ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic BTS] Sungnumja Game (KookV)

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9 : เสน่ห์ของมักเน่ (141211)

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 59


    Chapter 9

    เสน่ห์ของมักเน่


    อะไรอีกเนี่ย น้องวีจะไม่ไหวแล้วน้า – น้องวีผู้โดนรังแก

    อื้อหือ แค่ชื่อตอนผมก็มีความสุขแล้วครับ – จอนจองกุกคนมีเสน่ห์


    …………………………………………

     

    เตรียมตัวหลงเสน่ห์จอนจองกุกไว้ดีๆนะครับ คุณคิมแทฮยอง



    คำพูดของไอ้เด็กบ้าทำให้ผมนอนไม่หลับ =[]= พลิกตัวไปทางซ้าย พลิกตัวไปทางขวา  รู้สึกว่าคืนนี้อากาศเย็นมากกว่าทุกคืน อาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่ได้นอนกับจองกุกเหมือนทุกที (มันประกาศซะขนาดนั้น ใครกล้าไปนอนเตียงเดียวกันก็บ้าแล้ว)



    เหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันในห้องซ้อมตามมาหลอกหลอนไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะตอนซ้อม กินข้าว ดูทีวี แม้กระทั่งก่อนนอน ซึ่งคงไม่ต้องบอกนะว่าผมทำไง



    หลอนขนาดนี้ ผมฉวยโอกาสตอนที่ไอ้เด็กหื่นกำลังเข้าห้องน้ำ รีบปีนหนีขึ้นไปนอนบนเตียงตัวเองทันที



    หลังจากที่มันประกาศว่าจะยั่ว ผมก็เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม จนไม่กล้านอนกับมัน! นี่ไม่ได้กลัวนะ แค่ป้องกันไว้ก่อน =[]=



    ไม่ไหวแล้วครับ ไปหาอะไรกินคลายเครียดดีกว่า



    ผมแอบชะโงกหัวไปดูจองกุกที่นอนเตียงเดี่ยว นั่นนอนหรือตายวะ นิ่งยังกับศพ เออดีนะ มาขู่ให้ผมนอนไม่หลับแต่ตัวเองนอนกางแขนกางขาซะเต็มเตียง ผมแอบปีนลงจากเตียงชั้นบนเบาๆเพราะกลัวไอ้หมูจีที่นอนเตียงล่างตื่น แล้วเดินย่องไปที่เตียงจองกุก



    อื้อหือ ย่องเข้าหาผู้ชายผู้ชายก่อนแบบนี้เรียกว่าอ่อยมั้ย? ไม่สิๆๆๆๆ เมะในนิยายยังชอบย่องเข้าไปนอนเตียงเคะเลย อย่าเพิ่งจิ้น น้องวีไม่ได้ย่องไปนอนด้วย แค่ย่องไปดูว่ามันหลับจริงรึเปล่า 



    ว่าแล้วผมก็เอื้อมมือไปดึงแก้มจองกุกแล้วกระโดดหนีไปตั้งหลัก 2 เมตรเพราะกลัวมันตื่น (อะไรวะ) มักเน่ขมวดคิ้วหน่อยๆที่มีคนมารบกวนจากนั้นก็พลิกตัวนอนหันหลังจนผมลอบถอนหายใจ 



    เดินย่องออกจากห้องไปเปิดตู้เย็น หยิบช็อกโกแลตกับนมสดออกมากินตอนตีสอง คิมแทกินอะไรก็ไม่อ้วน ฮ่าฮ่าฮ่า นอกจากจะเป็นหลุมดำของการทำอาหารแล้วกระเพาะก็ยังเป็นหลุมดำด้วยนะรู้ยัง (ใช่เรื่องจะมาอวดมั้ย?)



    “พี่วีทำไร”



    “พรู้ดดดดดด”



    ผมพ่นนมที่กำลังกินอยู่จนมันหกกระจายเต็มพื้นครัว ไอ้บ้าจอนจองกุก หัวใจจะวาย!!!



    “ทำบ้าอะไรของนาย ตกใจหมด!”



    ผมยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ หันหลังขวับไปมองมักเน่ที่เดินตาปรือเข้ามาในห้องครัวพร้อมกับทรงผมยุ่งเหยิง จองกุกหาวนิดๆแล้วใช้มือขยี้ตาตัวเอง อ๊า น่ารักจัง เหมือนกระต่ายน้อยเลย



    “พี่น่ะแหละทำไรตอนตีสอง”



    จองกุกถามกลับแล้วเดินมาใกล้ๆ แต่ผมไม่สนใจมัน มัวแต่หาทิชชู่มาเช็ดนมที่หกเลอะพื้น



    “ทำไร? ก็กินน่ะสิ นอนไม่หลับก็กิน” ผมพูดพลางเช็ดนมที่หกเลอะพื้นไปด้วยจนมันสะอาด



    “ชีวิตพี่นี่มีแต่กินกับนอนสินะ” มันพูดจากวนประสาท



    “เอ๊ะ จอนจองกุก!”



    ผมผุดลุกขึ้นยืนจากนั้นก็หันหลังไปหามัน แต่ก็ต้องตกใจจนแทบช็อกรอบสองเพราะมักเน่อยู่ใกล้มาก มากจนหน้าแทบชนกัน เผลอผงะถอยหลังหนีโดยไม่รู้ตัว อันตราย อยู่กับมันสองคนโคตรอันตราย



    แต่เหมือนผมจะคิดมากเกินไป เพราะไอ้เด็กนี่แค่เอียงคอมองหน้าผมด้วยท่าทางอินโนเซนส์ ประมาณว่า พี่คนนี้เป็นอะไรมากป่ะ เออ ผมผิดเองที่ระแวงไม่เข้าเรื่อง ฮือๆๆๆ



    “ผมนอนไม่หลับ” อยู่ดีๆจองกุกก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ใบหน้าไร้เครื่องสำอางที่ดูหล่อเหลาปนน่ารักยู่ลงจนทำให้ผมนึกถึงมักเน่น้อยผู้ใสซื่อเมื่อหลายปีก่อนอีกครั้ง



    “แล้ว?” 



    จองกุกสาวเท้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆก่อนจะซบหน้าลงกับแขนของผม



    “นอนกับจองกุกหน่อยนะครับพี่วี…..”



    .



    .



    .



    ถ้าถามว่าคิมแทฮยองใจง่ายมั้ย?



    บอกได้เลยว่ามากกกกกกก

    ผมนอนมองเพดานในห้องนอนด้วยความรู้สึกอยากจะฆ่าตัวตาย ผมกลับมาอีกแล้ว กลับมาเตียงนอนของจองกุกเหมือนเมื่อวานเดะ แล้วน้องวีจะหนีมันให้เปลืองแรงทำไมเนี่ย


    ผมถอนหายใจมองมักเน่ที่เอาแขนมากอดก่ายผมที่นอนหงายยังกับกอดหมอนข้าง เท่านั้นยังไม่พอขามันก็เอามาก่ายด้วย เออ สบายจังนะแก หัวทุยซบลงกับช่วงไหล่ผมซุกไซร้ไปมา



    “นี่ พี่มานอนด้วยแล้ว ทำไมยังไม่นอนอีก” ผมทนไม่ไหวจนต้องหันไปดุมัน



    “ก็กลัวพี่วีหนีอีก รู้มั้ย ไม่มีพี่อ่ะผมนอนไม่หลับเลยนะ พี่ไม่สงสารผมบ้างเหรอ”



    นอนไม่หลับบ้าไร กรนคร่อกๆตั้งแต่สี่ทุ่ม ไอ้เด็กนี่แหลเก่งมาก



    “ไม่ต้องมาอ้อน”



    “จริงๆนะ ผมนอนไม่ค่อยหลับเลย พอพี่มาหยิกแก้มผมเลยรู้สึกตัวไง”



    จะว่าไปมันก็จริง เด็กจอนหลับลึกจะตาย ปกติแค่หยิกแก้มแค่นั้นมันไม่ตื่นหรอก ผมถอนหายใจแล้วลูบหัวที่ปกคลุมไปด้วยผมสีดำนิ่มลื่นมือเบาๆ พอมันอ้อนแบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ปกติมักเน่ร้ายจะตาย ไม่ได้เห็นจองกุกแบบอ้อนๆมานานมากแล้ว



    “นิ่มจัง” อยู่ดีๆจองกุกก็พูดออกมา “ตัวพี่ทั้งนิ่มทั้งหอม อุ่นยิ่งกว่าหมอนข้างอีก”



    พูดจบก็กอดแน่นมากกว่าเดิม ผมรู้สึกถึงความร้อนที่แล่นขึ้นมาตามแก้ม อะไรน่ะ เขาแค่พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาแต่ทำไมผมอายกว่าตอนที่พูดเรื่องลามกซะอีก เป็นอะไรไปเนี่ยคิมแท =[]=



    “เอ่อ…อ่า นายก็ตัวหอมเหมือนกันนะ”



    อ๊ากกก พูดไปแล้วอยากกัดลิ้นตัวเอง ประโยคมีเป็นร้อยแต่ผมกลับเลือกพูดประโยคสิ้นคิดออกไป โง่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว งื้ออ



    “หืม? หอมจริงเหรอ ผมเพิ่งครีมเปลี่ยนวันนี้เอง พี่วีลองดมดู”



    พูดจบก็ยกข้อมือมาจ่อตรงจมูกผม จอนจองกุก นี่นายทำบ้าอะไร!! 



    “ม…ไม่…”



    “ไม่หอมเหรอ ไหนเมื่อกี๊บอกว่าหอม” จองกุกเงยคอขึ้นมามองสบตาผม คิ้วเข้มขมวดมุ่น ใบหน้าสับสน “ถ้าไม่หอมผมจะได้ทิ้งแล้วไปซื้ออันใหม่”



    โอ๊ยยยย นี่มันไม่รู้จริงหรือแกล้งใสซื่อ คิมวีเริ่มจะแยกไม่ออกแล้วนะ ที่รู้ๆคือใบหน้าเศร้าๆของจองกุกทำให้ผมใจอ่อนอีกแล้ว แค่ดมข้อมือใช่มั้ย ดมก็ได้ ถ้าดมแล้วผมเมะขึ้นในสายตาคนอ่านก็โอเคนะ



    จะว่าไปจองกุกก็เหมือนเปิดโอกาสให้ผมทำตัวเมะขึ้นแบบกลายๆใช่ป่ะ แบบว่ารุกก่อนอะไรแบบนั้น? ว่าแต่ผมต้องรุกยังไง? เริ่มจากอันนี้ใช่มั้ย



    ผมเอื้อมมือซ้ายไปกำข้อมือของเขาแล้วกดลงมาบนจมูก กลิ่นครีมอาบน้ำลอยเข้ามาในโสตสัมผัส แต่กลิ่นมันไม่ได้หอมหวานอย่างที่คิด กลับเป็นกลิ่นสดชื่นแบบผู้ชาย อืม เหมาะกับไอ้เด็กนี่ดี ผมชอบมากเลย



    ชอบมากๆ



    อ๊ากก อะไรเนี่ย คิมวี =[]= จองกุกมันอุตส่าห์ละเว้นความหื่นนะตอนนี้ ทำไมกลายมาเป็นผมคิดอะไรแบบนี้แทนมันซะได้



    หรือว่านี่คือวิถีเมะ? (ห๊ะ)



    “ยังไงอ่ะพี่วี” จองกุกที่เห็นผมเงียบเพราะตีกับความคิดบ้าๆบอๆของตัวเองในใจเร่งขึ้นมา “หอมมั้ย เหมาะกับผมป่ะ”



    “อ่อ เออ ก็หอมดี ดูแมนดี เหมาะกับนาย”  ผมพูดเหม่อๆ สติหลุดลอยไปกับกลิ่นครีมนรกนั่นจนเกือบหมด 



    “แล้วพี่วี….ชอบมั้ย?”



    “ชอบสิ ชอบมากๆ ให้ดมทั้งวันก็ได้นะ”



    ดมทั้งวันก็ได้….



    ดมทั้งวัน…..



    หลังจากผมพูดประโยคนั้นปุ๊ป ความเงียบงันก็มาเยือนเราสองคนทันที จองกุกอ้าปากจะพูดแล้วก็หุบแล้วก็อ้าใหม่ สีหน้าสับสนเหมือนไม่รู้ว่าจะตอบกลับว่ายังไง



    อ๊อกกกก ผมพูดอะไรบ้าอะไรออกไปเนี่ย =[]= 



    บ้าๆๆ แทฮยองคนบ้า ทำไมไม่เก็บไว้ในใจ!



    ความจริงก็คือ ผมแพ้ทางครีมอาบน้ำกลิ่นแบบนี้มากๆ จองกุกอาจจะซื้อมามั่วๆเพราะครีมอันเก่าหมด แต่มันกลับทำให้ผมเป็นบ้าอย่างไม่น่าเชื่อยิ่งพอมาอยู่บนตัวจองกุกที่กำลังกอดผมเอาไว้แบบนี้



    จนผมไม่รู้แล้วว่าเพราะครีมหรือเพราะจองกุกกันแน่!



    “ค…คือ พี่หมายความว่า…พี่หมายถึง….”



    ผมอึกอักลนลานไปหมด จองกุกก็เอาแต่เงียบ มองหน้าผมเหมือนต้องการคำตอบ ผมกัดริมฝีปากตัวเองก่อนจะตัดสินใจหนีปัญหาด้วยการซุกลงกับอกกว้างเปลือยเปล่าของมักเน่ 



    เลวร้ายกว่าเดิม!



    กลิ่นครีมงี่เง่ายังคงตามมาหลอกหลอนไม่หยุด ยิ่งจองกุกไม่ใส่เสื้อยิ่งทำให้จมูกผมซุกลงกับแผ่นอกจนอยากจะร้องไห้ ไม่ไหวอ่ะอยู่ไม่ได้แล้ว!!



    ผมพยายามจะดันตัวออกห่างจากอ้อมกอด แต่จองกุกกลับไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น



    “พี่วีจะไปไหน อยากดมก็ดมไปทั้งคืนเลยสิ ผมอนุญาต”



    ฮือๆๆๆ ออมม่า เฮียชูก้า จีมินนี่ น้องวีอยากตาย T^T
     

    …………………………………………



    “แทแท อะไรเมิงอีกเนี่ย”



    ไอ้จีมินหันมาเหวี่ยงใส่ผมด้วยความรำคาญ ผมไม่ตอบแต่หันซ้ายหันขวาไม่หยุด ตอนนี้เรากำลังอยู่ในห้องซ้อมตึกบิ๊กฮิตระหว่างช่วงพัก จีมินพยายามแกะแขนผมที่กอดรัดมันไว้แน่นยังกับลูกโคอาล่าเกาะแม่ แต่ผมไม่ยอมหรอก 



    กระชับอ้อมกอดมากขึ้นแล้วซุกหน้าลงกับแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของมัน



    “แทฮยอง!” หมูจีตะโกนด้วยความหงุดหงิด “เลิกเกาะได้แล้ว เมิงเกาะกุตั้งแต่เช้าจนซ้อมจนพักจนคนมองทั้งบริษัทแล้วเมิง!!”



    “ทำไม แทแทเกาะไม่ได้เหรอ จีมิน คนใจร้าย”



    ผมพยายามทำเสียงออดอ้อน ซุกหัวลงกับแผ่นหลังมันด้วยท่าทางน่ารักเผื่อไอ้หมูจีเพื่อนซี้จะใจอ่อน แต่เปล่า…มันพยายามดันผมออกจากตัวมากกว่าเดิม



    “ไม่ต้องมาทำแอ๊บแบ๊ว ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวไอ้กุกมาเห็นแล้วกุจะซวย”



    ท้ายประโยคไอ้หมูจีพึมพำกับตัวเองเบาๆ ส่วนผมก็ตัวแข็งทื่อทันทีที่ได้ยินชื่อของมักเน่ออกมาจากปากจีมิน ใช่แล้วครับ! เหตุผลที่ผมมาเกาะติดจีมินจนแทบจะสิงร่างก็เพราะมันนั่นแหละ



    ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผมนอนดม เอ๊ย นอนซุกมักเน่ทั้งคืน ผมก็ไม่กล้าสู้หน้าจองกุกอีกเลย อับอายขายหน้าสุดในสามโลก ตื่นเช้ามาก็เจอหน้าหล่อๆที่กำลังหลับในระยะประชิด ทำใจรับไม่ทันจนต้องดันตัวออกจากอ้อมกอดอุ่นแล้วชิ่งหนีไปอาบน้ำ



    หนีมันทั้งวันด้วยการทำตัวเกาะติดกับจีมินมันจะได้เข้ามาใกล้ไม่ได้



    ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเกาะจีมินตลอดไป >O< เปลี่ยนเป็นมินวีดีมั้ย (ไม่ใช่แล้วววว)



    “ใครซวยเหรอครับพี่จีมิน”



    น้ำเสียงทุ้มหวานที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาผมกับจีมินสะดุ้งโหยง ผมกอดรัดจีมินแน่นกว่าเดิมซุกใบหน้าลงกับไหล่เพื่อนซี้ ฮือๆๆๆ มันมาแล้ว ไอ้เด็กนรกมันมาแล้วววว



    “จ…จองกุก” 



    จีมินพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้าใสซีดเผือด แขนล่ำพยายามแกะแขนเรียวบางของผมที่กอดเอวมันอยู่ออกไป ส่วนผมก็เกาะแน่นกว่าเดิม ปล่อยไปก็ซวยสิครับ ไม่เอานะ ผมยังไม่พร้อม!



    “คือมันไม่ใช่แบบนั้นนะ =[]=” เสียงไอ้หมูโคตรจะสิ้นหวัง



    “ไม่ใช่แบบนั้น? แล้วมันแบบไหนเหรอครับ ^^”



    จองกุกเอียงคอพร้อมกับส่งยิ้มน่ารัก แต่สำหรับผมมันน่ากลัวโคตรๆ ไอ้จีมินตัวสั่น และแล้วก่อนที่ผมจะทันตั้งตัวหมูจีก็สะบัดตัวผมออกอย่างแรงจนผมลงไปกองกับพื้น



    “โอ๊ย!”



    “เฮ้ย แท กุขอโทษ!!”



    มันละล่ำละลักกระชากแขนผมขึ้นมาจากพื้น จากนั้นก็…..



    พลั๊ก!



    ผลักผมเข้าไปหามักเน่! ไอ้เพื่อนชั่ว! 



    จองกุกหน้าเหวอมองผมที่ถลาเข้าไปหาอ้อมกอด ดวงตาคู่คมเบิกกว้าง สองแขนโอบรัดตัวผมเอาไว้ตามสัญชาตญาณ แต่เหมือนว่าไอ้จีมินจะผลักผมแรงเกินไป ทั้งผมและจองกุกที่ไม่ทันตั้งตัวจึงลงไปกองกับพื้น ผมน่ะไม่เจ็บหรอก แต่มักเน่เนี่ยสิรับไปเต็มๆ



    “โอ๊ย!”



    ผมล้มลงบนอกกว้าง จอนจองกุกครางเบาๆเพราะความเจ็บตอนหลังกระแทกพื้น ผมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อที่กำลังขมวดคิ้ว เขาจะเจ็บมากมั้ย =[]=



    “จองกุก! เจ็บมั้ย เป็นอะไรรึเปล่า หลังนายหัก!! รถพยายาบาล! ต้องเรียกรถพยาบาล!!!”



    ผมแหกปากโวยวายพยายามดันตัวออกจากอ้อมกอดของมักเน่แต่มันไม่ยอมปล่อย ผมจึงเปลี่ยนเป็นจับไหล่เขา จากนั้นก็จับหัว พยายามมองสำรวจว่าเขาเจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า มองหาไอ้จีมินแต่มันชิ่งหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ =[]=



    หน้าผมต้องซีดมากแน่ๆเพราะผมตกใจมากๆ ผมกลัวเขาจะเจ็บ 



    “นายเจ็บตรงไหนมั้ย? อย่าเอาแต่เงียบสิ! หรือว่าหัวกระแทกพื้น? จำชื่อตัวเองได้มั้ย? พี่ชื่อแทฮยองนะจำได้เปล่า =[]=”



    จองกุกเอาแต่เงียบแล้วมองหน้าผมจนผมใจคอไม่ดี ไม่นะ =[]= อย่าบอกนะว่าเขาลืมเรื่องของผม ลืมเรื่องของบังทันไปแล้ว แล้วแบบนี้ชาติไหนถึงจะรื้อฟื้นหมดเนี่ย!!

     


    Jungkook’s POV

     


    ใครก็ได้บอกผมทีว่าควรจะทำไงกับคิมแทฮยอง



    ผมมองคนตัวเล็กที่ทำหน้าตาเลิ่กลั่กตกใจเพราะกลัวว่าผมจะความจำเสื่อมแล้วอยากจะหัวเราะ คิดได้ยังไง ฮ่าฮ่าฮ่า หลังผมแค่กระแทกพื้น โวยวายยังกับต้องหามเข้าโรงพยาบาล



    พี่วีลูบหน้าลูบไหล่ลูบตัวผมไม่หยุด หน้าใสซีดเผือด ปากอิ่มที่ยู่ลงเพราะเป็นกังวลอยู่ดีๆก็ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก มองใบหน้าหวานที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นห่วง 



    มีความสุขจังที่พี่เขาเป็นห่วงผมมากขนาดนี้ หรือว่าจอนจองกุกจะกลายเป็นโรคจิตไปแล้ว =[]=



    ผมส่ายหัวนิดๆไล่ความคิดนั้นออกไป ก่อนจะเอื้อมมือข้างนึงไปแตะริมฝีปากนิ่มเบาๆเป็นเชิงบอกให้หยุดโวยวาย



    “พี่วี ผมไม่ได้เป็นอะไร เลิกโวยวายได้แล้วนะ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินจะตกใจ”



    ผมห้ามปรามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน



    “แต่ว่านายเจ็บ…หลังนายกระแทกพื้น หลังนายหักไปแล้ว”



    “หลังผมไม่ได้หักครับ ล้มนะ ไม่ได้โดนรถขนปูนชน -_-“



    “ต…แต่ว่า” 



    ใบหน้าสวยหมองลงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ และแล้วหยาดน้ำตาก็หยดลงบนแก้มใส หนึ่งหยดสองหยดก่อนจะไหลนองเต็มแก้ม



    ผมมองพี่วีที่กำลังร้องไห้ด้วยใบหน้าตกตะลึง



    “พ…พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะล้มทับนาย จองกุกเจ็บมากมั้ย ห…ให้พี่พยุงไปรึเปล่า”



    พูดไปก็ร้องไห้ไป พี่วีใช้หลังมือถูดวงตาตัวเองแรงๆจนมันแดงไปหมด ผมจับข้อมือบางเอาไว้ก่อนที่ตาพี่เขาจะช้ำมากไปกว่านี้



    “อย่าร้องไห้” 



    ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเสียงตัวเองจะอ่อนโยนได้ถึงขนาดนี้ แค่เห็นพี่วีร้องไห้ใจผมก็อ่อนยวบไปหมด ความคิดทุกอย่างเลือนหายไปจากสมอง ในหัวมีแต่ภาพใบหน้าสวยที่นองไปด้วยน้ำตา ผมไม่ชอบ…ไม่ชอบเห็นคิมแทฮยองร้องไห้



    “แต่ว่า….”



    “ผมไม่ได้เจ็บ ไม่เจ็บอะไรเลยสักนิด แท อย่าร้องไห้เลยนะ”



    พูดจบก็ปาดน้ำตาออกจากแก้มนิ่มเบาๆแต่พี่วีกลับร้องไห้หนักกว่าเดิม อ่า…อะไรกันเนี่ย ทำไมถึงไม่หยุดร้อง หรือเพราะผมอ่อนโยนไปพี่เขาเลยร้องไห้เหรอ ถ้าหื่นใส่จะหยุดร้องมั้ยนะ (เอิ่ม…)



    “ความจริงแล้ว…” ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ พี่วีชะงักเงยหน้าขึ้นสบตาผม 



    “ผมไม่เจ็บหรอกครับ ออกจะชอบด้วยซ้ำที่พี่คร่อมผมเอาไว้แบบนี้ ต่อให้ล้มลงบนพื้นหรือว่า……..ล้มบน เตียง จองกุกก็ไม่เจ็บหรอก ^O^”



    “!!!!!!!!!!!!!!!”



    V’s POV



    ล้มบนเตียง! คร่อมแล้วล้มบนเตียง!!!!



    สาบานได้ว่าคิมแทฮยองไม่ได้เป็นคนคิดหื่น แต่วิธีที่ไอ้เด็กกุกพูดประโยคนี้ทำเอาผมหยุดร้องไห้ทันควัน หมดกันความหวาน หมดกันความอ่อนโยน โดนไอ้เด็กนี่เอาความหื่นมาทำลายอารมณ์ซะย่อยยับ



    ผมอ้าปากพะงาบๆเหมือนปลาขาดน้ำ เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังนั่งคร่อมเอวจองกุกที่นอนราบกับพื้นด้วยท่าทางล่อแหลม สองมือของมักเน่ประคองเอว ผมขยับตัวเบาๆแต่ก้นของผมกลับไปถูกับตรงนั้นของมันพอดี



    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด 



    “ไอ้บ้า! เด็กเวร! เด็กบ้ากาม!!!!”



    ผมทุบอกไอ้เด็กหื่นรัวๆจนมันร้องโอดโอย ณ จุดนี้ไม่สนแล้วว่ามันจะเจ็บตรงไหน ถ้ามันไม่ตาย ไม่ต้องมาเรียกว่าคิมแทฮยอง!



    “โอ๊ยๆๆๆๆ เจ็บ อย่าๆๆๆ” 



    จองกุกร้องโวยวายแต่ก็ยังไม่ปล่อยมือจากเอวผม ปากร้องแต่หน้ายิ้มหมายความว่าไงห๊ะ! เอาไปเลยโล่ความซุงแหลระดับชาติ



    เด็กที่เช็ดน้ำตาผมด้วยความอ่อนโยนเมื่อกี๊หายไปไหนบอกที เกือบไปแล้วนะ เผลอใจเต้นกับความอ่อนโยนของมักเน่ไปแล้วนิดนึง ดีที่ความหื่นของมันช่วยดึงผมออกมาสู่ความเป็นจริงซะก่อน ฮึ้ย!



    จองกุกละมือออกจากเอวผมเปลี่ยนมารวบข้อมือสองข้างแทน เพราะผมทุบมันมากเกินไป พรุ่งนี้ต้องเป็นรอยแดงแน่ๆ สมน้ำหน้า ^O^



    ผมมองสบตากลม เขามองกลับมาด้วยแววตาอ่อนโยนกับรอยยิ้มหวาน



    “หยุดร้องแล้วนะ”



    จองกุกปล่อยมือผม จากนั้นก็ยันตัวขึ้นมานั่งแต่ก็ไม่วายโอบเอวผมให้นั่งตักเหมือนเดิมจนคิมวีเริ่มจะอ่อนใจ อยากทำไรก็ทำเอาที่สบายใจเลย เฮ้อ



    มือใหญ่ปาดคราบน้ำตาที่ยังเหลือบนแก้มผมเบาๆ



    “คราวหลังอย่าร้องไห้อีกนะ ผมไม่ชอบเลย…โดยเฉพาะเวลาที่พี่ร้องไห้เพราะผม ผมไม่ชอบเลยสักนิด”



    แหม พูดยังกับผมอยากร้องไห้เพราะมัน



    “ชิ! ครั้งนี้ครั้งแรกแล้วก็สุดท้ายเหอะที่พี่จะร้องไห้เพราะนาย อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยมักเน่”



    ผมพูดพร้อมกับดีดหน้าผากมัน จองกุกยิ้มกว้างจนตาหยี



    “อย่าลืมนะครับ ถ้าร้องไห้อีกผมไม่ปลอบนะบอกไว้ก่อน” เขาพูดกลั้วหัวเราะ “ว่าแต่…ผมทั้งตัวหอมทั้งอ่อนโยนขนาดนี้เริ่มจะหลงเสน่ห์จองกุกแล้วใช่ป่ะ เกาะไม่ปล่อยเลยนะ”



    จองกุกเลื่อนสายตาไปมองมือผมที่เกาะไหล่เขาเอาไว้แน่น ผมชะงักทำท่าจะผละมือออกแต่ความคิดนึงแล่นเข้ามาทำให้ต้องห้ามตัวเองไว้ ไอ้เด็กปีศาจขมวดคิ้วนิดๆตอนที่เห็นท่าทีที่เริ่มเปลี่ยนไปของผม



    “ทำไมละ นายไม่ชอบเหรอ?”



    ผมถามด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนที่สุด เล่นงี้ใช่ป่ะไอ้เด็กบ้า เดี๋ยวเจอคิมวีหื่นกลับ 



    “ผมถามพี่วีก่อนนะ”



    จองกุกตอบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มๆ ดูมีความสุขมากกว่าเดิม ปล่อยให้ผมลูบไล้ไปทั่วไหล่กว้างโดยไม่ห้ามอะไรสักนิด



    “ถาม? ถามอะไร?” 



    รอยยิ้มของมันทำให้ผมมึนงง สมองเบลอๆเหมือนคิดอะไรไม่ออก โรคแพ้มักเน่กำเริบอีกแล้วใช่มั้ย 



    “ผมถามว่า…”



    จองกุกกดหัวผมให้ลงไปซุกกับซอกคอมันเบาๆ กลิ่นหอมหวานของครีมอาบน้ำผสมกับกลิ่นน้ำหอมลอยเข้ามาในประสาทสัมผัสจนเผลอสูดเข้าไปเต็มปอด ผมกดจมูกลงบนผิวเนื้อแผ่วเบา



    “ผมตัวหอมขนาดนี้……”



    มือใหญ่ลูบหัวผมจากนั้นก็จูบลงบนเส้นผมสีน้ำตาล



    “แล้วก็อ่อนโยนกับพี่มากขนาดนี้”



    ริมฝีปากเลื่อนไล้มาจูบที่หน้าผากของผม



    “แทฮยอง….หลงเสน่ห์จองกุกบ้างรึยังครับ”



    ถ้าถามผมว่าหัวใจทำงานหนักจนหยุดเต้นไปเลยมั้ย…..



    คิมแทฮยองบอกได้เลยว่า



    หัวใจ…



    หลุดลอยไปกับเสน่ห์ของจองกุกหมดแล้วตอนนี้



    มักเน่ละริมฝีปากออกจากหน้าผากของผมก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาจุ๊บปากแผ่วเบา



    “ถ้าพี่ยังคิดไม่ออกก็ไม่เป็นไร เสน่ห์ของผมก็ไม่ได้มีแค่นี้เหมือนกัน ^^ เตรียมใจไว้ให้ดีล่ะ คิมแทฮยอง…”



    เอาจริงๆนะครับ



    ถ้าผมขอถอนตัวตอนนี้จะทันมั้ย โอกาสชนะมีเท่าไหร่ ใครก็ได้ช่วยบอกที T^T




    #กุกวีซังนัมจา



    แฟนคลับ 130 คนแล้ว ขอบคุณมากๆคะ กด Fav เค้าแล้วเม้นเค้าด้วยนะ จะว่าจองกุกหื่นก็ได้(แต่ไรท์ว่าวีก็หื่นพอกัน 555 แค่ความใสมันบังตา)


    ตอนนี้สั้นกว่าทุกตอนเพราะเรากลัวรีดรอนาน 


    เรื่องจะดำเนินไปอย่างเชื่องช้าเพราะเราอยากแต่งว่าทำไมสองคนนี้เค้าถึงมีความรู้สึกดีๆให้กัน ยังไงก็เอาใจช่วยน้องวีพิชิตใจมักเน่ด้วยนะ (ตอนนี้ดูเหมือนจองกุกจะนำห่างไม่เห็นฝุ่นเลย)


    ไรท์เมนวีจริงๆนะ สาบานได้ 555555









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×