ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR] Just Only XS and BF (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #7 : [Fic] Covetousness -XS- 4

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 52


    Chapter4: Just confuse


    หากแม้จะมีเพียงสักหนึ่งความหวังแล้ว……..



    ฉันก็ไม่ลังเลใจที่จะไขว่คว้ามา………



    .



    .



    .



    ผมจะช่วยท่านผ.บ.แย่งบอสมาจากสึนะโยชิ



    ถ้อยคำนั้นยังคงล่องลอยวนเวียนอยู่ในหัวสมองอย่างไม่อาจสลัดพ้น วันนี้ทั้งวันฉลามคลั่งแห่งวาเรียไม่เป็นอันทำอะไร นอกจากคิดถึงประโยค
    นั้น………….ประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากของสายหมอกจอมวางแผน



    พูดจาเอาแต่ใจโดยไม่ถามความเห็นของเขายังไม่พอ พอเขาเอ่ยปากจะถาม เด็กบ้านั่นก็ชิงล้มตัวลงนอนหลับไป ไม่ว่าเขาจะปลุกอย่างไรก็ทำหูทวนลม จนต้องทิ้งตัวลงนอนบ้างอย่างช่วยไม่ได้



    มาอาศัยห้องคนอื่นยังไม่พอ……….ยังมาพูดจาอะไรแปลกๆอย่างนี้อีก



    ไม่เห็นเข้าใจเลย เจ้ากบนี่มันต้องทะเลาะกับเจ้าชายบ้านั่นแน่อยู่แล้ว แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องของเขากับไอเด็กรุ่นที่สิบรึไง ที่ฟรานมันมาบอกว่าจะช่วย



    ไร้เหตุผล……



    ไร้คำอธิบาย………



    ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ……..



    “โว้ย!!!!”



    ตะโกนออกมาอย่างเหลืออด จนพวกลูกน้องที่เดินผ่านไปมา พากันหลบหน้าอย่างหวาดกลัวกับอารมณ์อันแปรปรวนของรองหัวหน้าหน่วยที่ดูจะเพิ่มมากขึ้น นับตั้งแต่ที่วองโกเล่รุ่นที่สิบย้ายมาอยู่ที่นี่



    แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างบอสแห่งวาเรียกับหยาดพิรุณสีเลือดนั้น ทุกคนในหน่วยวาเรียต่างก็รู้กันดี เพียงแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจกลับกลายเป็นว่า ทั้งๆที่ใครๆก็รู้ว่าบอสกับฉลามคลั่งมีความสัมพันธ์กันอยู่ แต่แล้วทำไมแซนซัสกลับพาวองโกเล่รุ่นที่สิบเข้ามาในปราสาท ยกฐานะให้เป็นคู่รักซะได้ เรื่องนี้ก็ยังคงเป็นปมปริศนาอยู่ในใจของทุกคนเรื่อยมา……



    “ท่านผ.บ.ครับ ขอผมคุยด้วยหน่อยสิ”



    เสียงหวานที่เรียกขานมาจากเบื้องหลัง ทำให้ร่างเพรียวชะงักฝีเท้าลงในทันที คำเรียกขานแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ผู้พิทักษ์แห่งสายหมอก เด็กบ้าที่เป็นต้นเหตุของความว้าวุ้นใจของปริศนาที่มันทิ้งเอาไว้ วงหน้าใสยังคงทอประกายเรียบเฉยด้วยความไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอย่างเคย และมันทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้



    “เออ จะพูดอะไรก็รีบพูดมาสิวะ!”



    เสียงห้วนที่พูดกระชากอย่างหงุดหงิดนั้นเรียกรอยยิ้มขำน้อยๆให้ปรากฏบนริมฝีปากฟรานจนคนมองเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ



    ไอเด็กนี่…….มันยิ้มเป็นด้วยเหรอ



    แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น ……..



    “ผมจะมาพูดเรื่องที่พูดค้างเอาไว้เมื่อคืน”



    เรื่องเมื่อคืน………



    อ้อ เรื่องไอแผนบ้านั่นที่ทำเอาเขาคิดมากจนนอนไม่หลับ………



    แถมยังหงุดหงิดจนแทบจะฆ่าคนได้………



    “ว่ามาสิวะ”



    “ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ท่านผ.บ.แค่ไปหาบอสแบบปกติก็พอแล้ว”



    “อะไรของแกน่ะ ไอกบ ฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นแผนอะไรตรงไหน”



    คิ้วเรียวขมวดมุ่นขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจ เขาคาดหวังว่าจะได้รับฟังอะไรที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ แค่ให้เขาเข้าไปหาบอสเฉยๆแล้วมันยังไงล่ะ มัน
    ต่างจากตอนปกติที่เขาเข้าไปหาบอสตรงไหนกัน แต่แล้วร่างบางที่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำบอกกล่าวที่คนเจ้าแผนการเอ่ยขึ้นมาอีกครา



    “ก็ใครบอกให้เข้าไปเฉยๆล่ะครับ”



    ร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้สควอโล่มากขึ้น เขย่งปลายเท้าก่อนจะกระซิบถ้อยคำบางอย่างข้างหูที่ทำให้คนฟังถึงกับหน้าแดงวาบอย่างห้ามไม่ได้ เรียวปากบางเตรียมจะเอ่ยคำประท้วง จนฟรานต้องตัดบทคำพูดนั้นอย่างรวดเร็ว



    “ผมอุตส่าห์ช่วยขนาดนี้แล้วแท้ๆ ถ้าท่านผ.บ.ไม่ทำแล้วใครจะทำล่ะครับ อยากแพ้วองโกเล่รึไง”



    “ไม่ใช่ มันไม่เกี่ยวกับการแพ้ชนะ แต่ว่า…..ทำอย่างนั้นแล้วบอสจะรักฉันขึ้นมารึไง”



    ท่าทางลังเลหม่นหมองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ร่างเล็กถอนหายใจอย่างหนักอก พอเป็นเรื่องของความรักแล้ว ฉลามคลั่งแห่งวาเรียกลับมีท่าทางอ่อนแอขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ดูเปราะบางราวกับจะแตกสลายได้ทุกครั้ง ไม่อยากเชื่อว่าคุณบอสขี้เก๊กนั่นปล่อยคนอย่างนี้ให้หลุดมือไปได้ยังไงกัน



    ไม่ใช่สิ…….อาจจะเพราะคิดว่าครอบครองได้แล้วซึ่งทุกอย่างต่างหาก ถึงได้ทำท่าราวกับไม่เห็นคุณค่าอยู่อย่างนี้



    “เรื่องบอสจะรักมั้ยผมไม่รู้หรอกครับ สำหรับผมแล้ว…….”



    สำหรับผมแล้ว………….



    การได้เห็นคนสองหน้าแบบนั้นดิ้นพราดๆต่างหากล่ะ มันถึงจะสะใจ!!!!



    สำหรับคนที่มั่นใจว่าตัวเองจะชนะแบบนั้น มันช่างน่าหมั่นไส้และน่าสมเพชอย่างบอกไม่ถูก



    ถ้าคนแบบนั้นแพ้ขึ้นมาบ้าง มันคงจะน่าสนุกพิลึก



    รอยยิ้มร้ายกาจถูกจุดขึ้นที่ริมฝีปากของเด็กหนุ่มจนสควอโล่ที่มองอยู่ถึงกับชะงัก



    ไม่ใช่เพราะรอยยิ้ม………….



    …………แต่เป็นเพราะดวงตาสีเขียวคู่นั้นช่างดูเศร้าสร้อยขัดกับรอยยิ้มเหลือเกิน…………



    ดวงตาสีฟ้าสวยกวาดตามองร่างตรงหน้าช้าๆ วงหน้าขาวใสยังคงชวนให้รู้สึกน่ารักน่าเอ็นดูอย่างเคย หากแต่เมื่อมองลึกลงไปแล้วกลับไม่เปล่ง
    ประกายและแฝงไปด้วยความเศร้าโศกจนอดไม่ได้ที่จะสงสารเล็กๆ



    มือเรียวยกขึ้นมาช้าๆ แตะลงไปที่ศีรษะสวยได้รูป ลูบเรือนผมสีน้ำทะเลสวยอย่างแผ่วเบาราวกับปลอบประโลม ฟรานเงยหน้าขึ้นมองท่าทางนั้นด้วยความสงสัย แต่ความอบอุ่นที่ได้รับก็ทำให้ยอมปิดปากเงียบ ไม่กวนประสาทเหมือนเคย



    “รู้มั้ยว่าแกน่ะ หัวเราะอยู่แต่ทำท่ายังกับว่าจะร้องไห้งั้นแหละ”



    เสียงหวานติดจะอ่อนโยนเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ร่างเล็กชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้าหวานหม่นหมองลงพลางเอ่ยตอบออกไปอย่างแผ่วเบา



    “ถ้าอย่างนั้นแล้ว…….ผมว่าเราก็คงไม่ต่างกันหรอกครับ”



    สควอโล่ยิ้มน้อยๆให้กับคำพูดนั้น ตลกดีนะ……ทั้งๆที่ความจริงเขากับฟรานไม่เคยพูดดีด้วยกันแท้ๆ แต่มาวันนี้กลับพูดราวกับว่าเข้าใจกันซะมากมาย



    อาจจะเป็นแค่คนอกหักสองคนที่มาพบเจอกันด้วยความบังเอิญกระมัง……….



    มือเพรียวบางยังคงลูบไล้เรือนผมสีเขียวน้ำทะเลสวยเล่นอย่างใจลอย เส้นผมเล็กที่นุ่มนวลราวกับแพรไหมชวนให้สัมผัสได้เรื่อยๆอย่างเพลิดเพลิน



    “หมวกกบแกไปไหนแล้ว”



    เอ่ยปากถามเมื่อสังเกตเห็นว่าวันนี้ฟรานก็ไม่ได้ใส่หมวกรูปกบนั้นอีกแล้ว ทั้งที่ปกติแทบจะใส่อยู่ตลอดเวลา ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลคู่สวยทอประกายร้าวราน



    “ของแบบนั้น คืนเจ้าของไปก็ดีแล้วครับ อย่าไปพูดถึงมันอีกเลย…….”



    พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น มือบางจัดทรงผมตัวเองที่โดนสควอโล่ลูบจนเสียทรงช้าๆก่อนจะก้าวเดินจากไป โดยไม่ลืมที่จะหันมาบอกว่า



    “พยายามเข้านะครับ ท่านผ.บ. อ๊ะ! ไม่สิ คุณแม่!”



    “เฮ้ย! นี่แก!บอกแล้วไงวะว่าอย่าเรียกแบบนั้น!!!!!”



    ร่างบางตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัด มือเรียวชักดาบออกมาจากฝักหมายจะไล่ฟันไอเด็กกวนประสาทตรงหน้า แต่ฟรานก็ไวเป็นปรอทเมื่อเจ้าตัวแปลงร่างเป็นหมอกมายาลอยหนีไป ทิ้งไว้แต่ฉลามคลั่งที่หงุดหงิดงุ่นง่านไปมาอย่างหาที่ระบายอารมณ์ไม่ได้



    โว้ย!! มันอะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย!!!

    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


    ดวงเนตรคู่คมสีแดงเลือดเหม่อมองสุราสีอำพันในแก้วเนื้อดีของตนอย่างใจลอย เมื่อวานเขาไม่ได้ไปหาไอฉลามสวะนั่นที่ห้อง เพียงเพราะคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับซาวาดะ สึนะโยชิในคืนนั้น



    ‘นาย….ฮึก…..อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ……’



    ภาพใบหน้าหวานที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาฉายเข้าในห้วงความคิด ร่างบางในเวลานั้นบอบบางน่าทะนุถนอมจนดูราวกับจะแตกสลายหายไปได้ทุกเมื่อ



    เพียงแค่คิดว่าดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นจะไม่เปล่งประกายอย่างเคย ใจของเขาก็เจ็บแปลบจนแทบทนไม่ได้……



    ความรู้สึกที่ตัวเองไม่เข้าใจ………



    เขากำลังเห็นแก่ตัวใช่มั้ยที่คิดจะมีสองคนในเวลาเดียว เขากำลังทำผิดกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักใช่มั้ย



    แล้วไอฉลามสวะหล่ะ……..



    จะเป็นยังไงก็ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับเขา……



    ที่มีอะไรกันมันก็เรียกร้องเองทั้งนั้น……..



    ‘ฉันจะไม่ทิ้งแก……ฉันก็แค่…….’



    พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุดชะงักไป แค่อะไรล่ะ…….



    แค่เลือกไม่ได้…….ว่าจะครอบครองนภาสีใสหรือหยาดพิรุณสีเลือดอย่างนั้นเหรอ…….



    ไอฉลามสวะไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย……แต่ทำไมกลับลังเลใจที่จะเลือก



    ทั้งๆที่คิดว่าร่างเล็กนี่สำคัญกว่าอยู่แล้ว



    เพราะอะไร……ทำไมกัน……



    ไม่เข้าใจเลย………



    ‘แซนซัส……เรายังรักกันอยู่ใช่มั้ย……’



    เสียงหวานที่เอ่ยถามนั้นช่างฟังดูรวดร้าวจนใจของเขากระตุกอย่างรุนแรง เย็นวาบที่ช่วงท้องด้วยความรู้สึกประหลาดอันไร้เหตุผลจะอธิบาย



    รักงั้นเหรอ……..



    จำไม่ได้…….



    เคยบอกรักตอนไหน……



    แล้วตอนนี้ล่ะรู้สึกยังไงกันแน่……….



    อากัปกริยานิ่งเงียบนั้นทำให้ร่างบางร้องไห้หนักกว่าเดิมจนไหล่สะท้านไหว ยิ่งนภาแห่งวาเรียนิ่งเงียบนานขึ้นเท่าไหร่ เสียงสะอื้นไห้ที่เก็บกลั้นของนภาใสแห่งวองโกเล่ค่อยถี่และชัดเจนขึ้นทุกขณะ น้ำตาใสๆไหลพร่าพรายอาบใบหน้านวลจนเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้าตายิ่งกว่าคราใดที่ชายหนุ่มเคยเห็น กายบอบบางที่ช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกินในสายตาของเขาไหวสะท้านด้วยแรงสะอื้น จนอดไม่ได้ที่จะคว้ามาไว้ในอ้อมกอด



    แต่ผิดคาด…..เมื่อคนตรงหน้าเลือกที่จะเบี่ยงตัวออกจากมือใหญ่ที่ยื่นมาหา นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวยที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตามองสบดวงตาคู่สวยของชายที่ตนรักหมดใจ ความจริงจังที่แฝงมาในดวงตานั้นทำให้คนอย่างเขาต้องหลบตาลงด้วยความรู้สึกผิด



    “ฮึก…..แซนซัส น….นายไม่รักฉันแล้วเหรอ พ…..เพราะสควอโล่ใช่มั้ย ฮึก….นายรักสควอโล่ใช่รึเปล่า”



    เสียงหวานคาดคั้นอีกครา ในขณะที่วงหน้าคมของแซนซัสเริ่มส่อเค้าของความลำบากใจ ไม่เคยเลยสักครั้งในชีวิต…..ที่เขาจะลังเลและคิดอะไรไม่ออกได้เท่ากับครั้งนี้



    ความรัก……



    ความคาดหวังในรัก……….



    ……….กำลังทำให้ชายผู้ไร้หัวใจเปลี่ยนไป……….



    “ไม่ ฉัน…….”



    พูดได้แค่นั้นก็พลันนิ่งเงียบไป มีเพียงเสียงหอบหายใจของคนที่กำลังร้องไห้ สอดทับเสียงหายใจจางๆของร่างสูงใหญ่เท่านั้น สึนะกัดริมฝีปากแน่นขึ้นเมื่อความรู้สึกที่สะกัดกั้นไว้มาเนิ่นนานเริ่มปะทุขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ มือบางกำหมัดแน่นจนเล็บคมจิกเข้าไปในเนื้อฝ่ามือจนเจ็บแปลบ แต่กลับเทียบไม่ได้เลยกับความเจ็บช้ำที่ฝังรากลึกกัดกินหัวใจที่ดูจะมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ



    .......โกรธ.......



    .......เสียใจ……...



    .......ผิดหวัง...........



    ความรู้สึกเหล่านี้ผสมปนเปกันจนยากจะแยกออก



    เพียงคำพูดเดียว... เพียงคำพูดเดียวก็ทำให้เขามั่นใจได้แล้ว หากคนตรงหน้ากลับไม่ยอมที่จะเอ่ยมันออกมา



    กลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากลำบาก ก่อนตะโกนถามสิ่งที่ค้างคาใจบางอย่างที่ไม่อาจลบล้างออกไปได้เลยแม้เพียงวินาที



    “ถ้านายไม่รักแล้วนายไปหาเขาทำไม!!!”



    สิ้นสุดถ้อยคำบริพาทย์จากริมฝีปากบางที่ระริกสั่น ความเงียบก็พลันบังเกิดขึ้นอีกครา ไม่มีคำพูดใดจากคนที่เขาเชื่อใจมากที่สุด แม้แววตาคู่นั้นจะจับจ้องมายังตัวเขา ก็ราวกับไม่สะท้อนถึงสิ่งใด



    "...ทำไม?"



    ร่างเล็กเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเบาหวิว แต่คำตอบที่ได้รับกลับมีเพียงความเงียบงัน



    "ทำไมไม่พูดล่ะ!?"



    แม้ตัวเขาจะเพียรถามเท่าไหร่แต่ผืนนภาสีดำนั้นก็ยังคงไม่สะท้อนสิ่งใดกลับมา มีเพียงความว่างเปล่าไร้แววของดวงตาสีแดงเลือดเท่านั้นที่ได้รับ



    ราวกับตัวเขาเป็นคนบ้าที่พูดอยู่คนเดียวแบบนี้…………



    ไม่ไหวแล้ว…….ไม่อยากจะทนเห็นแซนซัสไปอยู่กับใครอีกแล้ว



    “สัญญามาสิ……”



    เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา ทำให้ร่างสูงหลุดจากห้วงภวังค์ ความมุ่งมั่นที่แผ่ออกมาจากร่างเล็กนั้นช่างมากมายจนเขาไม่อาจทนนิ่งเฉยได้ ลางสังหรณ์บางอย่างกำลังร่ำร้อง ว่าสิ่งที่ขอนั้นมากมายเกินไป…….



    “สัญญาว่านายจะไม่ไปหาสควอโล่อีก!!! ถ้าเรื่องแค่นี้นายให้สัญญากับฉันไม่ได้ ฉันก็จะเก็บของออกจากวาเรียและจะไม่มีวันกลับมาเหยียบที่นี่อีกเลย!!!”



    ประโยคนั้นราวกับฟ้าฟาดเข้ามาที่กลางใจของคนฟัง ใบหน้าคมซีดเผือดไปชั่วขณะด้วยความคาดไม่ถึงในการตัดสินใจของคนตรงหน้า ทางเลือกที่แสนโหดร้ายกำลังบีบบังคับให้เขาต้องตัดสินใจเลือกเพียงสิ่งเดียว………



    ตัณหาราคะหรือว่าความรัก…………..



    สเปลฮี สควอโล่หรือซาวาดะ สึนะโยชิ…………



    นัยน์ตาสีแดงเข้มทอประกายวาบเล็กน้อยเมื่อตัดสินใจได้พลางเอื้อนเอ่ยอย่างแผ่วเบา



    “ฉันสัญญา…….”



    อาจจะเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของผืนนภาที่ดำที่ต้องการจะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง………..



    ทั้งท้องนภาสีใสที่บันดาลความอบอุ่นและไอรักอันแสนอ่อนโยน……



    ทั้งหยาดพิรุณที่สีเลือดผู้จงรักภักดีและรองรับอารมณ์ของเขาได้ดียิ่งกว่าใครๆ……….



    ถูกแล้ว…….ที่บอสแห่งวาเรียนั้น…….



    ช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกิน……….



    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!



    เสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นเป็นจังหวะเรียกสติของร่างสูงที่หลุดลอยไปไกลให้กลับมาอีกครั้ง นัยน์ตาสีเลือดปราดมองไปที่ประตูด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเอ่ยคำอนุญาต



    “เข้ามาได้”



    สิ้นเสียงนั้น บานประตูไม้เนื้อดีก็ถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา เรือนผมสีเงินยวงเตะตาเขาตั้งแต่แรกเห็นเมื่อร่างบางโผล่หน้าเข้ามาอย่างเชื่องช้าผิดวิสัย แซนซัสเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจยามจ้องมองมือทั้งสองข้างที่ว่างเปล่าของหยาดพิรุณ ไม่มีเอกสาร…….ไม่ได้จะมาคุยเรื่องงานงั้นเหรอ……



    “บอส……”



    เอ่ยเรียกขึ้นอย่างแผ่วเบา วงหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงก่ำนั้นเรียกความสนใจจากร่างสูงให้จับจ้อง ท่าทางแบบนั้นอาจจะทำให้ใครต่อใครใจสั่น หากแต่ไม่ใช่กับบอสแห่งวาเรียผู้ไร้หัวใจ ดวงตาสีแดงทับทิมคู่สวยกวาดตามองร่างบางในชุดหนังรัดรูป เน้นทรวดทรงของเอวเพรียวบางกับสะโพกกลมมนท้าทายสายตา อารมณ์แห่งความปรารถนาปะทุขึ้นจนพาลให้รู้สึกเสียววาบตรงช่องท้อง เพียงแค่นึกถึงค่ำคืนอันร้อนแรงและร่างบอบบางเปลือยเปล่าเร้าอารมณ์



    ปฏิกิริยาของแซนซัสพร้อมกับอาการจับจ้องไม่วางตานั้นทำให้ร่างบางรู้ได้ไม่ยากว่าคนตรงหน้ากำลังอยู่ในอารมณ์ปรารถนา และต้องการเขาเพียงใด ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงก่ำด้วยความอับอาย พาลคิดไปถึงถ้อยคำแผ่วเบาของเจ้าเด็กกวนประสาทโดยไม่ได้ตั้งใจ



    ‘ใช้ร่างกายตัวเองให้เป็นประโชน์บ้างสิครับ ท่านผ.บ.’



    สูดลมหายใจลึกๆเรียกกำลังใจให้ตัวเอง ก่อนจะเอื้อนเอ่ยประโยคสั้นๆแต่กลับสื่อความหมายชัดเจนยิ่งกว่าประโยคใด



    “ฉันต้องการนาย แซนซัส……”



    ดวงตาสีแดงเลือดที่เบิกกว้างด้วยความตกตะลึงคือสิ่งที่ฉลามคลั่งแห่งวาเรียได้รับกลับมา


    TBC.

    .............................................................................................................................................................

    (me//วิ่งหลบมีดที่ปามาจากผู้อ่าน) มันจบค้างคารึเปล่า 55555555+

    อยากจะบอกว่าตอนหน้าป๋าหลามทั้งตอนนะเออ nc-21 กร๊ากๆๆๆๆ โดนเควสมาว่าเอาบรรยายให้เลือดกระฉูด ไม่รู้จะทำได้รึเปล่า แต่จะพยายามนะจ๊ะ อิอิอิ

    สำหรับผู้ที่ถามว่าเรื่องนี้จะหวานเมื่อไหร่ของบอกว่า อีกนานอ่ะจ๊ะ 55555555+

    คอนเซปต์ของเรื่องคือ ดราม่าและรันทด

    ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหวานมั้ย ขนาดจะคิดพลีอตมันยังอู้

    จริงๆแล้วซึลชอบสดนะเออ กร๊ากๆๆๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×