ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic kuroko no basket,knb] Love is the honey (Akashixoc)

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 9

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 65


     


    Chapter 9 : 

     

     

    ห้องล็อคเกอร์

     

    ''วันนี้พวกผู้หญิงดูคึกคักกันดีนะฮ้ะ'' คิเสะเดินเข้ามาก่อนจะตรงมาที่ล็อคเกอร์ของตัวเองเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดลำลองเขากวาดสายตาไปรอบห้องตอนนี้มีสมาชิกที่อยู่คือ มิโดริมะ มุราซากิบาระ อาโอมิเนะ และคุโรโกะ ส่วนกัปตันนิจิมุระเขาเพิ่งเดินสวนออกไป และอาคาชิยังไม่มา

     

    ''ข่าวเรื่องการคบกันของชิรายูกิซังกับอาคาชิคุงมันค่อนข้างน่าสนใจละมั้งครับ'' คุโรโกะกล่าวก่อนที่เข้าจะสวมเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนข้างเขามีอาโอมิเนะที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วกำลังหมุนลูกบาสเล่นอยู่

     

    ''มันช่วยไม่ได้ที่สองคนนั้นจะเป็นที่จับตามองว่าแต่มุราซากิบาระเมื่อไหร่นายจะเปลี่ยนเสื้อผ้า'' มิโดริมะดันกรอบแว่นให้เข้าที่เขามองยังมุราซากิบาระที่ยืนนิ่งหน้าล็อคเกอร์ตัวเองโดยท่อนบนไม่ได้สวมเสื้อผ้า

     

    ''สึบาจินที่แท้ก็มาหลบอยู่ที่นี้สินะ~'' มุราซากิบาระถอยหลังออกมาจากล็อคเกอร์ตัวเองก่อนจะเปิดให้กว้างขึ้นให้ทุกคนที่อยู่ในห้องหันไปมอง ร่างบางของคนบางคนนั่งหลับอยู่ในล็อคเกอร์แคบๆโดยมีหูฟังและเครื่องเล่นเพลงเปิดค้างไว้ในอ้อมแขนมีเจ้าลูกเจี๊ยบสีแดงอยู่

     

    ''หา?แล้วทำไมยัยนี่ถึงมานอนแถวนี้เนี้ย''อาโอมิเนะเสยผมเขามองไปที่ร่างบางที่ตอนนี้มุราซากิบาระอุ้มออกมาจากล็อคเกอร์ตัวเองโดยที่เจ้าตัวยังคนหลับลึกไม่รู้เรื่องอะไร

     

    ''แต่ดูจากสภาพแล้ววันนี้สึบากิจจิคงโดนพวกผู้หญิงตามรังควานหนักอยู่นะฮ้ะ'' คิเสะมองร่างบางด้วยความเป็นห่วงกับสภาพผู้ช่วยโค้ชที่ปกติแต่งตัวเรียบร้อย แต่ตอนนี้เสื้อสูทไม่ได้สวมใส่และเนคไทหายไป ผมสีดำที่เรียบตรงชี้ฟูส่วนเสื้อเชิ้ตสีฟ้าดูยับยู้ยี่ไม่เรียบร้อย

     

    ท่าจะโดนมาหนักแฮะ ทั้งสี่คนคิดในใจ

     

    ''ยังไงก็ตามแต่ที่นี้มันห้องล็อคเกอร์นักกีฬาถ้าใครมารู้เข้ามันคงดูไม่ดีนะครับ'' คุโรโกะหันไปมองทุกคนโดยรอบที่ครุ่นคิดจะทำยังไงกับร่างบางดีจะปลุกให้ตื่นก็สงสารแต่จะให้นอนหลับในห้องนี้ก็เป็นห่วง

     

    ''มิโดจินโทรบอกให้อาคาจินมารับไปก็สิ้นเรื่องมิเนะจินฉันฝากหน่อยสิตอนนี้รู้สึกหนาวแล้ว'' ไททั่นม่วงเสนอแนะก่อนจะส่งร่างบางให้อาโอมิเนะอุ้มแทนเขาแล้วหยิบเสื้อมาสวมใส่

     

    มิโดริมะหยิบโทรศัพท์กดโทรหาแต่ไม่ทันได้โทรออกอาคาชิเปิดประตูเข้ามาพอดี ดวงตาสีแดงมองมายังอาโอมิเนะที่อุ้มสึบากิแฟนสาวของตัวเองอยู่ เขาปิดประตูห้องและลงกลอนประตูก่อนจะเดินมาหยุดตรงกลางห้อง

     

    ''อาคาชิจิมาพอดีเลยพวกเราไม่รู้จะทำยังไงดีฮ้ะ'' คิเสะเดินเข้ามาคุยก่อนจะอธิบายเรื่องราวให้รองกัปตันที่ตอนนี้ขมวดคิ้วสงสัยว่าทำไมร่างบางมาอยู่ที่นี้

     

    ''พวกนายไปซ้อมกันก่อนเดี้ยวฉันจะตามไป''

     

    อาคาชิออกคำสั่งเมื่อฟังเรื่องราวจบก่อนที่เขาจะเอาเสื้อผ้าเดินหายเข้าไปที่ห้องน้ำที่อยู่ด้านหลัง ส่วนคนอื่นๆก็ทยอยออกไปกันหมดเหลือเพียงร่างบางที่อาโอมิเนะจับมาวางให้นั่งบนม้าแล้วพิงอยู่ที่ผนังห้อง ไม่นานอาคาชิเดินออกมาจากห้องน้ำเขาสวมชุดลำลองมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดที่คอใบหน้าหล่อเหลามีหยดน้ำเกาะอยู่ประปรายแขนขวามีชุดนักเรียนพาดอยู่

     

    เขาเดินมายังล็อคเกอร์ของตัวเองแล้วจัดเสื้อผ้าใส่ไม้แขวนให้เรียบร้อยแล้วปิดล็อคเกอร์ อาคาชิหันหลังมามองร่างบางที่ยังคงหลับลึกโดยมีหูฟังเสียบคาไว้ราวกับเธอตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง นี้ก็ผ่านมาได้หนึ่งอาทติย์ตั้งแต่ที่พวกเขาตกลงคบหากันเกิดคลื่นลมในโรงเรียนโดนเฉพาะพวกผู้หญิงที่คอยจะตามรุมทึ้งแฟนสาวของเขา ส่วนพวกผู้ชายก็มองเขาด้วยสายตาร้อนแรงแต่ไม่มีใครกล้าลงมือทำอะไร

     

    เขาและสึบากิ ไม่ได้ออกมาอธิบายอะไรเพิ่มเติมแม้จะมีพวกชมรมหนังสือพิมพ์มาของสัมภาษณ์ พวกเขาก็ตอบแค่ว่ากำลังคบกันแต่ไม่ให้รายละเอียดอะไรอีกแต่ผลกระทบที่ตามมาคนที่เจอหนักนั้นก็คือสึบากิที่โดนพวกผู้หญิงค่อนโรงเรียนพยายามจับตัวแต่มันไม่ใช่การกลั่นแกล้งหรือแอบลอบทำร้ายเขาจึงไม่ได้สนใจและปล่อยให้เจ้าตัวจัดการเอง

     

    จากการคาดเดาของเขาดูเหมือนว่าสึบากิจะยังมีเรื่องแอบทำอะไรลับหลังโดยใช้เขาไปทำมาหากินอะไรซักอย่าง

     

    อาคาชิครุ่นคิดก่อนจะส่ายหน้าและสำรวจร่างบางที่วันนี้เสื้อผ้าบางชิ้นหายและไม่เรียบร้อยใบหน้าที่ได้รูปรับกับจมูกที่เชิดรั้นบอกถึงนิสัยดื้อดึงเอาแต่ใจของเจ้าของ ริมฝีปากบางชมพูระเรื่อที่น่าสัมผัส ใบหูขาวเล็กๆนั้นอีก มันช่างเป็นภาพที่งดงามสำหรับอาคาชิ ยิ่งมีเส้นผมนุ่มลื่นคลอเคลียให้น่าค้นหา

     

    มือเรียววาดไปตามใบหน้าผ่านไปยังใบหูที่จะแดงเข้มเวลาที่เขาเข้าใกล้ ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากที่เผยอมาเล็กน้อย ดวงตาสีแดงจ้องมองอยู่นานก่อนจะใช้นิ้วชี้ค่อยๆกดลงไปเบาๆ ความนุ่มนิ่มและหยุ่นทำเอาคนแอบสัมผัสมีดวงตาสีเข้มขึ้นส่วนคนโดนก่อกวนการนอนอ้าปากขึ้นมาอีกเล็กน้อยจนเห็นลิ้นสีชมพูที่ซุกซ่อนอยู่ข้างใน

     

    อาคาชิชะงักกับปฏิกิริยาคนที่หลับแต่เขาไม่ได้หยุดนิ้วที่สัมผัสแต่อย่างใดในสายตาของเขาต้องนี้เปลี่ยนมาโฟกัสที่ลิ้นสีชมพูที่อยู่ด้านใน เขารู้สึกลำคอแห้งผากไปชั่วขณะและเผลอกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว นิ้วชี้ที่กดริมฝีปากเปลี่ยนมาเชยคางร่างบางให้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆขยับเข้าไปใกล้เรื่อยๆจนปลายจมูกชนกัน

     

    ''คนลามก'' คนหลับเอ่ยเสียงเบาเรียกสติอาคาชิที่กำลังจะได้สัมผัสความนุ่มนิ่มให้กลับมา เขาหยุดการกระทำที่เรียกว่าลักหลับก่อนจะปล่อยคางและถอยกลับมายืนตรงเหมือนเดิม ก่อนจะเหลือบมองคนที่ละเมอได้ถูกจังหวะ เขากระแอมไอเพื่อปรับอารมณ์ก่อนจะมีสีหน้าราบเรียบดังเดิม

     

     

     

     

     

     

    สึบากิยืนหาวด้วยความง่วงนอนช่วงนี้เธอไม่ค่อยได้นอนพักกลางวันเท่าไหร่เพราะต้องคอยหลบหนีพวกสาวๆที่มาตามของรูปลับๆของอาคาชิยิ่งพอรู้ว่าเธอได้คบเป็นแฟนกันแล้วคราวนี้ทุกคนต่างรีเควสรูปที่มันเอ่อ…ค่อนข้างจะท้าทายช่างภาพอย่างเธอไปหน่อยอย่างเช่นตอนเปลี่ยนเสื้อผ้า รึไม่ก็รูปที่ชวนมโนอย่างพวกปลดกระดุมเม็ดที่สองให้เห็นกล้ามเนื้ออกวับๆแวมๆ

     

    แม้เธอจะปฏิเสธไปแล้วเนื่องจากให้เหตุผลว่าเพิ่งคบกันรูปพวกนั้นคงยากเกินไปเป็นแอบถ่ายตอนหลับหรือกิริยาที่ไม่เรทมากเกินไปแทนในตอนแรกสาวๆต่างไม่พอใจแต่ยังดีกว่าไม่ได้อะไรผลการเจรจาจึงตกลงตามนี้หลังใช้เวลาหาข้อสรุปตรงกลางได้ก็ผ่านมาถึงหนึ่งอาทิตย์ตั้งแต่ที่ทุกคนรู้เรื่องการคบกันของพวกเธอ

     

    แน่นอนว่าเรื่องดำมืดนี้ที่เธอแอบเอารูปของแฟนหนุ่มไปปล่อยประมูลในเว็ปไซต์ที่ตัวเองเปิดไม่มีทางให้เล็ดลอดไปเข้าหูหรือมีรูปหลุดไปเด็ดขาด หากมีภาพหลุดออกนอกกลุ่มลับนี้ทุกอย่างจะสิ้นสุดโดยทันทีด้วยเหตุนี้กลุ่มลับที่มีสมาชิกเป็นนักเรียนหญิงค่อนโรงเรียนจึงยังคงเป็นความลับมาได้อย่างปลอดภัยมาหลายเดือน

     

    ตอนนี้สึบากิไม่ค่อยจะแน่ใจว่าแผนการที่เธอทำมานานในช่วง3-4เดือนมันจะส่งผลกระทบยังไงบ้าง เพราะเธอคาดการณ์ไว้แล้วว่าหากเธอตกลงคบกับอาคาชิเมื่อไหร่แฟนคลับทั้งที่ลับและที่แจ้งต้องเพ่งเล็งมาที่เธอแน่นอนเพื่อควบคุมและหาทางอยู่ร่วมกับแฟนเกิร์ลอย่าสงบสุขจึงจำเป็นต้องหาอะไรมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน

     

    ผลลัพท์มันดีเกินคาดไปไกลนอกจากจะไม่ได้เพ่งเล็งกลั่นแกล้งอะไรแล้วยังได้รับการสนันสนุนอย่างท่วมท้น เธอคงดูถูกพลังแฟนเกิร์ลของท่านชายอาคาชิไปสินะ

     

    เอาเถอะตอนนี้ที่ต้องระวังคืออย่าให้แฟนหนุ่มจับได้เป็นพอละนะ

     

    ดวงตาสีฟ้าเข้มหันกลับมาสนใจการฝึกซ้อมด้านล่างที่เธอปรับรูปแบบที่เน้นไปที่การเสริมสร้างความอึดของร่างกายเพื่อให้ผู้เล่นสามารถลงสนามแข่งได้นานขึ้นแม้จะสงสารกับสภาพของแต่ละคนแต่เพื่อชัยชนะต้องใจแข็ง

     

    สึบากิจ้องมองไปที่รองกัปตันที่มีเหงื่อท่วมตัววันนี้เขาใส่ยืดสีขาวแขนยาวพอเหงื่อที่เปียกชุ่มไปหมดเสื้อตัวบางแนบไปกับร่างกายที่มีกล้ามเนื้ออยู่ด้านในเป็นภาพที่เซ็กซี่ไปอีกแบบ ยิ่งกิริยาที่เสยผมที่เปียกชื้นขึ้นไปอีกยิ่งแผ่ออร่าออกมาจนแสบตา

     

    มือเล็กคว้าเอามือถือกดถ่ายรูปรั่วๆวันนี้เธอได้ภาพเด็ดเอาไปลงเว็ปไซต์แล้ว แต่เหมือนจะมีรุ่นพี่ผู้รู้ทันเขาจงใจเดินมาบดบังวิวอันงดงามก่อนจะยักคิ้วให้คนที่กำลังแอบถ่ายรูปแฟนตัวเองอยู่

     

    ส่วนคนโดนจับได้ไม่สะทกสะท้านใดๆ เธอละสายตาจากความกวนประสาทของรุ่นพี่หันมาสนใจข้อมูลในชาร์ทบอร์ดก่อนจะเดินลงมาชั้นล่างโดยไม่ลืมหยิบผ้าขนหนูและขวดน้ำก่อนจะยื่นให้อาคาชิ

     

    ''อาคาชิคุงน้ำกับผ้าค่ะ''

     

    อาคาชิมองคนที่มานั่งข้างเขารับผ้าและขวดน้ำก่อนจะยกดื่ม ส่วนสึบากิมองไปตามร่างกายของอาคาชิและก้มหน้าก้มตาจดบันทึกข้อมูลของวันนี้ อาคาชิเหลือบตามองร่างบางที่ตอนนี้แต่ตัวเรียบร้อยแล้วโดยยืมเสื้อสูทและเนทไทของเขามาใส่แทน เขาวางขวดน้ำก่อนจะยื่นผ้าขนหนูให้คนที่นั่งข้างที่กำลังขมักเขม้นจดข้อมูล

     

    ''เช็ดให้หน่อย''

     

    อาคาชิพูดเมื่อสึบากิเงยหน้ามามองเขาและผ้าขนหนู ก่อนที่เธอจะรับผ้าขนหนูมาซับเหงื่อที่หน้าของแฟนหนุ่มที่วันนี้ดูจะออดอ้อนผิดปกติ คนอื่นๆที่อยู่ใกล้มองด้วยความอิจฉาตาร้อนที่รองกัปตันและผู้ช่วยโค้ชมาสวีทหวานต่อหน้าต่อตาหนุ่มโสดในโรงยิม

     

    ส่วนคนที่โดนจ้องมองทั้งสองไม่ได้สนใจรอบข้างเรียกได้ว่าน่าจะชินชาไปแล้วเวลาที่ทั้งคู่นั่งอยู่ด้วยกันแล้วโดนคนลอบมอง สึบากิที่ตอนแรกไม่ค่อยชินและเขินที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าผู้คนก็เริ่มปรับตัวได้บ้างแล้ว

     

    ''หลังจากจบการซ้อมของวันนี้แล้วพวกเราต้องกลับไปสภานักเรียนเพื่อประชุมเรื่องงานเทศกาลที่จะถึงอีกสองเดือนนะคะ''

     

    สึบากิร่ายหมายกำหนดการของพวกเขาที่เป็นส่วนสุดท้ายของวันนี้ มือเล็กยังง่วนกับการเช็ดเหงื่อที่หน้าและไรผมที่วันนี้เยอะเพราะโปรแกรมฝึกของเธอ อาคาชิพยักหน้ารับทราบก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยให้เธอรออยู่ที่โรงยิมเพื่อที่จะไปเข้าประชุมสภานักเรียนพร้อมกัน

     

    ''เมื่อไหร่เธอจะบอกอีกเรื่องให้อาคาชิรู้ซะที'' นิจิมุระเดินเขามาคุยหลังเห็นว่าอาคาชิเดินออกไปนอกโรงยิมซักพักแล้ว

     

    ''อ้อเรื่องมายุสุมิซังสินะคะ''

     

    ''สึบากิ'' มิจิมุระหรี่ตามองรุ่นน้องอย่างคาดคั้นคำตอบ

     

    สึบากิถอนหายใจเธอกลับไปที่รุ่นพี่หนุ่มแล้วพูดว่า

     

    ''มันไม่น่าจะจำเป็นหรอกนะคะอีกอย่างตอนนี้มายุสุมิซังขึ้นชั้น ม.ปลายที่ราคุซันแล้วถ้าอาคาชิคุงไม่เข้าเรียนที่นั้นคงไม่น่าจะมีอะไรมั้งคะ''

     

    ''เอาเถอะนั้นเป็นเรื่องของพวกเธอสองคนต้องจัดการกันเองแล้วกันไปละ'' นิจิมุระเลิกสนใจเขาหันหลังจะเดินออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้างแต่เท้าต้องชะงักแล้วเดินย้อนกลับมาม้านั่งที่ร่างบางนั่งอยู่

     

    ''มีอะไรอีกรึเปล่าคะ'' สึบากิเอียงคอขมวดคิ้ว

     

    ''ว่าแต่จุ้บกันรึยัง''

     

    นิจิมุระยื่นหน้ามากระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน คนโดนถามคำถามนิ่งอึ้งไปแล้วก่อนจะส่ายหน้าเป็นคำตอบทำเอาคนชอบล้อเลียนชักสีหน้าเซ็งก่อนจะเดินออกจากโรงยิมไป ทิ้งให้รุ่นน้องที่โดนถามนั่งนิ่งด้วยหน้าปลาตายแต่หูแดงระเรื่อเมื่อคิดถึงคำถามที่มันจะตรงเกินไปแล้ว

     

    ''ยังไม่ได้คิสๆกันสินะฮ้ะสึบากิจจิ'' สึบากิสะดุ้งหันไปมองด้านหลังที่มีพวกคิเสะ มุราซากิบาระและโมโมอิยืนอยู่

     

    อ้า~พวกคนที่เธอไม่อยากให้รู้มากที่สุดดันมารวมหัวกันพอดี!

     

    ''คีจังละก็แซวสึบากิจังแบบนี้ไม่ได้นะแล้วสรุปยังไม่ได้คิสกันจริงๆหรอ?'' โมโมอิฟาดมือไปที่ไหล่ของคิเสะแต่ไม่วายวกกลับมาถามย้ำอีกรอบแววตาสีชมพูตื่นเต้นสุดๆ

     

    แบบนี้ไม่ต้องดุคิเสะคุงก็ได้นะคะโมโมอิจัง สึบากิคิดในใจ

     

    ''อาคาจินยังไม่จับกลืนลงท้องอีกหรอเนี้ยน่าแปลก'' มุราซากิบาระมามองยังสึบากิที่ตอนนี้ดูจะแตกตื่นไปกับคำว่ากลืนลงท้องของเขาไปแล้ว

     

    ''กลืนลงท้องคืออะไรค่ะอัตสึชิคุง!''ร่างบางหันไปมองเจ้าไททั่นม่วงที่บัญญัติศัพท์ให้ชวนคิดไปไกล

     

    ''มุคุงเขาเขาหมายถึงว่าคิสนั้นแหละหน่า~''โมโมอิรีบเข้ามาขยายความเพราะสีหน้าเพื่อนสาวคิดไปอีกทางแล้ว เธอหัวเราะออกมากับท่าทางหวาดตัวของสึบากิที่เข้าใจผิดกับคำพูดของมุคุง

     

    ''งะงั้นหรอค่ะแฮะๆ''

     

    ''แล้วสรุปคิสๆกันรึยังละฮ้ะ?''คิเสะผู้แน่วแน่กับประเด็นหลักถามขึ้นอีกครั้ง สึยากิไม่ได้ตอบอะไรเพียวส่ายหน้าเท่านั้น

     

    ''แบบนี้จะแย่เอานะสึบาาจิน~''มุราซากิบาระฉีกถุงขนมมันฝรั่งทอดออกกล่าว สึบากิเอียงคอสงสัยแค่ไม่ได้คิสกันมันจะแย่ตรงไหนอีกอย่างพวกเธอคบกันแล้ว

     

    ''อาคาจินเสน่ห์แรงจะตายถึงคนรู้ว่ามีแฟนอยู่แล้วแต่บางคนเขาก็ไม่สนใจหรอกนะ''

     

    ''เพราะฉะนั้นสึบากิจังต้องรีบมัดใจอาคาชิคุงให้อยู่ในกำมือให้ได้ไวๆนะคะไม่รู้ว่าจะมีใครมาแย่งไปรึเปล่า''

     

    โมโมอิแนะนำเพื่อนสาวอย่างกระตือรือร้นดวงตาสีชมพูวาววับเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวเริ่มมีท่าทีคล้อยตามคำพูดของเธอ

     

    ''แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการคิสกันละคะ?''ร่างบางขมวดคิ้วกับตรรกะแปลกๆของเพื่อนๆ

     

    ''ก็แสดงความเป็นเจ้าขอไงคะว่าเนี้ยของฉันใครห้ามแตะยะ!''

     

    ''เอาหน่าสึบาจินก็ลองดูละกันอย่างน้อยอาคาจินจะได้หลงหัวปักหัวปรำไปเลยเนะคิเสะจิน'' มุราซากิตัดบทก่อนจะลากคิเสะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสวนกับอาคาชิที่กำลังเดินเข้ามาพอดี

     

    ''สู้ๆนะคะสึบากิจัง''โมโมอิกระซิบก่อนเหลือบมองอาคาชิเธอยกยิ้มแล้วขอตัวแยกไปทำอย่างอื่นโดยไม่ลืมทักทายอาคาชิที่เดินมารับสึบากิเพื่อไปสภานักเรียนด้วยกัน

     

    ''มีอะไรกับรึเปล่า''

     

    อาคาชิที่ท่อนบนส่วมแค่เสื้อเชิ้ตแขนยาวหยุดตรงหน้าร่างบางที่ดูจะมีอาการแปลกหลังคุยกับโมโมอิ สึบากิส่ายหน้า อาคาชิเห็นอย่างนั้นก็ไม่ได้ถามต่อในเมื่อเจ้าตัวไม่พร้อมจะพูดเขาจะไม่ถาม

     

    มือเรียวจับที่มือของร่างบางจูงกันเดินไปยังห้องประชุมของสภานักเรียกท่ามกลางสายตาของนักเรียนที่เดินผ่านไปมา

     

    ส่วนสึบากิที่โดนเพื่อนๆกรอกหูเมื่อครู่ตอนนี้ในสมองมีแต่คำว่าคิสๆเต็มไปหมดไหนจะเรื่องที่มีคนจะมาแย่งแฟนหนุ่มไปอีกทำเอาเธอนึกถึงสาวสวยฟูจิวาระที่มาล้มคมำกวาดเอกสารบนโต๊ะเธอเละเทะไปหมด

     

    ในตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมากเพราะมีหลายคนที่เข้ามาทำอะไรแบบนี้แต่ตอนนี้สถานะของเธอและอาคาชิมันเปลี่ยนไปแล้ว เธอรู้สึกหวงเขาขึ้นมาบ้างแม้ตัวเองจะเอารูปแอบถ่ายของแฟนหนุ่มไปลงเว็บไซต์ลับแต่นั้นมันก็แค่เซอร์วิสแฟนเกิร์ลที่รู้ขอบเขตเท่านั้น

     

    แต่ถ้ามีคนมาเข้าหาแฟนตัวเองแบบนั้นมันก็อีกเรื่องแล้ว

     

    ดวงตาสีฟ้าลอบมองเสี้ยวหน้าแฟนหนุ่มพลางคิดในใจว่า

     

    นี้เธอต้องทำมันจริงๆสินะ?

     

     

     

     

     

    ''งานเทศกาลปีนี้เราเจอปัญหาใหญ่''

     

    ประธานนักเรียนทาคุมเท้าคางเอ่ยเสียงเครียด

     

    หลังจากเริ่มประชุมไปได้ซักพักปัญหาที่ว่านั้นก็คืองบประมาณที่จะใช้จัดงานเทศกาลปีนี้ไม่เพียงพอเนื่องจากทางโรงเรียนเพิ่มจะมาแจ้งว่าจะตัดงบส่วนนี้เพื่อเอาไปใช้สร้างตึกและปรับภูมิทัศน์ ทำให้เหลืองบประมาณที่จะใช้จัดในปีนี้มีเพียงแค่50%เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

     

    ''ถึงแม้เราจะหาสปอนเซอร์เข้ามาเพิ่มเติมจากร้านค้าใกล้เคียงมาแล้วแต่ยังได้มาเพิ่มแค่20%เท่านั้นรวมแล้วตอนนี้เรามีงบทั้งหมด70%เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว''

     

    สึบากิกล่าวพลางเปิดหน้าสไลด์ที่สรุปงบประมาณให้ทุกคนในที่ประชุมดู กรรมการนักเรียนและตัวแทนแต่ละชั้นปีเมื่อเห็นดังนั้นต่างมีสีหน้าหนักใจ

     

    ''เราควต้องตัดงบประมาณส่วนที่ใช้จัดงานของแต่ละชมรมและเปลี่ยนให้กิจกรรมร้านของชั้นเรียนส่วนหนึ่งเปลี่ยนมาจัดนิทัศการแทน'' อาคาชิกล่าวคนอื่นเห็นด้วยดังนั้นจึงไม่ได้คัดค้านอะไรยกเว้นตัวแทนจากชมรมที่ตอนนี้บางส่วนเริ่มเตรียมการไปได้ครึ่งทาง

     

    ''เมื่อสองวันก่อนประธานอนุมัติงบประมาณก่อนที่ทางโรงเรียนจะแจ้งให้ทราบทำให้เราเหลือเงินเพียงแค่ส่วนของสปอนเซอร์ที่หามาได้เท่านั้นซึ่งมันไม่เพียงพอต่อการจัดงานพื้นที่ส่วนกลาง''

     

    สึบากิอธิบายก่อนชี้ไปยังตารางเปรียบเทียบงบประมาณของปีนี้และปีที่แล้วซึ่งพื้นที่ส่วนกลางยังต้องใช้เงินอีกมากในการจัดงาน

     

    ''มีทางเดียวคือเราต้องหาเงินมาเพิ่มตรงส่วนนี้ให้ได้ภายใน1เดือน''

     

    อายะสรุปเมื่อมองไปที่ค่าใช้จ่ายของพื้นที่บริเวณส่วนกลางที่ติดตัวแดงบนสไลด์ ส่วนประธานหนุ่มทาคุมิยังคนนั่งนิ่งอย่างไม่ทุกข์ร้อนก่อนจะเหลือบตามองไปมาระหว่างอายะเลขานุการและเหรัญญิกสึบากิด้วยแววตาที่รู้กัน

     

    ส่วนอาคาชิยังคงจ้องมองบนสไลด์ในหัวตอนนี้กำลังคิดหาทางออกกับปัญหาดังกล่าวโดยไม่ทันสังเกตอาการแปลกๆของทั้งสามคนที่อยู่ไม่ไกลจากเขา

     

    ''ยังไงก็ตามมาถึงขั้นนี้แล้วเราคงต้องใช้ไพ่ตายในมือกันบ้าง''

     

    ทาคุมิลุกขึ้นยืนก่อนจะมันไปมองอาคาชิที่นั่งถัดไปด้วยรอยยิ้มกว้าง คนโดนมองขมวดคิ้วแต่ไม่ได้กล่าวอะไร

     

    ''เราจะทำโฟโต้บุ้คของสภานักเรียนขายเพื่อหารายได้เข้ามา''

     

    สึบากิเลื่อนสไลด์ที่ชี้แจงรายละเอียดการสั่งซื้อราคาและขนาดของโฟโต้บุ้คดังกล่าวยังไม่รวมของที่ระลึกอย่างพวงกุญแจ ถุงผ้า และขวดน้ำเป็นต้น

     

    อาคาชิหางตากระตุกเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่บนสไลด์โดยมีร่างบางกล่าวอธิบายรายละเอียดการขาย ก่อนจะละสายตาไปมองแฟนสาวที่ส่งยิ้มน้อยมาให้

     

    ''นอกจากนี้จะมีการประมูลสินค้าลิมิตเต็ดออกมาด้วย''

     

    ''แล้วใครจะเป็นนายแบบโฟโต้บุ้คคะ?'' หนึ่งในกรรมการนักเรียนยกมือถาม ทาคุมิที่เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วกระตุกยิ้มกว้างกว่าเดิม

     

    ''แน่นอนว่าจะมีประธานนักเรียนคือฉันและอาคาคาชิคุงที่จะร่วมถ่ายโฟโต้บุ้คในครั้งนี้''

     

    สิ้นสุดการพูดเกิดเสียงฮือฮาไปทั่วทั้งห้องประชุมบ้างก็มีคนจับกลุ่มคุยกันบ้างก็รีบถ่ายรูปรายละเอียดราคาและสินค้าที่จะจำหน่ายลงไปที่กลุ่มไลน์สร้างความแตกตื่นกันไปทั้งกลุ่มจนลามไปถึงเว็ปบอร์ดโรงเรียนที่ได้รับข่าวสารแบบสดๆร้อนๆจนตอนนี้คอมเม้นพุ่งไปถึง500คอมเม้นต์ในเวบาอันรวดเร็ว

     

    โดยหัวข้อร้อนแรงหนีไม่พ้นว่า

     

    สมบัติของโรงเรียนเทย์โควทั้งสองคนจะมีโฟโต้บุ้คออกมาจำหน่ายพร้อมเปิดประมูลสินค้าลิมิตเต็ด!!

     

    อายะมองกระแสที่กล่าวถึงในเว็บบอร์ดโรงเรียนด้วยความพอใจที่มีคนสนใจกันอย่างล้นหลาม

     

    ส่วนอาคาชิที่โดนมัดมือชกเขาเพียงส่ายหัวอ่อนใจกับแผนการของทั้งสามคนที่รวมหัวกันโดยไม่บอกเขาซักคำโดยเฉพาะคนต้นคิดที่น่าจะเป็นแฟนสาวตัวดีของเขา

     

    ''เอาละการประชุมวันนี้มีเท่านี้แยกย้ายได้''

     

    ทาคุมิปิดการประชุมทุกคนจึงเร่งรีบออกจากห้องเพื่อนำข่าวที่ได้ไปป่าวประกาศให้ทั่วและเตรียมวางแผนสำหรับการประมูลสินค้าลิมิตเต็ดด้วย เหลือเพียงคนสี่คนที่อยู่ในห้อง

     

    ''ประธานพวกคุณสามคนคิดแผนนี้กันมาแล้วสินะครับ''

     

    ดวงตาสีแดงไล่มองไปยังทั้งสามคนอย่างคาดโทษโดยเฉพาะเจ้ากระต่ายดำของเขา

     

    ทาคุมิที่เจอแรงกดดันของรุ่นน้องเขารีบลากคอเสื้ออายะออกมาจากห้องประชุมแล้วทิ้งให้คนต้นคิดอย่างสึบากิเคลียร์กับแฟนหนุ่มกันสองคนกันเอง

     

    ส่วนสึบากิที่โดนรุ่นพี่หักหลังอย่างเลือดเย็นก็ถอยหลังเตรียมหนีแต่ถูกคนรู้ทันจับแขนแล้วโอบเอวดึงเข้ามาประชิดตัวแล้ว ร่างบางจึงทำเพียงก้มหน้ามองกระดุมเสื้อของอีกฝ่าย

     

    ''ทำอะไรทำไมไม่ยอมบอกก่อนฮึ''

     

    ''ถ้าบอกอาคาชิคุงจะยอมไหมคะ''

     

    ''ถ้าสึบากิตกลงรับจข้อเสนอฉันจะยอมถ่ายโฟโต้บุ้คให้ดีไหม'' อาคาชิก้มหน้าจมไปกับเรือนผมสีดำที่มีกลิ่นอ่อนๆของแชมพูที่เริ่มจะเสพติดมากขึ้นทุกวัน จมูกเขาปัดป่ายไปมาก่อนจะผละออกอย่างเสียดาย

     

    ''ข้อเสนออะไรคะ'' สึบากิเงยหน้าถามดววตาสีฟ้ามีประกายเมื่อเธอไม่ได้โดนลงโทษตามที่คาดแต่กลับได้รับข้อเสนอจากแฟนหนุ่มมาแทน

     

    รอยยิ้มผุดที่มุมปากของอาคาชิที่เจ้ากระต่ายดำตัวน้อยหลงกลเขาเข้าแล้ว

     

    ''ทำข้างกล่องให้ฉันกินทุกวันแล้วก็…''

     

    อาคาชิเชยคางร่างบางขึ้นแล้วก้มหน้าไปหอมแก้มแฟนสาวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถอนหน้าออกมามองสึบากิที่ตอนนี้หน้ากากปลาตายหลดออกมาหมดแล้วเหลือแต่ใบหน้าที่แดงระเรื่องและริมฝีปากที่เม้มแน่นเป็นเส้นตรงด้วยความเขินอาย

     

    มือเล็กกำหมัดแน่นก่อนจะทุบไปที่อกคนที่โอบเอวเธออยู่ ส่วนอาคาชิทำเพียงยืนกอดร่างบางให้แนบชิดยิ่งขึ้นแล้วหัวเราะในลำคอ

     

    ''คนลามก''สีบากิบ่นอุบอิบที่วันนี้เธอโดนอาคาชิแกล้งอีกแล้ว

     

    อย่าให้ถึงทีของเธอบ้างนะ! สึบากิขบเขี้ยวอยู่ในใจ(ฮ่าๆๆ)

     

     

     

     

     

    วันต่อมาที่ห้องสภานักเรียน

     

    ''งั้นพวกฉันไปกินข้าวกลางวันก่อนนะ'' ประธานนักเรียนทาคุมิโบกมือลารุ่นน้องทั้งสองที่ขานรับโดนแต่ละคนยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป ทาคุมิถอนหายใจกับนิสัยคู่รักคู่นี้ที่ดูจะบ้างานทั้งคู่ด้วยความอ่อนใจก่อนเขากับอายะจะเดินออกจากห้องเหลือแค่เหรัญญิตและรองประธานนักเรียน

     

    สึบากิกำลังคำนวณตัวเลขค่าใช่จ่ายสำหรับการทำโฟโต้บุ้คพร้อมเปรียบเทียบราคาแต่ละโรงพิมพ์ที่ดูจะคุ้มค่าและมีคุณภาพอย่างที่เธอต้องการ ผ่านไป20นาทีดูเหมือนว่างานของเธอจะเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนจะหันไปมองโต๊ะข้างๆที่น่าจะมีคนนั่งอยู่กลับหายไปไหนแล้วไม่รู้ เธอจึงลุกมายืดเส้นสยืดสายก่อนจะเดินไปส่วนห้องพักเพื่อหาน้ำดื่มแก้กระหาย

     

    ขาเรียวชะงักเมื่อเธอเดินผ่านโซฟาแดงแล้วพบว่าคนที่หายไปมานั่งหลับเท้าคางหลับไปแล้วและดูท่าจะหลับลึกอยู่จากลมหายใจที่สม่ำเสมอ ร่างบางค่อยๆเดินไปที่ตู้เย็นหยิบน้ำเปล่ามาดื่มก่อนจะคว้าเอาถุงผ้าที่มีกล่องข้าวของเธอและอาคาชิมาวางที่โต๊ะหน้าโซฟา

     

    สึบากิกำลังจะปลุกคนหลับให้ตื่นมากินข้าวก่อนจะชะงักพลางนึกถึงบทสนทนาของเพื่อนๆเมื่อวาน ดวงตาสีฟ้าเข้มลุกลนไปมาเธอมองไปที่ประตูห้องพักก่อนจะค่อยๆเดินไปปิดพร้อมลงกลอนไว้ก่อน ในสมองคำนวณเวลาแล้วพวกรุ่นพี่และคนอื่นๆน่าจะกลับมาที่ห้องอีกประมาณ30นาทีได้ มีเวลาเหลือเฟือ

     

    เธอกลับมานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าอาคาชิที่ยังคงหลับสนิทอยู่ท่าเดิม สึบากิไม่เคยคิดว่าเธอแค่สนใจอยากดูเรื่องราวของพวกเขาตัวละครในมังงะที่เธอชอบอย่างใกล้ชิดจะกลายมาเป็นว่าเธอดันไปคบหาพวกเขาเป็นเพื่อนและเป็นแฟนกับอาคาชิ เซย์จูโร่ จักพรรดิสีแดงไปได้

     

    ลึกๆเธอมีความกังวลกับอีกตัวตนหนึ่งของอาคาชิถึงจะพอรู้นิสัยมาบ้างแล้วแต่ว่าเธอคงจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ทำได้เพียงแค่อยู่เคียงข้างคนๆนี้ต่อไปเรื่อยๆเท่านั้น เอาเถอะตอนนี้ยังพอมีเวลาค่อยคิดถึงเรื่องนั้นตอนหลังแต่ตอนนี้นี่สิ…

     

    มือเล็กไล่ไปตามกรอบหน้าคมสันเธอกวาดตามมองไปทั่วใบหน้าที่สาวๆทุกคนชื่นชอบแต่สำหรับเธอมันก็แค่เปลือกนอกเท่านั้น ส่วนตัวเธอแล้วเธอชอบที่ตัวตนของเขาทั้งตัวตนที่เป็นอยู่ตอนนี้และตัวตนที่แข็งแกร่งของเขาด้วย นิสัยที่ชอบออกคำสั่งและเด็ดขาดนั้นก็ด้วย

     

    แต่ก็ยังมีมุมที่อ่อนโยนถึงอย่างนั้นแผ่นหลังกว้างเวลาเธอมองมันให้ความรู้สึกทรนงและโดดเดี่ยวไปพร้อมกัน

     

    ถึงจะรู้ว่าเขาจะต้องเจอกับอะไรบ้างในอนาคตข้างหน้าแต่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะกอดแผ่นหลังนี้ไว้

     

    รอยยิ้มผุดที่มุมปากของร่างบางก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนหลับจนห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เซน

     

    ''ถ้ายังแกล้งหลับแบบนี้จะไม่จูบแล้วนะคะอาคาชิคุง''

     

    คนที่ที่แกล้งหลับลืมตามองคนรู้ทันเขาก่อนจะยกยิ้มที่โดนแฟนสาวจับได้ซะแล้ว มือเรียวม้วนผมอีกฝ่ายเล่นไปมาก่อนจะรวบเอวร่างบางขึ้นมานั่งบนตักเขา สึบากิส่งเสียงร้องตกใจที่จู่ๆโดนอาคาชิคว้าเอวมานั่งตัก ถ้าใครมาเห็นต้องเข้าใจผิดไปไกลแล้ว

     

    ''ตื่นแล้วทีนี้จูบได้รึยังสึบากิซัง'' อาคาชิเลิกคิ้วถาม

     

    ''ขี้โกง'' สึบากิขมวดคิ้วเธอใช้สองมือดันอกอีกฝ่ายไว้แต่ดูท่าจะไม่ได้ผลแถมอาคาชิยังใช้มือกดท้ายทอยเธอให้โน้มลงมาใกล้ชิดกับใบหน้าตัวเองอีก จนปากแทบจะชนกันแล้ว

     

    ''โมโมอิไม่ได้บอกหรอว่าต้องเอาใจฉันให้มากๆหน่อยนะหืม?''

     

    ''นี้พวกคุณรวมหัวกัน!''

     

    ''สึบากิ…ทีนี้จูบได้รึยัง?''

     

    เจอคำถามนี้เข้าไปสึบากิไปไม่ถูกเธอส่ายหน้าตอนนี้ใบหูขาวเป็นสีแดงเข้มแล้ว ก่อนจะหนีไปซุกหน้าที่คอของแฟนหนุ่มแทน อาคาชิตัวเกร็งไปชั่วขณะก่อนจะค่อยๆหายใจควบคุมตัวเองที่พักหลังจะคุมยากเวลาที่ร่างบางมาคลอเคลียแบบนี้ส่วนสึบากิที่ไม่รู้เรื่อง?ยกยิ้มก่อนจะพูดโดยที่แกล้งเอาปากเฉียดต้นคออีกฝ่ายทำเอาอาคาชิที่ควบคุมตัวเองเอ่ยเตือนในลำคอ

     

    ''สึบากิอย่าเล่นแบบนี้''

     

    สึบากิที่โดนเตือนหยุดแกล้งความอดทนของแฟนหนุ่มก่อนจะผละออกมือเล็กประคองใบหน้าอาคาชิที่ตอนนี้ในตาสีแดงเข้มขึ้นกว่าปกติ

     

    ''ก็ได้ไม่เล่นแล้ว''

     

    ร่างบางโน้มหน้าลงไปจูบแฟนหนุ่มแผ่วเบาเหมือนแมลงปอที่สัมผัสผิวน้ำก่อนจะผละออกมาแล้วกลับเข้าไปใหม่ความนี้มันหนักแน่นแต่อ่อนโยนและเนิ่นนาน

     

    ขณะที่สึบากิกำลังเผลอไปกับสัมผัสมือเรียวกดเข้ามีท้ายทอยของเธอให้สัมผัสแนบแน่นขึ้นไปอีกคราวนี้เธอถูกอาคาชิลุกล้ำเข้ามาไม่ทันได้ตั้งตัวและไม่อาจขัดขืน มือเล็กปัดป่ายไปตามลำคอและไรผมสีแดง อาคาชิครางในลำคอด้วยความพอใจ ก่อนจะค่อยๆถอนออกมาอย่างเสียดายเมื่อร่างบางเริ่มหายใจไม่ทัน

     

    สึบากิลืมตาขึ้นดวงตาสีแดงคู่สวยจ้องมองมายังเธอมันทั้งสวยงามและดึงดูดในตกอยู่ในห้วงฝันจนไม่อยากตื่น

     

    ''ขออีกได้ไหม''

     

    ''มะ…ไม่เอาละ…แล้วแฮ่กๆ'' สึบากิส่ายหน้า เธอสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างบ้าคลั่ง

     

    อาคาชิจ้องไปที่ริมฝีปากที่เริ่มบวมด้วยฝีมือเขามุมปากมีรอยน้ำ เขาใช้นิ้วโป้งเช็ดรอยน้ำออกก่อนจะเริ่มอีกครั้งอย่างเอาแต่ใจ

     

    แล้วจะมาถามเธอทำไมละเนี้ย!! สึบากิผู้ซึ่งได้แต่กรีดร้องในใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ''พอแล้ว…นะมันรอบที่สามแล้วนะ!เซย์!!''

     

    ''จะได้หลงนานๆไม่มีใครแย่งไปได้ไงไม่ดีหรอ?''

     

    ''!!!!''

     

    ''ไม่มีข้อโต้แย้งนะ'' อาคาชิรวบรัดก่อนจะเริ่ม…เป็นรอบที่เอ่อ…สี่

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×