ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic kuroko no basket,knb] Love is the honey (Akashixoc)

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 14

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 65


     

     

    Chapter 14 : The rainbow

     

     

    ''ช่างหายากที่เธอจะอยู่คนเดียวได้นะสึบากิ'' นิจิมุระย่อนตัวลงใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากร่างบางที่ตอนนี้นอนพิงต้นไม้อีกด้านอยู่

     

    ''แล้วของที่ฉันต้องการละคะ'' สึบากิไม่สนใจตอบคำถามเธอทวงของบางอย่างที่ขอร้องให้รุ่นพี่คนสนิทเอามาให้เนื่องจากในตอนนี้ตัวเธอโดนแฟนหนุ่มลากไปไหนมาไหนตัวติดเป็นตังเมมากกว่าหนึ่งอาทิตย์ได้แล้ว

     

    นิจิมุระยื่นสมุดสีดำปกแข็งคืนให้เจ้าของเมื่อหลายวันก่อนเขาถูกขอให้ไปเอาที่ห้องพักในโรงพยาบาลพร้อมกับกุญแจที่ไขลิ้นชักส่วนเนื้อหาข้างในเขาไม่ได้สนใจจะเปิดอ่านในเมื่อมันสำคัญถึงขนาดจะต้องใช้กุญแจล็อคและมีรหัสเพื่อปลดล็อคสมุดด้วยคงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับร่างบางไม่น้อย

     

    "ว่าแต่จะอยู่ที่นั้นอีกกี่วัน"

     

    "คงอีกไม่นานหรอกค่ะ"

     

    "คิดว่าอาคาชิจะยอมรึไง?" ร่างสูงเลิกคิ้ว แม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการแต่เขาก็ทราบมาจากร่างบางคร่าวๆทั้งเรื่องที่อาคาชิสืบจนรู้ทุกอย่างหมดแล้วและพาสึบากิไปนอนพักที่บ้านตัวเองโดยมีผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจับตาดู

     

    สึบากิไม่ตอบอะไรเธอปลดล็อคสมุดก่อนจะเริ่มขีดเขียนสิ่งที่คิดอยู่ในหัวกลยุทธ์ทั้งเกมส์รุกและเกมส์รับตารางการฝึกซ้อมร่างกายและรายละเอียดพัฒนาการร่างกายของใครบางคนรวมถึงเขียนคำแนะนำสั้นๆไว้ด้วย

     

    "คิดอะไรอยู่กันแน่"

     

    "ความรักละมั้งค่ะ"

     

    "หา?..ตั้งแต่มีแฟนสมองเธอกระทบกระเทือนรึไงเนี้ย!" นิจิมุระบ่นอุบคิ้วขมวดแน่น เมื่อได้คำตอบที่ไม่ตรงกับคำถามที่เขาต้องการสื่อ

     

    สึบากิหัวเราะเบิกบานใจที่กวนประสาทรุ่นพี่หนุ่มได้เสียงใสกังวานเหมือนกระดิ่งแก้วดังต่อเนื่องไปทั่วบริเวณจนคนเดินผ่านไปมาต้องหันมอง ร่างบางจึงหยุดหัวเราะยังดีที่เธอนั่งอยู่หลังต้นไม้และมีร่างสูงของนิจิมุระบังไว้คนอื่นๆจึงไม่เห็นว่าใครคือเจ้าของเสียงเมื่อครู่

     

    "แล้วเป็นไงบ้างคบกับอาคาชิ" สุดท้ายนิจิมุระก็เริ่มถามในสิ่งที่เขาต้องการรู้จริงๆ

     

    "โดนเอาเปรียบตลอดเลยค่ะ" สึบากิขบเขี้ยวเมื่อนึกถึงหลายวันที่ผ่านมาเธอมักโดนแฟนหนุ่มเอาเปรียบเล็กๆน้อยๆเป็นประจำบางครั้งก็เริ่มรู้สึกปวดหัวต้องคอยหาทางหนีทีไล่แม้สุดท้ายจะจบลงที่อีหรอบเดิมทุกที

     

    "เฮอะ..เพราะเธอมันดื้อด้านแบบนี้"

     

    "คุณโดนอาคาชิคุงซื้อตัวไปแล้วหรอค่ะชูโซซัง" สึบากิหน้ามืดครึ้มเมื่อคนที่เข้าข้างเธอมาตลอดกำลังเปลี่ยนฝ่ายซะแล้ว

     

    "สึบากินิสัยที่ชอบเอาชนะเพลาๆมันลงหน่อยนะ" นิจิมุระลูบหัวสึบากิแล้วใช้นิ้วโป้งนวดคลึงระหว่างคิ้วที่ขมวดของคนหน้าไร้อารมณ์ให้คลายออก

     

    "คำพูดนั้นคุณควรเอาไปบอกอาคาชิคุงนะคะ" รุ่นพี่หนุ่มส่ายหน้าก็เข้าใจอยู่หรอกว่าทั้งสองเกิดมาในตระกูลที่ทางนี้ก็มีพี่ชายสปอยจนเสียนิสัยไปบ้างกับอีกคนที่ถูกเลี้ยงให้ต้องเอาชนะทุกๆอย่างทำให้บางครั้งความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันค่อนข้างจะเป็นการปะทะเพื่อเอาชนะกันไปแล้วมากกว่าความรู้สึก..

     

    แล้วไหนจะบุคคลิกที่สองอาคาชิอีก

     

    "แล้วมาเจอฉันแบบนี้หมอนั้นไม่หึงแย่แล้วเรอะ" เมื่อเกลี้ยกล่อมไม่ได้ก็มีแค่เปลี่ยนเรื่องคุยไปก่อน

     

    "วันนี้อาคาชิคุงต้องออกไปข้างนอกกับประธานนักเรียนค่ะ" มือเล็กปิดสมุดและหมุนล็อคให้เข้าที่เดิม

     

    "อะไรกันเดี้ยวนี้ฉันกลายเป็นพวกลักลอบมาพบเจอแฟนชาวบ้านแล้วหรอเนี้ย" ร่างสูงหัวเราะตัวโยน เขาฉีกยิ้มกว้างก่อนจะส่ายหน้าให้กับนิสัยเสียของสึบากิที่ชอบเอาเขามาคอยปั่นประสาทแฟนตัวเองทั้งที่รู้ว่าตอนจบจะโดนลงโทษแบบไหนต่อ

     

    "ถ้าเขายังไม่เข้าใจถึงสถานะตัวเองในใจฉันและสถานะของคุณมันคงยากที่จะคบหากันต่อไป" สึบากิล้มตัวนอนหนุนตักคนที่ยังหัวเราะก่อนจะหรี่ตามองไปยังมุมหน้าต่างจากชั้นสองที่มีเงาของคนบางคนซุ่มดูพวกเขาอยู่

     

    "ถ้าเป็นฉันก็คงไม่ค่อยชอบให้แฟนตัวเองมาสนิทสนมกับแฟนเก่าละนะ" นิจิมุระกลับมาสงบอารมณ์อีกครั้งเขากอดอกเอนพิงต้นไม้และเหลือบมองไปยังทิศทางที่สึบากิมองอยู่

     

    ขนาดตัวไม่อยู่ยังส่งคนมาเฝ้าจับตาไม่ห่างเลยสินะอะไรจะหวงกันขนาดนี้ นิจิมุระคิดในใจ

     

    "แต่ว่า..เฮ้อคุณก็รู้ระหว่างพวกเรามันไม่ได้มีอะไรแบบนั้น" สึบากิเลิกสนใจคนที่ซุ่มดูเธอกับนิจิมุระเธอหลับตาลงเพื่อต้องการผ่อนคลายความตรึงเครียดทั้งหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบและเรื่องปัญหาหัวใจ

     

    สำหรับเธอแล้วนิจิมุระสถานะที่พักผ่อนจิตใจที่เหนื่อยล้าจากเรื่องราวมากมายแม้บางเรื่องเธอจะไม่สามารถเล่ามันออกมาได้แต่เขาคือคนไม่กี่คนเป็นที่พักพิงโดยที่ไม่ต้องมาหวาดระแวงกระทำของเธอจะส่งผลกระทบต่อเขาในเรื่องราวอะไรบ้างต่างจากอาคาชิที่เธอจะต้องระมัดระวังตลอดเวลาทั้งการกระทำคำพูด และยิ่งเขาเป็นพวกฉลาดเป็นกรดยิ่งทำให้เธอต้องเพิ่มเกราะป้องกันมากขึ้น

     

    ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่เธอรักแต่จนกว่าเรื่องราวจะคลี่คลายตอนนี้ทำได้เพียงแค่อดทน ผลที่ตามมาจากการกระทำของตัวเธอเองนั้นก็คือความสัมพันธ์ของพวกเรามันไม่มั่นคง

     

    "ช่างมันเถอะค่ะตอนนี้ได้เวลาต้องไปทำงานต่อแล้ว" สึบากิยกมือปิดปากหาวก่อนจะลุกขึ้นยืนจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเดินเข้าไปยังอาคาร ส่วนนิจิมุระยังคงนั่งที่เดิมเขามองตามร่างบางที่เดินห่างไกลออกไปเรื่อยๆแววตาไหวระริกเป็นคลื่นน้ำ

     

    ที่อาคาชิยังระแวงเขาอยู่นั้นมันก็ถูกต้องแล้วเพราะลึกๆแล้วตัวเขาเองยังตัดใจจากสึบากิไม่ได้เด็ดขาดอย่างที่แสดงออก ในสายตาผู้ชายด้วยกันอาคาชิย่อมมองออกว่าเขายังคงคิดไม่ซื่อกับแฟนตัวเองและยังคงเข้าหาโดยหลอกใช้ความไว้ใจของร่างบางที่มีให้เขาโดยไม่รู้อะไรเลย

     

    "ทั้งที่เราเป็นฝ่ายบอกเลิกไปเองแท้ๆ" นิจิมุระพึมพำเบาๆ มือใหญ่ลูบไปที่อกซ้ายเสียงหัวใจยังคงเต้นเร็วผิดจังหวะยามที่ร่างบางนอนหนุนตักเมื่อครู่ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้วได้แต่หัวใจของเขาจนถึงตอนนี้ก็มีเจ้าของเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

     

     

    "มิโดริมะคุงไปได้กบตัวนั้นมาจากไหนหรอค่ะ" สึบากิมองกบออมสินสีเขียวที่หน้าตามันค่อนข้างจะน่าสงสัยสุดๆด้วยความสนใจ เธอกำลังเข็นรถขนของไปยังห้องสภานักเรียนผ่านมาเจอมิโดริมะที่ยืนอยู่ที่ระเบียงคนเดียวพร้อมกับกบออมสินตัวเขียวในมือ

     

    "ร้านขายของเก่าแถวบ้านหน่ะแล้วนั้นเธอหอบอะไรมา" ร่างสูงขยับแว่นเหลือบมองกล่องลังที่ซ้อนบนรถเข็นอยู่สี่ห้าใบ

     

    "อ้อโบรชัวร์แนะนำและแผนที่สำหรับงานเทศกาลโรงเรียนที่ถึงนี้ค่ะทางร้านเพิ่งส่งมาให้" สึบากิผลักรถเข็นไปด้านหน้าด้วยความลำบากถึงเธอจะมีแรงเยอะกว่าผู้หญิงทั่วไปแต่จะให้เข็นของหนักแบบนี้ก็สร้างความลำบากอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะวันนี้เธอเพิ่งจะเปลี่ยนที่ถ่วงน้ำหนักมาใหม่ด้วยนี้สิ

     

    "แล้วพวกสภานักเรียนคนอื่นไปไหมกันหมดให้เธอมาขนของหนักแบบนี้" มิโดริมะเอ่ยหงุดหงิดเขาพ่นลมหายใจออกมาแล้วจับไปที่รถเข็นก่อนจะยัดกบออมสินให้ร่างบางถือไว้ ส่วนเขามาเข็นรถเข็นแทน เขาตำหนิพวกสภาคนอื่นในใจที่ปล่อยให้ร่างบางมาขนของหนักแบบนี้ทั้งที่ก็รู้ว่าเจ้าตัวเพิ่งจะหายไปป่วยมาแท้ๆ

     

    "ทุกคนวันนี้ต้องทำงานอีกหลายส่วนเหมือนกันค่ะฉันบังเอิญว่างผ่านไปรับพอดีเลยอาสาขนมาให้แต่ยังไงก็ขอบคุณมิโดริมะคุงนะคะ" สึบากิเดินคู่ไปกับร่างสูงนัตย์ตาคู่สวยจ้องมองกบตัวอ้วนไม่เลิกตั้งแต่เมื่อกี้ เธอเล็งเจ้ากบนี้ไว้นานมากแล้วตั้งแต่แรกเห็นมันทั้งอ้วนกลมและหน้าตามีเอกลักษณ์สุดๆถ้าหมดวันแล้วจะลองต่อรองซื้อต่อเจ้าของดีไหมนะ

     

    "เคโรสึเกะนั้นเป็นชิ้นสุดท้ายของร้านแล้วไม่มีอีกส่วนลักกี้ไอเท็มประจำราศรีของเธอวันนี้เป็นพาสเตอร์ปิดแผล" มิโดริมะกล่าวมื่อเห็นสึบากิสนอกสนใจกบออมสินของเขามาก

     

    "พาสเตอร์ผิดแผลนี้เหมือนบอกลางเลยนะคะว่าฉันจะเลือดตกยางออก" สึบากิหัวเราะเบาๆแต่ยังคงจ้องกบออมสินไม่วางตาถึงจะเสียมารยาทกับคู่สนทนาไปบางแต่เธอหลงไหลเจ้ากบนี้ไปแล้วสิ

     

    อยากได้อ่ะ เคโระสึเกะคุง~

     

    "ฉันไม่ขายเคโระสึเกะเด็ดขาด!" มิโดริมะเอ่ยทันทีเมื่อร่างบางหันมาสบตาเขาเป็นประกายวิววับจนรู้สึกแสบตา แต่ร่างบางยังไม่ยอมแพ้เธอเม้มปากหันกลับไปมองเจ้ากบออมสินอีกทีราวกับพูดคุยกันได้ว่าเธอจะพาน้องกบออมสินกลับบ้านให้ได้

     

    "ไว้หลังเลิกเรียนค่อยให้ฉันก็ได้นะคะฉันอยากได้จริงๆ" สึบากิต่อรองแต่คนบ้าเรื่องดวงยังไม่ยอมรับปากเธอจึงหันจุ้บไปที่เจ้ากบแทน จองไว้ก่อนแล้วกันนะน้องกบ สึบากิคิดในใจ

     

    ส่วนมิโดริมะช็อคกับการกระทำของร่างบางไปแล้วเขาสัญญาว่าจะไม่ยอมขายเจ้ากบตัวนี้เด็ดขาดและจะไม่ให้อาคาชิรู้ด้วยเช่นกัน

     

    "ตัวนี้ไม่ได้แต่ฉันมีตัวสำรองอยู่ที่บ้านวันหลังจะเอามาให้แล้วกัน" สุดท้ายมิโดริมะก็ทนลูกอ้อนร่างบางไม่ไหวเขาจึงตัดสินใจเอาของสำรองมาให้ส่วนตัวนี้ต้องเก็บรักษาอย่างดี

     

    "มิโดริมะคุงใจดีกว่าที่คิดไว้นะคะ" สึบากิยิ้มน้อยๆ โดยไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มของตัวเองเมื่อครู่ทำเอาคนตัวสูงใจเต้นผิดจังหวะไปแล้ว แต่เวลานี้ก็อยู่ไม่นานเมื่อพวกเขามาถึงหน้าห้องสภานักเรียนแล้ว สึบากิกล่าวขอบคุณอีกครั้งก่อนจะคืนเจ้ากบออมสินอย่างอาลัยอาวรณ์แล้วจึงเข็นรถเข้าไปยังห้องสภานักเรียน

     

    ส่วนร่างสูงเองก็เดินกลับไปเส้นทางเดิมที่มาโดยที่ดวงตาสีเขียวยังคงจ้องมองเจ้ากบออมสินไม่วางตานิ้วเรียวสวยสัมผัลเบาที่ปากของเจ้ากบที่เมื่อครู่ร่างบางจูบ เขาเผลอยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย

     

     

     

    "เมื่อไหร่จะกลับมานอนบ้านตัวเองสึบากิจัง" นานะเท้าเอวมองเพื่อนสาวที่นั่งทำงานเอกสารของสภานักเรียนด้วยท่าทางสบายอารมณ์ สึบากิหัวเราะในลำคอแล้วหันมาสนใจงานต่อเมินเพื่อนสาวที่แผ่รังสีไม่พอใจ

     

    นานะเห็นท่าทางของเพื่อนสาวอดไม่ได้กระชากคอเสื้อเปิดดูถ้าสังเกตดีๆจะมีรอบสีแดงจางเล็กๆสองสามจุดที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ร่มผ้า สีหน้าคนตัวเล้กมืดครึ้มทันทีไปอยู่บ้านอาคาชิไม่ถึงเดือนร่างกายขาวผ่องของเพื่อนเธอมีรอยกัดเทาะไปทั่วแบบนี้แล้วถ้าอยู่นานกว่านี้ไม่โดนกลืนไปทั้งตัวแน่ๆ

     

    ส่วนฮารุยืนอยู่ไม่ใกล้เห็นร่องรอยแล้วได้แต่ปิกปากที่อ้าค้างพร้อมใบหน้าที่แดงจัดในหัวจิตนาการฉากบวกๆไปไกลโขอาคาชิที่เห็นภายนอกสุขุมมาดเจ้าชายถึงบางครั้งจะรุกใส่เพื่อนสาวเธอได้น่าใจหายแต่ไม่คิดว่าจะร้อนแรงแบบนี้ มองเพียงภายนอกไม่ได้จริงๆคนเรา

     

    "กลับมาแล้วจ้าสาวๆ" ทาคุมิก้าวเข้ามาในห้องสภาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มด้านหังเขามีอาคาชิและอายะเดินตามเข้ามาสมทบ สามสาวที่อยู่ในห้องหันไปมองกลุ่มคนที่เข้ามานานะจึงต้องปล่อยเพื่อนสาวตัวดีไปก่อนแต่สายตาจ้องไปยังอาคาชิไม่สบอารมณ์นัก ส่วนฮารุเพียงยิ้มรับด้วยท่าทางประหม่า

     

    "ดูเหมือนทุกอย่างจะเรียบร้อยดีสินะคะประธาน" สึบากิจัดคอเสื้อตัวเองเรียบร้อยแล้วจึงหันไปถาม ภารกิจของประธานในวันนี้คือออกไปเจรจาเรื่องการค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดงานเทศกาลโรงเรียนที่จะมาถึงเดือนหน้านี้แล้ว

     

    "แหมมีอาคาชิคุงไปด้วยต้องสำเร็จอยู่แหละเนอะ" ทาคุมิพยักเพยิดไปทางรองประธานนักเรียนที่กลับมานั่งทำงานของตัวเองต่อ

     

    "แล้วทางนี้เป็นยังไงบ้างค่ะสาวๆ" อายะสอบถามความคืบหน้าทางฝ่ายสึบากิบ้าง ร่างบางยิ้มรับบอกเป็นนัยว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดี

     

    "ตอนนี้ฉันหาคนที่จะมาช่วยประมูลของใช้ส่วนตัวของประธานได้เรียบร้อยแล้วแต่ว่า....." ฮารุเอ่ยขึ้นด้วยความหนักใจไม่มีสาวๆคนไหนยอมเป็นหน้าม้าให้เลยเหมือนว่าจะมีการตั้งกลุ่มรวมเงินเพื่อนแข่งขันกันแย่ชิงเสื้อวอร์มของอาคาชิคุงกันอย่างดุเดือด

     

    "ยังหาอีกคนที่จะประมูลของใช้ของอาคาชิคุงไม่ได้เลยค่ะ" นานะกล่าวเสริม เธอเค้นหัวเราะใบหน้าน่ารักติดจะหงุดหงิดเมื่อนึกถึงตอนนี้เธอเข้าไปเจรจาหาคนที่จะมาเป็นหน้าม้าแต่ละคนรีบปฏิเสธทั้งที่มีค่าสอบแทนสูงพอตัวก็ยังไม่ยอมง่ายๆ

     

    "แบบนี้ก็แย่หน่ะสิแล้วฉันจะเอาเงินสำรองของสภาเข้าระบบยังไงหล่ะ" สามสาวหันควับไปมองทาคุมิที่เอ่ยถึงเงินสำรองที่เป็นความลับไม่ให้ใครบางคนในห้องนี้รู้ อย่างหน้าตาเฉย

     

    "อาเรื่องเงินนั้นฉันบอกอาคาชิคุงแล้วไหนๆเขาจะต้องขึ้นมารับตำแหน่งต่อจากฉันอีกไม่นานรู้เร็วขึ้นหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอกเนอะสึบากิจัง" ทาคุมโบกมือเมื่อเห็นสายตาของเหรัญญิกประจำสภานักเรียนจ้องมองมา เขาเหลือบมองอาคาชิที่นั่งทำงานของตัวเองไม่สนใจรอบข้างใดๆ

     

    "เอาเถอะค่ะส่วนเรื่องหาคนประมูลของใช้ของอาคาชิคุงฉันหาคนได้แล้วไม่มีปัญหา" สึบากิตัดบทก่อนจะหันไปสนใจข้อมูลหน้าจอคอมต่อ ทิ้งให้คนที่เหลือสงสัยว่าเจ้าตัวไปหาคนมาได้ยังไงทั้งโรงเรียนนี้มีสาวๆที่คลั่งไคล้อาคาชิชนิดแค่เงินก็ไม่อาจซื้อตัวได้อยู่เต็มไปหมด

     

    "คุณคงจะไม่ใช้เขามาประมูลหรอกนะครับสึบากิซัง" อาคาชิหยุดอ่านเอกสารเขานั่งเท้าคางมองแฟนสาวที่ตอนนี้ก้มหน้าก้มตาทำงานเหมือนต้องการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเขาอยู่

     

    "เป็นคนใกล้ตัวที่อาคาชิคุงก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี้คะ" สึบากิอมยิ้มดวงตาสีฟ้าเข้มวาววับถึงเรื่องสนุกในวันประมูล ส่วนอาคาชิเขาถอนหายใจและไม่พูดอะไรต่อ

     

    บทสนทนาของคู่รักสร้างความสงสัยให้คนแอบฟังทั้งสี่ไม่น้อยแต่จะถามทั้งคู่คงไม่ยอมตอบทำได้เพียงรอดูในวันงานว่าใครกันหนอที่กล้าประมูลของใช้ของรองประธานักเรียนที่ตอนนี้มีกลุ่มคลื่นน้ำหลายกลุ่มกำลังรวบรวมไพร่พลเพื่อชิงชัยในงานประมูลครั้งนี้

     

     

     

    "ไงอาคาชิ"

     

    "ไม่เจอกันนานเลยนะครับ" อาคาชิทักทายเมื่อเดินมาเจอนิจิมุระผ่านมาพอดี

     

    "อะไรกันไม่กี่วันก่อนเรายังเดินกลับบ้านด้วยกันอยู่เลย" นิจิมุระเกาท้ายทอยก่อนจะเดินคู่ไปกับรุ่นน้องที่พ่วงตำแหน่งรองประธานนักเรียนและกัปตันทีมบาสชาย ท่ามกลางนักเรียนที่เดินสวนไปมาตามระเบียงทางเดินสองคนที่โดดเด่นเดินคู่กันเรียกความสนใจจากผู้คนไม่น้อย เกิดเสียงซุบซิบไปตลอดทางที่พวกเขาเดินผ่าน

     

    "เน้ๆนั้นใช่นิจิมุระ ชูโซรึเปล่าแล้วก็อีกคนอาคาชิ เซย์จูโร่"

     

    "อดีตกัปตันและกัปตันคนปัจจุบันชมรมบาสสินะ"

     

    "ถึงหน้าตาเขาจะดุไปหน่อยแต่ก็เท่ห์ดีนะว่าไหม"

     

    "ต้องอาคาชิคุงต่างหากหล่อเฟอร์เฟ็คสุภาพ..แต่ฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบแบบรุ่นพี่หรอกนะมันมีเสน่ห์คนละแบบมากกว่า"

     

    "พวกผู้หญิงนี้ชอบซุบซิบเสียงกันรึไงเนอะอาคาชิ" ร่างสูงบ่นเรื่อยเปื่อยซึ่งส่วนตัวเขาไม่ค่อยชอบการเอาไปเปรียบเทียบซักเท่าไหร่ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือไม่ดี เพราะเขาเชื่อว่าทุกคนมีสิ่งที่ถนัดและหน้าที่ที่แตกต่างกันไปการเอาคนสองคนมาเทียบโดยใช้ความรู้สึกส่วนตัวมันออกจะไม่ยุติธรรมกับทั้งสองฝ่ายที่ถูกพูดเป็นประเด็น

     

    "วันนี้สึบากิเป็นยังไงบ้างครับ" อาคาชิเปลี่ยนเรื่องคุยไม่สนใจคำพูดซุบซิบเท่าไหร่นัก

     

    "ก็ปกติดีละมั้ง..ไม่ใช่ว่ามีคนคอยรายงานการเคลื่อนไหวให้นายรู้ตลอดเวลารึไง" รุ่นพี่หนุ่มเย้าแหย่ที่อีกฝ่ายคอยส่งคนมาสอดส่องพฤติกรรมแฟนสาวตัวเองชนิดทุกฝีก้าว

     

    "ถามโดยตรงจากคุณน่าจะได้ข้อมูลแม่นยำกว่านี้ครับ" อาคาชิหัวเราะในลำคอ

     

    เจ้าหมอนี่ฉลาดจังวุ้ย นิจิมุระคิดในใจ

     

    "ยัยนั้นก็บ่นไม่กี่อย่างหรอกน่านายคงเดาได้อยู่แล้ว" นิจิมุระพ่นลมหายใจไม่สบอารมณ์ บางครั้งเขาก็รู้สึกปวดหัวแทนกับคู่รักที่ชอบเล่นสงครามประสาทกัน แถมเผลอๆพาลให้เขาปวดใจด้วยนี้สิ...

     

    "ถ้าเป็นนิจิมุระซังจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดีครับ"

     

    "ฉันก็คงทำเหมือนนายนั้นแหละ" อาคาชิเลิกคิ้วแปลกใจกับคำตอบของอีกฝ่ายที่ผิดคาด เขาหยุดเดินแล้วหันไปจ้องมองรุ่นพี่หนุ่มที่เปลี่ยนหน้ามาจริงจังไม่ทีเล่นทีจริงเหมือนปกติแล้ว

     

    "อะไรกันมันน่าแปลกใจขนาดนั้นเลยรึไง" ร่างสูงกอดอกอมยิ้มกับท่าทางของอาคาชิเมื่อได้ยินคำตอบของเขา เจ้าตัวคงคิดว่าเขาจะตอบแบบเข้าข้างในตัวเองในเชิงว่าต้องเข้าใจอีกฝ่ายนะหรือพยายามหาทางประนีประนอมอะไรพวกนั้น

     

    เฮอะเขาไม่ใช่คนดีอะไรแบบนั้นหรอกนะ

     

    "แค่ไม่คิดว่าคุณจะตอบออกมาง่ายๆ"

     

    "ไม่เห็นจะมีอะไรให้ต้องคิดมาก..ถ้าเป็นฉันฉันก็จะทำเหมือนที่นายทำอยู่แต่ก็จะแตกต่างกันนิดหน่อยละนะ" อาคาชิกระพริบมองรุ่นพี่หนุ่มยืนกอดอกยิ้มกว้างสำหรับเขาแล้วรอยยิ้มแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบโดยเฉพาะเมื่อรอยยิ้มมาจากคนที่เขามองว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูหัวใจ

     

    "ในฐานะรุ่นพี่ฉันจะบอกอะไรให้ฉันไม่ใช่ศัตรูที่แท้จริงของนาย....แต่ว่านะอาคาชิฉันเองก็จะไม่ช่วยนายอีกแล้วเช่นกัน" นิจิมุระฉีกยิ้มร้ายกาจ เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องของทั้งสองคนแต่ว่าถ้าสึบากิร้องไห้มาหาเขา ในตอนนั้นเขาเองก็พร้อมจะทำทุกวิธีทางแย่งชิงร่างบางกลับคืนมาให้ได้

     

    "ไม่มีทางที่เธอจะกลับไปหาคุณได้อีกครั้งหรอกครับนิจิมุระซัง" อาคาชิเอ่ยเสียงเย็นชาด้วยใบหน้าเรียบเฉย

     

    "ถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปฉันก็คิดแบบนั้นแต่ถ้าเป็นยัยนั้นละก็...นะ" ร่างสูงหัวเราะมีเล่ห์นัยทำไมเขาจะไม่รู้จักนิสัยของสึบากิดีถ้าคิดจะทำอะไรแล้วก็คงมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ

     

    "ที่ผมหมายถึงสึบากิไม่คิดจะกลับไปหาคุณอีกแล้วต่างหากโดยที่ผมไม่จำเป็นจะต้องลงมืออะไรทั้งนั้น" อาคาชิกล่าวเขายกยิ้มราวกับผู้กุมชัยชนะไว้แล้วก่อนจะขอตัวแยกไปอีกทางทิ้งไว้ให้รุ่นพี่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มือเรียวกำหมัดแน่นเพื่อสะกดอารมณ์ตัวเอง

     

    นิจิมุระสูดหายใจลึกสองสามครั้งให้ตัวเองสงบลง แต่ในหัวนึกสิ่งที่รุ่นน้องพูดทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆมันก็จริงที่สึบากิไม่มีทางที่กลับมาคิดกับเขาในสถานะคนรักได้อีกแล้ว แต่ว่านะอาคาชิในสถานะอื่นมันก็อีกเรื่องไม่ใช่รึไง...

     

    ความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างเขากับสึบากิหน่ะนายเองก็ไม่มีทางตัดมันได้ขาดเช่นกัน...

     

    "นิจิมุระซังไม่เป็นไรนะครับ" ร่างสูงสะดุ้งตกใจหันซ้ายหันขวามองหาเสียงเรียกก่อนจะสะดุดกับร่างคนจืดจางที่ยืนอยู่ข้างๆ รุ่นน้องคนนี้มาไม่ให้ซุ่มเสียงตลอด..แต่เดี้ยวนะ

     

    "เมื่อกี้นายได้ยินหมดแล้วเรอะคุโรโกะ!?" คุโรโกะพยักหน้ารับด้วยใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ นิจิมุระเอามือมาปิดหน้าตัวเองทำไมต้องเป็นเจ้ารุ่นน้องคนนี้ที่มาได้ยินเรื่องที่เขากับอาคาชิคุยกันด้วยนะ

     

    "พวกเราก็ได้ยินนะครับนิจิมุระซังฮึกๆอาคาชิจิใจร้ายพูดแทงใจดำแบบนั้น" คิเสะที่แอบอยู่มุมอับโผ่ลออกมาจากที่ซ่อน นายแบบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาที่ไหล นิจิมุระหางตากระตุกเต้นเร้าเมื่อพบว่าไม่ได้มีแค่หนึ่งคนที่ได้ยิน

     

    "กัปตันนี้อุไมโบรสนมจะได้หายเศร้านะ" มุราซากิบาระเดินออกมาจากมุมบันไดก่อนจะยื่นขนมให้อดีตกัปตัน นิจิมุระรับไว้ด้วยใบหน้าตึงเมื่อกี้เขาเห็นว่าเจ้าเด็กโข่งนี้ยิ้มมุมปากเยาะเย้ยเขาอยู่ ขนมอุไมโบแตกละเอียดคามือนิจิมุระไปแล้ว

     

    "นิจิมุระซังเองก็ตัดใจให้ได้ไวๆนะครับพวกผมเป็นกำลังใจให้" ฉึก! เหมือนมีธนูปักเข้ากลางใจของรุ่นพี่หนุ่มเขาหันไปมองคุโรโกะที่เหมือนจะมาปลอบใจแต่มาขยี้แผลเขามากกว่าเดิมนี้สิ

     

    "ถึงสึบากิจิจะไม่รักนิจิมุระซังแล้วแต่คุณก็ยังเป็นรุ่นพี่ที่เราเคารพนะครับฮึกๆ" คิเสะเองก็ไม่รอช้ารีบเข้ามาให้กำลังใจเพิ่มเติมแต่หารู้ไม่ว่าคำพูดตัวเองเหมือนเอามีดมีเสียบซ้ำแผลเก่านิจิมุระเข้าไปอีก

     

    เจ้าพวกนี้....นิจิมุระกัดฟันแน่นเขาลอบจดบัญชีแค้นนี้เอาไว้ก่อนอย่าให้ถึงตาฉันบ้างนะเจ้าพวกเด็กบ้า!

     

     

     

    ในห้องทำงานที่การตกแต่งด้วยโทนไม้สีเข้มข้าวของเครื่องใช้จัดเรียงรายเป็นระเบียบ ชั้นหนังสือทั้งสองฝั่งอัดแน่นไปด้วยหนังสือภาษาต่างประเทศเรียบรายเป็นหมวดหมู่ มีโซฟาตัวใหญ่บุด้วยหนังเนื้อดีเข้ากับห้องวางอยุ่กลางห้องถัดไปมีโต๊ะทำงานที่สลัดลาวลายสวยงามมีร่างโปร่งของอาคาชิที่วันนี้สวมยูกาตะสีขาวที่ช่วงปลายแต่งด้วยลายดอกสึบากิสีแดงสด เขากำลังนั่งทำงานโดยไม่สนใจร่างบางที่เดินสำรวจไปทั่วห้องโดยเฉพาะชั้นหนังสือที่สึบากิทำที่เป็นสนใจแต่ที่เธอหมาดหมายเล็งไว้คือเจ้าสิ่งไม่มีชีวิตสีเขียวอ้วนกลมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานของแฟนหนุ่มมากกว่า

     

    มันคือ เคโระสึเกะที่เมื่อวันนี้เธอพยายามต่อรองกับมิโดริมะแต่เจ้าตัวไม่ยอมตกลงขายให้แต่จะเอาตัวสำรองมาให้แทน ทำไมอาคาชิได้มันมาง่ายดายทั้งที่เธอพยายามแทบตายเจ้าชู้ตติ้งการ์ดก็ไม่ยอมใจอ่อน

     

    สึบากิกรอกตาไปมาอย่างใช้ความคิดว่าจะเอาเจ้าเคโระสึเกะมาเป็นของตัวเองได้ยังไง แต่ก่อนที่จะได้คำตอบมีเสียงเตือนเบาๆจากเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติที่เธอใส่แคปซูลแล้วกดรันเอาไว้แจ้งเตือนว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ร่างบางจึงหยิบแก้วที่หอมกลิ่นกาแฟไปเสิร์ฟให้คนบ้างานที่ตอนนี้เวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังหลังขดหลังแข็งทำงานชนิดไม่มีพักจนเธอเห็นแล้วเหนื่อยแทน

     

    "กาแฟได้แล้วค่ะนายน้อย" แก้วกาแฟวางลงเบาๆที่โต๊ะทำงาน อาคาชิจึงเงยหน้ามาสนใจก่อนเขาจะปิดแฟ้มเอกสารที่อ่านค้างไว้แล้วคว้าแก้วกาแฟไปดื่มกลิ่นหอมลอยขึ้นเตะจมูกและรสขมแต่กลมกลอมแบบที่เขาชอบช่วยไล่อาการเหนื่อยล้าได้ดี

     

    "กาแฟดี" อาคาชิเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะมองไปยังเจ้าเครื่องทำกาแฟอัตโนมัติที่ทางบริษัทส่งตัวอย่างมาให้เขาทดลองใช้ด้วยความสนใจที่เจ้าเครื่องนี้สามารถทำกาแฟในแบบต่างๆได้โดยใช้แค่แคปซูปที่ระบุรสและแบบที่ผู้ใช้ต้องการใส่เข้าไปในเครื่องเท่านั้นโดยที่ยังคงความหอมกรุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟได้ครบถ้วน

     

    สึบากิไม่ได้พูดอะไรเธอเพียงเดินอ้อมไปด้านหลังอาคาชิที่ดื่มกาแฟเรียบร้อยแล้ว เธอจึงจับศรีษะแฟนหนุ่มให้เอนพิงผนักเก้าอี้ก่อนจะเริ่มนวดกดจุดไล่ตั้งแต่บ่าไปตามลำคอจนมาถึงขมับวนมารอบดวงตาระหว่างคิ้วเพื่อคลายความตึงเครียดจากการอ่านเอกสารเป็นเวลานานอาคาชิส่งเสียงในลำคอด้วยความพอใจ เขาชัดเริ่มเสพติดการนวดกดจุดของร่างบางไปแล้ว

     

    ทั้งที่รู้ว่าแฟนสาวมาเอาใจแบบนี้ทีไรมักจะมีเรื่องมาออดอ้อนขอเขาทุกที ส่วนวันนี้ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาสาเหตุมันต้องมาจากเจ้ากบที่ชื่อเคโระสึเกะของมิโดริมะที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานแต่วิธีการที่เขาเอามาได้ยังไงคงต้องเป็นความลับละนะหึ

     

    "เซย์สบายไหมคะ" อาเจ้ากระต่ายดำเริ่มแผนการณ์แล้วสินะ อาคาชิสงเสียงในลำคอแต่เขาไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะเขากำลังรอให้สึบากิเริ่มก่อน อยากจะรู้ว่าวันนี้เจ้าตัวจะมาออดอ้อนวิธีไหนเพื่อเอาเจ้ากบออมสินไปจากเขากันนะแค่คิดก็ตื่นเต้นซะแล้ว

     

    อาคาชิขบขันในใจเมื่อเขาได้ยินเสียงพึมพำของร่างบางที่เอาแต่ท่องชื่อเคโรสึเกะซ้ำไปมาหลายรอบ ขณะที่เขากำลังผ่อนคลายไปกับการนวดกดจุด ก่อนจะโดนร่างบางหยิบที่แก้มเบาๆเขาจึงต้องแกล้งลืมตาเล็กน้อย

     

    "อย่าเพิ่งหลับสิ" อาคาชิเพียงยิ้มแต่ยังไม่ยอมพูดอะไรเขากำลังสนุกที่ได้แกล้งคนบางคนแถวนี้ก่อนจะทำทีจะหลับตาลงอีกครั้งเพื่อกระตุ้นในร่างบางร้อนรน และมันได้ผลสึบากิหยิกแก้มเขาอีกครั้งแต่ครั้งนี้แรงขึ้นมาอีกนิด ไม่มีใครกล้ามาหยิกเขาถึงสองครั้งแบบนี้นอกจากเธอคงต้องจดบัญชีไว้เอาคืนละนะที่กล้ามาหยิกแก้มเขาต่อให้เป็นสึบากิก็ไม่มีข้อยกเว้นหรอกนะ

     

    "เซย์จูโร่" คราวนี้โกรธซะแล้วเจ้ากระต่ายของเขาอะไรก็ทำได้ดีไปหมดยกเว้นการควบบคุมอารมณ์บางครั้งยิ่งพอได้รู้จักนิสัยกันมากขึ้นภายใต้ใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์มากนั้นก็ยังมีนิสัยเด็กน้อยโดยเฉพาะกับของที่อยากได้แล้วจะอารมณ์ร้อนเป็นพิเศษ เรื่องนั้นช่างมันก่อนตอนนี้เขาจะทำทีไม่สนใจต่อดีไหมนะ

     

    "เซย์อยากได้อ่ะขอได้ไหม" สึบากิเมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มนั่งนิ่งเธอจึงจับเก้าอี้หมุนหันมาทางเธอก่อนจะนั่งคล่อมตักอาคาชิโดยใช้มือจับเข้าที่บ่ากว้างพยุงตัวไว้ วันนี้เธอสวนชุดยูกาตะสีขาวลายเดียวกับอาคาชิ รอยแหวกของชุดเลิกขึ้นมาเห็นขาอ่อนรำไรทำเอาอาคาชิมีแววตาไหวระริก อาเจ้ากระต่ายตัวนี้จะใจกล้าขึ้นทุกวัน เขาต้องลงโทษแบบไหนให้รู้จักระวังตัวบ้างนะ

     

    "ทำให้ผมพอใจ" อาคาชิตอบหน้านิ่งเขาจงใจไม่สัมผัสร่างกายร่างบางเหมือนทุกครั้ง คราวนี้เขาจะปล่อยให้เจ้ากระต่ายเริ่มเองทั้งหมดแล้วค่อยจับกินที่หลัง

     

    สึบากิหน้าเหวอเมื่ออาคาชิมีท่าทีไม่เหมือนทุกทีปกติเธอแค่อ้อนนิดหน่อยก็โดนเขาดึงฟัดเหวี่ยงจนหมดแรงแล้วคราวนี้ไม่ทำอะไรเลยเพียงนั่งนิ่งรอให้เธอเดินเข้าไปก่อน นี่มันกับดักชัดๆไม่ว่าจะกรอกตามองมุมไหนเธอก็โดนท่านชายวางกับดักไว้หมดแล้ว สึบากิหน้าแดงหูแดงไปหมดเมื่อกว่าเธอจะรู้ตัวก็เดินเข้ามาสู่เส้นทางที่หันหลังกลับไม่ได้แล้ว

     

    ส่วนอาคาชิเพียงนั่งหัวเราะในลำคอกับท่าทางน่ารักของแฟนสาวที่เพิ่งรู้ตัวแต่มันสายไปแล้วไม่สิต่อให้รู้เจ้าตัวจะต้องทำตามที่เขาบอก นิสัยเสียอีกอย่างของสึบากิเมื่ออยากได้อะไรแล้วจะยอมทำทุกทางเพื่อของที่ตนเองสนใจต่อให้รู้เป็นกับดักก็ยังคงพุ่งเข้าหาอยู่ดี

     

    ช่างน่ารักอะไรแบบนี้นะ

     

    "สึบากิเวลามีไม่มากแล้ว" อาคาชิเอ่ยเร่งอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าสึบากิเริ่มโมโหขึ้นมาซึ่งเข้าทางเขาที่กำลังรอคอยพอดี

     

    "จำไว้เลยนะคะ" สึบากิขบเขี้ยว ก่อนจะซุกไซร้ไปทีลำคอของแฟนหนุ่มทั้งความชื้นอุ่นๆแล้วรอยขูดจากเขี้ยวเล็กทำเอาอาคาชิส่งเสียงในลำคอ ร่างบางเห็นดังนั้นจึงไล่ต่ำลงมามือเล็กแหวกชุดยูกาตาอีกฝ่ายจนเผยให้เห็นแผ่นอกและหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อก่อนจะใช้ริมฝีปกและฟันขบกัดเป็นรอยแดง นิ้วเรียวลูบไล่ไปตามแนวหน้าท้องที่ไร้ไขมันส่วนเกิน จนอาคาชิรู้สึกไหววูปไปทั้งตัวเขากัดฟันแน่นก่อนจะจับมือที่ซุกซนไม่ให้ลงต่ำไปกว่านี้

     

    "พอใจรึยังคะ" สึบากิเงยหน้ามามองอาคาชิที่ตอนนี้ดวงตาสีแดงเข้มขึ้นกว่าปกติ ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะใจดีมากเกินไปเจ้ากระต่ายถึงได้กล้าแตะเส้นความอดทนของเขาแบบนี้

     

    "ทำได้ดีมากแต่ยังดีไม่พอหรอกนะสึบากิ" อาคาชิพูดน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะลุกขึ้นนจากเก้าอี้กระทันหันทำให้ร่างบางที่นั่งคล่อมอยู่รีบกอดคอและเอาขาเกี่ยวกับเอวสอบแน่น อาคาชิเพียงใช้มือพยุงเอวของร่างบางไว้ก่อนจะเดินหน้าให้หลังของสึบากิติดกับกระจกบานใหญ่โดยมีตัวเขาทาบทับไว้แนบแน่นทุกสัดส่วน

     

    "เซย์พอแล้วไม่เล่นแล้ว" ร่างบางเห็นท่าจะไม่ดีรีบเอ่ยขึ้นแต่เหมือนว่าตอนนี้ท่านชายเธอจะไม่ฟังอะไรแล้ว เขาจับเรียวขาแน่นก่อนจะก้มลงไปจูบปากน้อยๆให้เงียบเสียงลงคราวนี้มันไม่ได้รุนแรงดุเดือดอย่างที่คิดแต่สัมผัสที่ได้มีเพียงความอ่อนโยนค่อยๆละเลียดกับสัมผัสและรสชาติกลิ่นกาแฟคลุ้งในโพรงปากรสขมนิดๆที่ปลายลิ้นยิ่งกระตุ้นสัมผัสให้ทั่งร่างร้อนขึ้นทั้งที่อยู่ในห้องแอร์เย็นสบาย มือเล็กที่ขยุ่มชุดยูกาตะจนยับเปลี่ยนมาลูบไล่ไปตามลำคอและดึงให้ร่างสูงเข้ามาแนบชิดเข้าไปอีกนานหลายอึดใจก่อนที่ทั้งคู่จะผละออก

     

    ดวงตาสีฟ้าเข้มฉ่ำน้ำไหวระริกก่อนจะหลุบตาลง อาคาชิจึงปล่อยร่างบางให้ยืนบนพื้นตามเดิมแล้วเขาหันไปจัดชุดยูกาตะของแฟนสาวให้เรียบร้อย ด้านสึบากิเองเมื่อสภาพตัวเองเรียบร้อยแล้วเธอจึงไปจัดชุดของอาคาชิบ้าง

     

    "ได้เวลานอนแล้วสึบากิ" อาคาชิเอ่ยก่อนจะจูงมือร่างบางเดินไปยังทางเตียงนอนของเขาแล้วเดินผ่านเพื่อไปยังประตูทางเชื่อมห้องนอนของเขาและห้องของสึบากิเขาพาแฟนสาวมาส่งที่ห้อง สึบากิขึ้นไปนอนบนเตียงขนาดคิงส์ไซส์โดยมีอาคาชิห่มผ้าให้ก่อนจะปิดไฟเหลือแค่ไฟหัวเตียง จากนั้นเขาจึงทำทีจะลุกออกแต่สึบากิจับมือเขาไว้แน่นไม่ให้เขาลุกจากไป

     

    "เซย์จะไปไหน" ร่างบางมองอาคาชิตาใสวันนี้อาคาชิแปลกไปจากทุกทีเมื่อเข้านอนท่านชายมักจะมานอนเตียงเดียวกับเธอเสมอ

     

    "ต้องไปทำงานต่อ" อาคาชิตอบอันที่จริงงานพวกนั้นไม่ใช่งานด่วนอะไรเขาแค่อยากจะทดสอบบางอย่างดูเท่านั้น

     

    "โกหกงานพวกนั้นไม่ได้เร่งด่วนซะหน่อย" อาคาชิอมยิ้มก่อนจะลูบหัวคนที่นอนพร้อมพูดว่า

     

    "งั้นเดี้ยวไปนอนแล้วสึบากิก็นอนได้แล้วนะ" คราวนี้เขาลุกขึ้นยืนโดยที่สึบากิไม่ทันได้คว้ามือไว้แล้วค่อยๆเดินไปยังประตูพร้อมกับนับถอยหลังในใจ

     

    สาม

     

    สอง

     

    หนึ่ง

     

    พรึบ อาคาชิยืนนิ่งเมื่อมีใครบางคนมาสวมกอดเขาจากด้านหลังพร้อมกับประโยคที่เขากำลังรอคอยว่า

     

    "เซย์ก็มานอนที่ห้องนี้แหละไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น" รอยยิ้มผุดที่มุมปากของอาคาชิ

     

    เจ้ากระต่ายน้อยเริ่มจะขาดเขาไม่ได้เสียแล้ว

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×