ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic BTS] Sungnumja Game (KookV)

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : ยั่วให้หลง ภาค 1 (141111)

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 59


    ง่ะ ขอโทษนะคะที่หายไป พอดีเราไปต่อแถวซื้อพรีเซลมา ต่อตั้งแต่กลางคืนอ่ะ T^T แต่ก็ได้มาจนได้ 55555 วันเสาร์กลับบ้านมานี่สลบเลย ใครจะไปคอนเม้ามอยมาได้น้า ตอนนี้สปีดการแต่งช้ามากเพราะไม่ค่อยว่างเลยค่ะ แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งแน่นอน อิอิอิ อาจจะมาอัพช้าบ้างอะไรบ้าง


    สำหรับคนที่กด fav และคอมเม้น และโหวต ขอบคุณมากๆนะคะ คนที่อ่านนิยายของไรท์หลายรอบก็ขอบคุณมากจริงๆน้า ชอบกุกวีต่อไปนานๆเนอะ ^^ 


    แอบเสียใจไม่ได้ไปไฮทัช :(

    .................................................................


    Chapter 6
    ยั่วให้หลง ภาค 1


    อย่างไอ้แทเนี่ยนะยั่ว? ขนาดแมวที่บ้านยังเมินมันเลย – เชูก้า

    ภาค 1 เหรอ? น่าจะเจ๊งตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ไม่ต้องหวังสร้างภาคสองหรอก – จีมิน

    ………………… - ค.ท.ฮ


    ………………………………………… 



             ขณะที่เราสองคนกำลังจ้องหน้ากันอย่างเคลิบเคลิ้มด้วยท่าทางเสี่ยงโดนแบน (?)


    “เมื่อไหร่จะลุกเนี่ย หนักยังกับช้าง”



    ช้างงงงงง



    ช้างที่ไหนหล่อขนาดนี้ห๊ะ!!!



    ผมจ้องจองกุกเขม็งด้วยความโมโห หนักมากใช่ป่ะไอ้เด็กบ้า มันอยากให้ออกไปแต่ผมไม่ออกแล้วจะทำไม ผมมองหน้าไอ้เด็กที่หล่อน้อยกว่าผมแล้วเชิดหน้าขึ้น กดทับน้ำหนักลงไปที่เอวมันมากกว่าเดิม ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้ก็โดนทับตายไปเหอะ!



    “พี่วี นี่พี่จะไม่ลุกจริงๆใช่ป่ะ” เสียงของจองกุกเข้มขึ้น คิ้วเรียวขมวดมุ่น “ไม่เห็นรู้มาก่อนว่าพี่หลงผมขนาดไม่อยากออกไปไหน จริงๆผมก็ไม่ถือหรอก แต่เราอยู่ที่สาธารณะ ถ้าเปลี่ยนเป็นในห้องนอน…”



    พรึ่บบบบ



    ไม่ต้องรอให้มันพูดจบประโยคผมก็ลุกออกไปทันที โคตรจะพลาดเพราะรอยยิ้มกริ่มบ่งบอกชัยชนะของจองกุกปรากฏบนใบหน้าหล่อทันทีที่หลอกให้ผมลุกออกไปได้



    “มานั่งนี่สิ”



    จองกุกยันตัวขึ้นนั่งแล้วตบลงที่ตักตัวเองเบาๆ มักเน่มันต้องมีปัญหาทางสมองแน่ๆ เมื่อกี๊บอกว่าผมหนักแต่เรียกให้เข้าไปนั่งตักเนี่ยนะ เปลี่ยนจากนอนเป็นนั่งแล้วน้ำหนักมันจะเบาลงรึไง



    แล้วทำไมผมต้องทำตามมันด้วยฟ่ะ คิดว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้รึไง ผมไม่ไปหรอก ดัดนิสัยซะบ้าง -_-



    ทำไมพี่ต้องไปด้วย” ผมกวนตีนจนน้องมันขมวดคิ้วหน้าบึ้ง



    “ดื้อ ผมบอกให้ลุกก็ไม่ลุก พอผมบอกให้นั่งก็ไม่ยอมอีก พี่นี่กวนประสาทจริงๆ” 



    “ใครกันแน่ พี่อยากนอนนายก็ให้พี่ลุกออกไป แล้วตอนนี้พี่อยากนั่งตรงนี้ นายก็จะมาย้ายที่พี่อีก จองกุกต่างหากที่กวนประสาท”



    ผมเหวี่ยงใส่มักเน่เบาๆ แต่แทนที่จะโกรธ จองกุกกลับกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วมองหน้าผมด้วยสายตาร้อนแรงจนผมรู้สึกร้อนมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว มือใหญ่ช้อนคางผมขึ้น นิ้วโป้งไล้ไปมาที่แก้มผมเบาๆ



    “ชอบนอนบนตัวผมก็บอกดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องรุนแรงเลย”



    พูดจบไอ้เด็กปีศาจก็ล้มตัวลงนอนบนเสื่อปิคนิกตามเดิม แต่ความกวนตีนของมันยังไม่หมดแค่นั้น เมื่อมันกระดิกนิ้วเรียกผมด้วยท่าทางยังกับเสี่ยเต๊าะเด็ก โคตรจะเซ็กซี่เลย (เฮ้ยยย เผลอคิดดัง) 



    ใจนึงก็อยากกระทืบ แต่อารมณ์อยากกระโจนเข้าหาทำไมมันมีมากกว่าไม่รู้ โอ๊ย ออมม่า ทำไมน้องวีกลายไปคนหื่นไปแล้วเนี่ย แอบกลัวตัวเอง



    “รออะไรอยู่ มานอนสิ ชอบนอน บนตัวผม มากกว่านั่ง บนตัวผม ไม่ใช่เหรอ”



    จองกุกเน้นเสียงตรงคำว่า บนตัวผม ทำให้คำนั้นดูเรทขึ้นกว่าเดิม 



    คิมวีอยากจะกรี๊ดแต่กลัวเคะแตก ทำไมสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ไปได้ แค่เรื่องนั่งๆนอนๆนี่จองกุกมันมีความสามารถขนาดทำให้ดูติดเรทได้มากขนาดนี้ ผมควรจะดีใจกับพัฒนาการของน้องมั้ย



    ได้แต่อ้าปากค้างจนแมลงวันแทบจะบินเข้าไปได้ทั้งฝูง จองกุกที่เห็นผมเริ่มเข้าโหมดเอ๋ออาศัยจังหวะนี้เกี่ยวเอวผมเข้าไปหาจนล้มลงบนอกกว้าง หน้าเราสองคนอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ 



    ไหนใครบอกว่าที่นี่เป็นที่สาธารณะครับ!!! ที่ทำอยู่นี่สาธารณะมากกก



    “เอ่อ…จองกุก เราอยู่ที่สาธารณะนะ” ผมย้ำเตือนคำพูดของมัน



    “แล้วไงครับ ถ้าผมพอใจ แล้วพี่วีอยากนอน ผมก็ทำให้ที่สาธารณะเป็นที่ส่วนตัวได้ เห็นอยากนอนบนตัวผมมากกว่านั่งบนตักผม จองกุกเป็นมักเน่จะขัดใจพี่วีได้ไง”



    แม่มผมโคตรจะดีใจที่มักเน่เชื่อฟังขนาดนี้ ซาบซึ้งน้ำตาไหลอยากจะกดแชร์ T^T  ทีเรื่องไม่เป็นเรื่องล่ะเชื่อฟังเหลือเกินนะ จอนจองกุก 



                   “แต่พี่ไม่อยากนอนบนตัวนาย” 



    ผมอ้อมแอ้มตอบกลับไป ไม่กล้ามองสบตาอีกฝ่าย ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดริมฝีปากผมจนต้องหันหน้าหนีไปมองพื้นสีแดงสลับขาวของเสื่อปิคนิกแทน



    “งั้นเปลี่ยนเป็นผมนอนบนตัวพี่……”



    “ไม่ ไม่ ไม่ นั่งแล้ววววว พี่อยากนั่งแล้วตอนนี้ เรามานั่งกันเหอะนะ จอนจองกุก”



    จะนั่งหรือจะนอนแม่งก็แย่พอกันเลย!!!



    ผมขยับตัวอย่างอึดอัดบนตักของจองกุก มองฟ้า มองทะเล มองทรายไปเรื่อย มองอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่หน้าของมักเน่ที่อยู่ตรงหน้า อ้อมแขนของเขาโอบรัดเอวผมไว้แน่น ไอ้เด็กบ้านี่นั่งจ้องหน้าผมเฉยๆมา 5 นาทีแล้ว มันจะจ้องอะไรนักหนาเนี่ยยยย



    “พี่วี”



    เสียงทุ้มที่เรียกกะทันหันทำให้ผมสะดุ้งสุดตัว ละสายตาจากนกที่กำลังบินอยู่มามองหน้าเขาทันที



    “อ….อะไร” 



    “เรื่องเมื่อคืนน่ะ…ผมยังไม่หายโกรธนะ”



    เรื่องเมื่อคืน…..



    .



    .



    .



    เรื่องเมื่อคืน…..



    เรื่องเมื่อคืนที่มันโกรธผมแบบไร้เหตุผลเพราะผมอยากแมนกว่ามันอ่ะนะ นี่ยังไม่ลืมอีกเหรอเนี่ย ผมนึกว่าจองกุกจะหายโกรธแล้วนะ =[]= ทำไมขี้งอนแบบนี้ฟ่ะ 



    ประเด็นคือผมไม่รู้ด้วยซ้ำอ่าว่าทำอะไรผิด (ระดับความซับซ้อนทางความคิดมันคนละระดับกันครับ ไม่งั้นคนอื่นจะหาว่าผมโง่เหรอ) ถ้ารู้ก็ง้อไปนานแล้ว ไม่มานั่งทำเนียนไม่รู้เรื่องแบบนี้หรอก 



    เหตุผลเดียวที่ผมคิดออกคือ จองกุกไม่อยากยอมแพ้ มักเน่มันเป็นประเภทเกลียดการพ่ายแพ้เวลาเล่นเกมส์มากๆ เด็กนี่มันคงจะโกรธที่ผมไม่ยอมแพ้มัน….?



    หรือผมพลาดประเด็นอะไรไป?



    ถ้าคิดแบบหลงตัวเอง มักเน่มันกำลังบอกอ้อมๆว่าอยากดูแลผมรึเปล่าง่ะ? แบบว่าไม่ต้องมาดูแลผม เดี๋ยวผมดูแลพี่เองนะ (คิดภาพจองกุกทำตาหวานซึ้งเป็นแบ็คกราวน์)



    เอิ่ม…ไม่น่าใช่ ตัดทิ้งไปได้เลย ปกติมันสนใจไยดีผมที่ไหน มีแต่ผมเนี่ยแหละที่ตามใจมันที่ชอบอ้อนเอาโน่นนี่ ที่มาดูแลผมเพราะสถานการณ์บังคับเหอะ 



    แล้วถึงผมจะพล่ามออกไปว่าอยากแมน แต่ความจริงก็คือตั้งแต่เริ่มเรื่องมา คิมแทคนนี้ยังไม่เห็นว่าชีวิตจะแมนขึ้นเพราะเกมส์ซังนัมจาเลยสักนิดมีแต่บัดซบปนสับสนมากขึ้นทุกวัน 



    จนบางทีก็รู้สึกเหมือนกำลังโดนบังทันรวมหัวกันแกล้งวางแผนอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะไอ้จีมิน! 



    รู้งี้ไม่น่าไปถีบก้นมันเลยอ่า ถ้ารู้ว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้กดหัวลงส้วมคงจะสะใจกว่ามาก อิอิอิ (ยังไม่สำนึก)



    “พี่วี…เป็นอะไร ทำไมเงียบไปเลย”



    ผมกระพริบตาปริบๆ เพิ่งรู้ตัวว่าเข้าโหมดติดต่อยานแม่อีกแล้ว



    พอจองกุกเห็นผมทำหน้าอึนเขาก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นประคองใบหน้าผมเบาๆ นิ้วโป้งที่สากนิดๆไล้วนเกลี่ยแก้มผมไปมา สัมผัสอ่อนโยนที่ได้รับทำให้เผลอเคลิ้มหลับตา ซุกหน้าแนบกับฝ่ามือเขามากขึ้นเหมือนลูกแมวที่กำลังออดอ้อนเจ้าของ 



    จองกุกหยุดมือที่ลูบแก้มผมทันที ผมลืมตามองจึงเห็นว่าดวงตาเขาเข้มขึ้นจนทำให้ใบหน้าดูเคร่งขรึมไป



    “ถึงจะอ้อนแบบนี้ ก็ไม่หายโกรธหรอกนะ”



    มักเน่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบจนผมแอบเฟลในใจเบาๆ



    น่ารักระดับมงกุฎเพชรแบบนี้แม่งยังทำใจแข็งได้ โคตรจะใจดำเลย ถ้าเป็นคนอื่นนี่ละลายไปแล้ว  แต่คิดอีกที ผมเคยไปทำท่าแบบนี้ใส่หมูจี มันก็ยี้ใส่เหมือนกันนี่หว่า =[]=  อุตส่าห์พยายามอ้อนแบบเนียนๆเผื่อมันฟลุ๊กหายโกรธแล้วนะ



    สงสัยคงต้องหาวิธีใหม่ ไม่เป็นไร มารยาผมมีเต็มเพราะรุ่นพี่แบค EXO สอนมาดี อิอิอิ (แบคฮยอน : กุเกี่ยวไร?)



    “หิวมั้ย” 



    ผมลองใหม่ด้วยการพูดด้วยน้ำเสียงที่หวานสุดในชีวิต (ถ้าจีมินมันได้ยินต้องด่าว่าผมอ่อยอีกแน่ๆ) จองกุกขมวดคิ้ว ในใจคงระแวงว่าพี่คนนี้เป็นบ้าอะไรอีก แต่ก็พยักหน้า ผมเลยเอื้อมมือไปหยิบแซนวิสไส้ที่เขาชอบออกมา



    “ป้อนนะ อ้าปากสิ อ้ามมมมม”



    ท่าทางน่ารักของคิมวีทำให้มักเน่ผงะไปเลย จองกุกจ้องแซนวิสยังกับผมวางยาถ่ายลงในอาหาร เขามองแซนวิส มองหน้าผม แล้วก็มองแซนวิส แล้วก็มองหน้าผมที่ส่งยิ้มหวานจ๋อยสลับไปมา 



    ไอ้เด็กนี่โคตรจะเล่นตัว! กินๆเข้าไปดิ แกเป็นคนทำเองนะ ทำมาเป็นระแวง!! (ด่าได้แค่ในใจ)



    “อ้าปากเร็วๆสิ กุกกี้ อ้ามมมมม”



    ผมลองพยายามอีกรอบด้วยท่าทางที่คิดว่าน่ารักที่สุด (ยั่วมันด้วยความน่ารักเนี่ยแหละง่ายดี)  ใครจิ้นไม่ออกก็ไปดูบังทันรูกี้ตอน 7 ที่ผมป้อนซูชินัมจุนฮยองเลยครับ โคตรน่ารัก ไม่อยากจะโฆษณาตัวเอง ร้อยทั้งร้อยโดนผมมองด้วยดวงตากลมโตป้อนแซนวิสถึงปากแบบนี้ ยังไงก็ต้องหลง



    “ผีสิงเหรอพี่วี”



    ยกเว้นมันไว้คนนึง!!!! 



    นอกจากจะไม่อินแล้วยังส่งสายตารังเกียจมาอีก เฮือกกกกก เสียเซลฟ์โพดๆ  ขนาดผมลองทำตามแผนการของจีมินที่บอกให้ยั่วให้จองกุกหลง (ผมยังไม่ลืมนะที่มันบอกให้ผมทำ ยังกับมีทางเลือกมาก) เซอร์วิสจัดเต็มน่ารักขนาดนี้จองกุกยังไม่ชายตามองเลย



    หรือว่าคิมแทจะกลายเป็นคนไร้เสน่ห์ไปซะแล้ว โฮๆๆๆๆ



    ผมคิดบทละครดราม่ากับตัวเองเงียบๆอยู่ภายในใจ แต่หน้าตาท่าทางดราม่าจัดเต็ม มองท้องฟ้า ทำหน้าซึมเศร้า ปาดน้ำตาที่ไม่มี ยกมือสองข้างขึ้นเหนือหัวด้วยท่าทางบูชาพระเจ้า (ท่าทางปกติของวีอ่ะ)



      ทำไมพระองค์ใจร้ายกับน้องวีแบบนี้ ฮือๆๆ 



    จองกุกถึงกับเหวออ้าปากค้าง มองผมที่เล่นละครเวอร์ชั่นสี่มิติอยู่คนเดียว ผมสบโอกาสนี้ยัดแซนวิสใส่ปากมันทันที!!



    “เฮ้ย อึก!!!”



    เอื้อมมือไปปิดปากไม่ให้มันพ่นออกมาได้ จองกุกเบิกตากว้างแต่ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเคี้ยวแซนวิสอันนั้นเข้าไป สมน้ำหน้า เล่นตัวดีนัก!



    “อร่อยมั้ยจ๊ะ จองกุกกี้”



    ผมพูดกับมันด้วยน้ำเสียงหวานๆ ไอ้เด็กปีศาจกลืนแซนวิสชิ้นนั้นลงคอไป ดวงตาคมวาววับ  ท่าทางโกรธยิ่งกว่าเดิมอีกอ่ะ!! แววตาบ่งบอกเลยว่าผมได้คอหักตายคามือมันแน่



    เวรกรรม ลืมสนิทเลยว่าต้องง้อ มัวแต่เล่นละครดราม่ากับตัวเอง ว่าแต่…มันโกรธผมเรื่องไรแล้วนะ ลืมไปแล้วววววว (หมดคำพูดใดๆกับน้องวี)



    โกรธอะไรก็ช่างเชื่อดิเดี๋ยวอีกแปปมันก็หายโกรธอยู่ดี วะฮ่ะฮ่า นานๆจะได้แก้แค้น สะใจจุงเบย 



    จองกุกถึงขั้นพูดไม่ออก (อย่าว่าแต่จองกุกเลย ไรท์แม่งยังงงว่าฉันแต่งไรออกไป) ผมหัวเราะคิกคัก เอื้อมมือไปลูบมายองเนสที่เลอะขอบปากจองกุกด้วยท่าทางน่ารักกับรอยยิ้มหวาน แบบที่ชาวบ้านเรียกว่า ถีบหัวแล้วลูบแก้ม (ตบหัวแล้วลูบหลังเฟ้ย)



    “ตรงนั้นดูน่ากินจังเลย”



    ความเลวของผมยังไม่หมดแค่นี้เพราะผมขุดความกล้าที่ออกมาจากส่วนลึกและความหื่นในก้นบึ้งของหัวใจ ยื่นหน้าเข้าไปเลียมุมปากที่เปื้อนมายองเนสของจองกุก



    เชร็ด เป็นไงล่ะ เจอเข้าไป สกิลการยั่วขั้นเทพของคิมแทฮยอง หึหึหึ แมนสุดๆ (แมนตรงไหนฟ่ะบอกที)



    ผมอาศัยจังหวะที่จองกุกกำลังเอ๋อ หยิบแซนวิสอีกชิ้นไปจ่อตรงปากของอีกคนทันที จองกุกอ้าปากรับแซนวิสชิ้นนั้นไปกินแต่โดยดี จนผมรู้สึกถึงชัยชนะที่เริ่มลอยมา



    บอกไว้เลยครับ เรื่องนี้ใครเขินคนนั้นเคะ ^^ แล้วถึงผมจะเขินจนตัวแทบแตกที่แสดงท่าทางแรดๆออกไป ผมก็ไม่มีทางแสดงออกมาให้จองกุกเห็นหรอก 



    มักเน่เคี้ยวแซนวิสชิ้นนั้นจนหมด ผมเอื้อมมือกำลังจะหยิบอีกชิ้นออกมาให้เขากิน (ไอ้เด็กนี่ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย ส่วนผมซัดแพนเค้กเข้าไปเยอะมาก) มือใหญ่กลับเอื้อมมากำข้อมือผมเอาไว้ อะไรอ่า อิ่มแล้ว? ขนาดผมยังกินเข้าไปตั้ง 5 ชิ้นเลย (ตะกละมาก)



    “พี่วี….” 



    จองกุกเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ช้อนสายตาขึ้นมามองผมด้วยท่าทางน่ารักจนผมเผลอใจเต้นแรงขึ้นมา เอาอีกแล้ว ไอ้หัวใจบ้านี่ โรคแพ้มักเน่กำเริบอีกแล้ว



    “ว…ว่าไง…หายโกรธ….แล้ว?”



    อาการขั้นที่ 1 ปากสั่น



    ไม่เขินสิ คิมแท ห้ามเขินเด็ดขาด ทั้งที่หน้าร้อนจนจะสุกแต่สีหน้าผมนี่โคตรนิ่ง



    “พี่วี...” จองกุกเรียกชื่อผมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า 



    “ปากผมเลอะอีกแล้ว ที่ตรงนี้…” เขาเลียริมฝีปากของตัวเองเบาๆ “ช่วยใช้ปากของพี่เช็ดให้หน่อยได้มั้ยครับ”



    บรึ้มมมมมม



    น้องวีระเบิดเป็นโกโก้ครั๊น ไหลลงทุ่งข้าวสาลี เกิดออกมาเป็นขนมเบงเบง (ไม่ใช่แล้ว) 



    ไอ้เด็กกุกมันแน่มาก ช่างกล้าและหน้าด้าน ผมจะทำไงกับมันดีเนี่ย



    มักเน่ใช้น้ำเสียงออดอ้อนแต่สายตามันกลับท้าทายผม เหมือนเยาะเย้ยเป็นนัยๆว่าผมไม่กล้าหรอก หนอยยย เห็นเงียบๆไปนึกว่ายอมแพ้ที่ไหนได้มันเงียบเพราะหาวิธีเอาคืน!



    โคตรจะหยามมากที่ด่าว่าผมป๊อดทางสายตา ไม่รู้รึไงว่าจริงๆแล้วผมโคตรจะป๊อดต่างหาก (อ้าว)



    ใครจะไปทำ ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วววว



    นิยายเรื่องนี้ผมโคตรจะเปลืองตัวเลยอ่ะ!! จูบกับมันแม่มทุกตอนเลยอ่ะ (ตอน 4 ตอนเดียวเองนะ? ตอน 3 กับตอน 5 จูบผ่านๆไม่นับ)



    “ไม่กล้าเหรอ ไหนเมื่อคืนบอกจะทำอะไรก็ได้ให้ผมพอใจไง ปากมักเน่เปื้อนอยู่ ทำไมฮยองไม่ช่วยเช็ดล่ะ”



    พูดจบมันก็รั้งเอวผมให้เข้าไปใกล้จนริมฝีปากเราปัดผ่านกันเบาๆ ส่วนผมก็ได้แค่กรีดร้องคนเดียวในใจ



    ไอ้บ้าจองกุก เด็กปีศาจ นี่เพิ่งวันที่สามเองนะ!! แล้วอีก 27 วันที่เหลือผมจะทำยังไงถ้ามันยังทำตัวหื่นกามแบบนี้!!!



    ผมได้แต่นั่งแข็งทื่อบนตักของมักเน่ ทั้งที่ปกติถ้าใกล้ขนาดนี้มันนั่นแหละที่ต้องฉวยโอกาสกับผมก่อน แต่นี่กลับนั่งเฉยๆรอให้ผมทำ ใช้เรื่องเมื่อคืนมาเป็นข้ออ้างหน้าตาเฉย ผมโคตรอยากจะปฏิเสธแต่กลัวว่าน้องจะร้องไห้อีกอ่ะดิ (ทำมาเป็นอ้าง หื่นเองก็บอกมาเหอะ คนอ่านรู้หมดแล้ว) 



    ระหว่างที่คิดไม่ตกว่าทำไงดี สายตาผมก็เหลือบไปเห็นว่าในมือซ้ายของมันกำลังถือกล้องวิดีโอ!



    ไอ้กล้องวิดีโอนรกแตกต้นเรื่องที่ผมกับมันได้มาคนละตัวเพื่อเอามาถ่ายความแมนเล่นๆไงเผื่อใครลืม มันถือมาตอนไหนและถือมาทำไม อย่าบอกนะว่าเอามาอัดฉากจูบระหว่างผมกับมันไปโชว์พวกฮยอง 



    หนังชีวิตมากครับ T^T



    “จ…จองกุก….”



    ผมเรียกชื่อมันด้วยเสียงสั่นๆ รู้สึกพ่ายแพ้อย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่เมื่อกี๊เกือบจะชนะแล้วนะ ฮือๆๆๆ



    “เรียกทำไมครับ เขินเหรอ”



    ท้ายประโยคเขาพูดกลั้วหัวเราะจนลมหายใจอุ่นร้อนคลอเคลียกับริมฝีปากของผม



    สองแขนถูกจองกุกดึงไปคล้องคอตอนไหนก็ไม่รู้ อ้อมแขนของอีกฝ่ายกอดรัดเอวผมแน่นจนแทบไม่เหลือช่องว่างระหว่างกัน ผมมองลึกเข้าไปในดวงตากลมคู่คมที่แสนดึงดูดจนเผลอตัวยื่นริมฝีปากเข้าไปใกล้จนปากของเราสองคนแตะกันแผ่วเบา  



    ผมหลับตาลง ซึมซับสัมผัสนุ่มที่ริมฝีปาก



    ตึก ตัก ตึก ตัก 



    .



    .



    .



    “ยะฮู้!!!! คิมแทฮยอง จอนจองกุก พวกนา……..เฮ้ยยยยย”



    ผมกับจองกุกสะดุ้งสุดตัว หันขวับไปมองที่มาของเสียงทันที



    ที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือแก๊งบังทันโซนยอดันครบทุกคนไม่มีขาดหล่นแบบระยะประชิด พวกฮยองมองมาทางผมกับจองกุกด้วยสีหน้าช็อคสนิท ถ้าเป็นในการ์ตูนปากคงจะอ้าค้างลงมาถึงพื้นดินแล้ว 



    และแล้วก่อนที่ผมจะได้ทันจูบ เอ๊ย! ผลักจองกุกออกทุกคนก็เห็นฉากเซอร์วิสนี้เต็มตา!!


    แชะ แชะ แชะ ครืด ครืด ครืด



    เสียงกดชัตเตอร์รัวๆกับภาพที่ไหลออกมาจากกล้องโพลารอยด์ที่จินฮยองถืออยู่ทำให้ผมอยากจะร้องไห้



    ไอ้เชร๊!!!!!!



    ชีวิตน้องวีบรรลัยได้มากกว่านี้อีกมั้ย!!!


    ……………………………………………………


    แฟนคลับ 85 คนเลยเหรอ =[]= แอบตกใจ แอด Fav แล้วเม้นด้วยนะจ๊ะ ทักทายหน่อยจ้า อยากรู้ว่าเป็นไงสนุกมั้ย ฟินมั้ยหรือยังไง 

    เจอคำผิดบอกด้วยน้า เพื่อภาษาไทยที่ถูกต้อง เอ่อ คำว่า บัดซรบบบ อ่ะ ไรท์จงใจเขียนแบบนั้นเองไม่ได้พิมพ์ผิดนะ 5555









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×