ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Something Only we know : แค่อยากให้รู้....ว่า [YAOI] Boylove

    ลำดับตอนที่ #10 : EP 10 : on and on and on.

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 56


     

    EP 10 : on and on and on.

     

     

                “เชี่ยเปามึงจะรอให้ไฟไหม้บ้านไงว้ะ รีบเป่าดิสัด” เชี่ยพุกกูบอกแล้วอย่าแดกน้ำตาลเยอะ ดุยังกะหมา แต่จากที่ฟังๆ ดูไอ้เพลงขอให้ “เจ้าภาพ” จงเจริญของพวกแม่งเนี่ย คงไม่มีข้อผูกมัดอื่นๆ ตามมา

     

                ฟู่!!!!

     

                ผมพ่นลมออกไปสุดแรง เทียนเป่าไม่ดับทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ ฮาๆๆๆ แต่สงสารไอ้คนถือเค้กนิดหน่อย สงสัยโดนน้ำลายผมไปไม่น้อย แต่ก็สมควรแล้วฮะ เพราะเมื่อคืนมึงเล่นกูไว้เยอะ

     

                พอแสงเทียนดับลงแสงสีนวลจากหลอดไฟก็เข้ามาแทนที่เผยให้เห็นว่าไอ้พีทที่มันยังยิ้มอยู่ ตามมาด้วยเสียงเฮ!!! เพื่อนๆ ผมมันไปรุมขยี้หัวไอ้น้องกอล์ฟเจ้าของวันเกิดในอีก 1 ชั่วโมงกันยกใหญ่ ผมเองก็เข้าไปร่วมแจมครับ ก็น้องมันน่ารักอ่ะ ยิ่งเวลามันร้องไห้ยิ่งน่าแกล้ง

     

                “โอ้ย!!! พี่ ผมยุ่งหมด”

    “ไอ้กอล์ฟ แหม!! พอรู้ว่าพวกกูแกล้ง เสียงแข็งเลยนะไอ้เหี้ย ไปเอาซ่อมมาดิ้” ไอ้บ้าพูดพลางเอานิ้วปาดหน้าเค้กเพื่อแดกครีม

     

    “ไม่!!! พี่อยากกินก็ไปหยิบเองดิฮะ” คราวนี้ไอ้กอล์ฟมันไม่ยอมครับ แถมยังทำหน้าเอาเรื่องทั้งๆ ที่น้ำตายังเกาะอยู่บนแก้ม แต่ที่ฮากว่าคือไอ้เชี่ยบ้า พอน้องมันสวนมาหน้าเจื่อนเลยไปเลยฮะ “น้องกอล์ฟช่วยไปหยิบซ่อมหน่อยได้ไหมฮะ พวกผมจะได้แดกเค้กมึงส้ากกกก *เสียงสูง* ที ขอบคุณครับ

     

    เสียงเฮดังขึ้นอีกรอบ เพราะนานๆ จะได้เห็นไอ้บ้ามันโดนน้องสวน “ครับพี่ จริงๆ เวลาพี่ทำตัวเป็นคนเนี่ย น่ารักนะครับ ใครได้เป็นแฟนโชคดีตาย” ไอ้น้องกอล์ฟทิ้งหมัดเด็ดไว้ก่อนที่จะเดินสะบัดเกรียนไปที่ครัว (O-O!!) ทิ้งให้พวกผมยืนเหว๋อ โดยเฉพาะไอ้บ้า “เชี่ยบ้ามึงเขินไรว้ะ” ฮิ้ว!!! ไอ้ตั๋งนานๆ มันจะพูดทีแต่จังหวะแม่งดีตลอด

     

    “เขินพ่อง.....!!!” ไอ้บ้ามันรีบสะบัดตูดวิ่งตามไอ้น้องกอล์ฟเข้าไปในครัว

    มึงว่าไงนะ ไอ้กอล์ฟ” เสียงไอ้บ้าดังลั่นออกมาจากมุมครัว “ไม่ว่าพี่ ผมแค่ชมว่าพี่น่ารัก” พวกผมเงียบและคอยฟังทันทีฮะ เรื่องอย่างงี้ไม่ต้องให้บอก

    “แล้วปกติกูไม่ใช่คนรึไงสัส!?”

    “ก็ใช่พี่ แต่ตอนนี้เริ่มไม่ใช่แระ”

    “แล้วตอนนี้เหมือนอะไรว้ะ!?

    “กระต่ายมั้งพี่ ปากพี่เนี่ยเต็มไปด้วยกระต่าย”

    “ไอ้เชี่ยกอล์ฟมึงว่ากูเป็นหมาเหรอไอ้สัสW

    “ป่าวพี่ กระต่าย โอ้ย!!! ตบหัวผมไมอ่ะ โอ้ย!! ขอโทษคร้าบบบ!!!!”

     

    ไอ้บ้ากลับเข้ามาในวง ด้วยความที่ผิวมันขาวมากตามฉบับลูกคนจีน เวลาหน้ามันแดงเนี่ยจะเห็นได้ชัดมาก รับรองไม่พลาดที่หมาในปากไอ้โบ้ทมันจะเริ่มทำงานทันที “คู่นี้แม่ง น่ารักเนอะ เชี่ยมีสวีทกันตอนวันเกิด” แต่กระต่ายในปากไอ้บ้ามันไม่ทำงานครับ มันเลยได้ยกนิ้วกลางใส่พวกผมท่ามกลางเสียงโห่ ของเพื่อน

     

    น้องกอล์ฟกลับมาพร้อมกับซ้อมหลายอัน ตอนนี้ตาหายแดงแล้วครับ แต่ยังปูดๆ อยู่นิดหน่อยหลังจากร้องไห้ไป

     

    ไอ้พุกแม่งชอบน้ำตาลจริงๆ ครับมันเป็นรายแรกๆ ที่เข้าไปไปรุมที่กล่องเค้กบนโต๊ะกาแฟ ไอ้พวกที่บ่นอิ่มตะกี้หายไปไหนหมดว้ะ เหลือก็แต่ผมกับพีทที่ยืนอยู่นอกวง “ไม่แดกเหรอว้ะ?” พีทมันถามผมพร้อมกับยื่นเค้กในมือมาให้ ใครกินก็บ้าแล้วมึง จริงๆ สภาพเค้กมันก็ยังพอจะกินได้แต่ “ไม่อ่ะ กูอิ่ม

     

    เชี่ย.... เทียนเต็มคาราเมลเลยสาดด” เสียงมันงี้แสดงถึงความอยากแดกปนเสียดายขั้นสุด ว่าแต่มึงออกจากวงนู้นมาตอนไหนว้ะ “เชี่ยแม่ง!! มึงอ่ะมัวแต่เรื่องมาก อดแดกเลยไอ้ห่า” พุกมันยังคงไม่เลิกโอดครวญครับ แต่คนต่อไปที่พูดขึ้นนี่สำคัญนักหล่ะ “เอ้ย!! มึงว่าเค้กเนี่ยถ้าแดกไม่ได้แล้วทำไรดีว้ะ!?” ไอ้เชี่ยเอ ไอ้เชี่ย.....

     

    สายตาชั่วๆ ของพวกมันจ้องมาที่ผม ผมเห็นชะตากรรมอันใกล้ของผมได้ทันทีที่ไอ้โบ้ทมันเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ “ไอ้เหี้ย อย่าเด๋วบ้าน โอะ.....” เฮ เค้กคาราเมลโปะด้วยน้ำตาเทียนในมือไอ้พีท ถูกไอ้พุกที่ยืนอยู่ด้านหลังของพวกผมกวาดมาใส่หน้าผมเต็ม ผมเซไปด้านหลังนิดหน่อย “โอ้ย!! ไอ้เหี้ย.....เข้าตาW

     

    ผมรู้สึกได้ว่ามีคนมารับผมไว้และในเวลาเดียวกัน มือหลายๆ มือก็กำลังละเลงเค้กอยู้บนหน้าและหัว “Party Timeeeeee !!!!! เฮ” เสียงไอ้บ้าตะโกนลั่นห้อง เชี่ยแกล้งกูได้ต้องดีใจขนาดนั้น ผมพยายามลืมตาแต่ไม่รอดจริงๆ ฮะ เชี่ยโอ้ยแสบๆ

     

    ผมพยายามจะปาดครีมออกจากตาทั้ง 2 ข้างแต่เหมือนจะยิ่งทำให้แย่ยิ่งกว่าเดิม มืออุ่นๆ คว้ามือผมออกจากหน้า “เชี่ยอย่าขยี้ดิว้ะ มานี่!!” ไอ้พีทมึงอย่าลากเดี๋ยวกูล้ม

     

    “เชี่ย เชี่ย เชี่ย แสบ แสบ แสบ” ผมยังคงโวยวายต่อเนื่อง จากที่ฟังดูมีเสียงไอ้โบ้ทกับไอ้เลวพุกตามเข้ามาในห้องน้ำ กูขอบใจที่เป็นห่วงแต่เนื้อที่ก็มีอยู่ไม่กี่ตารางเมตรไม่ต้องมาเบียดกูก็ได้ “เป็นไรป่าวว้ะ กูขอโทษ” ไอ้พุกคงรู้สึกผิดเพราะผมยังคงโวยอยู่ “พวกมึงออกไปก่อนป่ะ มันไม่เป็นไรหรอก”

     

    “เออๆ กูขอโทษนะเว่ย!!” (T-T)

     

    “มึงอย่าดิ้นดิว้ะ แล้วก็หยุดแหกปาก” ไอ้พีทมึงอ่ะตัวดีไอ้ห่าเสือกยืนเค้กมาใส่หน้ากู “ถอดเสื้อดิ” มึงบ้าแระไอ้พีทอยู่ให้กูถอดเสื้อ “เร็วๆ เยิ้มเขาตาหมดแล้ว” พีทพูดพลางใช้นิ้วเช็ดๆ ที่คิ้วกับตาของผม “เออๆ” ผมรีบดึงเสื้อยืดออกอย่างระวังที่สุดเพื่อไม่ให้ไปโดนเค้กที่อยู่บนหัว

     

    พีทมันใช้เสื้อเช็ดหน้าผม ตอนนี้ค่อยจะเริ่มลืมตาขึ้นแต่ก็ยังคงแสบอยู่ เค้กร้านนี้มันใช้น้ำตาลหรือพริกว้ะเนี่ย “อ่ะถอดกางเกง” มันบอกให้ผมถอดกางเกงหน้าตาเฉย นี่คือมึงกำลังบอกให้กูถอดกางเกงนะได้ข่าว “เร็วๆ ดิ” เออๆ มึงเป็นใครว้ะสั่งอยู่ได้ แต่ผมก็เสือกทำตาม

     

    จากนั้นมันก็จูงผมเข้าไปที่โซนฝักบัว และแล้วน้ำอุ่นก็ไหลมาให้ผมได้ล้างเอาคราบมันและหวานออก (เออ แต่จริงของไอ้พุกมัน คาราเมลอร่อยจริงฮะ) พอได้น้ำมาล้าง ตาผมเลยค่อยยังชั่ว

     

    ผมเงยหน้าขึ้นเจอไอ้พีทยืนยิ้มกว้างในมือถือฝักบัวเล็งมาที่ผม “ขอบคุณ!! แต่มึงออกไปได้แระ” ผมโบกมือไล่มันให้ออกไปเพื่อที่จะได้อาบน้ำต่อ พีทมันยอมออกไปแต่โดยดีฮะ พอผมอยู่ตัวคนเดียวในห้องน้ำบ้อกเซอร์ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป

     

    ใครเอาครีมป้ายเข้ามาในหูกู ของมันหูเป็นหนอง เป็นฝี เป็นขี้กาก เป็นอัมพาต คือหลังจากสระผมไป 2 รอบแล้วยังรู้สึกมันๆ ยังไงชอบกล

     

    พออาบน้ำเสร็จ อ้าว ผ้าขนหนูไม่มี!! ซวยและ ขืนตะโกนบอกให้พวกแม่งเอามาให้มีหวังโดนแกล้งรอบ 2 ผมเลยแง้มๆ ประตูห้องน้ำออกดู ทางโล่งฮะเพราะห้องแต่งตัวอยู่แค่ 2 ช่วงตัวไม่มีใครทันเห็นแน่นอน แต่พวกเชี่ยนี่เปิดแอร์ไม่เกรงใจตระกูลกูเลยเล่นซะ 17 องศา หนาวๆ

     

    ผมเหาะเข้ามาในห้องแต่ตัวได้อย่างปลอดภัยครับ ไม่มีใครเห็นผมโป้ หลังจากปิดประตู (ต้องกันไว้ก่อนอยู่กับไอ้พวกเชี่ยนี่อันตราย) ผมก็รีบจัดแจงเช็ดตัวแล้วค้นหาเสื้อมาใส่ ที่ต้องรีบเนี่ยเพราะข้างนอกดูสนุกกันสุดเหวี่ยง อยากแจมจะตายอยู่แล้ว

     

    ผมไม่ได้เปิดไฟหรอกครับเพราะแสงจากภายนอกก็พอใช้ได้ หลังจากเช็ดตัวเสร็จก็ถึงคิวการค้นเสื้อ อืมๆ วันนี้เพื่อนมาเยอะหาเสื้อทีม(เชลซี)มาใส่อวดพวกมันดีกว่า แต่ในระหว่างที่กำลังแต่งตัวอยู่ “ไอ้เปามึงรีบๆ ใส่กางเกงได้ป่าวว้ะ” เห้ย!!! ไอ้เชี่ยพีทมึงเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ว้ะ

     

    ผมรีบคว้าเอาบ้อกฯมาใส่แล้ววิ่งไปเปิดไฟ “ไอ้เหี้ย มึงมานั่งทำไรตรงนี้ว้ะ!?” ในใจภาวนาให้มันตอบว่ามันมาแอบหลับ(โง่ใช่ไหม๊ครับ) “ก็ตรงนี้วิวสวยดี” ไอ้ห่าแสดงว่าตามึงเปิดอยู่ตลอดเวลา เชี่ยๆ ใบหน้าผมร้อนผ่าวอีกแล้วครับ ยังไงว้ะเนี่ยไปไม่เป็นเลยกู พีทลุกขึ้นยืนแล้วยื่นกระป๋องเบียร์เย็นเฉียบที่ถูกจิบไปนิดหน่อยให้ผม “ไม่เห็นหรอก เปาน้อยตัวเล็กนี้ดดดเดียว” ผมได้แต่ขยับปากว่า “คอ วอ ยอ” ใส่มันระหว่างที่มัน เดินอมยิ้มผ่านผมออกไป (แต่เปาน้อยไม่น้อยเหมือนชื่อนะฮะ ฮิๆ (อี้........))

     

    “เชี่ยเปามึงจะยืนอีกนานไม๊ ไอ้ห่าบังกู” ไอ้เอโวยวายในขณะที่ผมพยายามหาที่ลง ก็ในวงมันเสือกไม่มีที่ว่างเลยนอกจากข้างไอ้เวรพีท เออแม่งนั่งก็ได้ว้ะ ไม่เห็นมีไรต้องอาย ผู้ชายด้วยกัน อืม.....แต่มันเขินนี่หว่าถ้าเป็นไอ้โบ้ทหรือไอ้เอผมจะไม่เขินเลย

     

    ไอ้บ้ากับน้องกอล์ฟหายไปครับ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ถาม ประตูห้องก็เปิดออก มัน 2 คนเข้ามาพร้อมกับ Absolute Vodka ขวดใหญ่ ส่วนน้องกอล์ฟถือเครื่อง Wii ตามหลังเข้ามา “อภินันทนาการจากสุดหล่อ” (สุดหล่อนี่คือช่างที่อู่บ้านไอ้บ้าครับ อาชีพเสริมคือซื้อเหล้าให้คุณหนูเจ้าของอู่) ตอนนี้ในวงเลยแบ่งเป็น 2 พวกพวก Vodka และพวกเบียร์

     

    เสียงริงโทนไอ้โบ้ทดังขึ้น พอมันหยิบโทรศัพท์มาดูหน้าแม่งนี่ดีใจยิ่งกว่าได้รางวัลที่ 1 สงสัยกิ้ฟจะโทรมา มันเลยขอแยกตัวออกไป “กูว่ากินอย่างงี้ไม่หนุกหว่ะ” เวลาเห็นไอ้บ้ามันทำหน้าแบบนี้แล้วพวกผมบอกได้ทันที ว่าแม่งคิดอะไรชั่วๆ ออก “กูว่าแดกผสมกันดีกว่า เหมือนแดกโซแมก (โซจูผสมเบียร์)” แค่ฟังกูก็จะอ้วกแระ แต่มีเหรอฮะที่พวกผมจะไม่ลอง จัดไปวัยรุ่น

     

    หลังจากกินกันไปพักใหญ่ โลกมันเริ่มหมุนๆ แล้วหล่ะครับ ยังดีที่พวกผมยังได้ออกกำลังกายจากเครื่อง Wii เอา Alcohol ออกมาบ้าง แล้วไอ้เชี่ยบ้ามึงจะร้องเพลง HBD อีกกี่รอบว้ะ ส่วนไอ้โบ้ทมันนี่ยิ่งคึกเข้าไปใหญ่ สงสัยดีกับกิ้ฟท์แล้ว เพราะมันไปขุดหาชุดตีเทนนิสของเฮียปูนออกมาทำท่าเป็นโรเจอร์ เฟดเด้อเร้อ(ตั้งใจเรียกมันตามที่อ่านเพราะมันตีได้ห่วยสัด)

     

    สมาชิกเริ่มล้มหายตายจากกับไปบ้างแล้วครับ ไอ้ตั๋งมันเริ่มไปตั้งป้อมนอนตรงมุมห้องนู่น ส่วนไอ้เดียร์กับไอ้น้องกอล์ฟยึดเตียงผมไปแล้ว ที่เหลืออยู่ผมกับไอ้พีทดูถ้าจะเป็นคนที่มีสติที่สุดเพราะเรา 2 คนกินไปไม่เยอะ ตอนนี้เครื่อง Wii เปลี่ยนสภาพจากไม้เทนนิสเป็นกล่องและไฟฉาย เพราะไอ้เจเสือกอยากจะเล่น Fatal Frame ขึ้นมา

     

    จากที่นั่งกินๆ กันอยู่เลยกลายเป็นว่าพวกผม (ไอ้บ้า พุก โบ้ท เอ พีท และก็ผม) ย้ายไปนั่งดูไอ้เจถ่ายรูปผีซะงั้น ไอ้คนคิดเกมส์นี้ก็โครตจะเก่ง ทั้งๆ ที่รู้ว่าผีจะออกมาตอนไหน พวกผมก็ยังร้องโวยวายตกใจกันอยู่ดี(สงสัย เพราะโซแมก ไอ้บ้า)

     

    “เปากูหิวหว่ะ บ้านมึงมีมาม่าป่ะ?” ไอ้พุกมึงจะแดกอะไรนักหนา แต่ก็ดีผมเองก็หิว “เออๆ มี ต้มยำกุ้งนะ”

     

    ระหว่างที่นั่งรอ Microwave เปลี่ยนโมเลกุลให้น้ำเย็นกลายเป็นน้ำร้อน ผมก็พาลจะหลับไปหลายรอบ ติ้ง!!! น่า กิน สาดดด

     

    ผมเดินกลับเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น สมาชิกหายไปอีก 2 แล้วครับเหลือแต่ พีทที่มันนั่งเอาผ้าห่มห่อตัวอยู่บนโซฟา ส่วนไอ้โบ้ทมันก็ลากหมอนลงไปนอนขดอยู่ข้างไอ้เจที่มันยังคงขะมักเขม้น ส่วนไอ้เอมันได้ทีดีบนโซฟาจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ พอได้กลิ่นมาม่าไอ้เชี่ยพุกงี้ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที

     

    “ทำไมมาม่าบ้านมึงน้อยจังว้ะเปา!” มันทักขณะที่ผมยื่นชามมาม่าให้มัน “หกหว่ะ.

    “หกใส่ท้องมึงดิห่า ปากมันเชียวนะสัด” เชี่ยนี่แม่งกูทำให้กินก็ดีแระเสือกบ่นอีก เออ ก็ท่ากูเอาออกมาเลย คงได้แดกหรอก ระหว่างที่ไอ้เจ pause เกมส์แล้วหันมาโซ้ยมาม่ากับไอ้พุก เชี่ยหนาวหว่ะ

     

    ผมกลับเข้ามาในห้องนอนแต่ไม่เหลือผ้าห่มแล้วครับ ผ้าห่มสำรองในตู้เสื้อผ้าถูกรื้ออกมาหมดแล้ว ส่วนเตียงไม่ต้องห่วง ไอ้บ้ามันเข้าไปนอนแทรกระหว่างนะกอล์ฟกับไอ้เดียร์เป็นที่เรียบร้อย

     

    ชามมาม่าเมื่อครู่ไม่ต้องล้างเลยฮะพวกมันจัดการเลียซะสะอาด พอทุกคนกลับเข้าตำแหน่งเดิม ที่ว่างที่เหลืออยู่คือข้างไอ้พีทตามเคย นี่มึงนิสัยไม่ดีป่าวว้ะทำไมเพื่อนไม่ค่อยเข้าใกล้ ผมทรุดตัวลงนั่งขดอยู่ข้างๆ มันครับ ถึงตอนน่ากลัวพอดี แต่ไอ้เจแม่งเล่นเก่งดีหว่ะ

     

    “อ่ะ” ผมหันไปตามต้นเสียง พีทมันคลี่ผ้าห่มออกแล้วยื่นมาแบ่งให้ ตอนนี้ผมกับมันอยู่ในสภาพเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่นเพียงแต่ว่ามี 2 หัว ผมก้มลงหยิบเบียร์ที่กระติกข้างๆ ไอ้เจ เหลืออยู่ 2 กระป๋องพอดีเลยแฮะ ผมยื่นให้แต่พีทมันไม่เอาครับ เออดีงั้นกูกินคนเดียว ก็มันสบายใจนี่ฮะที่กินนี้ก็กะไม่ได้จะเมานะแต่มัน แฮ่......

     

     

    >>>>>>>>>>>>>>>> 

     

     

    แจ๊บๆ อืม..... ไม่เคยคิดเลยฮะว่านอนที่โซฟามันจะสบายขนาดนี้ อุ่นด้วย ฮา....... ผมพลิกตัวให้เข้าที่ แดดยามสายๆ (มั้ง) ยังคงส่องเข้ามาไม่ถึงเพราะโดนม่านกั้นเอาไว้อย่างดี แต่ทำไมหมอนขยับได้ว้ะ แล้วบ้านกูมีหมอนสีน้ำเงินตั้งแต่เมื่อไหร่ อ้ากกกมีขนด้วย เห้ยนี่มันขาคนนี้หว่า

     

    ผมรีบลุกขึ้นนั่งร่างมัวตรงหน้าขยับตัวตามนิดหน่อย โอ้ยกรรมของคนตาไม่ดี ผมเอื้อมมือไปหยิบแว่นที่โต๊ะข้างโซฟา เพราะมันมักจะอยู่ตรงนั้นแต่ไม่มีครับ “อ่ะมึง” ไอ้พีทส่งแว่นมาให้ พอเริ่มปรับสายตาได้ เห็นพีทมันทุบขาแก้เมื่อยยกใหญ่ ผมเลยแกล้งเนียนครับไม่พูดอะไร คิดว่ามันก็คงไม่รู้ตัวเหมือนกัล

     

    “ขากูนิ่มม้ะ” เวรละผมงี้หน้าชาไปเลย ไปไงดีว้ะ หึ? “ถ้ากูสิวขึ้นนะพาไปรักษาเลย กางเกงมึงสกปรกจะตายห่า” เป็นไงผมแถเก่งใช่ไม๊ฮะ พีทมันไม่ว่าอะไรมันครับแค่ย้ายที่ทุบจากต้นขามาเป็นคอ ฮ้าดดด ชึ........ และต่อมาอีกหลายฟอด ก็แน่หล่ะ แอร์หนาวจะตายเสือกทำพระเอกสละผ้าห่มมาให้ผม

     

    “อ่ะมึง เป็นหวัดอย่าโทษกูนะ” ผมยกตัวขึ้นแล้วส่งผ้าห่มกลับไป มันถูๆจมูก แล้วดึงผ้ากลับไปแล้วทำหน้างอนๆ “มึงแม่งไม่มีขอบคุณสักคำ อุดส่าห์เป็นหมอนให้ทั้งคืน” ทั้งคืนเลยเหรอว้ะ เออๆ ขอบคุณมันไปก็ได้เรามันเป็นคนไทย(เกี่ยวไรว้ะ) “ขอบคุณคร้าบ!!” พูดเพราะประชดมันซะเลย ฮ้าดดดด โชย!!! จามถี่ขนาดนี้ถ้าจะหนัก

     

    “แดกยาไหม!? สมน้ำหน้าเสือกทำพระเอก” ฮือ.....มันไม่ตอบครับเอาแต่บิดขี้เกียจ” พระเอกห่าไร มึงอ่ะดึงไป” อ่าวเหรอ แฮะๆ ผมได้แต่ยิ้มๆ พร้อมกับเกาหัวแคร่กๆ ไม่ใช่เพราะเขินนะฮะแต่คันจริง สงสัยเพราะเค้กเมื่อคืน “ฮาดดดด โชย” คราวนี้เป็นผมเองฮะที่จาม สงสัยภูมิแพ้กำเริ่บ

     

    “มึง 2 คนจะจามกันอีกนานไหม ไอ้เหี้ย......” ตื่นมาปุ้บก็เริ่มเห่าเลยนะไอ้โบ้ท “กี่โมงแล้วว้ะ หน้าจอ?” Iphone ของผมที่เสียบชาร์ตอยู่ข้างโซฟาบอกเวลา “11:45 หว่ะ

     

    “เชี่ย......แระ” อ้าวไอ้นี่กูอุตส่าห์ใช้ตาอันไม่ค่อยดีเพ่งดูเวลาให้ ด่ากูไมว้ะ “สายแล้วสัด” ไอ้โบ้ทมันโพรงออกมาพร้อมกระเด้งตัวลุกขึ้นลนลานวิ่งไปวิ่งมารวบรวมสัมพาระ มันนัดกิ้ฟท์ไว้แน่นอนฮะเพราะถ้าเป็นเรื่องอื่นมันไม่ร้อนรนขนาดนี้หรอก

     

    เสียงโวยวายของไอ้โบ้ทพาลให้ไอ้เอสมาชิกบนโซฟาตื่นตาม “เหี้ย....เบาๆ ดิว้ะ ฮืม........ กี่โมงแล้วว้ะ?” มึงจะถามกันทุกคนเลยใช่ม้ะ “สิบเอ็ดโมงสี่สิบหก” คราวนี้ไอ้พีทมันช่วยผมตอบพร้อมกับกดเปิดทีวี มันว่ามันจะดูโคนัน อ่ะตามใจมึงแต่เบาๆ นะกูจะนอนต่อ

     

    “11:46 เชี่ยแม่ง ตายๆ กูตายๆ” อาการไอเอเท่ากับไอ้โบ้ทเลยฮะ ตอนนี้เลยมีคนวิ่งวุ่นอยู่ในห้องผมเพิ่มไปอีกคน “ไอ้โบ้ทเปิดประตูหน่อย กูอาบด้วย” ด้วยความที่ไอ้โบ้ทมันตื่นก่อนไอ้เอ 1 นาทีมันเลยชิงเข้าห้องน้ำไปก่อน “ไเชี่ยรอก่อนดิว้ะ” เสียงไอ้โบ้ทโวยวายมาจากในห้องน้ำ “เร็วๆ อายเชี่ยไร ของมึงก็เท่าเดิมตั้งแต่ป.2 แหละ (ผมไอ้โบ้ทไอ้เออาบน้ำด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ ฮะไม่ต้องแปลกใจ)

     

    ไม่รู้มันไปทะเลาะอะไรกันต่อในห้องน้ำ ณ จุดนี้ไม่ไหวแล้วฮะ ไอ้เอมันลุกไปแล้ว เย้..... โซฟายาวเป็นของกรู...........

     

     

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 

     

     

    “หิวข้าว.............” ผมงัวเงีย(อีกครั้ง เปาแกจะนอนถึงวันจันทร์เลยป่ะ) ลืมตาขึ้นแล้วมองไปรอบๆ ห้อง เออค่อยยังชั่ว ห้องผมกลับมาในสภาพปกติแล้ว เศษขยะ ผ้าห่ม หมอน จาน และสวะต่างหายไปแล้ว เวลามีแมทถล่มบ้านถ้ามีไอ้เจมาด้วยไม่ต้องห่วงครับ มันว่าเพราะวินัยญี่ปุ่นที่พ่อมันสอนเลยอดไม่ได้ต้องช่วยเก็บ

     

    “หิวหว่ะเปา” พวกมันยังไม่กลับกันอีกเหรอว้ะ ไอ้พีทเดินห่มผ้าออกมาจากห้องผม (ตอนแรกผมนึกว่าผมคุยกับตัวเองในซะอีก) แล้วทำไมมันไม่กลับบ้านไปว้ะ บ้านมึงก็อยู่แค่นี้เอง “เออ หิวหว่ะ” ผมยันตัวลุกขึ้นนั่งในขณะเดียวกับที่มันทรุดตัวลงนั่ง

     

    “กินข้าวกัน” พีทมันเอ่ยปากชวนฮะแต่จะให้ออกไปสภาพนี้ สาวๆ ในซ.เซนหลุยส์คงใจสลาย เพราะไอ้สุดหล่อประจำซอยเยิ่นอย่างกับไปโดนหมาฟัดมา “มึงอาบน้ำก่อนดิ ทุเรศอย่างงี้กูไม่กล้าเดินด้วย” ไอ้พีทอมยิ้มพร้อมกับลุกขึ้น “น่ารักหว่ะ” อะไรของมันว้ะอยู่ดีๆ มาชม แต่กูรู้อยู่แล้วว่ากูเนี่ยน่ารัก(จริงไหม๊ฮะ)

     

    “อะไรว้ะ!!!!???” แต่ขอรู้เหตุผลหน่อยแล้วกันนะ “ไม่มีไร เวลาเปางัวเงียน่ารักดี” เชี่ยมึงเล่นไรเนี่ย เห็นกูเอ๋อๆแต่กูเขินเป็นนะเว้ย “เออๆ กูรู้ ผ้าขนหนูอยู่ในตู้เสื้อผ้า ลิ้นชักล่าง” ผมเสตาหันไปทางทีวีแต่สมองตอนนั้นไม่รับรู้แล้วฮะว่าเป็นรายการอะไร

     

    แปะ เฮ้ย!! กูผิดไรเนี่ย ตบเหม่งกูไม!? “หลงตัวเองเหี้ยๆ” พีทมันส่งยิ้มมากว้างมาให้ก่อนที่จะ!! ไอ้ลิง  เห้ย!! ตีนๆ มึงจะไปแบบคนปกติไม่ได้รึไงว้ะ มันเหยียบบนโซฟาแล้วกระโดดข้ามตัวผมและพนักพิงไป โชคดีมันมีทักษะทางกีฬาเพราะถ้ามันพลาด ตีนซ้ายมันลงกลางอกผมแน่ๆ

     

    “ไอ้เปา.........” (=__=!!) อ้าวเผลอหลับไปตอนไหนฟ้ะ จำได้ว่าดูสิงโตไล่กินม้าลายอยู่ “มึงป่วยเป็นโรคอะไรป่าวว้ะ นอนอยู่ได้” เชี่ยนี่แช่งกูอีก ไอ้พีทบ้านมึงไม่มีสิ่งประดิษฐ์ที่มีชื่อว่า ผ้าขนหนู รึไงว้ะ เพราะตอนนี้มันยืนใส่กางเกงนักเรียนถอดเสื้อตัวเปียกสภาพเหมือนเพิ่งขึ้นมาจากน้ำตก

     

    “ผ้าขนหนูไม่มีเหรอว้ะ?”

                “ม่ายยยๆๆ มี หนาวๆ” เออก็สมควรจะหนาวหรอกเพื่อน ผมเข้าไปดูที่ห้องแต่งตัวเออ ไม่มีจริงๆ แฮะลืมไปว่าไอ้โบ้ทกับไอ้เอมันอาบน้ำไปเมื่อเช้า สละให้ก็ได้ว้ะเดี๋ยวจะหนาวตายไปซะก่อน ผมดึงผ้าขนหนูสีน้ำเงินกรมจากที่แขวนแล้วส่งให้มัน

     

                พีทมันรีบเช็ดตัวพร้อมสะบัดขน “เสื้อๆ ขอเสื้อด้วย” แหนะได้คืบจะเอาศอก แต่จะให้มันใส่เสื้อนักเรียนอายุการใช้งานมาแล้ว 2 วันผมก็คงจะใจร้ายเกินไป

     

                มึงเลือกเองแล้วกันนะ เรื่องไซส์ไม่น่ามีปัญหา

     

     

                >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

     

     

    ซ.เซนหลุยส์ตอนเย็นๆ มักจะคึกคักฮะ ครอบครัวคนแถวนี้ออกมาหาของกินกันให้ลึม (คล้ายๆ ซ.สุขุมวิท 38) ร้อนๆ อย่างงี้มันน่าถอดเสื้อเดินจริงๆ ผมเป็นคนโคดจะขี้รำคาญ เวลาเหนียวๆ ตัวเนี่ยไม่อยากจะทำอะไรเลย ยิ่งตอนนี้น้ำก็ไม่ได้อาบ (แต่ล้างหน้า แปรงฟันนะฮะ เดี๋ยวจะหาว่าผมซกมกเกิน)

     

    ไม่เหมือนคุณชายข้างๆ ฮะ ได้อาบน้ำตัวหอมใส่เสื้อยืดของผมกับกางเกงนักเรียนของมัน ส่วนรองเท้าแตะก็ของผม มันไม่ยอมรอให้ผมอาบน้ำ โวยว่าขี้เกียจรอ

     

                “บ้านมึงอยู่ไหนว้ะ?” ผมถามขณะที่เรา 2 คนกำลังนั่งสองแถวสีแดงเข้าสาทร ซ. 11 “เลยๆ โรงเรียนเข้าไปอ่ะ” สงสัยมันกลัวผมไปถล่มบ้านมันมั้งฮะ เล่นตอบแบบเลี่ยงๆ ไม่บอกพิกัด เออกูไม่ไปหรอก อยากไปตายห่าเลย....

     

                จะว่าไปผมเองก็หิวไม่แพ้กับมัน อืมๆ กินไรดี...... “แดกไรดีว้ะ!?” ผมชวนมันคุยเพราะหน้าพีทมันดูตื่นๆ ยังไงชอบกล “อะไรก็ได้” มันตอบผมมางี้ฮะอะไรว้ะแถวบ้านมึงแท้ช่วยมีไอเดียนิดนึงครับคุณ อย่าเอาแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ยิกๆ เชี่ยไม่สนใจกูเลย

     

                “กินก๊วยเตี๋ยวม่ะ?” มันถามผมโดยไม่ละสายตาจากโทรศัทพ์ในมือ อิจฉาคนตาดีฮะ รถสองแถวเขย่าจนเกือบจะเหมือนนั่งอยู่บนเครื่องเล่นที่ดรีมเวิลด์มันยังเสือกเช็คเฟสอยู่ได้ “หยูง้วน หรือ เล่าซา??” ผมถามมันขณะที่รถกำลังผ่านหน้าหยูง้วน(ร้านก๊วยเตี๋ยวชื่อดังซ.เซ็นหลุยส์ฮะ ลูกชิ้นปลางี้ โววๆๆ)

     

                “หยูง้วนแล้วกัน” เชี่ยกว่าแม่งจะตอบรถเลยไปถึงไหนแล้วสาด ผมรีบลุกขึ้นกดอ่อด ดีนะฮะวันนี้คนไม่แน่น ส่วนพีทมันวิ่งหน้าตื่นๆ ตามลงมาหลังจากที่ผมจ่ายค่าเสียหายไปเรียบร้อย

     

                “เห้ยทางนี้” ผมร้องเรียกมันขณะที่มันกำลังเดินเลยร้านไป มันชักยังๆแล้วฮะ เป็นคนแถวนี้แต่ไม่รู้จักหยูง้วน แต่ขี้เกียจถามเอาเป็นว่ากินก่อนแล้วกันไม่ไหวละ

     

                ระหว่างที่ผมกำลังจัดการเส้นใหญ่โฟพิเศษลูกชิ้นปลาอย่างเดียวอยู่ ไอ้พีทเองมันก็กำลังกินก๊วยเตี๋ยวแบบเดียวกับผมเป๊ะเพียงแต่ว่าของมันไม่ใส่ผัก วันนี้มันกินช้าเพราะว่าแม่งมัวแต่วุ่นวายอยู่กับโทรศัทพ์ มึงจะไลน์ใครนักหนาว้ะ สงสัยกำลังจีบสาวคนใหม่ แต่หน้ามันดูเหมือนไม่ได้จีบใครเลยฮะ เคร่งเครียดสาดๆ

     

                “มึงจะคุยอะไรนักหนาว้ะ รีบแดกดิอืดหมดแล้ว” พอได้ยินผมพูดงั้นมันเลยยิ้มแหยๆ แล้วซู้ดเส้นเข้าปาก อากาศร้อนอย่างงี้อยากกินขนมหวานขึ้นมาเลยฮะ ไม่ได้กินซะนาน ผมจำได้ว่ามีร้านนึงฮะนั่งรถต่อไปไม่ไกล ชื่อ เซงซิมอี๊ อะไรซักอย่าง ป๊าเคยซื้อเข้ามาให้กินตอนดึกสมัยเฮียปูนยังอยู่ แต่ผมไม่มั่นใจนี้มันเพิ่งจะ 4 โมงกว่าๆ ไม่รู้ร้านเปิดยัง

     

                “ไอ้พีท เซงซิมอี้ เปิดกี่โมงว้ะ” เชี่ยพีทกูถามมึงว่าร้านขายขนมหวานแถวบ้านมึงเปิดรึยังไม่ได้ถามว่ามึงไปฆ่าใครมา ต้องทำหน้าอึ้งขนาดนั้นเลย “เอ่อ เปิดแล้วๆ ร้านข้าวเปิดทั้งวันแหละ” ไม่ใช่แระพีท มึงมั่ว เป็นไปได้ไงว้ะอยู่แถวนี้เสือกไม่รู้จัก

     

                ด้วยความสงสัยบวกกับพิรุธมันเยอะเหลือเกิน ลองเชิงมันหน่อยแล้วกัน “ตอนม. 3 มึงดัดฟันนี่หว่า ดัดแถวนี้ป่าวว้ะ กูก็ดัดแถวนี้ มึงดัดไหน Smiley ป่ะ??" พีทมันยังไม่ละสายตาจากมือถือมันฮะแต่มันตอบผมมาว่า “อือ” เสร็จกูพ่อหนุ่ม

     

                “มึงนัดวันไหนอ่ะ ของกูเสาร์เช้าตอนนั้นกูมีเรียนเลขเสาร์บ่าย” มันทำท่าคิดนิดหน่อยก่อนที่จะมั่วต่อ “อาทิตย์เช้า” ตอบเสร็จมันก็ก้มลงดูดเส้นใหญ่เข้าปากต่อ ธรรมดาของคนโกหกฮะไม่สบตา เหรอว้ะ ผมทำเสียงเนียนๆ แต่หมอดัดฟันเค้าเข้าแต่วันเสร์นะครับ มึงไปดัดกับใครว้ะ!?”

     

                ไอ้ตัวดีมันเสตาไปทางอื่นครับ แน่หล่ะ ไปต่อไม่ได้แล้วหนิ ส่วนผมไม่พูดอะไรครับ ให้มันเป็นฝ่ายพูดดีกว่า แค่นี้ผมก็ทำมันเสียฟอร์มไปเยอะแล้ว

     

                เรา 2 คนกินก๊วยเตี๊ยวกันไปเงียบๆ ครับ แล้วก็เงียบต่อไปจนเส้นหมด “40” ผมบอกราคามันห้วนๆ พีทมันหยิบตังค์แล้วส่งมาให้ “วันนั้นกูแค่อยากอยู่กับมึง” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแค่รับเงินมันมาแล้วไปจ่าย

     

                “แล้วบ้านมึงอยู่ไหนแน่?” ผมถามไอ้หน้าจ๋อยที่ยืนรอรถอยู่ข้างๆ “เพลินจิต” แต่ให้ตายครับพอนึกถึงคำที่มันพูด “วันนั้นกูแค่อยากอยู่กับมึง” อยู่ๆ มันก็อยากยิ้มซะงั้น “เอ่อ งั้นเดี๋ยวกูไปส่งมึงที่ BTS” เชี่ยเปามึงยิ้มทำเชี่ยไรเนี่ย ไอ้พีทมันคงสังเกตได้ฮะว่าหน้าผมแปลกๆ คงเพราะผมพยายามฝืนยิ้มจนปากเบี้ยว

     

                ที่สถานีช่องนนทรีฮะ หลังจากที่ไม่ได้กิน “เซงซิมอี๊”  Chocolate Sunday ของแมคโดนัลด์ก็พอแทนได้ ผมกับมันมายืนโซ้ยไอศครีมกันต่อที่ Skywalk ฮะ เพราะพีทมันต้องจัดการสตอเบอรรี่ซันเดย์ก่อนขึ้นชานชลา (แดกไม่เข้ากับหน้าเลยฮะ 555)

     

                “เย็นหมอง(สมอง) หว่ะ อิ่มและ อ่ะ” มันยื่นถ้วยของมันมา อะไรว้ะเพิ่งจะพร่องไปได้นิดเดียว กูจัดการต่อเอง ผมรับถ้วยมันมากินต่อทันทีเรื่องของเหลือนี่ไม่ต้องบอกฮะ ฮิๆ

     

                “กูไปละ” ไอ้พีทเอ่ยขึ้นตอนที่ผมตักสตอเบอรรี่ลูกสุดท้ายเข้าปากพร้อมกับซอฟครีม “อืมๆ เจอกันวันจันทร์” พีทพยักหน้าให้ผมแบบเก้อๆ ผมเองก็ทำสิ่งเดียวกับมัน

     

    “ข้าวมันไก่เมื่อคืน ร้านไหนว้ะ? อร่อยดี” ที่ผมถามไปเพราะไม่อยากให้มันคิดมากเรื่องที่ผมจับได้ว่ามันโกหกเพื่อมานอนบ้านผม “ประตูน้ำ” พีทมันตอบพร้อมยิ้มเขินๆ กลับมา

     

    “วันนั้นมึงทำหน้าหง๋อยขนาดนั้น ยังไงกูก็ไม่ปล่อยมึงกลับบ้านไปคนเดียวหรอก” เชี่ย..... อยู่ดีๆ คำเหล่านั้นมันก็หลุดออกมาจากปาก ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวเลยฮะว่าพูดอะไรออกไปบ้าง แต่พอพูดจบผมก็เดินหันหลังกลับมาเลย

     

    ระหว่างทางตอนเดินกลับบ้าน ใครส่งไลน์มากวนกรูตอนนี้ว้ะ

     

    PeatOfLeon : ...

    PeatOfLeon : http://www.youtube.com/watch?v=BFzmGEi883c

    PeatOfLeon : ;)

     

    เช้าแล้วมองดูนาฬิกาปลุก
    เที่ยงแล้วฉันก็ยังไม่ยอมลุก
    นั่งรอเวลาจนถึงวันศุกร์
    ที่นัดเจอเธอเอาไว้เมื่อวันพุธ

     

    ไม่เข้าใจ ไม่รู้เลยด้วยเหตุผลอย่างไร
    เวลาผ่านไปช้า ไม่นึกเลย
    เมื่อฉันได้อยู่กับเธอ อยู่กับเธอ

     

    * เพราะอะไร พบกับเธอแล้ว มันช่างเร็ว
    จนเกือบลืมหายใจ เวลามันดูช่างน้อยเกินไปแล้ว
    เพราะอะไร แค่ได้มองหน้าได้พบสบตา
    พาให้ฉันนั้นลอย จะใช้เวลาทีน้อยให้ไปกับเธอ

     

    พรุ่งนี้พบเธอคงได้ชื่นใจ
    ได้มีความสุขมากกว่าวันไหน

     

    ไม่เข้าใจ ไม่รู้เลยด้วยเหตุผลอย่างไร
    เวลาผ่านไปช้า ไม่นึกเลย
    เมื่อฉันได้อยู่กับเธอ อยู่กับเธอ

     

    เพราะอะไร พบกับเธอแล้ว มันช่างเร็ว
    จนเกือบลืมหายใจ เวลามันดูช่างน้อยเกินไปแล้ว
    เพราะอะไร แค่ได้มองหน้าได้พบสบตา
    พาให้ฉันนั้นลอย จะใช้เวลาทีน้อยให้ไปกับเธอ

     

    เพราะอะไร พบกับเธอแล้ว มันช่างเร็ว
    จนเกือบลืมหายใจ เวลามันดูช่างน้อยเกินไปแล้ว
    เพราะอะไร แค่ได้มองหน้าได้พบสบตา
    พาให้ฉันนั้นลอย จะใช้เวลาทีน้อยให้ไปกับเธอ

     

    Cr. Plastic plastic : Single วันศุกร์

     

     

     

     

    TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×