ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : องค์ความรู้ที่สอง:ระบบประสาท intro
หลังจากที่รู้ว่า ร่างกายกำเนิดไฟฟ้ามาจากสมอง และหัวใจ แต่จากที่พิจารณาดูแล้ว ไฟฟ้าที่เกิดจากหัวใจ เราไม่ควรจะไปยุ่งจะดีกว่า เพราะถ้าไฟฟ้าหัวใจเกิดผิดปกติ จะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ดังนั้น ผมจึงศึกษาคลื่นไฟฟ้าสมอง น่าจะดีกว่า
ระบบประสาท ทั้งหมดจะแบ่งออกได้ไหญ่ๆ เป็น
1 ระบบประสาทกลาง หรือ ซีเอ็นเอส (central nervous system) ประกอบด้วยสมอง (brain) และไขสันหลัง(spinal cord) ซึ่งมีหน้าที่หลักในการควบคุมพฤติกรรม
2 ระบบประสาทนอกส่วนกลาง หรือ พีเอ็นเอส (peripheral nervous system) ประกอบด้วยเซลล์ประสาททั้งหมดที่อยู่นอกระบบประสาทกลาง ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น
2.1ระบบประสาทกาย (somatic nervous system) ประกอบด้วยเซลล์ประสาทนำเข้า (afferent neuron) ที่ส่งข้อมูลการรับความรู้สึกจากอวัยวะรับความรู้สึกมายังสมองและไขสันหลัง และเซลล์ประสาทนำออกที่ขนส่งข้อมูลสั่งการออกไปยังกล้ามเนื้อหรืออวัยวะที่ตอบสนองอื่นๆ
2.2ระบบประสาทอิสระ หรือ เอเอ็นเอส (autonomic nervous system) แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ ระบบประสาทซิมพาเทติก (sympathetic nervous system) ซึ่งเป็นชุดของเส้นประสาทที่กระตุ้นการตอบสนองแบบ สู้หรือหนี ("fight-or-flight" response) ส่วนระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (parasympathetic nervous system) ตรงกันข้ามกันคือเตรียมความพร้อมร่างกายให้พักผ่อนและเก็บพลังงานเอาไว้
แต่ก่อนที่จะศึกษาระบบประสาท เราต้องรู้จักเซลล์ประสาทก่อน ชื่อว่านิวรอนและแต่ละเซลจะเชื่อมกันด้วย Axon โดย Axon จะเป็นตัวนำ กระแสประสาท ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด และจะมี dendrite ทำหน้าที่รับกระแสประสาทหนึ่งเซลล์จะมีได้ 1 Axon แต่มี dendrite ได้หลายอัน ทั้งสองอันนี้เรียกว่าใยประสาทเซลประสาทแบบออกโดยใช้ขั้วเป็นเกนฑ์ได้ เป็นเซลล์ประสาทขั้วเดียว สองขัว และหลายขั้วแบบออกโดยใช้หน้าที่ ได้ sensory neuron(รับความรู้สึก), motor neuron(สั่งการ) และinter neuron(ประสานงาน)
การทำงานของเซลประสาท
กระแสประสาทจะเคลื่อนได้ด้วยไฟฟ้าเคมีไปตามใยประสาท
เซลล์ประสาทในภาวะปกติ
Na+ อยู่ภายนอกมากกว่าภายใน
K+ อยู่ภายในมากกว่าภายนอก
Cl- เข้าออกได้อิสระ
Protein, Nucleic มีขนาดโมเลกุลใหญ่อยู่ภายใน cell
ใยประสาทได้รับการกระตุ้น
ผนังเซลล์ประสาทเสียคุณสมบัติชั่วคราว คือ ยอมให้ Na+ เข้าภายในเซลล์ ผลที่ตามมาคือ K+ออกนอกเซลล์ ทำ ให้มีการเคลื่อนที่ของกระแสประสาทส่งต่อไปยังสมองเพื่อให้เซลล์ประสาทกลับคืนสภาพเดิม จึงต้องมี Sodium potassium (-K pump) ซึ่งใช้พลังงานจากการสลายโมเลกุลของ ATPภายในผิวของเซลล์ประสาท
การถ่ายทอดกระแสประสาท
ในการส่งกระแสประสาทจาก Axon ของเซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่งต้องผ่าน Synapse โดยปลาย axon จะหลั่งสารเคมีพวก Neurohormone (สารสื่อประสาท) เพื่อพากระแสประสาทให้ข้ามไปได้Neurohormone เช่น acetylcholine สลายตัวเร็วมาก เพื่อไม่ให้ซึมเข้าเซลล์หรือเส้นเลือด โดยEnzyme ชื่อ acetylcholinesterase
การเคลื่อนที่ของกระแสประสาท
กระแสประสาทจะไม่เกิดขึ้นถ้ากระตุ้นด้วยความแรงน้อยเกินกว่าระดับหนึ่ง ถ้ากระตุ้นด้วยความแรงมากก็ไม่ทำ ให้กระแสประสาทเคลื่อนที่เร็วขึ้น กระแสประสาทเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าเดิม เพราะว่าการเคลื่อนที่ของกระแสประสาทใช้พลังงานภายในเซลล์ความเร็วของกระแสประสาทในใยประสาทขึ้นอยู่กับ
1. เยื่อไมอีลิน ถ้ามีจะเคลื่อนที่เร็วกว่าเซลล์ประสาทที่ไม่มีเยื่อไมอีลิน
2. Node of Ranvier ถ้าห่างมากกระแสประสาทจะเคลื่อนที่เร็ว
3. เส้นผ่านศูนย์กลาง ถ้ามีขนาดใหญ่จะเคลื่อนที่เร็ว
ศูนย์กลางของระบบประสาท
Neural tube เป็นโครงสร้างที่มีลักษณะเป็นหลอดยาวไปตามแนวสันหลังในระยะ embryo ส่วนหน้าเจริญไปเป็นสมอง ส่วนหลังเจริญไปเป็นไขสันหลัง ทั้งสมองและไขสันหลังมีเยื่อหุ้ม 3 ชั้น คือ
ชั้นนอก เป็นเยื่อหนา เหนียว และแข็งแรง
ชั้นกลาง เป็นเยื่อบาง ๆ
ชั้นใน เป็นชั้นที่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยง เพื่อนำ อาหารและออกซิเจนมาให้สมองและไขสันหลังระหว่างเยื่อหุ้มสมองชั้นกลางและชั้นในมีช่องค่อนข้างใหญ่เป็นที่อยู่ของนํ้าไขสันหลังซึ่งมีหน้าที่ดังนี้
1. หล่อเลี้ยงสมอง และไขสันหลังให้ชื่นอยู่เสมอ
2. นำ ออกซิเจนและอาหารมาเลี้ยงเซลล์ประสาท
3. นำ ของเสียออกจากเซลล์
สมอง (brain) เป็นอวัยวะที่สำ คัญและซับซ้อนที่สุดของระบบประสาท และมีขนาดใหญ่กว่าส่วนอื่น ๆ มีคลื่นหรือรอยหยัก (convolution) มาก เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการคิดและการจำ สมองแบ่งเป็น 2 ชั้น คือ
ชั้นนอก มีเนื้อสีเทา เป็นที่รวมของตัวเซลล์ประสาทและ axon ชนิด non-myelin sheath
ชั้นใน มีสีขาวเป็นสารพวกไขมัน ตัวเซลล์ประสาทมี myelin sheathe หุ้ม
สมองของคนแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
สมองส่วนหน้า (forebrain)
สมองส่วนกลาง (midbrain)
สมองส่วนท้าย (hindbrain)
สมองส่วนหน้า (froebrain) ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
1. เซรีบรัม (cerebrum) เป็นสมองส่วนหน้าสุด ใหญ่ที่สุด และเจริญมากที่สุด มีหน้าที่เก็บข้อมูลสิ่งต่าง ๆ มีความจำ ความคิด เป็นศูนย์รับความรู้สึก มองเห็น ได้ยิน กลิ่น รส สัมผัส เจ็บ-ปวด ร้อน-เย็นและควบคุมการทำ งานของกล้ามเนื้อ
2. ทาลามัส (thalamus) ทำ หน้าที่เป็นศูนย์รวมกระแสประสาทที่ผ่านเข้ามา แล้วแยกกระแสประสาทส่งไปยังสมองที่เกี่ยวข้องกับกระแสประสาทนั้น ๆ เป็นสถานีถ่ายทอดกระแสประสาทจากหู ตา ไปยังเซรีบรัม และรับข้อมูลจากเซรีบรัมส่งไปยังเซรีเบลลัมและเมดัลลาออบลองกาตา
3. ไฮโพทาลามัส (hypothalamus) เป็นส่วนล่างสุด เป็นรูปกรวยยื่นไปข้างล่าง ปลายสุดเป็นต่อมใต้สมอง เซลล์ประสาทสมองบริเวณนี้สร้างฮอร์โมนประสาทหลายชนิดไปควบคุมการสร้างฮอร์โมนของต่อมใต้สมอง มีหน้าที่ควบคุมกระบวนการพฤติกรรมของร่างกาย เช่น อุณหภูมิ ความดันเลือดอารมณ์ ความรู้สึกทางเพศ ความสมดุลของนํ้าในร่างกาย ความกลัว ควบคุม metabolism การเต้นของหัวใจ ความโศกเศร้า ดีใจ ไฮโพทาลามัส เป็นส่วนที่เชื่อมระหว่างระบบประสาทกับระบบต่อมไร้ท่อ
สมองส่วนกลาง (midbrain) มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการเคลื่อนไหวของนัยน์ตา ทำ ให้ลูกตากลอกไปมาได้ ควบคุมการปิดเปิดของม่านตาในเวลาที่มีแสงสว่างเข้ามามากหรือน้อย
สมองส่วนท้าย (hindbrain) อยู่ถัดจากสมองส่วนกลางและติดต่อกับไขสันหลัง แบ่งเป็นสองส่วน
1. เซรีเบลลัม (cerebellum) เป็นสมองส่วนที่ควบคุมการทรงตัวและควบคุมการเคลื่อนไหวของ
กล้ามเนื้อลายสัตว์ที่เคลื่อนที่ 3 มิติ มีสมองส่วนนี้เจริญดี
2. เมดัลลาออบลองกาตา (medulla oblongata) เป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างสมองกับไขสันหลังมีรูปร่างคล้ายไขสันหลัง เป็นทางผ่านของกระแสประสาทระหว่างสมองกับไขสันหลัง มีหน้าที่ควบคุมอวัยวะภายในและควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ สัตว์ชนิดใดมีอัตราระหว่างนํ้าหนักสมองต่อนํ้าหนักตัวมากจะฉลาดเรียนรู้ได้ดี
ก้านสมอง (brain stem) ประกอบด้วย
1. Midbrain
2. Pons ในคนอยู่ด้านหน้าของเซรีเบลลัมติดต่อกับสมองส่วนกลาง ส่วนทางด้านท้องของเซรีเบลลัมมีหน้าที่ควบคุมเกี่ยวกับการเคี้ยวอาหาร การหลั่งนํ้าลาย การเคลื่อนไหวบริเวณใบหน้า และควบคุมการหายใน
3. Medulla oblongata
ไขสันหลัง (spinal cord) เป็นเนื้อเยื่อประสาทที่มี synapse มากที่สุด
หน้าที่ของไขสันหลัง
- ศูนย์เชื่อมระหว่าง receptor (หน่วยรับความรู้สึก) และ effector (หน่วยปฏิบัติงาน)
- ทางผ่านระหว่าง nerve impulse ระหว่างไขสันหลังกับสมอง
- ศูนย์กลางการเคลื่อนไหว (simple reflex) ที่ตอบสนองการสัมผัสทางผิวหนัง
เส้นประสาทสมอง
สัตว์ต่างชนิดกันมีเส้นประสาทสมองไม่เท่ากัน เช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนํ้านม นก และสัตว์เลื้อยคลานมี 12 คู่ ปลาและสัตว์ครึ่งนํ้าครึ่งบกมี 10 คู่
ระบบประสาทโซมาติก เป็นระบบประสาทที่ควบคุมการทำ งานของกล้ามเนื้อลาย โดยเซลล์ประสาทรับความรู้สึกจะรับกระแสประสามจากหน่วยรับความรู้สึกผ่านเส้นประสาทไขสันหลังหรือเส้นประสาทสมองเข้าสู่ไขสันหลังหรือสมอง และกระแสประสาทนำ คำ สั่งจากสมองจะถูกส่งผ่านเส้นประสาทสมองหรือเส้นประสาทไขสันหลังไปยังหน่วยปฏิบัติงานซึ่งเป็นกล้ามเนื้อลายซึ่งบางครั้งอาจทำ งานได้โดยรับคำ สั่งจากไขสันหลังเท่านั้น เช่น การกระตุกขาเมื่อถูกเคาะที่หัวเข่า
Reflex action หมายถึง การทำ งานของหน่วยปฏิบัติงานของระบบประสาทส่วนกลางที่เกิดทันทีโดยมิได้มีการเตรียมล่วงหน้า
Reflex arc เป็นวงการทำ งานของระบบประสาท ซึ่งจะทำ หน้าที่อย่างสมบูรณ์ได้ต้องประกอบด้วยประสาท 5 ส่วน คือ Receptor->Sensory->nerve->association nerve->motor nerve effector หรืออย่างน้อยที่สุดต้องประกอบด้วยประสาท 2 ส่วน คือ sensory nerve กับ motor nerve
Voluntary nervous system เป็นระบบประสาทที่ทำ งานภายใต้อำ นาจของจิตใจ
Involuntary nervous system เป็นระบบประสาทที่ทำ งานนอกอำ นาจจิตใจ
ระบบประสาทอัตโนมัติ เป็นระบบประสาทที่ควบคุมการทำ งานของกล้ามเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อ
หัวใจ และต่อมต่าง ๆ เพื่อปรับร่างกายให้เข้ากับสภาพแวดล้อมภายใน ประกอบด้วย
1. Sympathetic nervous system เป็นประสาทที่อยู่บริเวณไขสันหลัง จนถึงกระเบนเหน็บ
2. Parasympathetic nervous system เป็นประสาทที่อยู่เหนือไขสันหลังและตํ่ากว่ากระเบนเหน็บ
จากที่ศึกษามาทั้งหมด พบว่า สิ่งที่น่าสนใจที่สามารถต่อยอดนำไปสู่พลัง kinesis ได้ น่าจะมาจาก ไฟฟ้าเคมีในการส่งกระแสประสาท และ เราต้องทำให้มีการส่ง ประแสประสาทที่ใว และมากพอที่จะทำให้สามารถเหนี่ยวนำวัตถุให้เกิดประจุได้ และ เส้นประสาทที่เราควรจะใช้งาน ควรจะเป็น ประสาทรับความรู้สึกผิวหนัง และรับสัมผัส เพราะมีมากที่สุด อยู่ทั่วร่างกาย และอยู่ไกล้ผิวหนังที่สุด ผมพอจะสรุปได้ว่า สิ่งที่ควรจะศึกษาต่อ ต้องเป็นเรื่อง ไฟฟ้าเคมี การทำงานของกระแสประสาทอย่างละเอียด และการเพิ่มความสามารถของเซลล์ประสาทดังนี้
1. หาวิธีสร้างสร้างเยื่อไมอีลินให้เซลล์ประสาท
2. หาวิธีทำให้ Node of Ranvier ถ้าห่างกันมากขึ้น
3. หาวิธีเพิ่มเส้นผ่านศูนย์กลางของ ใยประสาท

เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น