณคร๊าบบบอาจารย์” ประนมมือยกมือขึ้นไหว้สูงๆตามระเบียบที่คิดขึ้นมาสดๆของอารจารย์ฮีชอล แล้วรีบเดินออกไปห้องไปยังห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ร่างโปร่งเดินไปตามทางระบียงชั้น2อย่างสบายอารมณ์จนกระทั้งเห็นป้าย

     

     

     

     

    ห้องน้ำเลี้ยวซ้าย

     

     

     

     

     

     

    หึหึ คนอย่างโจวคยูฮยอนน่ะไม่เป็นน้องอ้อยใสซื่อไปห้องน้ำจริงๆหรอก ขาเรียวก้าวป้ายบอกทางห้องน้ำอย่างไม่ใยดีแบบเนียนที่สุดเท่าที่เด็กวัยกระเต๊าะม.ต้นจะทำได้ และเลี้ยวขวาขึ้นบันไดไปอีกหนึ่งชั้นซึ่งเป็นชั้นของม.ปลาย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    รีบวิ่งไวๆติดสปีตราวจะไปแข่งโอลิมปิกก็ไม่ปาน แล้วรับชะลอเท้าเมื่อเห็นป้ายหน้าห้องอยู่ร่ำไรไม่ใกล้ไม่ไกล เปลี่ยนจากท่าวิ่งเป็นลูกลิงเป็นเดินช้าๆเกร็งๆเหมือนมีหนังสือเตรียมสอบ4เล่มวางอยู่บนหัว ตาเหลือบไปมองห้องเรียนที่โชว์เกรียนแปะหน้าห้องว่า “ห้องสี่ทับสองไม่ได้มีดีแค่หน้าตายินดีต้อนรับ”-_-

     

     

     

     

     

     

     

    ร่างสูงที่นั่งมุดหัวอยู่ใต้โต๊ะทำท่าเหมือนกำลังดูอะไรซักอย่างอยู่พร้อมๆกับเนียนทำการบ้านอยู่หลังห้อง แหม่อีพี่วอนครับของในมือมันคือโพยสินะครับ โถ.. นี่หรือไอดอลคนที่กูแอบชอบ OTL

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เดินไปเหลือบมองไปกูก็มีความสุขแล้ว ;^; ถึงพี่จะแอบเลว เกรียน แต่พี่ก็หล่อกุอภัยให้พี่ได้ พูดแล้วก็ออยากจะสกิปตีนที่ไร่อ้อย แต่บางทีลืมไปว่านี่มันบนอาคารเรียนจะเกิดคึกกระโดดอะไรบนนี้ก็คงไม่ใช่ แถมนี่เป็นอาคารเก่าร่วม30ปีกูกระโดดทีสงสัยไอพวกที่นั่งเรียนอยู่ข้างล่างมันต้องได้ยินเสียงกระโดดแล้วกร่นด่าออกมาเป็นภาษาไทย จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศษเยอรมัน สเปนเป็นแน่แท้ เพราะฉะนั้นกูสกิปเท้าในใจกูดีแล้ว *O*

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน ร้อยละ60ของโรงเรียนชายล้วนอย่างผมก็มักจะไปเตะบอล ชู๊ตบาส ที่เหลือก็คงจะเป็นพวกลูกแหง่ติดแม่ ดิ้นรนแอ๊บเนิร์ดไปเรียนพิเศษ เนียนลอกการบ้านอย่างพวกผม หรือไม่ก็ซ้อมหลีดซึ่งเป็นกิจกรรมอันน่าสะพรึงกลัวของพวกเก้งกวางในโรงเรียนผม - - ซึ่งพวกที่หมกตัวอยู่ในรั้วสถานศึกษาอันเป็นที่รักจะมีร้านค้าในดวงใจที่อยู่ที่นี่ทีไรกูต้องหลวมตัวเสียเงินตลอดทุกที  แถมวันนี้อากาศร้อนซะด้วย ร้านขายน้ำอันเป็นที่รักแถวเลยยาวเป็นพิเศษ

     

     

     

     

    “เชี่ยแม่งร้อนสึด”

     

    “โอ๊ยมึงกูโซฮ๊อตมาก”

     

    “เฮ้ยอีข้างหน้าน่ะมึงปลูกต้นโคล่าอยู่หรอวะครับ?”

     

    “ว๊ายตายแล้วเหงื่อออกค่ะ อีพวกข้างหน้ามึงทำเหี้ยอะไรอยู่คะ?”

     

     

     

     

    พวกกูขอเป็นสปอนเซอร์ของพวกที่ด่าครับ - - อากาศก็ร้อนเชี่ยๆ แล้วแถวก็ช้ามากๆๆๆๆๆๆ แล้วดูแถวสิ  แม่เจ้า.. กูนึกว่ากูมางานแจกลายเซนต์ของตุ๊กกี้ชิงร้อยชิงล้าน (ป้าคนขายหน้าเหมือนตุ๊กกี้)

     

     

     

     

     

     

     

    รุ่นพี่กลุ่มนึงที่ร่างที่ทั้งสูงทั้งยักษ์แถวบางคนตัวยังกับควายถึกเดินเข้ามาพร้อมผลักหัวแถวซะกระจาย แถมแทรกตัวเข้ามาทั้งแก๊ง อื้อหือนี่พวกมึงแน่ใจหรอครับว่ากลิ่นตัว- - นี่กูนึกว่าพวกพี่ทำงานพิเศษเป็นคนขับรถขยะไปเก็บขยะตามสลัม = =

     

     

     

     

    “ป้า! โค๊ก5แก้วด่วนๆเลย” ร่างดำเหมือนราหู ซึ่งเหมือนจะเป็นหัวโจกในแก๊งพูดด้วยน้ำเสียงเกรียนๆประมาณว่ากกูคือเดอะเบส อาจารย์ฮีชอลก็สู้กูไม่ได้

     

     

     

     

     

     

    “เฮ้ยพี่!! ทำไมถึงทำแบบนี้อ่ะ” ทงเฮแว๊ดขึ้นมาจากแถว ผมลืมบอกไปว่าทงเฮนี่แหละตัวจี๊ดในแก๊งผม  ความฝันของมันคือได้เป็นว๊ากเกอร์ในงานรับน้อง *w*

     

     

     

     

     

     

    “ขอโทษนะน้อง พี่หิวน้ำ พี่เหนื่อย พี่ร้อน มีไรป่ะ?” รุ่นพี่ร่างหนาเหมือนชิ้นเนื้อเน่าเสริมออกมาด้วยท่ายียวนกวนประสาท ผมชักจะขึ้นแล้วเหมือนกันนะเนี่ย เหมือนซองมินจะรู้ว่าผมกำลังจะแปลงร่างเป็นปีศาจใส่ฟันหัวพี่ มันเลยแอบล็อกมือผมกับฮยอกแจเอาไว้

     

     

     

     

     

    “น้องไม่เคยได้ยินหรอวะ? โปรดเอื้อเฟื้อให้ ผู้ชาย เด็ก และนักบาส ซึ่งพี่ก็เป็นนักบาสซะด้วย” เหยดแม่!! ถ้ามึงจะกวนตีนกูขนาดนี้ กูขอไม่ทนแล้ว มือที่โดนเพื่อนทั้งสองล๊อคไว้สะบัดทิ้ง แล้วถลาหมายจะไปต่อยหน้าหมาๆของอีนั่นแต่โชคร้ายที่โดนซองมินกับฮยอกแจดึงตัวเอาไว้

     

     

     

     

     

     

    “พี่!! ไอ้หน้าตัวเมีx แน่จริงมึงมาตัวๆกับกูมา” ในเมื่อร่างกายกูไปไม่ได้ก็ขอใส่เสียงแล้วกัน ถ้อยคำมันเรียงให้ในสมองแบบอัตโนมัติ นึกๆแล้วอยากจะตบตัวเองให้หน้าหัน กูช่างกล้าที่ไปท้าไอ้พี่หน้าหมา

     

     

     

     

     

    “ได้สิครับน้องหลุม เดี๊ยวพี่จัดให้” เชี่ย! คำเดียวที่จะบอกมึงได้ในตอนนี้ เสือกจี้ใจดำกูอีก ไม่ไหวแล้วครับจะระเบิดแล้ว ถึงแม้จะมีซองมินคอยพูดอยู่ข้างๆให้ใจเย็นๆ แต่นี่มันกล้าหยามมามาก มึงตายซะเถอะไอ้พี่หน้าหมา!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ป้าครับโค๊กไม่จำกัดจำนวนให้นักบอลหน่อยครับ” ระหว่างที่กำลังเค้นสายตาให้มารตรงหน้าที่พร้อมจะลากกูไปตัดคอได้ทุกเมื่อ จู่ๆก็มีใครบางคนเดินดุ่มๆเข้ามาในร้านพร้อมสั่งรายการที่ประหลาดๆจนต้องหันไปมองแทบทุกคน จนคนที่เลอดร้อนเหมือนกับไฟไม่ปาน ยอมเย็นลงโดยปริยาย

     

     

     

     

     

    พี่วอนเดินถือแก้วโค๊กเกือบสิบแก้ววาวไว้ในถาดแล้วยื่นมาให้ผม

     

     

     

    “ฝากให้คนในแถวด้วยนะครับน้อง” พูดเสียงนุ่ม ทุ้ม น่าฟัง มีเสน่ห์ ที่สุด *กรี๊ดในใจ* แม้ว่ากลิ่นตัวของพี่จากการเล่นบอลมามันจะเหม็นเหมือนถังน้ำหมัก แต่ไม่เป็นไรหน้าหล่อๆเสียงเท่ๆของพี่เอาไปเลยครับ ร้อยเต็มบวกบวกบวก  *w*

     

     

     

     

     

    รับถาดมาจากคนตรงหน้าด้วยสภาพเหมือเมา เคลิ้มซะ -//- แล้วหยิบมา1แก้มก่อนจะส่งถาดไปให้ข้างหลังแล้วรีบคว้ากระเป๋าเดินกลับบ้านไปไม่พูดไม่จา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    มันเป็นเวลาเกือบ4ทุ่มเข้าไปแล้ว ผู้เป็นแม่ก็ยังคงไม่ได้นอน ต้องทำบัญชีร้านตามหน้าที่ของเจ้าของร้านอาหาร  แต่จะทำยังไงเมื่อท้องหิวนี่ล่ะสิ

     

     

     

    ร่างผอมบางเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาอาหารว่างยามดึก เพราะสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ต้มมาม่ากินหลัง2ทุ่มเด็ดขาด เพราะความกลัวอ้วนเป็นเหตุ   ดวงตาเรียวเหลือบไปเห็นน้ำแก้วหนึ่งแช่เอาไว้ คาดว่าน่าจะเป็นของลูกที่เอามาแช่ มือเรียวหยิบแก้วขึ้นมาดูด้วยความสงสัย  แต่แล้วความสงสัยก็คลี่คลายลงเมื่อสิ่งที่อยู่ในแก้มคือน้ำโค๊กธรรมดา จึงวางแก้วกลับไปที่เดิม ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นมีเศษกระดาษแผ่นเล็กๆแปะไว้อีกด้านหนึ่งซึ่งเมื่อกี้ไม่ทันได้มอง

     

     

     

     

     

    “อะไรเนี่ย?! ไม่ให้กิน? แล้วจะมาไว้ในตู้เย็นทำไม” จะไม่โวยวายก็ไม่ได้เพราะอารมณ์คนโมโหหิว ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าเศษกระดาษที่แปะอยู่น่ะเขียนไว้ด้วยหมึกสีเขียวเข้มว่า

     

     

     

     

     

    ห้ามกิน จากคยู

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แม่เข้าใจผมใช่มั๊ยครับว่าผมหวง *w* ; จากคยู

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

    ซักนิด-w-

     

    นั่งปั่นมา2วัน สำนวนเพื้ยนมาก TT

     

    ขอเป็ดตัวอาจารย์ฮีชอลนะคะ พี่วอนเริ่มออกบ้างแล้ว อิ____อิ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×