ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [AU Fic] Darkness in your heart -RL- (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter1 : The man called Reborn

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 52



    ดาร์กนะค่ะ ถ้าใครไม่ชอบแนวนี้กดปิดไปเลยค่า


    Title : Darkness in your heart

    Pairing : Reborn x Lambo

    Rate : R 

    Describtion: รีบอร์นเลวบรรลัย นายเอกนั้นไซร้รันทดยิ่งกว่าหนังช่อง 7

    Warning : เรื่องนี้ไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน บุคคลที่อายุน้อยกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ 

    โปรดระวัง! ความดาร์กจะพุ่งเข้าหาโดยไม่รู้ตัว ใครชอบ sm เชิญทางนี้เลยจ้าาา (ยังกะเร่ขายของ)
    .........................................................

    Chapter 1 : The man called 'Reborn'

    ผมไม่เคยคิดว่า ชีวิตของผมเป็นสิ่งไร้ค่า ถึงแม้ว่าผมไม่มีพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ผมก็ไม่เคยสนใจว่า...ผมเกิดมาทำไม และใครเป็นผู้ให้กำเนิด เพราะผมสามารถยืนหยัด ทำอะไรได้เองแม้ว่าจะไม่มีมือคอยประคองตอนผมล้ม ไม่เคยมีคำชี้แนะเมื่อเดินทางผิดพลาด มีแต่ต้องพึ่งพาและยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง ถึงแม้ว่าผมจะบอกตัวเองเช่นนั้น ส่วนลึกของผมก็ร่ำร้อง.....ผมเกิดมาทำไมกัน



    ผมเกิดมาบนโลกใบนี้......เพียงเพื่อให้เขา.....ย่ำยี......บดขยี้ผมลงแทบเท้าเขา......เพียงเพื่อให้ผมตระหนักในตัวเองว่า....ผมนั้นช่าง............ไร้ค่า



    "อย่า.....ได้โปรดเถอะ รีบอร์น อย่าทำอย่างนี้เลย ฉันไปทำอะไรให้นายกัน ทำไม.....ทำไม...."



    ทำไม....พูดคำนี้ออกมานับร้อยนับพันครั้ง คำถามสั้นๆที่ไม่เคยได้รับคำตอบ มีแต่เพียงแววตาสะใจกับรอยยิ้มชั่วร้าย พอใจ...ที่ได้เหยียบย่ำ ทำลายศักดิ์ศรีของผม.....รีบอร์น.....ไอคนเลว



    "ฮะ ทำไมชั้นต้องตอบคำถามไร้สาระของแก ชั้นพอใจ...ก็แค่นั้น ชีวิตแกเกิดมาเพียงเพื่อระบายอารมณ์ให้คนอย่างชั้น มันก็น่าจะคุ้มค่าพอแล้วนี่ อย่างกับว่า แกมีคนห่วงนักหนา ที่บ้านน่ะ....ไม่มีใครเลยไม่ใช่รึไง"



    แล้วเขาก็ทำเสียงราวกับว่าผมเป็นตัวอะไรสักอย่างที่น่าสมเพชเวทนา.....เยาะเย้ยเพียงเพื่อให้ตัวเองดูสูงส่ง



    ใช่....ผมมันไม่มีใคร แล้วทำไมเขาต้องคอยแต่จะตอกย้ำ....ทุกๆคำพูดของเขาฝากรอยแผลเป็นที่ไม่มีวันจางหายไว้ในหัวใจของผม คำพูด....ที่ราวกับใบมีดทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจ



    ด้อยค่า....รวดร้าว....จนแทบอยากจะตายเพียงเพื่อให้สามารถลบลืมคำพูดร้ายกาจ



    ข้อมือของผมปวดร้าวไปหมดจากการถูกมัดด้วยเชือก 3 วันแล้วที่ผมอยู่ที่นี่ ที่ห้องใต้ดินบ้านของรีบอร์น เป็นการกลั่นแกล้งที่ยาวนานที่สุดที่ผมเคยได้รับและโหดร้ายที่สุดเท่าที่คนๆนึงจะพึงมีให้ได้.....



    กลั่นแกล้งให้เจ็บ.....และตายทั้งเป็น



    รีบอร์นส่งสัญญาณให้ลูกน้อง 6 คนที่อยู่รายล้อมผม พวกเขาขยับเข้ามาใกล้พร้อมอาวุธครบมือ....แล้วนรกของผม....ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง



    ส่วนหนึ่งเป็นความผิดของผม......เพราะผมไปเห็นสิ่งไม่สมควรเห็น ได้ยินในสิ่งที่ไม่ควรได้ยิน.............



    1 เดือนที่แล้ว



    "เบล ชั้นอยากเข้าห้องน้ำ" 



    ผมกระซิบกระซาบข้างหูเพื่อนรักของผม ระหว่างคาบเรียนภาษาญี่ปุ่นอันสุดแสนจะน่าเบื่อ.....ใครจะหาว่าผมติงต๊องก็ได้ แต่ผมไม่อยาก
    ไปคนเดียวนี่ น่ากลัวออกจะตาย ไปตอนเรียนแบบนี้ ขืนเข้าห้องน้ำคนเดียว โดนผีหลอกจะทำไง



    "ก็ไปสิ เจ้าชายกำลังตั้งใจเรียนอยู่" เบลพูด ทั้งที่ไม่เงยหน้าขึ้นมอง มือก็ขยับๆเหมือนจดตามที่อาจารย์พูด ที่ไหนได้มันกำลังลอกการบ้านวิชาต่อไปอยู่ต่างหาก 



    "ชั้นไม่อยากไปคนเดียวนี่"



    "แรมโบ้อ่าาาาา ถ้าเจ้าชายไม่ส่งการบ้านอีก เจ้าชายต้องได้ F แหงเลย ถ้าเจ้าชายติด F สาวๆจะไม่แลนะ ไม่ได้ๆๆๆ เจ้าชายต้องตั้งใจเรียน" 



    ว่าแล้ว มันก็ตั้งใจเรียนด้วยการลอกการบ้านต่อไป โธ่เว้ย! ไปเองก็ได้ฟ่ะ ทำไมไอเจ้าชายบ้านี่ต้องมารักเรียนตอนนี้ด้วยเนี่ย



    ผมเดินไปห้องน้ำอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเดินไปยังส่วนของห้องส้วม ไม่อยากจะยอมรับเลยว่า....ผมปวดขี้ แต่แล้วเท้าของผมก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นประตูห้องน้ำห้องหนึ่งซึ่งเปิดกว้างอยู่นั้นมีควันลอยออกมา ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมผลักประตูบานนั้นเปิดออกอย่างแผ่วเบา.......



    แผ่นหลังกว้างของผู้ชายคนหนึ่งปรากฏต่อสายตาผม แต่อะไรก็ไม่ดึงดูดสายตาเท่าสะโพกมนกับสองขาเรียวขาวที่แยกออกกว้างและพันรัดอยู่รอบเอวของผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นกำลังขยับสะโพกกระแทกอย่างร้อนแรง เสียงครางหวานๆดังลอดออกมาเรื่อยๆก่อนจะหวีดร้องเป็นครั้งสุดท้าย ผมขยับเท้าถอยหลังเพื่อจะไปจากที่นี่ ทันใดนั้น รองเท้าส้นสูงสีแดงที่เจ้าหล่อนสวมอยู่ก็หล่นลงกับพื้น 



    ผมจำได้ในทันทีว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนผมเอง....ที่เป็นเจ้าของรองเท้าคู่นั้น



    ขณะที่ผมกำลังจ้องมองรองเท้าคู่นั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย โดยไม่ทันรู้ตัว....ผู้ชายคนนั้นก็หันกลับมาจ้องหน้าผม ดวงตาสีดำคมกริบของเขาจับจ้องใบหน้าผม ไล่สายตามาที่แผ่นอก เอว สะโพก แล้วเลยมาที่ต้นขา ก่อนที่รอยยิ้มจะผุดขึ้นมาที่มุมปากของเขา รอยยิ้ม....ที่ผมไม่รู้ความหมาย รู้แต่ว่ามันทำให้ผมหน้าร้อนด้วยความอับอายจนต้องวิ่งหนีออกไปให้พ้นสภาพนั้น



    ผู้ชายคนนั้น....เขาเป็นคนดัง เป็นประธานนักเรียน ทุกคนต่างคลั่งไคล้เขา เขาหล่อเหลา....ทั้งหล่อ เท่ห์ เก่งสารพัด และที่สำคัญที่สุด.....เขาเป็นลูกชายของผู้อำนวยการโรงเรียน



    รีบอร์น.....มีอะไรกันกับแม่ของตัวเอง



    ความคิดนี้....ทำให้ผมขยะแขยงจนขนลุกชันไปทั่วร่าง วิปริต.....ต่ำ......ถ้าจะทำเรื่องอย่างนั้น ทำไมถึงไม่ไปทำที่บ้านล่ะ มาทำที่โรงเรียน กลัวคนเขาจะไม่รู้รึไงกัน.....ทำเรื่องแบบนี้โดยไม่รู้สึกอะไร.......



    ผมคิดในใจอย่างดุเดือด แต่แล้วก็มีใครบางคนกระชากข้อมือของผมเข้าไปในห้องเก็บของ



    "เฮ้ยย อะไรกันวะ แกเป็นใคร....แล้ว...."



    "ชู่ๆๆๆ" ผู้ชายคนนั้นเอื้อมมือมาปิดปากผม เมื่อผมหันกลับไปก็ได้แต่ตกตะลึง



    โคโรเนโร่........มาทำซุ่มอะไรอยู่ในห้องนี้เนี่ย



    "นายเป็นอะไรทำไมจู่ๆก็........." 



    ผมพูดได้แค่นั้น โคโรเนโร่ก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดอย่างแนบชิด จนรับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ถี่แรงของเขา ลมหายใจร้อนๆปะทะเข้าที่ซอกคอจนผมรู้สึกขนลุก



    "ฉันคิดถึงนาย........วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันกลับมาหลังจากโดนพักการเรียน ไม่คิดจะปลอบใจมั่งเลยรึไง"



    เขาพึมพำพลางถูหน้ากับไหล่ของผมราวกับลูกหมาตัวน้อยๆ ผมหัวเราะให้กับท่าทางนั้น ก่อนจะยืดตัวขึ้นไปจุมพิตเบาๆที่ริมฝีปากของเขาแล้วผละออกมา



    "อะไรกัน ชั้นอยากได้ deep kiss นะ"



    เขาพูด แล้วก็โดยไม่ทันตั้งตัว เขาก็ประกบริมฝีปากลงมาที่ปากของผม ริมฝีปากอุ่นๆนั่นขบเม้มที่ริมฝีปากล่างของผมเบาๆ ก่อนจะแทรกลิ้นเข้ามากวาดต้อนไปทั่วโพรงปาก ลิ้นร้อนๆพันรัดรอบลิ้นของผม ผมยกแขนขึ้นโอบรัดรอบคอเขาก่อนจะเริ่มตอบสนองจูบนั้น



    โคโรเนโร่.....ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจอยู่เสมอเมื่อได้ใกล้ชิดกับเขา จนกระทั่งเมื่อ 1 ปีก่อนที่เขาบอกรัก ผมจึงไม่ปฏิเสธเลยที่จะคบกับเขา



    และที่สำคัญที่สุด............เขาเป็นเพื่อนสนิทของรีบอร์น



    ความคิดนี้ทำให้ผมหยุดชะงักอย่างกระทันหัน โคโรเนโร่ผละออกมาก่อนที่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย



    "เป็นอะไรไปน่ะ คิดเรื่องอะไรอยู่งั้นเหรอ"



    "เปล่า......ก็แค่คิดเรื่องของ.....เรา" 



    อันที่จริง....ชั้นคิดเรื่องเพื่อนของนายอยู่ต่างหาก แต่ให้ตาย ผมก็ไม่พูดมันออกไปหรอก



    โคโรเนโร่หัวเราะ เขาจูบแก้มผมแรงๆก่อนจะพูดว่า



    "ถ้านายยังขืนทำตัวน่ารักด้วยการพูดคำว่า 'เรา'ออกมาอย่างนี้ ฉันจะอดใจไม่ไหว ปล้ำนายในห้องเก็บของนี่นะ"



    "บ้ารึไง ชั้นไม่อยากทำที่นี่หรอกนะ ถ้าอยากทำก็ไปเปิดห้องที่โรงแรมสิ ถ้าไม่ใช่โรงแรม 5 ดาวชั้นไม่ยอมด้วยนะ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ"



    "นายนี่มันน่ารักชะมัด แน่นอนว่าครั้งแรกของนาย ชั้นจะเปิดโรงแรม 5 ดาวไว้รอเลยที่รัก อีก 1 อาทิตย์จะวันเกิดชั้น นายรักษาเวอร์จิ้นไว้ให้ชั้นดีๆหล่ะ วัวน้อย" 



    เขาหอมแก้มผมอีกครั้งก่อนทีจะจูงมือออกไปนอกห้องเก็บของ แล้วเดินมาส่งผมที่หน้าห้อง ทำเอาคนในห้องหันมามองผมเป็นตาเดียว แล้วผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ผมบอกอาจารย์ว่าจะไปห้องน้ำ แต่ดันเดินมากับโคโรเนโร่อย่างนี้ ทุกคนจะคิดยังไงเนี่ย



    อาจจะนึกว่าผมไปแอบพบโคโรเนโร่...........



    หน้าของผมเริ่มร้อนจนรู้สึกได้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า.....มันต้องแดงมากๆแน่เลย น่าอายชะมัด โคโรเนโร่หอมแก้มผมอีกครั้ง โค้งให้อาจารย์ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งผมไว้กับสายตาทิ่มแทงจากนักเรียนหญิงในห้อง



    "สวีทกันจัง เจ้าชายหล่ะ อิจฉา เมื่อไหร่สาวๆจะหอมแก้มเจ้าชายมั่งน้าาา" ไอบ้าเบล!! ล้ออยู่
    ได้



    "อย่างแกน่ะ คงมีหนุ่มๆมาหอมแทนมั้ง" 



    ผมหันไปด่ามันเบาๆ ก่อนจะหันไปตั้งใจฟังอาจารย์สอนต่อไป เมื่อเธอส่งสายตามาทางผมว่า 'หุบปากซะที'


    ...................................................................................



    เย็นมากแล้ว........ผมยังคงนั่งรอโคโรเนโร่อยู่ในห้องเรียน ช้าเป็นบ้า ทำอะไรของเขาอยู่นะ หรือว่าเกิดอุบัติเหตุอะไรร้ายแรง ความกังวลเริ่มครอบคลุมหัวใจผมทีละนิด



    ครืดดดดดด



    "โคโร่เนโร่!!!" 



    ผมถลาไปที่ประตูทันที ก่อนจะโผไปกอดเขาเอาไว้แน่น โสตสัมผัสของผมได้กลิ่นน้ำหอมบางเบาออกมาจากร่างนั้น .....แต่โคโรเนโร่ไม่เคยใช้น้ำหอม.....



    ผมผงะออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่อย่างตกตะลึง ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นดูเย็นชากว่าเคยเมื่อมองมาจากระยะประชิด ดวงหน้าคมเข้มรับกับจมูกโด่งเป็นสัน เรือนผมสีดำที่ถูกจัดเซตมาอย่างดี ทิ้งตัวม้วนงอที่ข้างแก้มเล็กน้อย ผู้ชายที่คนทั้งโรงเรียนหลงใหล..............



    "ร....ร.....รีบอร์น" ร่างกายของผมสั่นระริกยามเอ่ยเรียกชื่อเขา ผู้ชายคนนี้.....ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ในเวลาอย่างนี้ แล้วโคโรเนโร่.......



    เท้าของผมก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว เขาเหยียดริมฝีปาก....ยิ้มราวกับดูถูกผม



    "ร่าน......" พึมพำแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ แต่กลับดังก้องชัดเจนอยู่ในหูของผม....สะท้อนไปมาราวกับตอกย้ำคำๆนั้น แน่นอนว่าผมรู้สึกอับอาย แต่เหนืออื่นใด....ผมกำลังโกรธ....โกรธผู้ชายคนนี้ 



    "นายกำลังดูถูกชั้น.....ชั้นก็แค่คิดว่านาย......"



    "แก้ตัว!!! ไม่ใช่ว่าอยากจะกอดชั้นจนตัวสั่นระริกรึไง หึ....คนชั้นต่ำ พวกปากแข็งนี่มันน่าเบื่อเป็นบ้า" รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏที่ริมฝีปากของเขา ก่อนที่เขาจะนั่งลงบนโต๊ะนักเรียน มือใหญ่ของเขาควักบุหรี่ออกมาจากอกเสื้อ ก่อนจะจุดสูบอย่างสบายอารมณ์.....นี่น่ะเหรอ ประธานนักเรียน น่าหัวเราะชะมัด



    "นายเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าชั้นเท่าไหร่หรอก ถ้าชั้นต่ำ....นายก็คงต่ำกว่า ชั้นไม่เคยอดอยากขนาดไปมีอะไรกับแม่ตัวเองก็แล้วกัน" ผมตอกกลับด้วยคำพูดที่ร้ายกาจ.....ผมไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน แต่แค่ผู้ชายคนนี้เท่านั้น....ที่ผมยอมไม่ได้



    "เฮ้ออ แรมโบ้ที่แสนดีของโคโรเนโร่ไปไหนซะแล้วหล่ะ แทนที่จะเอาเวลามาด่าว่าชั้น ไปห่วงแฟนนายดีกว่า ป่านนี้ไม่รู้ไปตาย.....ไม่ใช่สิ.....ไปให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลไหนแล้ว"



    "หมายความว่าไง" ผมถามด้วยเสียงเคร่งเครียด เกิดอะไรขึ้นกับเขางั้นเหรอ



    "ไม่มีอะไร วันนี้นายนัดเจอกับเขาใช่มั้ย แต่ชั้นอยากคุยกับนาย.....เขาก็แค่ตัวขัดขวางทางชั้น เลยต้องเจ็บตัวมั่ง....เล็กๆน้อยๆ"



    "นี่แก ทำอะไรเขา บอกมานะ!!!!!" ผมกระชากคอเสื้อร่างสูงกว่าอย่างรุนแรง ไม่สนแล้ว ว่าคนๆนี้จะมีอิทธิพลมากแค่ไหน อภัยให้ไม่ได้.....ผู้ชายเฮงซวย



    รอยยิ้มเยาะปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเขา ก่อนที่มือใหญ่ตะปบเข้าที่ข้อมือของผมอย่างรุนแรง ออกแรงบิดจนปวดร้าวไปถึงกระดูก บีบบังคับผมให้ปล่อยมือออกจากคอเสื้อของเขา



    น้ำตาผมเริ่มรินไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เจ็บ....เจ็บจะตายอยู่แล้ว แต่ให้ตายผมก็ไม่ส่งเสียงร้องออกมา.....



    รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏเด่นชัดบนริมฝีปากบางของรีบอร์นมากขึ้น......



    "ไม่เข้าใจ....ว่าทำไมคนอย่างหมอนั่นถึงเลือกคบกับแก มีอะไรดีนักหนา หรือว่า.....เรื่องอย่างว่า......" 

    ...................................................................

    censored ค่ะ เนื่องจากไม่เหมาะกับเด้กและเยาวชน =[]=!!

    .....................................................................



    "ร่าน.....แกมันก็ร่านอย่างนี้กับทุกคนน่ะแหละ"



    เสียงเหยียดหยามของรีบอร์น คือสิ่งสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่สติทั้งมวลจะดับวูบไป



    เกลียด...........



    ชั้นเกลียดนายเหลือเกิน..........



    TBC จ้า

    ...........................................................................

    เป็นยังไงบ้างค่ะ เซ็นเซอร์กันแทบไม่ทัน >O<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×