ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic kuroko no basket,knb] Love is the honey (Akashixoc)

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 65


     

    Chapter 4

     

    There's a fine line between coincidence and fate. : the mummy return

    มีเพียงเส้นบางๆเท่านั้นที่แบ่งแยกระหว่างความบังเอิญออกจากโชคชะตา

     

     

     

     

    ''ตัวเองจะทำอะไรเพื่อทีมได้งั้นหรอ'' อาโอมิเนะเกาท้ายทอยอย่างใช้ความคิดเพื่อตอบคำถามเพื่อนผมฟ้า

     

    ''ครับผมน่ะชู้ตลูกไม่เก่งทำได้แค่ส่งลูกให้แล้วคอยสนับสนุน''

     

    ''อืมนะอาคาชิเองก็ไม่ได้เก่งไปซะทุกอย่างนายเองก็มีสิ่งที่ทำได้บ้างละนะ''

     

    ''อย่างเช่นอะไรหรอกครับ''

     

    ''อย่างลูกส่งที่ควงสว่านได้อะไรทำนองนี้ ชะว้าป!…ชะว้าป!'' คนตัวสูงกางแขนไขว้กันพร้อมส่งเสียงที่คุโรโกะไม่แน่ใจว่ามันคือเสียงอะไรกันแน่

     

    ''………''

     

    ''ผมขอตัวก่อนนะครับ''

     

    ''งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ''

     

    คุโรโกะเดินเข้าไปร้านหนังสือประจำใกล้บ้าน เขาเดินกวาดสายตาไปตามชั้นหนังสือก่อนจะสะดุดกับกับหนังสือเล่มหนึ่ง 'ทักษะการเบี่ยงเบนความสนใจ' เขาหยิบมันออกมาจากชั้น ก่อนจะเดินไปที่เคาเตอร์เพื่อชำระเงินแล้วออกจากร้านไป

     

    โรงยิม1

     

    "อาคาชิมีคนมาหาแหนะ'' อาคาชิหันไปตามเสียงเรียก สายตามองไปเห็นคนที่เขาไม่เจอมาตลอด3เดือน ผมสีฟ้าและดวงตาสีฟ้ารวมทั้งความจืดจางอันเป็นเอกลักษณ์

     

    ในที่สุดก็มาจนได้นะคุโรโกะ เท็ตสึยะ

     

    ''ผ่านมา3เดือนแล้วนะคุโรโกคุงนายได้คำตอบแล้วสินะ'' คุโรโกะขานรับในลำคอ

     

    ''งั้นเรามาทดสอบกันเถอะ''

     

    ''เอ่อคือว่า…ถ้าเป็นไปได้ช่วยทดสอบในการแข่งเลยจะได้ไหมครับ'' อาคาชิแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เขาเดินไปหานิจิมุระที่กำลังดูคนอื่น ๆฝึกซ้อมในสนาม

     

    ''นิจิมุระซังคนนี้ละครับ''

     

    ''อ้อคนนี้เองสินะที่นายเคยบอกเอาไว้'' คุโรโกะ เท็ตสึยะ สึบากิเองก็สนใจ ตั้งแต่เข้ารับการคัดเลือกตอนแรกสินะ นิจิมุระเหลือบมองขึ้นไปบนชั้น2 ร่างบางโบกมือทักทายเหมือนรู้ทันเขา พลางขยับปากแบบไม่มีเสียงส่งมาว่า

    'คอยดูให้ดีนะคะรุ่นพี่'

     

     

    ลูกส่งที่ผิดวิถีธรรมชาตินั้น สร้างความตกตะลึงให้กับทั้งสนามแม้แต่โค้ชทีมAเองก็ไม่คาดคิดว่าจะมี ผู้เล่นที่มีทักษะการส่งที่ยอดเยี่ยมแบบนี้อยู่ และถ้าเขาจำไม่ผิดเด็กปี1คนนี้คือคนเดียวกับที่ผู้ช่วยโค้ชชิรายูกิแนะนำให้พวกเขาจับตามองตั้งแต่แรกร่วมกับอีก4คนที่เป็นตัวจริงในปัจจุบัน

     

    นับได้ว่าหลานสาวของเฮดโค้ชมีสายตาไม่ธรรมดา ราวกับรู้อนาคตล่วงหน้า รวมไปถึงรองกัปตันทีมอย่าอาคาชิเอง ที่เขารู้ถึงความสามารถอยู่แล้วนับได้ว่าเด็กรุ่นใหม่พวกนี้ทำให้เขาแปลกใจไม่น้อย

     

    ''รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วสินะอาคาชิ'' นิจิมุระกอดอกมองรุ่นน้องที่ดูการทดสอบข้างสนาม

     

    ''ไม่ครับมันเกินกว่าที่คาดการไว้มาก'' อาคาชิค่อนข้างพอใจกับสิ่งที่ปรากฎตรงหน้ามากมันเกินความคาดหมายที่เขาคิดไปไกลพอสมควร

     

    สึบากิมองการทดสอบด้วยความรู้สึกตื่นเต้น มิสไดเรคชั่นของคุโรโกะคุงนี้มันสุดยอดมาก รู้สึกอยากลงไปเล่นด้วยจังเลยแฮะ มือเล็กกำราบเหล็กอย่างอดกลั้นความรู้สึกอุ่นร้อนที่เธอคิดว่ามันชืดชาไปแล้วปะทุอีกครั้ง

     

    ''ทำไมไม่ลองลงไปเล่นกับพวกเขาหล่ะสึบากิ'' โค้ชชิโรงาเนะเดินมาหยุดข้างหลานสาวที่มีท่าจะอยากโดดลงไปร่วมเล่นบาสกับคนข้างล่างใจจะขาด

     

    ''คุณลุงอ้ะ!ไม่สิโค้ชชิโรงาเนะ''

     

    ''ถึงจะไม่สามารถแข่งกันกันอย่างเป็นทางการได้แต่ถ้าฝึกซ้อมลุงอนุญาตินะ''

     

    สึบากิส่ายหัวปฏิเสธ ถึงข้อเสนอของคุณลุงจะน่าสนใจ แต่ว่าถ้าเธอเข้าไปยุ่งกับพวกเขามากเกินโดยเฉพาะพวกตัวละครหลักแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบอะไรตามมาบ้าง แต่ใช่ว่าจะไม่มีหนทางที่จะได้ลองวัดฝีมือถ้าแค่แข่ง1:1หรือแบบ3:3น่าจะไม่เป็นอะไรมาก เหมือนกับตอนที่เธอมักจะฝึกซ้อมกับนิจิมุระซังหลังเลิกชมรมโดยไม่ให้มีใครรู้

     

    ''มันยังไม่ถึงเวลานั้นหรอกค่ะโค้ช'' ใบหน้าเรียบเฉยจ้องมองไปยังเบื้องล่าง เธอมองผ่านไปสะดุดเข้ากับรุ่นพี่และรุ่นน้องที่ยืนคุยกันอยู่ขอบสนาม อีกไม่นานแล้วสินะนิจิมุระซังเองก็…

     

     

    วันต่อมา

     

    ห้องซักผ้าชมรมบาส

     

    เสียงเพลงเปิดคลอเบาๆไปกับเครื่องซักผ้าที่กำลังปั่นผ้าขนหนูมีร่างใครบางคนนอนหลับอย่างสบายใจ ผ้าห่มลายลูกเจี๊ยบคลุมขาเรียวยาวส่วนตัวตุ๊กตาเอง ถูกใช้เป็นหมอนหนุนศรีษะ วันนี้เป็นคิวของคุโระคุงตุ๊กตาตัวใหม่สีฟ้าอ่อนที่เธอตัดเย็บเองกับมือเมื่อไม่กี่วันก่อน

     

    ส่วนทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี้ได้ก็เพราะโมโมอิโทรมาขอร้อง ให้ช่วยเฝ้าเครื่องซักผ้าแทน เนื่องจากเจ้าตัวมีหน้าที่พาคุโรโกะที่โค้ชทีมAเรียกตัวมา ให้ซ้อมกับทีมA ส่วนมินามิจังและฮาคาริจังตอนนี้กำลังเอาพวกขวดน้ำไปล้างทำความสะอาดอยู่ จึงเหลือเธอเพียงคนเดียวที่ต้องคอยเอาผ้าใช้แล้ว เข้าเครื่องซักและเอาผ้าที่ซักเสร็จเข้าเครื่องอบไปมา

     

    ''โมโมอิจังไปนานจังเลยน้า~''

     

    ''โฮ้ว~มีเวลาว่างคิดถึงคนอื่นอีกสินะสึบากิ~'' เหมือนจะมีเสียงไม่น่าพิสมัยขัดการนอนของเธอ ร่างบางหรี่ตามองคนที่กล้ามาขัดจังหวะการนอนอันแสนสุขของเธอ

     

    ''อา~ชูโซซัง~'' สึบากิลุกขึ้นมาหาว สมองน้อยรีบประมวลผลหาทางหนีรอดพร้อมคิดในใจว่าสงสัยต้องหาที่หลบภัยใหม่ซะแล้ว

     

    ''มานี้เลยมาทำหน้าที่ของตัวเองได้แล้ว!'' นิจิมุระดึงหูรุ่นน้องสาวเป็นการลงโทษ ก่อนอุ้มร่างบางพาดบ่าเดินไปยังโรงยิม1 และไม่ลืมคว้าเอาผ้าห่มและตุ๊กตาลูกเจี๊ยบของร่างบางไปด้วย

     



     

    ''ไงเท็ตสึ'' อาโอมิเนะทักทายเพื่อนผมฟ้าที่เขารอคอย จะได้เล่นด้วยกันมานาน ร่างสูงผิวแทนยืนเส้นยืดสายเตรียมความพร้อมของร่างกาย

     

    ''สวัสดีครับอาโอมิเนะคุง'' ส่วนคุโรโกะนั่งกางขาแล้วก้มหน้า พร้อมเอาแขนแตะที่ปลายเท้าทั้ง2ข้างทักกลับ วันนี้เป็นวันแรกที่เขาจะได้ซ้อมกับทีมA แม้จะมีใบหน้าไร้อารมณ์แต่ก็ปกปิดแววตาตื่นเต้นไม่ได้

     

    ''ไงทุกคนฉันกลับมาแล้ว'' เสียงทุ่มกล่าวอย่างอารมณ์ดี นิจิมุระเดินเข้ามาในโรงยิมโดยมีร่างบางใครบางคนพาดบ่า แต่เดาไม่ยากจากตุ๊กตาและผ้าห่มที่กัปตันหนุ่มหิ้วมาด้วย ที่คนในทีมAคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ที่แปลกคือสีของมันที่พวกเขาไม่คุ้นว่าจะมีตุ๊กตาสีฟ้าอ่อนนี้ด้วย

     

    ''นิจิมุระซังฉันไม่ไหวแล้วปล่อยฉันลงเถอะ''เสียงอ่อนแรงเอ่ยขอร้อง ตอนนี้เธอเริ่มมีอาการมึนหัวจากการที่เลือดไหลลงหัวมากเกินไป

     

    นิจิมุระประคองสึบากินั่งที่ม้านั่งตรงขอบสนาม แล้วโยนตุ๊กตากับผ้าห่มพร้อมทั้งชาร์ทบอร์ดให้ผู้ช่วยโค้ชสาวรับ ก่อนจะเริ่มเรียกทุกคนมาวอร์มอัพกันอย่างพร้อมเพรียง

     

    สึบากิยู่ปากใส่กัปตันหนุ่ม เธอสายหัวเบาๆไล่ความมึนงง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านรายละเอียดโปรแกรมฝึกสำหรับ วันนี้ที่เธอเตรียมไว้เมื่อหลายวันก่อน เพื่อปรับให้เข้ากับการใช้มิสไดเรกชั่นของคุโรโกะคุง

     

    ''ปกติชิรายูกิซังไม่ค่อยอยู่โรงยิมหรอครับ'' โคโรโกะที่จับคู่ยืดเส้นกับอาคาชิเอ่ยถาม

     

    ''ปกติสึบากิซังจะต้องอยู่เพื่อจับตาดูพวกเราตลอด'' อาคาชิส่ายหัว เขาหัวเราะในลำคอกับอาการงัวเงียของสึบากิเพราะโดนกัปตันปลุกให้ตื่นมาทำหน้าที่ตัวเอง

     

    ''อืม~ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอกนะแต่ว่าตั้งแต่วันนั้นสึบาจินดูจะไม่ค่อยอยากอยู่โรงยิมซักเท่าไหร่ละนะ''

     

    "วันนั้นที่นายหมายถึง คงไม่ใช่วันเดียวกับการประเมินของอาโอมิเนะหรอกนะบุราซากิบาระ'' มิโดริมะเอ่ยด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

     

    ''พวกนายรู้อะไรกันมา'' อาคาชิจับความผิดปกติได้ จ้องมองไปยังมุราซากิบาระและมิโดริมะด้วยสายตาเย็นชา

     

    ''ก็นะมันมีพวกหื่นๆแถวนี้ใช้สายตาแทะโลมชาวบ้าน เลยโดนสาวเขาซัดซะน่วมมาไงละว่าไหมไฮซากิ'' อาโอมิเนะเหน็บแนมคนที่โดนผู้ช่วยโค้ชสาว อัดสั่งสอนให้อับอายคนทั้งโรงยิมมาแล้ว แต่ท่าทางดูจะไม่เข็ด

     

    ''เหอะฉันก็แค่ชมว่ายัยนั้นมี…เยอะแค่นั้นเองอั้ก!'' ไฮซากิล้มไปนอนกับพื้นด้วยลูกถีบของนิจิมุระ

     

    ''หุบปากแล้วตั้งใจวอร์มอัพซะไฮซากิพวกนายก็ด้วย!'' นิจิมุระออกคำสั่งก่อนจะเดินไปคุยกับสึบากิและโค้ชเพื่อทำความเข้าใจโปรแกรมการซ้อมแบบใหม่ของวันนี้

     

    อาคาชิมองร่างที่แกล้งนอนไปหลับพื้นเมื่อครู่ ก่อนจะย้ายสายตาไปมองสึบากิและมาหยุดมองเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ บรรยากาศกดดันแผ่ออกมา จนคนรอบข้างรู้สึกได้ มีเรื่องเกิดขึ้นแต่ทุกคนกล้าปิดบังเขา

     

    ''หลังฝึกซ้อมเสร็จพวกเรามีเรื่องต้องคุยกันมิโดริมะ มุราซากิบาระ และก็อาโอมิเนะ ส่วนคุโรโกะคุงนายกลับไปก่อน'' ทุกคนขานรับโดยไม่ขัดขืน

     

    ''นัดกันจะหนีไปเที่ยวเล่นหรอคะ?''

     

    ''อา~สึบาจินอย่าโผ่ลมาแบบนี้สิ''

     

    ''แสดงว่าวางแผนไม่ดีอะไรกันอยู่แน่เลยใช่ไหมคะอัตสึชิคุง'' สึบากิหรี่ตาจับอาการผิดปกติของไททั่นม่วงได้ ก่อนจะกวาดสายตาไปยังคนที่เหลือ พวกเขาต่างหลบสายตาเธอเว้นแต่อาคาชิและคุโรโกะผู้ไม่รู้เรื่องราวอะไร

     

    ''สุดสัปดาห์นี้พวกเราวางแผนกันว่าจะไปหาซื้อรองเท้าใหม่กัน'' อาคาชิเปิดประเด็นใหม่อย่างรวดเร็ว

     

    ''อ้อ'' สึบากิหรี่ตามองหาความผิดปกติของอาคาชิแต่เหมือนจะไม่พบร่องรอยอะไร แต่จากเซ้นส์ของเธอ แล้วการที่ไม่มีอะไรมันก็คือมีอะไรนั้นแหละ แต่ว่าครั้งนี้จะทำเป็นไม่รู้อะไรแล้วกันนะคะอาคาชิคุง

     

    ''สึบากิซังว่างรึเปล่าถ้ายังไงช่วยไปเลือกรองเท้าให้พวกเราหน่อย'' สึบากิพยักหน้ารับเป็นอันว่าตกลง ก่อนร่างบางจะเดินกลับไปนั่งที่ม้านั่งตัวเดิม เป็นสัญญาณให้เริ่มการซ้อมได้

     

    จริงๆแล้วสึบากิพอจะเดาได้ว่าทั้ง4คนสุ่มหัวคุยเรื่องอะไรอยู่ แต่เธอก็ไม่ค่อยชอบขอร้องรึต้องให้ใครมาคอยปกป้องกันมากเกินไป

     

    ''มีคนเป็นห่วงก็ดีแล้วไม่ใช่รึไงรุ่นน้องหึหึ'' นิจิมุระเอื้อมมือมาลูบหัวรุ่นน้องสาว เสียงหัวเราะที่ไม่น่าไว้ใจของรุ่นพี่ทำเอาหางตาเธอกระตุก

     

    ''ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอกนะคะ''

     

    ''ตอนที่เธออยู่กับมิโดริมะฉันเห็นนะ'' ร่างบางแข็งทื่อ สึบากิขบริมฝีปากแน่นอย่างลืมตัวเพื่อข่มอารมณ์ไว้ เธอแค่เผลอใจลอยคิดเรื่องไม่ดีเท่านั้น ไม่คิดว่านอกจากมิโดริมะจะมีรุ่นพี่หนุ่มมาเห็นเข้าอีก

     

    ''มีคนคอยดูแลเธอแทนฉันแล้วอย่างงี้ค่อยสบายใจหน่อยไปละ'' นิจิมุระเดินกลับเข้าไปสนามทิ้ง ให้ร่างบางมองตามแผ่นหลังกว้างไม่วางตา ดวงตาสีฟ้าเข้มหม่นหมองไปชั่วขณะ

     

    'นิจิมุระซังถ้าหากฉันเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องอะไรได้บ้าง ฉันคงขอให้คุณเป็นกัปตันทีมเทย์โคให้นานขึ้นอีกหน่อย…'

     

     

     

    ดาดฟ้า

     

    สึบากินั่งทานข้าวกลางวันกับพวกเพื่อนสาวในชมรม ส่วนเพื่อนสนิทอีก2คนกำลังเดินตามขึ้นมาวันนี้เป็นโอกาสดี ที่จะรวมตัวนั่งคุยตามประสาสาวน้อย ในโลกเก่าเธอไม่ค่อยมีโอกาสนี้เท่าไหร่นักเพราะต้องเรียนไปด้วยและทำงานพิเศษไปด้วย

     

    ''สึจางตอบฉันมาเดี้ยวนี้นะที่ว่าจะไปเดทกับอาคาชิคุงนี้ยังไง!!'' คนตัวเล็กวิ่งมาเขย่าสึบากิทำเอาคนที่กำลังดื่มน้ำสำลักจนหน้าแดง

     

    ''แค่กๆ…ฮารุจังปะ ปล่อยฉันก่อน'' สึบากิพยายามแกะมือเพื่อนที่เขย่าตัวเธอไม่หยุดจนเริ่มเวียนหัว

     

    ''สึบากิจังต้องเล่ามาให้หมดนะคะ'' นานะเดินตามหลังมา สึบากิมองไปที่ดวงตาของเธอมีประกายไฟลุกโชนอยู่

     

    เมื่อหลุดจากการเกาะของฮารุ เอียงคอด้วยความงง เล่า?เล่าอะไรเธอแค่พาพวกหัวหลากสีไปซื้อรองเท้าใหม่แค่นั้นเองอะนะ ?

     

    ''เห้~อะไรกันเจ้าหญิงหิมะของเราจะไปเดทงั้นหรออ้าย~'' มินามิกรี้ดกร้าด ใบหน้าแดงระเรื่อจินตนาการถึงการไปเดทของเพื่อนสาว สึบากิถอนหายใจกับความมโนของมินามิแต่ยังไม่ทันอ้าปากอธิบายเพื่อนสาวอีกคนก็ขัดขึ้นมาก่อน

     

    ''อืมแบบนี้ต้องรีบแล้วนะคะเดี้ยวจะไม่ทันการณ์'' ฮิคาริที่กำลังเปิดเช็คเมล์ด้วยความไวเอ่ยเตือนสาวๆในกลุ่ม ทุกคนพยักหน้าอย่างรู้งาน ยกเว้น1คนที่ดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่อย่างนานะ

     

    ''หา?ดะ เดี้ยวก่อนสิคะมันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนเข้าใจ''

     

    ''พวกเราต้องแล้วนะสึบากิจัง เย็นนี้มีช่วงเซล์ด้วยจะพลาดไม่ได้!'' โมโมอิยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้ทุกคน ดูตัวอักษรสีแดงเขียนชัดเจนว่าsale90% สึบากิตอนนี้หดตัวอยู่ในหลืบความเซ็งที่ไม่มีใครฟังเธอเลย ส่วนคนที่ไม่ได้ร่วมวงอย่างนานะก็กำลังจ้องมองเธอด้วยความกดดัน

     

    ''อาคาชิคุงแค่ชวนให้ฉันไปช่วยเลือกรองเท้าให้กับพวกมิโดริมะคุง อัตสึชิคุง อาโอมิเนะคุงแล้วก็คุโรโกะคุงเท่านั้นเอง''

     

    ''อย่างงั้นเองสินะคะ'' นานะถอนหายใจและไม่ได้พูดอะไรต่อ

     

    ''เอาละ!!เย็นนี้พวกเราไปที่นี้กันเถอะ!!'' ''โอ้ส!!'' เห็นท่าทางร่าเริงของบรรดาเพื่อนสาวแล้วเธอได้แต่ตามน้ำไป ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีด้วยนะคะพระเจ้า

     

     

    ห้องสภานักเรียน

     

    ''อาคาชิคุงเย็นนี้ฉันมีธุระกับเพื่อน ยังไงก็ขอตัวก่อนนะคะส่วนเอกสารพวกนี้เดี้ยวฉันเอากลับไปทำที่บ้านแทน''

     

    ''สึบากิซังแล้ววันเสาร์นี้เวลานัด9.00น.หน้าสถานีรถไฟนะ'' สึบากิขานรับหนึ่งที

     

    ''ส่วนเรื่องชมรมฉันบอกนิจิมุระซังเรียบร้อย แล้วยังไงก็ขอตัวก่อนนะคะ'' สึบากิหยิบกระเป๋านักเรียนขึ้นมาสะพายไหล่ก่อนจะเดินออกจากห้อง

     

    ''อะไรกันฉันไปแลกเปลี่ยนแปปเดียว พวกเธอ2คนไปเดทกันแล้วยังงั้นหรอ~'' ประธานนักเรียนทาคุมิเอ่ยแซวรุ่นน้องที่ตอนนี้ ได้รับตำแหน่งรองประธานมาแทนคนเก่าที่ขอลาออกไปกะทันหัน

     

    ''พวกเราแค่นัดไปซื้อรองเท้าด้วยกันแค่นั้นครับ'' อาคาชิก้มหน้าตรวจเอกสารของสภา เขาตอบตามความจริงที่มีนัดกับสึบากิและคนอื่น ๆ แต่ดูเหมือนจะทำให้รุ่นพี่หนุ่มเข้าใจผิด

     

    ''เห้~ฟังดูน่าเบื่อจังทำไมไม่พาไปเที่ยวที่อื่นบ้างหล่ะ''

     

    ''……'' เสียงแม็กเย็บกระดาษดังเป็นจังหวะ ไร้การตอบรับบทสนทนาจากรุ่นน้อง

     

    ''ก็อย่างพวกสวนสนุกอะไรงี้ ที่คู่รักเขาไปเดทกันยังไงหล่ะ'' ทาคุมิเท้าคางพลางมองสีหน้ารุ่นน้องหนุ่มที่เขาเข้าใจว่า อีกฝ่ายคบหาดูใจกับสาวสวยประจำโรงเรียนไปแล้ว

     

    ''พวกเราไม่ได้คบกันนะครับรุ่นพี่'' อาคาชิตรวจสอบความเรียบร้อยเอกสารทั้งหมดก่อนจะหอบเอกสารเดินมายังหัวโต๊ะประธานนักเรียน

     

    ''งั้นก็ขอเธอสิจะไปยากอะไร'' รุ่นพี่หนุ่มโวยวาย ขัดใจกับความซื่อบื้อ?

     

    ''นี้เป็นเอกสารที่รุ่นพี่ต้องเซ็นให้เสร็จ ภายวันนี้ยังไงขอตัวไปชมรมก่อนนะครับ'' อาคาชิหอบเอกสารกองโตมาวางบนโต๊ะประธานนักเรียน ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องโดยไม่ลืมปิดประตูให้

     

    ''อ้ะ! เดี้ยวก่อนสิอาคาชิ~''
     

     

     

     

    หน้าสถานีรถไฟมีร่างหนึ่งยืนกอดอกพิงผนังอิฐสีส้ม ดวงตาสีฟ้าเข้มหรี่ลงมือเล็กขาวผ่องป้องปากหาวเป็นรอบที่5 วันนี้เธอเสื้อเชิ้ตแขนกุดลายทางสีฟ้าปกคอสีขาว ท่อนล่างสวมประโปรงกางเกงสีขาวสูงเลยหัวเข้ามาหนึ่งคืบอวดเรียวขายาวสวย ไหล่บางมีกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กสีน้ำตาลอ่อน

    ส่วนรองเท้าเป็นรองเท้ารัดส้นสีขาวแต่งด้วยคริสตัสเล็กๆบริเวณสายคาดที่เพื่อนสาวแนะนำให้เธอซื้อมาใส่ ข้อมือเรียวเล็กมองนาฬิกาที่ใส่เป็นประจำบอกเวลา8.40น.

     

     

    สึบากิมาเร็วกว่าเวลานัด เนื่องจากต้องรีบหนีการตอบคำถามจากพี่ฮิคารุที่เหมือนจะทำตัวเป็นตำรวจสืบสวนสอบสวน โดยมีเธอเป็นจำเลยเพียงเพราะรู้ว่าวันนี้เธอมีนัดกับเพื่อนชายถึงแม้เธอจะบอกว่าไม่ได้มีเพียงเธอไปคนเดียว แต่มีเพื่อนสาวอีกคนคือโมโมอิจังมาด้วยพี่ชายคนที่3ก็ยังไม่พอใจอยู่ดี

     

    ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก เธอจึงต้องขอร้องพี่ชายคนรองพี่คาโอรุคอยประกบไม่ให้พี่ฮิคารุออกจากบ้านมาป่วนเวลา ที่เธอพาเพื่อนหัวหลากสีเลือกซื้อรองเท้าอันเป็นภารกิจหลักของวันนี้

     

    อา~อีกตั้ง20นาทีแหนะ สึบากิที่พยายามต่อสู้กับความง่วงและความหิวเนื่องจากตื่นแต่เช้าและรีบออกมาโดยยังไม่มีข้าวเข้าตกถึงท้อง สายตากวาดหาร้านขนมปังหรือร้านข้าวปั้นเพื่อนกินรองท้องระหว่างรอเพื่อนชายทั้งหลาย และโมโมอิจังที่เธอคาดว่าน่าจะมาถึงพร้องกับอาโอมิเนะคุงและคุโรโกะคุงเพราะบ้านทั้ง3คนอยู่ละแวกเดียวกัน

     

    ส่วนอาคาชิคุงที่บ้านอยู่ละแวกเดียวกับเธอ ส่งเมล์มาบอกเมื่อเช้าว่าเขาจะต้องแวะไปที่โรงเรียนก่อนเพราะประธานนักเรียนเรียกตัวให้ช่วยหาเอกสารสำคัญที่อยู่ในความรับผิดชอบของอาคาชิคุงไม่เจอจึงอาจจะทำให้มาช้ากว่าเวลานัด เนื่องจากทางไปโรงเรียนกับสถานีรถไฟอยู่คนละทางกัน

     

    ''ขอข้าวปั้นไส้ไข่ปลาสองแล้วก็ชามะนาวเย็น1ขวดค่ะคุณป้า'' สึบากิหยิบกระเป๋าตังออกมาชำระเงินก่อนจะรับข้าวปั้นและขวดน้ำ จากคุณป้าแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะไม่ไกลจากตัวร้านมากนัก

     

    ''อรุณสวัสดิ์สึบากิซัง'' อาคาชิทักทายเขาเดินมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามร่างบางที่กำลังแกะห่อข้าวปั้น สึบากิเงยหน้าขานรับด้วยความแปลกใจ ที่เจ้าตัวมาก่อนเวลาที่แจ้งไว้ตอนแรกแต่ไม่ได้ถามอะไร ก่อนจะก้มไปสนใจข้าวปั้นต่อ

     

    ใบหน้าปลาตายขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกวันนี้ดูแปลกตาไป เพราะปกติเขามันจะจำภาพของเจ้าตัวในชุดนักเรียนหรือชุดลำลองที่เห็นเวลาอยู่ในโรงยิมเท่านั้น

     

    ผมสีดำเหมือนหยดหมึกที่เคยปล่อยยาวกลางหลังถูกรวมมัดสูงเป็นหางม้าอวดลำคอขาวผ่อง ชวนให้หลงใหลยิ่งมีลูกผมคลอเคลียอยู่บริเวณขาวเนียนด้วยแล้ว

    ดวงตาสีแดงเผลอจ้องมองอย่างเสียมารยาทหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าสีตาของเขาเข้มขึ้นไปชั่วขณะ ก่อนจะกลับมาเป็นปกติเมื่อมีข้าวปั้นยื่นมาตรงหน้าเขา

     

     

    ''อาคาชิคุงยังไม่ได้กินข้าวเช้ามาเหมือนกันสินะคะอันนี้ฉันให้เห็นคุณจ้องมันมานาน'' อาคาชิรับข้าวปั้นเขาจ้องมองข้าวปั้น ที่ถูกแกะห่อเรียบร้อยแล้วในมือก่อนจะสบตากับร่างบางที่หยิบข้าวปั้นอีกอันมาแกะใหม่ ปกติแล้วนอกจากเรื่องงานรึเรื่องในชมรมเขาและสึบากิแถบจะไม่ได้คุยกันมากนัก

     

    ถ้าให้พูดอีกอย่างการที่มานัดให้สึบากิมาช่วยเลือกซื้อรองเท้า ซึ่งมาจากการหลีกเลี่ยงตอบคำถามเมื่อวานก่อนก็เถอะ การที่คนสองคนไม่ได้สนิทสนมกันนัดชวนออกมาซื้อของด้วยกัน ถึงแม้เขาพอจะรู้ว่าร่างบางค่อนข้างสนิทสนมกับเพื่อนร่วมทีมคนๆ อื่นยกเว้นแต่เขาที่เจ้าตัวดูจะเว้นระยะ แต่การที่สึบากิตอบรับข้ออ้างที่เขาสร้างขึ้น โดยไม่คิดอะไรเนี้ยมันออกจะเกินการคาด

     

    จะพูดให้ถูกคือ ชิรายูกิ สึบากิ คือคนที่เขาจัดอยู่ในประเภทไม่สามารถเข้าใจความคิดของเธอได้

     

    ''อ้ะ!ลืมไปอาคาชิคุงไม่ชอบน้ำหวานเดี้ยวฉันไปซื้อชาเขียวให้นะคะ'' สึบากิที่เริ่มแกะห่อข้าวปั้นอันใหม่นึกขึ้นได้ ร่างบางรีบลุกเดินไปที่ร้านขายของที่เดิม เพื่อซื้อชาเขียวแบบไม่มีน้ำตาลมาให้อาคาชิ ที่จริงมันเป็นข้ออ้างละนะ เพราะตั้งแต่ที่อาคาชิปรากฏตัวนั่งอยู่กับเธอ สายตาร้อนแรงจากสาวๆที่อยู่รอบๆ เหมือนสาปแช่งเธอที่บังอาจได้นั่งร่วมกับหนุ่มหล่อคนนี้

     

    ออร่าชาร์มมิ่งของท่านชายอาคาชิเนี้ยเธอไม่อาจดูถูกได้จริงๆ ทำไมต้องมาโปรยทานเรี่ยราดแบบนี้ด้วยนะ สึบากิส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ดวงตาสวยเหลือบมองสำรวจรองกัปตันทีมที่วันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาว ที่พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก กางเกงยืนเข้ารูปสีดำและรองเท้าผ้าใบสีดำที่ลาดคาดสีแดงเข้ม

     

    แต่ที่น่าจะล่อลวงสาวๆนั้น ก็คือเจ้าตัวที่ปกติน่าจะติดกระดุมเสื้อทุกเม็ดวันนี้ปลดกระดุมออกถึงเม็ดที่สองเวลาขยับตัวจะเห็นไหปลาร้าวับๆแวมๆ ยิ่งในเวลาที่เจ้าตัวถือข้าวปั้นกินแล้วกลืนลงคอลูกกระเดือก ที่เคลื่อนไหวขึ้นลองเป็นจังหวะนั้นสร้างดาเมททำลายล้างหัวใจสาวน้อยสาวใหญ่รอบข้างให้หน้าแดงด้วยจินตนาการอันไกลโพ้นไปแล้ว

     

    อา~เมื่อไหร่คนๆอื่นจะมาซักที ก็พอรู้อยู่หรอกว่าท่านชายอาคาชิเนี้ยเสน่ห์แรง ตั้งแต่อยู่ในมังงะแต่ไม่คิดว่าอนุภาคในมังงะกับชีวิตจริงๆมันต่างคนละขั้นแบบสุดขั้นขนาดนี้ หวังว่าวันนี้ตอนกลับบ้านเธอคงไม่เจอแฟนเกิร์ลมาดักทำร้ายหรอกนะ

     

    ''แม่หนู แม่หนู นี้จ้ะชาเขียว'' สึบากิสะดุ้งหันไปขอโทษคุณป้าที่เธอดันเผลอคิดอะไรเพลิน ก่อนจะไม่ลืมจ่ายตัง

     

    คุณป้ายิ้มแย้มเอ่ยเย้าแหย่เธอว่า ''แม่หนูต้องคุมเขาไว้ให้ดีนะจ้ะที่แฟนหล่อแบบนี้เดี้ยวสาวๆคนอื่นจะแอบมาแย่งไป''

     

    ''แฟน?'' ขออย่าให้เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลย สึบากิคิดในใจ

     

    ''ก็พ่อหนุ่มที่นั่งตรงนั้นกับหนูไงจ้ะ''คุณป้าเอ่ยแววตาของคนอายุมากมีประกาย ยามเมื่อเหลือบไปมองเด็กหนุ่มที่เริ่มหันมามอง ทางสาวน้อยที่เดินมาซื้อน้ำที่เหมือนจะนานผิดปกติ

     

    นั้นไงหล่ะไม่ผิดจากที่คาดไว้สึบากิเอามือกุมหน้าผากเธอกำลังอ้าปากปฏิเสธเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด แต่ไม่ทันได้พูดอะไร อาคาชิที่เดินมาใกล้ก็สอบถามถามก่อนว่า ''สึบากิซังมีปัญหาอะไรรึเปล่า'' สึบากิหุบปากอย่างไวก่อนจะรีบตอบกลับไปว่า

     

    ''มะ ไม่มีอะไรหรอกคะ แค่ทักทายคุณป้าเขานิดหน่อย นี้ชาเขียวของอาคาชิคุงยังไงฉันขอตัวก่อนนะคะ'' สึบากิพูดรัวๆอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน ก่อนจะยัดขวดชาเขียวให้อาคาชิแล้วรีบเดินหนีไปนั่งที่โต๊ะ ภายนอกใบหน้าปลาตายดูเป็นปกติดี แต่ถ้าใครได้รู้จักสึบากิมานานจะสังเกตเห็นความไม่ปกติที่ร่างบางเม้มปากเล็กน้อย

     

    แม่เจ้าโว้ย!! สึบากิกรีดร้องในใจ อีกฝ่ายโผ่ลมาจากไหนไม่รู้ทำเอาใจเธอหล่นลงไปตาตุ่ม

     

    จริงๆแล้วสึบากิมีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่งที่น้อยคนนักจะรู้คือเธอค่อนข้างขวัญอ่อนกับการถูกจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว หรือมีอะไรโผ่ลพรวดมาจากทางด้านหลัง อย่างที่อาคาชิทำเมื่อครู่รวมไปถึงอะไรที่ชวนจินตนาการอย่างพวกผี ถึงจะมีเหตุการณ์หลายอย่างทำให้เธอตกใจอยู่ข้างใน แต่ด้วยใบหน้าปลาตายทำให้คนส่วนใหญ่แยกไม่ออกจึงคิดว่าสึบากิไม่ใช่คนขวัญอ่อนแต่อย่างใด

     

    อาคาชิที่จับต้นชนปลายไม่ถูกกับท่าทีของผู้ช่วยโค้ชสาวที่เดินหนีไปที่โต๊ะแล้ว ผมหางม้าสะบัดไปมาตามจังหวะก้าวเดิน มองจากด้านหลังเห็นลำคอขาวผ่องเรียดสายตาจากผู้ชายที่เดินผ่านไปมาให้หยุดมอง เขาเองก็เผลอมองภาพนั้นไปด้วยแต่พอมีสติกลับมา เขาหันมามองคุณป้าเจ้าของร้านที่หัวเราะเบาๆในลำคอ

     

    เหมือนจะมีคนเห็นท่าทางเสียมารยาทของเขาเข้าซะแล้ว อาคาชิกะแอมไอขัดอารมณ์คนอายุมากกว่าให้หยุดขำ แต่แววตาเป็นประกายของคนคุณป้าท่านนี้เขาคงควบคุมไม่ได้จริงๆ

     

    ''ไม่รีบตามไปดูแฟนหน่อยหรอจ้ะ'' อาคาชิเหมือนจะเข้าใจทันทีจากคำถามของคุณป้าและท่าทีแปลกไปของสึบากิ

     

    ''เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นครับ'' อาคาชิตอบด้วยเสียงสุภาพเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด และเขาเองก็ไม่อยากให้สึบากิอึดอัดใจด้วยสถานะการณ์แบบนี้

     

    ''อ้อถ้าไม่รีบจีบละก็เดี้ยวจะไม่ทันนะจ้ะแม่หนูคนนั้นยิ่งน่ารักออกขนาดนี้''

     

    อาคาชิไม่ตอบอะไรเขาหันหลังเดินกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับสึบากิ ที่ดูจะเกร็งๆก้มหน้ากินข้าวปั้นในมือเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา อาคาชิถอนใจก่อนจะรีบแก้ไขบรรยากาศน่าอึดอัดใจนี้

     

    ''อย่าไปใส่ใจกับคำพูดมากนะสึบากิซังการที่พวกเราจะมีความสัมพันธ์แบบไหนก็ตามพวกเราควร เป็นคนเลือกเองไม่ใช่ให้ใครมาเป็นคนตัดสินใจ'' สึบากิเงยหน้ามองคนอาคาชิ เธอแอบตอบในใจว่า อันนั้นฉันรู้อยู่แล้วค่ะอาคาชิคุง ที่จริงฉันแค่ตกใจที่คุณโผ่ลมาแบบไม่ทันตั้งตัวต่างหาก!!

     

    ''ฉันเข้าใจว่าสึบากิซังอึดอัดใจที่คนอื่น มักพูดถึงพวกเราในทำนองนั้นบ่อยๆแต่ไม่ต้องไปคิดมากหรอกนะ……'' สึบากิยังคนมองคนที่พยายามโน้มน้าวให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น จนตอนนี้อาการตกใจของเธอฟื้นฟู กลับมาปกติแล้วแต่มีเรื่องหนักใจแทนเธอไม่รู้จะอธิบายให้รองกัปตันคนนี้เข้าใจยังไงดี

     

    ที่สำคัญใครมันจะไปบอกจุดอ่อนของตัวเอง ให้คนที่ไม่สนิทรู้ด้วยมีหวังอาคาชิได้หัวเราะเธอแน่ๆถึงดูจากนิสัยเขาคงไม่ทำอะไรแบบนั้นก็ตาม

     

    ''เอ่อ…อาคาชิคุงฉันว่าใกล้เวลาแล้วเราไปยืนรอคนอื่นไหมคะ'' เมื่ออาคาชิพูดจบ สึบากิที่กินข้าวปั้นและดื่มน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนหัวข้อสนทนาที่ตอนแรกเธออยากเอ่ยขัด แต่เพราะทราบจากไงมังงะว่าอาคาชิไม่ค่อยชอบให้ ใครมาขัดการพูดของเขาถึงแม้ตอนนี้จะเป็นอาคาชิร่างโอเรชิก็ตาม

     

    อาคาชิพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นเดินนำสึบากิไปยืนรอที่นัดหมายกับทุกคน ถึงแม้เขาจะติดใจกับท่าทีของอีกฝ่าย แต่ในเมื่อเจ้าตัวเขาเลือกที่จะไม่อยากถูกถึงอีกเขาก็ไม่มีความจำเป็นจะต้อง เข้าไปก้าวก่ายหรือรื้อฟื้นอะไรให้มากความ

     

    ''อ้ะ!สึบากิจังอาคาชิคุงทางนี้ๆ'' โมโมอิที่สวมชุดเดรสแขนกุดยาวคลุมเข่าสีขาวและสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีชมพูอ่อน โบกมือไปมา ด้านข้างมีอาโอมิเนะกำลังพูดคุยอย่างร่าเริงกับคุโรโกะคุงที่มีสีหน้านิ่งไม่มีความรู้สึก ซึ่งเป็นผลจากเมื่อวันศุกร์พวกเขาไปแข่งขันนัดกระชับมิตรมา และเป็นวันที่โค้ชทดสอบความสามารถของคุโรโกะและพวกนักเรียนปี1 ในวันนั้นสีบากิเองก็ไปด้วยตามคำสั่งของคุณลุง ซึ่งเธอไม่กังวลเพราะยังไงซะเธอก็ทราบตอนจบของมันอยู่แล้ว

     

    ''อรุณสวัสดิ์ค่ะโมโมอิจัง อาโอมิเนะคุงแล้วก็คุโรโกะคุง'' สึบากิกล่าวทักทาย ทั้ง3คนขานรับและทักทายกลับ และไม่ลืมทักทายอาคาชิที่ยืนอยู่ด้านข้างสึบากิ

     

    ''มิโดริมะกับมุราซากิบาระแวะไปร้านสะดวกซื้อน่ากำลังจะกลับมาแล้ว'' โมโมอิตอบเมื่อเห็นอาคาชิกวาดตามองหาเพื่อนร่วมทีมคนที่เหลือ ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับทราบ

     

    ''วันนี้เราจะมาเลือกซื้อรองเท้าของทุกคน คงต้องรบกวนโมโมอิจังช่วยฉันด้วยนะคะ'' สึบากิหันไปสบตาโมโมอิอย่างเข้าใจกัน2คน โมโมอิหยิบสมุดจดเล่มเล็กในกระเป๋าสานที่เธอพกมา แล้วเปิดหน้าที่มีรายละเอียดยี่ห้อรองเท้า ขนาดและสีที่ทุกคนชอบ ก่อนจะยื่นให้สึบากิ

     

    ''ทุกคนมีขนาดและยี่ห้อและสีที่ชอบ แตกต่างกันพอตัวเลยนะคะคงต้องใช้เวลาๆเดินหากันนาน'' สีบากิจดจำข้อมูลสำคัญและวิเคราะห์ จัดกลุ่มเข้าด้วยกันเพื่อให้ง่ายต่อการหาซื้อจากร้านค้ามากมายที่เธอและโมโมอิช่วยกันรวบรวม

     

    ''นั้นสินะร้านประจำของไดจังอยู่ทางฝั่งเหนือ ส่วนร้านที่ไซส์ของอาคาชิคุงและคุโรโกะจะอยู่ทางทิศตะวันออกและของทางมุราซากิบาระและมิโดริมะคุงอยู่ถัดไป2บล็อคห่างจากร้านของไดจังไม่มาก''

     

    ''อาคาชิพวกเราจำเป็นต้องซื้อจริงๆหรอ'' อาโอมิเนะแอบมากระซิบกับคนต้นคิดโดยมีคุโรโกะร่วมวงด้วย คำตอบที่ได้มีเพียงสายตาแกรมบังคับ ถึงมันจะเป็นแค่ข้ออ้างแต่รองเท้าที่พวกเขาใส่ประจำสภาพมันก็เริ่มไม่ดี จากการฝึกซ้อมอย่างหนักในช่วงนี้ จึงไม่ผิดนักที่พวกเขาจะใช้ข้ออ้างนี้ออกมาซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้เร็วขึ้นอีกซักหน่อย

     

    ''ที่จริงผมกำลังจะซื้อใหม่พอดี มีเพื่อนมาช่วยเลือกให้ด้วยหลายๆคนก็ดีเหมือนกันนะครับ'' คุโรโกะกล่าวเสริม เพราะเขาก็คิดว่าจะออกมาซื้อรองเท้าใหม่พอดี ได้ออกมากับเพื่อนๆแบบนี้ก็ดูสนุกไปอีกแบบ

     

    ''อาคาจิน~สึบาจิน~'' มุราซากิบาระเดินมาหยุดตรงหน้าอาคาชิ ในอ้อมแขนของเขามีถุงขนมใบใหญ่ ตามมาด้วยมิโดริมะที่ถือเป็นกระติกน้ำเป็นลักกี้ไอเท็มประจำวันเขาทักทายสึบากิและอาคาชิ ก่อนจะเหลือบมองร่างของสึบากิที่แต่งตัวแปลกตาไป

     

    ''โอ้ะทุกคนมากันพร้อมแล้วสินะคะ งั้นเรามาแบ่งกลุ่มกันไปซื้อรองเท้ากันเลยนะคะ''สึบากิกวาดตามมองพวกหัวหลากสี ที่วันนี้ดูจะโดดเด่นเป็นออร่าแสบตากว่าทุกวันด้วยชุดไปรเวท ตอนแรกมีเพียงแค่อาคาชิคุงที่เจิดจ้าพอตัว แล้วเมื่อรวมกลุ่มกันนี้อย่างกับบอยแบรนด์

     

     

    ''งั้นจะอธิบายการแบ่งกลุ่มเลยนะคะ เราจะแบ่งกันเป็น2กลุ่ม กลุ่มแรกฉันจะเป็นคนพาไป ได้แก่อาโอมิเนะคุง มุราซากิบาระคุงและมิโดริมะคุง กลุ่มที่สองสึบากิจังจะพาไปคือ อาคาชิคุงและคุโรโกะคุง แล้วกลับมาเจอกันที่เดิมเวลา11.30นเพื่อที่เราจะไปกินข้าวกลางวันต่อห้ามสายตกลงตามนี้นะคะ'' โมโมอิชี้แจ้งรายละเอียด ก่อนจะลากพวกเพื่อนกลุ่มแรกไปโดยมีเสียงไม่ยินยอมของไททั่นม่วงตามหลัง

     

    ''เอ้~ฉันอยากไปกับสึบาจินมากกว่านี้~''

     

    ''นายต้องหัดทำตามกฎบ้างมุราซากิบาระอย่าเอาแต่ใจ'' มิโดริมะแม้จะอยากไปกับสึบากิแต่เขาก็เคารพการตัดสินใจของผู้จัดการสาว โดยลากคอเสื้อมุราซากิบาระที่กำลังย่องแอบตามกลุ่มของสึบากิไป

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×