ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic BTS] Sungnumja Game (KookV)

    ลำดับตอนที่ #19 : Chapter 18 : จองกุกสไตล์

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 59




    Chapter 18

     จองกุกสไตล์


    เบื่ออ่ะจอนจองกุกทั้งตอนอีกแล้ว - น้องวี

    เบื่อ? มาที่ห้องนอนสิ เดี๋ยวก็หายเบื่อเอง - กุกกี้


    …………………………………………




    เกมส์ซังนัมจาก็เป็นแค่ข้ออ้าง....ข้ออ้างปนหมั่นไส้คิมแทฮยองนิดหน่อยที่ชอบพูดว่าตัวเองมาดแมน



    “อะไรนะ นายจะบอกว่าที่นายทำมาทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เพราะว่านายอยากแกล้งพี่เนี่ยนะ!!!!?????”



    คิมแทฮยองคนเท่ห์ สุดหล่อมาดแมนซังนัมจา (อะแฮ่ม) คนนี้ได้แต่ช็อกค้างอยู่กลางเตียงหลังจากที่โดนจองกุกกดลงนอนราบกับพื้นเตียงเพื่อคุยกัน



    แล้ว 17 ตอนที่ผ่านมาล่ะ! 17 ตอนที่ผ่านมาคืออะไร!!! ปาคอมทิ้งตอนนี้ได้มั้ยครับ 



    “ฟังยังไม่จบอย่าเพิ่งขัดได้มั้ย”



    จองกุกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุๆจนผมเงียบกริบทันควัน แววกลัวสามีมีมาแต่ไกล ไม่ใช่แล้วครับ ผมเงียบเพราะกลัวเสียมารยาทเหอะ -[]-



    “ตกใจแค่นี้ทำไมต้องดุด้วยวะ”



    บ่นอุบอิบด่าจองกุกเบาๆ แต่อนิจจาด้วยความที่เราอยู่ใกล้กันมากมันเลยได้ยิน บอกสิว่าใครโง่สุดในฟิค



    แต่นแต๊น คิมแทฮยองเองจ๊ะ T~T



    “ถ้าไม่ดุแล้วจะฟังกันมั้ย ผมยังไม่ทันพูดอะไร แทก็วิ่งหนีไปแถมยังหลบหน้าตั้งสามอาทิตย์ นี่ถ้าผมไม่จับแทไว้ คงสารภาพรักผมแล้ววิ่งหนีไปอีก ให้โอกาสผมอธิบายมั่งสิ”



    ใบหน้าหล่อเหลากับดวงตากระต่ายน้อยที่มองอย่างออดอ้อนทำให้ผมใจอ่อนยวบยาบยังกับมาร์ชเมลโล่ลนไฟ แต่ไม่ได้ครับ! นี่ไม่ใช่เวลามาใจง่าย ไม่งั้นได้โดนเด็กปีศาจเอาเปรียบอีกแน่ๆ



    “ใครวิ่งหนี! ก็นายเอาแต่เงียบไม่พูดอะไรตั้งสิบนาที เป็นใครก็ต้องวิ่งทั้งนั้น จะอยู่ให้โง่ทำไม”



    “ไหนเมื่อกี๊บอกว่าไม่ได้วิ่งหนี....”



    “อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ จอนจองกุก!”



    จองกุกไม่สนใจผม นิ้วมือที่หยาบนิดๆจากการเล่นกีฬาจิ้มลงบนแก้มยุ้ยเบาๆ แล้วยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของไอ้เด็กเจ้าเล่ห์จนผมขนลุกชูชัน



    จะขยับหนีก็ไม่ได้ก็มันเล่นทับตัวผมเอาไว้บนเตียง ทั้งกล้ามแขนกล้ามขาก็รัดเข้าไปจนผมจะบี้แบนหมดแล้ว



    “ดิ้นทำไม บอกแล้วไงว่าห้ามหนี แต่ถึงจะอยากหนี....ก็ไปไหนไม่พ้นอยู่ดี หึหึ”



    น้ำเสียงที่ว่าชั่วร้ายแล้ว เสียงหัวเราะของมักเน่กลับเลวร้ายยิ่งกว่า เท่านั้นยังไม่พอ มือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อยืดสีขาวของผม



    ล้วงอย่างเดียวไม่ว่า นี่ทั้งบีบ เค้น ขยี้จนเนื้อผมแทบเละเป็นโจ๊กใส่หมูที่ต้มนานเกินไป  คิดแล้วก็หิว (เปรียบเทียบอะไรเนี่ย)



    “หยุดดดดด หยุดนะ หยุดดด ขอเวลานอก!!!”



    ผมทั้งดิ้นทั้งขัดขืนสุดกำลัง แต่เพราะตำแหน่งที่เสียเปรียบทำให้ทำอะไรไม่ได้มาก ได้แต่ปล่อยให้ไอ้เด็กเวรลูบโน่นลูบนี่ตามใจชอบ



    เป็นอีกครั้งที่ผมคิดว่าชอบมันเข้าไปได้ยังไง



    หรือจิตใจจริงๆแล้วคิมแทจะเป็นพวกชอบถูกทำร้ายเลยกลายเป็นชอบผู้ชายซาดิสม์ ชอบเบียดเบียนร่างกายคนอื่น



    “จองกุก แทบอกให้หยุดไง!!!!!”



    ผมจิกหัวไอ้เด็กบ้าที่ไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้นเอาแต่ลูบไล้ซุกไซร้ไปมาจนกระทั่งตอนที่นิ้วหยาบแตะลงที่ยอดอกเนี่ยแหละถึงได้รู้สึกตัว



    “โอ๊ยๆๆๆๆ เจ็บนะ พูดดีๆก็ได้”



    เสียงโวยวายของมักเน่พร้อมกับมือที่พยายามแกะมือของผมออกจากหัวตัวเอง แต่ผมไม่ปล่อยหรอก ปล่อยก็บ้าแล้ว!!!



    “พูดดีๆแล้วนายฟังที่ไหน นี่แหนะๆๆๆๆ”



    ผมทั้งจิกทั้งกระชากหัวไอ้เด็กกุกอย่างเมามันส์ จนผมแทบจะหลุดติดมือเป็นหย่อมๆ แต่เพราะยังไม่อยากให้มักเน่หัวล้านก็เลยปล่อยมันไป



    พอหลุดออกไปได้ จองกุกถึงกับมองหน้าผมอย่างตัดพ้อพร้อมกับน้ำตาที่ซึมออกจากดวงตากลมโต ดูน่ารักยังกับกระต่ายน้อยที่โดนคนใจร้ายรังแก หยดน้ำใสๆไหลออกจากดวงตากลมอาบแก้มขาวจนผมใจอ่อนยวบยาบ ลืมทุกอย่างไปจนหมด



    “เจ็บ เจ็บนะ”



    ม....แม่จ๋า จอนจองกุกน่ารักโฮรกกกก มือขาวๆข้างหนึ่งยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากดวงตาใสซื่อที่ยังคงมองผม แววน้อยใจที่ฉายชัดทำเอาผมรู้สึกผิดขึ้นมาที่แกล้งมักเน่



    “ท...ทำไมต้องทำร้ายผมด้วย ไม่รักจองกุกแล้วเหรอ”



    เสียงทุ้มหวานกับแววตาละห้อยที่มองมาทำเอาผมเลิ่กลั่กได้แต่ยกมือขึ้นลูบผมจองกุกเบาๆด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ



    “ข....ขอโทษ”



    จองกุกกระพริบตาปริบๆไล่หยาดน้ำตาก่อนจะพยักหน้า



    “ไม่ให้อภัย”



    แล้วแกจะพยักหน้าเพื่อ.....????? อยากจะเอาโคมไฟข้างเตียงฟาดหน้าแม่ม และดูเหมือนคำสาปแช่งของผมจะส่งไปถึงจองกุก เพราะมักเน่น้อยหยุดกวนตีนผมทันควัน แล้วเปลี่ยนมาออดอ้อนด้วยการซุกไซร้อกของผมแทน



    “ตอนแรกผมยอมรับว่าแค่อยากแกล้งพี่.....”



    น้ำเสียงจริงจังกับมือใหญ่ที่สอดประสานเข้ามากุมมือของผม จอนจองกุกแนบหูลงกับอกบางเพื่อฟังเสียงหัวใจของแทฮยองที่กำลังเต้นเป็นจังหวะ 



    “ตอนที่เริ่มเกมส์ซังนัมจาจีมินบอกผมว่าถ้าผมทำให้พี่เป็นของผมแล้วฮยองจะซื้อรองเท้าที่ผมอยากได้ พี่วีคงรู้อยู่แล้วสินะ”



    เสียงทุ้มต่ำที่พูดแผ่วเบาทำให้ผมต้องตั้งใจฟัง



    “ผมคิดว่ามันไร้สาระและไม่คิดจะทำ”



    จอนจองกุกยันตัวขึ้นมามองหน้าผม ดวงตาคมที่มองมาฉายแววจริงจังทำให้ผมรู้ว่าเขาไม่ได้เล่นๆกับเรื่องนี้อย่างที่ตัวเองคิด



    “แล้วทำไม.....”



    “นั่นเป็นเพราะพี่” คำตอบที่ทำเอาผมถึงกับอึ้ง



    “เพราะพี่เนี่ยนะ? พี่ไปทำไรให้นายอ่ะจองกุก” 



    นั่นสิ ผมไปทำอะไรให้น้องเขาครับ T~T นอกจากเดินไปเดินมาแล้วก็กิน ผมยังไม่เห็นว่าตัวเองมีประโยชน์กับฟิคเรื่องนี้ตรงไหน อยู่ดีๆอีกฝ่ายก็มาหาว่าเป็นเพราะผมที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ บอกเลยน้องวีรับไม่ทัน



    “ทำสิครับ พี่น่ะแหละ ที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ตั้งแต่แรก”



    Jungkook’s POV


    ย้อนกลับไปวันแรกของการเล่นเกมส์ซังนัมจา



    คิมแทฮยองตัวเอกของเรื่องที่ไม่เคยทำอะไรนอกจากบรรยายไร้สาระกับหาของกินกำลังนั่งเล่นอยู่ในสวนกับจอนจองกุกหลังจากพวกฮยองขับรถมาขโมยวัตถุดิบในการทำอาหารจากมักเน่ทั้งสองไปจนหมดสิ้น



    ความผิดข้อที่ 1 สัมผัส 



    ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องมันเริ่มขึ้นจากตรงไหน อาจจะเป็นตอนที่แทฮยองใจดีจนทำให้เผลอคิดว่าจะฉวยโอกาสยังไงก็ได้ตอนที่จับคู่นอนกันในคืนแรก 



    หรือตอนที่แทฮยองกำลังสัมผัสริมฝีปากของผมด้วยท่าทางใสซื่อแต่แฝงไปด้วยความยั่วยวนอย่างร้ายกาจเหมือนอย่างตอนนี้



    มือเรียวที่แตะลงบนริมฝีปากพร้อมกับหัวเราะคิกคัก ใบหน้าน่ารักที่ก้มหน้าลงมอง คิมแทฮยองแสนใสซื่อไม่เคยรู้ว่าตัวเองน่ารักแค่ไหนตอนที่ยิ้มแบบนั้น นิ้วเรียวจิ้มลงบนฟันกระต่ายที่เจ้าตัวคิดว่ามันช่างน่ารัก โดยที่ไม่รู้ว่ากระต่ายตัวนี้มันคิดเกินไปกว่านั้น



    ทำไมชอบทำแบบนี้นักนะ



    พอรู้ตัวอีกครั้งก็อดไม่ได้ที่จะจุมพิตริมฝีปากนุ่มละมุนแต่กลับโดนผลักออก



    กุกกี้อ่า พี่ขอโทษที่ผลักนะ จำได้ว่าแทฮยองพูดแบบนั้น งั้นพี่ให้นายจูบเรื่อยๆจนกว่าจะพอใจเลยดีมั้ย



    ความผิดข้อที่สอง ทำร้ายจิตใจ



    ผมกำลังนอนหมดสภาพเพราะท้องเสียจากบีบิมบัมน้ำมันงาสยองขวัญของจินฮยอง เป็นอีกครั้งที่แทฮยองทำท่าทางน่ารักตอนโดนแกล้ง มือเรียวถูริมฝีปากของตัวเองแรงๆตอนที่ผมแกล้งบอกว่าแทน้ำลายไหล



    อยากจูบ...อยู่ดีๆก็มีความคิดนี้ขึ้นมา



    และผมก็ไม่รอช้าที่จะลองชิมริมฝีปากนั้นให้สมกับที่อดใจรอมาเนิ่นนาน จูบดูดดื่มครั้งแรกของแทฮยองที่ผมช่วงชิงมาอย่างเอาแต่ใจ ริมฝีปากอิ่มที่ตอบสนองกลับมาทำให้ผมใจสั่นจนแทบเป็นบ้า 



    แต่ความพอใจก็จางหายไปเร็วพอๆกับตอนเริ่มเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่แทฮยองจะยอม แต่ร่างบางก็ตอบสนองจูบนั้นทั้งที่จะผลักออกก็ได้



    แทฮยองต้องการอะไรกันแน่ กำลังแกล้งหรือกำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่รึเปล่า



    ยิ่งเห็นท่าทีสับสนก็ยิ่งทำให้ผมไม่พอใจ ทำไมต้องมาดูแลกันขนาดนั้น ทั้งที่สามเดือนที่ผ่านมาหลังจากโปรโมทซังนัมจาก็แทบไม่เคยใส่ใจกันด้วยซ้ำ



    “ก็เพราะว่าพี่เป็นคนแมนไง!!!”



    คนตัวเล็กพูดออกมา อ๋อ ที่ทำทุกอย่างนี่ก็เพราะเกมส์ซังนัมจา ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงอะไรผมจริงจัง 



    และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมคิดถึงพนันของปาร์คจีมิน มันจะผิดอะไร ในเมื่ออีกฝ่ายคิดว่าทุกอย่างมันเป็นเกมส์มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว



    “เห็นมั้ยล่ะครับว่าแทเป็นคนเริ่มเกมส์นี้” ผมพูดกับแทแทด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ “ผมถามแล้วว่าทำไมถึงต้องใส่ใจผมขนาดนี้แต่แทกลับบอกว่าเพราะพี่อยากแมน ใครกันแน่ที่ไม่เคยนึกถึงจิตใจของคนอื่น แถมยังมายั่ว...”



    ผมใช้จมูกโด่งซุกไซร้ลงบนผิวสีน้ำผึ้งที่โผล่พ้นออกมาจากเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ แทฮยองดูจะช็อกค้างไปแล้วเพราะคำพูดของผมและริมฝีปากที่ลากผ่านผิวสวยไม่หยุดหย่อนแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร 



    ไม่สิ...จนกระทั่งตอนนี้พอมาย้อนคิดดูไม่เคยเลยสักครั้งที่แทฮยองจะปฏิเสธ



    ผมคิดว่าเป็นเพราะเกมส์ แต่แทฮยองก็ไม่ใช่คนที่ชอบเอาชนะอะไรขนาดนั้น อย่างน้อยก็ไม่บ้าการแข่งขันเท่าผม แล้วถ้าไม่ได้ชอบ ใครมันจะยอมให้เอาเปรียบได้กระทั่งเรื่องบนเตียง ที่ผ่านมาผมโง่ขนาดนี้ได้ยังไง



    “ใครยั่ว...ก็นาย...ก็จองกุก” ท่าทางทำอะไรไม่ถูกทำให้ผมเผลอหัวเราะ



    “ก็เพราะว่าแทไม่ชัดเจนแบบนี้ ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าแทรักผม อันที่จริง ผมเคยถามออกไปแล้ว...”



    “ต...ตอนไหน...”



    มือของผมเลื้อยไปหยุดอยู่ตรงชายเสื้อยืดสีขาว ดวงตากลมโตได้แต่มองมาอย่างมึนงงก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อผมเลิกชายเสื้อขึ้นจนขึ้นมาถึงคอ แทฮยองตัวสั่นเล็กๆเมื่อความเย็นของเครื่องปรับอากาศกระทบผิว



    พอมารู้ตัวอีกครั้งคนตัวเล็กที่ไม่เคยตามผมทันก็เหลือแค่ท่อนบนที่เปลือยเปล่า เสื้อสีขาวถูกถอดออกโยนไปที่ไหนสักที่ที่ผมไม่คิดจะแคร์



    “น...นี่ หยุดนะ จองกุก” เสียงทุ้มหวานแหบพร่า “ไหนว่าจะอธิบายแล้วนี่ทำไม....”



    นิ้วมือข้างนึงของผมบดขยี้ไปบนเม็ดเล็กๆกลางหน้าอกร่างบาง ก่อนจะกระตุกยิ้มชั่วร้าย



    “ก็อธิบายไปถอดไป ” น้ำเสียงของผมเจ้าเล่ห์จนตัวเองรู้สึกได้ “พอผมอธิบายจบ...”



    มืออีกข้างเลื่อนลงแตะขอบกางเกงขาสั้นพร้อมกับเสียงทุ้มที่กระซิบข้างใบหูนิ่ม



    “อะไรๆของพี่ก็คงจะเสร็จ.....”



    ยกตัวขึ้นมองใบหน้าหวานที่นิ่งค้างตกตะลึง อีกวินาทีคิมแทฮยองก็พยายามยื้อตัวออกจากเตียงแต่ผมกดข้อมือบางเอาไว้แน่น



    “จะไปไหนละครับ ไหนว่าอยากฟังผมอธิบาย....ผมก็จะอธิบาย” ร่างเล็กส่ายหน้าไปมาแต่ผมก็ไม่คิดสนใจ 



    “อธิบาย.......” สติที่ดูเหมือนไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของแททำให้ผมยิ้มกว้างยิ่งขึ้น



    “ผมจะอธิบายกับแทให้ละเอียดๆ....เอาให้ละเอียดถึงร่างกายทุกซอกมุมน่าจะดี” สีหน้าตกตะลึงของแทฮยองทำให้ผมอยากจะหัวเราะ



    “หื่นกาม”



    “หื่นกาม? หื่มกามงั้นเหรอ?” ผมเลิกคิ้วมองแทฮยอง 



    .



    .



    .



    “เพิ่งรู้รึไงครับ”



    ผมกระตุกยิ้มชั่วร้าย ไล้นิ้วมือไปตามหน้าท้องแบนราบจนคนตัวเล็กสะดุ้งหนีสัมผัสจากมือเย็นๆ จูบกันมาตั้งหลายครั้ง มีอะไรกันก็แล้ว ตอนนี้ต่อให้โดนว่า ผมก็ไม่มีอะไรจะเสีย แต่แทฮยองเนี่ยสิเสียตัวให้ผมเต็มๆ 



    “หน้าด้าน...อ...อื้อ” 



    คนตัวเล็กพึมพำเบาๆตอนที่ผมเลื่อนมือลงถอดกางเกงนอนขาสั้นออกไป ยกขาเรียวสวยขึ้นตั้งฉากก่อนจะพรมจูบเบาๆไปที่ต้นขาด้านใน



    แทฮยองเบือนหน้าหนีไปอีกทางตอนที่เราสบตากัน ดวงตากลมโตหลับตาพริ้ม ริมฝีปากอวบอิ่มแดงระเรื่อเพราะโดนเจ้าของขบกัดเพื่อกลั้นเสียงครางตอนที่โดนลูบไล้ขบเม้มไปทั่วผิวสีน้ำผึ้งด้านในต้นขาใกล้กับส่วนอ่อนไหว



    ถึงจะปฏิเสธแต่เนื้อผ้าบางที่เหลือเพียงชิ้นเดียว ก็ทำให้อะไรๆเด่นชัดว่าแทฮยองเริ่มมีอารมณ์ร่วม



    “เรียกแทนตัวเองว่า แท หน่อยสิ” 



    ผมยื่นข้อเสนอ ยังจำได้ว่าก่อนที่จะโดนแทฮยองจิกผม พี่ชายร่วมวงเผลอหลุดเรียกตัวเองว่า แท แทนที่จะเป็น พี่ เหมือนทุกครั้ง มันน่ารักจนทำให้ผมหยุดชะงักเพราะหัวใจเต้นแรงขึ้นมา 



    แค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้แต่แทฮยองกลับทำให้มันมีอิทธิพลกับความรู้สึกผมได้ 



    “ร...เรียกทำไม เราเป็นพี่น้องกันนะ”



    ท่าทางสั่นๆกับน้ำเสียงไม่มั่นใจช่างน่าเอ็นดู ผมหัวเราะ ปล่อยมือออกจากต้นขาเรียวสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยจูบ แทฮยองคงจะใส่ขาสั้นไม่ได้ไปเป็นอาทิตย์ ผมยันตัวขึ้นเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้คนน่ารัก



    “แต่ตอนนี้ผมไม่อยากเป็นแค่พี่น้อง...”



    ไม่รอให้คนตัวเล็กปฏิเสธ ผมก็จัดการจับใบหน้าหวานให้เอียงได้องศา ลมหายใจอุ่นร้อนคลอเคลียกันอยู่เพียงชั่วขณะ ก่อนที่ผมจะกดริมฝีปากลงกับกลีบปากอ่อนนุ่มของคนตรงหน้า



    สองอาทิตย์ที่ไม่ได้สัมผัส แค่จูบเพียงแผ่วเบาสติของผมก็เตลิดไปไกล จูบเม้มกวาดต้อนเอาทุกอย่างเหมือนกับคนกระหาย 



    “จอง...จองกุก” 



    แทฮยองครางแนบชิดริมฝีปาก ผมปล่อยมือออกจากข้อมือเรียวบาง แต่แทนที่คนตัวเล็กจะเอาแขนมาคล้องคอผมเหมือนทุกครั้ง แทฮยองกลับใช้ฝ่ามือเรียวนั่นพยายามดันหน้าอกของผมออกไปจากตัว



    ผมเข้าใจที่แทฮยองโกรธ...แต่ว่าผมทนไม่ไหว หลังจากสองอาทิตย์ แค่เพียงได้อยู่ใกล้ๆผมก็รู้สึกเหมือนยั้งใจไม่อยู่ แล้วยิ่งหลังจากเหตุการณ์ในครัว แทฮยองที่สารภาพรักกับผมกลับออกไปข้างนอกกับผู้ชายคนอื่น



    ใช่ครับ...ผู้ชายคนอื่น



    ยอมรับว่าตอนแรกผมสับสนที่โดนสารภาพแบบไม่คาดคิด ผมคิดว่า...



    “ผมคิดว่า...แทเกลียดผมแล้ว”



    พึมพำแนบชิดริมฝีปากอุ่นนุ่ม แทฮยองหอบหายใจเพราะแรงจูบ น้ำเสียงของผมสั่นไหวไม่มั่นใจจนรู้สึกได้ เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกไม่มั่นใจอะไรมากขนาดนี้ ถึงแม้แทฮยองจะบอกว่าเขาชอบผมมาตลอด แต่หลังจากทุกเรื่องที่ผมทำลงไป ผมไม่แน่ใจว่าเขายังอยากจะรักผมเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า



    “ผมขอโทษ” ผละออกแล้วจูบย้ำกับริมฝีปากที่แสนคิดถึงซ้ำๆ “ผมรู้ว่าผมทำผิด ผมขอโทษที่ทำตัวเป็นเด็ก แต่ผมอยากให้แทรู้ว่าที่เรามีอะไรกันไม่ใช่ความผิดพลาด ผมไม่ได้เห็นแทเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์”



    ผมลูบแก้มเนียนแผ่วเบา ยันตัวขึ้นสบตากับดวงตาสีน้ำตาลที่ทอประกายด้วยอารมณ์หลากหลายที่อัดแน่นอยู่ในนั้น ความไม่มั่นใจ ความสับสน แม้กระทั่งความหวัง...



    และดวงตาคู่นั้นก็ทำให้ผมมีความหวังขึ้นมา จองกุกสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แววตาฉายแววจริงจัง เพราะนี่อาจจะเป็นแค่โอกาสเดียวที่จะแก้ไขในสิ่งผิดพลาดและความเข้าใจผิด



    “ผมก็เหมือนแท ถึงผมจะทำตัวมั่นใจในเกมส์นี้มาตลอด แต่แทไม่รู้หรอกว่าผมสับสนแค่ไหนกับทุกๆอย่างที่เราทำ”



    บ่อยครั้งที่ดวงตาคมทอประกายวูบไหวเมื่ออยู่ใกล้ชิด สับสนจนอยากจะผลักไสคนตัวเล็กออกไปเพราะความรู้สึกที่ตีตื้นขึ้นมาในอกมันมากเกินไปจนรู้สึกกลัวแต่ก็ทำไม่ได้จนกลายเป็นเกมส์ของคนสองคนที่ทั้งผลักไสและดึงดันจะอยู่ใกล้กันแบบนี้



    จอนจองกุกก็เป็นแค่เด็กผู้ชายที่เพิ่งรู้จักความรักคนหนึ่งเท่านั้น 



    “ผมอยากจะอยู่ใกล้ๆแทตลอดเวลา” สารภาพออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นไหว ผมยกมือบางขึ้นมาจูบแผ่วเบา



    “ผมไม่ชอบที่เราห่างกันไปหลังจากคัมแบคเพลงซังนัมจา ผมคิดว่าแทไม่ชอบผมอีกแล้ว แม้กระทั่งตอนที่เล่นเกมส์นี้ผมก็ยังไม่รู้ตัว จนกระทั่งตอนนั้นในครัวที่แทบอกว่าชอบ”



    “แต่นายก็เงียบ...” เสียงทุ้มหวานพูดแทรกขึ้นมา “พี่คิดว่า...แทคิดว่า...จองกุกรังเกียจแท”



    น้ำเสียงเบาหวิวกับท่าทางที่เหมือนจะร้องไห้ ทั้งที่เคยพูดออกไปแล้วว่าไม่อยากจะให้แทฮยองร้องไห้ แต่คนตัวเล็กก็ร้องไห้เพราะผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า 



    ท่อนแขนเรียวไขว่คว้าดึงตัวผมเข้าไปกอด ซุกหน้าลงกับซอกคอของผม หลายต่อหลายครั้งที่ผมไม่เคยเข้าใจว่าแทฮยองกำลังคิดอะไร แต่ว่าตอนนี้ผมเข้าใจแล้วและรู้สึกว่าตัวเองช่างโง่งมเพราะมันชัดเจนซะขนาดนี้



    “ผมไม่ได้รังเกียจ ผมไม่เคยรังเกียจ ผมก็แค่กำลังคิด...”



    จองกุกไม่ได้โกหก ตอนที่ได้ยินครั้งแรก หนึ่งนาทีผ่านไปกับการทำใจยอมรับ หลายนาทีที่ทุกๆเหตุการณ์ในอดีตประดังเข้ามาในสมอง หลายต่อหลายนาทีที่คิดทบทวนความรู้สึกตัวเอง แม้กระทั่งอนาคต



    พอรู้ตัวอีกครั้งแทฮยองก็เดินจากไปพร้อมกับความเข้าใจผิดซ้ำยังไม่เปิดโอกาสให้พูดคุยกัน



    ผมสารภาพความรู้สึกของตัวเองกับพวกฮยองไปหมดแล้ว พวกฮยองเข้าใจและอยากให้เรากลับมาคืนดีกัน แม้กระทั่งเรื่องของอนาคต ถึงแม้เราจะเปิดเผยไม่ได้แต่การที่ได้อยู่ใกล้ชิดกันก็เพียงพอที่จะเสี่ยง แม้ว่าผลสุดท้ายจะไม่รอดแต่ก็ดีกว่าไม่ได้ลองทำอะไรแล้วคาราคาซังแบบนี้



    “คนบ้าอะไรคิดเป็นสิบนาที” แทฮยองบ่นพึมพำอู้อี้กับซอกคอของผม “แต่ก็นะพอมาคิดๆดูแล้วแบบนั้นมันก็เป็นนายน่ะแหละ ถ้าพูดออกมาทันทีคงไม่ใช่จองกุก”



    ผมหัวเราะพร้อมกับขยับมาจูบหน้าผากมนเบาๆ



    “ผมคิดนาน แต่แทก็ทำแสบมากนะที่ออกไปกับผู้ชายคนอื่น”



    คิดแล้วก็โมโห มาบอกว่ารักผมแต่อาทิตย์ต่อมาดันไปกับไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ซะได้ ไม่สิ...ไม่ใช่ที่ไหนไม่รู้แต่เป็นเพื่อนสมัยเด็กที่เคยชอบแทฮยอง



    “รู้ได้ไงอ่ะ”



    “ก็ผมตามป....อ๊ะ!”



    อ๊ะ! บ้าชิบ 



    “ตาม? จองกุกตามไปดูแทกับยุนจองงั้นเหรอ?” ตากลมๆที่มองมาฉายแววสงสัยจนผมได้แต่ถอนหายใจ



    “ใช่ครับผมตาม ก็ผมไม่ไว้ใจหมอนั่นมันเคยชอบแท”



    “ไม่มีอะไรซะหน่อย เขาเลิกชอบแทไปนานแล้วมั้ง”



    “เลิกบ้าอะไร ไอ้ที่เช็ดครีมที่ปากอย่านึกว่าผมไม่เห็นนะ”



    “นี่ตามไปยันคาเฟ่เลยเหรอ?”



    “ตามไปคาเฟ่แล้วไง ก็ตามยันกลับมาหอน่ะแหละ ผมเกือบจะออกไปต่อยไอ้บ้านั่นแล้วตอนมันกอดบอกลา เลิกชอบบ้าอะไร เพื่อนที่ไหนทำกันแบบนี้”

    น้ำเสียงดุๆของผมทำเอาคนตัวเล็กจ๋อยไปทันที ไม่ใช่ว่าเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ผมเคยบอกไปแล้วว่าถ้าไปไหนมาไหนกับหมอนั่นให้เอาผมไปด้วย แต่นี่กลับหนีออกไปคนเดียว ถ้ายุนกิฮยองไม่เอามาบอกป่านนี้ผมคงเป็นบ้าแน่ๆถ้าไม่ได้ตามออกไป



    “วันหลังไม่ต้องออกไปกับมันแล้วนะถ้าไม่มีผมไปด้วย”



    น้ำเสียงเด็ดขาดทำเอาแทฮยองปากยู่แต่ก็พยักหน้ารับ ปากก็พึมพำหาว่าผมโอเว่อร์ แทฮยองก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน



    “ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นผู้ชาย” ผมขัดขึ้น “รู้ว่าแทดูแลตัวเองได้ ไอ้บ้านั่นทำอะไรแทไม่ได้หรอก ผมก็แค่ไม่ชอบ...ไม่ชอบให้ใครก็ไม่รู้มาแตะของของผม”



    “อ่อ ก็เลยตามหวงเป็นพ่อ” 



    แทฮยองเบะปากล้อเลียนจนผมอ่อนใจ กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ได้แต่ส่งสายตาจิกกัดไปที่คนตัวเล็กที่ดูจะชอบสกินชิพกับคนอื่น ในวงไม่ว่าหลังๆเริ่มลามไปนอกวง รอก่อนเหอะ...



    “แล้วที่ตามหวงนี่รู้รึยังว่าทำไม”



    น้ำเสียงของผมเริ่มกลับมาเจ้าเล่ห์ มือที่เคยกุมมือบางก็เริ่มอยู่ไม่สุขลูบไล้ไปตามช่วงเอวคอดอีกครั้งเมื่อสถานการณ์ระหว่างเราเริ่มกลับมาดีขึ้น ถึงแม้ผมจะไม่ได้พูดแต่คนที่ซื่อบื้อมาตลอดอย่างแทฮยองเองก็คงสัมผัสได้



    ทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความผิดพลาด ไม่ได้เป็นแค่ความหลงใหล เพราะฉะนั้นเหตุผลของทุกการกระทำนี้ จนถึงตอนนี้มีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น



    “เพราะว่าจองกุกเป็นหมาบ้า”



    น้ำเสียงจริงจังจากคนตัวเล็กทำเอาผมที่เกือบจะก้มลงไปจูบริมฝีปากแดงๆชะงักค้าง อารมณ์โรแมนติกที่สร้างมาพังทะลายไม่เป็นท่า โลกสีชมพูหวานแตกสลายเมื่อคนประหลาดก็ยังคงความ 4D ไม่ถูกเวลา



    “หรืออาจจะเป็นกระต่ายบ้า...บ้ากาม”



    “แทฮยอง” น้ำเสียงเข้มๆของผมไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กสะทกสะท้านแต่อย่างใด ยังคงจมอยู่ในโลกยานแม่



    “สงสัยจะหวงเพราะโมโหหิวไม่มีคนให้แครอท คึคึคึคึ”



    พอกันที! ตอนแรกผมคิดจะสารภาพ แต่คนบ้าก็เป็นซะอย่างนี้ เสียงหัวเราะหวานใสที่ดังก้องไปทั่วห้องนอนมันก็ชวนให้รู้สึกดีเพราะไม่ได้ยินมาหลายอาทิตย์ แต่มันใช่เวลามั้ย 



    ใบหน้าของผมที่เคยอ่อนโยนเริ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชา รอยยิ้มชั่วร้ายกระตุกที่มุมปากเหมือนเช่นทุกครั้งที่ไม่พอใจและแน่นอนว่าแทฮยองที่เคยหัวเราะถึงขั้นหัวเราะค้าง ตอนหันมาเห็น เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นที่หน้าผากมน 



    หน้าตาหวาดผวายิ่งกระตุ้นต่อมอยากแกล้ง ถ้าวันนี้ไม่ได้สักสองครั้งอย่ามาเรียกว่าจอนจองกุกเลย คิดแล้วก็แสยะยิ้มจนคนตัวเล็กเลิ่กลั่กพยายามหาทางหนี



    “ใช่ครับผมโมโหหิว” 



    พูดอย่างเดียวไม่พอมือก็เลื่อนไปที่หน้าท้องแบนราบ ต่ำลงไปเรื่อยๆ แทฮยองได้แต่บิดไปมาแต่เจอผมมองดุเข้าไปทีเดียวตัวแสบก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ 



    “ผมอยากกินแครอทงั้นแทก็มาป้อนผมสิครับ แครอทของแทแทน่ะ...”




    กินแครอทที่ Bio
    @seulkinii 


         เราทั้งคู่หอบหายใจแรง ยังคงกอดก่ายกัน หน้าผากเราสองคนชนกันแผ่วเบา แลกเปลี่ยนลมหายใจซึ่งกันและกัน หลังพายุรักที่พัดหนักหน่วง



    “ผมรักแทฮยอง”



    ผมเอ่ยคำบอกรักที่เก็บมาในใจตลอดตั้งแต่วันนั้น



    “มันอาจจะไม่ใ่ช่ความรักตั้งแต่แรกพบ แต่ทุกๆวันที่อยู่ด้วยกันมันทำให้ผมผูกพันธ์ ผมรักแทแล้วก็หลงรักแทมากขึ้นจนกลายเป็นความสับสน แต่ว่าตอนนี้ผมไม่กลัวอีกแล้ว”



    ผมเคลื่อนตัวไปจูบหน้าผากมนของร่างบางที่ยังคงเหนื่อยอ่อนจากกิจกรรม ดวงตากลมโตเบิกกว้างกับคำสารภาพที่ไม่ทันตั้งตัว อย่างน้อยผมก็ได้แก้แค้นคืนแล้วที่โดนชิงบอกรัก



    “ผมรักแท...แล้วผมก็ไม่อยากเป็นแค่พี่น้อง”



    น้ำเสียงทุ้มยังคงพูดต่อไปด้วยแววตาจริงจัง



    “เป็นแฟนกับผมนะครับ แทฮยอง”



    .



    .



    .



    “ทุเรศที่สุด”



    แทฮยองที่ทำหน้าถมึงทึงพร้อมกับปากยู่ยกมือขึ้นกอดอกทำเอาผมอยากจะหัวเราะ ทั้งที่ทำท่าไม่พอใจแท้ๆแต่แววตาคนน่ารักกลับเป็นประกายด้วยความดีใจ 



    “ทำพี่ไปแล้วยังมีหน้ามาทำหน้าระรื่น ปกติคนเค้าต้องสารภาพรักก่อนแล้วค่อยทำไม่ใช่รึไง ไอ้บ้า ไอ้หน้าด้าน”



    มือเรียวทุบตีลงบนอกผมไม่หยุดทำให้ผมต้องร้องโอดโอย มันไม่ได้เจ็บมากก็จริง แต่นี่แรงผู้ชายนะครับ อกผมต้องเป็นรอยฝ่ามือแถมหลังยังมีแต่รอยข่วน เมียซาดิสม์ชัดๆ



    “ทำไมล่ะ ผมก็ขอเป็นแฟนแล้วนี่ไง สารภาพรักด้วยนะ จองกุกรักแทฮยอง จองกุกรักแทฮยอง!!!!!”



    ผมตะโกนข้างหูร่างบางจนแทฮยองเอามือปิดหูแทบไม่ทัน ตากลมฉายแววรำคาญขัดกับใบหน้าแดงระเรื่อจนผมทนไม่ไหวก้มลงไปฟัดแก้มนิ่มๆฟอดใหญ่



    “ก็ปล้ำก่อนแล้วค่อยสารภาพ....”



    ผมดึงมือบางออก กระซิบข้างหูร่างบางด้วยน้ำเสียงแหบพร่า



    “พอแทฮยองที่ไม่รู้เรื่องอะไรเผลอก็รวบรัดเอามาเป็นแฟน”



    ผมแกล้งทำน้ำเสียงชั่วร้าย ใบหน้าตื่นตะลึงของแทฮยองไม่ว่าดูกี่ครั้งก็ตลกทุกครั้ง



    “นี่แหละครับจองกุกสไตล์”




    #กุกวีซังนัมจา



    ตอนหน้าจบแล้วค่ะ!!! แต่มีตอนพิเศษที่ลบเป็นเรื่องจองกุกตอนเจอแทฮยองตามมาแน่ๆ ใครที่ตามฟิคเรามาตั้งแต่แรกจะรู้ว่าเราเขียน Short Fic ด้วยแต่ลบออกไปแล้ว เราจะเอาไปใส่ไว้ในรวมเล่มที่จะออกปีหน้าเลยค่ะ รอเรากลับไทยเดือนเมษานะคะ ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่ายังมีใครอยากได้เล่มอยู่มั้ย


    เรื่องนี้มีภาค 2 ตอนคบกันมาหลายเดือนแล้วแน่ๆค่ะ 


    มาลุ้นให้บังทันได้ถ้วยที่ 7 เป็น Triple Crown งาน M Countdown กันนะคะ


    ติดตามความเวิ่นกุกวีของเราและเรื่องรวมเล่มได้ที่แอค @seulkinii ค่ะ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×