คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 4 {100%}
ร่างอวบของซองมินกำลังเดินถือถาดข้าวกลางวันเดินมานั่งที่โต๊ะตัวประจำที่มีฮยอกแจกับทงเฮนั่งตรงข้าม สายตาหันไปมองไอ้ไร่อ้อยที่นั่งทำหน้าเคลิ้มอยู่ข้างๆ ไม่คิดจะกินอะไร เอาแต่นั่งเขี่ยผักบนจานประหนึ่งกำลังตกอยู่ในห้วงของความรัก ซึ่งก็คงจะเป็นอย่างงั้น
“ไงล่ะสุดยอดป่ะล่ะบอกแล้ว” ทงเฮถามพลางคีบเส้นบะหมี่ขึ้นมาจ่อปากตัวเองก่อนจะส่งเข้าปากตัวเองไป
“บอกแล้วว่ามุกนี้พี่เค้าต้องจำได้” ฮยอกแจเสริมบ้างขณะกำลังกัดขนมปังคำโตเข้าไป
“อื้อ” -///////////////- ดูมัน ถ้าจะเป็นเอามากขนาดนี้ ขนาดพวกกูชวนคุยแล้วมันยังไม่ตอบ ไม่ยอมพูดยอมจาเดี๊ยวมีศึกหนังสือฟาดหัวให้หายเมา
“เดี๊ยวกินข้าวเสร็จพาไปดูสนามที่พี่วอนโดนต่อยเอาป่ะ?”
“ไปสิไปเลยเร็วๆๆๆๆๆ!!!”
ทีแบบนี้รีบตอบเชียวนะ - -..
ร่างเล็กทั้งสี่ของซองมิน ฮยอกแจ ทงเฮ และคยูฮยอน กำลังสาวเท้าท่ามกลางแดดอันร้อนระอุที่ไม่น่าอยู่ด้วยนานๆ ตรงไปยังสนามบาสหลังโรงเรียนในตำนานที่กล่าวขาน(กันเอง)ว่า ใครโดนต่อยที่นี่จะหล่อมาก #มโนทั้งนั้น
“โอ้โหแก!! เลือดเป็นหย่อมๆจริงด้วย” มือเล็กๆของทงเฮชี้ไปยังคราบสีน้ำตาลแดงๆที่ตกเป็นหย่อมๆตามจุดต่างๆของสนาม ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเป็นรอยเลือด น่าจะเป็นคราบสีน้ำมากกว่า เพราะสนามนี้ไม่ค่อยมีใครใช่เล่นบาส ส่วนมากจะใช้เป็นที่พ่นสีทาสีพวกไม้ทำฉากเวลามีงานโรงเรียนมากกว่า เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่า ชางมินมั่ว #(H)
คยูฮยอนเดินช้าๆไปรอบๆสนาม พลางกวาดสายตามองแทบทุกอณูเหมือนว่าจะมองเห็นภาพจำลองปะติมากรรม ’ชีวอนปะทะนักบาส’ ต่างจากเพื่อนอีกสามคนโดยสิ้นเชิงที่ เอาแต่นั่งนับรอยสีที่มโนว่าเลือด เพื่อจะได้เอาไปโม้ทับหักหน้าชางมินอีกที - -
ร่างโปร่งสะดุดตากับเม็ดกระดุมเม็ดหนึ่งที่ตกริมสนามใกล้ๆกับมอเตอร์ไซของคนที่รู้ว่าใครพอดี ซึ่งคาดว่าคงจะต้องเป็นของพี่วอนแน่ๆ ก้มลงเก็บกระดุมเม็ดนั้นขึ้นมาแล้วรีบใส่กระเป๋าทำไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนกำลังขโมยหลักฐานในที่เกิดเหตุ
เรื่องนี้กูไม่ได้จริงๆ -////-
“กลับมาแล้วคร๊าบบบ” ลากเสียงยาวยานคางขณะกำลังพยายามถอดรองเท้าผ้าใบสีขาวออก ถึงแม้ว่าตามระเบียบของโรงเรียนจะให้ใส่รองเท้าหนังดำ แต่ในเมื่อระเบียบก็เป็นแค่ตัวหนังสือพิมพ์ออกมาเฉยๆฉันท์ใด ก็ไม่สามารถนำออกมาได้ฉันท์นั้น โจวคยูฮยอนเลือกที่จะใส่รองเท้าพละสีขาวดีกว่า ไม่อยากตอกย้ำตัวเองว่าหน้ามันเหมือนรองเท้าหนัง -..-
ร่างโปรงวิ่งตึงตังขึ้นบันไดบ้านไม้แล้วตรงไปยังห้องนอนของตนเองอย่างรวดเร็ว เหวี่ยงกระเป๋าไปยังเก้าอี้ตัวประจำแล้วนั่งลงกับเตียง
“ฮ้าาาาา ถึงซักที” - - ร่างโปร่งพิงตัวกับหมอนใบใหญ่ พลางนำเอากระดุมเม็ดสีขาวที่เก็บไว้ในกระเป๋าอย่างดีมาตลอดวัน เอื้อมมือหยิบปากกาสีดำมานั่งบรรจงวาดหน้าตัวยิ้มลงไปบนเม็ดกระดุมอย่างตั้งใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เขินบิดไปมา ท่าทางแบบนี้อย่าให้ใครมาเห็นเชียวนะ - - อายเขาตายเลย
“พี่คยู!!!!!! ลุงฮันเกิงมาาาาาา “ เสียงดังเก้าสิบหลอดแบบนี้คงเป็นหนึ่งเดียวในบ้านอย่างนาอึน น้องสาวสุดรักหักสวาทปานจะกลืนกินที่กล้าคลานออกจากมดลูกของแม่ตามๆกันมา ปกติในฐานะพี่ชายที่มีน้องสาวเพียงคนเดียว จำเป็นจะต้องมีเลเว่ลความหวงน้องปกป้องน้องคงมากพอๆกับเลเว่ลในเกมออนไลน์ที่สามารถแหกขี้ตาเล่นยันเช้าได้
แต่หรับคยูฮยอนคนนี้ขอบอกว่าไม่ -____- คนที่ควรจะต้องหวงแอนด์ปกป้องต้องเป็นเขามากกว่า คนอะไรขี้โรคแอดมิดเข้าโรงพยาบาลยังกับบ้านพักตากอากาศในสมัยอนุบาล ต้องลำบากหนูน้อยนาอึน ในวัยเพิ่งหัดเดิน หัดพูด หัดหยิบนู่นหยิบนี่มาคอยเฝ้าไข้ กดออดเรียกพยาบาล แถมยังคอยวัดไข้ด้วยการตบเหม่งดังเปาะ! - -
ร่างโปร่งวางกระดุมเม็ดเล็กอย่างระมัดระวังบนโต๊ะ แล้วค่อยๆสาวเท้าลงจากบันไดด้วยความดีใจ แหงล่ะ! ในเมื่อลุงฮันเกิงน่ะ เป็นเพื่อนสนิทของพ่อที่อยู่จีนน่ะสิ!!!!
-___________________________________-
ไหงลุงฮันเกิงสภาพเป็นงี้อ่ะ (เกาหัวแกรกๆก่อนจะหันไปสบตากับนาอึน)
ร่างสูงในวัยสามสิบกลางๆค่อนไปเกือบปลาย ใบหน้าดูเหี่ยวลงเพราะอายุเป็นตัวแปรที่สำคัญ ในมือยังถือพาสปอร์ตยืนยันว่าเพิ่งมาถึงเกาหลีสดๆร้อนๆ แต่ ทำ ไม ยืน พิง กระ เป๋า หลับ อย่าง นี้ ล่ะ ลุง ???
“ลุงฮันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”
“อ่ะจ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ใครเรียกเนี่ยเสียงดัง” นั่นเพิ่งจะมาสะดุ้งตื่นแถมยังปล่อยมุกอีก - -
“ลุงฮันอ่ะ หนูนาอึนไงคะ -3- “
“อ่าวนาอึน! ไม่เจอนานสวยขึ้นเยอะเลย อ่าวนั่นคยูฮยอนใช่มั๊ย? สูงขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย!!” เราสองคนโผกอดลุงด้วยความคิดถึง ถึงแม่ว่าลุงจะไม่ค่อยจะเต็ม(ห๊ะ?) แต่พวกผมก็รักลุงที่สุดอยู่ดี
ภายในบ้านหลังเล็กสองชั้น เต็มไปด้วยบรรยากาศอันอบอุ่น ร้านอาหารเล็กๆข้างๆบ้านก็สั่งปิดเพราะแขกคนสำคัญมาทั้งคน ก็ต้องปิดร้านฉลแงเป็นธรรมดา
“บ้านนี้ยังอบอุ่นไม่เปลี่ยนเลยนะ” ลุงฮันเกิงพูดก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาดื่มพลางกวาดสายตามองบรรยากาศบ้านหลังเล็กที่สามแม่ลูกอาศัยอยู่ โดยที่หัวหน้าครอบครัวต้องไปทำงานรัดตัวอยู่ที่จีนน่ะนะ
“ก็เรื่อยๆแหละ ว่าแต่เขาคนนั้นเป็นไงมั่ง” แม่ผมถามขึ้นหลังจากลงนั่งตรงข้ามโดยมีลูกๆสองคนคือผมกับนาอึนนั่งอยู่ข้างๆ
“ตานั่นอ่ะหรอ? ยังสบายดีอยู่ งานรัดตัวจนเอวคอดหมดแล้วมั๊ง เลยมาไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆ” ลุงเค้าเป็นคนตลกครับ - - พ่อผมน่ะไม่มีทางเอวคอดหรอกแม้ว่างานจะรัดตัวยังไงก็ตาม แต่ก็ช่างเถอะ แค่พ่อผมยังโอเคสุขภาพดีก็พอแล้วล่ะครับ
“แล้วลุงมีของฝากจากพ่อมั่งมั๊ยค่ะ? หนูคิดถึงพ่อ”
“อ๋อมีสิๆ นี่ไงพ่อแกฝากมา” ลุงยื่นซองกระดาษแผ่นก็ใหญ่พอสมควรมาให้พวกผม นาอึนรีบแกะซองออกโดยไม่รอผมเลยซักนิดว่าจะต้องดูซองก่อนว่าพ่อเขียนอะไรลงมารึเปล่า - -
มือบางช่วยกันแกะซองสีน้ำตาลออกมาแล้วพบกับรูปภาพที่มีชายหนุ่มร่างใหญ่ท่าทางใจดี ยืนยืดอกด้วยความภูมิใจหน้าตึกอะไรซักอย่างที่คาดว่าเป็นบริษัทของพ่อในสาขาที่จีน
“โอโห้!!! พ่ออ้วนขึ้นเยอะเลยยยยย” ดูพ่อผมสิครับ ยังหล่อเหมือนเดิมไม่เชื่อดูที่ลูกชายคนโตได้ (เก๊ก) แต่อ้วนขึ้น5555 สงสัยบริษัทที่จีนกำไรดีจัด พ่อคงกินเป็ดวันล่ะหลายตัว
“พ่อแกฝากมาอีกว่า เค้าจะกลับมาเยี่ยมตอนปีใหม่… “ เช๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด อีกแค่ไม่กี่เดือนเอง นิดเดียวอยากเจอพ่อแล้วๆๆๆๆๆ
“แล้วเค้าจะซื้อของมาฝากพวกแกด้วย…” อะไรก็ได้ ผมจะเก็บไว้อย่างดีเลยยยยย
“แล้วถ้าพวกแกพี่หรือน้องก็ได้ ถ้าสอบได้ที่1พ่อจะพาไปเรียนที่จีนด้วย… “
ผมนี่แหละจะสอบได้ที่1ให้ได้ !!!!!! (ว๊ากลั่นโลก)
จากที่30เนี่ยนะ? นาอึนส่งเบาๆ
ซักนิด - w –
กลับมาแล้วฮืออออออออออออ ;__;
ยังมีใครติดตามอยู่มั๊ยเนี่ยยย Y Y
ความคิดเห็น