คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 : แก้แค้น (141104)
Chapter 5
แก้แค้น (?)
อย่างพี่วีเนี่ยนะจะแก้แค้น รอไป 10 ชาติเหอะ – จองกุก
เด็กเวร แกอยากลองตายดู 10 ครั้งใช่ป่ะ? – น้อง ว.
ข่มขู่มักเน่ ลงไปวิดพื้นสองร้อยที!! – พี่จิน
…………………………………………
นี่ผมไม่ได้ตื่นเต้นเลยนะที่ได้ออกไปเที่ยวกับจองกุก
มองตัวเองในกระจกที่แต่งตัวเสร็จแล้วด้วยชุดที่ดีที่สุดที่ขนมา แต่งหน้าเสร็จแล้วด้วยเมคอัพแบบจัดเต็ม และตอนนี้กำลังเดินไปกินแพนเค้กที่จินฮยองทำให้ทั้งๆที่ตอนนี้เพิ่ง 7 โมงเช้า!!
ไม่ได้ตื่นเต้นเลยจริงจริ๊งงง (เสียงสูง)
หน้าเฮียจินคนหล่อ (หรือสวย?) ที่กำลังกินแพนเค้กตะลึงอึ้งยังกับเจอเอเลี่ยนบุกบ้าน นัมจุนฮยองถึงขั้นอ้าปากค้างน้ำลายฟูมปาก (?) ส่วนเฮียยุนกิ…ไร้ปฏิกิริยา นี่มันแก๊งคนแก่ตื่นเช้านี่นา อิอิอิ (กรรม)
“ตื่นเช้าเป็นด้วยเหรอ นึกว่าเมื่อคืนจะหนัก”
ประโยคเริ่มต้นทักทายยามเช้าจากชูก้าฮยองมาก่อน ดวงตาเล็กๆเหลือบมองที่ต้นคอของผมที่ยังคงมีรอยแดงเด่นหรา ถึงจะจางลงไปบ้างเพราะผมพยายามใช้แป้งกลบ แต่สีมันก็ยังแดงอยู่ดี
ก็ไม่ค่อยชัดหรอก แค่นัมจุนฮยองยังสังเกตเห็นแถมยังสะกิดจินฮยองที่กำลังราดน้ำผึ้งใส่แพนเค้กให้ดูแล้วหัวเราะคิกคักกันสองคนอีก ดูจากสีหน้าคงจิ้นฟินไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ดูจากระดับความคิดหื่นๆของเฮียแก
“สงสัยจะนัดกันไปทำอะไรมั้ง อะคึคึคึ” นัมจุนฮยองล้อเลียนอย่างมีเลศนัย
“เออ ก็ว่าทำไมตื่นเช้า แล้วจองกุกอยู่ไหน นัดกันกี่โมง”
ยุนกิฮยองถามผมต่อหลังจากที่ผมนั่งลงแล้วจินฮยองก็เลื่อนจานแพนเค้กมาให้ เห็นชัดขนาดนี้เลย? =[]= นี่ผมว่าผมก็ไม่ได้ทำตัวผิดปกติอะไรนะ (เหรออออ)
“จองกุกยังนอนอยู่ ส่วนนัดก็…” เอิ่ม ไม่อยากจะบอก
“ก็ไร อย่าบอกนะว่ามันยังนอนอืดทั้งที่ถึงเวลาแล้ว ไม่ตรงต่อเวลา เดี๋ยวพ่อโบกให้”
ไม่ว่าเปล่า ชูก้าฮยองยังทำมือโบกไปมาเป็นท่าทางตบสั่งสอนจนผมแอบสยอง เฮียคนนี้น่ากลัวสุดในบังทันแล้ว
“ยังครับ ยังไม่ถึงเวลา แต่ผมตื่นก่อน”
ผมรีบขัดทันทีเพราะเฮียก้าทำท่าจะลุกจากเก้าอี้ไปลากหัวจองกุกออกมาจากเตียง ชูก้าฮยองเลิกคิ้วถามผมเป็นเชิงถาม นี่จะคาดคั้นเอาความจริงให้ได้เลยใช่ป่ะ
“9….”
“9 อะไรอ่า”
โฮซอกฮยองที่เดินย่องมาเงียบๆตอนไหนไม่รู้ โผล่หัวเข้ามาพร้อมกับน้ำลายที่ยืดเป็นทาง (อี๋) หน้าบวม ตาปิด สภาพดูไม่ได้สุดๆ ไม่เหลือคราบแรพเปอร์สุดเท่ห์บนเวทีเลยสักนิด
อยากให้เมนแกมาเห็นจริงๆ =[]=
“ก็นัดจองกุก 9 โมง” พูดไปแล้วอายตัวเอง //>O<//
“วี…”
จินฮยองเรียก มือเฮียแกดันจานแพนเค้กไปทางโฮปฮยองที่นั่งแทรกระหว่างนัมจุนฮยองกับชูก้าฮยอง (คนหลังขยับตัวหนีแบบโคตรรังเกียจ)
“นายนี่…….ท่าจะเป็นเอามากนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
จ๊ะ หัวเราะไปเหอะ น้องวีคนแมนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว T^T
…………………………………………
“พี่วี….”
จองกุกส่งเสียงเรียกมาจากด้านหลัง ตอนนี้ผมกำลังยืนเหม่อลอยคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ตรงระเบียงบ้าน ผมหันหลังกลับไปช้าๆ แต่ว่าพอเราสองคนเห็นชุดของอีกฝ่ายเท่านั้นล่ะ…
“กุกกี้!! นี่นายจะไปไหนเนี่ย!!!!”
“พี่อ่ะแหละจะไปไหน นี่นึกว่าจะไปเดินแบบรึไง ไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้เลย!”
ว่าไงนะ!!
ผมที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตกางเกงยีนส์แทบอยากร้องไห้ สาบานได้ว่านี่คือเสื้อผ้าที่ดีที่สุดในกระเป๋า แล้วดูมันทำ มันสั่งให้คิมแทฮยองที่ใช้เวลาเลือกชุดและแต่งหน้าเป็นชั่วโมง กินข้าวเสร็จแล้วแต่ไม่กล้านั่งพิงบนโซฟาเพราะกลัวเสื้อยับไปเปลี่ยนเสื้อ!
“ไม่มีทางงงงง พี่ไม่เปลี่ยนเด็ดขาด นายนั่นแหละต้องไปเปลี่ยน”
ผมขึ้นเสียงใส่จองกุกด้วยความโมโห เฟลสองเด้ง นี่ถ้าเล่นไพ่คงได้ตังค์ไปแล้ว ผมอยากจะบ้า ทั้งๆที่จัดเต็มขนาดนี้ แล้วดูไอ้เด็กแสบมันแต่งตัว
เสื้อกล้ามขาวด้านใน ด้านนอกเป็นเสื้อลายดอกสีแดงไม่ติดกระดุม แม่มต้องไปซื้อพร้อมเฮียก้ากับเฮียม่อนแน่ๆ กางเกงขาสั้น แว่นตาดำเหน็บอยู่ที่อก ทรงผมยุ่งเหยิงหน้าไม่แต่ง (แต่ก็ยังดูหล่อจนน่าหมั่นไส้) ในมือถือห่วงยางอันนึงกับแพลอยน้ำแฟบๆที่คงจะเอาไปเป่าทีหลัง
จะชวนไปทะเลทำไมไม่บอก!!!! ปล่อยให้น้องวีมโนว่าจะพาไปกินของหรูในห้างทำไม!!!
“เสียงดังไรกัน หนวกหู”
จินฮยองที่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเดินมาดูพร้อมกับแก๊งคนแก่ แต่แล้วพอสายตาสี่คู่เห็นชุดของผมกับจองกุกที่ไม่แมทซ์กันอย่างแรงเท่านั้นแหละ พวกฮยองก็ประสานเสียงหัวเราะลั่นบ้านจนตัวละครที่เหลืออยู่โผล่หัวยุ่งๆกับตาปรือๆออกมาจากห้องนอน
ไอ้จีมิน!!
พอมันมาถึง มองแว้บเดียว ไม่มีคำพูดใดๆก็ไปร่วมวงผสมโรงหัวเราะได้ ขำขันจริงๆ
“พี่วี ผมรู้ว่าความคิดพี่สี่มิติ แต่ให้มันน้อยๆหน่อย ใจคอจะใส่ชุดนี้เล่นน้ำ? ไม่เหมาะมั้ง”
เออ ไม่เหมาะและไม่ใช่เลยด้วย ถึงผมจะแปลกแต่ไม่ได้บ้าขนาดใส่ยีนส์เล่นน้ำนะ!
“ความผิดพี่ที่ไหน ก็นายไม่บอกว่าจะไปทะเล! พี่ก็เลยคิดว่า…”
คิดว่า...
อ๊ากกกกกกกกกก =[]=
ผมซบหน้าลงกับราวระเบียงด้วยความอับอาย จองกุกมองหน้าผมที่เป็นบ้าทึ้งหัวตัวเองอยู่คนเดียวไม่ถึง 1 วิก็หัวเราะออกมาลั่นบ้านประสานเสียงกับพวกบังทันที่เหลือ น้องวีอยากจะกรีดร้อง
“พี่ก็เลยคิดว่าผมจะชวนไปเดท แถมยังแต่งตัวซะสวยขนาดนี้”
ไอ้เด็กกุกแซวด้วยน้ำเสียงล้อเลียน ตากลมเป็นประกายระยับด้วยความขำ ส่วนพวกที่เหลือนี่หัวเราะจนตับแทบหลุด ไอ้จีมินถึงขั้นทรุดตัวลงไปกลิ้งเกลือกกับพื้นห้องนั่งเล่น
มันโคตรจะกวนตีนผมเลย!! ใครสวยห๊ะไอ้เด็กบ้า!
แล้วแทฮยอง+จองกุก ไปกันสองคน = เดท สมการนี้มันผิดตรงไหน? ผิดก็แค่สถานที่
โอ๊ยยย อับอายขายขี้หน้าสุดในสามโลก น้องมันแค่จะชวนไปเล่นน้ำเหอะ ไม่ได้ไปเดทบ้าบอไรเลย ผมมโนอะไรออกไปวะเนี่ย ยิ่งฟังพวกบังทันที่เหลือประสานเสียงหัวเราะก็ยิ่งอับอายอยากจะให้ยูเอฟโอมาดูดเอาตัวกลับดาว ทนไม่ไหวและอยู่ไม่ได้แล้ว
ผมทำหน้าบึ้ง กระแทกไหล่จีมินออกไปจากวงทันที ได้ยินเสียงจองกุกตะโกนไล่หลัง
“พี่วีจะไปไหน?”
.
.
.
“ไปเปลี่ยนชุดไงถามมาได้!!!”
…………………………………………
“ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ?”
จองกุกที่เดินเคียงคู่กับผมไปตามชายหาดถามขึ้นตอนที่เราเดินออกจากบ้านพักมาได้ประมาณ 50 เมตร ตอนนี้ผมเปลี่ยนมาเป็นใส่เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงขาสั้นเหมือนอีกฝ่ายแล้ว ผมไม่ได้โมโหเหอะ ก็แค่…
แค่อะไร…ผิดหวัง?
“เปล่า ไม่ได้โกรธ”
“โกรธชัดๆ พี่โกรธที่ผมไม่ได้ชวนเดทเหรอ”
อยู่ดีๆจองกุกก็หยุดเดินแล้วจับไหล่ผมให้หันไปสบตา แต่พอมองใบหน้าของมักเน่ผมก็รีบหลบตาทันที
“ม…ไม่ใช่”
“พี่วี” อยู่ดีๆจองกุกก็เรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อย่าโกรธเลยนะ ถึงผมจะไม่ได้ชวนไปเดท ไม่ได้ไปเดินเล่นในห้าง แต่ผมก็อยากใช้เวลาอยู่กับพี่วี สุดท้ายแล้วเราก็อยู่ด้วยกันอยู่ดีไม่ใช่เหรอ ผมขอโทษที่ไม่ได้พูดให้ชัด”
นิ้วเรียวยื่นมาลูบแก้มผมเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับรอยยิ้มน่ารักของไอ้เด็กแสบที่ทำให้ผมแทบเป็นบ้า ทั้งอาย ทั้งรู้สึกดี ทั้งผิดหวังปนกันมั่วไปหมด ทำได้แค่พยักหน้ารับก่อนจะคล้องแขนมักเน่ให้เดินไปด้วยกัน
เอาเหอะ ถึงไม่ได้ไปห้าง ไปทะเลก็ยังดี
Jungkook’s POV
ผมเริ่มจะรู้สึกคิดผิดยังไงก็ไม่รู้ที่ชวนพี่วีมาทะเลแทนที่จะไปห้างแบบที่พี่เค้าอยากไป ตลอดทางที่เดินมา สาบานได้ว่ามีคนเดินเข้ามาขอคาทกคิมแทฮยองไม่ต่ำกว่า 5 คน!
ไหนจะสายตาทั้งชายหญิงที่มองมาทางคนตัวเล็กที่ท่อนบนใส่แค่เสื้อกล้ามสีดำ อวดลาดไหล่บางกับแขนเล็ก แต่อะไรก็ไม่น่าโมโหเท่าพี่วีที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เอาแต่ส่งยิ้มหวานโบกไม้โบกมือทักทายคนอื่นอยู่ได้!
ความอดทนของผมสิ้นสุดลง เมื่อผู้ชายคนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้เดินเข้ามาคุยมาขอเป็นเพื่อนกับพี่วี
ถึงผมบอกว่าเราไม่ได้มาเดท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่วีจะไม่สนใจผมแล้วเดินโปรยเสน่ห์ไปทั่วแบบนี้นะ น่าโมโหชะมัด ยิ่งเห็นพี่วีหัวเราะขำกับมุกตลกบ้าๆของอีกคน (ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่คนตัวเล็กไม่ขำเหอะเอาจริงๆ) แล้วไอ้หมอนั่นก็ยื่นโทรศัพท์มาขอเบอร์พี่วี!!!
พอกันที!
“ไม่มี!”
เสียงเย็นชาของผมทำให้คนสองคนที่กำลังคุยกันอยู่หันมามองด้วยความงง ผมเดินเข้าไปประชิดตัวพี่วีก่อนจะโอบไหล่อีกฝ่าย พร้อมกับจ้องไอ้ผู้ชายคนนั้น
“เบอร์โทรศัพท์ไม่มี”
พูดแล้วก็กระชับท่อนแขนที่โอบไหล่บางให้เข้ามาใกล้จนพี่วีแทบจะซุกอยู่กับอกของผม
“อ่า…อะไรของนายอ่ะจองกุก”
คนตัวเล็กถามผมด้วยความงุนงง แต่ก็ยกมือขึ้นกอดตอบ แถมยังดูเหมือนจะลืมไปด้วยซ้ำว่ากำลังคุยกับคนอื่นค้างไว้ พี่วีซบหน้าลงกับอกผมด้วยท่าทางน่ารัก ถูไถหน้าสวยๆบนอกเสื้อผมเบาๆ
รอยยิ้มของไอ้หมอนั่นหุบลงทันทีที่เห็นท่าทีของพี่วี เขาขมวดคิ้วมองหน้าผมที่ใช้มืออีกข้างถอดแว่นกันแดดออก สายตาผมคงจะแทบฆ่าคนได้เพราะไอ้หมอนั่นถึงกับผงะไปเลย แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้
“แทฮยอง…”
ไอ้บ้านี่!
“หืม…?”
พี่วีผละออกจากอกของผม (ที่ใช้แอบเช็ดเหงื่อ ผมรู้นะว่าเขาแอบทำ แต่เรื่องอะไรจะพูด เพราะผมได้ประโยชน์นี่) ดวงตากลมโตหันไปมองไอ้หมอนั่นที่กำลังเรียกชื่อตัวเองด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
ฮึ้ย! ผมโมโหมากจนเผลอบีบไหล่ร่างบางแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว พี่วีมองหน้าผมที่บอกบุญไม่รับสลับกับอีกฝ่ายที่ทำหน้าเศร้าไปมา คิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนจะหันไปหาไอ้บ้านั่น
“เรื่องเบอร์โทรน่ะ…..” พี่วีพูดขึ้น “ขอโทษด้วยนะ คงให้ไม่ได้จริงๆ”
“แต่ว่า…”
“จองกุก ไปกันเหอะ ถ้าสายเดี๋ยวแดดแรง”
คนตัวเล็กเมินหมอนั่นอย่างสิ้นเชิง ช้อนตาขึ้นมองผมแล้วยิ้มหวาน ผมส่งยิ้มอ่อนโยนให้คนในอ้อมกอด และก่อนที่พี่วีจะทันตั้งตัว ผมก็หอมแก้มเนียนไปฟอดใหญ่เป็นรางวัลที่ทำตัวน่ารัก
พี่วีที่หน้าแดงก่ำกับสายตาสุดช็อกของไอ้หมอนั่นเป็นอะไรที่สะใจมากจริงๆ
หึหึหึ
หลังจากเหตุการณ์นั้นผมก็ตัดสินใจเปลี่ยนแผนจากที่คิดว่าจะไปเล่นน้ำที่ทะเลสาธารณะเป็นกลับไปเล่นน้ำที่บ้านพักส่วนตัวเพราะคนเยอะกว่าที่คิด อาจจะมีคนจำเราได้ ซึ่งพี่วีก็พยักหน้าเห็นด้วย จริงๆผมไม่แคร์หรอกถ้าโดนถ่ายรูป แต่ไม่อยากให้ใครมารบกวนเวลาส่วนตัวมากกว่า
ตั้งแต่ออกจากบ้านมาเจอผู้คน พี่วีแทบไม่สนใจผมเลย คุยกับคนอื่นอยู่ได้ นี่ผมไม่ได้หวงหรืออะไรหรอกนะ แค่ไม่ชอบโดนเมิน
“นายเป็นอะไรอ่า?”
พอเดินออกมาจากไอ้ผู้ชายคนนั้นได้ไกลพอสมควรจนเข้าเขตหาดส่วนตัวในส่วนบ้านพัก พี่วีก็หยุดเดินจนผมที่กำลังโอบไหล่ร่างบางอยู่ต้องหยุดไปด้วย
“อะไรครับ?”
“ก็นายอ่ะ ตอนที่มยองซอ…เอ่อ มยองซู มยองซอง….ช่างเหอะ ผู้ชายที่เข้ามาขอเบอร์พี่มาคุยด้วยอ่ะ ทำไมนายต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย แถมยังทำหน้าบึ้งมาตลอดทางกลับบ้านจนไม่มีคนกล้าเข้าใกล้เลยเนี่ย ไม่ชอบหน้าเขาเหรอ นิสัยไม่ดีเลยนะ”
ไม่ชอบหน้า? พี่วีเห็นผมอายุเท่าไหร่ที่ไม่ชอบหน้าใครแล้วเหวี่ยงไร้เหตุผลน่ะ เฮ้อ คิดได้ไง
“ใช่ ผมไม่ชอบ แต่ไม่ใช่แบบที่พี่คิด”
“อ้าว แล้วแบบไหน อยู่ดีๆนายก็เข้ามาโอบพี่ไม่ปล่อย แถมยังหอม…..”
พูดถึงตรงนี้ก็หน้าแดง พี่วีกัดริมฝีปากตัวเองด้วยสีหน้าสับสนจนผมอยากจะจูบอีกแล้ว…ไม่ได้สิ ทำไมผมลามกแบบนี้วะ
แล้วก่อนที่ผมจะทันตั้งตัว ริมฝีปากนุ่มนิ่มของคนตรงหน้าก็กดลงมาที่ปากของผม แผ่วเบา รวดเร็ว พร้อมกับเสียงงึมงำของแทฮยองว่า
“แก้แค้นคืน จะได้ไม่เสียเปรียบ”
แล้วคนตัวเล็กก็วิ่งหนี จนผมได้แต่อึ้งที่โดนขโมยจูบ กระพริบตาสองสามครั้งเรียกสติแล้ววิ่งตามพี่วีที่วิ่งลงทะเลไป
จริงๆแล้วที่เลือกมาเล่นน้ำทะเลแทนที่จะไปห้างอาจจะคิดถูกก็ได้นะ ^^
…………………………………………
V’s POV
น่าอายมาก!!!
ผมโผล่หน้าขึ้นมาจากทะเลที่มุดดำลงไปสงบสติอารมณ์ แต่พอขึ้นมาปั๊ป สิ่งที่รอผมอยู่คือรอยยิ้มหวานจนจะฉีกไปถึงหูของมักเน่ เปลี่ยนอารมณ์เร็วมากนะ จอนจองกุก ตอนแรกยังทำหน้าเหมือนจะฆาตกรรมคนทั้งชายหาดอยู่เลย
พูดแล้วคนอ่านจะหาว่าคิมวีเว่อ ตั้งแต่มันชวนออกไปเดินเล่นแล้วเห็นว่าคนเยอะ หน้าจองกุกก็เย็นชาสุดๆจนผมแทบไม่กล้าหันไปมอง
แถมยังมีคนแปลกหน้าเข้ามาคุยกับผมเต็มไปหมด ซึ่งสาวๆครึ่งนึงก็มาถามเรื่องมันน่ะแหละเพราะเจ้าตัวทำหน้าไม่รับแขกซะขนาดนั้น พอใส่แว่นตาดำก็ยิ่งเสริมให้บรรยากาศรอบตัวทะมึนยังกับพายุฝนจะพัดเข้าฝั่ง แต่ไม่รู้ทำหน้าบึ้งแล้วมันดูแบดบอยหรือยังไง พวกผู้หญิงเลยเข้ามาถามเรื่องมันอยู่ได้
ฮอทจริงๆเลย หมั่นไส้มากเลยจัดการบอกทุกคนไปว่ามันไม่ชอบผู้หญิง ฮ่าฮ่าฮ่า ส่วนผู้หญิงคนไหนน่ารักผมก็คุยเล่นไปนิดหน่อยแล้วขอตัวออกมา จนกระทั่งล่าสุดเนี่ยแหละที่จองกุกดูไม่พอใจมากๆ บีบไหล่ผมจนเจ็บไปหมด เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องช้ำแน่ๆ
แต่ผมไม่แคร์หรอก เจ็บนิดหน่อย ชิวๆ
“กล้ามากนะที่มาขโมยจูบผม”
ไอ้เด็กบ้าพูดด้วยน้ำเสียงกวนตีน ผมยักคิ้วแกล้งทำเป็นไม่แคร์ ทั้งที่ในใจนี่โคตรอาย พักหลังๆมานี่ผมแทบไม่ได้เข้าไปสกินชิพจองกุก พอมาจุ๊บปากแบบนี้มันก็เขินๆเหมือนกัน
“นายยังจูบพี่ได้เลย พี่ก็ต้องทำได้สิ เดี๋ยวจองกุกจะหาว่าพี่ไม่แมนอีก เรื่องอะไรจะยอมโดนทำฝ่ายเดียว”
ผมตอกกลับไปพร้อมกับทำท่าทางกวนประสาทไปด้วย รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของจองกุก ดวงตาคมพราวระยับด้วยความขำ เขายกมือขึ้นปัดผมเปียกๆที่ปรกหน้าผากผมออกไป
“นั่นไม่เรียกว่าจูบซะหน่อย ไม่เห็นเหมือนที่ผมทำให้พี่เลย ไหนว่าแมนไง ถ้าแมนจริงก็ทำแบบที่ผมทำสิ”
อ้าว ไอ้เด็กกุก มันกวนประสาทผมชะมัด ซ่า ซ่า วักน้ำใส่หน้าแม่ม
ตอนนี้ผมกับมันกำลังยืนอยู่ที่น้ำลึกแค่ระดับต่ำกว่าอกนิดหน่อย ทะเลที่นี่ใสดีเพราะเป็นช่วงหน้าร้อน ไม่ถึงหนึ่งวิผมก็โดนจองกุกวักน้ำกลับจนกลายเป็นสงคราม น้ำทะเลเค็มๆเข้าหูเข้าตาเราจนแดงไปหมดเลยเลิกเล่น แล้วเอาแพยางมาเล่นแทน
แพยางอันนี้ใหญ่มากเราเลยขึ้นไปนั่งแล้วพายด้วยมือวนๆไปเรื่อยไม่ไกลมาก ดีที่น้ำทะเลของที่นี่ลึกแค่ระดับอกเท่านั้น ไม่ลึกมากกว่านี้ จนกระทั่งแดดเริ่มแรงขึ้น เราก็หยุดเล่นแล้วมานั่งคุยกันใต้ร่มชายหาด พร้อมกับปูเสื่อปิกนิคแทน ตะกร้าปิกนิกผมเป็นคนถือมา ข้างในมีแซนวิสที่จินฮยองกับจองกุกเป็นคนทำตอนที่ผมเปลี่ยนเสื้อ
“อร่อยมั้ยครับ”
เขาหันมาถามผมที่เคี้ยวแซนวิสจนแก้มตุ่ย ผมพยักหน้าแรงๆ ไม่ได้อร่อยธรรมดานะ อร่อยมากกกก มีแต่ไส้ที่ผมชอบทั้งนั้นเลย จองกุกยิ้มหวานจนตาปิด ท่าทางดีใจมากๆ
“ดีใจจัง ผมทำแต่ของที่พี่วีชอบ ถ้าอร่อยก็กินเยอะๆนะ” ผมกลืนแซนวิสลงคอ
“ที่เป็นอยู่ก็กินเยอะแล้วนะ เยอะจนช่วงนี้หน้าบวมขึ้นนิดนึงแล้วเนี่ย”
จริงๆนะ ผมหน้าบานขึ้นนิดหน่อยจริงๆ สงสัยไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แถมยังกินจุกจิกไปหมด ไม่เหมือนจองกุกที่ไม่ค่อยกินขนมเท่าไหร่แถมยังชอบไปฟิตเนตจนกล้ามจะใหญ่กว่าจีมินแล้วเนี่ย
“บวมจริง” มักเน่ยื่นมือมาหยิกแก้มผมเบาๆ “แต่ผมชอบนะ เวลาหอมแล้วนิ่มดี ไม่ต้องลดหรอกครับ”
เอ่อ พูดอะไรของมันเนี่ย ทำไมรู้สึกหน้าร้อนๆชอบกล สงสัยคงเพราะแดดแรงไป จองกุกจ้องหน้าผมด้วยแววตาจริงจังจนผมทำตัวไม่ถูก แต่ถ้าไม่พูดอะไรกลับไป ผมก็จะกลายเป็นฝ่ายเขินใช่ป่ะ ไม่เอาด้วยหรอก นี่ผมต้องแมนนะ! คนแมนจะเขินได้ไง!!
“ไม่จริงอ่ะ เวลาหอมแล้วแก้มนายนิ่มกว่าพี่อีก…..” พูดไรออกไปวะครับ อายมาก แต่ต้องเก็บไว้
“อ่อเหรอครับ พี่วีรู้ได้ไง พักหลังมานี่ไม่ได้หอมแก้มผมเลยไม่ใช่เหรอ? ผมน้ำหนักลดลงกว่าเมื่อก่อนแล้วด้วยนะ”
“หอมสิ!”
ตอนไหนวะ? ผมมั่วโกหกเอาล้วนๆ จนเด็กกุกขมวดคิ้ว เออ คิดไปเหอะ คิดให้ตายก็ไม่รู้
“นี่พี่วีลวนลามผมตอนหลับเหรอ?”
มักเน่ถามผมด้วยหน้าตาใสซื่อ ทำไมมันกลับมาแอ๊บแบ๊วใสๆอีกแล้วหล่ะ นี่มันจะแกล้งอะไรผมอีกรึเปล่าเนี่ย? เริ่มระแวง ผมมองสบตาจองกุกที่ทำตาใสแป๋ว จนผมเผลอเชื่ออีกแล้วว่า น้องมันคงไม่รู้จริงๆมั้งว่าผมหลอก (?)
“เออใช่ พี่ทำตอนนายหลับ ^^”
ไหนๆก็โกหกและตามน้ำไปล่ะกัน แต่ประโยคที่ตามมาหลังจากนี้ของไอ้เด็กบ้าเนี่ยแหละที่ทำให้ผมอยากจะร้องไห้ถอนคำพูดคืนแทบไม่ทัน
“งั้นเหรอ…พี่ลวนลามแก้มผมตอนผมไม่มีสติสินะ เพราะฉะนั้น เพื่อความแฟร์ พี่ต้องทำตอนผมมีสติ ตอนนี้แล้วก็เดี๋ยวนี้…”
นี่มันสั่งใช่มั้ย? มักเน่มันบังคับผมใช่ป่ะ?
ไม่พูดเปล่า ยังยื่นแก้มข้างขวาเข้ามาจนแทบจะชนกับปากของผม พองลมไว้ที่แก้มจนป่อง แอ๊บแบ๊วเหลือเกินนะไอ้เด็กกุก คิดว่าน่ารักมากใช่ป่ะ…เออ แกก็คิดถูกแล้วเพราะมันน่ารักมากกกกก
ฮือ ออมม่า
ไม่ได้!! ห้ามหลงไปกับความน่ารัก น้องวีคนแมนต้องใจแข็ง!
“ทำไมพี่ต้องทำตามที่นายบอกด้วยไม่ทราบ”
นั่น เสียงแข็งเชียว…ซะที่ไหน สั่นยังกับเจ้าเข้าเลยครับ
จองกุกช้อนตาขึ้นมองผม (ไอ้นี่ก็ยังไม่เลิกแอ๊บ) กะพริบตาปริบๆสองครั้ง โชว์ยิ้มหวานฟันกระต่าย แล้วมักเน่ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ
“พี่วีจะไม่ทำก็ได้นะ แต่ถ้าไม่ทำ…บางทีผมก็อยากจะพิสูจน์อีกหลายๆรอบว่า แก้มพี่วี หลังโดนจูบไปหลายๆครั้งแล้วยังจะ….”
จุ๊บ!
ไอ้บ้าเอ๊ยยยยย
ผมได้แต่ด่าตัวเองในใจ ผละออกจากแก้มของมักเน่ด้วยความรวดเร็ว ยังนิ่มจริงๆด้วย แล้วก็หอมกลิ่นครีมที่จองกุกใช้ประจำ แม่จ๋า ทำไมคิมแทต้องมาทำอะไรอย่างนี้ด้วยคร้าบบบ ทั้งที่เมื่อก่อนรู้สึกฟินมากแท้ๆ ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นอย่างนี้ไปซะได้
จองกุกยิ้มนิดๆ แล้วยื่นแก้มอีกข้างมาให้ผมที่จ้องทรายยังกับจะมุดลงไป (ถ้ามุดลงไปแล้วหนีจากจองกุกได้ ผมทำไปแล้ว!!)
“อ…อะไร”
“ข้างนี้ด้วยไงครับ เพื่อความเท่าเทียม”
ผมเม้มริมฝีปากแน่น ในหัวตีกันไปหมดระหว่างเดินหนีกับยอมตามใจจองกุก ที่อยากยอมตามใจเพราะจะได้จบๆไป ที่อยากเดินหนีเพราะอากาศร้อนมากจนผมรู้สึกหวิวๆในอกแปลกๆ
“ไหนว่าแมนไง ถ้าพี่วีไม่ทำ ผมทำเองนะ แล้วก็จะเอาไปบอกพวกฮยองด้วยว่าพี่วีไม่กล้า”
ผมทำหน้าบึ้งมองมักเน่ที่เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่ ตัดสินใจกดริมฝีปากไปบนแก้มนิ่มนั่นแรงๆจนจองกุกหน้าหงาย แต่ไอ้เด็กบ้าดันเกี่ยวเอวของผมลงไปด้วย เขาล้มลงบนเสื่อปิกนิคโดยที่มีผมทับอยู่ด้านบน มือใหญ่ประคองเอวผมเอาไว้แน่น
เฮ้ย ผมแค่จะแกล้งให้มันหน้าหงาย ไหงกลายเป็นท่าทางล่อแหลมเสี่ยง nc ไปซะได้
สองมือผมทาบลงบนอกกว้าง มือขวาทาบลงบนตำแหน่งที่เป็นหัวใจของจองกุกที่เต้นแรงซะจนผมกังวล หรือว่ามักเน่ก็แพ้แดดเหมือนกับผม หัวใจเลยเต้นดังขนาดนี้?
“แทฮยอง”
จองกุกเรียกชื่อผมด้วยเสียงแหบพร่าจนผมหวั่นไหวด้วยความรู้สึกแปลกๆ ตากลมมองสบผมไม่ละสายตา มือใหญ่กดศีรษะผมลงจนแก้มแนบแก้ม ริมฝีปากบางกระซิบถ้อยคำข้างหู
“จะลุกออกไปได้รึยัง หนัก”
หนัก….
หนัก………
หนัก……………..
ไอ้เด็กบ้ามันหาว่าผมอ้วน!
…………………………………………………………………
@seulkinii เมนชั่นมาเม้ามอยได้ตลอดค่ะ ไรท์จะไปคอนบังทันด้วยน้า เดี๋ยววันที่ 8 ไปพรีเซลแหละ ใครไปบ้างจ๊ะ ^^
ติด tag ฟิคในทวิต #กุกวีซังนัมจา ค่ะ เล่นกันเยอะๆน้า
ความคิดเห็น