ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic kuroko no basket,knb] Love is the honey (Akashixoc)

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 65


     

     

    Chapter 8 : Trap and Tag

     

     

    วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันของชมรมบาสเพราะทางชมรมบาสเทย์โควได้จัดการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์กับกลุ่มโรงเรียนในเขตเดียวกันขึ้นในฐานะผู้ช่วยโค้ชสึบากิจำเป็นจะต้องมาเพื่อเก็บข้อมูลผู้เล่นทุกคนขณะแข่งขันและให้คะแนนการพัฒนาทางด้านร่างกายและความสามารถเพื่อใช้เป็นเกณฑ์คัดเลือกและจัดอันดับแต่ละทีม

     

    ส่วนงานสำคัญอีกอย่างคือต้องคอยเฝ้าจับตามองผู้เล่นตัวจริงและออกแบบการฝึกซ้อมร่างกายให้เหมาะสมแต่ละคนให้เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพร่างกายให้เข้ากับพรสวรรค์และความถนัดในแต่ละด้าน

     

    "สึบากิจังทางนี้เรียบร้อยแล้วนะคะ'' โมโมอิตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆเรียบร้อยแล้ว เดินมาหาสึบากิพร้อมกับสวัสดิการสองคนที่รู้จักกับเธอดีนั้นก็คือ มินามิและฮิคาริ

     

    ''วันนี้ต้องรบกวนมินามิจังและฮิคาริจังด้วยนะคะ'' สึบากิเอ่ยกับทั้งสองคนที่วันนี้มาช่วยเธอและโมโมอินอกสถานที่

     

    ''ไม่รบกวนหรอกนี้เป็นโอกาสดีด้วยซ้ำได้ออกมาดูการแข่งวันนี้'' มินามิขยับเข้ามาใกล้เธอเอ่ยเสียงเบาๆให้ได้ยินกันสี่คนด้วยแววตาตื่นเต้นที่วันนี้จะได้เห็นอาคาชิซามะลงแข่งแบบชิดขอบสนาม

     

    ''อาน้า~'' ฮิคาริที่กวาดตามมองนักกีฬาพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนสาว ก่อนจะหันมามองสึบากิอย่างคนจับผิด คนโดนจ้องมองสะดุ้งก่อนจะขอตัวไปคุยธุระกับนิจิมุระที่ยืนไม่ไกลมาก

     

    ''ฮิคาริจังมีอะไรรึเปล่าคะ?'' โมโมอิเอียงคอเธอมองฮิคาริที่ยิ้มเจ้าเล่ห์สลับกับสึบากิที่วันนี้ดูจะร้อนรนเหมือนคนปกปิดอะไรไว้

     

    ''โมโมอิพวกเราถามอะไรหน่อยสิสองคนนั้นเขาไปถึงขั้นไหนกันแล้ว'' มินามิจับเพื่อนสาวทั้งสองมาสุมหัวคุยพลางเหล่มองไปที่อาคาชิ

     

    ''เมื่อวานตอนเย็นพวกเราเห็นว่าสึบากิอยู่ในห้องล็อคเกอร์กับอาคาชิแบบสองต่อสอง'' ฮิคาริเข้าประเด็นสำคัญ

     

    ''อ้อเรื่องนั้นคือว่า…มันเป็นแบบนี้นะคะ………'' โมโมอิเจ้าแม่ข้อมูลและสายข่าวอธิบายให้เพื่อนสาวทั้งสองเท่าที่เธอรู้มา

     

    ''แม่เจ้า!!'' มินามิอุทานเสียงดังจนคนทั่วบริเวณหันมามองกลุ่มพวกเธอ ก่อนที่เธอโค้งขอโทษที่เสียงดังรบกวนคนอื่นจึงกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

     

    ''อืม…สมเป็นอาคาชิคุงดีนะคะรุกได้ดุดันมาก''ฮิคาริออกความเห็น ทำเอาสาวชอบมโนอย่างมินามิฟังแล้วแก้มแดง

     

    ''ถ้าเป็นฉันนะคงยอมแล้ว''

     

    มินามิเอ่ยเสียงสั่นด้วยใจเต้นแรงโดยมโนว่าถ้าตัวเองโดนรุกแบบที่สึบากิบ้างต่อให้ไม่ใช่อาคาชิคุงเธอก็คงเขินจนละลาย อีกใจก็อดนับถือเพื่อนสาวเจ้าของฉายาเจ้าหญิงหิมะไม่ได้ที่ยังเยือกเย็นไม่หวั่นไหว?แม้จะโดนรุกอย่างหนักหน่วงจากเจ้าชายสีแดงคนนั้น

     

    ''เพราะเป็นสึบากิจังของพวกเราละนะคะ''

     

    โมโมอิหัวเราะเบาๆเพื่อนสาวอีกสองก็หัวเราะตามสายตาวาววับสามคู่มองกันไปมาอย่างเข้าใจกับนิสัยที่ชอบวิ่งหนีแบบเด็กๆของคนหน้าปลาตาย แต่รอบนี้เป็นนายพรานอาคาชิคงจะหนียากหน่อยรอแค่เวลาเท่านั้นสินะ

     

    จะหนีไปได้ซักกี่น้ำกันนะสึบากิจัง~ ทั้งสามคิดในใจ

     

     

    ''ฮั้ดชิ้ว!''

     

    คนโดนนินทาหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่จมูกก่อนเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง วันนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตผ้าลินินสีครีมแขนยาว ที่บ่าพาดด้วยเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อน ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงยีนสีเข้ารูปสีเข้มเข้ากับรองเท้าผ้าใบสีขาวล้วนคู่โปรดที่ใส่ประจำ นิจิมุระมองคนจามด้วยความเป็นห่วงวันนี้อากาศเย็นลงเฉียบพลันคนขี้หนาวอย่างสึบากิจะชอบมาป่วยกับอากาศแบบนี้ประจำ

     

    ''เอาเสื้อคลุมมาก็หัดใส่บ้างนะสึบากิ''

     

    มือใหญ่ยีหัวรุ่นน้องไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว ร่างบางขานรับก่อนจะหยิบเสื้อคลุมมาส่วมใส่อย่างว่าง่าย นิจิมุระแปลกใจกับรุ่นน้องจอมดื้อที่วันนี้ดูจะเชื่องผิดปกติ เขาละสายตาแล้วมองไปทางรองกัปตันที่ยืนเช็ครายชื่อนักกีฬาอยู่ตรงประตูรถมินิบัส อาคาชิโค้งทักทายด้วยรอยยิ้ม ทำเอารุ่นพี่หนุ่มขนลุกเกรียว

     

    เหลือเวลาอีก10นาทีรถจะออกเดินทางไปยังโรงเรียนที่พวกเขาจะต้องไปแข่งขันแต่ยังไร้เงาของไฮซากิตัวปัญหา ก่อนที่จะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น อาคาชิหยิบมากดรับสายก่อนจะเดินมายื่นให้นิจิมุระแล้วบอกว่าสายจากไฮซากิ

     

    ''วันนี้ฉันไม่สบายนะแค่กๆๆคงไปลงแข่งด้วยไม่ได้แค่กๆๆปริ้บ!'' นิจิมุระที่ตอนนี้ขมับเต้นตุบๆด้วยความโกรธเขาเดินไปรายงานกับโค้ชซานาดะเรื่องที่ไฮซากิไม่สบายและจะมาลงแข่งไม่ได้ ทิ้งให้สึบากิที่ตอนนี้ยืนประจันหน้ากับอาคาชิ บรรยากาศแปลกๆลอยฟุ้งระหว่างคนสองคน

     

    สึบากิที่ตอนนี้นึกได้ว่าเธอยังติดค้างบทลงโทษจากอาคาชิเมื่อวานอยู่ หลังบางผุดเหงื่อออกมาทั้งที่อากาศวันนี้ออกจะเย็นแท้ๆ ยิ่งดวงตาสีแดงคู่นั้นมองมายังเธอชนิดไม่กระพริบตาแถมยังส่งรอยยิ้มมาให้อีก ร่างบางยิ่งเกร็งเครียดความรู้สึกเหมือนเธอเป็นกระต่ายตัวน้อยที่ยืนตรงหน้าสิงโตตัวใหญ่

     

    ''อรุณสวัสดิ์นะสึบากิซัง'' สึบากิเผลอสะดุ้ง ก่อนจะทักทายกลับเธอลืมไปว่าวันนี้พวกเขายังไม่ได้ทักทายกันเลย

     

    ''อะอาอรุณสวัสดิ์อาคาชิคุงแฮะๆ''

     

    อาคาชิมองท่าทางหวาดระแวงด้วยความเอ็นดู สึบากิคงไม่รู้ตัวว่าผมตัวเองที่ถูกนิจิมุระซังยีหัวมันชี้ฟูไปมาประกอบกับท่าทางด้วยแล้วให้ความรู้สึกสัตว์ตัวน้อยที่พองขนเวลาตื่นกลัวหรือเวลาโกรธ เขาสำรวจไปที่ใบหน้าที่ใต้ตาคล้ำลงเล็กน้อยแววตาสีฟ้าเข้มอ่อนแสงเหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ ดูท่าเขาจะแกล้งร่างบางหนักมือไปหน่อย

     

    มือเรียววางบนกลุ่มผมสีดำก่อนจะค่อยใช้นิ้วสางผมที่นุ่มลื่นมีน้ำหนักให้กลับมาเรียบร้อยตามเดิม อาคาชิยังคงใช้นิ้วเกลี่ยและม้วนปายผมไปมาโดยไม่สนใจสายตาที่คนอื่นๆหันมามองและกระซิบกระซาบถึงความสนิทสนมระหว่างเขากับสึบากิที่ดูจะมากกว่าเป็นแค่เพื่อนทั่วไป ส่วนสึบากิยืนแข็งทื่อไปตั้งแต่โดนลูบหัวแล้วจะปัดมือทิ้งก็ไม่ได้แต่โดนคนอื่นๆมองด้วยสายตาแบบนี้เธอก็ไม่ชอบเช่นกัน

     

    โดยเฉพาะสายตาอันร้อนแรงที่เธอรู้สึกมาจากทางด้านหลังที่คาดว่าหลังจากนี้เธอจะต้องโดนเพื่อนสาวทั้งสามที่มีท่าทางเหมือนหมาน้อยเตรียมพร้อมจะพุ่งใส่เธอตลอดเวลารุมทึ้งแน่นอน

     

    ''อาคาชิคุงปล่อยได้แล้ว''

     

    สึบากิพูดเสียงแผ่ว แต่สายตาจ้องมองด้วยความไม่พอใจหลังจบการแข่งวันนี้พรุ่งนี้ที่โรงเรียนชีวิตอันสงบสุขของเธอโดนท่านชายอาคาชิดีดนิ้วสลายไปเรียบร้อยแล้ว

     

    ''ยังไม่ลืมใช่ไหมว่าคุณติดค้างอะไรไว้อยู่''

     

    อาคาชิยังไม่ละจากเส้นผมเรียบลื่น เขาหัวเราะในลำคอรอยยิ้มผุดที่มุมปาก สำหรับสึบากิตอนนี้รอยยิ้มพิฆาตรนารีเหมือนเป็นรอยยิ้มจากซาตานกำลังตัดสินโทษเธอมากกว่า ริมฝีปากชมพูระเรื่อเม้มเป็นเส้นตรง ก่อนพ่นลมหายใจออก

     

    ''เป็นแฟนฉันหนึ่งวันนี่คือบทลงโทษ''

     

    '…!!!' แกรก!

     

    เสียงกระป๋องน้ำในมือของอาโอมิเนะที่เพิ่งจะมาถึงร่วงลงพื้นพร้อมดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะรีบเก็บกระป๋องแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับคิเสะที่ยืนอยู่อีกด้าน ส่วนสึบากิที่ได้รู้บทลงโทษเหมือนมีเสียงฟ้าผ่าลงกลางหัวอยู่ข้างใน ภายนอกยังคงมีสีหน้าปลาตายปกติแต่ข้างในกำลังกรีดร้องไปไกลแล้ว

     

    ดวงสีฟ้าเข้มกวาดตามองหาตัวช่วยอย่างนิจิมุระแต่เหมือนจะหายตัวไม่อยู่ใกล้ๆเมื่อหันไปมองกลุ่มพวกหัวหลากสีทุกคนเอาแต่หลบสายตา เธอจึงหันหลังกลับไปมองหาเพื่อนสาวทั้งสาม……เอ่อไม่ดีกว่า

     

    ''วันนี้จะไม่มีใครช่วยคุณได้ทั้งนั้นสึบากิซังรวมถึงนิจิมุระซังก็ด้วย'' น้ำเสียงขบขันจากคนด้านหลังทำเอาสึบากิต้องกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ นี้สิความรู้สึกของการถูกไล่ต้อน

     

    ''ละแล้วมันต้องทำยังไงบ้างไอ้ที่เป็นแฟนกัน''

     

    สึบากิเมื่อหนีไม่ได้ก็คงต้องหันหน้าสู้ อาคาชิที่มองท่าทีที่เปลี่ยนไปของร่างบางเขาจึงปล่อยเส้นผมที่ม้วนเล่นแล้วเปลี่ยนมากุมมือเล็กแล้วดึงให้เดินตามขึ้นไปนั่งประจำที่ในรถโดยไม่ลืมกำชับว่าห้ามหนีห้ามเปลี่ยนที่นั่งเด็ดขาด สึบากิกอดอกหันหน้าหนีแต่ไม่ได้พูดอะไร อาคาชิจึงหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินลงมาเรียกให้สมาชิกคนอื่นๆขึ้นรถ

     

    ''อาคาชิคุงบังคับกันมากไปมันไม่ดีนะคะ'' โมโมอิและเพื่อนสาวเดินมาหยุดตรงประตูรถที่มีอาคาชิกับกัปตันนิจิมุระยืนอยู่ เธอเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี สึบากิคนนี้ถ้าโดนบังคับมากๆก็เหมือนระเบิดเวลาดีๆนี้เอง

     

    เธอพอทราบมาว่าบ้านชิรายูกิเลี้ยงลูกๆแตกต่างจากบ้านลูกคนหนูอื่นๆที่จะบังคับให้เรียนตามแบบแผนของตระกูลแต่บ้านนี้กลับปล่อยให้ลูกทุกคนมีอิสระเสรีที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ยิ่งเป็นสึบากิที่มีพี่ชายสี่คนคอยตามใจรวมถึงกัปตันนิจิมุระด้วยแล้วการโดนอาคาชิมาคอยควบคุมมากๆเธอกลัวว่ามันจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

     

    ''ปล่อยให้โดนลงโทษซะบ้างก็ดีเวลาหนีมาร้องไห้ฉันจะได้เป็นคนมานั่งปลอบใจดีไหมอาคาชิหึหึ''

     

    นิจิมุระเย้าแหย่อาคาชิที่กล้าแกล้งรุ่นน้องตัวแสบของเขา โมโมอิที่เห็นว่ารุ่นพี่สนันสนุนเธอจึงขอตัวขึ้นไปบนรถกับเพื่อนสาวที่แอบมองรองกัปตันแล้วหัวเราะคิกคัก

     

    ''ผมไม่ปล่อยให้ได้หนีไปหานิจิมุระซังแน่นอนครับ'' ดวงตาสีแดงตวัดมองรุ่นพี่ ราวกับสื่อว่าผมจะต้องอยู่เหนือคุณให้ได้นิจิมุระซังโดยเฉพาะเรื่องของสึบากิ ส่วนรุ่นพี่มองกลับด้วยสายตาท้าทายว่าถ้านายทำได้ก็ลองดู

     

    ต่อให้สึบากิตกลงคบกับนายฉันก็จะเป็นก้างที่เกี่ยวคอนายไปตลอดนั้นแหละหึหึ นิจิมุระคิดในใจ

     

    ''เอ้าในเมื่อคนครบแล้วพวกเราก็ไปกันเถอะ''

     

    นิจิมุระจบสงครามทางสายตากับรุ่นน้องแล้วเดินนำขึ้นรถไปนั่งเบาะที่อยู่ตรงข้ามกับสึบากิ ด้านข้างไม่มีใครนั่ง ส่วนอาคาชิเดินมานั่งข้างๆสึบากิที่ตอนนี้นั่งกอดตุ๊กตาลูกเจี๊ยบสีรุ้งหลับไปแล้ว เขาเอื้อมมือประคองศรีษะของสึบากิให้เอียงมาพิงไหล่ตัวเองไม่ทันได้ตั้งตัวคนหลับละเมอถูไถหัวไปมากับไหล่ของเขาเพื่อหามุมพิงที่สบายก่อนจะพึมพำพูดอะไรซักอย่างด้วยเสียงออดอ้อนว่า

     

    ''อื้อ~ชูโซขออีก10นาทีน้า~''

     

    นิจิมุระที่นั่งอยู่ตรงข้ามกลั้นขำจนไหล่สั่นที่เห็นสีหน้ารุ่นน้องกระตุกถึงแม้จะเสี้ยววินาทีก็ตาม ก่อนเขาจะเลิกคิ้วกวนประสาทไปอย่างผู้ชนะ อาคาชิยังคงรักษ่สีหน้าเรียบเฉยไว้ได้เขาไม่สนใจรุ่นพี่ก่อนจะกอดอกแล้วหลับตาไม่อยากจะเสวนาใดๆกับกัปตันที่นั่งหันหน้าอยู่ตรงข้ามเขา โดยไม่ทันได้เห็นว่าคนที่น่าจะหลับไปแล้วแอบลืมตามายักคิ้วให้รุ่นพี่หนุ่มเห็น ส่วนคนที่รู้อยู่แล้วได้แต่ส่ายหน้าอ่อนใจกลับไป

     

    ให้ตายสิเจ้าพวกนี้นิสัยพอกันจริงๆ

     

    เมื่อทุกคนประจำที่รถมินิบัสจึงเคลื่อนตัวไปสู่จุดหมายปลายทางของวันนี้

     

     

    ''ว้าวมากันแล้วทีมที่แข็งแกร่งที่สุด ม ต้นเทย์โคว''

     

    ''มีทีมที่เราเคยสู้อยู่ด้วยแฮะแต่ดูไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่'' มุราซากิบาระหยิบมันฝรั่งทอดขึ้นมากิน

     

    ''เลิกกินขนมได้แล้วมุราซากิบาระ'' มิโดริมะกล่าวด้วยความหงุดหงิดจากเสียงเคี้ยวขนม

     

    ''ครั้งนี้จะใช้ปีสองลงแข่งเท่านั้นขอให้เตรียมพร้อมกันไว้ด้วยนะคะ'' สึบากิกล่าวเมื่อทุกคนเริ่มถอดเครื่องแบบและนั่งลงประจำม้านั่ง

     

    ''เนื่องจากไฮซากิขาดดังนั้นตังจริงที่จะลงแข่งมี อาคาชิ มิโดริมะ มุราซากิบาระ อาโอมิเนะและคุโรโกะส่วนคิเสะจะเป็นตัวสำรอง'' โค้ชซานาดะแจกแจงรายละเอียดการลงแข่งครั้งนี้เขาต้องการดูฟอร์มของปีสองหากสถานะการแย่จะให้พวกรุ่นพี่ลงสลับ

     

    ''คู่แข่งรอบนี้เป็นโรงเรียนนัมบาระนับได้ว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่อันดับสูงพอตัว'' โมโมอิอ่านข้อมูลที่หามา สึบากิไม่ได้สนใจฟังเท่าไหร่นักเธอกำลังรอดูหนึ่งในแก็กที่เธอนั่งขำเมื่ออ่านถึงตอนนี้ คิกๆ ดวงตาสีฟ้ามองไปยังผู้เล่นเบอร์15 คุโรโกะ

     

    แต่สีหน้าเธอก็กลับมาเคร่งเครียดลงเพราะเธอจำได้ว่าแมตซ์แรกของคุโรโกะต้องเกิดช่วงปีหนึ่งและคิเสะยังไม่เข้ามาแต่ตอนนี้มันดันกลับกันไปหมดคุโรโกะลงแข่งกับคิเสะไปก่อนแล้วค่อยมาได้ลงแข่งแมตซ์ทัวร์นาเม้นต์นี้ที่จะต้องแข่งกับอีก10โรงเรียนในเขต

     

    ''ขอให้เป็นแมตซ์ที่ดีนะครับ!'' ทั้งสองทีมทำความเคารพก่อนจะมีเสียงนกหวีดเพื่อเริ่มสัญญาณการแข่งขันขึ้น

     

    อาคาชิรับลูกมาจากมุราซากิบาระเขาเลี้ยงลูกไปช้าๆแล้วหันไปบอกคุโรโกะที่สะดุดล้มลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว!!! ท่ามกลางความตกตะลึงไปทั้งสนาม คุโรโกะลุกขึ้นยืนก่อนจะรู้สึกมีของเหลวที่จมูกเขาเอามือแตะดูพบว่ามีเลือดไหลลง โค้ชซานาดะจึงรีบเปลี่ยนตัวออกและให้นิจิมุระลงสนามแทน

     

    สึบากิกลั้นขำกับฉากตรงหน้า มือเล็กปาดน้ำตาที่หางตาออกไม่ไหวคุโรโกะคุงคนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงดี

     

    ''ฉันจะสั่งสอนที่หลังก่อนอื่นต้องชนะก่อน'' นิจิมุระกัปตันทีมพ่วงด้วยตำแหน่งผู้เล่นพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดของ ม ต้นในตอนนี้กล่าว

     

    นิจิมุระเลี้ยงลูกด้วยความว่องไวเขาหมุนตัวหลบและคอสโอเวอร์ผ่านผู้เล่นไปหนึ่งคนก่อนจะส่งลูกกลับมาให้มิโดริมะชู้ตสามแต่มแรกของแมตซ์ ''เยี่ยม!''

     

    ''นิจิมุระ!ฉันจะทดสอบพวกเขาวันนี้ไม่ต้องเล่นเต็มที่เข้าใจไหม'' โค้ชซานาดะตะโกนคำสั่ง คนโดนสั่งทำสีหน้ารับทราบแบบเซ็งๆ ก่อนจะเห็นรุ่นน้องที่ยืนส่งยิ้มโบกมือไปมาข้างสนามด้วยความกวนประสาท

     

    การแข่งยังคงดำเนินต่อไปอาคาขิส่งลูกให้มุราซากิบาระที่ยืนประจำตำแหน่งตามแผนการไว้แล้วก่อนจะอะเลย์ฮุปสร้างความตกตะลึงไปทั้งสนามที่มีเด็ก ม ต้นทำท่านี้ได้ เสียงพูดคุยแซงแซ่ไปทั่วทั้งอัฒจัน

     

    ''ความอึดของพวกเขายังไม่เพียงพอและวันนี้ต้องแข่งถึงสองแมตซ์โค้ชจะเปลี่ยนตัวไหมคะ'' สึบากิหันมาถามโค้ชอย่างขอความเห็น ซานาดะเห็นด้วยก่อนจะส่งสัญญาณเปลี่ยนตัวให้คุโรโกะลงแทนนิจิมุระ

     

    ถึงอย่างนั้นจังหวะของเขายังไม่สามารถเข้ากับของคนอื่นได้ทำให้เกิดความผิดพลาดในการส่งลูกแม้จะมีความพิเศษแต่ถ้าเป็นตัวถ่วงเขาจะต้องถูกลดขั้นและกลับไปที่จุดเดิมนั้นคือปัญหา และแม้ว่าในแมตซ์แรกของวันเทย์โควจะสามารถเอาชนะมาได้แต่มันยังไม่พอ ซึ่งสึบากิรู้ดีว่าอะไรถึงเป็นแบบนั้นแต่มันไม่ใช่น่าที่ของเธอละนะที่จะเป็นคนแก้ปัญหานี้ร่างบางทำเพียงบันทึกการแข่งขันและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อมูลกับโมโมอิเพื่อวิเคราะห์คู่แข่งในแมตซ์รอบบ่าย

     

    ''มิเนะจินนั้นมันอะไรอ่ะ'' มุราซากิมองกล่องข้าวที่มีสีสันน่าจะเหมือนยาพิษมากกว่าอาหารด้วยความระแวงพลางเคี้ยวกุ้งเทมปุระไปด้วย

     

    ''ข้าวกล่องของซัทสึกิเอาไหม'' อาโอมิเนะยื่นข้างกล่องที่เพื่อนสมัยเด็กทำมาให้เขาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ มุราซากิบาระส่ายหน้าไปมาเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนทำให้ เขายังไม่อยากท้องเสียละนะ คนผิวเข้มขอตัวไปร้านสะดวกซื้อก่อน

     

    ''พวกซัทสึจินไปไหนกันหมดเนี้ยฝากข้าวกล่องแล้วหายไปเลย''

     

    ''ฉันขอให้พวกเธอไปทำหน้าที่บางอย่างค่ะแต่อีกเดี้ยวคงจะกลับกันมาแล้วนี่ค่ะส่วนของอัตสึขิคุง'' สึบากิตอบมือเล็กคลายปมผ้าที่ห่อข้าวกล่องสีดำสองชั้นของตัวเองก่อนจะเปิดฝาและแบ่งส่วนบนให้เจ้าไททั่นม่วงที่เหลือบมองมาตั้งแต่เธอเริ่มเอากล่องข้าวออกมาจากถุงหิ้วด้วยแววตาหิวโหยทั้งที่ตัวเองมีข้าวกล่องในมืออยู่แล้ว

     

    ''ขอบคุณนะสึบาจินโอ้ะนี้อะไรเนี้ยกระเป๋าตังของมิเนะจินนี่'' มุราซากิบาระรับส่วนแบ่งที่รอคอยก่อนจะเหลือบไปเห็นกระเป๋าตังของเพื่อนร่วมทีม เขาวางข้าวกล่องตัวเองแล้วหยิบมันขึ้นมาดู

     

    ''แล้วแบบนี้เจ้านั้นจะซื้ออะไรได้'' มิโดริมะส่ายหน้าให้กับความสำเพร่าของคนผิวเข้ม

     

    ''เดี้ยวผมเอาไปให้เองครับอ้ะ!มุราซากิบาระคุงจู่อย่าขว้างมาแบบนี้สิครับ'' คุโรโกะรับกระเป๋าพลาด ก่อนจะหยิบกระเป๋าที่พื้นแล้วเดินไปตามอาโอมิเนะ อาคาชิที่นั่งมองอยู่เหมือนจะฉุดคิดอะไรได้ปัญหาของคุโรโกะเขาพอจะเข้าใจแล้ว ส่วนตอนนี้…อาคาชิหันไปมองสึบากิที่กำลังเริ่มกินข้าวพลางพูดคุยกับพวกเพื่อนๆร่วมทีม

     

    ''แล้วส่วนของฉันละสึบากิซังทำไมทำให้แต่มุราซากิบาระแล้วไม่มีส่วนของแฟนอย่างฉัน'' อาคาชิขยับมานั่งใกล้ๆสึบากิเอ่ยด้วยเสียงทุ้มเบาๆ สึบากิที่คุยกับไททั่นม่วงและคิเสะหันมามองด้วยความแปลกใจก่อนจะหรี่ตาสมองวิเคราะห์ความต้องการของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วแล้วยื่นข้าวกล่องส่วนของตัวเองและฉวยเอาข้าวกล่องในมืออาคาชิมาถือไว้แล้วพูดว่า

     

    ''อันนี้ของแฟนอย่างอาคาชิคุงค่ะ!''

     

    ร่างบางเปิดฝาข้าวกล่องของอาคาชิที่มีเมนูเต้าหู้ผัดทรงเครื่องก่อนจะรีบกินเข้าไปโดยไม่ยอมเปิดช่องว่างให้อาคาชิได้โต้แย้งหรือทำการอะไรแปลกๆต่อหน้าเพื่อนคนอื่นๆอีกแน่ แค่เมื่อเช้าเธอแทบจะมุดหนีเพื่อนสาวทั้งสามที่คอยตามประกบพร้อมส่งสายตาล้อเลียนมาตลอดรวมถึงตอนแข่งขันโมโมอิที่มักจะจริงจังกับหน้าที่ตัวเองยังส่งสายตาวิบวับมาให้เป็นระยะ

     

    อาคาชิที่โดนสลับข้าวกล่องส่ายหน้ากับความน่ารักของร่างบางก่อนจะคีบกับข้าวขึ้นมากินด้วยรอยยิ้มไม่พูดไม่จา ส่วนคนที่เหลือที่เห็นฉากสวีทของคนสองคนก็ทำตัวปกติไม่ได้สนใจอะไรแต่สายตาทั้งสามลุกลี้ลุกลนเหมือนตอนที่เห็นผู้ช่วยโค้ชสาวโดนรองกัปตันลากไปปรับทัศนคติในห้องล็อคเกอร์เมื่อวาน

     

    ''ว่าแต่ชิรายูกิแล้วข้าวกล่องในถุงอีกอันนั้นของใคร'' มิโดริมะเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะสึบากิไม่ใช่ผู้หญิงกินเยอะแบบนั้นส่วนของมุราซากิก็แบ่งมาแล้วและส่วนของตัวเองก็สลับกับของอาคาชิไปแล้วมันจึงต้องเป็นของคนอื่นอย่างเช่น……

     

    ''อ้อของนิจิมุระซังแฟนเก่าของฉันเองค่ะ'' เปรี้ยง!เหมือนมีเสียงฟ้าผ่ามากลางวงกินข้าวทั้งที่แดดจ้าระดับสิบ มิโดริมะที่เป็นคนถามเหงื่อแตกพลักพลางคิดในใจเขาไม่ควรถามคำถามนี้ออกไปสินะ คิเสะและมุราซากิบาระอ้าปากค้างหางกุ้งเทมปุระร่วงลงพื้น ส่วนอาคาชิที่กำลังดื่มน้ำชาชะงักก่อนจะหันมาจ้องมองใบหน้าปลาตายที่คีบเต้าหู้ขึ้นมากินหน้าตาเฉยไม่สะทกสะท้านใดๆ

     

    ''สึบากิจจิอย่าล้อเล่นแบบนี้สิฮ้ะ'' คิเสะที่ได้สติก่อนรีบไกล่เกลี่ยเพื่อให้บรรยากาศทานข้าวกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งแต่ดูเหมือนสึบากิจะไม่ให้ความร่วมมือ

     

    ''ก็มันเรื่องจริงนิ้คะ''

     

    ''เรื่องข้าวกล่องของนิจิมุระซังสินะฮ้ะ'' คิเสะกล่าวโดยหลีกเลี่ยงประเด็นท้ายไว้

     

    สึบากิส่ายหน้า เธอหยุดคีบอาหารก่อนจะมองไปที่ทุกคนแล้วหยุดที่คนบังคับให้เธอมาเล่นเป็นแฟนหนึ่งวัน

     

    ''เรื่องที่ว่าฉันกับนิจิมุระซังเคยคบกันมาก่อนหน่ะคะ''

     

     

     

     

     

     

    ''หมายความยังไงที่จะลดขั้นของเท็ตสึ''

     

    ''เขาได้โอกาสมามากแล้วถ้าเขาใช้ไม่ได้เขาก็ต้องกลับไปทีมc"โค้ชซานาดะกล่าวโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของอาโอมิเนะที่บังเอิญเข้ามาได้ยินเรื่องที่เขาพูดคุยกับนิจิมุระ

     

    ''ถ้าเขายังใช้ไม่ได้ในแมตซ์หน้าช่วยลดขั้นผมด้วยเพี้ยะ!โอ้ย!'' อาโอมิเนะกุมหน้าผากที่โดนนิจิมุระดีดด้วยความเจ็บ

     

    ''เจ้าโง่ถ้าอยากต่อรองต้องข่มขู่สิ'' นิจิมุระส่ายหน้ากับความซื่อบื้อของรุ่นน้องผิวเข้ม ซานาดะเห็นความวุ่นวายตรงหน้าเขาถอนหายใจก่อนจะพูดว่า

     

    ''เอาอย่างงี้ละกันในตอนบ่ายถ้าเขายังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้นายและเขาจะถูกลดขั้น'' ซานาะดะเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังส่วนนิจิมุระก็โล่งใจที่ปัญหาจบไปก่อนเขาจะขอตัวกลับไปกินข้าวที่วันนี้สึบากิสัญญาว่าจะทำมาให้กิน

     

    ร่างสูงเดินลัดเลาะไปตามทางเดินก่อนจะมาถึงที่หมายที่ตอนนี้เหมือนจะมีบรรยากาศคุกกรุ่นแปลกๆ เขากวาดตามองไปยังพวกรุ่นน้องที่นั่งล้อมวงโดยมียัยตัวแสบที่นั่งกินข้าวกล่องด้วยสีหน้าปลาตายแต่จากที่เขารู้จักร่างบางมาดีมันคือสีหน้าของคนที่ได้รับชัยชนะอะไรซักอย่างมา ขายาวก้าวเดินไปมาทักทายก่อนจะนั่งลงที่ว่างที่อยู่ทางซ้ายมือของสึบากิ

     

    ''โทษทีนะโค้ชเรียกไปคุยว่าแต่ไหนข้าวกล่องฉันละสึบากิ'' สึบากิหยิบข้าวกล่องในถุงผ้าออกมายื่นให้นิจิมุระท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมา เขาขมวดคิ้วแต่ไม่ได้ถามอะไรก่อนจะเปิดฝาแล้วพบว่าข้าวกล่องรอบนี้มีเมนูข้าวผัดของโปรดของเขาอยู่ด้วย

     

    ''โอ้ะวันนี้มีข้าวผัดของโปรดด้วยแฮะโชคดีจัง'' นิจิมุระดีใจโดยไม่ได้รู้เลยว่าคำพูดของเขาทำให้ผู้ร่วมวงกินข้าวมีเหงื่อซึมออกมามากจนหลังเปียกชุ่มแล้ว มือใหญ่ใช้ตะเกียบคีบข้าวผัดของโปรดขึ้นมากินด้วยความเอร็ดอร่อยก่อนจะเหลือบไปเห็นอาคาชิที่ถือข้างกล่องสีดำกินอย่างเงียบๆที่เขาจำได้ว่านั้นเป็นของสึบากิ ส่วนรุ่นน้องสาวถือข้าวกล่องสีขาวแปลกตาไว้

     

    ''อะไรกันสองคนนี้เดี้ยวนี้มีแลกข้าวกล่องกินด้วยหรอเนี้ย~'' เขาเอ่ยแซวรุ่นน้องทั้งสองแต่เหมือนจะยิ่งไปราดน้ำมันเพิ่มใส่กองไฟมากกว่า

     

    ''จะสู้ข้าวกล่องที่เขาตั้งใจทำให้นิจิมุระที่เป็นแฟนเก่ามาให้เฉพาะได้ยังไงกันละครับ''

     

    อาคาชิตอบก่อนจะปิดฝาข้าวกล่องพร้อมกล่าวขอบคุณและเดินแยกตัวออกไป ส่วนสึบากิยังคงนั่งกินข้าวเงียบไม่คุยกับใคร นิจิมุระจึงหันมาจ้องรุ่นน้องสาวด้วยสายตาตำหนิ ก่อนจะเหลือบมองคนที่เหลือที่จ้องมองเขาอย่างสัยสัยเช่นกันว่าสรุปแล้วกัปตันของพวกเขาเคยคบหากับผู้ช่วยโค้ชจริงรึเปล่า

     

    ''สึบากินี้เธอบอกเจ้าพวกนี้แล้วหรอ'' นิจิมุระวางตะเกียบเขาถอนหายใจพลางเกาท้ายทอยด้วยสีหน้าเซ็งๆ สึบากิพยักหน้ารับ

     

    ''มะหมายความว่านี้มันเรื่องจริงหรอครับกัปตัน!'' คิเสะโพล่งใส่ด้วยความตกใจ ดวงตาสีเหลืองเบิกกว้าง

     

    ''ก็นะ''

     

    ''และทำไมถึงเลิกกันละครับ'' มิโดริมะที่เงียบไปนานถาม

     

    ''ไม่ขอตอบแล้วกันนะแต่มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรหรอก'' นิจิมุระเลี่ยงประเด็น เขามองสึบากิที่ตอนนี้กินข้าวเสร็จแล้วก่อนจะขอตัวไปซื้อน้ำชามะนาวที่ตู้ขายน้ำใกล้ๆ

     

    ''แล้วแบบนี้อาคาจินก็แย่เลยหน่ะสิสึบาจินตอนนี้ยังไม่ลืมนิจิมุระซังสินะ'' มุราซากิบาระเอ่ยพลางมองไปร่างบางที่กำลังยืนกดเลือกเครื่องดื่มอยู่

     

    ''ฉันก็ไม่รู้หรอกอยู่ที่ทั้งสองคนนั้นมากกว่า''

     

    ว่าจะยอมลดลดทิฐิตัวเองลงได้เมื่อไหร่แล้วหันหน้ามาคุยกันทั้งคนที่พยายามควบคุมและคนที่ดื้อดึง นิจิมุระคิดในใจ

     

     

     

    การแข่งขันรอบบ่ายเริ่มต้นขึ้นคุโรโกะที่ได้รับคำแนะนำจากอาคาชิแล้วเขาสามารถดึงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ทำให้ทีมที่มีปีสองล้วนเก็บชัยชนะมาได้อย่างสวยงามโค้ชซานาดะเองก็ยอมรับความสามารถของคุโรโกะรวมถึงรุ่นพี่ปีสามอีกด้วย การปรากฏตัวของปีศาจแฟนท่อมสร้างความสนใจและเป็นที่จับตามองของผู้คนถึงผู้เล่นคนที่หก ที่ตอนนี้นอนหมดสภาพอยู่บนรถบัสหลังจบการแข่งขัน

     

    แต่ทีมในตอนนี้ยังมีอีกหนึ่งปัญหานั้นก็คือความอึดในการเล่นของพวกปีสองยังมีไม่พอเมื่อเทียบกับรุ่นพี่ในควอเตอร์ที่สองทีมจำเป็นจะต้องเอารุ่นพี่เข้ามาช่วยเพื่อให้ปีสองได้พัก โปรแกรมซ้อมหลังจากนี้คงต้องเน้นไปที่ความอึดเพื่อให้พวกเขาสามารถลงแข่งสองแมตซ์ต่อวันได้

     

    เพราะในการแข่งขันอินเตอร์คลูในหน้าร้อนที่จะถึงนี้พวกเขาต้องแข่งถึงหกแมตซ์ในสามวันนับว่าหนักหนาเอาการถ้ายังคงเป็นแบบนี้พวกเขาที่ไม่มีรุ่นพี่คอยช่วยในตอนที่ขึ้นชั้นปีสามแล้วจะลำบากถ้าแกนหลักของทีมไม่มีความอึดพอที่จะลงได้สองเกมส์ต่อวัน

     

    ร่างบางยืนอ่านรายละเอียดข้อมูลที่ได้รับมาจากโมโมอิอีกทีตอนนี้สวัสดิการกำลังช่วยกันทยอยเก็บกวาดข้าวของขึ้นบนรถส่วนพวกนักกีฬาก็แยกตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า สึบากิยืนพิงรถบัสด้วยใบหน้าปลาตายก่อนจะถอนหายใจเมื่อรู้สึกว่ามีสายตาหลายคู่ลอบมองเธออยู่จะไม่ให้ถูกมองได้ยังไงในเมื่อบนตัวเธอมีเสื้อคลุมนักกีฬาของคนบางคนที่บังคับให้เธอสวมมันไว้อยู่และคนที่บังคับเธอได้มีอยู่คนเดียวคือ อาคาชิที่ตอนนี้กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่

     

    หลังจากพักกินข้างกลางวันเจ้าตัวที่แยกออกไปกลับมาใกล้เวลาแข่งเขาไม่ได้เขามาคุยกับเธอทำเพียงว่าสั่งให้เธอเอาเสื้อคลุมของเขาไปสวมใส่ตลอดทั้งวันห้ามถอดจนกว่าเขาจะบอก สึบากิถอนหายใจกับบทลงโทษที่สำหรับเธอมันค่อนข้างอึดอัดใจพอตัวที่โดนชี้สั่งให้ทำตามใจใครบางคน

     

    ''พรุ่งนี้ก็เตรียมตัวไว้ให้ดีนะสึบากิจัง~'' มินามิเอ่ยล้อเลียนเพื่อนสาวที่ถอนหายใจด้วยหน้าปลาตาย

     

    ''ทำไมหรอคะ''

     

    ''ถึงจะเป็นการเล่นกันแค่วันนี้แต่คนอื่นๆเขาไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกนะคะสึบากิจัง'' ฮิคาริกล่าวและชี้ให้เห็นจุดสำคัญของการกระทำของอาคาชิในวันนี้ไอ้เรื่องที่แกล้งเล่นเป็นแฟนกันหนึ่งวันนั้นหน่ะไม่ใช่จุดประสงค์หลักของรองกัปตันที่ฉลาดเป็นกรดคนนั้นหรอกนะ

     

    ''อย่าบอกนะว่าสึบากิยังไม่รู้ตัวเลยหน่ะว่าตกอยู่ในกำมือของอาคาชิคุงซะแล้ว'' โมโมอิกล่าวเสริม เธอลอบมองสีหน้าของเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงถึงจะเชียร์ให้สองคนคบกับแต่ว่าถ้าต้องคบเพราะโดนบีบกันแบบนี้สึบากิจังคงจะ……แล้วไหนจะเรื่องของกัปตันนิจิมุระอีก

     

    ''เรื่องนั้นหรอก็พอรู้อยู่แล้วค่ะ'' สึบากิตอบกลับด้วยท่าทีเฉยๆไม่ได้หวาดระแวงหรือหวาดกลัวเหมือนทุกที ดวงตาสีฟ้าเข้มมืดครึม มือเล็กควงดินสอไปมาเล่น

     

    ''เอ๋~ไม่ตื่นเต้นหน่อยหรอสึบากิจังรึไม่รีบหาทางหนี'' มินามิแปลกใจกับท่าที่ที่เงียบสงบมันเงียบสงบเหมือนกับก่อนพายุจะมาถล่ม เธอสงสายตาไปทางฮิคาริที่เริ่มจับบรรยากาศมืดครึมนี้ได้

     

    ''อย่าบอกนะคะว่าอาคาชิคุงรู้เรื่องกัปตันนิจิมุระแล้ว?''ฮิคาริคาดเดาด้วยความหนักใจ สึบากิพยักหน้าเป็นการบอกให้เพื่อนสาวทราบ

     

    ''แล้วอาคาชิคุงเขามีปฏิกิริยายังไงบ้าง!'' มินามิร้อนรนไปหมดสีหน้าเธอซีดเมื่อรู้เมนในดวงใจรู้ว่าสาวที่เขาตามตื้ออยู่เคยคบกับกัปตันทีมที่เขาเคารพแถมยังเป็นคนใกล้ชิดอีกด้วย

     

    ''ก็ไม่มีละมั้งคะแต่ดูจะไม่พอใจเรื่องที่ฉันทำข้าวกล่องให้นิจิมุระซัง'' ร่างบางหยุดควงดินสอเล่นก่อนจะใช้ก้นยางลบคลึงที่บริเวณระหว่างคิ้วไปมาด้วยท่าทีสบายๆไม่ได้หวั่นใจอะไร ส่วนคนฟังทั้งสามทำสีหน้าหวาดวิตกแทน

     

    ''เฮ้อช่างเถอะค่ะแต่ตอนนี้สรุปสึบากิจังจะเอายังไงกันค่ะตอนนี้เรื่องที่เป็นแฟนกับอาคาชิคุงวันนี้คงมีคนรู้ไปทั่วแล้ว''โมโมอิเปลี่ยนหัวข้อกระทันหันดึงบรรยากาศให้กลับมาสดใสอีกครั้ง

     

    ''นั้นสินะถ้าตอบปฏิเสธคงไม่มีใครเชื่อจะตอบรับก็เข้าทางอาคาชิคุงเป็นกับดักที่ได้ประโยชน์ทุกทางเลยสินะคะ'' สึบากิเปลี่ยนมากอดอก หันไปมองอาคาชิที่เดินมายืนอยู่ข้างหลังเพื่อนสาวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้น่าจะได้ยินประโยคเมื่อกี้หมดแล้ว สามสามเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งหนีไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆทิ้งให้ผู้ช่วยโค้ชสาวยืนรับหน้าแฟนจำเป็นของวันนี้

     

    อาคาชิไม่ได้พูดอะไรก่อนจะยื่นมือมาแย่งดินสอจากมือไปใส่กระเป๋าตัวเองแล้วกุมมือที่ว่างจูงให้เดินตามเขาขึ้นไปบนรถที่ตอนนี้มีแค่ร่างจืดจางของคุดรดกะที่นอนหมดสภาพอยู่ท้าย ส่วนอาคาชิจูงมือแฟนของเขาวันนี้มานั่งในตำแหน่งเดิมเหมือนขามาและเขาก็นั่งลงด้านข้าง ดวงตาสีแดงเหลือบไปเห็นตุ๊กตาลูกเจี๊ยบสีรุ้งนี้วางอยู่เบาะตรงข้าม ก่อนแขนเล็กจะรีบคว้าเอามากอดไว้แน่น

     

    สีบากิจ้องมองคนที่นั่งข้างๆที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังจ้องมองมาที่ตุ๊กตาลูกเจี๊ยบสีรุ้งด้วยแววตาอันตราย ก็นะสีรุ้งมันสีประจำตัวรุ่นพี่นิจิมุระร่างบางถอนหายใจก่อนจะเอาตุ๊กตาเจ้าปัญหาวางที่ตักของอาคาชิแล้วล้มตัวนอนหนุนตักโดยมีตุ๊กตารองหัวเธออีกที สึบากิถอนหายใจแล้วหลับตาลง

     

    ''พวกเราสนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยชั้นประถมกลับบ้านกันตลอด…เขาเป็นคนที่ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยและสบายใจที่พูดคุยหรืออยู่ใกล้ๆมันเป็นความผูกพันธ์ที่ก่อตัวมานานและเหนี่ยวแน่นเขากลายมาเป็นคนสำคัญทั้งที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน…พอเขาขึ้นชั้นปีหนึ่งพวกเราตกลงลองคบกันในสถานะคนรักแต่เราก็เลิกกันหลังคบมาได้หนึ่งปี''

     

    อาคาชิที่ตักตัวเองถูกใข้เป็นหมอนหนุนนิ่งเงียบเขาเพียงมองสำรวจใบหน้าของสึบากิและปากชมพูระเรื่อที่กำลังเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ แต่ความจริงเรื่องที่เธอคบกับนิจิมุระก็ทำให้เขารู้สึกหึงแม้มันจะจบความสัมพันธ์ในสถานะคนรักไปแล้วก็ความแต่ความสนิทสนมของทั้งสองคนเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักอยู่ดี

     

    ''สำหรับฉันแล้วสถานะพวกนั้นไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ตัวนิจิมุระซังเองก็คิดแบบนี้เป็นคนที่สำคัญแต่ไม่ใช่ในสถานะคนรักได้เช่นกันมันค่อนข้างจะคลุมเครือที่จะระบุให้ชัดเจนถ้าใกล้เคียงที่สุดคือเขาคือครอบครัวไปแล้ว…อาคาชิคุงกับนิจิมุระซังแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง…ไม่มีใครจะมาแทนที่หรือตำแหน่งของใครได้…การที่คุณพยายามมาแทนที่เขานับว่าคิดผิด''

     

    ''แล้วฉันต้องทำยังไง'' อาคาชิถาม มือเรียวเกลี่ยผมหน้าม้าของอีกฝ่ายเล่น

     

    ''……คุณต้องสถานะอะไรอาคาชิคุง?''

     

    ''คุณก็รู้อยู่''

     

    ''แล้วตอนนี้มันไม่ใช่ตรงไหน?''

     

    สึบากิลืมตาขึ้นมาดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องมองไปที่ดวงตาสีแดงคู่สวยที่เบิกกว้างเล็กน้อย อาคาชินิ่งเงียบก่อนจะหัวเราะในลำคอ ดูเหมือนว่ากับดักที่เขาวางไว้เพื่อจับเจ้ากระต่ายดำตัวนี้จะกลายมาเป็นว่าเขาถูกอีกฝ่ายจับให้อยู่ในกำมือเสียแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เมื่อตรวจเช็กคนและของเรียบร้อยแล้วนิจิมุระขึ้นรถมาเป็นคนสุดท้ายก่อนจะเดินไปนั่งที่เดิมที่มีร่างคนสองคนนั่งอยู่โดนรอบนี้มันแตกต่างจากขามาเล็กน้อยสึบากินอนพิงไหล่อาคาชิเหมือนเดิมมือเล็กถูกมือของอาคาชิกุมไว้ส่วนแขนอีกข้างกอดตุ๊กตาลูกเจี๊ยบสีรุ้ง คราวนี้ร่างบางนอนหลับไปจริงๆไม่ได้แสร้งหลับไปแบบเมื่อเช้า ส่วนอาคาชินั่งหลังตรงมองมาที่เขาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

     

    ''คืนดีกับแฟนแล้วรึไง'' รุ่นพี่หนุ่มกระซิบเบาๆกลัวทำคนที่หลับไปตื่น เขาส่งสายตาล้อเลียนรุ่นน้องจอมวางแผนที่พลาดท่าให้กับยัยตัวแสบของเขาไปแล้ว

     

    ''ครับ'' อาคาชิขานรับก่อนจะละสายตาจากรุ่นพี่มองไปยังเจ้าลูกเจี๊ยบในอ้อมกอดของร่างบางด้วยแววตาอ่านยาก

     

    เอาเถอะเขาจะปล่อยไว้ก่อนวันนี้ถึงจะใช้เวลานานแต่ไม่เกินความสามารถของเขาอาคาชิ เซย์จูโร่

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×