ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter3 : Liar
SeulKi Talk : บอกไว้ก่อนว่า ตอนนี้มันไม่ sm นะ เพราะมันหลุดพล๊อต มันจะไปสุมกองรวมกันไว้ที่ตอนหน้า เหตุเกิดเพราะ ซึลไม่อยากให้ตาบอร์นโดนสาปแช่งไปก่อน เลยผลิตตอนนี้มาเรียกความเห็นใจพระเอกจากท่านผู้อ่าน (หรือทำให้หมั่นไส้มันมากกว่าเดิมหว่า) เอาเป็นว่า ตอนนี้แรมโบ้เพ้อเจ้อสุดๆ ตอนหน้า ใครอยากเจอน้องวัวเลือดสาด เตรียมตัว!!!!!!!
...........................................................................................................................................................
บางครั้งการไม่รู้อะไรเลยอาจจะดีกว่า.........ผมได้แต่ปลอบใจตัวเองเช่นนั้น
เขา.....ไม่รู้อะไรน่ะดีแล้ว
ปลอบใจตัวเองไปเรื่อยๆ..........
กลบเกลื่อนความเป็นจริงที่ว่า.........ผม.......
เป็นแค่คนหลอกลวง
.............................................................................................................................................................
เป็นเวลาสองวันแล้วที่ผมนั่งซึมกระทือกับความรู้สึกผิดที่ผุดขึ้นในใจ ทุกครั้งที่นั่งเฉยๆ สิ่งเหล่านั้นจะผุดขึ้นมาราวกับสายน้ำ
ไม่ใช่สายน้ำแห่งความสดใส......หากแต่เป็นความขมขื่น
"โทรศัพท์นั่น ไม่มีอะไรหรอก แค่มีกลุ่มวัยรุ่นมาแย่งโทรศัพท์ชั้นไป พอดีนายโทรมา ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง" กล่าวจบ ก็ซบหน้าลงไปกับอกกว้างของโคโรเนโร่ เพื่อปกปิดความหม่นหมองนั้นเอาไว้
เกลียดตัวเองขึ้นมาจับใจ
ที่มีคนสองคนในเวลาเดียว......เกลียดที่ต่อต้านคนๆนั้นไม่ได้
ไม่อยาก....ให้นายมาลูบแก้มที่แดงช้ำด้วยความอ่อนโยนขนาดนั้น
ไม่อยาก....ให้นายทำท่าเป็นห่วงเป็นใยชั้น
ไม่อยาก....ให้นายเชื่อคำพูดของรีบอร์น
"เดี๋ยวชั้นจะไปสืบหาตัวคนที่ทำผิดนั่นเอง" ร่างสูงพูดอย่างนั้น ขณะที่โคโรเนโร่หัวเราะแล้วโบกมืออย่างไม่ติดใจเอาความ
"ไม่ต้องหรอกนา รีบอร์น ยังไงก็ขอบใจนายมากที่ช่วยแรมโบ้จากกลุ่มวัยรุ่นนั่น ไม่งั้นแย่แน่เลย"
อย่า......ยิ้มแย้มแบบนั้น
อยากจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ฝืนยิ้มให้เขา รีบอร์นเองก็ยิ้ม
ชิ.....ตีหน้าหลอกลวง
แต่.....ผมเองก็ไม่ต่างกัน
"ไปหาหมอรึยัง ดูสิ แก้มช้ำขนาดนี้ แถมยังเดินลำบากอีก ข้อเท้าแพลงเหรอ หรือว่าอะไร"
"พาไปแล้ว ข้อเท้าแพลงน่ะ คงจะเป็นตอนที่หกล้ม" ได้ยินรีบอร์นบอกออกไปแบบนั้น
แต่ในใจกลับรู้ดี.......
ที่แก้มช้ำเพราะรีบอร์นตบ
ที่เดินลำบาก เพราะรีบอร์นข่มขืน
ทุกอย่าง....เป็นเพราะรีบอร์น
"ไปพักผ่อนเถอะนะ ชั้นไม่เป็นไรหรอก" โคโรเนโร่กล่าวกับผม เขาจูบที่หน้าผากของผมเบาๆ ในขณะที่ดันตัวผมไปให้รีบอร์น
"ฝากดูแลหัวใจชั้นด้วยนะ รีบอร์น"
คำพูดนั้น......เกือบทำให้ผมร้องไห้ออกมา
ถ้าชั้นเป็นหัวใจของนาย......ก็ดูแลเองสิ
อย่าฝากไว้กับรีบอร์นเลย......เพราะเขากำลังทำลายหัวใจของนาย
.............................................................................................................................................................
"แรมโบ้อ่าาาาาา"
"แรมโบ้!!!!!!!!!"
"ห่ะ หา ว่าไง" เจ็บหูชะมัด ไอเจ้าชายบ้านี่ อยู่ใกล้แค่นี้จะตะโกนทำไมเนี่ย
"เจ้าชายเรียกตั้งนานแล้วนะ เหม่อคิดถึงโคโรเนโร่รึไง"
"อืม เฮ้ออออ......." ผมถอนหายใจ ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง ผมกะมันกำลังนั่งเล่นอยู่ที่สวนหลังโรงเรียน อยากโดดเรียนคาบบ่ายชะมัด แต่ไอเจ้าชายนี่คงไม่ยอม ไม่รู้ช่วงนี้มันไปฟิตเรียนมาจากไหน......
"นี่ เบล ชั้นอยากโดดเรียน ขอนอนตรงนี้สักพักนะ"
ผมพูดพลางทิ้งตัวนอนลงบนพื้นหญ้า กลิ่นไอดินกับความสดชื่นของสายลมช่วยปัดเป่าให้ความขุ่นมัวในใจให้จางลงไปได้บ้าง จนตอนนี้ ผมชักอยากจะหลับขึ้นมาแล้ว
"อืมมม เจ้าชายก็จะโดดเรียนเป็นเพื่อนแรมโบ้น้า"
ใจดีจัง เบล.....
หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้.....
แต่เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ ทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้น เบลไม่ได้อยู่ข้างกายผมอีกแล้ว แต่สิ่งที่ค้ำอยู่เหนือหัวผมก็คือ ชายกระโปรงของนักเรียนหญิง ผมลุกขึ้นนั่งอย่างมึนงง
เธอคนนั้นมีผมสีดำสนิททิ้งตัวลงมาถึงเอวบาง หน้าตาสะสวยคมเข้ม เค้าโครงหน้านั้นเหมือนใครสักคนที่ผมรู้จัก แต่ก็นึกไม่ออก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งหน้า แต่ความสวยนั้นก็มีมากพอที่จะทำให้ใครต่อใครเหลียวหลัง ท่าทางห้าวๆนั้นต่างหากล่ะ ที่ทำให้ผมประหลาดใจ.......ผู้หญิงประหลาด
"นั่งด้วยได้มั้ย" แม้แต่เสียงก็ติดจะห้าวเล็กๆ ผมพยักหน้าเร็วๆ
"อืม นั่งสิ เอาช็อกโกแลตมั้ย" ถึงไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ผมก็มีมนุษยสัมพันธ์พอที่จะยื่นช็อกโกแลตไปให้หญิงสาวข้างตัว เธอคนนั้นทำท่าประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะรับไปกิน
"เป็นแฟนพี่รีบอร์นเหรอ" ประโยคเริ่มสนทนาที่ทำให้ผมเกือบช็อกโกแลตติดคอ เธอคนนี้....เรียกรีบอร์นว่าพี่ ไม่ใช่รุ่นพี่....
คงเป็นเพราะหน้าเอ๋อๆของผมที่ทำให้เธอหัวเราะออกมา เธอหันมายิ้มหวานให้ผมก่อนจะพูดว่า
"ชั้นชื่อ รีน่า ม.ต้นปี 3"
น้องสาวรีบอร์น!!!!! เคยได้ยินมามั่ง แต่ว่าที่ได้ยินมาไม่สวยแล้วก็ไม่ห้าวขนาดนี้นี่นา
"ครับ ผมชื่อ แรมโบ้"
"ชั้นรู้แล้วล่ะ แรมโบ้ซังออกจะดังขนาดนี้"
"หา ผมดังเหรอ" แอบงงนิดๆแฮะ
"อืม เมื่อปีที่แล้ว แรมโบ้ซังไม่ใช่เหรอที่ได้ตำแหน่งดาวโรงเรียน" เธอถาม อ่า....พอหันมามองใกล้ๆแล้วน่ารักชะมัด ไม่น่าล่ะถึงดูคุ้นๆ โครงหน้านั่นถอดแบบมาจากรีบอร์นราวกับพิมพ์เดียว
"ตำแหน่งนั่นน่าอายจะตาย ดาวมันต้องผู้หญิงสิ ไม่รู้ว่าทำไมเป็นอย่างนั้นไปได้ เฮ้อ"
"ฮ่ะฮ่ะ แรมโบ้ซังนี่ตลกดีนะ ออกจะน่ารักขนาดนี้ ตกลงว่าเป็นแฟนพี่รีบอร์นรึเปล่า"
"เปล่า!" ปากผมมันไปแล้ว แต่ยังไงล่ะ....ก็มันเป็นความจริงนี่ ผมไม่ได้เป็นแฟนเขา
ก็แค่......เครื่องระบายราคะ
"ก็เห็นแรมโบ้ซังที่บ้านนี่ ปกติพี่ไม่เคยพาใครเข้าบ้านเลยนะ ยัยแม่มดหัวเสียใหญ่เลย"
คำพูดของเธอ ทำเอาผมงงไปหมดแล้ว จริงอยู่....ที่ว่า รีบอร์นพาผมไปที่บ้าน แต่เธอรู้ได้ยังไง แล้วยัยแม่มดนั่นใครอีกล่ะ ไม่เข้าใจเลย....
"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ"
"รีน่าจัง....ผมไม่ค่อยเข้าใจ"
สีหน้าเธอหม่นหมองลงเล็กน้อย เมื่อผมตอบออกไปอย่างนั้น ก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่อง......เรื่องของรีบอร์น
"คงต้องย้อนกลับไป เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว มันเริ่มขึ้นตั้งแต่ที่แม่ของพวกเราเสียไป........แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มเข้ามา ทำให้ชีวิตของพวกเรา.....พังทลายลง"
.............................................................................................................................................................
คฤหาสน์ของบ้านรีบอร์น 10 ปีที่แล้ว
"นังเด็กนี่ บอกว่าอย่าร้องไง น่ารำคาญจริง"
รีน่าในวัย 5 ขวบกับรีบอร์นในวัย 8 ขวบกำลังทะเลาะกับหญิงสาวในชุดรัดรูปสีแดงสดอย่างรุนแรง รีน่าเอาแต่ร้องไห้ ขณะที่รีบอร์นเอาตัวเข้าปกป้องน้องสาวจากแม่เลี้ยงใจร้ายที่พยายามดึงเด็กสาวมาหยิกแขน
พ่อของทั้ง 2 คนมักจะไม่อยู่บ้านเสมอ ด้วยความที่เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตที่มีสาขามากมาย ทำให้เขามักจะบินไปรอบโลกเพื่อตรวจตราสาขาต่างๆ ทุ่มเทให้กับเวลาทำงาน และไม่เคยมีรอยยิ้มอีกเลยนับตั้งแต่ภรรยาเสียไป
และพ่อของเขาก็ได้ไปเจอกับเธอคนนี้ ไม่รู้ว่าไปทำยังไง เธอได้ตำแหน่งคุณนายของบ้านนี้มาอย่างรวดเร็ว พ่อของพวกเขาเองก็ไม่ค่อยมีเวลา สิทธิ์ขาดทุกอย่างในบ้านจึงตกเป็นของเธอ.......
แม้แต่สิทธิ์.....ในการใช้ชีวิตของพวกเขา
และแน่นอนว่า การที่นายใหญ่ของบ้านเอาแต่ทำงาน ไม่สามารถเติมเต็มให้เธอได้ เธอจึงต้องหาชายหนุ่มมาเติมเต็มชีวิตให้ เป็นอย่างนี้เรื่อยมา จนกระทั่ง รีบอร์นอายุได้ 12 ปี
...................................................................................................................................................................
"พี่กับชั้นเห็นอยู่ทุกวัน การที่ผู้หญิงคนนั้นเที่ยวไปมีอะไรกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ที่แย่กว่านั้นคือ เธอต้องการพี่รีบอร์น"
สีหน้าของเธอดูไม่ดีเลย...... แม่เลี้ยงที่บ้าผู้ชายอย่างนี้ ผมรู้แล้วล่ะ ว่าทำไมรีบอร์นถึงเป็นพวกอารมณ์ขึ้นๆลงๆ คิดๆดูก็น่าสงสารเหมือนกัน คนที่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวมาก่อน กลับต้องโดนมาพราก ผมไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไง เพราะสิ่งที่เรียกว่า ครอบครัวน่ะ.....ผมไม่เคยมีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
จะมีก็แต่ญาติห่างๆที่ส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือน......
"เพราะรีน่าแท้ๆ พี่รีบอร์นเลยต้องไปมีอะไรกับยัยแม่มดนั่น ฮือๆๆๆๆ"
น้ำตามากมายไหลออกมาจากดวงตาสีนิลจนผมตกใจ ไหล่บอบบางนั่นสั่นสะท้านไปด้วยแรงอารมณ์ ผมตัดสินใจที่จะคว้าเธอมาไว้ในอ้อมกอด ลูบผมที่นุ่มเหมือนขนแมวนั่นเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยน
"อย่าร้องไห้เลยนะ เด็กดี รีบอร์นเขาตัดสินใจทำเพื่อรีน่าแล้ว มันเป็นการตัดสินใจของเขา ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก"
เธอร้องไห้จนเสื้อของผมเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา ผมได้แต่ปลอบประโลมเธออยู่อย่างนั้น โดยไม่รู้ตัวเลยว่า รีบอร์นได้เฝ้ามองมาที่ผมกับรีน่าด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดาอารมณ์.............
รีน่าสูดลมหายใจช้าๆอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ แก้มใสๆยังมีคราบน้ำตาติดอยู่จนผมอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปเช็ดให้ ตาแดงหมดแล้ว.......ในที่สุด รีน่าจังก็ยิ้มจนได้
"ดีขึ้นแล้วล่ะ ขอรีน่าเรียก แรมโบ้ซัง ว่าพี่แรมโบ้ได้มั้ย"
"ได้สิ จะเรียกอะไรก็เรียกได้เลย"
คงเพราะแววตาใสซื่อนั้นที่ทำให้ผมใจอ่อน.....
เธอคนนี้เป็นน้องสาวของรีบอร์นที่แสนร้ายกาจคนนั้นจริงๆเหรอ
ความแตกต่างนี้มันช่างมากมายนัก............
"แล้ว.....ทำไมรีน่าถึงเอามาเล่าให้พี่ฟังล่ะ" เธอเอานิ้วเขี่ยดินเล่นเป็นวงกลมอย่างเลื่อนลอย
"ไม่รู้สิ แค่คิดว่า ถ้าเป็นพี่ อาจจะทำให้พี่ชายของรีน่ามีความสุข........."
สุขแน่ล่ะ.......สุขที่ได้ทรมานผมไง
แต่น้องสาวคนนี้......เธอไม่รู้......และผมก็ไม่ต้องการให้เธอรับรู้
"ขอร้องเถอะค่ะ..........."
ดวงตากลมโตคู่นั้น หันมามองผมอย่างเว้าวอน..............
"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าทิ้งพี่ชายของรีน่าไปเลย สัญญาได้มั้ยค่ะ"
ทิ้งรีบอร์น.......
...................คงที่ทิ้งน่ะคงจะเป็น.....เขา
คนอย่างผม.....จะไปมีปัญญาอะไรไปทิ้งเขาได้ล่ะ
"เราไม่ได้เป็นอะไรกัน"
พูดออกไปแบบนั้น แต่เด็กสาวตรงหน้าผมกลับส่ายหน้า
"ไม่ใช่.......รีน่าหมายถึง ระหว่างรุ่นพี่โคโรเนโร่กับพี่รีบอร์น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้เลือกพี่ชายของรีน่า.....แค่นี้จะได้มั้ยค่ะ"
"อืม พี่จะเลือกรีบอร์น"
อาจจะเป็นเพราะวงหน้าหวานที่ดูเศร้าสร้อย
อาจจะเป็นเพราะดวงตากลมโตคู่สวยที่สั่นระริก
อาจเป็นเพราะเสียงหวานใสที่ขมขื่น
ผม.......
จึงโกหกอีกครั้ง
ในความเป็นจริงแล้ว.......
ผมรู้ตัวดีว่า......คงไม่มีวัน.......ที่ผมจะเลือกรีบอร์น
ทำไม.......ต้องเลือกผู้ชายร้ายกาจคนนั้น
ทำไม.....ต้องอยากอยู่กับเขา.....มากกว่าโคโรเนโร่ที่แสนดี
อาจเป็นเพราะ.................อยากให้เขามีความสุข
อาจเป็นเพราะ................อยากรักษารอยแผลในจิตใจที่มืดมิด
อาจเป็นเพราะ................อยากจะตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของหัวใจที่เต้นแรง
อาจเป็นเพราะ................อยากอยู่กับเขา
จนกระทั่งตอนนี้................ผมกลับหลอกลวงแม้กระทั่งหัวใจตัวเอง
ว่า.........ผม........เลือกโคโรเนโร่
.............................................................................................................................................................
พักหลังนี่......ผมเหม่อลอยขึ้นบ่อยครั้ง
แม้แต่ในเวลาเรียน......ไม่รู้ตัวเลยว่ากลับมาห้องเรียนได้ไงหลังจากคุยกับรีน่า
เบลก็ยังคงหายไปเหมือนเดิม......
หายไปไหนของมันนะ ปกติไม่เคยโดดเรียนนี่ ข้างๆผมก็ไม่มี
หนีตามหนุ่มไปแล้วรึยังก็ไม่รู้..............................
"คุณแรมโบ้!!!!!!!!!!!!!" เสียงฟ้าผ่ากับช็อกที่ลอยมาแปะบนหัว......ผมสะดุ้งพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว
"อ่า ครับๆๆๆๆ"
"ออกไปนอกชั้นเรียนเดี๋ยวนี้ จะไปไหนก็ไป คาบนี้ไม่ต้องเข้าแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!"
โดนไล่อย่างนี้......ผมจะอยู่ทำไม
เดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดที่สวนหลังโรงเรียน
โอ๊ยยยย....ผมนี่มันน่าสมเพชชะมัด ไม่มีที่อื่นให้ไปแล้วรึไงเนี่ย
ได้แต่เดินเตะต้นไม้ใบหญ้าไปเรื่อยๆ จนถึงมุมอับของสวน......เข้าไปนอนในนั้นท่าจะดี
.............................................................................................................................................................
ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่
รีบอร์น!!!!!!!!!
ไม่ผิดแน่ ชายหนุ่มที่นอนอยู่ตรงนั้นคือ รีบอร์น แต่ดูท่าทางว่าเขากำลังหลับสนิท
ผมเดินเข้าไปใกล้ นั่งลงเครียงข้างเขาแล้วพิจารณาใบหน้าที่หลับสนิทนั่้นเงียบๆ
ทุกๆอย่างย่อมมีเหตุผลของมัน.........รีบอร์นก็ต้องมีเหตุผลของเขาที่ทำแบบนั้นกับผม ผมยอมรับว่า เรื่องที่ฟังมาจากรีน่าทำให้ผมลดความโกรธเกลียดเขาไปได้นิดหน่อย.......อันที่จริงก็มากอยู่ แต่ลึกๆแล้ว ผมกลับคิดว่า รีบอร์นน่าสงสารกว่าผม ซึ่งโดนเขาทำร้ายร่างกายซะอีก
ผม.....ไม่อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้เลย
ก้มลงไปใกล้อีกนิด......
ขนตายาวชะมัด......ผู้ชายอะไร แม้แต่ตอนหลับก็ยังดูดี ริมฝีปากที่ชอบพูดจาดูถูกผมเผยอออกเล็กน้อย....
รู้ตัวอีกที......ผมก็ประทับริมฝีปากของผมลงไปที่ริมฝีปากบางของรีบอร์นซะแล้ว
ผมถอนจูบออกอย่างรวดเร็ว ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว.............................
บ้าชะมัด นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ย
ทำท่ายังกับสาวน้อยที่ลักหลับผู้ชายที่ตัวเองชอบเลย อายตัวเอง.....จนต้องลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ข้อมือของผมก็โดนยึดไว้แทบจะทันที
"คิดถึงชั้นมาก จนต้องมาลักหลับเลยเหรอ" เขาพูดออกมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่อย่างนั้น....
"ไม่ใช่สักหน่อย ชั้นก็แค่......"
"ถ้าไม่ใช่อยากจูบชั้น ก็แสดงว่าจูบกับใครก็ได้สินะ"
อีกแล้ว......ทำไมชอบพูดจาดูถูกผมอยู่เรื่อย
เหนื่อยที่จะเถียงกับคนอย่างนี้แล้ว บางที.....อาจจะเป็นแค่นิสัยเสียของเขา
รีบอร์นลุกนั่งอย่างมึนๆแล้วคลานมาทางผม เฮ้....คงไม่ได้คิดจะทำอะไรผมที่นี่หรอกใช่มั้ย
ตุ๊บ
ศีรษะของเขาตกลงมาที่บ่าผม ก่อนจะเลื่อนมาที่หน้าอก แขนใหญ่ๆทั้ง 2 ข้างรัดรอบเอวของผมเอาไว้.....ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยออกมาจากร่างของเขาอย่างชัดเจน
"นายนี่มันน่ากินชะมัด......."
พูดจบก็หลับไปทันที จนอยากจะตะโกนให้ลั่นโรงเรียน
นี่ผมมันไร้เสน่ห์ขนาดนี้เลยเหรอ!!!!!!!
แต่คิดอีกที.....
เขาไม่ทำอะไรก็ดีแล้วนี่ ทำไมต้องผิดหวังด้วย
หรือว่าลึกๆแล้ว.....ผมเอง.....กลับต้องการให้เขาสัมผัสผม
ความคิดนี้ ทำให้ผมแทบจะบ้าตาย นี่ผมคงไม่ได้เป็น m หรอกใช่มั้ย
.............................................................................................................................................................
แล้วทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย
ได้แต่มองรีบอร์น.....ที่อยู่บนเตียงของตัวเองอย่างปลงตก
เขาก็ยังคงหลับสนิท ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย แน่ล่ะ.....ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาลวนลามผมด้วย มันทำให้ผมใจชื้นพอที่จะปล่อยให้เขานอนบนเตียงไปอย่างนั้น
เมาตั้งแต่หัววันอย่างนี้.....ไร้ความรับผิดชอบชะมัด
ผมเดินไปเอากะละมังกับผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เขา อ่า....คงต้องปลดกระดุมเสื้อออกสินะ
แค่คิด ก็หน้าแดงแล้ว อะไรกันแรมโบ้.......ผู้ชายเหมือนกันนะ อีกอย่าง.....ก็เคยๆกันมาแล้ว
ปลุกปลอบใจตัวเอง แต่ดูท่าทางจะไม่ได้ผลเลย เมื่อแกะกระดุมออกทุดเม็ดแล้วแผ่นอกกว้างปรากฏกับสายตา
ไม่ไหวแล้ว.....นี่ผมกลายเป็นคนหื่นกามตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
ต้องโทษนายสินะ รีบอร์น.....
เงียบๆอย่างนี้ก็น่ารักดีอยู่แล้ว เป็นใบ้ไปซะได้ก็ดี.....จะได้ไม่ต้องพูดจาทำร้ายจิตใจกัน
ผมเช็ดตัวให้รีบอร์นอย่างลวกๆ เอากะละมังไปเก็บ ก่อนจะตัดสินใจปีนขึ้นเตียงไปนอนเคียงข้างกับเขา
ขอแค่วันนี้............ที่นายจะไม่ทำร้ายกาจใส่ชั้น
ราวกับรับรู้ได้ถึงคำๆนั้น รีบอร์นรั้งร่างของผมเข้าไปไว้ในอ้อมกอดเหมือนอย่างวันนั้น
ผมซุกหน้าลงกับอกกว้าง กลิ่นน้ำหอมกับกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มตามไป....
รีบอร์นกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
'......แรมโบ้'
TBC.
.........................................................................................................................................................
ใครต้องการ sm ของเสียงหน่อยยยยยยยยย (วิ้วววว)
...........................................................................................................................................................
บางครั้งการไม่รู้อะไรเลยอาจจะดีกว่า.........ผมได้แต่ปลอบใจตัวเองเช่นนั้น
เขา.....ไม่รู้อะไรน่ะดีแล้ว
ปลอบใจตัวเองไปเรื่อยๆ..........
กลบเกลื่อนความเป็นจริงที่ว่า.........ผม.......
เป็นแค่คนหลอกลวง
.............................................................................................................................................................
เป็นเวลาสองวันแล้วที่ผมนั่งซึมกระทือกับความรู้สึกผิดที่ผุดขึ้นในใจ ทุกครั้งที่นั่งเฉยๆ สิ่งเหล่านั้นจะผุดขึ้นมาราวกับสายน้ำ
ไม่ใช่สายน้ำแห่งความสดใส......หากแต่เป็นความขมขื่น
"โทรศัพท์นั่น ไม่มีอะไรหรอก แค่มีกลุ่มวัยรุ่นมาแย่งโทรศัพท์ชั้นไป พอดีนายโทรมา ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง" กล่าวจบ ก็ซบหน้าลงไปกับอกกว้างของโคโรเนโร่ เพื่อปกปิดความหม่นหมองนั้นเอาไว้
เกลียดตัวเองขึ้นมาจับใจ
ที่มีคนสองคนในเวลาเดียว......เกลียดที่ต่อต้านคนๆนั้นไม่ได้
ไม่อยาก....ให้นายมาลูบแก้มที่แดงช้ำด้วยความอ่อนโยนขนาดนั้น
ไม่อยาก....ให้นายทำท่าเป็นห่วงเป็นใยชั้น
ไม่อยาก....ให้นายเชื่อคำพูดของรีบอร์น
"เดี๋ยวชั้นจะไปสืบหาตัวคนที่ทำผิดนั่นเอง" ร่างสูงพูดอย่างนั้น ขณะที่โคโรเนโร่หัวเราะแล้วโบกมืออย่างไม่ติดใจเอาความ
"ไม่ต้องหรอกนา รีบอร์น ยังไงก็ขอบใจนายมากที่ช่วยแรมโบ้จากกลุ่มวัยรุ่นนั่น ไม่งั้นแย่แน่เลย"
อย่า......ยิ้มแย้มแบบนั้น
อยากจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ฝืนยิ้มให้เขา รีบอร์นเองก็ยิ้ม
ชิ.....ตีหน้าหลอกลวง
แต่.....ผมเองก็ไม่ต่างกัน
"ไปหาหมอรึยัง ดูสิ แก้มช้ำขนาดนี้ แถมยังเดินลำบากอีก ข้อเท้าแพลงเหรอ หรือว่าอะไร"
"พาไปแล้ว ข้อเท้าแพลงน่ะ คงจะเป็นตอนที่หกล้ม" ได้ยินรีบอร์นบอกออกไปแบบนั้น
แต่ในใจกลับรู้ดี.......
ที่แก้มช้ำเพราะรีบอร์นตบ
ที่เดินลำบาก เพราะรีบอร์นข่มขืน
ทุกอย่าง....เป็นเพราะรีบอร์น
"ไปพักผ่อนเถอะนะ ชั้นไม่เป็นไรหรอก" โคโรเนโร่กล่าวกับผม เขาจูบที่หน้าผากของผมเบาๆ ในขณะที่ดันตัวผมไปให้รีบอร์น
"ฝากดูแลหัวใจชั้นด้วยนะ รีบอร์น"
คำพูดนั้น......เกือบทำให้ผมร้องไห้ออกมา
ถ้าชั้นเป็นหัวใจของนาย......ก็ดูแลเองสิ
อย่าฝากไว้กับรีบอร์นเลย......เพราะเขากำลังทำลายหัวใจของนาย
.............................................................................................................................................................
"แรมโบ้อ่าาาาาา"
"แรมโบ้!!!!!!!!!"
"ห่ะ หา ว่าไง" เจ็บหูชะมัด ไอเจ้าชายบ้านี่ อยู่ใกล้แค่นี้จะตะโกนทำไมเนี่ย
"เจ้าชายเรียกตั้งนานแล้วนะ เหม่อคิดถึงโคโรเนโร่รึไง"
"อืม เฮ้ออออ......." ผมถอนหายใจ ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง ผมกะมันกำลังนั่งเล่นอยู่ที่สวนหลังโรงเรียน อยากโดดเรียนคาบบ่ายชะมัด แต่ไอเจ้าชายนี่คงไม่ยอม ไม่รู้ช่วงนี้มันไปฟิตเรียนมาจากไหน......
"นี่ เบล ชั้นอยากโดดเรียน ขอนอนตรงนี้สักพักนะ"
ผมพูดพลางทิ้งตัวนอนลงบนพื้นหญ้า กลิ่นไอดินกับความสดชื่นของสายลมช่วยปัดเป่าให้ความขุ่นมัวในใจให้จางลงไปได้บ้าง จนตอนนี้ ผมชักอยากจะหลับขึ้นมาแล้ว
"อืมมม เจ้าชายก็จะโดดเรียนเป็นเพื่อนแรมโบ้น้า"
ใจดีจัง เบล.....
หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้.....
แต่เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้ ทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้น เบลไม่ได้อยู่ข้างกายผมอีกแล้ว แต่สิ่งที่ค้ำอยู่เหนือหัวผมก็คือ ชายกระโปรงของนักเรียนหญิง ผมลุกขึ้นนั่งอย่างมึนงง
เธอคนนั้นมีผมสีดำสนิททิ้งตัวลงมาถึงเอวบาง หน้าตาสะสวยคมเข้ม เค้าโครงหน้านั้นเหมือนใครสักคนที่ผมรู้จัก แต่ก็นึกไม่ออก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แต่งหน้า แต่ความสวยนั้นก็มีมากพอที่จะทำให้ใครต่อใครเหลียวหลัง ท่าทางห้าวๆนั้นต่างหากล่ะ ที่ทำให้ผมประหลาดใจ.......ผู้หญิงประหลาด
"นั่งด้วยได้มั้ย" แม้แต่เสียงก็ติดจะห้าวเล็กๆ ผมพยักหน้าเร็วๆ
"อืม นั่งสิ เอาช็อกโกแลตมั้ย" ถึงไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ผมก็มีมนุษยสัมพันธ์พอที่จะยื่นช็อกโกแลตไปให้หญิงสาวข้างตัว เธอคนนั้นทำท่าประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะรับไปกิน
"เป็นแฟนพี่รีบอร์นเหรอ" ประโยคเริ่มสนทนาที่ทำให้ผมเกือบช็อกโกแลตติดคอ เธอคนนี้....เรียกรีบอร์นว่าพี่ ไม่ใช่รุ่นพี่....
คงเป็นเพราะหน้าเอ๋อๆของผมที่ทำให้เธอหัวเราะออกมา เธอหันมายิ้มหวานให้ผมก่อนจะพูดว่า
"ชั้นชื่อ รีน่า ม.ต้นปี 3"
น้องสาวรีบอร์น!!!!! เคยได้ยินมามั่ง แต่ว่าที่ได้ยินมาไม่สวยแล้วก็ไม่ห้าวขนาดนี้นี่นา
"ครับ ผมชื่อ แรมโบ้"
"ชั้นรู้แล้วล่ะ แรมโบ้ซังออกจะดังขนาดนี้"
"หา ผมดังเหรอ" แอบงงนิดๆแฮะ
"อืม เมื่อปีที่แล้ว แรมโบ้ซังไม่ใช่เหรอที่ได้ตำแหน่งดาวโรงเรียน" เธอถาม อ่า....พอหันมามองใกล้ๆแล้วน่ารักชะมัด ไม่น่าล่ะถึงดูคุ้นๆ โครงหน้านั่นถอดแบบมาจากรีบอร์นราวกับพิมพ์เดียว
"ตำแหน่งนั่นน่าอายจะตาย ดาวมันต้องผู้หญิงสิ ไม่รู้ว่าทำไมเป็นอย่างนั้นไปได้ เฮ้อ"
"ฮ่ะฮ่ะ แรมโบ้ซังนี่ตลกดีนะ ออกจะน่ารักขนาดนี้ ตกลงว่าเป็นแฟนพี่รีบอร์นรึเปล่า"
"เปล่า!" ปากผมมันไปแล้ว แต่ยังไงล่ะ....ก็มันเป็นความจริงนี่ ผมไม่ได้เป็นแฟนเขา
ก็แค่......เครื่องระบายราคะ
"ก็เห็นแรมโบ้ซังที่บ้านนี่ ปกติพี่ไม่เคยพาใครเข้าบ้านเลยนะ ยัยแม่มดหัวเสียใหญ่เลย"
คำพูดของเธอ ทำเอาผมงงไปหมดแล้ว จริงอยู่....ที่ว่า รีบอร์นพาผมไปที่บ้าน แต่เธอรู้ได้ยังไง แล้วยัยแม่มดนั่นใครอีกล่ะ ไม่เข้าใจเลย....
"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ"
"รีน่าจัง....ผมไม่ค่อยเข้าใจ"
สีหน้าเธอหม่นหมองลงเล็กน้อย เมื่อผมตอบออกไปอย่างนั้น ก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่อง......เรื่องของรีบอร์น
"คงต้องย้อนกลับไป เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว มันเริ่มขึ้นตั้งแต่ที่แม่ของพวกเราเสียไป........แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มเข้ามา ทำให้ชีวิตของพวกเรา.....พังทลายลง"
.............................................................................................................................................................
คฤหาสน์ของบ้านรีบอร์น 10 ปีที่แล้ว
"นังเด็กนี่ บอกว่าอย่าร้องไง น่ารำคาญจริง"
รีน่าในวัย 5 ขวบกับรีบอร์นในวัย 8 ขวบกำลังทะเลาะกับหญิงสาวในชุดรัดรูปสีแดงสดอย่างรุนแรง รีน่าเอาแต่ร้องไห้ ขณะที่รีบอร์นเอาตัวเข้าปกป้องน้องสาวจากแม่เลี้ยงใจร้ายที่พยายามดึงเด็กสาวมาหยิกแขน
พ่อของทั้ง 2 คนมักจะไม่อยู่บ้านเสมอ ด้วยความที่เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตที่มีสาขามากมาย ทำให้เขามักจะบินไปรอบโลกเพื่อตรวจตราสาขาต่างๆ ทุ่มเทให้กับเวลาทำงาน และไม่เคยมีรอยยิ้มอีกเลยนับตั้งแต่ภรรยาเสียไป
และพ่อของเขาก็ได้ไปเจอกับเธอคนนี้ ไม่รู้ว่าไปทำยังไง เธอได้ตำแหน่งคุณนายของบ้านนี้มาอย่างรวดเร็ว พ่อของพวกเขาเองก็ไม่ค่อยมีเวลา สิทธิ์ขาดทุกอย่างในบ้านจึงตกเป็นของเธอ.......
แม้แต่สิทธิ์.....ในการใช้ชีวิตของพวกเขา
และแน่นอนว่า การที่นายใหญ่ของบ้านเอาแต่ทำงาน ไม่สามารถเติมเต็มให้เธอได้ เธอจึงต้องหาชายหนุ่มมาเติมเต็มชีวิตให้ เป็นอย่างนี้เรื่อยมา จนกระทั่ง รีบอร์นอายุได้ 12 ปี
...................................................................................................................................................................
"พี่กับชั้นเห็นอยู่ทุกวัน การที่ผู้หญิงคนนั้นเที่ยวไปมีอะไรกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ที่แย่กว่านั้นคือ เธอต้องการพี่รีบอร์น"
สีหน้าของเธอดูไม่ดีเลย...... แม่เลี้ยงที่บ้าผู้ชายอย่างนี้ ผมรู้แล้วล่ะ ว่าทำไมรีบอร์นถึงเป็นพวกอารมณ์ขึ้นๆลงๆ คิดๆดูก็น่าสงสารเหมือนกัน คนที่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวมาก่อน กลับต้องโดนมาพราก ผมไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไง เพราะสิ่งที่เรียกว่า ครอบครัวน่ะ.....ผมไม่เคยมีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
จะมีก็แต่ญาติห่างๆที่ส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือน......
"เพราะรีน่าแท้ๆ พี่รีบอร์นเลยต้องไปมีอะไรกับยัยแม่มดนั่น ฮือๆๆๆๆ"
น้ำตามากมายไหลออกมาจากดวงตาสีนิลจนผมตกใจ ไหล่บอบบางนั่นสั่นสะท้านไปด้วยแรงอารมณ์ ผมตัดสินใจที่จะคว้าเธอมาไว้ในอ้อมกอด ลูบผมที่นุ่มเหมือนขนแมวนั่นเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยน
"อย่าร้องไห้เลยนะ เด็กดี รีบอร์นเขาตัดสินใจทำเพื่อรีน่าแล้ว มันเป็นการตัดสินใจของเขา ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก"
เธอร้องไห้จนเสื้อของผมเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา ผมได้แต่ปลอบประโลมเธออยู่อย่างนั้น โดยไม่รู้ตัวเลยว่า รีบอร์นได้เฝ้ามองมาที่ผมกับรีน่าด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดาอารมณ์.............
รีน่าสูดลมหายใจช้าๆอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ แก้มใสๆยังมีคราบน้ำตาติดอยู่จนผมอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปเช็ดให้ ตาแดงหมดแล้ว.......ในที่สุด รีน่าจังก็ยิ้มจนได้
"ดีขึ้นแล้วล่ะ ขอรีน่าเรียก แรมโบ้ซัง ว่าพี่แรมโบ้ได้มั้ย"
"ได้สิ จะเรียกอะไรก็เรียกได้เลย"
คงเพราะแววตาใสซื่อนั้นที่ทำให้ผมใจอ่อน.....
เธอคนนี้เป็นน้องสาวของรีบอร์นที่แสนร้ายกาจคนนั้นจริงๆเหรอ
ความแตกต่างนี้มันช่างมากมายนัก............
"แล้ว.....ทำไมรีน่าถึงเอามาเล่าให้พี่ฟังล่ะ" เธอเอานิ้วเขี่ยดินเล่นเป็นวงกลมอย่างเลื่อนลอย
"ไม่รู้สิ แค่คิดว่า ถ้าเป็นพี่ อาจจะทำให้พี่ชายของรีน่ามีความสุข........."
สุขแน่ล่ะ.......สุขที่ได้ทรมานผมไง
แต่น้องสาวคนนี้......เธอไม่รู้......และผมก็ไม่ต้องการให้เธอรับรู้
"ขอร้องเถอะค่ะ..........."
ดวงตากลมโตคู่นั้น หันมามองผมอย่างเว้าวอน..............
"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าทิ้งพี่ชายของรีน่าไปเลย สัญญาได้มั้ยค่ะ"
ทิ้งรีบอร์น.......
...................คงที่ทิ้งน่ะคงจะเป็น.....เขา
คนอย่างผม.....จะไปมีปัญญาอะไรไปทิ้งเขาได้ล่ะ
"เราไม่ได้เป็นอะไรกัน"
พูดออกไปแบบนั้น แต่เด็กสาวตรงหน้าผมกลับส่ายหน้า
"ไม่ใช่.......รีน่าหมายถึง ระหว่างรุ่นพี่โคโรเนโร่กับพี่รีบอร์น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้เลือกพี่ชายของรีน่า.....แค่นี้จะได้มั้ยค่ะ"
"อืม พี่จะเลือกรีบอร์น"
อาจจะเป็นเพราะวงหน้าหวานที่ดูเศร้าสร้อย
อาจจะเป็นเพราะดวงตากลมโตคู่สวยที่สั่นระริก
อาจเป็นเพราะเสียงหวานใสที่ขมขื่น
ผม.......
จึงโกหกอีกครั้ง
ในความเป็นจริงแล้ว.......
ผมรู้ตัวดีว่า......คงไม่มีวัน.......ที่ผมจะเลือกรีบอร์น
ทำไม.......ต้องเลือกผู้ชายร้ายกาจคนนั้น
ทำไม.....ต้องอยากอยู่กับเขา.....มากกว่าโคโรเนโร่ที่แสนดี
อาจเป็นเพราะ.................อยากให้เขามีความสุข
อาจเป็นเพราะ................อยากรักษารอยแผลในจิตใจที่มืดมิด
อาจเป็นเพราะ................อยากจะตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของหัวใจที่เต้นแรง
อาจเป็นเพราะ................อยากอยู่กับเขา
จนกระทั่งตอนนี้................ผมกลับหลอกลวงแม้กระทั่งหัวใจตัวเอง
ว่า.........ผม........เลือกโคโรเนโร่
.............................................................................................................................................................
พักหลังนี่......ผมเหม่อลอยขึ้นบ่อยครั้ง
แม้แต่ในเวลาเรียน......ไม่รู้ตัวเลยว่ากลับมาห้องเรียนได้ไงหลังจากคุยกับรีน่า
เบลก็ยังคงหายไปเหมือนเดิม......
หายไปไหนของมันนะ ปกติไม่เคยโดดเรียนนี่ ข้างๆผมก็ไม่มี
หนีตามหนุ่มไปแล้วรึยังก็ไม่รู้..............................
"คุณแรมโบ้!!!!!!!!!!!!!" เสียงฟ้าผ่ากับช็อกที่ลอยมาแปะบนหัว......ผมสะดุ้งพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว
"อ่า ครับๆๆๆๆ"
"ออกไปนอกชั้นเรียนเดี๋ยวนี้ จะไปไหนก็ไป คาบนี้ไม่ต้องเข้าแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!"
โดนไล่อย่างนี้......ผมจะอยู่ทำไม
เดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดที่สวนหลังโรงเรียน
โอ๊ยยยย....ผมนี่มันน่าสมเพชชะมัด ไม่มีที่อื่นให้ไปแล้วรึไงเนี่ย
ได้แต่เดินเตะต้นไม้ใบหญ้าไปเรื่อยๆ จนถึงมุมอับของสวน......เข้าไปนอนในนั้นท่าจะดี
.............................................................................................................................................................
ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่
รีบอร์น!!!!!!!!!
ไม่ผิดแน่ ชายหนุ่มที่นอนอยู่ตรงนั้นคือ รีบอร์น แต่ดูท่าทางว่าเขากำลังหลับสนิท
ผมเดินเข้าไปใกล้ นั่งลงเครียงข้างเขาแล้วพิจารณาใบหน้าที่หลับสนิทนั่้นเงียบๆ
ทุกๆอย่างย่อมมีเหตุผลของมัน.........รีบอร์นก็ต้องมีเหตุผลของเขาที่ทำแบบนั้นกับผม ผมยอมรับว่า เรื่องที่ฟังมาจากรีน่าทำให้ผมลดความโกรธเกลียดเขาไปได้นิดหน่อย.......อันที่จริงก็มากอยู่ แต่ลึกๆแล้ว ผมกลับคิดว่า รีบอร์นน่าสงสารกว่าผม ซึ่งโดนเขาทำร้ายร่างกายซะอีก
ผม.....ไม่อยากเห็นเขาเป็นแบบนี้เลย
ก้มลงไปใกล้อีกนิด......
ขนตายาวชะมัด......ผู้ชายอะไร แม้แต่ตอนหลับก็ยังดูดี ริมฝีปากที่ชอบพูดจาดูถูกผมเผยอออกเล็กน้อย....
รู้ตัวอีกที......ผมก็ประทับริมฝีปากของผมลงไปที่ริมฝีปากบางของรีบอร์นซะแล้ว
ผมถอนจูบออกอย่างรวดเร็ว ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว.............................
บ้าชะมัด นี่ผมทำอะไรลงไปเนี่ย
ทำท่ายังกับสาวน้อยที่ลักหลับผู้ชายที่ตัวเองชอบเลย อายตัวเอง.....จนต้องลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ข้อมือของผมก็โดนยึดไว้แทบจะทันที
"คิดถึงชั้นมาก จนต้องมาลักหลับเลยเหรอ" เขาพูดออกมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่อย่างนั้น....
"ไม่ใช่สักหน่อย ชั้นก็แค่......"
"ถ้าไม่ใช่อยากจูบชั้น ก็แสดงว่าจูบกับใครก็ได้สินะ"
อีกแล้ว......ทำไมชอบพูดจาดูถูกผมอยู่เรื่อย
เหนื่อยที่จะเถียงกับคนอย่างนี้แล้ว บางที.....อาจจะเป็นแค่นิสัยเสียของเขา
รีบอร์นลุกนั่งอย่างมึนๆแล้วคลานมาทางผม เฮ้....คงไม่ได้คิดจะทำอะไรผมที่นี่หรอกใช่มั้ย
ตุ๊บ
ศีรษะของเขาตกลงมาที่บ่าผม ก่อนจะเลื่อนมาที่หน้าอก แขนใหญ่ๆทั้ง 2 ข้างรัดรอบเอวของผมเอาไว้.....ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยออกมาจากร่างของเขาอย่างชัดเจน
"นายนี่มันน่ากินชะมัด......."
พูดจบก็หลับไปทันที จนอยากจะตะโกนให้ลั่นโรงเรียน
นี่ผมมันไร้เสน่ห์ขนาดนี้เลยเหรอ!!!!!!!
แต่คิดอีกที.....
เขาไม่ทำอะไรก็ดีแล้วนี่ ทำไมต้องผิดหวังด้วย
หรือว่าลึกๆแล้ว.....ผมเอง.....กลับต้องการให้เขาสัมผัสผม
ความคิดนี้ ทำให้ผมแทบจะบ้าตาย นี่ผมคงไม่ได้เป็น m หรอกใช่มั้ย
.............................................................................................................................................................
แล้วทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย
ได้แต่มองรีบอร์น.....ที่อยู่บนเตียงของตัวเองอย่างปลงตก
เขาก็ยังคงหลับสนิท ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย แน่ล่ะ.....ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาลวนลามผมด้วย มันทำให้ผมใจชื้นพอที่จะปล่อยให้เขานอนบนเตียงไปอย่างนั้น
เมาตั้งแต่หัววันอย่างนี้.....ไร้ความรับผิดชอบชะมัด
ผมเดินไปเอากะละมังกับผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เขา อ่า....คงต้องปลดกระดุมเสื้อออกสินะ
แค่คิด ก็หน้าแดงแล้ว อะไรกันแรมโบ้.......ผู้ชายเหมือนกันนะ อีกอย่าง.....ก็เคยๆกันมาแล้ว
ปลุกปลอบใจตัวเอง แต่ดูท่าทางจะไม่ได้ผลเลย เมื่อแกะกระดุมออกทุดเม็ดแล้วแผ่นอกกว้างปรากฏกับสายตา
ไม่ไหวแล้ว.....นี่ผมกลายเป็นคนหื่นกามตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
ต้องโทษนายสินะ รีบอร์น.....
เงียบๆอย่างนี้ก็น่ารักดีอยู่แล้ว เป็นใบ้ไปซะได้ก็ดี.....จะได้ไม่ต้องพูดจาทำร้ายจิตใจกัน
ผมเช็ดตัวให้รีบอร์นอย่างลวกๆ เอากะละมังไปเก็บ ก่อนจะตัดสินใจปีนขึ้นเตียงไปนอนเคียงข้างกับเขา
ขอแค่วันนี้............ที่นายจะไม่ทำร้ายกาจใส่ชั้น
ราวกับรับรู้ได้ถึงคำๆนั้น รีบอร์นรั้งร่างของผมเข้าไปไว้ในอ้อมกอดเหมือนอย่างวันนั้น
ผมซุกหน้าลงกับอกกว้าง กลิ่นน้ำหอมกับกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มตามไป....
รีบอร์นกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
'......แรมโบ้'
TBC.
.........................................................................................................................................................
ใครต้องการ sm ของเสียงหน่อยยยยยยยยย (วิ้วววว)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น