คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8
Chapter 8 : Trap and Tag
วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันของชมรมบาสเพราะทางชมรมบาสเทย์โควได้จัดการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์กับกลุ่มโรงเรียนในเขตเดียวกันขึ้นในฐานะผู้ช่วยโค้ชสึบากิจำเป็นจะต้องมาเพื่อเก็บข้อมูลผู้เล่นทุกคนขณะแข่งขันและให้คะแนนการพัฒนาทางด้านร่างกายและความสามารถเพื่อใช้เป็นเกณฑ์คัดเลือกและจัดอันดับแต่ละทีม
ส่วนงานสำคัญอีกอย่างคือต้องคอยเฝ้าจับตามองผู้เล่นตัวจริงและออกแบบการฝึกซ้อมร่างกายให้เหมาะสมแต่ละคนให้เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพร่างกายให้เข้ากับพรสวรรค์และความถนัดในแต่ละด้าน
"สึบากิจังทางนี้เรียบร้อยแล้วนะคะ'' โมโมอิตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆเรียบร้อยแล้ว เดินมาหาสึบากิพร้อมกับสวัสดิการสองคนที่รู้จักกับเธอดีนั้นก็คือ มินามิและฮิคาริ
''วันนี้ต้องรบกวนมินามิจังและฮิคาริจังด้วยนะคะ'' สึบากิเอ่ยกับทั้งสองคนที่วันนี้มาช่วยเธอและโมโมอินอกสถานที่
''ไม่รบกวนหรอกนี้เป็นโอกาสดีด้วยซ้ำได้ออกมาดูการแข่งวันนี้'' มินามิขยับเข้ามาใกล้เธอเอ่ยเสียงเบาๆให้ได้ยินกันสี่คนด้วยแววตาตื่นเต้นที่วันนี้จะได้เห็นอาคาชิซามะลงแข่งแบบชิดขอบสนาม
''อาน้า~'' ฮิคาริที่กวาดตามมองนักกีฬาพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อนสาว ก่อนจะหันมามองสึบากิอย่างคนจับผิด คนโดนจ้องมองสะดุ้งก่อนจะขอตัวไปคุยธุระกับนิจิมุระที่ยืนไม่ไกลมาก
''ฮิคาริจังมีอะไรรึเปล่าคะ?'' โมโมอิเอียงคอเธอมองฮิคาริที่ยิ้มเจ้าเล่ห์สลับกับสึบากิที่วันนี้ดูจะร้อนรนเหมือนคนปกปิดอะไรไว้
''โมโมอิพวกเราถามอะไรหน่อยสิสองคนนั้นเขาไปถึงขั้นไหนกันแล้ว'' มินามิจับเพื่อนสาวทั้งสองมาสุมหัวคุยพลางเหล่มองไปที่อาคาชิ
''เมื่อวานตอนเย็นพวกเราเห็นว่าสึบากิอยู่ในห้องล็อคเกอร์กับอาคาชิแบบสองต่อสอง'' ฮิคาริเข้าประเด็นสำคัญ
''อ้อเรื่องนั้นคือว่า…มันเป็นแบบนี้นะคะ………'' โมโมอิเจ้าแม่ข้อมูลและสายข่าวอธิบายให้เพื่อนสาวทั้งสองเท่าที่เธอรู้มา
''แม่เจ้า!!'' มินามิอุทานเสียงดังจนคนทั่วบริเวณหันมามองกลุ่มพวกเธอ ก่อนที่เธอโค้งขอโทษที่เสียงดังรบกวนคนอื่นจึงกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
''อืม…สมเป็นอาคาชิคุงดีนะคะรุกได้ดุดันมาก''ฮิคาริออกความเห็น ทำเอาสาวชอบมโนอย่างมินามิฟังแล้วแก้มแดง
''ถ้าเป็นฉันนะคงยอมแล้ว''
มินามิเอ่ยเสียงสั่นด้วยใจเต้นแรงโดยมโนว่าถ้าตัวเองโดนรุกแบบที่สึบากิบ้างต่อให้ไม่ใช่อาคาชิคุงเธอก็คงเขินจนละลาย อีกใจก็อดนับถือเพื่อนสาวเจ้าของฉายาเจ้าหญิงหิมะไม่ได้ที่ยังเยือกเย็นไม่หวั่นไหว?แม้จะโดนรุกอย่างหนักหน่วงจากเจ้าชายสีแดงคนนั้น
''เพราะเป็นสึบากิจังของพวกเราละนะคะ''
โมโมอิหัวเราะเบาๆเพื่อนสาวอีกสองก็หัวเราะตามสายตาวาววับสามคู่มองกันไปมาอย่างเข้าใจกับนิสัยที่ชอบวิ่งหนีแบบเด็กๆของคนหน้าปลาตาย แต่รอบนี้เป็นนายพรานอาคาชิคงจะหนียากหน่อยรอแค่เวลาเท่านั้นสินะ
จะหนีไปได้ซักกี่น้ำกันนะสึบากิจัง~ ทั้งสามคิดในใจ
''ฮั้ดชิ้ว!''
คนโดนนินทาหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่จมูกก่อนเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง วันนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตผ้าลินินสีครีมแขนยาว ที่บ่าพาดด้วยเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อน ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงยีนสีเข้ารูปสีเข้มเข้ากับรองเท้าผ้าใบสีขาวล้วนคู่โปรดที่ใส่ประจำ นิจิมุระมองคนจามด้วยความเป็นห่วงวันนี้อากาศเย็นลงเฉียบพลันคนขี้หนาวอย่างสึบากิจะชอบมาป่วยกับอากาศแบบนี้ประจำ
''เอาเสื้อคลุมมาก็หัดใส่บ้างนะสึบากิ''
มือใหญ่ยีหัวรุ่นน้องไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว ร่างบางขานรับก่อนจะหยิบเสื้อคลุมมาส่วมใส่อย่างว่าง่าย นิจิมุระแปลกใจกับรุ่นน้องจอมดื้อที่วันนี้ดูจะเชื่องผิดปกติ เขาละสายตาแล้วมองไปทางรองกัปตันที่ยืนเช็ครายชื่อนักกีฬาอยู่ตรงประตูรถมินิบัส อาคาชิโค้งทักทายด้วยรอยยิ้ม ทำเอารุ่นพี่หนุ่มขนลุกเกรียว
เหลือเวลาอีก10นาทีรถจะออกเดินทางไปยังโรงเรียนที่พวกเขาจะต้องไปแข่งขันแต่ยังไร้เงาของไฮซากิตัวปัญหา ก่อนที่จะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น อาคาชิหยิบมากดรับสายก่อนจะเดินมายื่นให้นิจิมุระแล้วบอกว่าสายจากไฮซากิ
''วันนี้ฉันไม่สบายนะแค่กๆๆคงไปลงแข่งด้วยไม่ได้แค่กๆๆปริ้บ!'' นิจิมุระที่ตอนนี้ขมับเต้นตุบๆด้วยความโกรธเขาเดินไปรายงานกับโค้ชซานาดะเรื่องที่ไฮซากิไม่สบายและจะมาลงแข่งไม่ได้ ทิ้งให้สึบากิที่ตอนนี้ยืนประจันหน้ากับอาคาชิ บรรยากาศแปลกๆลอยฟุ้งระหว่างคนสองคน
สึบากิที่ตอนนี้นึกได้ว่าเธอยังติดค้างบทลงโทษจากอาคาชิเมื่อวานอยู่ หลังบางผุดเหงื่อออกมาทั้งที่อากาศวันนี้ออกจะเย็นแท้ๆ ยิ่งดวงตาสีแดงคู่นั้นมองมายังเธอชนิดไม่กระพริบตาแถมยังส่งรอยยิ้มมาให้อีก ร่างบางยิ่งเกร็งเครียดความรู้สึกเหมือนเธอเป็นกระต่ายตัวน้อยที่ยืนตรงหน้าสิงโตตัวใหญ่
''อรุณสวัสดิ์นะสึบากิซัง'' สึบากิเผลอสะดุ้ง ก่อนจะทักทายกลับเธอลืมไปว่าวันนี้พวกเขายังไม่ได้ทักทายกันเลย
''อะอาอรุณสวัสดิ์อาคาชิคุงแฮะๆ''
อาคาชิมองท่าทางหวาดระแวงด้วยความเอ็นดู สึบากิคงไม่รู้ตัวว่าผมตัวเองที่ถูกนิจิมุระซังยีหัวมันชี้ฟูไปมาประกอบกับท่าทางด้วยแล้วให้ความรู้สึกสัตว์ตัวน้อยที่พองขนเวลาตื่นกลัวหรือเวลาโกรธ เขาสำรวจไปที่ใบหน้าที่ใต้ตาคล้ำลงเล็กน้อยแววตาสีฟ้าเข้มอ่อนแสงเหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ ดูท่าเขาจะแกล้งร่างบางหนักมือไปหน่อย
มือเรียววางบนกลุ่มผมสีดำก่อนจะค่อยใช้นิ้วสางผมที่นุ่มลื่นมีน้ำหนักให้กลับมาเรียบร้อยตามเดิม อาคาชิยังคงใช้นิ้วเกลี่ยและม้วนปายผมไปมาโดยไม่สนใจสายตาที่คนอื่นๆหันมามองและกระซิบกระซาบถึงความสนิทสนมระหว่างเขากับสึบากิที่ดูจะมากกว่าเป็นแค่เพื่อนทั่วไป ส่วนสึบากิยืนแข็งทื่อไปตั้งแต่โดนลูบหัวแล้วจะปัดมือทิ้งก็ไม่ได้แต่โดนคนอื่นๆมองด้วยสายตาแบบนี้เธอก็ไม่ชอบเช่นกัน
โดยเฉพาะสายตาอันร้อนแรงที่เธอรู้สึกมาจากทางด้านหลังที่คาดว่าหลังจากนี้เธอจะต้องโดนเพื่อนสาวทั้งสามที่มีท่าทางเหมือนหมาน้อยเตรียมพร้อมจะพุ่งใส่เธอตลอดเวลารุมทึ้งแน่นอน
''อาคาชิคุงปล่อยได้แล้ว''
สึบากิพูดเสียงแผ่ว แต่สายตาจ้องมองด้วยความไม่พอใจหลังจบการแข่งวันนี้พรุ่งนี้ที่โรงเรียนชีวิตอันสงบสุขของเธอโดนท่านชายอาคาชิดีดนิ้วสลายไปเรียบร้อยแล้ว
''ยังไม่ลืมใช่ไหมว่าคุณติดค้างอะไรไว้อยู่''
อาคาชิยังไม่ละจากเส้นผมเรียบลื่น เขาหัวเราะในลำคอรอยยิ้มผุดที่มุมปาก สำหรับสึบากิตอนนี้รอยยิ้มพิฆาตรนารีเหมือนเป็นรอยยิ้มจากซาตานกำลังตัดสินโทษเธอมากกว่า ริมฝีปากชมพูระเรื่อเม้มเป็นเส้นตรง ก่อนพ่นลมหายใจออก
''เป็นแฟนฉันหนึ่งวันนี่คือบทลงโทษ''
'…!!!' แกรก!
เสียงกระป๋องน้ำในมือของอาโอมิเนะที่เพิ่งจะมาถึงร่วงลงพื้นพร้อมดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะรีบเก็บกระป๋องแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับคิเสะที่ยืนอยู่อีกด้าน ส่วนสึบากิที่ได้รู้บทลงโทษเหมือนมีเสียงฟ้าผ่าลงกลางหัวอยู่ข้างใน ภายนอกยังคงมีสีหน้าปลาตายปกติแต่ข้างในกำลังกรีดร้องไปไกลแล้ว
ดวงสีฟ้าเข้มกวาดตามองหาตัวช่วยอย่างนิจิมุระแต่เหมือนจะหายตัวไม่อยู่ใกล้ๆเมื่อหันไปมองกลุ่มพวกหัวหลากสีทุกคนเอาแต่หลบสายตา เธอจึงหันหลังกลับไปมองหาเพื่อนสาวทั้งสาม……เอ่อไม่ดีกว่า
''วันนี้จะไม่มีใครช่วยคุณได้ทั้งนั้นสึบากิซังรวมถึงนิจิมุระซังก็ด้วย'' น้ำเสียงขบขันจากคนด้านหลังทำเอาสึบากิต้องกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ นี้สิความรู้สึกของการถูกไล่ต้อน
''ละแล้วมันต้องทำยังไงบ้างไอ้ที่เป็นแฟนกัน''
สึบากิเมื่อหนีไม่ได้ก็คงต้องหันหน้าสู้ อาคาชิที่มองท่าทีที่เปลี่ยนไปของร่างบางเขาจึงปล่อยเส้นผมที่ม้วนเล่นแล้วเปลี่ยนมากุมมือเล็กแล้วดึงให้เดินตามขึ้นไปนั่งประจำที่ในรถโดยไม่ลืมกำชับว่าห้ามหนีห้ามเปลี่ยนที่นั่งเด็ดขาด สึบากิกอดอกหันหน้าหนีแต่ไม่ได้พูดอะไร อาคาชิจึงหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินลงมาเรียกให้สมาชิกคนอื่นๆขึ้นรถ
''อาคาชิคุงบังคับกันมากไปมันไม่ดีนะคะ'' โมโมอิและเพื่อนสาวเดินมาหยุดตรงประตูรถที่มีอาคาชิกับกัปตันนิจิมุระยืนอยู่ เธอเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี สึบากิคนนี้ถ้าโดนบังคับมากๆก็เหมือนระเบิดเวลาดีๆนี้เอง
เธอพอทราบมาว่าบ้านชิรายูกิเลี้ยงลูกๆแตกต่างจากบ้านลูกคนหนูอื่นๆที่จะบังคับให้เรียนตามแบบแผนของตระกูลแต่บ้านนี้กลับปล่อยให้ลูกทุกคนมีอิสระเสรีที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ยิ่งเป็นสึบากิที่มีพี่ชายสี่คนคอยตามใจรวมถึงกัปตันนิจิมุระด้วยแล้วการโดนอาคาชิมาคอยควบคุมมากๆเธอกลัวว่ามันจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
''ปล่อยให้โดนลงโทษซะบ้างก็ดีเวลาหนีมาร้องไห้ฉันจะได้เป็นคนมานั่งปลอบใจดีไหมอาคาชิหึหึ''
นิจิมุระเย้าแหย่อาคาชิที่กล้าแกล้งรุ่นน้องตัวแสบของเขา โมโมอิที่เห็นว่ารุ่นพี่สนันสนุนเธอจึงขอตัวขึ้นไปบนรถกับเพื่อนสาวที่แอบมองรองกัปตันแล้วหัวเราะคิกคัก
''ผมไม่ปล่อยให้ได้หนีไปหานิจิมุระซังแน่นอนครับ'' ดวงตาสีแดงตวัดมองรุ่นพี่ ราวกับสื่อว่าผมจะต้องอยู่เหนือคุณให้ได้นิจิมุระซังโดยเฉพาะเรื่องของสึบากิ ส่วนรุ่นพี่มองกลับด้วยสายตาท้าทายว่าถ้านายทำได้ก็ลองดู
ต่อให้สึบากิตกลงคบกับนายฉันก็จะเป็นก้างที่เกี่ยวคอนายไปตลอดนั้นแหละหึหึ นิจิมุระคิดในใจ
''เอ้าในเมื่อคนครบแล้วพวกเราก็ไปกันเถอะ''
นิจิมุระจบสงครามทางสายตากับรุ่นน้องแล้วเดินนำขึ้นรถไปนั่งเบาะที่อยู่ตรงข้ามกับสึบากิ ด้านข้างไม่มีใครนั่ง ส่วนอาคาชิเดินมานั่งข้างๆสึบากิที่ตอนนี้นั่งกอดตุ๊กตาลูกเจี๊ยบสีรุ้งหลับไปแล้ว เขาเอื้อมมือประคองศรีษะของสึบากิให้เอียงมาพิงไหล่ตัวเองไม่ทันได้ตั้งตัวคนหลับละเมอถูไถหัวไปมากับไหล่ของเขาเพื่อหามุมพิงที่สบายก่อนจะพึมพำพูดอะไรซักอย่างด้วยเสียงออดอ้อนว่า
''อื้อ~ชูโซขออีก10นาทีน้า~''
นิจิมุระที่นั่งอยู่ตรงข้ามกลั้นขำจนไหล่สั่นที่เห็นสีหน้ารุ่นน้องกระตุกถึงแม้จะเสี้ยววินาทีก็ตาม ก่อนเขาจะเลิกคิ้วกวนประสาทไปอย่างผู้ชนะ อาคาชิยังคงรักษ่สีหน้าเรียบเฉยไว้ได้เขาไม่สนใจรุ่นพี่ก่อนจะกอดอกแล้วหลับตาไม่อยากจะเสวนาใดๆกับกัปตันที่นั่งหันหน้าอยู่ตรงข้ามเขา โดยไม่ทันได้เห็นว่าคนที่น่าจะหลับไปแล้วแอบลืมตามายักคิ้วให้รุ่นพี่หนุ่มเห็น ส่วนคนที่รู้อยู่แล้วได้แต่ส่ายหน้าอ่อนใจกลับไป
ให้ตายสิเจ้าพวกนี้นิสัยพอกันจริงๆ
เมื่อทุกคนประจำที่รถมินิบัสจึงเคลื่อนตัวไปสู่จุดหมายปลายทางของวันนี้
''ว้าวมากันแล้วทีมที่แข็งแกร่งที่สุด ม ต้นเทย์โคว''
''มีทีมที่เราเคยสู้อยู่ด้วยแฮะแต่ดูไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่'' มุราซากิบาระหยิบมันฝรั่งทอดขึ้นมากิน
''เลิกกินขนมได้แล้วมุราซากิบาระ'' มิโดริมะกล่าวด้วยความหงุดหงิดจากเสียงเคี้ยวขนม
''ครั้งนี้จะใช้ปีสองลงแข่งเท่านั้นขอให้เตรียมพร้อมกันไว้ด้วยนะคะ'' สึบากิกล่าวเมื่อทุกคนเริ่มถอดเครื่องแบบและนั่งลงประจำม้านั่ง
''เนื่องจากไฮซากิขาดดังนั้นตังจริงที่จะลงแข่งมี อาคาชิ มิโดริมะ มุราซากิบาระ อาโอมิเนะและคุโรโกะส่วนคิเสะจะเป็นตัวสำรอง'' โค้ชซานาดะแจกแจงรายละเอียดการลงแข่งครั้งนี้เขาต้องการดูฟอร์มของปีสองหากสถานะการแย่จะให้พวกรุ่นพี่ลงสลับ
''คู่แข่งรอบนี้เป็นโรงเรียนนัมบาระนับได้ว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่อันดับสูงพอตัว'' โมโมอิอ่านข้อมูลที่หามา สึบากิไม่ได้สนใจฟังเท่าไหร่นักเธอกำลังรอดูหนึ่งในแก็กที่เธอนั่งขำเมื่ออ่านถึงตอนนี้ คิกๆ ดวงตาสีฟ้ามองไปยังผู้เล่นเบอร์15 คุโรโกะ
แต่สีหน้าเธอก็กลับมาเคร่งเครียดลงเพราะเธอจำได้ว่าแมตซ์แรกของคุโรโกะต้องเกิดช่วงปีหนึ่งและคิเสะยังไม่เข้ามาแต่ตอนนี้มันดันกลับกันไปหมดคุโรโกะลงแข่งกับคิเสะไปก่อนแล้วค่อยมาได้ลงแข่งแมตซ์ทัวร์นาเม้นต์นี้ที่จะต้องแข่งกับอีก10โรงเรียนในเขต
''ขอให้เป็นแมตซ์ที่ดีนะครับ!'' ทั้งสองทีมทำความเคารพก่อนจะมีเสียงนกหวีดเพื่อเริ่มสัญญาณการแข่งขันขึ้น
อาคาชิรับลูกมาจากมุราซากิบาระเขาเลี้ยงลูกไปช้าๆแล้วหันไปบอกคุโรโกะที่สะดุดล้มลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว!!! ท่ามกลางความตกตะลึงไปทั้งสนาม คุโรโกะลุกขึ้นยืนก่อนจะรู้สึกมีของเหลวที่จมูกเขาเอามือแตะดูพบว่ามีเลือดไหลลง โค้ชซานาดะจึงรีบเปลี่ยนตัวออกและให้นิจิมุระลงสนามแทน
สึบากิกลั้นขำกับฉากตรงหน้า มือเล็กปาดน้ำตาที่หางตาออกไม่ไหวคุโรโกะคุงคนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงดี
''ฉันจะสั่งสอนที่หลังก่อนอื่นต้องชนะก่อน'' นิจิมุระกัปตันทีมพ่วงด้วยตำแหน่งผู้เล่นพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดที่แข็งแกร่งที่สุดของ ม ต้นในตอนนี้กล่าว
นิจิมุระเลี้ยงลูกด้วยความว่องไวเขาหมุนตัวหลบและคอสโอเวอร์ผ่านผู้เล่นไปหนึ่งคนก่อนจะส่งลูกกลับมาให้มิโดริมะชู้ตสามแต่มแรกของแมตซ์ ''เยี่ยม!''
''นิจิมุระ!ฉันจะทดสอบพวกเขาวันนี้ไม่ต้องเล่นเต็มที่เข้าใจไหม'' โค้ชซานาดะตะโกนคำสั่ง คนโดนสั่งทำสีหน้ารับทราบแบบเซ็งๆ ก่อนจะเห็นรุ่นน้องที่ยืนส่งยิ้มโบกมือไปมาข้างสนามด้วยความกวนประสาท
การแข่งยังคงดำเนินต่อไปอาคาขิส่งลูกให้มุราซากิบาระที่ยืนประจำตำแหน่งตามแผนการไว้แล้วก่อนจะอะเลย์ฮุปสร้างความตกตะลึงไปทั้งสนามที่มีเด็ก ม ต้นทำท่านี้ได้ เสียงพูดคุยแซงแซ่ไปทั่วทั้งอัฒจัน
''ความอึดของพวกเขายังไม่เพียงพอและวันนี้ต้องแข่งถึงสองแมตซ์โค้ชจะเปลี่ยนตัวไหมคะ'' สึบากิหันมาถามโค้ชอย่างขอความเห็น ซานาดะเห็นด้วยก่อนจะส่งสัญญาณเปลี่ยนตัวให้คุโรโกะลงแทนนิจิมุระ
ถึงอย่างนั้นจังหวะของเขายังไม่สามารถเข้ากับของคนอื่นได้ทำให้เกิดความผิดพลาดในการส่งลูกแม้จะมีความพิเศษแต่ถ้าเป็นตัวถ่วงเขาจะต้องถูกลดขั้นและกลับไปที่จุดเดิมนั้นคือปัญหา และแม้ว่าในแมตซ์แรกของวันเทย์โควจะสามารถเอาชนะมาได้แต่มันยังไม่พอ ซึ่งสึบากิรู้ดีว่าอะไรถึงเป็นแบบนั้นแต่มันไม่ใช่น่าที่ของเธอละนะที่จะเป็นคนแก้ปัญหานี้ร่างบางทำเพียงบันทึกการแข่งขันและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อมูลกับโมโมอิเพื่อวิเคราะห์คู่แข่งในแมตซ์รอบบ่าย
''มิเนะจินนั้นมันอะไรอ่ะ'' มุราซากิมองกล่องข้าวที่มีสีสันน่าจะเหมือนยาพิษมากกว่าอาหารด้วยความระแวงพลางเคี้ยวกุ้งเทมปุระไปด้วย
''ข้าวกล่องของซัทสึกิเอาไหม'' อาโอมิเนะยื่นข้างกล่องที่เพื่อนสมัยเด็กทำมาให้เขาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ มุราซากิบาระส่ายหน้าไปมาเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนทำให้ เขายังไม่อยากท้องเสียละนะ คนผิวเข้มขอตัวไปร้านสะดวกซื้อก่อน
''พวกซัทสึจินไปไหนกันหมดเนี้ยฝากข้าวกล่องแล้วหายไปเลย''
''ฉันขอให้พวกเธอไปทำหน้าที่บางอย่างค่ะแต่อีกเดี้ยวคงจะกลับกันมาแล้วนี่ค่ะส่วนของอัตสึขิคุง'' สึบากิตอบมือเล็กคลายปมผ้าที่ห่อข้าวกล่องสีดำสองชั้นของตัวเองก่อนจะเปิดฝาและแบ่งส่วนบนให้เจ้าไททั่นม่วงที่เหลือบมองมาตั้งแต่เธอเริ่มเอากล่องข้าวออกมาจากถุงหิ้วด้วยแววตาหิวโหยทั้งที่ตัวเองมีข้าวกล่องในมืออยู่แล้ว
''ขอบคุณนะสึบาจินโอ้ะนี้อะไรเนี้ยกระเป๋าตังของมิเนะจินนี่'' มุราซากิบาระรับส่วนแบ่งที่รอคอยก่อนจะเหลือบไปเห็นกระเป๋าตังของเพื่อนร่วมทีม เขาวางข้าวกล่องตัวเองแล้วหยิบมันขึ้นมาดู
''แล้วแบบนี้เจ้านั้นจะซื้ออะไรได้'' มิโดริมะส่ายหน้าให้กับความสำเพร่าของคนผิวเข้ม
''เดี้ยวผมเอาไปให้เองครับอ้ะ!มุราซากิบาระคุงจู่อย่าขว้างมาแบบนี้สิครับ'' คุโรโกะรับกระเป๋าพลาด ก่อนจะหยิบกระเป๋าที่พื้นแล้วเดินไปตามอาโอมิเนะ อาคาชิที่นั่งมองอยู่เหมือนจะฉุดคิดอะไรได้ปัญหาของคุโรโกะเขาพอจะเข้าใจแล้ว ส่วนตอนนี้…อาคาชิหันไปมองสึบากิที่กำลังเริ่มกินข้าวพลางพูดคุยกับพวกเพื่อนๆร่วมทีม
''แล้วส่วนของฉันละสึบากิซังทำไมทำให้แต่มุราซากิบาระแล้วไม่มีส่วนของแฟนอย่างฉัน'' อาคาชิขยับมานั่งใกล้ๆสึบากิเอ่ยด้วยเสียงทุ้มเบาๆ สึบากิที่คุยกับไททั่นม่วงและคิเสะหันมามองด้วยความแปลกใจก่อนจะหรี่ตาสมองวิเคราะห์ความต้องการของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วแล้วยื่นข้าวกล่องส่วนของตัวเองและฉวยเอาข้าวกล่องในมืออาคาชิมาถือไว้แล้วพูดว่า
''อันนี้ของแฟนอย่างอาคาชิคุงค่ะ!''
ร่างบางเปิดฝาข้าวกล่องของอาคาชิที่มีเมนูเต้าหู้ผัดทรงเครื่องก่อนจะรีบกินเข้าไปโดยไม่ยอมเปิดช่องว่างให้อาคาชิได้โต้แย้งหรือทำการอะไรแปลกๆต่อหน้าเพื่อนคนอื่นๆอีกแน่ แค่เมื่อเช้าเธอแทบจะมุดหนีเพื่อนสาวทั้งสามที่คอยตามประกบพร้อมส่งสายตาล้อเลียนมาตลอดรวมถึงตอนแข่งขันโมโมอิที่มักจะจริงจังกับหน้าที่ตัวเองยังส่งสายตาวิบวับมาให้เป็นระยะ
อาคาชิที่โดนสลับข้าวกล่องส่ายหน้ากับความน่ารักของร่างบางก่อนจะคีบกับข้าวขึ้นมากินด้วยรอยยิ้มไม่พูดไม่จา ส่วนคนที่เหลือที่เห็นฉากสวีทของคนสองคนก็ทำตัวปกติไม่ได้สนใจอะไรแต่สายตาทั้งสามลุกลี้ลุกลนเหมือนตอนที่เห็นผู้ช่วยโค้ชสาวโดนรองกัปตันลากไปปรับทัศนคติในห้องล็อคเกอร์เมื่อวาน
''ว่าแต่ชิรายูกิแล้วข้าวกล่องในถุงอีกอันนั้นของใคร'' มิโดริมะเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะสึบากิไม่ใช่ผู้หญิงกินเยอะแบบนั้นส่วนของมุราซากิก็แบ่งมาแล้วและส่วนของตัวเองก็สลับกับของอาคาชิไปแล้วมันจึงต้องเป็นของคนอื่นอย่างเช่น……
''อ้อของนิจิมุระซังแฟนเก่าของฉันเองค่ะ'' เปรี้ยง!เหมือนมีเสียงฟ้าผ่ามากลางวงกินข้าวทั้งที่แดดจ้าระดับสิบ มิโดริมะที่เป็นคนถามเหงื่อแตกพลักพลางคิดในใจเขาไม่ควรถามคำถามนี้ออกไปสินะ คิเสะและมุราซากิบาระอ้าปากค้างหางกุ้งเทมปุระร่วงลงพื้น ส่วนอาคาชิที่กำลังดื่มน้ำชาชะงักก่อนจะหันมาจ้องมองใบหน้าปลาตายที่คีบเต้าหู้ขึ้นมากินหน้าตาเฉยไม่สะทกสะท้านใดๆ
''สึบากิจจิอย่าล้อเล่นแบบนี้สิฮ้ะ'' คิเสะที่ได้สติก่อนรีบไกล่เกลี่ยเพื่อให้บรรยากาศทานข้าวกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งแต่ดูเหมือนสึบากิจะไม่ให้ความร่วมมือ
''ก็มันเรื่องจริงนิ้คะ''
''เรื่องข้าวกล่องของนิจิมุระซังสินะฮ้ะ'' คิเสะกล่าวโดยหลีกเลี่ยงประเด็นท้ายไว้
สึบากิส่ายหน้า เธอหยุดคีบอาหารก่อนจะมองไปที่ทุกคนแล้วหยุดที่คนบังคับให้เธอมาเล่นเป็นแฟนหนึ่งวัน
''เรื่องที่ว่าฉันกับนิจิมุระซังเคยคบกันมาก่อนหน่ะคะ''
''หมายความยังไงที่จะลดขั้นของเท็ตสึ''
''เขาได้โอกาสมามากแล้วถ้าเขาใช้ไม่ได้เขาก็ต้องกลับไปทีมc"โค้ชซานาดะกล่าวโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของอาโอมิเนะที่บังเอิญเข้ามาได้ยินเรื่องที่เขาพูดคุยกับนิจิมุระ
''ถ้าเขายังใช้ไม่ได้ในแมตซ์หน้าช่วยลดขั้นผมด้วยเพี้ยะ!โอ้ย!'' อาโอมิเนะกุมหน้าผากที่โดนนิจิมุระดีดด้วยความเจ็บ
''เจ้าโง่ถ้าอยากต่อรองต้องข่มขู่สิ'' นิจิมุระส่ายหน้ากับความซื่อบื้อของรุ่นน้องผิวเข้ม ซานาดะเห็นความวุ่นวายตรงหน้าเขาถอนหายใจก่อนจะพูดว่า
''เอาอย่างงี้ละกันในตอนบ่ายถ้าเขายังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้นายและเขาจะถูกลดขั้น'' ซานาะดะเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังส่วนนิจิมุระก็โล่งใจที่ปัญหาจบไปก่อนเขาจะขอตัวกลับไปกินข้าวที่วันนี้สึบากิสัญญาว่าจะทำมาให้กิน
ร่างสูงเดินลัดเลาะไปตามทางเดินก่อนจะมาถึงที่หมายที่ตอนนี้เหมือนจะมีบรรยากาศคุกกรุ่นแปลกๆ เขากวาดตามองไปยังพวกรุ่นน้องที่นั่งล้อมวงโดยมียัยตัวแสบที่นั่งกินข้าวกล่องด้วยสีหน้าปลาตายแต่จากที่เขารู้จักร่างบางมาดีมันคือสีหน้าของคนที่ได้รับชัยชนะอะไรซักอย่างมา ขายาวก้าวเดินไปมาทักทายก่อนจะนั่งลงที่ว่างที่อยู่ทางซ้ายมือของสึบากิ
''โทษทีนะโค้ชเรียกไปคุยว่าแต่ไหนข้าวกล่องฉันละสึบากิ'' สึบากิหยิบข้าวกล่องในถุงผ้าออกมายื่นให้นิจิมุระท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมา เขาขมวดคิ้วแต่ไม่ได้ถามอะไรก่อนจะเปิดฝาแล้วพบว่าข้าวกล่องรอบนี้มีเมนูข้าวผัดของโปรดของเขาอยู่ด้วย
''โอ้ะวันนี้มีข้าวผัดของโปรดด้วยแฮะโชคดีจัง'' นิจิมุระดีใจโดยไม่ได้รู้เลยว่าคำพูดของเขาทำให้ผู้ร่วมวงกินข้าวมีเหงื่อซึมออกมามากจนหลังเปียกชุ่มแล้ว มือใหญ่ใช้ตะเกียบคีบข้าวผัดของโปรดขึ้นมากินด้วยความเอร็ดอร่อยก่อนจะเหลือบไปเห็นอาคาชิที่ถือข้างกล่องสีดำกินอย่างเงียบๆที่เขาจำได้ว่านั้นเป็นของสึบากิ ส่วนรุ่นน้องสาวถือข้าวกล่องสีขาวแปลกตาไว้
''อะไรกันสองคนนี้เดี้ยวนี้มีแลกข้าวกล่องกินด้วยหรอเนี้ย~'' เขาเอ่ยแซวรุ่นน้องทั้งสองแต่เหมือนจะยิ่งไปราดน้ำมันเพิ่มใส่กองไฟมากกว่า
''จะสู้ข้าวกล่องที่เขาตั้งใจทำให้นิจิมุระที่เป็นแฟนเก่ามาให้เฉพาะได้ยังไงกันละครับ''
อาคาชิตอบก่อนจะปิดฝาข้าวกล่องพร้อมกล่าวขอบคุณและเดินแยกตัวออกไป ส่วนสึบากิยังคงนั่งกินข้าวเงียบไม่คุยกับใคร นิจิมุระจึงหันมาจ้องรุ่นน้องสาวด้วยสายตาตำหนิ ก่อนจะเหลือบมองคนที่เหลือที่จ้องมองเขาอย่างสัยสัยเช่นกันว่าสรุปแล้วกัปตันของพวกเขาเคยคบหากับผู้ช่วยโค้ชจริงรึเปล่า
''สึบากินี้เธอบอกเจ้าพวกนี้แล้วหรอ'' นิจิมุระวางตะเกียบเขาถอนหายใจพลางเกาท้ายทอยด้วยสีหน้าเซ็งๆ สึบากิพยักหน้ารับ
''มะหมายความว่านี้มันเรื่องจริงหรอครับกัปตัน!'' คิเสะโพล่งใส่ด้วยความตกใจ ดวงตาสีเหลืองเบิกกว้าง
''ก็นะ''
''และทำไมถึงเลิกกันละครับ'' มิโดริมะที่เงียบไปนานถาม
''ไม่ขอตอบแล้วกันนะแต่มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรหรอก'' นิจิมุระเลี่ยงประเด็น เขามองสึบากิที่ตอนนี้กินข้าวเสร็จแล้วก่อนจะขอตัวไปซื้อน้ำชามะนาวที่ตู้ขายน้ำใกล้ๆ
''แล้วแบบนี้อาคาจินก็แย่เลยหน่ะสิสึบาจินตอนนี้ยังไม่ลืมนิจิมุระซังสินะ'' มุราซากิบาระเอ่ยพลางมองไปร่างบางที่กำลังยืนกดเลือกเครื่องดื่มอยู่
''ฉันก็ไม่รู้หรอกอยู่ที่ทั้งสองคนนั้นมากกว่า''
ว่าจะยอมลดลดทิฐิตัวเองลงได้เมื่อไหร่แล้วหันหน้ามาคุยกันทั้งคนที่พยายามควบคุมและคนที่ดื้อดึง นิจิมุระคิดในใจ
การแข่งขันรอบบ่ายเริ่มต้นขึ้นคุโรโกะที่ได้รับคำแนะนำจากอาคาชิแล้วเขาสามารถดึงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ทำให้ทีมที่มีปีสองล้วนเก็บชัยชนะมาได้อย่างสวยงามโค้ชซานาดะเองก็ยอมรับความสามารถของคุโรโกะรวมถึงรุ่นพี่ปีสามอีกด้วย การปรากฏตัวของปีศาจแฟนท่อมสร้างความสนใจและเป็นที่จับตามองของผู้คนถึงผู้เล่นคนที่หก ที่ตอนนี้นอนหมดสภาพอยู่บนรถบัสหลังจบการแข่งขัน
แต่ทีมในตอนนี้ยังมีอีกหนึ่งปัญหานั้นก็คือความอึดในการเล่นของพวกปีสองยังมีไม่พอเมื่อเทียบกับรุ่นพี่ในควอเตอร์ที่สองทีมจำเป็นจะต้องเอารุ่นพี่เข้ามาช่วยเพื่อให้ปีสองได้พัก โปรแกรมซ้อมหลังจากนี้คงต้องเน้นไปที่ความอึดเพื่อให้พวกเขาสามารถลงแข่งสองแมตซ์ต่อวันได้
เพราะในการแข่งขันอินเตอร์คลูในหน้าร้อนที่จะถึงนี้พวกเขาต้องแข่งถึงหกแมตซ์ในสามวันนับว่าหนักหนาเอาการถ้ายังคงเป็นแบบนี้พวกเขาที่ไม่มีรุ่นพี่คอยช่วยในตอนที่ขึ้นชั้นปีสามแล้วจะลำบากถ้าแกนหลักของทีมไม่มีความอึดพอที่จะลงได้สองเกมส์ต่อวัน
ร่างบางยืนอ่านรายละเอียดข้อมูลที่ได้รับมาจากโมโมอิอีกทีตอนนี้สวัสดิการกำลังช่วยกันทยอยเก็บกวาดข้าวของขึ้นบนรถส่วนพวกนักกีฬาก็แยกตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า สึบากิยืนพิงรถบัสด้วยใบหน้าปลาตายก่อนจะถอนหายใจเมื่อรู้สึกว่ามีสายตาหลายคู่ลอบมองเธออยู่จะไม่ให้ถูกมองได้ยังไงในเมื่อบนตัวเธอมีเสื้อคลุมนักกีฬาของคนบางคนที่บังคับให้เธอสวมมันไว้อยู่และคนที่บังคับเธอได้มีอยู่คนเดียวคือ อาคาชิที่ตอนนี้กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่
หลังจากพักกินข้างกลางวันเจ้าตัวที่แยกออกไปกลับมาใกล้เวลาแข่งเขาไม่ได้เขามาคุยกับเธอทำเพียงว่าสั่งให้เธอเอาเสื้อคลุมของเขาไปสวมใส่ตลอดทั้งวันห้ามถอดจนกว่าเขาจะบอก สึบากิถอนหายใจกับบทลงโทษที่สำหรับเธอมันค่อนข้างอึดอัดใจพอตัวที่โดนชี้สั่งให้ทำตามใจใครบางคน
''พรุ่งนี้ก็เตรียมตัวไว้ให้ดีนะสึบากิจัง~'' มินามิเอ่ยล้อเลียนเพื่อนสาวที่ถอนหายใจด้วยหน้าปลาตาย
''ทำไมหรอคะ''
''ถึงจะเป็นการเล่นกันแค่วันนี้แต่คนอื่นๆเขาไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกนะคะสึบากิจัง'' ฮิคาริกล่าวและชี้ให้เห็นจุดสำคัญของการกระทำของอาคาชิในวันนี้ไอ้เรื่องที่แกล้งเล่นเป็นแฟนกันหนึ่งวันนั้นหน่ะไม่ใช่จุดประสงค์หลักของรองกัปตันที่ฉลาดเป็นกรดคนนั้นหรอกนะ
''อย่าบอกนะว่าสึบากิยังไม่รู้ตัวเลยหน่ะว่าตกอยู่ในกำมือของอาคาชิคุงซะแล้ว'' โมโมอิกล่าวเสริม เธอลอบมองสีหน้าของเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงถึงจะเชียร์ให้สองคนคบกับแต่ว่าถ้าต้องคบเพราะโดนบีบกันแบบนี้สึบากิจังคงจะ……แล้วไหนจะเรื่องของกัปตันนิจิมุระอีก
''เรื่องนั้นหรอก็พอรู้อยู่แล้วค่ะ'' สึบากิตอบกลับด้วยท่าทีเฉยๆไม่ได้หวาดระแวงหรือหวาดกลัวเหมือนทุกที ดวงตาสีฟ้าเข้มมืดครึม มือเล็กควงดินสอไปมาเล่น
''เอ๋~ไม่ตื่นเต้นหน่อยหรอสึบากิจังรึไม่รีบหาทางหนี'' มินามิแปลกใจกับท่าที่ที่เงียบสงบมันเงียบสงบเหมือนกับก่อนพายุจะมาถล่ม เธอสงสายตาไปทางฮิคาริที่เริ่มจับบรรยากาศมืดครึมนี้ได้
''อย่าบอกนะคะว่าอาคาชิคุงรู้เรื่องกัปตันนิจิมุระแล้ว?''ฮิคาริคาดเดาด้วยความหนักใจ สึบากิพยักหน้าเป็นการบอกให้เพื่อนสาวทราบ
''แล้วอาคาชิคุงเขามีปฏิกิริยายังไงบ้าง!'' มินามิร้อนรนไปหมดสีหน้าเธอซีดเมื่อรู้เมนในดวงใจรู้ว่าสาวที่เขาตามตื้ออยู่เคยคบกับกัปตันทีมที่เขาเคารพแถมยังเป็นคนใกล้ชิดอีกด้วย
''ก็ไม่มีละมั้งคะแต่ดูจะไม่พอใจเรื่องที่ฉันทำข้าวกล่องให้นิจิมุระซัง'' ร่างบางหยุดควงดินสอเล่นก่อนจะใช้ก้นยางลบคลึงที่บริเวณระหว่างคิ้วไปมาด้วยท่าทีสบายๆไม่ได้หวั่นใจอะไร ส่วนคนฟังทั้งสามทำสีหน้าหวาดวิตกแทน
''เฮ้อช่างเถอะค่ะแต่ตอนนี้สรุปสึบากิจังจะเอายังไงกันค่ะตอนนี้เรื่องที่เป็นแฟนกับอาคาชิคุงวันนี้คงมีคนรู้ไปทั่วแล้ว''โมโมอิเปลี่ยนหัวข้อกระทันหันดึงบรรยากาศให้กลับมาสดใสอีกครั้ง
''นั้นสินะถ้าตอบปฏิเสธคงไม่มีใครเชื่อจะตอบรับก็เข้าทางอาคาชิคุงเป็นกับดักที่ได้ประโยชน์ทุกทางเลยสินะคะ'' สึบากิเปลี่ยนมากอดอก หันไปมองอาคาชิที่เดินมายืนอยู่ข้างหลังเพื่อนสาวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้น่าจะได้ยินประโยคเมื่อกี้หมดแล้ว สามสามเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งหนีไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆทิ้งให้ผู้ช่วยโค้ชสาวยืนรับหน้าแฟนจำเป็นของวันนี้
อาคาชิไม่ได้พูดอะไรก่อนจะยื่นมือมาแย่งดินสอจากมือไปใส่กระเป๋าตัวเองแล้วกุมมือที่ว่างจูงให้เดินตามเขาขึ้นไปบนรถที่ตอนนี้มีแค่ร่างจืดจางของคุดรดกะที่นอนหมดสภาพอยู่ท้าย ส่วนอาคาชิจูงมือแฟนของเขาวันนี้มานั่งในตำแหน่งเดิมเหมือนขามาและเขาก็นั่งลงด้านข้าง ดวงตาสีแดงเหลือบไปเห็นตุ๊กตาลูกเจี๊ยบสีรุ้งนี้วางอยู่เบาะตรงข้าม ก่อนแขนเล็กจะรีบคว้าเอามากอดไว้แน่น
สีบากิจ้องมองคนที่นั่งข้างๆที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังจ้องมองมาที่ตุ๊กตาลูกเจี๊ยบสีรุ้งด้วยแววตาอันตราย ก็นะสีรุ้งมันสีประจำตัวรุ่นพี่นิจิมุระร่างบางถอนหายใจก่อนจะเอาตุ๊กตาเจ้าปัญหาวางที่ตักของอาคาชิแล้วล้มตัวนอนหนุนตักโดยมีตุ๊กตารองหัวเธออีกที สึบากิถอนหายใจแล้วหลับตาลง
''พวกเราสนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยชั้นประถมกลับบ้านกันตลอด…เขาเป็นคนที่ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยและสบายใจที่พูดคุยหรืออยู่ใกล้ๆมันเป็นความผูกพันธ์ที่ก่อตัวมานานและเหนี่ยวแน่นเขากลายมาเป็นคนสำคัญทั้งที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน…พอเขาขึ้นชั้นปีหนึ่งพวกเราตกลงลองคบกันในสถานะคนรักแต่เราก็เลิกกันหลังคบมาได้หนึ่งปี''
อาคาชิที่ตักตัวเองถูกใข้เป็นหมอนหนุนนิ่งเงียบเขาเพียงมองสำรวจใบหน้าของสึบากิและปากชมพูระเรื่อที่กำลังเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ แต่ความจริงเรื่องที่เธอคบกับนิจิมุระก็ทำให้เขารู้สึกหึงแม้มันจะจบความสัมพันธ์ในสถานะคนรักไปแล้วก็ความแต่ความสนิทสนมของทั้งสองคนเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักอยู่ดี
''สำหรับฉันแล้วสถานะพวกนั้นไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ตัวนิจิมุระซังเองก็คิดแบบนี้เป็นคนที่สำคัญแต่ไม่ใช่ในสถานะคนรักได้เช่นกันมันค่อนข้างจะคลุมเครือที่จะระบุให้ชัดเจนถ้าใกล้เคียงที่สุดคือเขาคือครอบครัวไปแล้ว…อาคาชิคุงกับนิจิมุระซังแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง…ไม่มีใครจะมาแทนที่หรือตำแหน่งของใครได้…การที่คุณพยายามมาแทนที่เขานับว่าคิดผิด''
''แล้วฉันต้องทำยังไง'' อาคาชิถาม มือเรียวเกลี่ยผมหน้าม้าของอีกฝ่ายเล่น
''……คุณต้องสถานะอะไรอาคาชิคุง?''
''คุณก็รู้อยู่''
''แล้วตอนนี้มันไม่ใช่ตรงไหน?''
สึบากิลืมตาขึ้นมาดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องมองไปที่ดวงตาสีแดงคู่สวยที่เบิกกว้างเล็กน้อย อาคาชินิ่งเงียบก่อนจะหัวเราะในลำคอ ดูเหมือนว่ากับดักที่เขาวางไว้เพื่อจับเจ้ากระต่ายดำตัวนี้จะกลายมาเป็นว่าเขาถูกอีกฝ่ายจับให้อยู่ในกำมือเสียแล้ว
เมื่อตรวจเช็กคนและของเรียบร้อยแล้วนิจิมุระขึ้นรถมาเป็นคนสุดท้ายก่อนจะเดินไปนั่งที่เดิมที่มีร่างคนสองคนนั่งอยู่โดนรอบนี้มันแตกต่างจากขามาเล็กน้อยสึบากินอนพิงไหล่อาคาชิเหมือนเดิมมือเล็กถูกมือของอาคาชิกุมไว้ส่วนแขนอีกข้างกอดตุ๊กตาลูกเจี๊ยบสีรุ้ง คราวนี้ร่างบางนอนหลับไปจริงๆไม่ได้แสร้งหลับไปแบบเมื่อเช้า ส่วนอาคาชินั่งหลังตรงมองมาที่เขาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
''คืนดีกับแฟนแล้วรึไง'' รุ่นพี่หนุ่มกระซิบเบาๆกลัวทำคนที่หลับไปตื่น เขาส่งสายตาล้อเลียนรุ่นน้องจอมวางแผนที่พลาดท่าให้กับยัยตัวแสบของเขาไปแล้ว
''ครับ'' อาคาชิขานรับก่อนจะละสายตาจากรุ่นพี่มองไปยังเจ้าลูกเจี๊ยบในอ้อมกอดของร่างบางด้วยแววตาอ่านยาก
เอาเถอะเขาจะปล่อยไว้ก่อนวันนี้ถึงจะใช้เวลานานแต่ไม่เกินความสามารถของเขาอาคาชิ เซย์จูโร่
ความคิดเห็น