ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic kuroko no basket,knb] Love is the honey (Akashixoc)

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 15

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 65


     

     

    Chapter 15 : Teiko Festival l

    เทศกาลที่รอคอยและสงครามของสาวน้อยได้เริ่มขึ้นแล้ว!

     

     

    งานเทศกาลโรงเรียนเทย์โควถูกจัดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นช่วงย่างเข้าสู่ฤดูฝนที่ชื้นแฉะและอบอ้าว ส่วนเหตุผลที่จัดงานตรงกับฤดูฝนนั้เพราะจะได้ตรงกับวันก่อตั้งโรงเรียนนั่นเอง โดยงานจะเริ่มขึ้นหลังจากที่จบการสอบกลางภาคไปไม่นานนักทำให้บรรดานักเรียนที่คร่ำเครียดมาจากการสอบได้มีโอกาสปลดปล่อยและผ่อนคลายสู่งานเทศกาลของโรงเรียน....

     

    หน้าต่างของห้องสภานักเรียนที่อยู่ชั้นสามของตึกเรียนสึบากิกำลังกวาดตามองไปทั่วบริเวณด้านล่างเหล่านักเรียนเทย์โควกำลังเตรียมเวทีการแสดงอยู่ที่โถงทางเดินที่สองเธอเห็นร่างของเพื่อนหัวชมพูกำลังเดินไปตามทางพร้อมกับปรายตามองสิ่งต่างๆรอบตัวไปด้วย แล้วหยุดชะงักเมื่อมีคนที่อยู่บนต้นไม้เรียกคนๆนั้นคืออาโอมิเนะที่กำลังผูกป้ายของชมรมลับสมองระหว่างต้นไม้สองต้น ทั้งสองคนพูดคุยกันและไม่วายเพื่อนผิวเข้มโดนสาวเจ้าดุอีกตามเคยไม่นานโมโมอิก็แยกตัวออกไปด้วยความไม่พอใจอะไรซักอย่างทิ้งให้อาโอมิเนะยืนเกาหัวเซ็งๆ

     

    สึบากิหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินกลับมานั่งโต๊ะทำงานของตัวเองวันนี้ในห้องสภานักเรียนเธออยู่คนเดียวเนื่องจากคนอื่นๆต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ตามจุดต่างๆจึงเหลือแค่เหรัญญิกของสภาที่ต้องมาคอยจัดทำบิลค่าใช้จ่ายรายวัน ที่วันนี้บรรดากรรมการนักเรียนต่างวิ่งเข้าวิ่งออกมาขอเบิกเงินไม่ขาดสายตัวเธอที่เป็นเหมือนธนาคารของสภาจึงต้องคอยนั่งเฝ้าห้องและคอยรับบิลมาตั้งแต่ช่วงเช้าของวันโดยไม่ได้พัก

     

    "หวังว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดี" สึบากิเอนพิงเก้าอี้ก่อนจะหลับตาพักผ่อนไป โดยไม่รู้เลยว่างานเทศกาลโรงเรียนจะเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นมาบ้าง

     

     

    "พอเริ่มเซ็ตตัวแล้วก็ค่อยๆเอามาวางบนข้าวที่เตรียมไว้แบบนี้" สึบากิใช้ตะเกียบยาวดันออมเล็ตในกระทะมาวางโปะบนข้าวที่เตรียมเอาไว้บนจานก่อนจะใช้มีดกรีดเบาๆให้ออมเล็ตแผ่คลุมข้าวแล้วยกขึ้นเสิร์ฟวางที่เคาเตอร์ครัวให้เพื่อนในห้องที่จะต้องทำหน้าที่เป็นแผนกทำครัวดู ทุกคนไม่รอช้ารีบหยิบช้อนมาตัดชิมรสชาติ

     

    "อร่อย!ออมเล็ตนุ่มนิ่มเข้าได้ดีกับข้าวที่รสเข้มข้น"

     

    "สมกับเป็นชิรายูกิจังอร่อยมากเลยจ้ะ"

     

    "ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวก่อนนะคะเดี้ยวช่วงเที่ยงจะมาใหม่" สึบากิยิ้มบางก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนมาแขวนไว้แล้วเดินออกจากห้องเรียนของตัวเองไป ปีนี้ห้องเรียนของเธอเปิดเป็นคาเฟ่เมดโดยมีเมนูยิดฮิตคือข้าวห่อไข่เป็นตัวชูโรงส่วนเธอได้รับหน้าที่คนเสิร์ฟในช่วงเที่ยงถึงบ่ายสองแต่ที่ต้องแวะมาที่ครัวก่อนเพื่อมาตรวจดูความพร้อมแต่ๆไปมาๆเธอดันกลายเป็นคนมาช่วยสอนบรรดาแม่ครัวของห้องไปซะแล้วนี้สิ....

     

    หลังออกจากห้องมาร่างบางเดินไปตามทางระเบียงอย่างไม่มีจุดหมายช่วงเช้าเธอไม่มีงานอะไรต้องทำจึงถือโอกาสพักผ่อนสมองเดินเที่ยวชมงานเทศกาลคนเดียว ถ้าถามว่าทำไมเธอไม่ไปกับแฟนหนุ่มก็ขอตอบว่าเธอและอาคาชิเองก็ควรจะมีพื้นที่ของตัวเองบ้างจะให้ตัวติดกันตลอดเวลาก็คงไม่ไหวไหนตอนเย็นและกลับบ้านต้องเจอกันอยู่แล้วทั้งคู่จึงตัดสินใจต่างคนต่างเดินเที่ยวอย่างที่ตัวเองสนใจ แต่จำได้ว่าว่าอาคาชิจะแวะมาที่คาเฟ่ของห้องด้วยในตอนที่เธอทำงานละนะ

     

    นัยต์ตาสีฟ้าเข้มมองเห็นร่างคุ้นเคยที่เดินออกจากห้องตัวเองออกมาด้วยท่าทางจิตตก อาก็นะเธอพอจะเดาได้ว่าสาเหตุมาจากอะไรถ้าไม่ใช่ว่าเจ้าตัวดันถูกเพื่อนร่วมห้องอันเชิญออกมาก่อนที่จะทำให้ร้านขายเครปขาดทุนซะก่อน เพื่อนสาวผมชมพูบิดตัวผ่อนคลายก่อนจะเดินไปหยิบแผ่นพับที่บอกตำแหน่งบูทและร้านรวงต่างๆในงานเทศกาลนี้มากางดู ส่วนสึบากิไม่ได้เข้าไปทักทายโมโมอิเธอเพียงเดินต่อไปเรื่อยๆผ่านไปโดยที่เพื่อนสาวไม่ทันได้สังเกต

     

    อันที่จริงเธอพอจะรู้ว่าจะมีอีเว้นต์ตามเนื้อเรื่องอะไรคร่าวๆบ้างแต่วันนี้ไหนๆก็ได้พักผ่อนจากเรื่องราวน่าปวดหัวเธอก็ขอใช้เวลานี้ดื่มด่ำกับงานเทศกาลจะดีกว่า

     

    เริ่มแรกจะดูดวงกับมิโดริมะก่อนดีไหมนะ...สึบากิเดินมาหยุดตรงหน้าห้องที่ตกแต่งด้วยจักราศีต่างๆและมีอักษรเขียนตัวใหญ่ว่าชมรมโหราศาสตร์ทำนายดวงชะตาราศี ร่างบางก้าวเข้าไปภายในห้องมีผ้าม่านสีทึบปิดทั้งหมดไม่ให้แสงลอดผ่านและยังแบ่งโซนย่อยๆมีแสงเล็กน้อยแต่ละโซน เธอได้ยินเสียงพึมพำเบาๆในบางในแต่ละโต๊ะแต่ละโซนให้คำแนะนำลูกค้าของพวกเขาอยู่ สึบากิเดินไปเรื่อยจนเจอเข้ากับโต๊ะของมิโดริมะที่ตอนนี้เจ้าตัวนั่งอยู่คนเดียวโดยมีหอยสังข์และโคมไฟตั้งอยู่

     

    "ไงคะมิโดริมะคุง" สึบากิทักทายและนั่งตรงข้ามกับมิโดริมะ

     

    "ไม่คิดว่าเธอจะมาหรอกนะชิรายูกิ" เมื่อได้ยินคำทักทายที่เย็นชากว่าปกติของมิโดริมะสึบากิจึงเอ่ยว่า

     

    "อะไรกันยังโกรธเรื่องเคโระสึเกะอยู่หรอเนี้ย"

     

    "ฉันไม่ได้โกรธ" มิโดริมะตอบพลางขยับกรอบแว่นไปด้วย อันที่จริงเขาไม่ได้โกรธสึบากิแค่เสียดายเท่านั้นที่อาคาชิดันหูไวตาไวจนน่าขนลุกทั้งที่เขาเองก็ตรวจสอบแล้วว่าไม่มีคนเห็นแน่ๆแต่สุดท้ายตอนเลิกเรียเพื่อนผมแดงก็เอ่ยปากขอเคโระสึเกะของเขาไปจนได้

     

    "อาฮ้ะ"

     

    "แล้ววันนี้เธอมาทำอะไรอยากจะดูดวง?" มิโดริมะเปลี่ยนเรื่อง สึบากิพยักหน้า

     

    แน่สิเธอมานั่งขนาดนี้ไม่มาดูดวงแล้วจะมาดูนายรึไงเจ้าหัวเขียว

     

    มิโดริมะถอนหายใจก่อนจะหยิบชุดคลุมออกมาและสวมมันลงไป ก่อนจะดึงฮู้ดมาคลุมศรีษะไว้เป็นภาพที่เหมือนหมอดูแปลกๆตามที่นิยายสปินออฟบรรยายไว้จริงๆด้วยแฮะ สึบากิคิดในใจ

     

    "เธอราศีกุมศ์เหมือนคุโรโกะใช่มั้ย"

     

    "อา" สึบากิพยักหน้ารับ

     

    "ดวงชะตาวันนี้ของเธอคือ..ความวุ่นวายจากผู้หญิง.." มิโดริมะเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจังส่วนสึบากิกระพริบตาปริบๆไม่เข้าใจมิโดริมะจึงเอ่ยขึ้นอีกว่า

     

    "ส่วนลักกี้ไอเท็มก็คือสีแดง" อิหยังว้ะ! สึบากิคิดในใจแต่ลางสังหรณ์เหมือนจะรู้สึกถึงเค้าลางบางอย่างตามคำทำนายของหมอดูจำเป็นอาจจะเกิดขึ้นก็ได้หางตาเธอกระตุกเร้าสี่ที เลขสี่นี้มงคลสุดๆเลยละค่ะ!

     

    "มิโดริมะคุงสีแดงนี้คืออะไรก็ได้ใช่ไหม" สึบากิเอ่ยเสียงเครียด

     

    "อาโดยเฉพาะอะไรที่มีคันจิสีแดงติดอยู่จะดีมาก" มิโดริมะรีบแนะนำเพื่อนสาวที่ดูเหมือนจะเริ่มคล้อยตามกับคำทำนายของเขาแล้วด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

     

    "อาคันจิสีแดงสินะ" สึบากิพึมพำก่อนจะยื่นแบงค์หมื่นเยนให้สำหรับค่าทำนายแล้วขอตัวออกจากชมรมโหราศาสตร์ทันทีโดยมีมิโดริมะมองตามหลังด้วยความงุนงงกับท่าทาของร่างบาง

     

     

     

     

    สึบากิเดินต่อไปอีกหน่อยก็สังเกตได้ว่าบริเวณที่เธอยู่นี้น่าจะเป็นโซนของพวกชมรมต่างๆก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นสีแดงแว้ปๆในห้องชมรมหนึ่งเธอเงยหน้ามองป้ายที่เขียนว่าการประลองโชกิครั้งยิ่งใหญ่ จัดขึ้นโดยชมรมโชกิ หากคุณสามารถเอาชนะสมาชิกชมรมเราได้ก็รับรางวัลสุดหรูไปเลย!

     

    สึบากิมองเข้าไปในห้องชมรมที่อตนนี้แฟนหนุ่มของเธอนั่งอยู่บนเบาะรองโดยมีกระดานโชงิขั้นกลางระหว่างผู้เล่นที่อีกฝั่งน่าจะเป็นประธานชมรมถ้าเธอจำไม่ผิดท่ามกลางผู้ชมจำนวนมาที่มุมดูเธอเห็นเสี้ยวหน้าของอาคาชิที่นิ่งสงบไม่ยินดียินร้ายใดๆดูเหมือนเจ้าตัวจะเบื่อๆเสียด้วยซ้ำละนะ...ร่างบางครุ่งคิดแต่ไม่ได้เข้าไปทักทายแฟนหนุ่มแต่อย่างใดเธอเดินผ่านชมรมต่างๆมาเรื่อยจนมาหยุดอีกห้องที่เธอก็สนใจไว้อยู่

     

    เธอต้องมาให้ได้แน่และจะไม่พลาดเด็ดขาดนัตย์ตาสีฟ้ามองแถวที่ยาวเหยียดของสาวๆที่กำลังเดินเข้าไปห้องเรียนห้องหนึ่งโดยมีเสียงเรียกของใครบางคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี คิเสะ เรียวตะ แต่ที่เธอสนใจไม่ใช่นายแบบหนุ่มหรอกนะแต่เป็นเจ้าไททั่นม่วงที่อยู่ห้องเดียวกับคนผมเหลืองนี้ต่างหาก

     

    "ไงคิเสะคุง" สึบากิโบกมือทักด้วยหน้าปลาตาย

     

    "อ้ออรุณสวัสดิ์สึบากิจิ" คิเสะทักกลับ เธอสำรวจนายแบบที่วันนี้แต่ตัวหรูหราท่าจำไม่ผิดธีมของห้องคิเสะได้แรงบรรดาใจมากจากการ์ตูนโชโจตาหวานเรื่อง กุหลาบแวร์ซาย โดยเจ้าโกลเด้นโดนหลอกให้แต่งตัวเป็นออสการ์ตัวเอกของเรื่องสินะ

     

    "วันนี้ห้องของเราจัดงานเทศกาลเลยต้องใส่ชุดแบบนี้" คิะสเหมุนตัวโชว์เสื้อผ้าหรูหราแนวฝรั่งเศสอวดร่างบางที่สีหน้ายังคงนิ่งอยู่เหมือนไม่ได้รับดาเมทความหล่อเหลาใดๆจะทำให้จิตใจของสาวน้อยที่สูงเหมือนภูเขาไท่ซานหวั่นไหวได้เลย ผิดกับสาวๆที่เข้าแถวอยู่ต่างหน้าแดงระเรื่อจากดาเมทคนหล่อไปหมดแล้ว

     

    "แล้วอัตสึชิคุงหล่ะ" สึบากิเลิกสนใจโกลเด้นต์ก่อนจะสอดสายตาหาไททั่นม่วงของเธอที่พอจะรู้อยู่แล้วเจ้าตัวใส่ชุดแบบไหนแต่ก็อยากจะมารับชมให้เห็นกับตาละนะ

     

    "อาเดี้ยวฉันไปเรียกให้นะ" เมื่อพูดจบสิเคะก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องทันที

     

    ส่วนร่างบางยืนหาวไล่อาการง่วงนอนที่วันนี้เธอต้องตื่นเช้ากว่าปกติทั้งที่เป็นแบบนั้นท่านชายของเธอก็ไม่วายก่อกวนเธอจนต้องนอนดึกเหมือนทุกที

     

    "มาแล้วๆ"

     

    "อ่า..สึบาจินแวะมาด้วยหรอเนี้ย" มุราซากิบาระมองมาที่สึบากิและเริ่มหัวเราะเสียงสูงแบบพวกคุณนายตัวร้ายในละครย้อนยุคหรือมังงะที่เธอเคยอ่านผ่านตามาบ้าง

     

    สึบากิพยักหน้ารับดวงตาสีฟ้าเป็นประกายวิบวับผิดจากเมื่อกี้ที่เธอมองนายแบบหนุ่ม เธอไล่มองชุดเดรสฟู่ฟ่องปักลายลูกไม้บนร่างไททั่นม่วงที่ตัวสูงตอนนี้ถึง185 เซนติเมตร ก่อนจะหยิบกล้องถ่ายรูปที่พกมาด้วยกดชัตเตอร์รั่วๆชนิดเก็บไม่พลาดทุกวินาทีจนคิเสะโวยวายที่ตอนแรกเธอไม่เห็นจะสนใจถ่ายเขาบ้าง

     

    "อะไรกันสึบากิจจิลำเอียง" คิเสะหยิบผ้าเช็ดหน้ามากัดด้วยความน้อยใจ

     

    "คิเสะคุงไม่ใช่ว่ามีคนที่อยากให้ถ่ายมากกว่าฉันหรอกหรอคะ" สึบากิกล่าวพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัยจนคนหัวเหลืองชะงักก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อนพิรุจ

     

    สึบากิจจิน่ากลัวชะมัด คิเสะคิดในใจที่ผู้ช่วยโค้ชสาวเอ่ยเหมือนไปรู้เรื่องราวลับๆของเขามา

     

    "อ้ะจริงสิมุราซากิบารัลจิทำแบบนั้นอีกทีสิ" คิเสะรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาโดยใช้เพื่อนตัวสูงหลอกล่อร่างบางแทน

     

    มุราซากิบาระกระแอมก่อนจะเอามือเท้าเอวไว้ข้างหนึ่งแล้วชี้นิ้วไปข้างหน้าของเขาพร้อมพูดขึ้นว่า

     

    "ถ้าไม่มีข้าวกิน ก็ไปกินขนมซะ~!" เสียงสูงเรียกความสนใจให้กับผู้คนที่เข้าแถวไม่น้อย ส่วนสึบากิที่ตั้งท่ารออยู่แล้วเธอกดชัตเตอร์ตั้งแต่ที่ไททั่นม่วงโพสท่าเตรียมพูดแล้ว

     

    น่ารักชะมัดเลย~

     

    หลังจบการพูดมุราซากิบาระก็เดินหายเข้าห้องเรียนไปเลยโดยไม่สนใจเสียงขอวสาวๆที่ตามหลังมา

     

    "ยอดเลยเนอะ"

     

    "น่ารักดีนะคะ" สึบากิออกความเห็นเธออมยิ้มน้อยๆก่อนจะขอตัวและปฏิเสธคำชวนของคิเสะให้ลองเข้ามาเยี่ยมชมงานเทศกาลที่ห้องของเขาจัดขึ้น ส่วนคิเสะเมื่อเอ่ยชวนแล้วไม่เป็นผลเขาจึงเพียงยิ้มและมองตามร่างบางที่เดินหายไปท่ามกลางผู้คนที่เริ่มจะเยอะขึ้นเรื่อยๆแล้ว

     

    สึบากิเดินต่อไปเรื่อยๆจนใกล้เวลาที่เธอต้องเข้าไปช่วยงานที่ห้องเรียนแล้วเธอจึงหันหลังกลับเดินเข้าไปยังอาคารเรียนระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปร้านค้าต่างๆที่น่าสนใจไปด้วยร่างบางเดินมาจนถึงหน้าห้องแต่งตัวของชมรมการแสดงที่เปิดใช้เป็นกรณีพิเศษเพราะปีนี้ห้องของเธอมีประธานชมรมการแสดงเป็นเพื่อนร่วมห้อง

     

    ร่างบางเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวที่ตอนนี้มีสาวๆที่จะมาทำหน้าที่เสิร์ฟในช่วงเที่ยงถึงบ่ายสองพร้อมกับเธอกำลังนั่งแต่งหน้าทำผมอยู่ก่อนแล้ว นานะและฮารุที่แต่งตัวใกล้เสร็จแล้วหันมามองเพื่อนสาวที่มาสายสุดก่อนจะรีบจับร่างบางให้รีบเข้ามาโดยไม่ลืมจะล็อคห้องไว้เพื่อความปลอดภัยแล้วยื่นชุดเมดพร้อมอุปกรณ์เสริมให้เจ้าตัวไปเปลี่ยนให้เรียบร้อย

     

    สึบากิรับมาแล้วมองชุดพร้อมกับอุปกรณ์เสริมด้วยหนังตาที่กระตุกเกร็งหนึ่งทีเมื่อเห็นที่คาดผมหูแมวสีดำ

     

    "สึจังมาสายเองช่วยไม่ได้คนอื่นเขาได้ชุดกันไปหมดแล้ว" ฮารุในชุดเมดฟ้าตัดกับผ้ากันเปื้อนลูกไม้สีขาวเอ่ยขึ้น ผมสีบร็อนสั้นถูกดัดให้เป็นลอนเล็กน้อยพร้อมกับผูกโบว์สีขาวเสริมให้ดูน่ารักขึ้นไปอีก

     

    "สึบากี้รีบไปแต่งตัวเร็วเข้าเดี้ยวฉันกับฮารุจะได้มาแต่งหน้าทำผมให้" นานะในชุดเมดสีขาวล้วนเดินเข้ามาดันหลังร่างบางให้เข้าไปที่โซนเปลี่ยนเสื้อผ้า หูแมวสีขาวสั่นไหวไปมาเมื่อยามที่คนตัวเล็กเดินพร้อมมีเสียงกรุ้งกริ้งของกระดิ่งสีทองที่ห้อยอยู่ที่คอโดยสายเป็นผ้าลูกไม้สีขาวเช่นกัน

     

    "สึบากี้?.." สึบากิเอ่ยขึ้นด้วยความไม่แน่ใจว่าเธอได้ยินชื่อตัวเองเพี้ยนไปรึเปล่า แต่ก็ไม่มีเวลาได้ฉุดคิดอะไรมากเพราะโดนเพื่อนสาวทั้งสองเร่งเร้าให้รีบๆเปลี่ยนและแต่งตัวให้เสร็จเพราะใกล้เวลาที่พวกเธอสามคนและคนอื่นๆจะต้องมาสลับเวรกันแล้ว

     

    โดยไม่รู้เลยว่าเพื่อนสาวและคนอื่นๆในห้องแต่งตัวหันไปส่งซิกสายตากันอย่างสื่อความนัยปีนี้ห้องของพวกเธอจะต้องทำยอดขายเป็นอันดับหนึ่งให้ได้โดยเฉพาะต้องเอาชนะคู่แข่งอย่างห้องสองที่มีศัตรูของเพื่อนสาวอย่างฟูจิวาระ ยูกิ ที่ดันมาเปิดร้านคาเฟ่แข่งขันกับห้องหนึ่งของพวกเธอถ้าเปิดขายเฉยๆคงไม่มีใครสนใจแต่นี้ดันมาโฆษณาทับถมกันว่าคาเฟ่ของห้องสองที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าห้องหนึ่งนี้มัน

     

    จงใจประกาศสงครามกันชัดๆ

     

    พวกเธอและสาวๆในห้องจึงวางแผนการนี้ขึ้นมาเพื่อชัยชนะที่รออยู่

     

     

     

    "ยินดีต้อนรับสู่เมดคาเฟ่นะคะนายท่านและคุณหนูทั้งหลาย" ฮารุเอ่ยต้อนรับลูกค้าอีกหลุ่มที่เข้ามาเมื่อเริ่มใกล้เที่ยงผู้คนที่เข้ามาเที่ยวชมงานเทศกาลต่างเริ่มมองหาร้านข้าวเพื่อนั่งพักกินก่อนจะเตรียมพร้อมไปเดินชมเวทีส่วนกลางที่เห็นว่าจะมีการแสดงอีกหลายรายการในช่วงบ่าย

     

    "ไงฮารุมีว่างให้ฉันไหม" นิจิมุระเดินเข้ามาในร้านทักทายรุ่นน้อง ฮารุเห็นดังนั้นจึงรีบปรี่พาร่างสูงมานั่งในมุมหนึ่งของห้องซึ่งเป็นส่วนริมหน้าต่างที่พิเศษคือมันเป็นเขตเฉพาะแขกวีไอพีเท่านั้นดวงตาสีเดียวกับผมเป็นประกายเมื่อมีเหยื่อเอ้ยลูกค้ารายใหญ่เข้ามาให้เธอรีดไถเพื่อเพิ่มยอดขาย

     

    "สำหรับนายท่านนิจิมุระต้องมีอยู่แล้วสิคะ" ฮารุที่ตอนนี้องค์เจ้าแม่ขายของประทับร่างแล้วรีบเปิดเมนูอาหารและเครื่องดื่มแนะนำลูกค้าที่เธอรู้ดีว่ากระเป๋าหนักใช่เล่นอยู่ด้วยความคล่องแคล่วว่องไว

     

    "อาแล้วมีเมนูอะไรบ้างหล่ะ"นิจิมุระไล่ดูเมนูอาหารและเครื่องดื่มอย่างสนใจแม้จะรู้สึกแปลกกับการถูกอีกฝ่ายเรียกนายท่านแต่คิดว่ามันคงเป็นคอนเซ็ปของร้านเลยไม่ได้ใส่ใจ โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองกลายเป็นปลาอ้วนตัวใหญ่ในสายตาบรรดาสตาฟและน้องเมดภายในร้านไปแล้ว

     

    "สำหรับนายท่านนิจิมุระเราขอเสนอเซ็ตเมนูข้าวห่อไข่พร้อมน้ำดื่มแบบรีฟิวค่ะ"

     

    "อ้องั้นเอาอันนี้แหละแล้วของหวานมีอะไรแนะนำไหม"

     

    "มีพุดดิ้งรสกาแฟและรสชาเขียวค่ะ"

     

    "งั้นขอรสกาแฟแล้วกัน" นิจิมุระยื่นสมุดเมนูคืนให้ฮารุ ก่อนจะมองหาใครบางคนที่เอ่ยชวนให้เขาลองแวะมาที่ร้านเมดคาเฟ่ของตัวเองแต่ไม่ยักจะเห็นแม้แต่เงา ฮารุที่เห็นท่าทางอีกฝ่ายจึงรีบอธิบายว่า

     

    "สึบากี้ตอนนี้น่าจะอยู่ในครัวแต่อีกเดี้ยวคงจะออกมาเสิร์ฟอาหารแล้วค่ะนายท่าน" สาวน้อยผมบรอนยิ้มกว้างนัตย์ตาระยิบระยับ

     

    "สึบากี้?.." นิจิมุระทวนชื่อเรียกแปลกอีกครั้งเขามองรุ่นน้องที่ส่งยิ้มมาให้แปลกด้วยความระแวง แต่ไม่ทันที่ฮารุจะได้อธิบายเพิ่มเติมก็มีลูกค้าที่คุ้นหน้าคุ้นตาเดินเข้ามาในร้านอีกราย

     

    "ดีฮ้ะฮารุจิ" คิเสะที่เปลี่ยนมาเป็นชุดนักเรียนแล้วเดินเข้ามาทักทายเพื่อนสาวผมสั้น ฮารุจึงลากอีกฝ่ายมานั่งร่วมโต๊ะกับนิจิมุระอย่างถือวิสาสะ

     

    "ไงคิเสะนายก็มาด้วยเรอะ" นิจิมุระทักรุ่นน้องที่มีดีกรีเป็นนายแบบนิตยสาร

     

    "พอดีผมเพิ่งเสร็จจากงานที่ห้องเลยแวะมาหาอะไรกินซักหน่อยน่ะฮ้ะ" คิเสะตอบก่อนจะรับเมนูอาหารแล้วสั่งเมนูแนะนำส่วนเครื่องดื่มขอเปลี่ยนเป็นน้ำแร่ ฮารุยิ้มรับสมุดคืนแล้วเดินไปยังจุดสั่งอาหารเธอเหลือบมองสตาฟเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างก่อนจะเดินออกไปหน้าห้องเรียนเพื่อรอลูกค้ารายใหญ่อีกท่านที่น่าจะได้เวลามาถึงแล้ว

     

    "ว่าแต่สึบากิจิเห็นบอกว่าต้องมาช่วยที่ร้านช่วงเที่ยงถึงบ่ายๆแต่ไม่เห็นเลยนะฮ้ะ" คิเสะไล่มองสตาฟและน้องเมดไปทั่วห้องแต่ก็ไม่เห็นร่างบางแต่สายตาสะดุดกับร่างเล็กของใครบางคนก่อนจะรีบดึงสายตากลับมามองนิจิมุระ

     

    "ฮารุบอกว่าน่าจะอยุ่ในครัว" รุ่นพี่หนุ่มยกมือปิดปากหาวใหญ่ ระหว่างรออาหารทั้งสองคนคุยไปเรื่อยเปื่อยจนมีเสียงทุ่มของผู้ชายอีกคนเอ่ยขัดบทสนทนา

     

    "บังเอิญจังเลยนะคิเสะแล้วก็นิจิมุระซัง" อาคาชิเอ่ยขึ้นแม้ช่วงท้ายน้ำเสียงจะติดเย็นชาไปนิดแต่นิจิมุระไม่ได้ใส่ใจเพียงแค่ขานรับเท่านั้น

     

    "เอ๋!อาคาจิชิ ว่าแต่ไอ้นั้นมันอะไรฮ้ะ" คิเสะมองถุงสีแดงใบใหญ่ที่เพื่อนตัวเองแบกมาด้วยด้วยความสนใจ

     

    "อ้อนี้เป็นพวกของรางวัลที่ฉันไปแข่งกับชมรมต่างๆมาน่ะ" อาคาชิตอบก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับนิจิมุระโดมีคิเสะนั่งอยู่หัวโต๊ะ ฮารุที่เห็นลูกค้ารายใหญ่ทั้งสามนั่งลงแล้วจึงรีบเข้ามาแนะนำเมนูเหมือนเดิมให้กับคนผมแดงก่อนจะเดินไปสั่งอาหารกับสตาฟที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว

     

    "นี้อาคาชิจิไปแข่งมาหมดทุกชมรมเลยหรอฮ้ะ!ยอดไปเลย!"

     

    "ขอโทษที่ทำให้นายท่านทั้งสามต้องรอนานนะคะข้าวห่อไข่สามที่ได้แล้วค่ะ" ทั้งสามหนุ่มหันไปมองร่างบางที่คุ้นเคยแต่วันนี้ดูแปลกตากว่าปกติ

     

    สึบากิวันนี้สวมชุดเมดแขนตุ๊กตาสีดำปกคอเสื้อสีขาวแต่งด้วยลูกไม้และลำคอสวมปลอกคอทำจากผ้าลูกไม้สีดำมีกระดิ่งสีทองห้อยอยู่ กระโปรงยาวเหนือเข่ามาสองคืบพร้อมผูกผ้ากันเปื้อนสีขาวประดับด้วยลูกไม้เพิ่มความน่ารักขาเรียวยาวสวมถุงน่องสีดำความหนาปานกลางสูงเหนือเข่ามาเล็กน้อยให้เห็นช่องว่างของเรียวขาเปลือยที่อยู่ระหว่างถุงน่องและชายกระโปรงบางคนให้นิยามส่วนนี้ว่าพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ขอบถุงน่องแต่งด้วยลูกไม้ขาวผูกโบว์สีดำเส้นเล็กๆและรองเท้าคัตชูสีดำ

     

    แต่ที่ทำให้สามหนุ่มต้องตกตำลึงไปอีกนั้นคือหูแมวสีดำที่สั่นไหวตามจังหวะก้าวเดินบนหัวตัดกับผ้าโพกหัวสีขาว ยิ่งมองโดยรวมกับผมยาวตรงสีดำเหมือนน้ำหมึกกับใบหน้าปลาตายสร้างดาเมทชนิดที่ว่าไม่มีใครส่งเสียงออกมาไปชั่วขณะ

     

    อาคาชิเบิกตาขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะสำรวจร่างบางชนิดไม่ให้พลาดแม้แต่จุดเดียวด้วยความสนใจ

     

    จนสึบากิที่ถือถาดเสิร์ฟเกิดอาการประหม่า แต่ก็ยังไม่ลืมหน้าที่ตัวเองเธอเดินไปหยุดตรงหน้าโต๊ะก่อนจะเริ่มวางจานข้าวให้แต่ละคน ก่อนจะเดินกลับไปที่จุดรับเครื่องดื่ม

     

    "เอาละคะนายท่านทั้งสามตามธรรมเนียมของทางร้านเราจะมีบริการพิเศษจากน้องเมดที่มาดูแลโต๊ะของนายท่านวันนี้"ฮารุที่รออยู่แล้วเดินเข้ามาอธิบายโปรโมชั่นและบริการพิเศษเฉพาะแขกวีไอพีเท่านั้นให้ทราบ

     

    "ทางเราจะให้น้องเมดเขียนคำบอกรักสำหรับนายท่านที่สั่งเมนูข้าวห่อไข่เท่านั้นแต่ว่า..ทางเรายังมีบริการที่พิเศษไปกว่านั้นอีก.." ฮารุเอ่ยแผ่วเบาให้ลูกค้าทั้งสามได้ยินเท่านั้นเธอหันไปสบตาชายหนุ่มทั้งสามก่อนจะเอ่ยว่า "ทางเราจะให้น้องเมดป้อนข้าวให้กับนายท่านโดยคิดค่าบริการคำละหนึ่งหมื่นเยน"

     

    "น่าสนใจดีหนิฉันซื้อบริการนี้เพิ่ม" นิจิมุระเท้าคางหันไปสบตากับอาคาชิที่จ้องมองตนด้วยสายตาคมชนิดที่ว่าคิเสะที่เป็นคนกลางนั่งตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าแล้ว

     

    นิจิมุระซังไปแหย่สิงโตขี้หวงแบบนั้นไม่เห็นใจเพื่อนร่วมโต๊ะแบบผมบ้างเลยนะฮ้ะ คิเสะหลั่งน้ำตาใจใน เขาแค่แวะมาหาข้าวเที่ยงกินเองนะ!!

     

    "นายท่านนิจิมุระจะให้สึบากี้ป้อนข้าวนะคะ" ฮารุฉีกยิ้มก่อนจะเหลือบมองอาคาชิที่นิ่งเงียบแต่แผ่ออร่ากดดันออกมาจนลูกค้าคนอื่นๆรู้สึกอึดอัด ส่วนคิเสะที่หลั่งเหงื่ออกมาจนเปียกโชกไปทั้งหลังแล้วส่ายหน้าไม่ขอรับบริการพิเศษดั่งกล่าว

     

    ฮารุจึงก้มตัวลงไปกระซิบกับอาคาชิว่า

     

    "แต่พิเศษเฉพาะนายท่านอาคาชิถ้าต้องการไปเดทกับสึบากี้ละก็……''ไม่ทันที่ฮารุจะพูดจบดีก็ถูกลูกค้าผมแดงเอ่ยขัดขึ้น

     

    ''ที่นี้รับบัตรรึเปล่า?'' อาคาชิยื่นบัตรสีดำให้ฮารุด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ เขาไม่แม้แต่จะถามราคาที่ต้องจ่ายฮารุฉีกยิ้มกว้างก่อนจะรับบัตรส่งต่อให้แคชเชียร์ที่เตรียมเครื่องรูดบัตรไว้พร้อมอยู่แล้ว

     

    นิจิมุระมองท่าทางของรุ่นน้องด้วยความอ่อนใจอันที่จริงเขาแค่จะแหย่เล่นเท่านั้นแต่ถ้าได้ก็ดีละนะ...แต่เมื่อนึกถึงจะให้สึบากิมาบีบซอสเขียนคำบอกรักให้แค่คิดเขาก็ขนลุกที่ยัยตัวแสบนิสัยเสียจะมาทำอะไรหวานแหววแบบนั้นให้

     

    "รบกวนนายท่านเซ็นรับใบเสร็จด้วยนะคะ" อาคาชิเซ็นใบเสร็จเขามองจำนวนเงินที่ถูกชำระออกไปแต่ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะยื่นคืนให้ฮารุที่ขอตัวเอาข้าวห่อไข่และเครื่องดื่มส่วนของเขาไปห่อใส่กล่อง

     

    ด้านสึบากิถือเครื่องดื่มมาเสิร์ฟลูกค้าอีกสองคนที่เหลือเธอเลิกคิ้วสงสัยเมื่อส่วนของอาคาชิถูกนำไปห่อใส่กล่องโดยไม่รู้ว่าลับหลังตัวเองโดนเพื่อนสาวแอบขายให้แฟนหนุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    "นายท่านนิจิมุระอยากให้เขียนคำบอกรักสินะคะ" สึบากิหยิบขวดซอสมาเขย่าเตรียมพร้อมด้วยใบหน้าไร้อารมณ์แต่เพราะมีหูแมวที่สั่นไหวไปมาเหมือนเครื่องสะกดจิตจนนิจิมุระเผลอเหม่อลอยพยักหน้ารับ มือเล็กจึงเริ่มบีบซอสเขียนคำว่า

     

    รักนะคุคิคิกคัก พร้อมวาดหัวใจให้

     

    นิจิมุระมองตัวอักษรที่เขียนด้วยดวงตาเบิกกว้างก่อนจะหันไปมองสึบากิในชุดเมดหูแมว เขารีบหยิบมือถือเตรียมจะถ่ายรูปเอาไว้แต่มีใครบางคนหยิบช้อนบนจานข้าวปาดซอสด้านบนลบข้อความดังกล่าวจนไม่เหลือซาก รุ่นพี่หนุ่มชะงักเงยหน้ามองอาคาชิที่ถือช้อนในมืออย่างผู้ชนะ นิจิมุระตอนนี้ขมับเต้นตุบๆด้วยความโมโหแต่ทำอะไรรุ่นน้องไม่ได้เขาจึงหันไปมองสึบากี้ที่ยืนกระพริบตาปริบๆอย่างขอความเห็นใจ

     

    "ตามกฏของทางร้านเขียนได้แค่ครั้งเดียวนะคะนายท่านนิจิมุระ" สึบากิตอบ นิจิมุระคอตกก่อนจะแย่งช้อนในมือของอาคาชิมาตักกินข้าวด้วยความโมโห ส่วนอาคาชิยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ

     

    "นายท่านนิจิมุระจะไม่รับบริการป้อนข้าวแล้วหรอคะ" สึบากิเอียงคอเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่หนุ่มตักข้าวกินเองทั้งที่ระบุว่าจะให้เธอป้อนข้าวให้แท้ๆ แต่นิจิมุระไม่สนใจเขาก้มหน้าก้มตากินข้าวด้วยตัวเองต่อไปร่างบางจึงหันไปสนใจลูกค้าอีกคนแทน

     

    "แล้วนายท่านคิเสะจะให้เขียนคำว่าอะไรดีคะ" คิเสะสะดุ้งโหย่งเขาเหลือบมองอาคาชิที่นั่งกอดออกแต่ส่งสายตาข่มขู่มาให้

     

    อาคาชิจิผมเข้าใจว่าหวงแต่ทำไมต้องมองเหมือนจะฆ่ากันแบบนี้ด้วยละฮ้ะT^T คิเสะกรีดร้องในใจ

     

    "มะ ไม่ดีกว่าฉันขอเขียนเองแล้วกันละนะสึบากี้" คิเสะรีบเอ่ยปฏิเสธพร้อมกับแย่งขวดซอสมาบีบเองแล้วส่งคืนให้ร่างบาง สึบากิมองเพื่อนชายด้วยความงุนงงแต่ไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มพอดีกับที่ฮารุเดินถือถุงหิ้วที่มีกล่องข้าวและเครื่องดื่มส่วนของอาคาชิมาที่โต๊ะ

     

    "เรียบร้อยแล้วนะคะนายท่านอาคาชิยังไงก็ขอให้เที่ยวงานเทศกาลกับน้องเมดของเราให้สนุกนะคะ" ฮารุเอ่ย

     

    "อา" อาคาชิขานรับก่อนรับถุงข้าวและอีกมือคว้าเอวบางของแฟนสาวให้เดินตามเขาออกไปโดยไม่ลืมบอกให้คิเสะเอาถุงรางวัลของเขาไปฝากที่ประชาสัมพันธ์ ขณะที่สึบากิยังสับสนกับสถานะการณ์อยู่เธอมองไปที่เพื่อนสาวที่โบกมือพร้อมกับพูดโดยไม่มีเสียงว่าเที่ยวให้สนุกนะจ้ะ หางตาของเธอกระตุกขึ้นมาสี่ครั้งเหมือนเมื่อเช้าไม่มีผิดแต่เธอก็ไม่อาจขัดขืนท่านชายได้นอกจากเดินไปข้างหน้าเท่านั้น

     

     

    "ฮารุจิน่ากลัวจังเลยนะฮ้ะ" คิเสะมองคนผมสั้นที่ฉีกยิ้มกว้างโบกมือให้เพื่อนสาวที่โดนลากออกไปด้วยความระแวง

     

    "นายเพิ่งรู้รึไงว่ายัยพวกนี้ร้ายกาจจะตาย"นิจิมุระเลิกคิ้วมองรุ่นน้องผมเหลืองที่เพิ่งจะรับรู้ความน่ากลัวของหนึ่งในสามสาว

     

    "อะไรนิจิมุระซังใส่ร้ายกันแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ" นานะเข้ามาร่วมวงเธอยิ้มมีเล่ห์นัยเมื่อเหลือบไปเห็นคิเสะที่นั่งเงียบไปตั้งแต่เธอเดินเข้ามา

     

    "หึนานะโดยเฉพาะเธอนั้นแหละตัวดีเลยนะ" นิจิมุระพ่นลมหายใจมองรุ่นน้องที่เมื่อกี้เขาเห็นประกายตาวาววับมองไปที่เจ้าคิเสะ

     

    "ฉันออกจะใจดีจริงไหมคะคิเสะคุง" นานะยิ้มกว้างพร้อมทำท่าน้องแมวกวักให้ลูกค้าทั้งสอง เมื่อบวกกับหูแมวสีขาวและเสียงกระดิ่งที่ดังกรุ้งกริ้งเมื่อเจ้าตัวขยับยิ่งทำให้ความน่ารักเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัวจากที่ปกติเจ้าตัวก็น่ารักมากอยู่แล้ว

     

    "อา" คิเสะขานรับในลำคอใบหน้าหล่อเหลาเห่อร้อนก่อนจะยกมือมาบดบัง ร่างกายเขาสั่นระริกเหมือนหมาน้อยที่เจอของเล่นชิ้นโปรด

     

    นิจิมุระมองรุ่นน้องตัวเองที่ตกลงไปบ่วงของสัตว์ร้ายอย่างอนาจใจ ภายใต้ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มนั้นแต่นิสัย....เฮ้อเอาเถอะเขาขอไม่ไปยุ่งด้วยก็แล้วกัน ส่วนฮารุที่ยื่นสังเกตอยู่ในหัวก็เกิดปิ้งไอเดียขึ้นมาว่าปีหน้ายอดขายของทางร้านอาจจะมีลูกค้าวีวีไอพีเพิ่มขึ้นมาอีกคนก็เป็นได้

     

     

    "เซย์เดี้ยวก่อนสิจะพาไปไหนเนี้ย" ร่างบางเอ่ยขึ้นวันนี้เธอสังหรณ์ใจแปลกๆและยิ่งทางเดินที่พวกเขากำลังไปนี้มันทางไปห้องสภานักเรียนชัดๆมันยิ่งไม่น่าไว้ใจเลยซักนิ้ดโดยเฉพาะท่ามากับท่านรองประธานนักเรียนที่วันนี้ดูนิ่งเงียบไปตั้งแต่เข้ามาในร้านคาเฟ่แล้ว

     

    "ไปหาที่กินข้าวเงียบๆ" อาคาชิตอบเขากระชับเอวแฟนสาวให้แน่นขึ้นเมื่อเดินมาจนใกล้จะถึงห้องสภานักเรียนอีกไม่กี่ก้าวเท่านั้นโดยมีเสียงกระดิ่งดังกรุ้งกริ้งไปตลอดทาง

     

    "ทำไมต้องมาสภานักเรียนด้วยหล่ะ" สึบากิขมวดคิ้ว ที่อื่นใกล้ๆก็มีเยอะแยะทำไมต้องเดินขึ้นมาชั้นสามด้วยละเนี้ย

     

    อาคาชิไม่ตอบเขาเพียงแค่หัวเราะในลำคอก่อนจะพาร่างบางเข้าห้องสภานักเรียนแล้วเดินเลยมาที่ห้องพักที่อยู่ติดกันเมื่อเข้ามาสึบากิเดินไปยังหน้าต่างเมื่อมองดูความคึกคักด้านล่างที่ตอนนี้ผู้คนทั้งผู้ปกครองแล้วนักเรียนโรงเรียนใกล้เคียงเดินกันขวักไขว่ ขณะที่อาคาชิปิดประตูและล็อคห้องเรียบร้อยแล้ว

     

    นัยต์ตาสีแดงมองร่างบาง เขาสำรวจชุดที่สึบากิใส่อีกครั้งโดยเฉพาะกระโปรงที่สั้นเหนือเข่าขึ้นมาสูงสองคืบได้แล้วไหนจะถุงน่องสีดำกับผ้าลูกไม้สีขาวนั้นอีกเห็นแล้วมันน่ากระชากทิ้งซะจริง...

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×