ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic kuroko no basket,knb] Love is the honey (Akashixoc)

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 13

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 65


     

     

    Chapter 13 : The Lion and the Wolf

     

    สิงโตกับหมาป่า? สิงโตในคราบหมาป่า? หมาป่าในคราบสิงโต?

     

     

     

    โรงยิม

     

     

    วันนี้ยังคงเป็นอีกวันที่สมาชิกชมรมบาสฝึกซ้อมกันอย่างแข็งขันเพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันอินเตอร์คลูที่เริ่มใกล้เข้ามา แต่ที่ใกล้ไปกว่านั้นคือการสอบกลางภาคและงานเทศกาลโรงเรียนเทย์โคว ซึ่งวันนี้จะเป็นการซ้อมวันสุดท้ายก่อนที่จะมีการสอบกลางภาคอีกด้วย แต่ก่อนอื่นที่น่ากังวลมากที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องของอาโอมิเนะคุงที่ตอนนี้พลังของเขาได้ตื่นขึ้นมาแล้ว

     

    ''โค้ชคะฉันมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบเรื่องพรสวรรค์ของอาโอมิเนะคุง…''

     

    ''เพิ่มกลับมาทำหน้าที่ไม่นานก็รู้เลยสินะว่าอาโอมิเนะคนนั้นพลังของเขาตื่นขึ้นมาแล้ว'' ชิโรงาเนะมองหลานสาวด้วยความภาคภูมิใจ แต่เขาก็เปลี่ยนสีหน้าเคร่งเครียดถึงปัญหาต่อจากนี้สำหรับคนที่มีพรสวรรค์มากเกินไป

     

    ''ถ้าเป็นแบบนี้เราควรให้เขางดลงแข่งไปก่อนไหมคะ'' สึบากิเคาะปากกาเป็นจังหวะเธอไม่ได้ต้องการหยุดพัฒนาการของอาโอมิเนะตามเนื้อเรื่องเขาจะเติบโตได้รวดเร็วจนไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ แต่ที่เธอเป็นห่วงที่สุดคือสภาพร่างกายและจิตใจของเขาหลังจากนั้นต่างหากถึงแม้จะวางใจได้ว่ายังมีคุโรโกะคอยฉุดรั้งเอาไว้ถึงสุดท้ายมันจะไม่สามารถยึดเอาไว้ได้ตลอดก็ตาม

     

    ''ไม่ปล่อยให้เขาเติบโตต่อไปในฐานะโค้ชการทำให้นักกีฬาพัฒนาให้ถึงขีดสุดคือหน้าที่ของพวกเรา…'' สึบากิเหลือบมองโค้ชชิโรงาเนะเธอไม่ได้พูดอะไรต่อและขอตัวขึ้นไปยังตำแหน่งชั้นสองเหมือนเดิมเพื่อเริ่มงานประจำในฐานะผู้ช่วยโค้ช

     

    ดวงตาสีฟ้ากวาดตามองไปทั่วสนามและสะดุดเข้ากับร่างจืดจางของคุโรโกะที่ไม่ได้เข้าร่วมการฝึกซ้อมแต่ทำเพียงนั่งมองคนอื่นๆเท่านั้น อืมถ้าจำไม่ผิดวันนี้ก็น่าจะเป็นช่วงตอนพิเศษที่คุโรโกะบาดเจ็บอาคาชิจึงสั่งให้โมโมอิกลับบ้านพร้อมคุโรโกะเพื่อป้องกันไม่ให้คุโรโกะแอบหนีไปเล่นบาสละนะ อ้า~อยากไปรับชมเหตุการณ์นี้จังเลยแต่ติดที่ว่าตอนนี้เธอไม่มีอิสระแม้แต่จะเดินกลับบ้านกับพวกเพื่อนๆด้วยนี้สินะ

     

    ''สึบากิจังง~'' ร่างบางหันหลังไปมองตามเสียงเรียกเห็นโมโมอิหอบเอกสารเดินมาหาเธอ ใบหน้าน่ารักมีสีหน้ากระวนกระวาย อืมก็นะเธอพอจะเข้าใจความรู้สึกของผู้จัดการสาวที่เพิ่งเข้ามาโรงยิมละนะเพราะวันนี้อาคาชิขอเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการฝึกเหลือแค่การฝึกซ้อมพื้นฐานและการเล่นประสานแบบทีมเท่านั้นเมื่อเทียบกับปกติแล้วมันค่อนข้างจะน้อยไป

     

    ''เอกสารนั้นของอาคาชิคุงสินะคะ'' สึบากิเบี่ยงเบนความสนใจโดยเริ่มหาเรื่องคุยก่อนที่อีกฝ่ายจะมาสอบถามรายละเอียดในเรื่องที่ตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี

     

    ''อ้ะ!ใช่ค่ะว่าแต่อาคาชิคุงยังฝึกซ้อมไม่เสร็จยังไงฉันวานสึบากิจังไปให้ทีนะคะพอดีฉันมีธุระที่จะต้องไปทำต่อจากนี้อีกยังก็รบกวนด้วยนะคะ'' โมโมอิยัดเอกสารใส่มือร่างบางก่อนจะวิ่งหนีหายไปลงไปด้านล่าง

     

    มาโยนงานให้แบบซึ่งๆหน้าเลยนะคะโมโมอิจังเฮ้อ

     

    สึบากิส่ายหน้าเธอหอบเอกสารเจ้าปัญหาไปเก็บไว้ที่ห้องประชุมแล้วจึงเดินกลับมายืนที่เดิมเพื่อเริ่มเก็บข้อมูลแต่ละคนต่อ

     

    การเล่นประสานงานของมิโดริมะคุงกับอัตสึชิคุงค่อนข้างพัฒนาและเข้าขากันได้ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับวันที่พวกเขาทะเลาะกัน สึบากิมองการเคลื่อนไหวในสนามมิโดริมะตั้งท่าจะชู้ตอีกฝ่ายจึงรีบกระโดดสกัดแต่หารู้ไม่ว่ามันคือการหลอกเขาส่งลูกไปให้มุราซากิบาระและให้คนตัวใหญ่ทำแต้มจากใต้ห่วง เป็นทีมที่ดี…

     

    ร่างบางจดบันทึกและให้คะแนนก่อนจะหันไปมองอีกทีมที่ตอนนี้อาโอมิเนะเลี้ยงลูกผ่านปีสามมาแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอเข้ากับนิจิมุระที่วิ่งตามมาสกัดได้ทันแต่ไม่ทันไรอาโอมิเนะใช้ความไวกว่าเลี้ยงลูกหลอกและผ่านนิจิมุระไปได้ก่อนจะกระโดดดังส์ทำแต้มให้ทีม

     

    นิจิมุระซังของเธอโดนเล่นเข้าแล้วสินะฮ้ะๆ

     

    มือเล็กปิดปากที่หาวเนื่องจากวันนี้เธอตื่นเช้ากว่าปกติก่อนจะกลับมาโฟกัสที่ทีมสุดท้ายโดยมีอาคาชิและคิเสะอยู่คนละทีม อาคาชิครองบอลและเลี้ยงลูกก่อนจะใช้ความเร็วส่งไปยังผู้เล่นที่ว่างแต่คิเสะก็รีบไปปัดก่อนจะเลี้ยงลูกและกระโดดเพื่อทำแต้มแต่ถูกเซ็นเตอร์ในทีมอาคาชิป้องกันไว้ได้

     

    เขาส่งลูกกลับไปยังอาคาชิที่รออยู่ก่อนแล้ว อาคาชิเลี้ยงหลบอีกฝ่ายโดยมีเพื่อนร่วมทีมคอยช่วยสกีนจากด้านหลัง จากนั้นจึงเลย์อัพทำแต้มให้ทีมได้อย่างสวยงาม โดยที่คิเสะที่หลอกให้ประชิดใต้แป้นวิ่งกลับมาข่วยแก้สถานการณ์ไม่ทัน

     

    สึบากิเท้าคางวิเคราะห์แผนการของอาคาชิที่หลอกล่อให้คิเสะติดกับดักที่วางไว้พอรู้ตัวแต่มันก็สายเกินไปแล้วที่จะทำอะไรได้

     

    เฮ้อแฟนของเธอเนี้ยน้า~ จอมวางแผนซะจริง

     

    มือเล็กจดโน๊ตเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยก่อนจะเก็บทุกอย่างใส่กระเป๋านักเรียนแล้วมองนาฬิกาที่ชี้ว่าใกล้หมดเวลาซ้อมแล้วเธอจึงเดินกลับยังห้องประชุมและหยิบเอกสารที่โมโมอิไหว้วานนำไปให้อาคาชิที่อยู่ด้านล่างโดยไม่ลืมแวะหยิบขวดน้ำและผ้าขนหนูเหมือนทุกครั้ง

     

    ในหัวพลางคิดหาวิธีกลับบ้านกับพวกโมโมอิวันนี้ให้ได้แต่ดูท่าทางจอมเผด็จการคงไม่อ่อนข้อให้เธอแล้ว คงมีทางเดียวคือเธอต้องทำใจไปรับชมอีกเหตุการณ์ระหว่างอาคาชิกับนิจิมุระซังแทนสินะ

     

    ''อาคาชิคุงผ้ากับน้ำค่ะแล้วก็เอกสารที่โมโมอิฝากมาให้'' ร่าบางยื่นของให้คนที่เพิ่มเดินออกนอกสนามมานั่งพัก อาคาชิรับผ้าขนหนูและขวดน้ำดื่มก่อนจะส่งคืนและรับเอกสารมาอ่านข้อมูลดวงตาสีแดงจดจ่อกับเนื้อหาในเอกสาร ส่วนสึบากิที่ยืนถือขวดน้ำในมือมาแกว่งดูปริมาณน้ำที่เหลืออยู่เล็กน้อยก่อนจะยกขึ้นมาดื่มจนหมด ไม่ได้สนใจสายตาวิบวับหลายคู่ที่เหล่มองอยู่

     

    ''อาคาชิคุงจะรับน้ำเพิ่มไหมคะเดี้ยวฉันไปเอามาให้ใหม่'' ร่างบางเอ่ยถาม อาคาชิเพียงขานรับ เมื่อได้ยินดังนั้นสึบากิจึงเดินไปหยิบขวดน้ำอันใหม่มาวางไว้และขอตัวเดินไปหาคุโรโกะและโมโมอิที่นั่งคุยกันอยู่ไม่ไกลเท่าที่จำได้คร่าวๆดูเหมือนคุโรโกะคุงก็คงไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเขาถึงโดยอาคาชิสั่งให้สังเกตการฝึกซ้อมเท่านั้น

     

    ''วันนี้อาคาชิคุงบอกให้ผมสังเกตการณ์ฝึกเพียงอย่างเดียวทำไมกันละครับ'' คุโรโกะพึมพำ

     

    ''อาคาชิคุงสั่งให้สั่งเกตการซ้อมเหรอ?'' โมโมอิถาม

     

    ''อาการบาดเจ็บของคุโรโกะคุงต้องรีบรักษาให้หายเพราะฉะนั้นห้ามแอบหนีไปเล่นบาสนะคะ'' คุโรโกะเงยหน้ามองผู้ช่วยโค้ชสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาสีฟ้าจ้องมองกันไปมาสุดท้ายเจ้าของฉายาแฟนธ่อมจึงยอมแพ้หลบตาก่อน

     

    ''แต่วันนี้เป็นการซ้อมวันสุดท้ายก่อนสอบทั้งทีนะครับชิรายูกิซัง'' คุโรโกะถอนหายใจเล็กน้อย

     

    ''แต่เอ๋!เท็ตสึคุงบาดเจ็บหรอ!?'' โมโมอิหลุดถามเสียงสูง ดวงตาสีชมพูกวาดมองสำรวจร่างกายของคุโรโกะไปมา

     

    ''ไม่ใช่อาการที่ร้ายแรงแต่นักกีฬาก็ควรรักษาตัวให้ดีนะคะ'' สึบากินั่งลงม้านั่งเธอเหลือบมองอาการกระสับกระส่ายของโมโมอิที่นั่งถัดไปด้านขวาโดยมีคุโรโกะนั่งคั่นกลางเธอและเพื่อนสาวไว้

     

    ดวงตาสีฟ้าเข้มไหวระริกที่บางครั้งเธอเห็นโมโมอิมองคนที่ยังฝึกซ้อมอยู่แล้วเหลือบมามองคนจืดจาง ตามเนื้อเรื่องตอนนี้ตัวเจ้าคงกำลังตกหลุมรักเข้าให้มาซักระยะแล้วละมั้ง?

     

    ''เรื่องนั้นผมเข้าใจดีครับชิรายูกิซัง'' คนที่นั่งตอบด้วยเสียงหงอยๆจนสึบากิเผลอใจอ่อนไปชั่ววูปกับท่าทางน่ารักน่าสงสาร เธอเริ่มพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคุโรโกะมีทีมแม่ยกล้นหลามดาเมทความน่ารักมันพุ่งกระจายออกมาจนเธอเผลอใจเต้นผิดจังหวะ จนรู้สึกผิดกับแฟนหนุ่มที่ดันเเผลอหลงเสน่ห์คนจืดจางเข้าให้

     

    ถ้าไม่รู้สึกถึงสายตาแหลมคงที่ทะลุข้างหลังมาละนะเธอคงเคลิ้มไปมากกว่านี้ละนะ..

     

    ''อา'' สึบากิกระแอมไอปรับอารมณ์แล้วหันกลับไปมองผู้คนในสนามที่เริ่มทะยอยเดินออกมาเรื่อยๆแล้ว

     

    คุโรโกะยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นสึบากิตัวเกร็งไปขั่วขณะสายตาเขามองผ่านคนตัวเล็กไปยังด้านหลังที่มีอาคาชิเดินใกล้พวกเขามาเรื่อยๆ คนช่างสังเกตแบบเขาพอจะจับเค้าลางได้บางว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันค่อนข้างจะแปลกไปจากเดิมหลังจากที่ผู้ช่วยโค้ชสาวป่วยจนต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลายวัน

     

    ''สึบากิ''

     

    ''พรุ่งนี้เจอกันนะคะคุโรโกะคุงโมโมอิจัง'' สึบากิขอตัวเมื่อแฟนหนุ่มเรียกชื่อเป็นการบอกว่าได้เวลาต้องกลับบ้านแล้ว

     

    ''จ้า'' โมโมอิโบกมือ

     

    ''ครับแล้วเจอกันทั้งอาคาชิคุงและชิรายูกิซัง'' อาคาชิขานรับก่อนจะเดินนำร่างบางไปยังห้องล็อคเกอร์เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า

     

    ''นี้เท็ตสึคุงสองคนนั้นมีอะไรแปลกไปรึเปล่านะ?'' โมโมกระซิบถามคนข้างๆเธอสังเกตมาซักพักตั้งแต่ที่เพื่อนสาวเข้ามาในโรงยิมแล้ว ส่วนคุโรโกะเองเขาก็สังเกตเช่นกันแต่ส่วนสาเหตุเองไม่มีใครรู้ดีไปกว่าคนทั้งคู่ได้

     

    ''ผมเองก็ไม่ทราบครับ'' คุโรโกะพูดก่อนจะเอียงตัวก้มลงไปเก็บลูกบาสที่กลิ้งมาใกล้ จังหวะนั้นเองที่โมโมอิพอจะรู้แล้วคุโรโกะบาดเจ็บตรงไหนอย่างที่สึบากิบอกไว้

     

    หลังเลิกซ้อมคิเสะวิ่งไปหาอาโอมิเนะทันทีที่เขามานั่งพักเมื่อเขาเห็นลูกชู้ตที่ลงห่วงอย่างไม่น่าเชื่อดวงตาสีเหลืองมีประกายสนใจ

     

    ''อาโอมิเนะจิลูกนั้นเมื่อกี้มันลงไปได้ยังไงกัน!?''

     

    ''จังหวะเมื่อมันต้อง…ต้องยังหล่ะแล้วเมื่อกี้มันลงไปได้ยังไงนะ?'' อาโอมิเนะเอียงคอ

     

    ''นายเองก็ไม่รู้เรอะ!?''

     

    ''ขอแค่ลูกมันลงก็พอแล้วไม่ใช่รึไง'' อาโอมิเนะหัวเราะ

     

    ''เสียดายวันนี้ไม่ได้แข่งแมทซ์กับอาโอมิเนะจิเลยแฮะ'' คิเสะเกาท้าทายวันนี้เขาแข่งกับอาคาชิโดยอีกฝ่ายดักทางหนีทีไล่ไปหมดเลยถึงจะสนุกแต่เขาอยากแข่งกับอาโอมิเนะมากกว่าละนะ

     

    ''ช่วยไม่ได้แฮะ''

     

    ''พวกนายทั้งคู่ควรสนใจการสอบซะมั่งนะไม่ใช่แค่การแข่ง'' มิโดริมะที่นั่งอยู่ใกล้ๆกล่าวแนะนำ มือเรียวขยับแว่นก่อนจะพูดอีกว่า''โดยเฉพาะอาโอมิเนะครั้งนี้อย่าทำแค่เกือบผ่านอีกหล่ะ''

     

    ''อย่าห่วงเลยฉันผ่านอยู่แล้วแค่ทบทวนในสมุดจดอีกซักรอบ''

     

    ''นายเรียกมันว่าสมุดจดได้เรอะฉันเห็นอยู่ชัดๆนายเอาแต่นอนในห้องเรียนไม่เคยจดโน้ตด้วยซ้ำ!''

     

    ''ชิ…นายเป็นสโตกเกอร์ฉันรึไง'' อาโอมิเนะแคะหูอย่างไม่ใส่ใจ

     

    ''ฉันไม่ได้อยากนั่งข้างหลังของนายนักหรอกนะ!''

     

    ''ห้ะ?…จริงดิ้พวกเราอยู่ห้องเดียวกัน?…ด้วยหรอ?''

     

    ''นี่นายหัดจำชื่อเพื่อนร่วมชั้นซะบ้าง!!'' มิโดริมะหันไปดุอาโอมิเนะที่ไม่ใส่ที่จะจำแม้กระทั้งเพื่อนร่วมห้อง

     

    ''อืม…ไม่เห็นจะต้องซีเรียสขนาดนั้นเลยเนอะมุราซากิบาระ'' อาโอมิเนะหันไปทางมุราซากิบาระที่เดินผ่านมาพอดี ไทนทั่นม่วงเหลือบมองมาพยักหน้ารับเฉยๆ ไม่แสดงสีหน้าอะไร

     

    ''ฉันเองก็จำหน้าตาเพื่อนร่วมชั้นไม่ได้ว่าเป็นยังไง''

     

    ''เอ๋!?…มุราซากิบารัลจิพวกเราอยู่ห้องเดียวกันนะฮ้ะ…'' คิเสะมองด้วยท่าทางช็อคที่เพื่อนหัวม่วงจำเขาไม่ได้

     

    ''นี้ก็เย็นมากแล้วพวกคุณไม่รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันอีกหรอคะ?'' เสียงใสเอ่ยขึ้นมากลางบทสนทนาทำเอาสี่หนุ่มสะดุ้งที่อยู่ๆสึบากิก็โผ่ลมา

     

    ''ฉันกำลังจะไปแล้วเชิรายูกิเมื่อกี้เธอไปห้องล็อคเกอร์แล้วไม่ใช่รึไง'' มิโดริมะถอนใจก่อนเขาจะลุกขึ้นยืนเก็บขวดน้ำและผ้าขนหนูใส่ตระกร้าให้เรียบร้อย

     

    ''พอดีฉันลืมของนิดหน่อยที่ห้องประชุมเลยกลับมาเอาหน่ะคะ''

     

    ''อย่างงั้นหรอฮ้ะให้ผมช่วยไปเป็นเพื่อนด้วยไหม?'' คิเสะเสนอตัวช่วยแต่สึบากิส่ายหน้าอันที่จริงเธอแค่หาข้ออ้างมาแอบดูพวกเขาเท่านั้นแหละ

     

    ''สึบาจินเอ้านี้ขนม~จะได้แข็งแรง'' มุราซากิบาระยืนอุไมโบที่เขาซ่อนไว้ใต้ที่นั่งให้ร่างบางก่อนจะลูบหัวสึบากิและโยกไปมาจนเธอเริ่มเวียนหัวหน่อยๆ

     

    ''ขอบคุณนะคะ'' สึบากิคลี่ยิ้มน้อยๆ

     

    ''มุราซากิบาระคนเพิ่งหายป่วยมาหยุดเล่นหัวยัยนี่ได้แล้ว'' อาโอมิเนะเข้ามาจับมือคนตัวใหญ่ให้ปล่อยหัวร่างบางที่สีหน้าเหมือนจะซีดลงเล็กน้อย

     

    ''อาขอโทษนะสึบาจินแต่มันอดไม่ได้อ่ะ~'' มุราซากิบาระกล่าวด้วยเสียงอ่อน

     

    ''ถ้ายังไงฉันของตัวไปเอาของก่อนนะคะพวกคุณก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไปแล้วนะ'' สึบากิอมยิ้มเดินขึ้นบันไดชั้นสองแต่ไม่ลืมกำชับชายหนุ่มทั้งสี่อีกครั้งแล้วหันกลับไปเดินต่อจนแผ่นหลังเล็กๆหายไปจากสายตาทั้งสี่คู่ ก่อนที่พวกเขาจะเหลือบมองกันเล็กน้อยและเดินออกจากโรงยิมไปยังห้องล็อคเกอร์

     

     

    สึบากิยืนสะพายกระเป๋าอยู่ใกล้ทางเข้าโรงเรียนที่มีนักเรียนกำลังทยอยเดินออกมาเรื่อยๆโดยเฉพาะชมรมกีฬาที่เพิ่งเลิกซ้อมกันจะเยอะเป็นพิเศษ ข้างๆเธอมีอาคาชิกำลังยืนอ่านหนังสือ ดวงตาสีฟ้าเข้มเหลือบไปเห็นร่างของเพื่อนสาวผมชมพูที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆสีหน้าแดงระเรื่อดูผิดหวังเมื่อเห็นว่ามีสมาชิกอีกหลายคนยืนอยู่ทางเข้าโรงเรียน

     

    ร่างบางอดหัวเราะในใจไม่ได้กับท่าทางผิดหวังของเพื่อนสาวที่พอรู้ว่าจะไม่ได้กลับบ้านกับคนที่แอบชอบเพียงสองคนอย่างที่คิดไว้

     

    ''ทำไมอาคาชิคุงถึงบอกให้ผมกลับบ้านกับโมโมอิซังละครับ?''คุโรโกะเดินเข้ามาถามด้วยความงุนงง

     

    ''อืมก็คงมีเหตุผลละนะถ้าเป็นอาคาจินเป็นคนพูด'' มุราซากิบาระที่ยืนอยู่ข้างคุโรโกะตอบ

     

    ''เหตุผลหน่ะหรอมันก็ต้องมีอยู่แล้วใช่ไหมอาโอมิเนะจิ'' คิเสะหันไปมองอาโอมิเนะด้วยแววตาวิบวับเขายิ้มกรุ่มกริ่มอย่างรู้กันแต่อาโอมิเนะไม่สนใจเขาหาวก่อนจะพูดว่า

     

    ''นั้นไม่เห็นจะสำคัญตรงไหน…ซัทสึกิของยืมสมุดจดหน่อยสิ''

     

    ''อาโอมิเนะนายจะเอาแต่พึ่งสมุดจดของโมโมอิอย่างเดียวได้ยังไง?!'' มิโดริมะขึ้นเสียงว่าเพื่อนผิวเข้มที่มันจะเอาแต่พึ่งพาสมุดจดของคนอื่นเป็นประจำ

     

    ส่วนอาคาชิยืนอ่านหนังสือไม่ได้ให้ความสนใจใคร และสึบากิเธอเองก็เอาแต่ยืนมองทุกคนแต่ไม่ได้พูดขัดหรือร่วมวงด้วยเธออยากจะจดจำภาพพวกนี้เอาไว้ก่อนที่ทุกอย่างอาจจะไม่เหมือนเดิม…

     

    ''อย่าบอกนะว่าวันนี้ทุกคนจะกลับบ้านพร้อมกัน'' โมโมอิถามอย่างไม่สบายใจนักมีเพียงอาคาชิและสึบากิเท่านั้นไม่ได้ตอบกลับส่วนที่เหลือพยักหน้า

     

    ''ก็ตามนั้นแหละหลังจากที่ถ่ายสมุดจดของเธอเสร็จแล้วฉันจะกลับบ้าน'' อาโอมิเนะกล่าว

     

    ''อะไรกันไม่ได้สิถ้านายออกกลางทางมันจะมีความหมายอะไร'' คิเสะปรี่เข้ามากระซิบกระซาบกับคนผิวเข้ม

     

    ''ส่วนฉันจะตามพวกนายไปร้านสะดวกซื้อด้วยละนะ~'' มุราซากิบาระกล่าวบ้าง

     

    ''ที่จริงฉันจะกลับบ้านคนเดียวแต่เปลี่ยนใจแล้วฉันจะกลับบ้านกับพวกนายด้วย'' มิโดริมะขยับแว่น ทำเอาโมโมอิรู้สึกปวดหัวเมื่อกลับบ้านกับหนุ่มๆตัวโตทั้งหลาย แทนที่จะได้กลับบ้านกับเท็ตสึคุงอย่างที่หวังไว้

     

    ทางด้านสึบากิเธอเพียงอมยิ้มมองเพื่อนสาวผมชมพูด้วยความสนุกสนาน โดยไม่ทันได้สังเกตคนข้างๆปิดหนังสือและเหลือบมองเธออยู่

     

    ''โมโมอิที่เหลือฉันฝากที่เหลือด้วยนะแล้วอย่าให้คุโรโกะเถลไถลส่งเขาให้กลับถึงบ้านให้ดี'' อาคาชิตัดบทเสียงเรียบ

     

    ''โชคดีนะคะทุกคนและก็โมโมอิจัง~'' สึบากิเอ่ยลาด้วยน้ำเสียงร่าเริงขัดกับหน้าปลาตายเธอรีบเดินตามอาคาชิไปทิ้งให้เพื่อนสาวรับมือกับเพื่อนชายที่เหลือ

     

    ''อ้ะ!เดี้ยวสิ อาคาชิคุง!?สึบากิจัง!?'' โมโมอิร้องเรียกแต่คู่รักเพียงเดินห่างออกไป อาคาชิโบกมือให้ส่วนสึบากิหันมาส่งยิ้มเบาและค่อมหัวจากไป

     

    ''จากไปแบบนี้เลยหรอเนี่ย…'' โมโมอิมองตามหลังทั้งสองคนที่จากไป

     

     

     

     

    ''อยากกลับกับพวกนั้นรึไง'' อาคาชิเอ่นเสียงราบเรียบเขาเดินนำไปเส้นทางที่ไม่ใช่ทางประจำเวลากลับบ้านด้วยเหมือนเมื่อก่อน

     

    ''ก็มีส่วนนะคะคนเยอะก็คงน่าสนุกไปอีกแบบ'' สึบากิตอบกลับเธอกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณที่เดินผ่านเส้นทางนี้เธอเองก็ยังไม่เคยเดินกลับเหมือนกันถ้าจำไม่ผิดเดี้ยวอีกซักพักจะต้องเจอคุณยายคนหนึ่งที่อาคาชิช่วยพาเดินไปขึ้นรถเมย์และถือของให้ อืมเธอควรจะปลีกตัวออกมาก่อนดีไหมนะ…รึว่าต้องเดินตามไปก่อนดี…

     

    ''คิดอะไรอยู่''

     

    ''คิดว่าอีกไม่นานคงจะมีคุณยายคนหนึ่งต้องการความช่วยเหลือละมั้งคะ…อ้ะ!?'' สึบายกมือปิดปากที่เธอดันเผลอพูดเรื่องที่จะเกิดขึ้นไม่อีกกี่นาทีข้างหน้า อาคาชิชะงักก่อนจะหันมามองคนที่เดินตามมาเขาเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย

     

    ส่วนสึบากิใข้สมองประมวลผลก่อนที่ในระยะสายตาไม่ไกลมีคุณยายคนนั้นที่ถือห่อกระดาษใบใหญ่อยู่จริงๆด้วยเธอจึงรีบชี้ไปยังทิศทางนั้นพร้อมกล่าวว่า

     

    ''นะนั้นไงคะดูท่าจะลำบากน่าดู'' ร่างบางจึงรีบเดินเข้าไปช่วยเหลือโดยไม่ลืมจูงมือแฟนหนุ่มไปด้วย ถ้าเธอตัดหน้าไปช่วยอีเว้นต์มันจะไม่เกิดนี้สิ ส่วนคนโดนจูงมือเขาไม่ได้พูดอะไรแต่ดวงตาสีแดงจ้องมองแผ่นหลังเล็กด้วยความสงสัย ส่วนคนโดนจ้องมีเหงื่อซึมออกมาตามไรผมเล็กน้อย

     

    เซ้นต์ท่านชายของเธอจะแรงไปไหนเนี้ย!!

     

    ''คุณยายจะไปที่ไหนหรอคะให้พวกหนูช่วยถือของไหมคะ'' สึบากิเอ่ยกับผู้หญิงสูงอายุตรงหน้าที่แขนของเธอกำลังสั่นน้อยๆดูท่าของในถุงจะมีน้ำหนักพอตัว

     

    ''โอ้วขอบใจนะจะฉันกำลังจะไปป้ายรถเมย์ตรงนั้นพอดียังไงรบกวนพวกเธอสองคนหน่อยนะจ้ะ'' หญิงชราเอ่ยด้วยใบหน้าอ่อนโยนเธอมีรอยยิ้มน้อยๆเมื่อมองมายังสึบากิและอาคาชิที่ยืนอยู่ด้านข้าง

     

    ''ถ้าอย่างงั้นรบกวนอาคาชิคุงถือของให้หน่อยนะคะเดี้ยวฉันจะพาคุณยายเดินไป'' สึบากิหันไปขอร้องแฟนหนุ่มซึ่งเขาพยักหน้ารับก่อนจะรับถุงกระดาษมาถือไว้และเดินตามหลังสึบากิใช้แขนตัวเองให้หญิงชราจับแล้วเดินตรงไปยังป้ายรถเมล์ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่แต่ค่อนข้างช้าเพราะว่าระหว่างทางมีต้องเดินขึ้นเนินเล็กๆ

     

    สุดท้ายพวกเขาก็พาหญิงชรามาถึงป้ายรถเมย์ซึ่งโชคดีว่ารถเมย์ที่หญิงชราจะนั่งไปมาจอดพอดีสึบากิจึงพาเธอขึ้นรถก่อนจะเดินลงมายืนตรงฟุตบาทส่วนอาคาชิยื่นถุงกระดาษคืนให้เจ้าของ

     

    ''ขอบคุณมากๆเลยนะจ้ะทั้งสองคน'' หญิงชรากล่าวขอบคุณ

     

    ''ครับ|ยินดีค่ะ'' ทั้งคู่ขานรับ ประตูรถเมย์จึงปิดและรถก็เริ่มเคลื่อนที่จากไป สึบากิเหลือบมองอาคาชิที่เขายิ้มออกมาน้อยๆเป็นรอยยิ้มที่เธอไม่ได้เห็นมาซักพักแล้วตั้งแต่ที่เธอป่วยจนออกมาจากโรงพยาบาล

     

    ''อาคาชิ…สึบากิ?'' น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลังทั้งคู่จึงหันไปมอง นิจิมุระเดินมาใกล้ด้วยรอยยิ้ม แต่สำหรับสึบากิแล้วนี้มันรอยยิ้มกวนประสาทสุดๆ

     

    ''อ่อนโยนจังเลยน้านาย''

     

    ''อะไรกันครับ?'' อาคาชิมองอดีตกัปตันด้วยใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ส่วนสึบากิยืนเฉยๆมองพวกเขาคุยกันเธอเพียงพงกหัวทักทายนิจิมุระเท่านั้น ด้านนิจมุระเห็นท่าทางของร่างบางเขาไม่ได้พูดคุยอะไรแต่หันไปพูดกับอาคาชิต่อว่า

     

    ''อย่าอายไปหน่อยเลยนายอุส่าช่วยสุภาพสตรีถือของให้แถมทางนี้ก็ไม่ใช่ทางกลับบ้านนายกับสึบากิไม่ใช่หรอ?''

     

    ''ปกตินิจิมุระซังก็ไม่ได้กลับทางนี้นิครับ?''

     

    ''อ้อวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อยละนะไหนๆก็เจอกันแล้วเดินกลับด้วยกันเลยดีกว่า'' นิจิมุระเดินตีคู่ไปกับอาคาชิส่วนสึบากิเอามือป้องปากหาวเดินตามสองหนุ่มไป ซึ่งต่อไปพวกเขาน่าจะเดินผ่านย่านการค้าเธอรอดูสถานการณ์ไปเรื่อยๆ

     

    เมื่อเดินผ่านไปเรื่อยๆเจ้าของร้านเต้าหู้ก็เดินมากล่าวขอบคุณที่อาคาชิซื้อเต้าหู้ไปจำนวนมากไม่กี่วันก่อน ถัดไปไม่ไกลเจ้าของร้านขายของชำกล่าวขอบคุณที่อาคาชิสอนลูกชายเขาปั่นจักรยานและยังมีการที่อาคาชิโดนเชิญเข้าร่วมการแข่งขันในฤดูร้อนที่จะถึงเป็นกรณีพิเศษอีกด้วย

     

    ถึงจะรู้อยู่แล้วแต่มาเจอกับตัวแบบนี้สึบากิเองก็รู้สึกทึ่งกับความสามารถของแฟนหนุ่มจนเธอเหล่มองเสี้ยวหน้าของนิจิมุระที่แสดงความนับถือรุ่นน้องหนุ่มที่เขามอบตำแหน่งกัปตันชมรมให้ดูแลต่อ ดูเหมือนรุ่นพี่หนุ่มจะวางใจได้แล้วละมั้ง

     

    ''จะว่าฉันได้ยินมาว่านายไปบอกให้ไฮซากิออกจากชมรมหรอ?'' เดินมาได้ซักพักอดีตกัปตันก็ถามในสิ่งที่เขาคาใจมานาน

     

    ''ครับเพื่อรักษากฏของชมรมเอาไว้มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว'' อาคาชิใบหน้าไม่แสดงอารมณ์นำ้เสียงเฉียบขาด บรรยากาศรอบตัวอาคาชิเปลี่ยนไปมีแรงกดดันแผ่ออกมาดวงตาสีแดงสว่างขึ้นเล็กน้อย ขายังคงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่งคง

     

    นิจิมุระเห็นการเปลี่ยนแปลงฉับพลันเขาเหล่มองคนที่เดินตามหลังมาดวงตาสองสีสบเข้าหากันสึบากิไม่ได้พูดอะไรมากเธอเพียงพยักหน้าให้ รุ่นพี่หนุ่มกระพริบตาก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อคลี่คลายบรรยากาศน่าอึดอัด

     

    ''ว่าแต่อาคาชิเทียบกับผู้จัดการคนอื่นๆนายคิดว่าโมโมอิเป็นยังไง''

     

    ''เธอมีความสามารถที่เหมือนทั้งผมและโค้ชชิโรงาเนะและอีกอย่างข้อมูลที่เธอรวบรวมมาเธอยังสามารถบอกถึงพัฒนาการของคนๆนั้นได้อีกด้วย''

     

    ''เหมือนนายกับสึบากิสินะ'' นิจิมุระหัวเราะเมื่อฟังอาคาชิบอกรายละเอียดความสามารถของผู้จัดการสาว

     

    ''นิจิมุระซังก็คิดเหมือนกันสินะครับ…''

     

    ''มีโมโมอิซังอยู่เบาแรงฉันไปได้เยอะมากเลยนะคะ~'' สึบากิเอ่ยเสียงอ่อนพักนี้เธอยังรู้สึกเพลียๆอาจจะเพราะร่างกายยังต้องฟื้นฟูอีกซักพักไม่ก็เพราะต้องมาตามงานของสภานักเรียนในช่วงที่เธอลาป่วยแม้จะมีอาคาชิและอายะซังช่วยทำบางส่วนไปบ้างแล้วก็ตาม

     

    ''อะไรกันพวกนายสองคนเนี่ยฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างั้นซะหน่อย'' นิจิมุระมุ่ยหน้าที่รุ่นน้องทั้งสองตีความคำถามเขาไปอีกทาง

     

    ''ที่ฉันจะถามคือรูปร่างหน้าตาและหน้าอกหน้าใจของเธอต่างหาก'' รุ่นพี่หนุ่มยิ้มล้อเลียน

     

    ''คุณนี้แย่จริงๆเลยนะครับ'' สึบากิหัวเราะเบาๆเมื่อรุ่นพี่หนุ่มเจออาคาชิตอกกลับจนเถียงไม่ออก นิจิมุระหรี่ตามไปมองรุ่นน้องสาวที่กล้าหัวเราะเยาะเขา ร่างบางจึงปิดปากเงียบแต่แลบลิ้นออกมาชั่วขณะและกลับมามีหน้าปลาตายอีกครั้งเมื่ออาคาชิหันมามองเธอด้วยสายตาที่อ่านยาก

     

    ''หึทำเป็นพูดเพราะสึบากิอยู่ด้วยนายเลยไม่พูดมาใช่ไหมหล่ะ'' นิจิมุระพึมพำเบาๆ

     

    สึบากิส่ายหน้าอ่อนใจแพ้แล้วพาลชัดๆ

     

    ''ว่าแต่โมโมอิชอบคุโรโกะสินะเธอชอบมองคุโรโกะแล้วยืนยิ้มหน้าแดง''

     

    ''ไม่ช้าก็เร็วคนอื่นๆก็จะรู้ครับยกเว้นมิโดนิมะละนะ''

     

    ''หืม?''

     

    ''มิโดริมะคุงไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ'' สึบากิอธิบายเพิ่มเติม เมื่อเลี้ยวถึงหัวมุมและไม่ไกลจากที่อยู่ดวงตาสีฟ้าจ้องไปยังทางลาดด้านหน้าด้วยใบหน้าเคร่งเครียดจากตรงนี้เธอค่อนข้างกังวลว่าอาคาชิจะช่วยเด็กทารกคนนั้นทันรึเปล่า

     

    ''ในตอนนี้โมโมอิคงถูกคนอื่นๆกวนใจอยู่'' คนอื่นๆ? นิจิมุระเอียงคอ

     

    ''ถ้ายังมีพวกเขาอยู่เธอคงไม่ได้คบกับคุโรโกะหรอกครับ'' อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงแล้วหลังจบประโยคนี้สึบากิวางกระเป๋าที่สะพายไม่ให้มีเสียงและตั้งท่าเตรียมตัววิ่งเพื่อพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่มันน่าจะเกิดขึ้น

     

    ''ช่วยด้วย!!!'' สึบากิออกตัววิ่งข้ามไปยังทางลาดมือของเธอคว้ารถเข็นเด็กที่พุ่งตามทางลาดมาแต่ด้วยร่างกายยังไม่แข็งแรงดีรถเข็นจึงหลุดมือเธอไป ยังโชคดีอาคาชิตามเข้ามาคว้าเด็กทารกคนนั้นไว้ได้ทันส่วนเธอนั่งลงกับพื้นด้วยความโล่งใจเรื่องร้ายไม่เกิดขึ้น

     

    นิจิมุระมองทั้งคู่ด้วยความอึ้งความเร็วของอาคาชิ และเขาตกใจอีกอย่างคือ สึบากิออกตัววิ่งผ่านพวกเขาไปก่อนที่จะมีเสียงร้องเสียอีกราวกับรู้อนาคต…

     

    ''เฮ้อดีนะคะที่ช่วยไว้ได้ทัน'' ร่างบางลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นที่กระโปรง

     

    ''อา'' นิจิมุระจ้องมองรุ่นน้องสาวเพื่อตรวจสอบข้อสงสัยบางอย่างแต่ก็ล้มเลิกมันไป ส่วนสึบากิลอบถอนหายใจทำไมเธอจะไม่รู้สึกว่านิจิมุระมองเธอราวกับต้องการค้นหาอะไรบางอย่างแต่เมื่อไม่มีหลักฐานก็คงได้แค่คิด

     

    คนที่สึบากิกังวลมากกว่าคืออาคาชิที่กำลังอุ้มเด็กทารกไปคืนแม่ของเขา คนเป็นแม่โค้งกล่าวขอบคุณพวกเธอทั้งสามอยู่หลายครั้งก่อนจะขอตัวแยกย้ายกันเดินกลับบ้าน นิจิมุระของตัวแยกไปอีกทางส่วนเธอก็เดินตามหลังอาคาชิเพื่อกลับไปยังบ้านของเขาแค่คิดถึงมื้อเย็นวันนี้เธอควรหาเรื่องไปร่วมโต๊ะอาหารกับพ่อลูกคู่นี้ดีไหมนะ

     

    ''สึบากิคุณรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นใช่ไหม'' จู่ๆอาคาชิหยุดเดินเขาหนัหลังกลับไปมองสึบากิที่ตัวแข็งทื่อมีพิรุธ

     

    ร่างบางนิ่งเงียบแล้วถอนใจผ่านไปนานสึบากิจ้องมองดวงตาสีแดงเข้มคู่นั้นแต่เธอก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาไม่สิต้องบอกว่าห้ามพูดจะดีที่สุดการที่มีใครรู้อนาคตมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยด้วยซ้ำโดยเฉพาะถ้าอาคาชิรู้ด้วยแล้วสิ่งที่ตามทั้งเรื่องราวที่จะเปลี่ยนไปและอีกหลายอย่างด้วย

     

    ''ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันก็จะอยู่กับเซย์นะ'' สึบากิเดินเข้าไปสวมกอดอาคาชิส่วนคนที่โดนกอดเขายืนนิ่งร่างบางระชับแขนให้แน่นขึ้นเป็นคำสัญญาที่เธอจะอยู่เคียงข้างเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามทั้งตัวเขาในตอนนี้และตัวเขาอีกคนที่อยู่ข้างในด้วย

     

    ''สัญญาแล้วนะสึบากิ'' น้ำเสียงราบเรียบดังข้างหู สึบากิส่งเสียงในลำคอและพยักหน้า โดยไม่เห็นสีหน้าของคนที่เธอกอดได้เปลี่ยนไปแล้วอาคาชิกอดตอบจมูกฝังลงไปที่กลุ่มผมสีดำที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆที่เขาชอบรอยยิ้มผุดที่มุมปากก่อนจะผละออกและจูงมือร่างบางให้เดินตามทางกลับบ้านของเขา

     

     

     

    ร่างบางสวมชุดจินเบง่วนอยู่กับการทำทั้งรายงานและการบ้านที่ค้างคาไว้ตั้งแต่เธอล้มป่วยรวมทั้งเอกสารอื่นๆยังดีที่พวกข้อมูลและเอกสารของชมรมโมโมอิรับหน้าที่ดูแลแทนและจัดการได้เรียบร้อยดีจึงเหลือเพียงงานของสภานักเรียนและงานส่วนตัวที่ต้องรีบเคลียร์ให้ทันเพื่อที่เธอจะทุ่มเทเวลาที่เหลือสำหรับการสอบกลางภาคที่จะถึงอีกไม่กี่วันแล้ว

     

    ดวงตาสีฟ้าแหงนมองเพดานห้องนอนมือเล็กควงปากกาด้วยควาเคยชินเป็นนิสัย ห้องที่เธออาศัยนี้ตกแต่งเรียบง่ายแบบที่เธอชอบเมื่อเทียบกับที่บ้านของเธอพื้นที่ใช้สอยจะเยอะกว่ามาก หาเดินเข้ามาจากประตูทางเข้าจะเจอโต๊ะทำงานสีขาวตัวใหญ่หันหน้าออกมาทางประตู ด้านหลังโต๊ะมีหน้าต่างบานใหญ่มองลงไปจะเห็นวิวสวนดอกไม้ให้ความรู้สึกสบายตา

     

    ผนังด้านซ้ายเป็นชั้นหนังสือแบบฝั่งผนังเมื่อเดินไปทางด้านขวาจะมีส่วนของโซนห้องน้ำและแต่งตัวแบบว็อกอินโคลเซ็ตขั้นกลางระหว่างโซนโต๊ะทำงานและโซนพักผ่อนมีเตียงขนาดคิงส์ไซส์อยู่กลางปลายเตียงมีโซฟาตัวใหญ่หันไปตรงกับฝั่งห้องแต่งตัวที่มีชั้นวางหนังสือและจอทีวีขนาดใหญ่ติดตั้ง ทั้งห้องทาด้วยสีขาวเป็นหลักและมีเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้สีอ่อนตัดเพิ่มความอบอุ่นสบายตาแบบที่เธอชอบ

     

    ต้องยอมรับว่าห้องนี้มันถูกใจเธอมากทั้งฟั่งชันการใช้งานและการตกแต่ง แต่ติดอยู่เรื่องเดียวประตูลึกลับที่ติดกับเตียงนอนเธอสอบถามแม่บ้านและได้ความว่าหลังประตูนั้นไปคือห้องนอนของอาคาชิแฟนหนุ่มตัวร้าย

     

    ร่างบางปิดโน้ตบุ้คทำงานและจัดเก็บเอกสารให้เรียบร้อยพร้อมกับจดบันทึกสิ่งที่ทำงานในวันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วและไล่ดูส่วนของวันพรุ่งนี้ก่อนจะบิดขี้เกียจเดินไปยังเตียงนอนหนานุ่ม พรุ่งต้องตื่นเช้าเช่นเดิมถึงแม้ไม่มีกิจกรรมชมรมแต่ยังมีส่วนของสภานักเรียนที่ต้องจัดการอีกหลายอย่างเธอและอาคาชิยังคงต้องมาโรงเรียนเช้าเช่นเดิม

     

    ขาเรียวชะงักเมื่อในระยะสายตาเธอเห็นร่างของใครบางคนสวมชุดยูกาตะสีขาวนั่งหลับตากอดอกที่โซฟา สึบากิเหลือบมองนาฬิกาแขวนที่บอกเวลาเที่ยงคืนพอดีซึ่งตามปกติอาคาชิน่าจะยังอยู่ที่โต๊ะทำงานและบ้างานทำเอกสารถึงตีหนึ่งทุกวัน ส่วนเธอเที่ยงคืนคือเวลาเลิกงานและเข้านอนดังนั้นถึงจะอยู่ชายคาเดียวกันส่วนใหญ่ทั้งคู่ก็มักจะเจอกันช่วงเช้าจนถึงข่วงมื้อเย็นเท่านั้นเพราะต่างคนต้องมีงานการและหน้าที่ต้องรับผิดชอบ…

     

    แต่ระหว่างลูกสาวคนเล็กกับทายาทที่ถูกวางตัวให้เป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปมันมีความแตกต่างทั้งแรงกดดันและการคาดหวังอีกด้วย…

     

    ''วันนี้เซย์นอนเร็วหรอคะ?'' สึบากิเดินมานั่งลงด้านข้างเธอเหลือบมองประตูทางเชื่อมของห้องที่ปิดสนิท คงไม่ใช่ว่าจะมานอนห้องเธอด้วยหรอกนะถึงจะเป็นแฟนกันและไม่ได้คิดอะไรมากเรื่องการนอนเตียงเดียวกันแต่อะไรจะเกิดขึ้นมันจะห้ามไม่อยูนี้สิโดนเฉพาะใจเธอเนี้ยแหละ…

     

    ''อา'' อาคาชิลืมตาขึ้นมาเขาสำรวจสึบากิที่วันนี้สวมชุดจินเบสีดำมีลายเพ้นพู่กันสีขาวแต่งช่วงปลายเหมือนกับยูกาตะของเขาแต่สลับสีกัน

     

    ''คงไม่ใช่ว่าคุณจะมานอนกันฉันหรอกนะ?'' สึบากิหน้าปลาตายเอียงคอ ความสงสัยที่มาพร้อมกับใจที่เต้นตึกตักเธอภาวนาให้เขาตอบปฏิเสธหรือไม่ก็เดินกลับห้องตัวเองไป แต่อีกใจก็ยังอยากให้เขานั่งอยู่ด้วยละนะ

     

    ''นั้นสินะ…แล้วสึบากิอยากให้ฉันนอนเป็นเพื่อนรึเปล่า?''

     

    ''เซย์ก็มีห้องตัวเองก็ไปนอนห้องตัวเองสิคะ!'' สึบากิเผลอตอบเสียงสูง เธอขยับถอยหนีอีกคนที่ประชิดตัวจนสุดขอบโซฟาถ้าขยับอีกนิดได้หงายหลังก้นกระแทกพื้นแน่ๆ

     

    ''ได้ตามคำขอ'' อาคาชิลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มตัวมาอุ้มร่างบางในท่าเจ้าหญิง สึบากิที่โดนสิงโตอุ้มพาไปยังอีกห้องด้วยความรวดเร็วเธอไม่สิทธิแม้แต่จะคัดค้านจนหลังไปสัมผัสกับเตียงนอนร่างบางได้โอกาสรีบเด้งตัวขึ้นหมายจะลุกแล้ววิ่งหนีไปห้องตัวเองแต่ช้าไปแล้วอาคาชิทิ้งตัวลงมาทาบทับร่างกายเธอปิดทางหนีทีไล่ไว้หมดแล้ว

     

    ''เซย์มันหนักนะลุกออกไปเลย'' สึบากินอนนิ่งอย่างจนหนทางเมื่อหนีไม่ได้ต้องต่อรองเอาแต่พักหลังมานี้การต่อรองของเธอจะโดนปัดตกตลอด ดูเหมือนเจ้าสิงโตตัวนี้มีภูมิต้านทานเธอแล้ว

     

    อาคาชิไม่ตอบเขาก้มหน้าเข้ามาใกล้จมูกปัดป่ายไปตามแก้มนุ่มนิ่มลมหายใจพ่นออกมาแรงเพื่อแกล้งคนใต้ร่างนอนเกร็งตัวใบหูแดงระเรื่อและเข้มขึ้นทุกครั้งที่ขยับเข้าใกล้ ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายต่ำลงมาที่ลำคอขาวผ่อง มือเรียงคลายปมชุดร่างบาง ก่อนจะลาดต่ำมาตรงหัวไหล่ริมฝีปากทาบทับแล้วสร้างรอยสีแดงเข้มขนาดใหญ่แล้วจึงกัดลงที่หัวไหล่อีกครั้ง

     

    ''อื้อ~…เซย์…โอ้ย!?'' สึบากิร้องเมื่อถูกสร้างรอยทิ้งไว้บนร่างกายตัวเองมือเล็กพยายามดันร่างที่อยู่บนออกห่างแต่แรงคนเพิ่งหายป่วยก็ต้านไม่ไหวจึงเปลี่ยนมาจิกทึ้งชุดยูกาตะของอีกฝ่ายแทนเพื่อระบายความเจ็บตรงหัวไหล่

     

    ''คุณไม่มีสิทธิมองคนอื่น'' อาคาชิมองร่องรอยที่เข้าทำด้วยความพอใจ เขาจ้องมองสึบากิที่หอบหายใจใบหน้าแดงระเรื่อผมสีดำยาวสยายไปทั่วหมอน ดวงตาสีฟ้าเข้มวาวใสดื้อดึง

     

    เธอแค่เอ็นดูความน่ารักของคุโรโกะเองนะ!

     

    ''มันไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย'' สึบากิเบะปากไม่พอใจ

     

    ''พิสูจน์สิ'' อาคาชิปล่อยสึบากิให้เป็นอิสระเขาขยับมานั่งแล้วดึงให้ร่างบางที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยขึ้นมานั่ง สึบากิมองสำรวจเสื้อผ้าที่เปิดเผยเนื้อหนังจนเห็นช่วงอกเธอจึงรีบจัดการผูกปมใหม่ให้เรียบร้อยดังเดิม เธอมองไปที่คนนั่งข้างๆที่นั่งหลังตรงมองมายังเธอ

     

    ร่างบางจึงขยับเข้าไปใกล้สึบากิคุกเข่าตรงหน้าอาคาชิมือเล็กลูปแก้มสากแล้วจึงยื่นหน้าไปใกล้จนหน้าผากทั้งสองคนชิดกันริมฝีปากทาบทับอีกฝ่ายค้างไว้โดยที่ดวงตาทั้งสองยังมองกันก่อนที่สึบากิจะผละออกแล้วหันหลังไปจัดหมอนเพียงเตรียมตัวนอน

     

    ''ได้เวลานอนแล้วเซย์'' สึบากิปิกปากหาว ตอนนี้เธอรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆไม่กล้าหันกลับไปเลยแฮะ

     

    ร่างบางค่อยไปขยับไปฝั่งที่เธอจะนอนแต่ไม่ทันไปล้มตัวนอนก็มีแขนของคนที่คุณก็รู้ว่าใครคว้าแล้วดึงร่างบางลอยมานั่งตักตัวเอง สึบากิหันไปมองคนที่ชอบจู่โจมกระทันหันแต่ไม่ทันได้พูดเธอก็ถูกอีกฝ่ายปิดปากไปแล้ว รสจูบที่ทั้งร้อนแรงและดุเดือดทำเอาสมองเธอตอนนี้หมุนเคว้งคว้างไปไกล เสียงดูดดึงดังชนิดไม่ให้เวลาเธอไปเขินอายที่ทำได้มีเพียงรับทุกรสทุกสัมผัสที่อาคาชิมอบให้เพียงเท่านั้น

     

    สึบากิสะดุ้งเฮือกเมื่อความร้อนของผ่ามือล้วงผ่านเสื้อมาสัมผัสเอวแล้วค่อยๆไต่ขึ้นมาเรื่อยเกือบจะถึงถึงกลางหลังสึบากิพยายามยืดตัวขึ้นแต่เหมือนจะยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายตีเมืองด้านบนได้ถนัดแต่ถ้าไม่หนีมือที่ลุกล้ำมาที่แผ่นหลังอาคาชิต้องรู้แน่ว่าเธอไม่ใส่เสื้อบราตอนนอน!

     

    ''สึบากิกำลังท้าทายฉันอยู่หรอ?''

     

    ใครท้าทาย?ฉันแค่ไม่ชอบใส่บรานอนโว้ย! สึบากิกรีดร้องในใจ

     

    เมื่อมืออาคาชิลูปสำรวจไปทั่วแผ่นหลังนวลเนียนว่างเปล่า เธอซุกหน้ากับแผ่นอกที่โผ่ลออกมาให้เห็นรำไรจากฝีมือเธอเอง

     

    ''มะ ไม่ใช่นะอึก…'' สึบากิเอ่ยเสียงสั่นเวลามือเรียวลูปไปตามจุดต่างพร้อมกับกดนวดให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย

     

    ''หรอ?'' สึบากิพยักหน้า มือยังกำยูกาตะอีกฝ่ายไว้แน่น ในที่สุดอาคาชิจึงหยุดการแกล้งร่างบางไว้เพียงเท่านี้?

     

    ''เซย์พอแล้วง่วง'' สึบากิย่นคอหนีเมื่อรู้ว่าท่านชายกำลังเปลี่ยนเป้าหมายมาทำอะไร

     

    ''จะเริ่มเองรึจะให้ฉันเริ่มก่อน?'' ร่างกรอกตาใช้ความคิดนี้มันทั้งขึ้นทั้งร่องไม่ต่างกันเลยซักนิ้ด!!

     

    แต่ไม่ทันได้เลือกอาคาชิก็เลือกให้แทนแล้วสึบากิโดนจับท้ายทอยให้เงยขึ้นรับสัมผัสอีกครั้งคราวนี้ใช้เวลานานจนทำให้เธออ่อนเพลียและหลับไปในอ้อมกอดของสิงโตตัวร้ายที่เธอคงไม่มีวันเอาชนะเขาได้เลยซักครั้งเดียว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×