ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::The last love:: รักสุดท้ายของหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : The Last::จุดเริ่มต้น [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 50


                  

                          

                   

     

     

    ตอนที่ 1

    จุดเริ่มต้น

     

    สายลมแห่งความเศร้าและเจ็บปวดพัดผ่านเข้ามาในขณะที่หญิงสาวกำลังมองทอดออกไปอย่างไร้จุดหมายพร้อมกับสมุดบันทึกเล่มเล็กในขณะเดียวกันเธอกำลังจ้องมองบางสิ่งที่อยู่บนนิ้วมันคือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดบนแหวนนั้นได้สลัดชื่อของใครบางคนไว้  น้ำตาของหญิงสาวไหลริน พร้อมกับพูดอย่างเจ็บปวด  ทำไมนายทำอย่างนี้กับฉัน ไม่มีแล้วใช่ไหมไม่มีวันนั้นที่ฉันจะพูดคำว่ารักกับนายได้อีกแล้วใช่ไหม.....”น้ำตาที่ไลหรินอย่างไม่ขาดพร้อมกับสายลมที่แสนเสร้าและหนาวเหน็บ  เธอค่อยๆก้าวเดินไปบนชายหาดที่กว้างไกลออกไป...ออกไปทุกที

     

    ท่าอากาศยาน  2550

    ในขณะที่ทุกคนวุ่นวายก็ยังคนมีคนกลุ่มนึงจ้องมองมาทางผู้โดยสารขาเข้าอย่างไม่วางตาเผื่อว่าจะได้เจอใครสักคนที่พวกเค้ากำลังรออยู่

     

     

    นี่มันไรกันเนี่ยลิงนายดูเวลาถูกป่ะหญิงสาวคนนึงบ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก นี่มัน

    เลยเวลามาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วนะ

     

     

    เหอๆน่ายัยหมิวแกจะรีบไปไหนไงไอ้วิน มันก็ต้องกลับมาอยู่แล้วเลิกบ่นซะทีเหอะแล้วปีย่าล่ะฉันไม่เห็นยัยนั่นเลยชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นด้วยความรำคาญสุดจะทนเธอบ่นกับเค้าอย่างนั้นมาสิบกว่ารอบ

     

    แล้ว......................เมื่อไหร่จะเลิกบ่นซะทีฟ่ะ....

     

     

    นี่นายจะไม่รู้เลยรึไงอ่าไม่มีทางที่ยัยนั่นจะมาหรอกไม่น่าถามโง่ๆเลยถึงฉันจะเป็นเพื่อนสนิทฉันยังแทบไม่เห็นยัยนั่นแม้แต่เงาด้วยซ้ำหมิวพูดในใจรู้อยู่ว่าเห็นผลที่ปีย่าไม่มานั้นเป็นเพราะอะไร

    เฮ้ย!นั่นไงไอ้วินจริงๆด้วยอ่านายที่สูดดดดดดมันก็มาแล้ว.....เฮ้ยไอ้วินทางนี้ชายหนุ่มพูดพลางกระโดดเหยงๆอย่างดีใจว่าต่อไปยัยผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆจะได้เลิกบ่นซะที

     

     

    ไหนว่ะ ไอซ์  ไม่เห็นเลยหมิวพูดพลางชำเลืองตาอันน้อยนิดของเธออย่างสุดๆ

     

     

    โป้ก!!

     

     

    นั่นไงยัยตาถั่วหัดมองซะบ้างจิไอซ์พูดอย่างเริ่มอารมณ์เสียหลังจากที่เค้าเขกหัวหญิงสาวไปแล้ว

     

     

    เจ็บน่าเฟร้ย...กล้ายังไงตีฉันแล้วยังมาด่าอีก

     

     

     

     

     

     

     

    เลิกทะเลาะกันซักทีเหอะน่าชายหนุ่มผู้เดินเข้ามาพูดขึ้นเค้าดูหล่อเท่ห์ขึ้นกว่าเมื่อ4ปีก่อนมากเลยทีเดียวแถมยังใส่เสื้อยี่ห้อแบรนเนมชื่อดังอีกด้วยสมแล้วที่เป็นถึงลูกชายนักธุรกิจชื่อดัง

     

     

    ไมมาช้านักว่ะฉันนั่งฟังยัยตาถั่วนี่บ่นเป็นรอบที่ 10 แล้วน่ะเฟร้ยชายหนุ่มบ่นอุบอิบ

    ไรอีกอ่าเด๋วปัดหญิงสาวตอบอย่างทันควันแต่สายตาของเธอก็มองเห็นชายหนุ่มรูปงามอีกคนกำลังพยายามมอง

    หาคนสำคัญที่สุดของเค้าอยู่แต่ก็คิดในใจเสมอว่าเธอคงจะไม่มาเจอเค้าอีกแล้วหลังจากที่เค้าถูกทางบ้านบังคับให้หมั้นกับลูกสาวแวดวงนักธุรกิจเช่นเดียวกันไม่แปลกเลยเหตุผลนะหอก็เพราะเรื่องธุรกิจไงตอนนี้เค้าในสายตาเธอคงกลายเป็นไอ้ผู้ชายประเภทที่เธอเกลียดที่สุดไปแล้วก็คือ....................คนหลอกลวง.............................

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ในบริเวณหนึ่งเวลาเดียวกันภายในห้องเล็กๆของหญิงสาวผู้มีรูปร่างหน้าตาที่ถือว่าดีไม่ใช่น้อยแต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหม่นหมองจากความเจ็บปวดที่เกาะกินหัวใจเธอไปทุกทีพร้อมกับกำแพงหนาที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันความเจ็บปวดนั้นให้จางไป

     

     

    วันนี้แล้วสินะที่เค้าจะกลับมา....ตอนนี้ฉันไม่ควรจะอ่อนแออีกปีย่าเธอเข้มแข็งนะอย่าให้ผู้ชายเพียงแค่คนเดียวมาทำให้เธอเป็นอย่างนี้สิ เค้ามันก็แค่................คนหลอกลวงที่โกหกเธอไม่มีวันสิ้นสุดเสียที

     

     

    หญิงสาวพูดกับตัวเองพร้อมกับน้ำตาหยดสุดท้ายที่จะรินไหลออกมา

    เข้มแข็งสิ  เธอต้องเข้มแข็งนะเธอพูดฝีเท้าของเธอค่อยเดินไปที่ห้องอาบน้ำเพื่อต้อนรับวันใหม่ที่จะสดใสกว่าเดิมของเธอ

     

     

    หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบออกจากห้องแล้วบึ่งรถด้วยความเร็วสูงไปที่ทำงานของเธอซักที...^_^

    เธอไม่ใช่เด็กอมมือนะแต่ว่าตอนนี้ฉันอายุ 24 ปีแล้วโตพอที่จะลืมไอ้ผู้ชายพันธ์นั้นออกไปจากใจเสียที

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    บริษัทโฆษณาชื่อดังแห่งหนึ่ง

    ภายในบริษัทนั้นเป็นบริเวณที่กว้างขวางตกแต่งอย่างสวยงามในแบบของความชอบส่วนตัวของเจ้าของภายในมีคนพลุกพล่านไปมาในขณะที่หญิงสาวกำลังก้าวเข้าไปในบริษัทแห่งนี้ที่เธอคิดว่ามันทำให้เธอมีความสุขที่สุดแล้วเวลาได้อยู่ที่นี.....ในช่วงเวล่เดียวกันก็มีเสียงใสนึงเรียกขานเธอ ปีย่าทางนี้เจ้าของเสียงใสนี้เธอคือ จ๊อบ

    ลูกสาวเจ้าของบริษัทโฆษนาแห่งนี้นั่นเองแต่ด้วยความที่เธอเกียจงานบริหารสิ้นดีเธอเลยขอพ่อสุดที่รักมาเป็นพนักงานดีกว่าและที่สำคัญเธอก็คือเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันหญิงสาวในตอนนี้

     

     

    นึกว่าชาตินี้แกจะไม่มาซะแล้วเพื่อนสาวถามขึ้นใจก็รู้สึกดีใจไม่น้อยเลยที่เธอกลับมาได้ช่วงที่เจอกันแรกๆเธอดูสดใสน่ารักแล้วแต่ตอนนี้เธอกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน.......เย็นชา.......ไร้หัวใจ

     

    อืมหญิงสาวตอบพร้อมกับน้ำเสียงที่ราบเรียบโดยสายตาคู่นั้นยังแฟงไปด้วยรอยน้ำตาแห่งความเจ็บปวดไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่จะลืมมันไปได้เพียงแค่ช่วงข้ามคืน

     

     

    นี่พ่ออ่ะ..เฮ้ยไม่ใช่สิหัวหน้าอ่ามีงานให้แกทำเต็มเลยรีบๆไปเหอะเด๋วฉันโดนเทศน์ยาวอีกวันนึงโดนไปไม่รู้กี่สิบรอบไม่รู้จะบ่นไรนักหนาเธอพูดพลางจับมือแล้วลากหญิงสาว(ซึ่งตัวของเธอช่างเบาหวิวเสียจริงไปขึ้น)ขึ้นลิฟท์ไปอย่างรวดเร็วเป้าหมายก็คือห้องของท่านประธานชั้น 12  นั่นเอง

     

     

    อืมๆๆน้ำเสียงของเธอดูสดใสขึ้นและยังคงขำเพื่อนสาวที่ไม่รู้จักโตอย่าง  จีรสา   วิชยะกุล  จริงๆ ^_^

     

     

     

     

    ติ้งต่อง

     

    หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 5 นาทีพวกเราก็มาถึงชั้นสิบสองซึ่งในชั้นนี้คือชั้นฝ่ายผู้บริหารและสำนักงานต่างๆ

     

    ก้อกๆๆๆๆ

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลังจากที่จ๊อบเคาะประตูของผู้เป็นพ่อของเธอ

     

    อ้อมาแล้วหรอเข้ามาสิเสียงนุ่มคุ้นหูของชายอายุราว 50 ปี  แต่หน้าตาไม่ได้ดูแก่ไปตามอายุเลยแถมยังมีนิสัยขี้เล่นเหมือนเด็กอีกต่างหาก

     

    มาแล้วค่านักออกแบบโฆษณาที่เก่งที่สุดของบริษัทเราจ๊อบพูดด้วยน้ำเสียงที่ปลื้มปิติอย่างยิ่ง

     

     

    ขอโทษนะคะที่ทำให้เป็นห่วงหญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดที่ทำอะไรตามใจตัวเองเกินไปจนทำให้หลายๆคนต้องเป็นห่วงเธอ

     

    ไม่เป็นไรหรอก.....ช่วงที่เธอไม่อยู่เนี่ยมีงานเข้ามาเต็มไปหมดอ่ะนี่หัวหน้าพูดพร้อมกับยื่นเอกสารข้อมูลบางอย่างให้แก่หญิงสาว   ฉันคิดว่างานนี้เหมาะกับเธอที่สุดแล้ว

     

     

    งานโฆษณาบริษัทเครื่องสำอางเหรอคะ?”หญิงสาวถามด้วยความรู้สึกที่งงๆเล็กน้อย.....เครื่องสำอางค์เหรอ....

     

     

    ใช่แล้วชอบใช่ไหมละไม่ใช่ไหมละมีของแจกฟรีด้วย.......ฉันกับพ่อเอ้ยยไม่ใช่หัวหน้าอ่านั่งพิจารณาตั้งนานแล้วคิดว่างานเนี่ยเหมาะกับเธอที่สุดแล้วจ้อบพูดแต่ในใจของเธอก็มีคำพูดที่ว่า..............

    ของฟรีๆๆๆๆ..............

     

     

    ทางบริษัทเนี่ยเค้าต้องการให้เป็นแบบเนื้อเรื่องฉันหวังว่าเธอจะไปทำให้บริษัทต้องขายหน้าหรอกนะน้ำเสียงของหัวหน้าฟังดูจริงจังมากขึ้นเพราะคิดว่าไว้ใจในฝีมือของหญิงสาวได้

     

     

    แน่นอนค่ะไม่ต้องห่วงดิฉันจะไม่ทำให้หัวหน้าและทุกคนต้องผิดหวังคะเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและมั่นใจต่อไปนี้เธอจะมุ่งแต่งานและงานนี้เธอก็ต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเพราะว่าตอนนี้

     

     

    ปีย่าคนนี้ไม่ใช่คนที่อ่อนแออีกต่อไป!!

     


     สวัสดีค่าเม้นเถอะน้าพลีสๆๆๆๆๆ
    ตอนนี้งานท่วมหัวเยอะมากมาย
    เม้นเถอะนะคะที่ร้ากจะได้มีกำลังใจ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×