ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter6: Trust
ห้ามมีเซกส์เป็นอันขาด!!!! ชั้นจะมาดูแกเป็นระยะ ถ้าเห็นแผลฉีกหรือมีผู้ชายหน้าไหนเข้ามายุ่มย่าม เตรียมตัวโดนขย้ำตายได้เลย!!!!!
เฮือก!
ผมสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายสุดชีวิต เสียงๆนั้นยังคงเซอราวด์อยู่ในหัวของผม แม้กระทั่งในความฝัน ต้นเหตุที่ทำให้ผมหวาดผวามา 3 วันที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลนามิโมรินี่
ฮิบาริ เคียวยะ!
ไม่สิ คุณหมอ ฮิบาริ เคียวยะ!
คุณหมอสุดโหดที่ไม่รู้ว่าจบแพทย์มาได้ยังไง เคราะห์ดีของผมที่ตลอด 3 วันมานี้ไม่มาใครเดินเฉียดเข้ามาที่ห้องผู้ป่วยแห่งนี้
แผลของผมเริ่มประสานกันสนิทมากขึ้นจนตอนนี้ไม่มีอาการเจ็บปวดจากการขยับกายอีกต่อไป
นั่นน่ะสินะ ..ก็แค่ความเจ็บปวดทางร่างกาย
.ความเจ็บปวดในจิตใจต่างหากที่ยาก .จะลบเลือน
..ยังคงฝังลึก .อยู่ในส่วนลึกของจิตใจ รอยแผล .ที่มองไม่เห็น
แต่ถึงอย่างนั้น ..ก็ยังแอบหวังว่ารีบอร์นจะมาหา
เป็นเขาไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้ผมเจ็บช้ำ
เป็นเขาไม่ใช่เหรอ .ที่ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช
เป็นเขาไม่ใช่เหรอ ..ที่ทิ้งผมไปหลังจากเสพสุขอย่างไม่ไยดี
ไม่คิด จะมาดูดำดูดีผมหน่อยรึไงกัน
ผมบอกหมอฮิบาริเรื่องทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล ชำระเงินค่าห้อง แล้วมุ่งหน้าไปสู่โรงพยาบาลอีกแห่งทันที
ผมควรจะเลิกลังเล .สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ความรู้สึกสับสนไร้สาระของตัวเอง
ผมควรจะทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง
ผมเป็นแฟนโคโรเนโร่ .ผมก็ควรทำหน้าที่แฟนที่ดี .ไม่ใช่คิดถึงใครอีกคน
หากแต่ในส่วนลึกแล้ว ผมรู้ดีว่าผมกำลังหนีความจริง ..หนีไปให้ไกลจากหัวใจของตัวเอง
ทางเลือกนั้น ..ช่างเจ็บปวดนัก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเป็นจังหวะมั่นคง เรียกให้โคโรเนโร่ที่กำลังอ่านหนังสืออยู่หันไปมอง ร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครมาเยี่ยม ใครกันนะที่มาในเวลาอย่างนี้ .ส่วนลึกก็หวังให้เป็นใครคนนั้น ..ที่เขาเฝ้ารอให้มาเยี่ยมตลอด 3 วันมานี้ .โดยเฉพาะวันนี้ .
และเขาก็สมหวัง .
ใบหน้าน่ารักโผล่ออกมาจากประตู รอยยิ้มอ่อนโยนยังคงปรากฏบนริมฝีปากสวยได้รูป หากแต่จ้องลึกลงไปในดวงตาสีมรกตนั้นแล้ว กลับพบแต่ความอ้างว้าง ใบหน้าดูอิดโรยเล็กน้อยราวกับกำลังทุกข์ใจ และเขา ก็ไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
เกิดอะไรขึ้น ระหว่างที่นายห่างหายไปจากสายตาชั้นกันนะ แรมโบ้
“นายดูเหนื่อยๆนะ” เสียงทุ้มเอ่ยทักออกไปคำแรก แววตาเศร้าสร้อยทอดผ่านประกายตาสีมรกตชั่วขณะก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่นี่นา อาจจะเป็นเพราะชั้นเพิ่งออกจาโรงพยาบาลมั้ง” ส่งยิ้มอ่อนโยนให้เขาเหมือนทุกที หากแต่ต่างออกไปในความรู้สึก ..อะไรบางอย่างที่ขาดหายไป .อะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม
“เป็นอะไรไปเหรอ” รั้งร่างบอบบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างปลอบประโลม นี่นายผอมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ผิวที่ขาวอยู่แล้วยิ่งขาวเข้าไปอีก ขาวใสจนแทบเห็นเส้นเลือด กระดูกไหปาร้านูนขึ้นอย่างชัดเจน ข้อมือที่ดูบอบบาง ..ดูราวกับจะแหลกสลายได้ แม้เพียงสัมผัส ..
“แค่ไปนอนโรงพยาบาลมา 3 วันน่ะ ชั้นตกบันไดเลยช้ำนิดหน่อย” ปลายเสียงสั่นพร่าอย่างรู้สึกได้ โคโรเนโร่รู้ดี .เพียงแต่ไม่พูดออกมา
ถ้าแรมโบ้ไม่อยากบอก .เขาก็ไม่อยากจะก้าวก่าย
รู้มั้ยว่า ..นายโกหกไม่เก่งเลยสักนิด ..
“ไม่ว่าจะเป็นยังไง ”เสียงทุ้มเอ่ยนำขึ้นมา เรียกให้นัยน์ตาสีเขียวมรกตหันมาจับจ้อง “ไม่ว่าจะยังไง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ..”
“ชั้นก็จะเชื่อใจนาย ” ดวงตาสีฟ้าสวยดูจริงจังและมุ่งมั่น จนแรมโบ้ต้องหลั่งน้ำตาออกมา
เกลียดตัวเอง .
เกลียดที่เป็นอยู่อย่างนี้ .
อย่าเชื่อใจชั้น .
ได้โปรดอย่าเชื่อใจชั้นเลย ..
ความเชื่อใจนั้น มีแต่จะทำให้ชั้นและนายต้องเจ็บปวด
เจ็บปวดที่ต้องปิดบัง เจ็บปวดที่ไม่รู้อะไรเลย
ไม่ว่านายจะเอ่ยปากหรือไม่ ..ถามคำถาม ..คาดคั้นชั้น ไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไง .ไม่ว่าจะโกหกหรือไม่
เราสองคนก็ต้องเจ็บปวด .
เจ็บปวดกับความจริง เจ็บปวดกับคำลวง
อย่าเชื่อใจชั้น .
ได้โปรดอย่าเชื่อใจชั้นเลย ..
น้ำตามากมายไหลออกมาจากดวงตาสีเขียวมรกตคู่สวย ไหลลงมาอาบแก้มนวลใส ไหล่บอบบางสั่นสะท้าน ดูเปราะบางราวกับจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ เปราะบาง .เหมือนความสัมพันธ์ของคนสองคนที่มีรอยร้าว หากมีอะไรมากระทบเพียงนิดก็พังทลาย
และเมื่อนั้น .คำว่า เชื่อใจ จะเป็นเพียงลมปากที่ผ่านมาและผ่านไป
“ขอโทษนะ ..แล้วก็ .สุขสันต์วันเกิด โคโรเนโร่”
ริมฝีปากบางประทับลงบนปากหนาอย่างนุ่มนวล แขนเรียวขาวโอบรอบคอคนตรงหน้าพร้อมกับที่ร่างสูงโอบรัดเอวบางให้แน่นขึ้น ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาหาความอ่อนหวานจากโพรงปากอ่อนนุ่ม ที่เผยอออกเล็กน้อยราวกับยั่วยวน จูบของโคโรเนโร่ช่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ผิดกับจูบของใครคนนั้น ..ที่ร้อนแรงและป่าเถื่อน ร่างสูงโอบรัดเอวบางแน่นขึ้น กลัวเหลือเกินว่า จะหายไป แรมโบ้ในตอนนี้ดูราวกับจะแหลกสลาย .เขาอยากจะเอื้อมมือไปไขว่คว้าเอาไว้ ไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไป
จูบของพวกเขา ช่างสับสนและแสนเศร้า
เจ็บปวดกับการที่ต้องปิดบัง เจ็บปวดกับการที่ไม่รู้อะไรเลย
อยากจะรู้เรื่องของร่างบาง .แต่ก็กลัวที่จะต้องฟังคำตอบ
อะไรบางอย่างร้องเตือนว่า อาจจะไม่เหมือนเดิม
กลัวเหลือเกิน
กลัวว่าจะต้องสูญเสียนายไป .
บางที ชั้นอาจจะเห็นแก่ตัวเกินไปก็ได้นะ แรมโบ้
.
“อยากได้อะไรเป็นของขวัญมั้ย ” ร่างบอบบางที่น้ำตาเหือดแห้งไปแล้วเอ่ยถาม รอยยิ้มหวานใสเริ่มปรากฏที่ริมฝีปากอิ่มสวยอีกครั้ง เสียงทุ้มหัวเราะและเอ่ยอย่างหยอกเย้า
“เวอร์จิ้นของนายมั้ง ..”
ร่างบางชะงัก รอยยิ้มจืดเจื่อนไปเล็กน้อย แต่ก็กลับมาร่าเริงในพริบตา
“ได้อยู่แล้ว แต่ต้องหลังจากนายออกจากโรงพยาบาลนะ ฮ่ะฮ่ะ แย่จัง วันเกิดนายปีนี้ชั้นไม่ได้เตรียมของขวัญมาซะด้วย”
ความบริสุทธิ์ของชั้น .มันไม่มีอีกแล้ว
แต่ชั้นจะถือว่า .นั่นเป็นเวอร์จิ้นแรกของชั้นและนาย
อยากจะชดเชยให้บ้าง ..ชั้นไม่เคยตอบแทนอะไรนายเลย
ตอนนี้ก็ยัง ..
“ไม่ต้องหรอก .วันเกิดปีนี้นายเป็นของขวัญที่ล้ำค่ามากที่สุดในชีวิตชั้น ”
และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
คนทั้งสองคนยิ้มอย่างสดใสให้กันและกัน
ขอเพียงแค่มีนาย ..ชั้นก็ไม่ต้องการอะไรอื่นอีกแล้ว .
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“อ่า เดี๋ยวชั้นไปเปิดประตุก่อนนะ” ผมผละออกจากอ้อมกอดของโคโรเนโร่ แล้วเดินเลี้ยวหัวมุมไปเปิดประตู โรงพยาบาลสุดหรูแห่งนี้ มีห้องนอนแยกเอาไว้ให้ผู้ป่วยโดยเฉพาะ แถมยังมีห้องนั่งเล่นอีกต่างหาก มีห้องจัดเตรียมของกินที่มีพวกแก้วน้ำ ถ้วยชามวางเรียงกัน
ผมเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู พร้อมๆกับที่ประตูนั้นเปิดออก ผมชะงักมือค้างไว้ .แผ่นอกกว้างที่สวมชุดนักเรียนปรากฏสู่สายตา ผมเงยหน้าขึ้นมองไล่ไปจนหยุดอยู่ที่ใบหน้านั้น
ร่างสูงโปร่ง ผมสีดำสนิทที่ชี้ฟูไปด้านหลัง วงหน้าหล่อเหลาเยือกเย็น น่ากลัวแต่ก็มีเสน่ห์จนแทบหยุดหายใจ
ผู้ชายคนนั้น รีบอร์น
เขาอยู่ที่นี่แล้ว
ผมผงะก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว รับรู้ได้ถึงอาการสั่นสะท้านตามร่างกายด้วยความหวาดกลัว รีบอร์นแสยะยิ้มก่อนจะดึงรั้งผมเข้าไปในอ้อมกอด ผมได้แต่ผลักร่างนั้นออกไป แต่เสียงทุ้มๆที่กระซิบข้างหูกับลมหายใจอุ่นร้อนทำให้ผมหยุดชะงัก
“หายไปไหนมา ..ทำไมถึงผอมลง”
และแล้วหัวใจของผมก็เริ่มเต้นแรงราวกับคนโง่ .เพียงแค่ได้ยินถ้อยคำอ่อนโยนจากเขา
“ไม่ได้ไปไหน .” ผมพึมพำเสียงอู้อี้ ซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างโดยไม่รู้ตัว กลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนร่างของเขาทำให้ผมรู้สึกสงบใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด อีกครั้ง ที่ผมหลงเสน่ห์ของรีบอร์นและยินยอมอย่างง่ายดาย
“ก็แค่ไปโรงพยาบาลมา ”
“แค่นั้นเองเหรอ .หึ .นึกว่าจะตายไปแล้วซะอีก” รีบอร์นผลักผมออกเบาๆ ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้าไปหาโคโรเนโร่ ทิ้งผมเอาไว้กับความสับสน
อะไรกัน
อะไรคือตัวจริงของนายกันแน่ ความอ่อนโยนหรือความร้ายกาจ
ชั่วขณะหนึ่งนายทำท่าราวกับเป็นห่วงเป็นใย จนชั้นอ่อนไหว
แล้วต่อมานายก็ทำร้ายชั้นด้วยการกระทำและคำพูดร้ายกาจ
อะไรคือตัวจริงของนายกันแน่ .รีบอร์น
ผมได้แต่ยืนนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเสียงหัวเราะสองเสียงลอยเข้าหู
.ผมจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี
“นายไปเปิดประตูแล้วหายไปเลย ชั้นนึกว่านายจะกลับไปแบบไม่ลาชั้นซะอีก”
เสียงโคโรเนโร่ดังขึ้นทันทีเมื่อผมเปิดประตูห้องนอนเข้าไป รีบอร์นนั่งอยู่ที่ข้างเตียงของโคโรเนโร่ ตรงโต๊ะข้างเตียงมีถุงใส่ผลไม้ เขาถือมาตอนไหนกัน .ผมได้แต่มองถุงอย่างุนงง นี่ผมเอาแต่จ้องหน้าเขาจนไม่ได้สังเกตเลยเหรอว่ารีบอร์นถือถุงผลไม้มา
“งั้น ..ชั้นไปปอกผลไม้ก่อนนะ”
ผมพูดเบาๆ พยายามอย่างยิ่งที่จะอยู่ห่างพวกเขาให้มากที่สุด ผมทำหน้าไม่ถูกเลยเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ทั้งโคโรเนโรที่ไม่รู้อะไรเลย ..ทั้งที่รีบอร์นที่เอาแต่ส่งยิ้มเยาะเย้ย .
ผมเดินเข้าไปใกล้รีบอร์น มือเอื้อมไปหยิบถุงผลไม้ที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงข้างตัวเขา หากแต่คว้าได้แต่ลม เมื่อมือหนาเอื้อมมาหยิบฉวยมันไป
“ชั้นไปช่วยแรมโบ้ด้วยล่ะกัน” เสียงทุ้มของรีบอร์นหันไปพูดกับโคโรเนโร่ ผมเริ่มกัดริมฝีปากตัวเอง .
“อย่าเลย นายสองคนคุยกันไปเหอะ เดี๋ยวชั้นทำให้” ผมพูดปัดไปเบาๆ พยายามฉวยถุงที่อยู่ในมือรีบอร์นมาถือไว้เอง หากแต่แววตาเย็นชาที่จ้องมองผมนั้น ทำให้ผมค่อยๆลดมือกลับลงไป
“ .ดูเหมือนว่าโคโรเนโร่จะเหนื่อยที่ต้องใช้เสียงมาก เราควรจะปล่อยให้เขาพักผ่อนมั่ง”
รีบอร์นเอ่ยอย่างเย็นชา ขาเรียวยาวเดินออกนอกห้องนอนอย่างรวดเร็ว ผมได้แต่มองตามร่างนั้นไป หันไปยิ้มแย้มให้โคโรเนโร่ก่อนจะเดินตามร่างสูงไปอย่างไร้ทางเลือก ..
เมื่อมาถึงห้องครัว ก็พบว่ารีบอร์นกำลังล้างผลไม้อยู่แล้ว นิ้วเรียวยาวของเขาล้างผลไม้อย่างทะนุถนอม ก่อนจะนำลงไปใส่ชะลอมให้สะเด็ดน้ำ หยิบมีดขึ้นมาแล้วลงมือปอกผลไม้นั้นอย่างคล่องแคล่ว
เสี้ยวหน้าที่ดูจริงจังนั้นทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของรีบอร์นดูดีขึ้นมากว่าเคย ผมจ้องมองการกระทำนั้นอย่างตั้งใจ มือเรียวยาวที่กำลังปอกผลไม้กับเสี้ยวหน้าที่หล่อเหลานั้นสะกดสายตาของผมเอาไว้ ผมนั่งลงบนเก้าอี้ทานข้าว เท้าคางมองใบหน้าด้านข้างของรีบอร์นอย่างเผลอไผล
รีบอร์นล้างมือเมื่อปอกผลไม้เสร็จแล้ว ดวงตาสีดำสนิทหันมามองสบทำให้ผมต้องรีบหลบตาแทบจะทันที พร้อมกับใบหน้าที่เริ่มร้อนขึ้น ให้ตายสิ .ผมกำลังทำตัวดีดดิ้นยังกะสาวน้อยมีความรักอย่างงั้นแหละ
“จะนั่งจ้องชั้นอีกนานมั้ย”
เสียงทุ้มเอ่ยอย่าเรียบเฉย ก็มีดมันมีอันเดียว ..นายจะให้ชั้นใช้ฟันปอกรึไง ผมคิดในใจอย่างดุเดือด
ถ้าจะปอกเองแล้วจะเรียกผมมาทำซากปรักหักพังอะไร
“ชั้นบอกแล้วว่าจะปอกเอง แต่นายก็เอาไปปอก แล้วนายจะให้ชั้นทำอะไรล่ะ นอกจากจ้องนาย”
มือใหญ่เอื้อมมาบีบคางผมแทบจะทันที จนผมน้ำตาเล็ดด้วยความรู้สึกเจ็บ ทำไมมันเจ็บยิ่งกว่าเดิมซะอีกหล่ะ หรือว่าเพราะผมผอมลงจนความเจ็บนั้นรวดร้าวไปถึงกระดูก
ร่างสูงเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกตินั้น แนวคางบอบบางที่ดูจะแตกเปราะได้ง่ายแม้เพียงแค่บีบแรงๆ แต่เขาก็ไม่สนใจ .
“ปากเก่งขึ้นนี่ หลบไปเลียแผลใจมา 3 วันคงสนุกพิลึก” ร่างสูงเอ่ยเยาะ ก่อนจะกระชากเรียวแขนบางขึ้นมาจากเก้าอี้ แขนใหญ่โอบรัดรอบเอวบอบบางแน่นขึ้น
“ปล่อยนะ รีบอร์น” ร่างบอบบางทั้งดิ้นทั้งผลักคนตรงหน้า แต่ไม่เป็นผลดูเหมือนจะทำให้รีบอร์นรำคาญมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“อยากให้แฟนคนดีของแกได้ยินรึไง ..”
เสียงทุ้มกระซิบอย่างข่มขู่ ริมฝีปากร้อนเริ่มไล่จูบไปตามซอกคอขาวผ่องละเรื่อยไปจนถึงหัวไหล่มนที่ยั่วเย้าเขาตั้งแต่แรกเห็น รีบอร์นกดจูบแรงๆเรียกเสียงครางแผ่วหวานให้ออกมาจากริมฝีปากสีสวย
“อ่ะ อย่า ” ร่างบางร้องห้ามเมื่อริมฝีปากนั้นเริ่มซุกซนไล้ลงมาเรื่อยๆจนถึงกางเกงสีดำสนิท ฟันคมกัดซิบกางเกงนั้น รูดไล้มันลงมาเรื่อยๆจนร่างบางสั่นสะท้านกับภาพเร้าอารมณ์
รีบอร์นมองส่วนอ่อนไหวที่อยู่ใต้กางเกงชั้นในสีขาวอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเริ่มซุกไซ้ไปที่ส่วนนั้นผ่านเนื้อผ้า เรียกเสียงครวญครางจากร่างบางจนต้องยกมือขึ้นมาปิดริมฝีปากของตัวเอง
กลัวเหลือเกินว่าโคโรเนโร่จะได้ยิน ..
โคโรเนโร่!!!!!!!
มือบางผลักหัวรีบอร์นออกอย่างรุนแรง จนร่างสูงเสียหลักล้มลงไปชนโต๊ะจนเลือดอาบ ร่างบางเบิกตากว้าง มือเรียวบางยื่นไปปิดปากแผลที่เริ่มมีเลือดไหลทะลักของรีบอร์นอย่างร้อนรน
“ร .รีบอร์น ..ช ชั้นไม่ได้ตั้ง ใจ ชั้นขอโทษ .อ่า ทำไงดีเนี่ย .”
ร่างบางเอ่ยอย่างร้อนรน น้ำตาไหลออกจากดวงตาสีเขียวมรกตจนเปรอะเปื้อนไปทั่วนวลแก้มใส รีบอร์นผลักร่างนั้นออกเบาๆ ก่อนจะถอดเสื้อเชิ๊ตสีขาวที่ตัวเองใส่อยู่มากดห้ามเลือดที่ไหลออกจากปากแผลนั้น
“เสร็จเรื่องนี้ แกได้ชดใช้ชั้นแน่ ”หันมาข่มขู่ร่างบางด้วยน้ำเสียงคุกคาม ก่อนจะเดินออกจากห้อง ร่างบางรีบวิ่งตามไปอย่างร้อนรน สวนทางกับโคโรเนโร่ที่ใช้ไม้เท้าค้ำยันตัวเองมาหลังจากได้ยินเสียงดังนั้น
“รีบอร์น .” ครางเรียกชื่อรีบอร์นอย่างแปลกใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อเห็นปริมาณเลือดที่เริ่มไหลย้อมเสื้อเชิ๊ตสีขาวให้กลายเป็นสีแดง กับร่างบอบบางของคนรักที่น้ำตาไหลอาบแก้ม
“เดี๋ยวชั้นจะไปหาหมอ สงสัยคงต้องเย็บแผล .”
“ชั้นไปด้วยสิ ..”
น้ำตายังคงไหลคลออยู่ที่ดวงตาสีเขียวมรกตที่ทอประกายร้าวรานด้วยความรู้สึกผิด รีบอร์นมองวงหน้าหวานอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องผู้ป่วย พร้อมๆกับร่างบางที่วิ่งตามไปแทบจะทันที ดวงตาสีฟ้าของโคโรเนโร่หรี่ลงอย่างสงสัยในความสัมพันธ์นั้น คิ้วเข้มขมวดมุ่นพร้อมกับความคิดบางอย่างที่ทำให้หัวใจเจ็บแปลบ
จะให้คิดยังไง .เมื่อร่างบอบบางที่เขาหลงรักวิ่งตามรีบอร์นไปพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
จะให้คิดยังไง .เมื่อแฟนของเขาเลือกไปกับรีบอร์น ..ไม่ใช่เขาที่ต้องใช้ไม่เท้าพยุง
จะให้คิดยังไง .เมื่อแรมโบ้ไม่เคยร้องไห้ ..เมื่อเขาบาดเจ็บอยู่อย่างนี้
จะให้คิดยังไง .เมื่อตลอดเวลาที่คบกัน ..แรมโบ้ไม่เคยบอกรักเขาเลยแม้เพียงสักครั้ง
..คำว่า เชื่อใจ เป็นเพียงแค่ลมปากที่ผ่านมาและผ่านไป .
TBC.
เฮือก!
ผมสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายสุดชีวิต เสียงๆนั้นยังคงเซอราวด์อยู่ในหัวของผม แม้กระทั่งในความฝัน ต้นเหตุที่ทำให้ผมหวาดผวามา 3 วันที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลนามิโมรินี่
ฮิบาริ เคียวยะ!
ไม่สิ คุณหมอ ฮิบาริ เคียวยะ!
คุณหมอสุดโหดที่ไม่รู้ว่าจบแพทย์มาได้ยังไง เคราะห์ดีของผมที่ตลอด 3 วันมานี้ไม่มาใครเดินเฉียดเข้ามาที่ห้องผู้ป่วยแห่งนี้
แผลของผมเริ่มประสานกันสนิทมากขึ้นจนตอนนี้ไม่มีอาการเจ็บปวดจากการขยับกายอีกต่อไป
นั่นน่ะสินะ ..ก็แค่ความเจ็บปวดทางร่างกาย
.ความเจ็บปวดในจิตใจต่างหากที่ยาก .จะลบเลือน
..ยังคงฝังลึก .อยู่ในส่วนลึกของจิตใจ รอยแผล .ที่มองไม่เห็น
แต่ถึงอย่างนั้น ..ก็ยังแอบหวังว่ารีบอร์นจะมาหา
เป็นเขาไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้ผมเจ็บช้ำ
เป็นเขาไม่ใช่เหรอ .ที่ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพน่าสมเพช
เป็นเขาไม่ใช่เหรอ ..ที่ทิ้งผมไปหลังจากเสพสุขอย่างไม่ไยดี
ไม่คิด จะมาดูดำดูดีผมหน่อยรึไงกัน
ผมบอกหมอฮิบาริเรื่องทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล ชำระเงินค่าห้อง แล้วมุ่งหน้าไปสู่โรงพยาบาลอีกแห่งทันที
ผมควรจะเลิกลังเล .สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ความรู้สึกสับสนไร้สาระของตัวเอง
ผมควรจะทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง
ผมเป็นแฟนโคโรเนโร่ .ผมก็ควรทำหน้าที่แฟนที่ดี .ไม่ใช่คิดถึงใครอีกคน
หากแต่ในส่วนลึกแล้ว ผมรู้ดีว่าผมกำลังหนีความจริง ..หนีไปให้ไกลจากหัวใจของตัวเอง
ทางเลือกนั้น ..ช่างเจ็บปวดนัก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเป็นจังหวะมั่นคง เรียกให้โคโรเนโร่ที่กำลังอ่านหนังสืออยู่หันไปมอง ร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครมาเยี่ยม ใครกันนะที่มาในเวลาอย่างนี้ .ส่วนลึกก็หวังให้เป็นใครคนนั้น ..ที่เขาเฝ้ารอให้มาเยี่ยมตลอด 3 วันมานี้ .โดยเฉพาะวันนี้ .
และเขาก็สมหวัง .
ใบหน้าน่ารักโผล่ออกมาจากประตู รอยยิ้มอ่อนโยนยังคงปรากฏบนริมฝีปากสวยได้รูป หากแต่จ้องลึกลงไปในดวงตาสีมรกตนั้นแล้ว กลับพบแต่ความอ้างว้าง ใบหน้าดูอิดโรยเล็กน้อยราวกับกำลังทุกข์ใจ และเขา ก็ไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
เกิดอะไรขึ้น ระหว่างที่นายห่างหายไปจากสายตาชั้นกันนะ แรมโบ้
“นายดูเหนื่อยๆนะ” เสียงทุ้มเอ่ยทักออกไปคำแรก แววตาเศร้าสร้อยทอดผ่านประกายตาสีมรกตชั่วขณะก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่นี่นา อาจจะเป็นเพราะชั้นเพิ่งออกจาโรงพยาบาลมั้ง” ส่งยิ้มอ่อนโยนให้เขาเหมือนทุกที หากแต่ต่างออกไปในความรู้สึก ..อะไรบางอย่างที่ขาดหายไป .อะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม
“เป็นอะไรไปเหรอ” รั้งร่างบอบบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างปลอบประโลม นี่นายผอมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ผิวที่ขาวอยู่แล้วยิ่งขาวเข้าไปอีก ขาวใสจนแทบเห็นเส้นเลือด กระดูกไหปาร้านูนขึ้นอย่างชัดเจน ข้อมือที่ดูบอบบาง ..ดูราวกับจะแหลกสลายได้ แม้เพียงสัมผัส ..
“แค่ไปนอนโรงพยาบาลมา 3 วันน่ะ ชั้นตกบันไดเลยช้ำนิดหน่อย” ปลายเสียงสั่นพร่าอย่างรู้สึกได้ โคโรเนโร่รู้ดี .เพียงแต่ไม่พูดออกมา
ถ้าแรมโบ้ไม่อยากบอก .เขาก็ไม่อยากจะก้าวก่าย
รู้มั้ยว่า ..นายโกหกไม่เก่งเลยสักนิด ..
“ไม่ว่าจะเป็นยังไง ”เสียงทุ้มเอ่ยนำขึ้นมา เรียกให้นัยน์ตาสีเขียวมรกตหันมาจับจ้อง “ไม่ว่าจะยังไง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ..”
“ชั้นก็จะเชื่อใจนาย ” ดวงตาสีฟ้าสวยดูจริงจังและมุ่งมั่น จนแรมโบ้ต้องหลั่งน้ำตาออกมา
เกลียดตัวเอง .
เกลียดที่เป็นอยู่อย่างนี้ .
อย่าเชื่อใจชั้น .
ได้โปรดอย่าเชื่อใจชั้นเลย ..
ความเชื่อใจนั้น มีแต่จะทำให้ชั้นและนายต้องเจ็บปวด
เจ็บปวดที่ต้องปิดบัง เจ็บปวดที่ไม่รู้อะไรเลย
ไม่ว่านายจะเอ่ยปากหรือไม่ ..ถามคำถาม ..คาดคั้นชั้น ไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไง .ไม่ว่าจะโกหกหรือไม่
เราสองคนก็ต้องเจ็บปวด .
เจ็บปวดกับความจริง เจ็บปวดกับคำลวง
อย่าเชื่อใจชั้น .
ได้โปรดอย่าเชื่อใจชั้นเลย ..
น้ำตามากมายไหลออกมาจากดวงตาสีเขียวมรกตคู่สวย ไหลลงมาอาบแก้มนวลใส ไหล่บอบบางสั่นสะท้าน ดูเปราะบางราวกับจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ เปราะบาง .เหมือนความสัมพันธ์ของคนสองคนที่มีรอยร้าว หากมีอะไรมากระทบเพียงนิดก็พังทลาย
และเมื่อนั้น .คำว่า เชื่อใจ จะเป็นเพียงลมปากที่ผ่านมาและผ่านไป
“ขอโทษนะ ..แล้วก็ .สุขสันต์วันเกิด โคโรเนโร่”
ริมฝีปากบางประทับลงบนปากหนาอย่างนุ่มนวล แขนเรียวขาวโอบรอบคอคนตรงหน้าพร้อมกับที่ร่างสูงโอบรัดเอวบางให้แน่นขึ้น ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาหาความอ่อนหวานจากโพรงปากอ่อนนุ่ม ที่เผยอออกเล็กน้อยราวกับยั่วยวน จูบของโคโรเนโร่ช่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ผิดกับจูบของใครคนนั้น ..ที่ร้อนแรงและป่าเถื่อน ร่างสูงโอบรัดเอวบางแน่นขึ้น กลัวเหลือเกินว่า จะหายไป แรมโบ้ในตอนนี้ดูราวกับจะแหลกสลาย .เขาอยากจะเอื้อมมือไปไขว่คว้าเอาไว้ ไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไป
จูบของพวกเขา ช่างสับสนและแสนเศร้า
เจ็บปวดกับการที่ต้องปิดบัง เจ็บปวดกับการที่ไม่รู้อะไรเลย
อยากจะรู้เรื่องของร่างบาง .แต่ก็กลัวที่จะต้องฟังคำตอบ
อะไรบางอย่างร้องเตือนว่า อาจจะไม่เหมือนเดิม
กลัวเหลือเกิน
กลัวว่าจะต้องสูญเสียนายไป .
บางที ชั้นอาจจะเห็นแก่ตัวเกินไปก็ได้นะ แรมโบ้
.
“อยากได้อะไรเป็นของขวัญมั้ย ” ร่างบอบบางที่น้ำตาเหือดแห้งไปแล้วเอ่ยถาม รอยยิ้มหวานใสเริ่มปรากฏที่ริมฝีปากอิ่มสวยอีกครั้ง เสียงทุ้มหัวเราะและเอ่ยอย่างหยอกเย้า
“เวอร์จิ้นของนายมั้ง ..”
ร่างบางชะงัก รอยยิ้มจืดเจื่อนไปเล็กน้อย แต่ก็กลับมาร่าเริงในพริบตา
“ได้อยู่แล้ว แต่ต้องหลังจากนายออกจากโรงพยาบาลนะ ฮ่ะฮ่ะ แย่จัง วันเกิดนายปีนี้ชั้นไม่ได้เตรียมของขวัญมาซะด้วย”
ความบริสุทธิ์ของชั้น .มันไม่มีอีกแล้ว
แต่ชั้นจะถือว่า .นั่นเป็นเวอร์จิ้นแรกของชั้นและนาย
อยากจะชดเชยให้บ้าง ..ชั้นไม่เคยตอบแทนอะไรนายเลย
ตอนนี้ก็ยัง ..
“ไม่ต้องหรอก .วันเกิดปีนี้นายเป็นของขวัญที่ล้ำค่ามากที่สุดในชีวิตชั้น ”
และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
คนทั้งสองคนยิ้มอย่างสดใสให้กันและกัน
ขอเพียงแค่มีนาย ..ชั้นก็ไม่ต้องการอะไรอื่นอีกแล้ว .
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“อ่า เดี๋ยวชั้นไปเปิดประตุก่อนนะ” ผมผละออกจากอ้อมกอดของโคโรเนโร่ แล้วเดินเลี้ยวหัวมุมไปเปิดประตู โรงพยาบาลสุดหรูแห่งนี้ มีห้องนอนแยกเอาไว้ให้ผู้ป่วยโดยเฉพาะ แถมยังมีห้องนั่งเล่นอีกต่างหาก มีห้องจัดเตรียมของกินที่มีพวกแก้วน้ำ ถ้วยชามวางเรียงกัน
ผมเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู พร้อมๆกับที่ประตูนั้นเปิดออก ผมชะงักมือค้างไว้ .แผ่นอกกว้างที่สวมชุดนักเรียนปรากฏสู่สายตา ผมเงยหน้าขึ้นมองไล่ไปจนหยุดอยู่ที่ใบหน้านั้น
ร่างสูงโปร่ง ผมสีดำสนิทที่ชี้ฟูไปด้านหลัง วงหน้าหล่อเหลาเยือกเย็น น่ากลัวแต่ก็มีเสน่ห์จนแทบหยุดหายใจ
ผู้ชายคนนั้น รีบอร์น
เขาอยู่ที่นี่แล้ว
ผมผงะก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว รับรู้ได้ถึงอาการสั่นสะท้านตามร่างกายด้วยความหวาดกลัว รีบอร์นแสยะยิ้มก่อนจะดึงรั้งผมเข้าไปในอ้อมกอด ผมได้แต่ผลักร่างนั้นออกไป แต่เสียงทุ้มๆที่กระซิบข้างหูกับลมหายใจอุ่นร้อนทำให้ผมหยุดชะงัก
“หายไปไหนมา ..ทำไมถึงผอมลง”
และแล้วหัวใจของผมก็เริ่มเต้นแรงราวกับคนโง่ .เพียงแค่ได้ยินถ้อยคำอ่อนโยนจากเขา
“ไม่ได้ไปไหน .” ผมพึมพำเสียงอู้อี้ ซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างโดยไม่รู้ตัว กลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนร่างของเขาทำให้ผมรู้สึกสงบใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด อีกครั้ง ที่ผมหลงเสน่ห์ของรีบอร์นและยินยอมอย่างง่ายดาย
“ก็แค่ไปโรงพยาบาลมา ”
“แค่นั้นเองเหรอ .หึ .นึกว่าจะตายไปแล้วซะอีก” รีบอร์นผลักผมออกเบาๆ ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้าไปหาโคโรเนโร่ ทิ้งผมเอาไว้กับความสับสน
อะไรกัน
อะไรคือตัวจริงของนายกันแน่ ความอ่อนโยนหรือความร้ายกาจ
ชั่วขณะหนึ่งนายทำท่าราวกับเป็นห่วงเป็นใย จนชั้นอ่อนไหว
แล้วต่อมานายก็ทำร้ายชั้นด้วยการกระทำและคำพูดร้ายกาจ
อะไรคือตัวจริงของนายกันแน่ .รีบอร์น
ผมได้แต่ยืนนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเสียงหัวเราะสองเสียงลอยเข้าหู
.ผมจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี
“นายไปเปิดประตูแล้วหายไปเลย ชั้นนึกว่านายจะกลับไปแบบไม่ลาชั้นซะอีก”
เสียงโคโรเนโร่ดังขึ้นทันทีเมื่อผมเปิดประตูห้องนอนเข้าไป รีบอร์นนั่งอยู่ที่ข้างเตียงของโคโรเนโร่ ตรงโต๊ะข้างเตียงมีถุงใส่ผลไม้ เขาถือมาตอนไหนกัน .ผมได้แต่มองถุงอย่างุนงง นี่ผมเอาแต่จ้องหน้าเขาจนไม่ได้สังเกตเลยเหรอว่ารีบอร์นถือถุงผลไม้มา
“งั้น ..ชั้นไปปอกผลไม้ก่อนนะ”
ผมพูดเบาๆ พยายามอย่างยิ่งที่จะอยู่ห่างพวกเขาให้มากที่สุด ผมทำหน้าไม่ถูกเลยเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ทั้งโคโรเนโรที่ไม่รู้อะไรเลย ..ทั้งที่รีบอร์นที่เอาแต่ส่งยิ้มเยาะเย้ย .
ผมเดินเข้าไปใกล้รีบอร์น มือเอื้อมไปหยิบถุงผลไม้ที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงข้างตัวเขา หากแต่คว้าได้แต่ลม เมื่อมือหนาเอื้อมมาหยิบฉวยมันไป
“ชั้นไปช่วยแรมโบ้ด้วยล่ะกัน” เสียงทุ้มของรีบอร์นหันไปพูดกับโคโรเนโร่ ผมเริ่มกัดริมฝีปากตัวเอง .
“อย่าเลย นายสองคนคุยกันไปเหอะ เดี๋ยวชั้นทำให้” ผมพูดปัดไปเบาๆ พยายามฉวยถุงที่อยู่ในมือรีบอร์นมาถือไว้เอง หากแต่แววตาเย็นชาที่จ้องมองผมนั้น ทำให้ผมค่อยๆลดมือกลับลงไป
“ .ดูเหมือนว่าโคโรเนโร่จะเหนื่อยที่ต้องใช้เสียงมาก เราควรจะปล่อยให้เขาพักผ่อนมั่ง”
รีบอร์นเอ่ยอย่างเย็นชา ขาเรียวยาวเดินออกนอกห้องนอนอย่างรวดเร็ว ผมได้แต่มองตามร่างนั้นไป หันไปยิ้มแย้มให้โคโรเนโร่ก่อนจะเดินตามร่างสูงไปอย่างไร้ทางเลือก ..
เมื่อมาถึงห้องครัว ก็พบว่ารีบอร์นกำลังล้างผลไม้อยู่แล้ว นิ้วเรียวยาวของเขาล้างผลไม้อย่างทะนุถนอม ก่อนจะนำลงไปใส่ชะลอมให้สะเด็ดน้ำ หยิบมีดขึ้นมาแล้วลงมือปอกผลไม้นั้นอย่างคล่องแคล่ว
เสี้ยวหน้าที่ดูจริงจังนั้นทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของรีบอร์นดูดีขึ้นมากว่าเคย ผมจ้องมองการกระทำนั้นอย่างตั้งใจ มือเรียวยาวที่กำลังปอกผลไม้กับเสี้ยวหน้าที่หล่อเหลานั้นสะกดสายตาของผมเอาไว้ ผมนั่งลงบนเก้าอี้ทานข้าว เท้าคางมองใบหน้าด้านข้างของรีบอร์นอย่างเผลอไผล
รีบอร์นล้างมือเมื่อปอกผลไม้เสร็จแล้ว ดวงตาสีดำสนิทหันมามองสบทำให้ผมต้องรีบหลบตาแทบจะทันที พร้อมกับใบหน้าที่เริ่มร้อนขึ้น ให้ตายสิ .ผมกำลังทำตัวดีดดิ้นยังกะสาวน้อยมีความรักอย่างงั้นแหละ
“จะนั่งจ้องชั้นอีกนานมั้ย”
เสียงทุ้มเอ่ยอย่าเรียบเฉย ก็มีดมันมีอันเดียว ..นายจะให้ชั้นใช้ฟันปอกรึไง ผมคิดในใจอย่างดุเดือด
ถ้าจะปอกเองแล้วจะเรียกผมมาทำซากปรักหักพังอะไร
“ชั้นบอกแล้วว่าจะปอกเอง แต่นายก็เอาไปปอก แล้วนายจะให้ชั้นทำอะไรล่ะ นอกจากจ้องนาย”
มือใหญ่เอื้อมมาบีบคางผมแทบจะทันที จนผมน้ำตาเล็ดด้วยความรู้สึกเจ็บ ทำไมมันเจ็บยิ่งกว่าเดิมซะอีกหล่ะ หรือว่าเพราะผมผอมลงจนความเจ็บนั้นรวดร้าวไปถึงกระดูก
ร่างสูงเองก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกตินั้น แนวคางบอบบางที่ดูจะแตกเปราะได้ง่ายแม้เพียงแค่บีบแรงๆ แต่เขาก็ไม่สนใจ .
“ปากเก่งขึ้นนี่ หลบไปเลียแผลใจมา 3 วันคงสนุกพิลึก” ร่างสูงเอ่ยเยาะ ก่อนจะกระชากเรียวแขนบางขึ้นมาจากเก้าอี้ แขนใหญ่โอบรัดรอบเอวบอบบางแน่นขึ้น
“ปล่อยนะ รีบอร์น” ร่างบอบบางทั้งดิ้นทั้งผลักคนตรงหน้า แต่ไม่เป็นผลดูเหมือนจะทำให้รีบอร์นรำคาญมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“อยากให้แฟนคนดีของแกได้ยินรึไง ..”
เสียงทุ้มกระซิบอย่างข่มขู่ ริมฝีปากร้อนเริ่มไล่จูบไปตามซอกคอขาวผ่องละเรื่อยไปจนถึงหัวไหล่มนที่ยั่วเย้าเขาตั้งแต่แรกเห็น รีบอร์นกดจูบแรงๆเรียกเสียงครางแผ่วหวานให้ออกมาจากริมฝีปากสีสวย
“อ่ะ อย่า ” ร่างบางร้องห้ามเมื่อริมฝีปากนั้นเริ่มซุกซนไล้ลงมาเรื่อยๆจนถึงกางเกงสีดำสนิท ฟันคมกัดซิบกางเกงนั้น รูดไล้มันลงมาเรื่อยๆจนร่างบางสั่นสะท้านกับภาพเร้าอารมณ์
รีบอร์นมองส่วนอ่อนไหวที่อยู่ใต้กางเกงชั้นในสีขาวอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเริ่มซุกไซ้ไปที่ส่วนนั้นผ่านเนื้อผ้า เรียกเสียงครวญครางจากร่างบางจนต้องยกมือขึ้นมาปิดริมฝีปากของตัวเอง
กลัวเหลือเกินว่าโคโรเนโร่จะได้ยิน ..
โคโรเนโร่!!!!!!!
มือบางผลักหัวรีบอร์นออกอย่างรุนแรง จนร่างสูงเสียหลักล้มลงไปชนโต๊ะจนเลือดอาบ ร่างบางเบิกตากว้าง มือเรียวบางยื่นไปปิดปากแผลที่เริ่มมีเลือดไหลทะลักของรีบอร์นอย่างร้อนรน
“ร .รีบอร์น ..ช ชั้นไม่ได้ตั้ง ใจ ชั้นขอโทษ .อ่า ทำไงดีเนี่ย .”
ร่างบางเอ่ยอย่างร้อนรน น้ำตาไหลออกจากดวงตาสีเขียวมรกตจนเปรอะเปื้อนไปทั่วนวลแก้มใส รีบอร์นผลักร่างนั้นออกเบาๆ ก่อนจะถอดเสื้อเชิ๊ตสีขาวที่ตัวเองใส่อยู่มากดห้ามเลือดที่ไหลออกจากปากแผลนั้น
“เสร็จเรื่องนี้ แกได้ชดใช้ชั้นแน่ ”หันมาข่มขู่ร่างบางด้วยน้ำเสียงคุกคาม ก่อนจะเดินออกจากห้อง ร่างบางรีบวิ่งตามไปอย่างร้อนรน สวนทางกับโคโรเนโร่ที่ใช้ไม้เท้าค้ำยันตัวเองมาหลังจากได้ยินเสียงดังนั้น
“รีบอร์น .” ครางเรียกชื่อรีบอร์นอย่างแปลกใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อเห็นปริมาณเลือดที่เริ่มไหลย้อมเสื้อเชิ๊ตสีขาวให้กลายเป็นสีแดง กับร่างบอบบางของคนรักที่น้ำตาไหลอาบแก้ม
“เดี๋ยวชั้นจะไปหาหมอ สงสัยคงต้องเย็บแผล .”
“ชั้นไปด้วยสิ ..”
น้ำตายังคงไหลคลออยู่ที่ดวงตาสีเขียวมรกตที่ทอประกายร้าวรานด้วยความรู้สึกผิด รีบอร์นมองวงหน้าหวานอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องผู้ป่วย พร้อมๆกับร่างบางที่วิ่งตามไปแทบจะทันที ดวงตาสีฟ้าของโคโรเนโร่หรี่ลงอย่างสงสัยในความสัมพันธ์นั้น คิ้วเข้มขมวดมุ่นพร้อมกับความคิดบางอย่างที่ทำให้หัวใจเจ็บแปลบ
จะให้คิดยังไง .เมื่อร่างบอบบางที่เขาหลงรักวิ่งตามรีบอร์นไปพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
จะให้คิดยังไง .เมื่อแฟนของเขาเลือกไปกับรีบอร์น ..ไม่ใช่เขาที่ต้องใช้ไม่เท้าพยุง
จะให้คิดยังไง .เมื่อแรมโบ้ไม่เคยร้องไห้ ..เมื่อเขาบาดเจ็บอยู่อย่างนี้
จะให้คิดยังไง .เมื่อตลอดเวลาที่คบกัน ..แรมโบ้ไม่เคยบอกรักเขาเลยแม้เพียงสักครั้ง
..คำว่า เชื่อใจ เป็นเพียงแค่ลมปากที่ผ่านมาและผ่านไป .
TBC.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น