ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic BTS] Sungnumja Game (KookV)

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : ผู้ชายแมนๆต้องรู้จักดูแลคนอื่น (141031)

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 59


    Chapter 4

    ผู้ชายแมนๆต้องรู้จักดูแลคนอื่น 



    ดูแลอาร๊ายยยย แค่ตัวมันเองยังเอาไม่รอดเลย – จีมิน

    หุบปากไอ้หมู – แทแท

    พูดจาหยาบคาย ลงไปวิดพื้นร้อยที – นัมจุนฮยอง


    ………………………………………… 


    “มาๆๆ แทฮยอง จองกุก อาหารเสร็จแล้วววววว”



    เสียงพี่จินต้อนรับพวกเราทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ความเดิมตอนที่แล้วหลังจากที่ผมสารภาพความผิดบาปออกไป จองกุกก็ไม่ยอมเข้าใกล้ผมอีกเลย ระหว่างทางกลับบ้านก็เดินนำผมไปเป็นโยชยังกับกลัวคนรู้ว่ามาด้วยกัน 



    เฟลมาก…น้องวีคนหล่อเพิ่งเคยโดนรังเกียจขนาดนี้เป็นครั้งแรก โซแซด T^T   ผมเมินอาหารของจินฮยองแล้วเดินคอตกเข้าห้องน้ำไป ได้ยินเสียงเจโฮปฮยองถามจองกุกไล่หลังว่า



      “ไอ้แทมันเป็นอะไร โดนมักเน่ฟันแล้วทิ้งเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า” 



    ขอบคุณนะ บังทันรักกันมากจริงๆ T^T


    ………………………………………… 



    “เอ้านี่ แทแท ปลา กินเข้าไป จะได้บำรุงสมอง เลิกเวิ่นเว้อและฟุ้งซ่าน”



    ไอ้จีมิน หลังจากที่มันไม่มีบทในตอนที่แล้ว มันก็เริ่มก่อกวนผมใหม่ในตอนนี้ด้วยการตักซุปปลาให้กิน ความพยายามมันสูงส่งมากถึงขั้นยืดแขนข้ามโต๊ะตัดหน้าชูก้าฮยองและจินฮยองเลยทีเดียว -_-



    “ไอ้หมูจี น้องมันเศร้ายังจะไปล้อ! แท พี่ว่ากินนี่ดีกว่า ไก่ต้มโสม คลายความเศร้า ช่วยให้อายุยืน”



    ชูก้าฮยองหันไปด่าจีมิน แล้วตักไก่ชิ้นบักเอ้กมาให้ผม ชิ้นเดียวไม่ว่า นี่เล่นตักมาให้สามชิ้นจากทั้งหมดห้าชิ้น ควรดีใจดีมั้ย? แล้วไก่ตุ๋นโสมมันช่วยคลายเศร้าตรงไหนเนี่ย ฮยองมั่วหรือผมศึกษาไม่ดีพอ?



    “ฮยองมั่วป่ะวะ มันต้องกินเนื้อดิ จะได้หายเศร้า เนื้อชุ่มๆนุ่มลิ้น นี่เฮียย่างเอง ไม่อยากจะอวด”



    นัมจุนฮยองพูดแล้วเฮียแกก็ตักเนื้อย่างมาให้ผมที่กำลังกินปลา เอิ่ม….



    “เอาจริงๆป่ะ ถ้าพูดถึงอะไรที่เป็นเกาหลี ก็ต้องซุปกิมจิอยู่แล้ว”



    เจโฮปฮยองพูดขัดขึ้นมาด้วยหัวข้ออะไรสักอย่างที่ไม่เกี่ยวเลยสักนิด พร้อมกับตักผักกาดในซุปกิมจิมาให้ผมที่กำลังแทะไก่



    “พอเหอะ เห็นป่ะเนี่ยว่าถ้วยไอ้วีมันจะล้นและ เออ จะว่าไป แทแท นายยังไม่ได้กินบีบิมบับสูตรใหม่พี่แบบน้ำมันงาสเปเชี่ยลเลย เพิ่งคิดค้นได้เมื่อกี๊ ชิมดูนะ อ้ามมมมม”



    จินฮยองที่นั่งใกล้ผมทำหน้าตาตื่นเต้นแล้วตักบีบิมบับมาจ่อปากผมทันที ผมมองข้าวในช้อนที่มีสีประหลาดๆปนเทาด้วยความสยอง กินดีมั้ยวะเนี่ย =[]= 



    มองเลยไปหาเมมเบอร์ที่เหลือที่ก่อนหน้าพากันเทคแคร์ผมจนเกินพอดี แต่ว่าในเวลานี้ดันไม่มีใครกล้าสบตาผมซะงั้น เอากะพวกฮยองสิ! แม้แต่โฮซอกฮยองที่ตามใจผมที่สุดยังแกล้งหันไปคุยกับไอ้หมูจีเลยตอนเห็นข้าวสูตรพิเศษของจินฮยอง



    “เอ่อ…จองกุกกี้”



    ไม่รู้ทำไมครับ แต่ปากผมมันพลั้งเรียกมักเน่ออกไปเอง จองกุกที่กำลังก้มหน้าก้มตากินเนื้อคนเดียวแบบไม่ใส่ใจสถานการณ์รอบข้าง (เนื้อครึ่งนึงที่ซื้อมาโดนมันยัดเข้าไปแล้ว แต่พวกฮยองไม่ว่าเพราะเด็กกำลังโต สปอยน้องเห็นๆ)  เงยหน้าหล่อๆขึ้นมามองผมแบบเซ็งๆที่ไปขัดขวางการกินของมัน



    พอเห็นถ้วยข้าวของผมที่เต็มไปด้วยปลา ไก่ เนื้อและผักกาด ประกอบกับจินฮยองที่กำลังยื่นช้อนมาจ่อปากผมแล้ว คนฉลาดๆอย่างจองกุกก็เข้าใจเรื่องราวในทันที



    ก็เรื่องนั้นไงครับ…ที่ทุกคนพากันใส่ร้ายว่าผมโดนมันฟันแล้วทิ้งจนต้องมานั่งเศร้าจมกองข้าว มโนแจ่มจริงๆ



    ผมเลื่อนมือไปจับมือจองกุกที่นั่งอยู่ข้างๆเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ  ได้ยินใครด่าผมในใจแว่วๆว่า อ่อย ชิ! อย่าให้รู้นะ



    จองกุกมองสบตาผมก่อนที่ปากจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมอยากจะเอาถ้วยข้าวตบหน้ามัน



    “พี่จิน…ท่าทางพี่วีจะเศร้ามาก กินทั้งหม้อเลยน่าจะดี”



    ไอ้เด็กกุก!!!! นี่แกแก้แค้นที่ฉันไม่แปรงฟันใช่มั้ย!!! เรียกให้ช่วยเว้ยไม่ได้ให้ซ้ำเติม!!



    “จริงเหรอ แทแท นายเศร้ามากเลยเหรอ แปปนะ เดี๋ยวพี่ไปยกออกมาทั้งหม้อเลย ข้าวหม้อนี้ขอตั้งชื่อว่า บีบิมบับปัดเป่าความเศร้าสูตรคิมซอกจิน อิอิอิ”



    และแล้ว ก่อนที่ผมจะทันรั้งจินฮยอง เฮียแกก็เดินลิ่วเข้าครัวไปทันที ภายในหนึ่งวิก็กลับมาพร้อมกับหม้อข้าวที่ทำเอาผมหน้าถอดสี แปปนะ บีบิมบับมันต้องสีแดงสิ สีเทามาจากไหน อุ๊แม่เจ้า!



    ด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอดระดับสูง ผมรีบคว้าถ้วยข้าวในมือตัวเองมาจ้วงกินทั้งสารพัดปลา ไก่ เนื้อและผักที่ทุกคนเอามายำรวมกันในทันที กินๆๆๆๆจนมันหมด แล้วก่อนที่จินฮยองจะทันพูดอะไรผมก็แทรกขึ้นมา



    “แทแทอิ่มแล้วววววววว หม้อนั้นยกให้จองกุกไปนะ ไปเล่นเกมส์ก่อนล่ะ บาย”



    แล้วก็หนีออกมาทันทีด้วยความเร็วสูง ทิ้งจองกุกที่หน้าซีดเผือดเอาไว้เป็นแบ็คกราวน์ วะฮ่าฮ่าฮ่า


    ………………………………………… 


    “พี่วีใจร้าย ทำกับผมแบบนี้ได้ไง”



    เสียงครางงุ้งงิ้งดังขึ้นมาจากมักเน่ตัวปัญหาที่ตอนนี้กำลังนอนหมดสภาพอยู่บนเตียง เนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อเช้า หลังจากที่ผมชิ่งกินอิ่มแล้วหนีออกจากบ้านไป (ใช้คำว่าหนีจริงๆครับ หนีมาที่สวนสาธารณะที่เดิมเนี่ยแหละ อยู่ก็โง่สิ) 



    แน่นอนว่าคนที่รับกรรมไปเต็มๆคือ จองกุก จีมิน และนัมจุนฮยองตามลำดับ ส่วนชูก้าฮยองและโฮซอกฮยอง สองคนนั้นสัญชาตญาณเอาตัวรอดสูงมากเลยรอดไป



    ชูก้าฮยองชิ่งออกมาด้วยข้ออ้างว่าจะมาล้างจานทั้งที่ไม่พิศวาสการล้างจานเลยสักนิด ส่วนเจโฮปฮยองชิ่งด้วยข้ออ้างว่าจะตามมาดูแลผม จริงๆแล้วเฮียแกไปนั่งเล่นเกมส์อยู่หน้าบ้าน ไม่ได้สนใจไยดีผมแต่อย่างใด



    พอพวกที่เหลืออ้าปากจะขอตัว ก็โดนจินฮยองดราม่าใส่จนต้องฝืนกินไปตามๆกัน



    ผลก็คือ ท้องเสีย! อาหารเป็นพิษ!



    จองกุกที่กินไปเยอะกว่าเพื่อนเพราะเป็นมักเน่ถึงขั้นนอนหยอดน้ำเกลือ (เว่อ) ท้องเสียจนหมดสภาพ เดือดร้อนถึงผมที่ต้องเอาเกลือแร่มาช่วยป้อน หน้าขาวๆของมันซีดไปหมด แถมเหงื่อยังท่วมตัวจนผมกลัวว่าจะเป็นลม บอกให้ไปโรงพยาบาลก็ไม่ยอมไป 



    จีมินกับนัมจุนฮยองก็ท้องเสีย แต่ไม่ร้ายแรงเท่าจองกุก เมมเบอร์ผู้รอดชีวิตที่เหลือกำลังแบ่งกันดูแลอยู่ 



    “อย่าเพิ่งพูดเลยจองกุก จิบเกลือแร่ก่อน ค่อยๆนะ เดี๋ยวเป็นหนักกว่าเดิม”



    ผมพูดพร้อมกับพยุงร่างของมักเน่ให้ลุกขึ้นนั่ง ป้อนแก้วน้ำเกลือแร่ให้จิบ จองกุกกินยาเข้าไปแล้ว เหลือแค่ต้องจิบเกลือแร่บ่อยๆ



    “ปวดท้องมากเลยอ่าพี่วี”



    จองกุกพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนน่าสงสารจนผมรู้สึกผิดที่ทำให้เขามีสภาพแบบนี้ ทำได้แค่แตะที่หน้าผากเพื่อวัดไข้ ยังดีที่ไม่มีอาการไข้ ตัวออกจะเย็นๆด้วยซ้ำ



    “แล้วใครให้นายกินเข้าไป ฉลาดนักไม่ใช่รึไง ทำไมไม่ชิ่งห๊ะ บ้ารึเปล่า แล้วนี่จินฮยองใส่อะไรเข้าไปในอาหารวะ ทำไมสีออกเทาๆ สงสัยสูตรจะพลาด”



    ผมบ่นไปก็เอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้จองกุกไปพลางๆ มักเน่ทำหน้าบึ้งที่โดนดุ



    “โห ใครจะไปปฏิเสธได้ ดราม่าขนาดนั้น ป่านนี้ไปนอนร้องไห้อยู่ที่ไหนแล้วไม่รู้”



    “ไม่ต้องห่วงนา นัมจุนฮยองไปปลอบล่ะ เอาตัวเองให้รอดก่อนเหอะ ถอดเสื้อดิ!”



    ผมสั่งไอ้เด็กกุก แต่มันดันมองหน้าผมแบบแปลกๆซะงั้น อะไรอีกฟ่ะ?



    “พี่วีพูดอะไรลามก”



    “ไม่เล่นจองกุก จะตายอยู่แล้วยังมาเล่นอีก เดี๋ยวก็ทิ้งให้นอนเน่าอยู่นี่ซะเลย!”



    คราวนี้มันเงียบแต่ก็ยังไม่ยอมขยับตัวถอดเสื้อออกซะที เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าไม่สบายแล้วดื้อเงียบแถมยังขี้งอนอีก ผมถอนหายใจ เลิกผ้าห่มออก ไม่ถอดใช่ป่ะ! น้องวีถอดเองก็ได้!!



    ผมเอื้อมมือไปจับชายเสื้อของจองกุก อ่า…แล้วทำไมมือต้องสั่นด้วยเนี่ย แถมยังใจเต้นแปลกๆอีก ผมกัดริมฝีปาก ไม่ไหวอ่ะ ทำไม่ได้ ปล่อยมือดีกว่า



    คิดแล้วก็คลายมือออกจากเสื้อ แต่มักเน่เกิดอินดี้อะไรขึ้นมาไม่รู้เอื้อมมือมาจับมือผมให้กำเสื้อมันแน่นกว่าเดิม บังคับให้ดึงเสื้อขึ้นไป ผมสะดุ้งนิดๆตอนที่มือลากผ่านกล้ามท้องเป็นลอนสวยไปจนถึงหน้าอกจนกระทั่งจองกุกถอดเสื้อออกไปแล้วปล่อยมือออกจากผมในที่สุด



    ทำไมมันดูติดเรทแบบนี้ จอนจองกุกเด็กขี้อายหายไปไหนแล้ว?



    ผมได้แต่นั่งเงียบกำเสื้อที่จองกุกพึ่งถอดไว้แน่น หัวใจเต้นแรงจนเจ็บไปหมด นี่ผมเพิ่งลูบตัวจองกุก! โอ๊ย ออมม่า น้องวีจะเป็นลม



    “พี่วี…” จองกุกเรียกชื่อผมเบาๆ



    “อ…อะไร”



    “ชอบละสิ หุ่นผมเร้าใจใช่ป่ะ”



    จองกุกพูดแล้วยิ้มให้ผมด้วยหน้าตาใสซื่อ อยากจะบ้า คำพูดกับหน้าตานี่โคตรจะสวนทาง สาบานได้ป่ะว่าป่วยจริง ไม่ใช่สำออย ดูมันทำ!



    “ไม่ ไม่ชอบเลยสักนิด” เชื่อผมก็ฟายแล้ว ขนาดผมยังไม่เชื่อตัวเองเลย เพราะผมชอบมากๆ เฮ้ยย ไม่ใช่ๆๆๆ



    “ไม่เชื่ออ่า ไม่ชอบแล้วน้ำลายหกทำไม?”



    จริงดิ! ผมรีบเอามือเช็ดมุมปากตัวเอง แต่บ๋อแบ๋ไม่เปียกเลยสักนิด จองกุกมองหน้าผมแล้วขำยิ่งกว่าเดิม ตลกตรงไหน T^T มันหลอกผมอ่า



    “พี่วีน่ารัก……”



    เสียงทุ้มที่พูดออกมาทำให้ผมกัดริมฝีปากตัวเอง นี่ตบหัวแล้วลูบหลังรึไง คิดว่าแทฮยองจะหลงกลเหรอ? ผมเงยหน้าขึ้นมองสบตาจองกุกที่มองมาด้วยแววตาเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด แววตาแบบที่จะกลืนกินผมเข้าไปทั้งตัว



    ชักจะไม่ดีแล้ว…



    “พี่วี….” จอนจองกุกขยับเข้ามาใกล้ตัวผมที่นั่งแข็งทื่อ “อยากจูบ…”



    “ม…”



    ไม่ได้…



    อย่า…



    คำพวกนี้ผมได้แต่ร้องออกมาในใจ เพราะในความเป็นจริง จองกุกไม่ได้สนใจฟังผมเลยสักนิด ทำตามใจตัวเองทุกครั้ง ผมหลับตาพริ้มรับสัมผัสจากริมฝีปากบางที่แนบลงมาอย่างหนักหน่วงเหมือนกับเจ้าตัวอดกลั้นอะไรบางอย่างไว้ จองกุกทั้งจูบเม้มทั้งขบเบาๆสลับไปมาเป็นจังหวะร้อนแรง 



    ให้ตาย! มักเน่ไปเรียนเรื่องพวกนี้มาจากไหนกัน



    มือใหญ่ยกสะโพกผมบังคับให้นั่งบนตักจนแนบชิดไปกับอกเปลือยเปล่าของเขา ลิ้นร้อนแตะริมฝีปากล่างเบาๆ แล้วแทฮยองคนใจง่ายก็เผยอริมฝีปากออก ปล่อยให้จองกุกตักตวงความหวานตามใจชอบ จังหวะรุกร้อนแรงทำเอาหายใจแทบไม่ทัน  



    ริมฝีปากร้อนผละออกเพื่อให้ผมได้มีจังหวะหายใจ ก่อนจะบดขยี้ลงมาใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าจนปากผมแดงช้ำไปหมดเพราะจองกุกไม่ถนอมเลยสักนิด เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจ 



    ผมยกมือขึ้นไล้ไปตามกลุ่มผมนุ่มของมักเน่ ปล่อยตัวให้ละลายไปกับจูบร้อนแรง เนิ่นนานจนกว่าจองกุกจะพอใจ แล้วจูบไล่ลงมาตามซอกคอ



    “อ๊ะ…”



    รู้สึกเจ็บเล็กๆเมื่ออีกฝ่ายขบเม้มแสดงความเป็นเจ้าของจนเกิดเป็นรอยแดงจัดหนึ่งจุดตัดกับผิวสวย ผมหอบหายใจแรงขึ้นเมื่อเขาแนบริมฝีปากจูบประทับที่รอยนั้นอีกครั้ง ก่อนจะไล้วนขึ้นไปจูบเบาๆที่ริมฝีปาก



    “ทำไมถึงไม่ขัดขืน” 



    เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบถาม ริมฝีปากบางยังคลอเคลียกับริมฝีปากของผมไม่ห่าง ผมลืมตาขึ้นมองสบตากับจองกุกที่มองมาด้วยแววตาเย็นชา



    “ …………พี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่”



    ผมต้องการอะไรงั้นเหรอ? 



    ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องรู้สึกแบบไหน หวั่นไหว? ดีใจ? โมโห? ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น



    ในระหว่างที่กำลังสับสน เขาก็ยกสะโพกผมออกจากตักแล้วผละออกไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะล้มตัวลงนอนหันหลังให้



    “ง่วงนอน เช็ดตัวแล้วอย่าลืมปิดไฟให้ด้วยนะ”



    ว่าแล้วมักเน่ก็หลับตาลงเพราะความอ่อนเพลีย ทิ้งผมไว้ให้นั่งงงหน้าโง่อยู่คนเดียวให้ขบคิดกับปัญหาที่เขาไม่ต้องการแม้แต่คำตอบ



    เอาจริงดิ จอนจองกุก!………?



    ………………………………………… 


    “ฉันก็คิดว่าแกโดนฟันแล้วทิ้ง ที่ไหนได้ไม่ได้แปรงฟัน แล้วนี่อะไรอีก? โดนจูบให้อารมณ์ค้างแล้วหนีไปนอน แย่กว่าโดนฟันแล้วทิ้งอีกหว่ะ น่าสงสารอ่า อิอิอิ”


    โอ๊ย ทำไมชีวิตแทฮยองมันบัดซบแบบนี้ วนมาลูปเดิมเหมือนตอนก่อนหน้าเป๊ะ! แค่เปลี่ยนโลเคชั่นใหม่จากห้องน้ำเป็นห้องนอนที่จีมินมันแชร์กับชูก้าฮยองที่ตอนนี้ไปไหนไม่รู้



    นี่ผมไร้ที่พึ่งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย T^T



    “ใครอารมณ์ค้าง พูดจาติดเรท”



    “ก็แกไง ถึงได้วิ่งแจ้นมาฟ้องฉันเพราะหงุดหงิดที่ไม่ได้กินเด็กไม่ใช่รึไง!”



    จีมิน…ไอ้เพื่อนปากหมา พูดซะผมเสียหาย กินเด็กอะไร นี่น้องวีคนแมนนะ! (เกี่ยวตรงไหน)



    “ไม่ได้หงุดหงิด แค่งุนงงสับสน เข้าใจมั้ย!!??” 



    ผมตะโกนใส่หูจีมินจนมันต้องยกมือขึ้นอุดหู ทำไมผมต้องค้าง พูดจายังกับผมอยากฟีทเธอริ่งกับจองกุก ซึ่งผมก็อยากหน่อยๆ เฮ้ย! ล้อเล่นครับ ฟู่วว เกือบโดนแบน



    “มันมีอะไรให้ต้องงงวะ แกชอบไอ้เด็กกุก ส่วนไอ้เด็กกุกก็…ไม่รู้สิวะ ดูยาก”



    “ขอบใจช่วยได้มาก”



    ผมพูดประชดมันออกไป สงสัยมากว่าทำไมคนแต่งต้องเขียนให้ผมมาปรึกษาไอ้หมูนี่ด้วย มาทีไรโดนซ้ำเติมตลอด ว่าแต่มันพูดว่าไรนะ…ผมเนี่ยนะชอบจองกุก? 



    “เฮ้ย จีมิน อย่ามามั่ว แกพูดออกมาได้ไงว่าฉันชอบจองกุก ฉันไม่ได้ชอบเหอะ”



    มันเอาความคิดนั้นมาจากไหน? แย่กว่าโดนฟันแล้วทิ้งอีก จองกุกเป็นน้องนะ ผมจะไปชอบมันได้ไง!!



    “อ่อเหรอไอ้แท ขนาดปฏิเสธยังไม่เต็มเสียง ถ้าแกไม่ชอบมันจริงคงด่าฉันว่าไอ้หมูแล้วก็ขึ้นกุเมิงไปแล้ว ไม่เรียกชื่อด้วยเสียงเคะแตกแบบนี้หรอก”



    เคะแตก! มันหาว่าเสียงผมเคะแตก!



    “ฉันคิดว่าฉันไม่ได้ชอบมัน แกเป็นใครถึงมารู้ดีกว่าคิมแทห๊ะ บอกว่าไม่ชอบก็ไม่ชอบซิ!!”



    “เอ้า ไม่ชอบแล้วไปยอมให้มันจูบทำไม? ถ้าบอกว่าเพราะจองกุกอยากลองก็ตลกเหอะ ไม่ใช่จูบแรกของไอ้เด็กนั่นซะหน่อย อย่ามาปิดท่านจีมินนี่ผู้รู้ทุกอย่างในบังทัน ฮ่าฮ่าฮ่า”



    “เผือกโคตร”



    แม่มเผือกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แต่ที่มันพูดก็ถูก ก่อนจะมาเดบิวต์ ถึงผมจะเคยเดทมาเยอะ แต่เทียบไม่ได้เลยกับจองกุก ไอ้เด็กนั่นมันร้าย เห็นใสๆขี้อาย แต่กลับมีแฟนมาแล้วไม่รู้ตั้งกี่คนก่อนเดบิวท์ แต่พอพักหลังๆที่เดบิวท์จนอยู่ตัว งานก็หนักแล้วอยากทุ่มเทมากกว่า พวกเราก็ละเลิกไปหมด ขนาดเกิร์ลกรุ๊ปยังไม่คุยด้วยเลย



    “เออเผือก แต่ไม่รู้ดิแท ถ้าฉันจูบแก แกจะยอมให้จูบแบบที่จองกุกจูบป่ะ”



    จีมินถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนในมโนภาพของผมมีภาพคิมแทคนนี้กับไอ้หมูประกบปากกัน แบ็คกราวน์เป็นดอกไม้ฟรุ้งฟริ้ง ชวนสยองน่าขนลุก ทุเรศทุรังเป็นที่สุด T^T 



    “เอ่อ อย่าดีกว่าหว่ะ”



    “อ่อ แบบฉันแกอาจจะไม่ชอบ งั้นโฮซอกฮยองล่ะ เคยจูบกันมาแล้วนี่ในบังทันรูกี้อ่ะ รู้สึกยังไงบ้าง? ดีมั้ย? อยากทำอีกรึเปล่า?”



    “ไอ้จีมิน นี่เมิงอยากตายศพไม่สวยป่ะ ถามมาได้ ครั้งเดียวก็อ้วกจะแตกแล้ว!”



    มันจะมาตอกย้ำโมเม้นนั้นอีกทำไมเนี่ย!!



    จีมินยิ้มกริ่มเหมือนกับกุมชัยชนะไว้ในขาหน้า (มืออ่ะแหละ)



    “เห็นป่ะ! ทีกับคนอื่นล่ะรังเกียจ ทีกับไอ้กุกนี่ยอมให้ทั้งกอดจูบ จูบสองครั้งด้วย แถมยังรอยคิสมาร์คอีก ขนาดนี้แล้วแกชอบจองกุกชัวร์ จีมินคนกินเผือกคอนเฟิร์ม ถ้าแกไม่เชื่อลองดูต่อไปดิ เด็กนั่นมันต้องรุกจนแกยอมแพ้ แล้วความแมนของแกก็จะหายไป วะฮ่าฮ่าฮ่า วะฮ่าฮ่าฮ่า วะฮ่าฮ่าฮ่า”



    วะฮ่าฮ่าฮ่า วะฮ่าฮ่าฮ่า วะฮ่าฮ่าฮ่า



    จีมิน เพื่อนเลว!!! นี่แกกำลังสะใจใช่มั้ย!!!!


    …………………………………………


    “พี่วี หิวน้ำ”



    “เออๆๆๆ แปปนะ”



    “พี่วีหิวข้าว”



    “อืมๆๆ เดี๋ยวไปยกมาให้”



    “พี่วี อยากกินน้ำอีกแล้ว”



    “จ๊ะๆๆ เดี๋ยวมานะ”



    “พี่วีอยากกินโยเกิร์ต”



    “พี่วีอยากกินไอติม”



    “พี่วีมานวดให้หน่อย”



    “พี่วี! พี่วี! พี่วี!”



    “เอออออ รู้แล้ว จะเรียกอะไรนักหนาฟ่ะ ไอ้เด็กนี่!!!”



    “ฮรึกซ์…..T^T”



    “เฮ้ย จองกุก พี่ขอโทษ!!!”



    “ไม่เอา ไม่ให้อภัย”



    อ๊ากกกกก ตัดบทกลับมาจากจีมินจนถึงตอนที่จองกุกตื่น ไม่รู้ว่าหลับแล้วนิสัยเปลี่ยนรึไง มักเน่คนน่ารักเมื่อเที่ยงถึงหายไปเหลือทิ้งไว้แค่มักเน่ปีศาจจอมเอาแต่ใจ ที่เรียกร้องให้ผมรับผิดชอบชีวิตมันด้วยการเป็นทาสรับใช้ วิ่งวุ่นไปมาคอยหาของมาประเคน พอไม่ได้ดั่งใจก็หาว่าผมไม่รัก



    เชื่อแล้วครับที่จีมินมันบอกว่าจองกุกตอนไม่สบาย โคตรจะเอาแต่ใจ พวกฮยองรู้ฤทธิ์ดีเลยถีบหัวส่งผมมาคอยรับใช้มันแทน ด้วยข้ออ้างว่าผมต้องหัดดูแลคนอื่น (อีกแล้ว)



    นี่มันไม่ใช่ดูแลแล้วเหอะ เรียกว่ารองมือรองเท้าน่าจะเหมาะกว่า



    “ต้องทำยังไงถึงจะให้อภัย?”



    แล้วทำไมผมต้องยอมด้วยก็ไม่รู้ ยอมมาตลอดเลยด้วย ตอนแรกก็ไม่รู้ตัวหรอก เพิ่งมารู้ตัวหลังๆเนี่ยแหละว่าผมสปอยจองกุกจนเสียคนไม่ต่างจากพวกฮยองเลย



    “งั้นขอนอนหนุนตักหน่อย”



    “ห๊ะ?”



    “มาเร็วๆ เดี๋ยวไม่หายโกรธนะ”



    “เฮ้ย หมอนก็มีทำไมไม่นอน จะมานอนหนุนพี่ทำไม”



    “ก็อยาก! มาเร็วๆ ง่วงแล้วนะ”



    แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจากเดินไปหามัน นั่งลงบนเตียงหามุมสบายๆ แล้วจองกุกก็ย้ายหัวมานอนหนุนตักผมทันที สงสัยผมคงได้นั่งไปอีกนาน 



    ฮูเร่ ^^ เมื่อยจะตายอยู่แล้ว เดินไปเดินมาทั้งวันจนตอนนี้สองทุ่มแล้ว วันนี้ทั้งวันของผมหมดไปกับการดูแลจองกุกที่พอตื่นจากนอนกลางวันก็กวนจะเอานู่นเอานี่ไม่หยุด



    “เหนื่อยมั้ย?”



    อยู่ดีๆเด็กปีศาจก็ถามผมด้วยเสียงทุ้มอ่อน มือหนาเอื้อมมาจับมือผมให้วางบนหน้าอกมัน ไล้นิ้วโป้งไปมาบนหลังมือผมเบาๆ ลมหายใจผมสะดุดเมื่อคิดถึงช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่มันนอนตักผมที่ม้านั่งในสวน หวังว่าจะไม่โดนอะไรอีกนะ 



    แต่จองกุกก็ไม่ได้มีท่าทีจะทำอะไรมากกว่านั้น เขาแค่ลูบไล้ไปมาเบาๆที่ฝ่ามือ ดวงตาคมที่ผมชอบปิดสนิท คงเหนื่อยเพราะเสียพลังงานไปกับอาการท้องเสีย คิดแล้วน่าสงสารเหมือนกัน มาพักผ่อนแท้ๆ น่าจะเป็นจีมินมากกว่าที่โดน แต่หมูจีมันอึดมาก แปปเดียวก็หาย ขนาดนอนบนเตียงยังให้คำแนะนำกวนประสาทผมได้เลย



    “ขอโทษนะที่ผมเอาแต่ใจ ทำไมไม่รู้ แค่อยากให้พี่วีสนใจ”



    คำขอโทษน่ารักจนเผลอยิ้ม พูดจายังกับกำลังสารภาพรัก แล้วทำไมมันเขินแปลกๆเนี่ย



    “นิดหน่อยน่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก นายยังดูแลพี่ตอนป่วยได้เลย ตอนนั้นพี่ก็เอาแต่ใจเหมือนกันแหละ”



    “หืมมมม แล้วถ้าตอนนั้นผมไม่ได้ดูแลพี่ พี่วีจะดูแลผมดีแบบนี้มั้ย”



    “ถามอะไรแปลกๆ นายเป็นน้อง ถึงจะไม่เคยดูแลพี่ พี่ก็ดูแลจองกุกอยู่ดีน่ะแหละ”



    “ทำไม……”



    “ก็……” 



    เออ ทำไมล่ะ ขนาดจีมินผมยังไม่ประคบประหงมมันเท่านี้เลย ตอบยังไงดีเนี่ย?



    “ก็……..” จะมาพูดตามทำไม กดดันนะรู้มั้ย



    “เอออ ก็พี่เป็นคนแมนไง!! พี่วีคนแมนต้องดูแลจอนจองกุก ต้องหลอกให้จองกุกซึ้งจนพูดออกมาว่า จะอยู่ข้างล่างให้พี่ไงนั่นแหละ!”



    เวร! พูดอะไรออกไป จองกุกที่หลับตาอยู่ดีๆก็ลืมตาขึ้นมาจ้องผมเขม็งเลยครับ นี่อุตส่าห์ลืมไปแล้วนะ ไอ้เกมส์แข่งแมนอะไรนั่น ผมจะพูดขึ้นมาหาซากสับปะรดอะไรเนี่ย โฮๆๆๆๆ โง่แท้คิมวี 



    แล้วนายจะเงียบทำไมเนี่ย ยิ่งเงียบพี่ยิ่งใจไม่ดีนะ



    “จองกุก…พี่…”



    “ผมมาคิดๆดูแล้ว...” ไอ้เด็กกุกมันพูดขัดจนทำให้ผมกลืนคำพูดที่อยากจะบอกว่า เลิกเล่นกันเถอะนะ ลงคอไป 



    “…”



    “ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ที่พี่คิดจะจริงจัง อะไรๆก็ทำเพื่อเกมส์นี้จนไม่สนใจผม”



    ไม่ชอบ…จองกุกไม่ชอบ…..???



    แล้วใครจริงจัง ใครไม่สนจองกุก ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลยเหอะแค่หลุดปาก



    มีขอเวลานอกเพื่ออธิบายมั้ย? ผมอ้าปากค้างกำลังจะแก้ต่างให้ตัวเองแต่เหมือนจะช้าไปเพราะประโยคต่อมาเขาพูดออกมาอย่างเด็ดขาดจริงจังจนผมกลัว



    “ถ้ายังยืนยันว่าตัวเองแมนขนาดนั้น งั้นพิสูจน์มาสิ”



    “………………………………”



    จุด จุด จุด แดกจุดอีกแล้ว ช่วงนี้รู้สึกกินบ่อยเหลือเกิน



    พูดไม่ออก บอกตามตรงตอนนี้ผมกลัวใจของจองกุกมากๆ เขาคิดอะไรอยู่ผมไม่เข้าใจเลย เมื่อกี๊ยังดีๆมาตอนนี้ทำไมต้องไม่พอใจขนาดนั้น ไม่เข้าใจว่าผมทำอะไรผิดเนี่ย แค่ดูแลเพราะอยากเป็นคนแมน =[]= 



    มีตรงไหนที่ผมสื่อว่าไม่สนใจจองกุกแล้วสนใจแต่เกมส์



    หรือมันจะโกรธที่ผมบอกว่าแมนกว่ามัน หรือมันจะโกรธเพราะไม่อยากอยู่ข้างล่าง? 



    จะบ้าตายครับ



    “พี่วีรู้มั้ย จะแมนน่ะไม่ได้มีแค่เรื่องดูแลคนอื่นนะ...” 



    จองกุกเลื่อนสายตามาหยุดที่ริมฝีปากของผมอย่างร้อนแรงจนผมหน้าร้อนขึ้นมา 



    “แล้วไม่ใช่แค่นั้น ถ้าพี่วียังดื้อด้านเอาแต่ใจ ความแมนทุกๆเรื่องของผมอาจจะเหมารวมถึงเรื่องบนเตียง ถ้าเป็นแบบนั้น พี่วียังจะกล้ามั้ย?”



    กล้ามั้ยงั้นเหรอ



    ผมเม้มปากแน่น ในใจคิดถึงสถานการณ์ของเราในสองวันที่ผ่านมา คิดถึงตอนที่เราเล่นเกมส์แล้วทุกคนเถียงกันไม่จบสิ้นถึงสิ่งที่ทำให้ผม แต่ผมกลับไม่เคยทำอะไรจริงจังให้ใครเลย โดยเฉพาะจองกุก



    ผมอยากดูแลมักเน่บ้าง ไม่ได้อยากให้จองกุกมาดูแลตลอดชีวิต ผมอยากเป็นพี่ชายที่ดี เป็นพี่ชายที่ดีก็ต้องเริ่ม

    จากเป็นคนแมนก่อนไม่ใช่รึไง ถ้าผมไม่แมน ผมจะปกป้องจองกุกได้ยังไง? แล้วทำไมเขาต้องโกรธยังกับผมไปทำความผิดร้ายแรงด้วย



    ไม่เข้าใจเลย



    “พี่…..”



    “ว่าไงล่ะ ลังเล?” 



    แปปสิ ไอ้เด็กนี่ก็เร่งจัง ผมยิ่งไม่ถนัดคิดอะไรซับซ้อนอยู่ด้วย



    “พอเหอะพี่วี พี่วีอยู่เฉยๆแบบนี้น่ะดีแล้ว…”



    ว่าไงนะ!! ไม่มีทาง!!!



    “ไม่ๆๆๆ จองกุก พี่จะทำ ถ้านายแพ้ นายต้องเชื่อฟังพี่ ห้ามดื้อ ห้ามแกล้งพี่อีก แต่ถ้าพี่แพ้……..” 



    ยังไม่ทันจะพูดจบ มักเน่ที่ตอนนี้ชักจะไม่น่ารักก็ขัดขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นชา



    “ถ้าพี่วีแพ้ พี่วีต้องเป็นทาสจองกุกตลอดไป! จะนอนแล้ว ปิดไฟให้ด้วย อ่อ แล้วก็ พรุ่งนี้ 9 โมงออกไปข้างนอกกับผม ห้ามสาย!”



    พูดจบ มันก็ยกหัวออกจากตักของผม แล้วนอนหันหลังให้เฉยเลย 



    กรรม น้องมันโกรธอีกแล้ว แทฮยองคนนี้ทำผิดอะไร ทำไมเรื่องกลายเป็นแบบนี้ ผมแค่อยากดูแลมักเน่เองนะ ไหงกลายเป็นสงครามความแมนไปได้ แล้วจองกุกมันจะโกรธอะไรนักหนาเนี่ย


    ถอนหายใจแล้วเดินไปปิดไฟ จองกุกยังคงนอนหันหลังให้จนผมรู้สึกแปลกๆ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าที่ห้องนี้ดูจะหนาวขึ้นจนเผลอเบียดแนบชิดหาไออุ่นจากแผ่นหลังกว้าง พอเห็นว่าเขาไม่ได้ขยับตัวหนีผมก็ยกแขนขึ้นกอดจองกุกจากด้านหลังแบบที่ทำประจำ



    “จองกุกอ่า อย่าโกรธพี่เลยนะ” 



    ผมพึมพำอู้อี้ ซบหน้าลงกับหลังของมักเน่ จองกุกถอนหายใจ หันกลับมาคว้าตัวผมให้เข้าไปซุกอยู่ในอ้อมกอดเหมือนเดิม



    “ถ้าอยากให้หายโกรธ พรุ่งนี้ก็ทำให้ผมพอใจสิ”



    ............................................................................................................................


    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะคะ ^^ น้องกุกไม่ได้งอนนะ ไม่ได้ไม่ชอบที่วีจูบตอบด้วย น้องก็แค่สับสนไม่เข้าใจตัวเองเหมือนน้องวีอ่ะแหละ ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งจะมาในบทต่อๆไปพร้อมมาม่า 5555  (อีกนานเลย ช่วงนี้เอาหวานๆไปก่อน) พล๊อตเรื่องนี้ไม่ซับซ้อนน้า เน้นไปที่ความรู้สึกมากกว่า


    ถ้าเรื่องมันเอื่อยๆไปบ้างก็ขอโทษด้วยนะคะ T^T ตามอ่านกันต่อไปและคอมเม้นเม้ามอยกันนะคะ


    คุยเล่นกันเล็กๆ (จะมีใครอ่านและคุยกะเรามั้ยน้า 5555)



    ก่อนอื่นต้องขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ เห็นรีดเดอร์ชอบไรท์ก็ดีใจน้า ^^ สำหรับนิยายเรื่องนี้เราแต่งเพราะความฟินล้วนๆเพราะฉะนั้นพล๊อตเรื่องอาจจะหลวมไปบ้างอะไรบ้าง มีแต่น่ารักและฟิน ซึ่งปกติไม่ใช่แนวของไรท์เท่าไหร่


    กุกวีน่ารักเนอะ ดีใจจังค่ะที่มีคนอ่านเยอะขนาดนี้ ปกติเห็นวีกุกกัน (ได้ข่าวมาว่าแม่ยกที่เกากับญี่ปุ่นเค้าก็กุกวีน้า ^^) จริงๆคือไรท์อ่านได้หมดไม่ว่าจะกุกวีหรือวีกุก แต่ส่วนตัวชอบกุกวีมากกว่า เพราะปกติก็อ่านฟิคของฝรั่งเค้าแต่ง


    ส่วนฟิควีกุกของไทยไม่เคยอ่านเลยค่ะ =[]= อ่านแต่กุกวี (ซึ่งหาได้ยากมากเลยต้องมาแต่งเอง) Fav ทุกอันเลยด้วย อิอิอิ


    ฟิคภาษาอังกฤษ ใครสนใจก็เว็บ asianfanfic นะมีเยอะมาก แต่เค้าจะเล่น tag ว่า taekook กันค่ะ (ยากแก่การคาดเดามากว่าใครเมะใครเคะ ต้องไปลุ้นในเรื่องเอาเอง)


    ถ้าใครอยากอ่านก็บอกไรท์ได้น้า เค้าจะได้ส่งลิ้งค์ให้ อิอิอิ แต่ไม่แปลนะ แค่ที่แต่งเองก็จะตายอยู่และ 


    เจอกันใหม่อีกครึ่งนึงนะคะ ต้องไปปั่นตอน 7 ต่อและ เพราะปกติชอบดองเลยต้องแต่งล่วงหน้าไว้เยอะๆจะได้ไม่ตัน =[]=








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×