คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : EP 03 : There and back again
EP 03 : There and back again.
ทำไมแค่จะเรียก Taxi จากสยามไปสาทรมันถึงได้ยากจังคร้าบบ... ผมไม่ได้เรียกไปพระปฐมเจดีย์นะเฟ้ย หลังจากวื่ดไป 5 – 6 คัน โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ไอ้โบ้ทโทรมา ด่ามันเล่นแก้เซ็งดีกว่า
“ครับ ฟวย จะเอาเชี่ยอะไรอีก” ทันทีที่ผมกดรับ ต้องรีบชิงด่ามันก่อนไม่งั้นมันจะพูดแต่เรื่องตัวเอง แล้ววางไปเลยอันนี้เป็นสันดารเอกลักษณ์ ของไอ้นนน
“หายงอนได้แล้ว พ่อหนุ่ม ตอนจบเป็นไง” เรื่องไรกูจะบอกมึง
“มึงอยากรู้ก็ดูเอาเองดิว้ะ” ผมกวนตีนมันกลับไป “เห้ยเอาดีๆ เร็วๆ ดิ เล่าให้ฟังหน่อย” ได้ผลครับน้ำเสียงมันดูร้อนรนเหลือเกิน ฮาๆๆ ได้ใจผมเลย นานๆ จะได้ทีเอาคืน งั้นกูขอคิดดอกรวมกับเรื่องชั่วอื่นๆ ของมึงเลยแล้วกันนะเพื่อน “ไม่รู้หว่ะ มันพูดกันเป็นภาษาอังกฤษ” ไอ้โบ้ทเงียบไปแป็บนึง “เออเชี่ย ไม่เล่าก็ไม่ต้องเล่า สัด แล้วมึงอยู่ไหน”
“กูกำลังจะกลับบ้าน แต่รถแม่งเรียกยากฉิบหาย!!!!” ขอบ่นอีกหน่อยเถอะครับ เคืองแท้กซี่ “มึงมานั่งเล่นกับกูก่อน มาไหว้แฟนกูด้วย”
ทำไมผมต้องเชื่อมันด้วยว้ะเนี่ย แต่ก็ดีกว่ากลับบ้านไปนั่งเซ็งคนเดียว อีกอย่างแฟนไอ้โบ้ทต้องมีเพื่อนชัว แฮะๆๆ ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้เหล่สาวเลยครับ สาวไทยน่ารักที่สุดในโลกแล้ว!!!!
รู้ตัวอีกทีผมก็มาโผล่อยู่ที่ Greyhound’s café’ ใน Siam center พอเดินเข้าในร้านยังไม่ทันได้มองหา ไอ้โบ้ทมันลุกขึ้นโบกไม้โบกมือที่สำคัญแม่งทำหน้าทำตาโครตตอแหลส่วนที่นั่งอยู่ข้างมันคือเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก ดูเรียบร้อยสุดๆ ซึ่งไม่เหมาะกับแม่งเลยให้ตาย
ผมเข้าไปแจม กำลังจะหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “มึงนั่งนี่ ตรงนั้นมีเจ้าของ” สงสัยเป็นเพื่อนๆ ของแฟนมันแน่ๆ เย้!!!! กว่ามันจะจัดแจงเจ้ากี้เจ้าการทำตัวเป็นสุภาพบุรุษหาเก้าอี้มาให้ผม สุดท้ายไม่ได้ครับ ผมเลยต้องนั่งบนโซฟายาวข้างๆ มัน
“นี่เพื่อนโบ้ทชื่อเปาครับ” มันแนะนำผมกับเด็กหญิงที่นั่งข้างๆ มัน ไอ้หมาโบ้ทพูดคำว่า “ครับ!!?” ผมได้ยินแล้วแทบจะหลุดหัวเราะแล้วอ้วกออกมาพร้อมๆ กัน “นี่กิ้ฟท์แฟนกู” เออกูรู้แล้วแหละไม่ต้องย้ำแล้วมึงช่วยเลิกทำหน้าภูมิใจได้แล้ว กูทราบแล้วครับว่าแฟนมึง น่ารัก
“โบ้ทโม้เรื่องเปาให้ฟังเยอะเลย ดีใจจังได้เจอสักที” *ยิ้มตาหยี*
“ครับ แฮะๆ เรื่องดีใช่ไหมครับ? ที่มันโม้ให้ฟัง” ผมพูดพลางมองไปทางมัน จริงๆ มันอาจจะไม่ได้ทำหน้าตอแหลอยู่ก็ได้ครับ ผมคิดว่ามันกำลังมีความสุขมากๆ ต่างหาก เพราะว่ากิ้ฟท์ดูเป็นคนดีทีเดียว ดีใจด้วยเพื่อน
ในระหว่างที่เรากำลังคุยอยู่ ในที่สุดเพื่อนกิ้ฟท์ก็มา แต่โมโหอะไรมา เดินหน้าบูดมาถึงโต๊ะไม่พูดพร่ำทำเพลงลากเก้าอี้ลงนั่งอย่างไม่สบอารมณ์
“เป็นไรอีกอ่ะ แก” กิ้ฟท์ถามขึ้น พร้อมกับแนะนำผม “นี่เปา เพื่อนโบ้ท แพรเพื่อนกิ้ฟท์ที่โรงเรียน” ผมยิ้มทักแบบเจื่อนๆ เพราะเจ้าตัวดูอารมณ์ไม่จอย ส่วนแพรเองก็แค่นยิ้มมาให้ผม ผู้หญิงน่ะครับ ต่อให้น่ารักแค่ไหนเวลาโกรธเป็นน่ากลัวทุกราย
“ก็พีทอ่ะดิ โทรหาก็ไม่รับ ปล่อยเราอยู่คนเดียวตั้งนาน” แพรระเบิดสิ่งที่ทำให้เธออารมณ์ออกมา “นัดกันเหรอครับ แพร?” ไอ้โบ้ทถามกลับไป ก่อนที่เจ้าตัวหันมาทางพวกพร้อมกับสายตาอำมหิตเล่นเอาผมกับไอ้โบ้ทสะดุ้งนั่งหลังตรงเหมือนตอนมิสทวงการบ้าน “ก็ไม่ได้นัดหรอก แต่โทรหาก็ต้องรับโทรศัพท์ป่ะ” ผมนั่งฟังเรื่องแบบจับความไม่ค่อยทัน ว่าแต่ทำไมวันนี้คนชื่อพีท มันมีเยอะจังว้ะ
แต่แพรเพื่อนกิ้ฟท์มี แฟน แล้ว แห้วตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยเปา
“ใจเย็นๆ คบกันมาตั้งนาน เรื่องแค่นี้เอง อ่ะสั่งอาหารก่อน” กิ้ฟท์ยื่นเมนูให้ แพรรับไว้แล้วเริ่มเปิดอ่าน
“พี่ค่ะ เอาปีกไก่ทอดเกลือ แซลม่อนราดพริก ข้าวโพดหอมเนื้อปู แล้วก็คาโบนาร่าค่ะ” กิ้ฟท์ร่ายยาวเหมือนท่องเมนูมาแล้ว โห้....นี่กินคนเดียวเหรอครับกิ้ฟท์
“โบ้ทคาโบนาร่าเหมือนเดิมเนอะ” ผมที่นั่งอยู่ข้างไอ้โบ้ท พูดได้คำเดียวครับว่าอิจฉา ไอ้โบ้ทมึงหุบยิ้มได้แระ สาดดด
กิ้ฟท์โน้มตัวเข้าหาโต๊ะเพื่อที่จะคุยกับผม “เปากินไรคะ โบ้ทกินเหมือนเดิมตลอดแหละ แล้วก็กินแต่อะไรอ้วนๆ” ผมหัวเราะตามความน่ารักของกิ้ฟท์ ส่วนไอ้หมาโบ้ท นี่ถ้าเป็นพวกผมว่ามันอ้วนนะ ตอนนี้มันไม่ยิ้มเขินขนาดนี้หรอกครับ แม่งกัดตอบแล้ว
แพรยังไม่สั่ง สุภาพบุรุษอย่างผมจะสั่งก่อนผู้หญิงได้ไง “แพร สั่งอะไรดีครับ” เธอหันมายิ้มให้ผมเล็กๆ สงสัยอารมณ์ดีขึ้นแล้ว “สลัดหอยเชลล์ค่ะ” ฮ้า.... ถึงคิวผมซักที “เอา ลอดช่องครับ” หักมุมใช่ไหมครับ ก็ตะกี้เพิ่งจะซัดข้าวกระเพราเนื้อไข่ดาวมาซะเต็มท้อง
ทั้งโต๊ะหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว “เอ่อ ผมกินข้าวมาแล้วครับ” แทนที่จะจบแค่นั้น “กินกับใครว้ะ อย่างมึงเนี่ยนะกินข้าวคนเดียว” ไอ้เชี่ยโบ้ทมึงจะอยากรู้อยากเห็นอะไรนักหนา แล้วทุกคนก็ดูจะสนใจคำตอบผมซะด้วยสิ ไม่ต้องก็ได้ค้าบ... ผมไม่ใช่คนสำคัญ
“ครับ กูกินข้าวคนเดียวได้ครับ โบ้ท” ผมหันไปพยายามตีเนียนตลกๆ ให้มันผ่านๆ ไปก่อน ขี้เกียจเล่า แต่ชีวิตผมมันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกครับ “ช่าย.....เดี๋ยวนี้ผู้ชายเค้าชอบกินข้าวคนเดียว” แป่ว!!! แพรทิ้งระเบิดใส่ผมอีกลูก แล้วระเบิดลูกใหญ่กว่าก็มาถึง
สายตาผมเหลือบไปเห็นพีท! พร้อมกับถุงช้อปปิ้งนับสิบ พีทครับ ไอ้พีทที่เพิ่งช่วยผม คนที่เพิ่งไปดูหนัง กินข้าวด้วยกัน โลกมันกลมไปป่าวว้ะ ผมนั่งอ้าปากค้างแบบแมลงวันบินเข้าไปวางไข่ได้
เพี้ยงๆๆ!!! ขอให้หน้ามันโหล หรือถ้าใช่มันจริงๆ ก็ขอให้มันไปนั่งโต๊ะอื่น เพราะอะไรเหรอครับ ถ้ามันมานั่งโต๊ะนี้แสดงว่ามันเป็นแฟนแพร แล้วผมก็จะกลายเป็นไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำให้เค้าทะเลาะกัน
เสียงขาเก้าอี้ครูดกับพื้นไม้สีดำวาวดังขึ้น ชัดแล้วครับ โอย!!! กูอยากกัดลิ้นตาย ไม่ใช่มัน ต้องไม่ใช่มัน
“แพรครับ เราไม่ได้ซื้อรองเท้ามานะ ไว้ไปลองด้วยกันดีกว่า” พีทพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งและดูใจเย็นต่างจากคนที่นั่งข้างๆ “อือ ไม่เป็นไร” แพรตอบกลับอย่างส่งๆ เพราะตอนนี้เธอกำลังวุ่นวายอยู่กับ IPhone5 สีขาว
“อ่ะพีท สั่งเร็ว” กิ้ฟท์ยื่นเมนูที่แอบเก็บไว้ ไอ้นั่นรับไว้แล้วยิ้มๆ “โทษทีครับกิ้ฟท์ เรากินมาแล้ว” แต่คำว่า “พีท” ที่กิ้ฟท์พูดออกช่วยย้ำให้ผมรับความจริง ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือไอ้พีทเมื่อ 2 ชั่วโมงก่อน
“อ้าวเหรอ!?” กิ้ฟท์ทำหน้าจ๋อยๆ “ก็บอกแล้วไงเดี๋ยวนี้ผู้ชายเค้าชอบกินข้าวคนเดียว” แพรพูดขึ้นมาลอยๆ ผมได้ยินปุ้บซีดเลยครับ ทำไมแท้กซี่มันไม่รับๆ กูกลับบ้านไปว้ะ แต่พีทยังคงนิ่งสงบทุกการเคลื่อนไหวครับ ไม่มีพิรุธหลุดออกมาจากมันเลย
“งั้นกินหนมแล้วกันเนอะ เปาก็กินข้าวมาแล้ว” กิ้ฟท์ยังคงทำใจดีสู้แพรที่ยังคงงอนแก้มป่อง
“เออ ลืมเลย นี่ไอ้เปามึงจำมันได้ป่าว ตอนม.3 มันอยู่ห้องเดียวกับกู แล้วก็ไปแลกเปลี่ยน ตอนนี้รัฐบาลเมกาฯ ไล่แม่งกลับมา ก็เลยอยู่ห้องเดียวกับกูอีก” ไอ้เชี่ยโบ้ทแนะนำผมซะละเอียด มึงจะเอาทะเบียนบ้านกูด้วยไหม๊สาดด
“เออ จำได้ดิ” พีทตอบพร้อมหันมายิ้มกับผมที่ยังคงทำหน้าไม่ถูก “หวัดดี”
จำได้ดิ มึงจำกูได้ไงว้ะ กูไม่เห็นจะจำมึงได้ นี่เด็ก(.....ชื่อ รร.....) เหรอว้ะ ไปต่อยังไงล่ะกรู แม่งจำผมได้ก็ไม่เสือกบอก ผมงี้รู้สึกหน้าแตกแบบละเอียดเท่ากระจกโดนรถบดวิ่งทับ คือจำเพื่อนโรงเรียนเดียวกันไม่ได้แล้วเสือกไปบอกเค้าว่าเรียนโรงเรียนอื่นอีก โอ้ยๆๆ
“แล้วเปาไปกินอะไรมาคะ?” เสียงหวานของกิ้ฟท์ดังขึ้น แต่มันดันเป็นคำถามสุดท้ายในโลกที่ผมอยากจะได้ยิน เอาว้ะต้องรีบตอบเพื่อไม่ให้มีพิรุธ “ก๊วยเตี๊ยวกระเพราเนื้อสับ เอ้ย ก๊วยเตี๋ยวเนื้อครับ” เชี่ยเอ้ย เจื่อนเลยครับ “ตกลงมึงกินไรแน่?” นั่นไงต่อมเสือกไอ้เชี่ยโบ้ททำงานทันที มันจ้องเขม็งมาที่ผมแล้วกวาดสายตาสแกน
แต่โชคเข้าข้างผมครับ อาหารมาพอดี รอดไปๆ
ระหว่างที่ทั้ง 3คนกำลังจ้วงอาหาร ไอ้โบ้ทมีป้อนกิ้ฟท์ด้วยครับ ผมพึ่งจะรู้ว่ามันทำตัวเป็นคนก็เป็น ส่วนผมกับพีทก็นั่งดูดลอดช่องสิงคโปร์ไปตามประสาคนกินข้าวแล้ว
พอกินกันเสร็จสาวๆ กินสั่งเค้กมากินกันครับ (ไมกินเก่งกันจัง (*o*!)) แต่ที่ผมสังเกตได้คือ พีท กับ แพร ยังไม่ได้พูดกันสักคำ
หลังจากเค้กที่ 2 สาวสั่งมาลงไปอยู่ในท้องของผมทั้ง 3 คนเพราะความเสียดายก็เล่นกินกันแค่ชิ้นละคำ (ถึงว่าไม่อ้วน) กิ้ฟท์ก็ชวนแพรไปเดินเล่น โดยให้เหตุผลว่า อยากให้พวกผมได้คุยกัน กิ้ฟท์ครับ ผมไม่อยากคุยผมอยากกลับบ้าน
ไอ้โบ้ทเริ่มทำหน้ากวนตีนปนสงสัย ผมงี้ได้แต่มองหน้ามันแบบเจียมเนื้อเจียมตัว ตามประสาวัวสันหลังหว่ะ “เมื่อเช้ามึงใส่เสื้อตัวนี้เหรอว้ะ?” มันยังคงไม่เลิกทำหน้าเสือก “ก็กูอยากใส่ตัวนี้” ผมตอบไปแบบปัดๆ “แล้วเสื้อตัวเก่ามึงไปไหน?” มึงจะคาดคั้นอะไรนักหนาว้ะ “ทิ้ง มันเก่า” คำตอบผมโง่ใช่ไหมครับ แต่ตอนนั้นมันคิดได้เท่านี้จริงๆ “โห...คุณชาย มึงทิ้ง Super dry?”
นี่มึงไปเข้าค่าย FBI มาเหรอว้ะ จำได้แม้กะทั่งยี่ห้อเสื้อกู “ขอ...ของปลอม” โง่อีกละ แต่เอาว้ะยอมเสียหน้าดีกว่าโดนมันจับได้ ผมอ้าปากค้างพยายามหาตัวช่วย แต่ไอ้พีทที่นั่งฝั่งตรงข้ามแม่งเก็บอาการเก่งสาดดๆ เพราะมันก็เสือกทำหน้าสอดรู้สอดเห็นตามไอ้โบ้ทไปด้วย
“แล้วมึงไปไหนมา?” ผมรอดตัวแล้วครับ ตามึงและพีท หึหึๆ “กูไม่ได้ไปไหน โทรศัพท์กูไม่มีสัญญาณ”
แต่มันเป็นเป้าได้ไม่นานครับ (แม่งสับขาหลอก) พีทหันมาทางผม สายตามันดูเอาเรื่องหน่อยๆ “เปาอยู่ห้องเดียวกับโบ้ทเหรอ เราอยู่ห้อง 3” นี่มึงกำลังจะย้ำใช่ป่ะ เรื่องที่กูจำมึงไม่ได้ หื้อ ผมได้แต่ยิ้มแหย๋ๆ กลับไป โหเชี่ยพีท มึงปล่อยมิสไซน์ล่อเป้ากลับมาทางกูเฉย
ไอ้โบ้ทกำลังจะอ้าปากหมาของมันแต่โชคก็ช่วยผมอีกครั้ง กิ้ฟท์โทรมาครับ มันรีบรับแล้วชี้หน้าผมแบบ ฝากไว้ก่อน
“ครับกิ้ฟท์ อยู่ไหนนะ ได้ๆ เดี๋ยวโบ้ทไป” พอวางสายมันก็หันมายิ้มเผล่กับพวกผม “พวกมึงสาวๆ อยากถ่ายรูปหว่ะ” แต่นิสัยอย่างไอ้โบ้ท มันไม่รอคำตอบครับ “พี่ครับ เชคบิลครับ” (ไอ้นาซี ไอ้ฮิทเลอร์ ไอ้ๆ)
เนื่องจากช่วงมื้อเย็นคนเลยเยอะพอสมควร พี่ชายบริกรหายไปนานพอสมควร ไอ้เชี่ยโบ้ทยอดชายร้อนรนทนไม่ไหวครับ มันเลยจะพุ่งไปหาสาวๆ ก่อน ภาระด้านเศรษฐกิจเลยตกมาที่ผมกับพีท “เปามึงออกไปก่อนแล้วค่อยมาหารกู เจอกัน เห้ย!!!! อยากทิ้งกู
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ผมกับพีทเดินขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อที่จะใช้ทางเชื่อมรถไฟฟ้าที่ชั้น 2 ผมคว้าเอาถุงที่พีทมันแบกอยู่ มาช่วยถือ แต่พอเดินด้วยกัน 2 คนมีแต่คนมองพวกผมแปลกๆ ก็จำไม่แปลกได้ไงครับ เด็กผู้ชาย (หน้าตาดี 555) 2 คนเดินถือถุงช้อปปิ้งแบรนด์ของผู้หญิง เป็นผมๆ ก็มอง
“เปาจำเราไม่ได้เหรอว้ะ” เอาแล้วไง เออกูจำมึงไม่ได้ จำไม่ได้เลย อย่าย้ำได้ป่ะ “เออ...ขอโทษ จำไม่ได้จริงๆ หว่ะฮึๆๆ” (ขำเชี่ยไรว้ะ)
“กูขอยืมแผ่น RE5 (Resident Evil : 5 ) ได้ป่าว?” หักมุมอีกแล้วครับ ไอ้นี่มาแปลกอยู่ดีๆ มายืมเกมส์กูเฉย แต่เกมส์ที่มันยืมเก่าจะตายห่าให้ยืมก็ได้ “เออได้” อุตส่าห์ให้ยืมของทำไมไม่ขอบคุณว้ะ ยังมาทำหน้ายิ้มกลุ้มกลิ่ม “อืม เอากล่องมาด้วยนะ” แหนะมีสั่งกูอีก ค้าบผม!! ไอ้ผู้มีพระคุณ
พีทตอนนี้ดูสดใสขึ้นกว่าตอนที่อยู่กับแพร อย่างน้อยมันก็แค่นยิ้มหรือหัวเราะออกมาได้บ้าง ไม่เหมือนตอนอยู่ที่ GreyHound’s หน้ามันเหี่ยวเหมือนถั่วงอกที่ไม่ได้รดน้ำมา 3 วัน
ผมกับไอ้พีทเดินควงกัน (เหมือนควงกันจริงๆ ให้ตาย) มาถึง Gateway ชั้น 2 ก็เจอไอ้โบ้ทยืนทำหน้าแบ้วอยู่กับกิ้ฟท์ส่วนแพรยังคงหน้างออยู่ “เห้ยเร็วๆ!!!! ถึงคิวแล้ว” ไอ้โบ้ทเร่งให้พวกผมเร่งฝีเท้า ผมคว้าถุงมาจากมือไอ้พีท “เราถือให้ นายไปถ่ายกับแฟนเหอะ” มันรั้งไว้นิดหน่อยก่อนที่เสียงเร่งจากไอ้โบ้ทและกิ้ฟท์บังคับให้มันปล่อยมือ
ระหว่างที่คู่รักๆ เค้าถ่ายกัน ผมซึ่งยืนถือของอยู่เต็มมือมันซักเริ่มจะหนักแฮะ วางดีกว่า ผมวางกองของไว้ที่พื้นแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แต่ยังไม่ทันจะเข้าที่
“เปา!!!!” เสียงใสๆ ร้องเรียกผมให้ตามเข้าไป “ไม่เป็นไรครับกิ้ฟท์” ผมรีบบอกปัด รูปออกมาแปลกตาย เค้าเป็นแฟนกัน 2 คู่ แล้วก็มี ผม เกี่ยวไรว้ะ!?
“เร็วๆ !!! เดี๋ยวไม่ทัน” กิ้ฟท์วิ่งออกมาจากตู้แล้วจับมือลากผมเข้าไป คนหัวอ่อนอย่างผมรู้ตัวอีกที ก็มายืนอยู่ในตู้ถ่ายรูป (เค้าเรียกอะไรก็ไม่รู้ครับ) สีชมพูแปร้น
คิกู้จิโกะตันเคะตู้ดตู้ดตู้ด แชะ!!! อารายยว้า..... นี่คือเริ่มถ่ายแล้วใช้ป่ะ ที่ผมรู้คือ ที่ตู้มันแชะๆ ไปสองสามที ยืนยัน 1,000 % 3 รูปแรกผมหน้าเหว๋อแน่นอน
ระหว่างที่รอตู้มันพูดภาษาญี่ปุ่นต่อ กิ้ฟท์ก็บรรเจิดอีกแล้วครับ “อ่ะเดี๋ยวพวกโบ้ทถ่ายกันก่อน พอมันดังตื้ด.....ยาวๆ พวกโบ้ทก็รีบออกมานะ แล้วเดี๋ยวกิ้ฟท์กับแพรจะเข้ามาเปลี่ยน” พูดจบเจ้ากิ้ฟท์ก็คว้าถุงจากมือผม กดปุ่มแล้ววิ่งออกไป “เห้ย!!!!” คือเสียงที่ผม 3 คนร้องออกมาพร้อมกัน ก็แหม!!!! ทิ้งชายฉกรรจ์ 3 นายอยู่ในตู้ถ่ายรูป
ตู้ดๆ แชะ ผม พีท และไอ้โบ้ทยืนนิ่ง ทำหน้าโง่ใส่กัน แต่ตู้ดหลังๆ ก็เริ่มป่วนแล้วครับ พวกผมแข่งกันทำหน้าลิงบ้าง จมูกใหญ่บ้างจนมันชักเริ่มจะเลยเถิ่ด เพราะไอ้โบ้ทถึงขนาดจะถอดเสื้อโชว์พุง และผมก็รู้สึกถึงท่อนแขนอุ่นๆ พาดมาที่คอผม แต่ไม่ใช่แขนไอ้โบ้ท แต่เป็นพีท เห้ย!!! กูหวงตัวนะเว่ย มึงกะกูสนิทกันแค่เลเวล 1
ตู้ด.....!!! นี่มันตู้ดยาวนี่หว่า ไอ้โบ้ทรีบชะโงกหัวออกไปเรียกกิ้ฟท์ แต่แขนที่วางอยู่บนไหล่ผมไม่มีทีท่าจะขยับไปไหน แชะ!!!
หลังจากที่สาวๆ ถ่ายเสร็จ ก็เข้าไปแต่งรูปเขียนนู้นแปะนี่กันซะจนจะไม่เห็นหน้า แล้วก็มาถึงขั้นตอนรอปริ้นท์ (ซักที!!) ไม่นานครับแต่อึดอัดพอสมควร เพราะคู่ไอ้โบ้ทเล่นหวานกันซะออกนอกหน้า แต่คู่ของไอ้พีทกลับยืนกันเงียบๆ ต่างคนต่างมองไปคนละทาง ส่วนเกินอย่างผมยิ่งแล้วใหญ่ไม่รู้จะเอาตาไปไว้ตรงไหน
5555!!! “เปามึงตกใจอ่ะไรว้ะ” ไอ้เชี่ยโบ้ทรี่เข้ามาพร้อมรูปแรกตอนที่ผมโดนกิ้ฟท์ดึงเข้าไปในตู้ เสียคนเลยครับ สภาพผมในรูปเหมือนเด็กม.ต้นมาเที่ยว กับพี่ๆม.ปลาย (เพราะความเตี้ย) บวกกับความหน้าเอ๋อ แล้วยังไม่พอครับ เสือกไปยืนข้างไอ้พีทมันอีก ดรอฟกันไปใหญ่
ส่วนรูปที่เราถ่ายกัน 3 คนตลกดีครับแต่ละรูปทุเรศได้ใจ โดยเฉพาะรูปที่ไอ้โบ้ทมันเลิกเสื้อขึ้นถึงนมเพื่อจะโชว์วันแพค โดยมีไอ้พีทหน้าตื่นกำลังวิ่งยกมือเผื่อบังกล้อง ส่วนผมใช้สองมือดึงชายเสื้อมันลงพร้อมกับปากอ้ากว้างกำลังพูดคำว่า “อ้ากกก!!!”
ไอ้โบ้ทมันกำลังบริการตัดรูปให้สาวๆ (ที่มันโชว์แมนเพราะมากับผู้หญิงครับ ลองถ้าพวกผมมากันเองแม่งไม่ทำหรอก) “อึ้ยส์....!!!!!” อยู่ๆ มันก็ทำเสียงและท่าขนลุกซู่พร้อมกับส่ายหน้า แล้วก็ยื่นรูปมาให้ผม “อ่ะของมึง 2 คน เชี่ยขนลุกหว่ะ” ผมรับมาแล้วมองหน้ามัน ขนลุกเชี่ยไรว้ะ ปวดขี้หรา
แต่พอเอารูปมาดู 70% คือผมถูกไอ้พีทกอดคออยู่ ผมรีบหันไปดูสีหน้าของไอ้ตัวดีแต่มันไม่รู้สึกรู้สาอะไรครับ หันมายิ้มกับผมเฉยๆ “เปาคะอันนี้ของเปากับพีท” กิ้ฟท์หันมาแล้วยกรูปขึ้นโชว์ มันคือรูปสุดท้ายครับตอนที่ตื้ด......ยาวๆ
ในรูปเป็นไอ้พีทยืนทำหน้าหล่อแต่ที่สำคัญแขนของมันโอบรอบคอผมไว้ ส่วนผมหันไปที่ทางออกกำลังอ้าปากพูดคำว่า เห้ย!!! (หน้าเหว๋ออีกแล้วกรู) ส่วนไอ้โบ้ทเห็นแค่หลังมันเบลอ
“เก็บไว้ดีๆ เผื่อใช้เป็นรูปแต่งงาน” ไอ้เชี่ยโบ้ทครับ มันมาสาระแนอยู่ด้านหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมหันไปโบกหัวมันหนึ่งที พร้อมกับขยับปากแบบไม่มีเสียง “แต่ง งาน พ่องงง มึง” กิ้ฟท์หัวเราะลั่นเลยครับ ส่วนผมหันไปทางไอ้ตัวดี มึงจะยิ้มแล้วทำหน้าเขินทำเชี่ยไรว้ะ “ไม่ได้แต่งกับพ่อกู เจ้าบ่าวมึงยืนยิ้มหุบไม่ลงแล้วไอ้ควาย” ไอ้เชี่ยโบ้ทตกลงมึงเป็นคนหรือเต่าว้ะสาดดกัดไม่ปล่อยนะมึง
โอ้ย!!!! 5555 สมน้ำหน้ามันครับ คราวนี้คนที่โบกหัวเหม่งมันไม่ใช่ผมแต่เป็นไอ้พีทไอ้โบ้ทลูบหัวป่อยๆ แล้วทำเสียงอ้อน “กิ้ฟท์...........ดูพวกมันดิ แกล้งโบ้ทตลอด” ตอแหลฉิบหาย แต่ที่ถูกใจผมที่สุดคือ กิ้ฟท์ยกกำปั้นขึ้นทำท่าจะเขกหัว “เอาอีกทีม้ะ!?” 55555 พวกผม 3 คนหัวเราะลั่นเลยครับ ส่วนไอ้โบ้ททำท่างอนๆ แล้วตัดรูปต่อ
ระหว่างที่พวกผมกำลังหัวเราะสะใจไอ้โบ้ท แพรพูดเสียงแข็งขึ้นมา “กลับกันยัง เหนื่อยแล้ว” แล้วใครมันจะไปกล้าหัวเราะต่อล่ะครับ เงียบกริบเลยทีนี้
พีทพยักหน้ารับคำแพร “อือ เดี๋ยวพีทไปส่ง” กิ้ฟท์เหมือนจะรู้ใจเพื่อนสนิทของเธอว่าอยากไปเต็มที “โบ้ทตัดแค่นี้พอแล้วหล่ะ เดี๋ยวกิ้ฟท์ไปตัดที่บ้านแล้วเอาไปให้แพรที่โรงเรียนก็ได้” ไอ้โบ้ทยื้อไว้นิดหน่อย แต่ก็ส่งรูปทั้งหมดให้โดยดี “อย่าใช้คัตเตอร์นะกิ้ฟท์ คราวที่แล้วก็โดนบาด” โบ้ทใช้เสียงกำชับกิ้ฟท์เหมือนพ่อกำลังสั่งอะไรลูกสาว (มันรักของมันจริงหว่ะ)
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
เรา 5 คนเดินออกมาที่ทางเชื่อม กิ้ฟท์พูดขึ้น “โบ้ทกลับเลยก็ได้นะ กิ้ฟท์กลับเองได้” แหม!!! กิ้ฟท์ไอ้โบ้ทมันหวงขนาดนี้มันไม่ปล่อยให้กลับคนเดียวหรอกคร้าบบบ “ไม่เอาอ่ะ จะไปส่ง” กิ้ฟท์ยิ้มรับคำ ผมยกมือขึ้นลาไอ้โบ้ท “เออ เจอกันเดี๋ยวกูโทรหา บายครับกิ้ฟท์” ผมกำลังจะหันไปลาพีทกับแพร อ่าว!!!! แพรหายไปไหนหว่า ผมรีบหันไปทางพีท ที่ตอนนี้บนใบหน้าไม่เหลือรอยยิ้มแล้ว กิ้ฟท์ยิ้มจ๋อยๆ ให้ผม
“เจอกันที่โรงเรียนนะเปา” พีทแค่นยิ้มรับคำผมแล้วเดินตามแพรไป
“ช่วงนี้แพรไม่ค่อยสบายอ่ะ โทษทีนะคะ” กิ้ฟท์จ๋อยไปเลยครับไอ้โบ้ทก็ดูไม่สบายใจไปด้วย “ไม่เป็นไรครับ เจอกันครับกิ้ฟท์” ผมส่งยิ้มกว้างกลับไป
ระหว่างที่รถไฟฟ้ากำลังเคลื่อนตัวออกจากสถานีสยาม ภาพใบหน้าหม่นๆ กับสายตาที่เจือไปด้วยความกังวลของพีทก็แว่บเข้ามาในหัวผม
อยู่ๆ ผมก็รู้สึกเป็นห่วงมันขึ้นมา
.
.
.
.
แต่เห้ย!!!!!! ไปคิดถึงมันทำไม
TBC >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ดวงคนมันจะเจอกัน อะไรก็ห้ามไม่อยู่
แต่ว่า แพร ทำไมใจร้ายกับพีทจังเนอะ
สงสารพีทอ่ะ วันนี้คงเป็นวันซวยของนายจริงๆ เจอทั้งเรื่องวุ่นๆ ของไอ้เจ้าเปา
แล้วยังต้องมาทำเลาะกับแพรอีก
ความคิดเห็น