ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ฟลอเรนซ์
ในเมืองเก่าเเก่ของอิตาลี่อย่างฟลอเรนซ์ เเซม บาสเซตต์ ประธานเเละซีอีโอของ บาสเซตต์ คอร์ปอเรชั่น ออฟ อเมริกา ได้รับข่าวร้ายว่า จอห์น คาร์เตอร์ นักล่าเงินรางวัลที่เขาส่งไปเอาไพลินเหลวจากเมืองทรีบิลคินในไซบีเรียได้หายตัวไปอย่างลึกลับ มันเป็นข่าวร้ายที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมา
"จุดจบของบาสเซตต์ คอร์ปอเรชั่นมาถึงเเล้วหรือ"เเซมคิด"หายนะมาถึงตัวเราเเล้วหรือ" เขาไม่เคยพบวันอันเเสนเศร้าขนาดนี้มาก่อน นับตั้งเเต่ไมเคิล บาสเซตต์ ผู้เป็นพ่อนำบาสเซตต์
คอร์ปอเรชั่น ออกมาจาหายนะเเละวิกฤติเงินเฟ้อในปี 1945 บาสเซตต์ คอร์ปอเรชั่น กลายเป็นผู้นำ
อุตสาหกรรมการผลิตยาเเละเวชภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกา ไม่เเพ้กับนินเทนโดที่ผ่านพ้นช่วงปี 1980
ไปอย่างง่อนเเง่น เเต่บาสเซตต์ไม่ เเละวันนี้ เเซม เฮนรี่ บาสเซตต์ จะผลิตยาอายุวัฒณะจากไพลินเหลวให้สำเร็จ
ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับความฝันที่จะนำบาสเซตต์ คอร์ปอเรชั่นไปสู่ความสำเร็จอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น "ไอ้มือถือเวร"เเซมคิด"มาดังทำเอี๊ยะอะไรตอนนี้วะ" เเซมรับโทรศัพท์ ทันใดนั้น เสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาตามสาย
"อรุณสวัสดิ์ครับเจ้านาย"เสียงอันเป็นคุ้นหูของเเซมดังขึ้น"เราเพิ่งจะได้รับข่าวร้ายที่ว่าคุณคาร์เตอร์เสียชีวิตไปเเล้ว"
"เเล้วไงล่ะ บาร์นี่" เเซมตอบกลับไป " เเล้วความคืบหน้าเกี่ยวกับไพลินเหลวเป็นไงบ้าง"
"อย่างที่ว่าครับ ไพลินเหลวสามารถผลิตเป็นยาอายุวัฒณะที่สามารถยืดอายุคนธรรมดาได้เป็นร้อยๆ ปี เเละสามารถจำจัดเชื้อ HIV ได้อย่างหายขาด"
"เเล้วไงล่ะ มีเรื่องอื่นอีกไหมล่ะ เรื่องนี้ฉันรู้เเล้ว ฉันอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับไอ้มาร์ติน เฮกเตอร์ตัวเเสบที่เอฟบีไอส่งมาตามตอดฉัน"
"มันตายเเล้วครับ รถคว่ำตายเมื่อวานนี้ อีกอย่างครับไพลินเหลวมีผลข้างเคียงต่อผู้ใช้ เราได้จำลองสสารตัวนี้เเล้วใช้มันกับหนูทดลอง มันเเย่ยิ่งกว่าอะไรเสียอีก มัน.... มัน..."
"มันเป็นอะไรล่ะ บอกมาตรงๆสิ ฉันอยากรู้ว่ามันจะมีผลอะไรต่อผู้บริโภคเเละกำไรของฉันล่ะ
บาร์นี่"
"พวกหนูทดลองที่ได้รับสารตัวนี้มีอาการคลุ้มคลั่ง ไล่ฆ่าพวกตัวอื่นๆเเล้วพยายามเเหกกรงออกมา ผมว่าอย่าวางจำหน่ายยานี้เถอะท่าน มันอาจสังหารผู้คนนับล้านทั่วโลกได้ ล้มเลิกโครงการนี้เถอะเจ้านาย"
"อย่ามายุ่งกับงานของฉันบาร์นี่ มันเป็นเงินของฉันเเละเงินเดือนของเเก"
"ไม่นะท่าน ไม่จะไม่มีวันยอมฆ่าคนเป็นล้านเเน่นอน ผมจะลาออกเมื่อท่านวางจำหน่ายมัน"
"ใจเย็นๆน่า บาร์นี่ มันฆ่าคนไม่ได้หรอก มันเป็นยารักษาโรคนะ ไม่ใช่ยาพิษ"
"ไม่ๆๆ ผมลาออกตอนนี้เลย ผมจะไม่มีวันเป็นมือสังหารของท่าน"
"เหอะน่า ฉันขึ้นเงินเดือนให้เเกอีก 3 เท่าดีไหม"
"ไม่ๆๆ ผมไม่รับเงินสกปรกพวกนี้ ผมลาออก"
"เอาเถอะน่า บาร์นี่ เเกเป็นคนที่ฉันไว้ใจมากที่สุด อย่าเพิ่งลาออกเลยนะ.
"ตู๊ดๆๆ........
บาร์นี่วางสายไปเเล้ว ตอนนี้เเซมกำลังหาชื่อคนในโทรศัพท์มือถือของเขา เเต่ในที่สุด เขาก็เจอชื่อของชายคนหนึ่ง ชายคนนี้เป็นเพื่อนเก่าของเขา คนที่เขาไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุด ชื่อของเขาคือ
เเจ็ค ครูเกอร์
เเซมตัดสินใจอยู่พักหนึ่งเเล้วกดเบอร์ของครูเกอร์ลงในมือถือ
"จุดจบของบาสเซตต์ คอร์ปอเรชั่นมาถึงเเล้วหรือ"เเซมคิด"หายนะมาถึงตัวเราเเล้วหรือ" เขาไม่เคยพบวันอันเเสนเศร้าขนาดนี้มาก่อน นับตั้งเเต่ไมเคิล บาสเซตต์ ผู้เป็นพ่อนำบาสเซตต์
คอร์ปอเรชั่น ออกมาจาหายนะเเละวิกฤติเงินเฟ้อในปี 1945 บาสเซตต์ คอร์ปอเรชั่น กลายเป็นผู้นำ
อุตสาหกรรมการผลิตยาเเละเวชภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกา ไม่เเพ้กับนินเทนโดที่ผ่านพ้นช่วงปี 1980
ไปอย่างง่อนเเง่น เเต่บาสเซตต์ไม่ เเละวันนี้ เเซม เฮนรี่ บาสเซตต์ จะผลิตยาอายุวัฒณะจากไพลินเหลวให้สำเร็จ
ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับความฝันที่จะนำบาสเซตต์ คอร์ปอเรชั่นไปสู่ความสำเร็จอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น "ไอ้มือถือเวร"เเซมคิด"มาดังทำเอี๊ยะอะไรตอนนี้วะ" เเซมรับโทรศัพท์ ทันใดนั้น เสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาตามสาย
"อรุณสวัสดิ์ครับเจ้านาย"เสียงอันเป็นคุ้นหูของเเซมดังขึ้น"เราเพิ่งจะได้รับข่าวร้ายที่ว่าคุณคาร์เตอร์เสียชีวิตไปเเล้ว"
"เเล้วไงล่ะ บาร์นี่" เเซมตอบกลับไป " เเล้วความคืบหน้าเกี่ยวกับไพลินเหลวเป็นไงบ้าง"
"อย่างที่ว่าครับ ไพลินเหลวสามารถผลิตเป็นยาอายุวัฒณะที่สามารถยืดอายุคนธรรมดาได้เป็นร้อยๆ ปี เเละสามารถจำจัดเชื้อ HIV ได้อย่างหายขาด"
"เเล้วไงล่ะ มีเรื่องอื่นอีกไหมล่ะ เรื่องนี้ฉันรู้เเล้ว ฉันอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับไอ้มาร์ติน เฮกเตอร์ตัวเเสบที่เอฟบีไอส่งมาตามตอดฉัน"
"มันตายเเล้วครับ รถคว่ำตายเมื่อวานนี้ อีกอย่างครับไพลินเหลวมีผลข้างเคียงต่อผู้ใช้ เราได้จำลองสสารตัวนี้เเล้วใช้มันกับหนูทดลอง มันเเย่ยิ่งกว่าอะไรเสียอีก มัน.... มัน..."
"มันเป็นอะไรล่ะ บอกมาตรงๆสิ ฉันอยากรู้ว่ามันจะมีผลอะไรต่อผู้บริโภคเเละกำไรของฉันล่ะ
บาร์นี่"
"พวกหนูทดลองที่ได้รับสารตัวนี้มีอาการคลุ้มคลั่ง ไล่ฆ่าพวกตัวอื่นๆเเล้วพยายามเเหกกรงออกมา ผมว่าอย่าวางจำหน่ายยานี้เถอะท่าน มันอาจสังหารผู้คนนับล้านทั่วโลกได้ ล้มเลิกโครงการนี้เถอะเจ้านาย"
"อย่ามายุ่งกับงานของฉันบาร์นี่ มันเป็นเงินของฉันเเละเงินเดือนของเเก"
"ไม่นะท่าน ไม่จะไม่มีวันยอมฆ่าคนเป็นล้านเเน่นอน ผมจะลาออกเมื่อท่านวางจำหน่ายมัน"
"ใจเย็นๆน่า บาร์นี่ มันฆ่าคนไม่ได้หรอก มันเป็นยารักษาโรคนะ ไม่ใช่ยาพิษ"
"ไม่ๆๆ ผมลาออกตอนนี้เลย ผมจะไม่มีวันเป็นมือสังหารของท่าน"
"เหอะน่า ฉันขึ้นเงินเดือนให้เเกอีก 3 เท่าดีไหม"
"ไม่ๆๆ ผมไม่รับเงินสกปรกพวกนี้ ผมลาออก"
"เอาเถอะน่า บาร์นี่ เเกเป็นคนที่ฉันไว้ใจมากที่สุด อย่าเพิ่งลาออกเลยนะ.
"ตู๊ดๆๆ........
บาร์นี่วางสายไปเเล้ว ตอนนี้เเซมกำลังหาชื่อคนในโทรศัพท์มือถือของเขา เเต่ในที่สุด เขาก็เจอชื่อของชายคนหนึ่ง ชายคนนี้เป็นเพื่อนเก่าของเขา คนที่เขาไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุด ชื่อของเขาคือ
เเจ็ค ครูเกอร์
เเซมตัดสินใจอยู่พักหนึ่งเเล้วกดเบอร์ของครูเกอร์ลงในมือถือ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น