คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : The Last::จุดเริ่มต้น [100%]
ตอนที่ 1
จุดเริ่มต้น
สายลมแห่งความเศร้าและเจ็บปวดพัดผ่านเข้ามาในขณะที่หญิงสาวกำลังมองทอดออกไปอย่างไร้จุดหมายพร้อมกับสมุดบันทึกเล่มเล็กในขณะเดียวกันเธอกำลังจ้องมองบางสิ่งที่อยู่บนนิ้วมันคือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดบนแหวนนั้นได้สลัดชื่อของใครบางคนไว้ น้ำตาของหญิงสาวไหลริน พร้อมกับพูดอย่างเจ็บปวด “ทำไมนายทำอย่างนี้กับฉัน ไม่มีแล้วใช่ไหมไม่มีวันนั้นที่ฉันจะพูดคำว่า’รัก’กับนายได้อีกแล้วใช่ไหม.....”น้ำตาที่ไลหรินอย่างไม่ขาดพร้อมกับสายลมที่แสนเสร้าและหนาวเหน็บ เธอค่อยๆก้าวเดินไปบนชายหาดที่กว้างไกลออกไป...ออกไปทุกที
ท่าอากาศยาน 2550
ในขณะที่ทุกคนวุ่นวายก็ยังคนมีคนกลุ่มนึงจ้องมองมาทางผู้โดยสารขาเข้าอย่างไม่วางตาเผื่อว่าจะได้เจอใครสักคนที่พวกเค้ากำลังรออยู่
“นี่มันไรกันเนี่ยลิงนายดูเวลาถูกป่ะ”หญิงสาวคนนึงบ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก “นี่มัน
เลยเวลามาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”
“เหอๆน่ายัยหมิวแกจะรีบไปไหนไงไอ้วิน มันก็ต้องกลับมาอยู่แล้วเลิกบ่นซะทีเหอะแล้วปีย่าล่ะฉันไม่เห็นยัยนั่นเลย”ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นด้วยความรำคาญสุดจะทนเธอบ่นกับเค้าอย่างนั้นมาสิบกว่ารอบ
แล้ว......................เมื่อไหร่จะเลิกบ่นซะทีฟ่ะ....
“นี่นายจะไม่รู้เลยรึไงอ่าไม่มีทางที่ยัยนั่นจะมาหรอกไม่น่าถามโง่ๆเลยถึงฉันจะเป็นเพื่อนสนิทฉันยังแทบไม่เห็นยัยนั่นแม้แต่เงาด้วยซ้ำ”หมิวพูดในใจรู้อยู่ว่าเห็นผลที่ปีย่าไม่มานั้นเป็นเพราะอะไร
“เฮ้ย!นั่นไงไอ้วินจริงๆด้วยอ่านายที่สูดดดดดดมันก็มาแล้ว.....เฮ้ยไอ้วินทางนี้”ชายหนุ่มพูดพลางกระโดดเหยงๆอย่างดีใจว่าต่อไปยัยผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆจะได้เลิกบ่นซะที
“ไหนว่ะ ไอซ์ ไม่เห็นเลย”หมิวพูดพลางชำเลืองตาอันน้อยนิดของเธออย่างสุดๆ
โป้ก!!
“นั่นไงยัยตาถั่วหัดมองซะบ้างจิ”ไอซ์พูดอย่างเริ่มอารมณ์เสียหลังจากที่เค้าเขกหัวหญิงสาวไปแล้ว
“เจ็บน่าเฟร้ย...กล้ายังไงตีฉันแล้วยังมาด่าอีก”
“เลิกทะเลาะกันซักทีเหอะน่า”ชายหนุ่มผู้เดินเข้ามาพูดขึ้นเค้าดูหล่อเท่ห์ขึ้นกว่าเมื่อ4ปีก่อนมากเลยทีเดียวแถมยังใส่เสื้อยี่ห้อแบรนเนมชื่อดังอีกด้วยสมแล้วที่เป็นถึงลูกชายนักธุรกิจชื่อดัง
“ไมมาช้านักว่ะฉันนั่งฟังยัยตาถั่วนี่บ่นเป็นรอบที่ 10 แล้วน่ะเฟร้ย”ชายหนุ่มบ่นอุบอิบ
“ไรอีกอ่าเด๋วปัด”หญิงสาวตอบอย่างทันควันแต่สายตาของเธอก็มองเห็นชายหนุ่มรูปงามอีกคนกำลังพยายามมอง
หาคนสำคัญที่สุดของเค้าอยู่แต่ก็คิดในใจเสมอว่าเธอคงจะไม่มาเจอเค้าอีกแล้วหลังจากที่เค้าถูกทางบ้านบังคับให้หมั้นกับลูกสาวแวดวงนักธุรกิจเช่นเดียวกันไม่แปลกเลยเหตุผลนะหอก็เพราะเรื่องธุรกิจไงตอนนี้เค้าในสายตาเธอคงกลายเป็นไอ้ผู้ชายประเภทที่เธอเกลียดที่สุดไปแล้วก็คือ....................คนหลอกลวง.............................
ในบริเวณหนึ่งเวลาเดียวกันภายในห้องเล็กๆของหญิงสาวผู้มีรูปร่างหน้าตาที่ถือว่าดีไม่ใช่น้อยแต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหม่นหมองจากความเจ็บปวดที่เกาะกินหัวใจเธอไปทุกทีพร้อมกับกำแพงหนาที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันความเจ็บปวดนั้นให้จางไป
“วันนี้แล้วสินะที่เค้าจะกลับมา....ตอนนี้ฉันไม่ควรจะอ่อนแออีกปีย่าเธอเข้มแข็งนะอย่าให้ผู้ชายเพียงแค่คนเดียวมาทำให้เธอเป็นอย่างนี้สิ” เค้ามันก็แค่................คนหลอกลวงที่โกหกเธอไม่มีวันสิ้นสุดเสียที
หญิงสาวพูดกับตัวเองพร้อมกับน้ำตาหยดสุดท้ายที่จะรินไหลออกมา
“เข้มแข็งสิ เธอต้องเข้มแข็งนะ”เธอพูดฝีเท้าของเธอค่อยเดินไปที่ห้องอาบน้ำเพื่อต้อนรับวันใหม่ที่จะสดใสกว่าเดิมของเธอ
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบออกจากห้องแล้วบึ่งรถด้วยความเร็วสูงไปที่ทำงานของเธอซักที...^_^
เธอไม่ใช่เด็กอมมือนะแต่ว่าตอนนี้ฉันอายุ 24 ปีแล้วโตพอที่จะลืมไอ้ผู้ชายพันธ์นั้นออกไปจากใจเสียที
บริษัทโฆษณาชื่อดังแห่งหนึ่ง
ภายในบริษัทนั้นเป็นบริเวณที่กว้างขวางตกแต่งอย่างสวยงามในแบบของความชอบส่วนตัวของเจ้าของภายในมีคนพลุกพล่านไปมาในขณะที่หญิงสาวกำลังก้าวเข้าไปในบริษัทแห่งนี้ที่เธอคิดว่ามันทำให้เธอมีความสุขที่สุดแล้วเวลาได้อยู่ที่นี.....ในช่วงเวล่เดียวกันก็มีเสียงใสนึงเรียกขานเธอ “ปีย่าทางนี้”เจ้าของเสียงใสนี้เธอคือ ‘จ๊อบ’
ลูกสาวเจ้าของบริษัทโฆษนาแห่งนี้นั่นเองแต่ด้วยความที่เธอเกียจงานบริหารสิ้นดีเธอเลยขอพ่อสุดที่รักมาเป็นพนักงานดีกว่าและที่สำคัญเธอก็คือเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันหญิงสาวในตอนนี้
“นึกว่าชาตินี้แกจะไม่มาซะแล้ว”เพื่อนสาวถามขึ้นใจก็รู้สึกดีใจไม่น้อยเลยที่เธอกลับมาได้ช่วงที่เจอกันแรกๆเธอดูสดใสน่ารักแล้วแต่ตอนนี้เธอกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน.......เย็นชา.......ไร้หัวใจ
“อืม”หญิงสาวตอบพร้อมกับน้ำเสียงที่ราบเรียบโดยสายตาคู่นั้นยังแฟงไปด้วยรอยน้ำตาแห่งความเจ็บปวดไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่จะลืมมันไปได้เพียงแค่ช่วงข้ามคืน
“นี่พ่ออ่ะ..เฮ้ยไม่ใช่สิหัวหน้าอ่ามีงานให้แกทำเต็มเลยรีบๆไปเหอะเด๋วฉันโดนเทศน์ยาวอีกวันนึงโดนไปไม่รู้กี่สิบรอบไม่รู้จะบ่นไรนักหนา”เธอพูดพลางจับมือแล้วลากหญิงสาว(ซึ่งตัวของเธอช่างเบาหวิวเสียจริงไปขึ้น)ขึ้นลิฟท์ไปอย่างรวดเร็วเป้าหมายก็คือห้องของท่านประธานชั้น 12 นั่นเอง
“อืมๆๆ”น้ำเสียงของเธอดูสดใสขึ้นและยังคงขำเพื่อนสาวที่ไม่รู้จักโตอย่าง จีรสา วิชยะกุล จริงๆ ^_^
ติ้งต่อง
หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 5 นาทีพวกเราก็มาถึงชั้นสิบสองซึ่งในชั้นนี้คือชั้นฝ่ายผู้บริหารและสำนักงานต่างๆ
ก้อกๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลังจากที่จ๊อบเคาะประตูของผู้เป็นพ่อของเธอ
“อ้อมาแล้วหรอเข้ามาสิ”เสียงนุ่มคุ้นหูของชายอายุราว 50 ปี แต่หน้าตาไม่ได้ดูแก่ไปตามอายุเลยแถมยังมีนิสัยขี้เล่นเหมือนเด็กอีกต่างหาก
“มาแล้วค่านักออกแบบโฆษณาที่เก่งที่สุดของบริษัทเรา”จ๊อบพูดด้วยน้ำเสียงที่ปลื้มปิติอย่างยิ่ง
“ขอโทษนะคะที่ทำให้เป็นห่วง”หญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดที่ทำอะไรตามใจตัวเองเกินไปจนทำให้หลายๆคนต้องเป็นห่วงเธอ
“ไม่เป็นไรหรอก.....ช่วงที่เธอไม่อยู่เนี่ยมีงานเข้ามาเต็มไปหมดอ่ะนี่”หัวหน้าพูดพร้อมกับยื่นเอกสารข้อมูลบางอย่างให้แก่หญิงสาว “ฉันคิดว่างานนี้เหมาะกับเธอที่สุดแล้ว”
“งานโฆษณาบริษัทเครื่องสำอางเหรอคะ?”หญิงสาวถามด้วยความรู้สึกที่งงๆเล็กน้อย.....เครื่องสำอางค์เหรอ....
“ใช่แล้วชอบใช่ไหมละไม่ใช่ไหมละมีของแจกฟรีด้วย.......ฉันกับพ่อเอ้ยยไม่ใช่หัวหน้าอ่านั่งพิจารณาตั้งนานแล้วคิดว่างานเนี่ยเหมาะกับเธอที่สุดแล้ว”จ้อบพูดแต่ในใจของเธอก็มีคำพูดที่ว่า..............
ของฟรีๆๆๆๆ..............
“ทางบริษัทเนี่ยเค้าต้องการให้เป็นแบบเนื้อเรื่องฉันหวังว่าเธอจะไปทำให้บริษัทต้องขายหน้าหรอกนะ”น้ำเสียงของหัวหน้าฟังดูจริงจังมากขึ้นเพราะคิดว่าไว้ใจในฝีมือของหญิงสาวได้
“แน่นอนค่ะไม่ต้องห่วงดิฉันจะไม่ทำให้หัวหน้าและทุกคนต้องผิดหวังคะ”เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและมั่นใจต่อไปนี้เธอจะมุ่งแต่งานและงานนี้เธอก็ต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเพราะว่าตอนนี้
ปีย่าคนนี้ไม่ใช่คนที่อ่อนแออีกต่อไป!!
สวัสดีค่าเม้นเถอะน้าพลีสๆๆๆๆๆ
ตอนนี้งานท่วมหัวเยอะมากมาย
เม้นเถอะนะคะที่ร้ากจะได้มีกำลังใจ
ความคิดเห็น