ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    A Tranquilizer for your Christmas Eve : ยากล่อมใจในคืนฝัน

    ลำดับตอนที่ #10 : จิตติกับเรื่องรักแห่งกรุงโตเกียว -2-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 640
      2
      5 ม.ค. 54

    “ผมมีสถานที่อยากจะไปหน่อยครับ หอศิลป์แห่งชาติที่อุเอโนะจัดแสดงนิทรรศการน่าสนใจมาก และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วด้วย ผม... บังเอิญมีตั๋วเข้าชมเหลืออยู่สองที่พอดี คุณจะไปกับผมได้ไหมครับ?” เขาเอ่ยถาม

                    เขาเป็นชาวญี่ปุ่นที่ไม่เคยไปเที่ยวยุโรปเลยตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา หรือแม้แต่พูดภาษาอังกฤษได้ด้วยซ้ำ น่าแปลกที่เขากลับหลงใหลในศิลปะวัฒนธรรมยุโรป เขาเล่าให้เธอฟังว่าเขาสะสมไวน์ฝรั่งเศสไว้ในอพาร์ทเมนต์ของตัวเอง

                    (จิตติสร้างตัวละครชาวญี่ปุ่นนี้จากตัวละครหนึ่งในนิยายเรื่อง นาโอมิ ของจุนอิจิโร่ ทานิซากิ เขาไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมเนื่องจากเขาคิดว่าไม่มีคนอ่านคนไหนเคยได้ยินชื่อของทานิซากิ และสาวไทยในท้องเรื่องคงไม่พูดอะไรฟังดู มีการศึกษา แบบนั้น ยังไงเธอก็เป็นแค่เด็กสาวจนๆน่าสงสารไม่ใช่หรือไง?)

                    ทั้งสองมาจากโลกที่แตกต่างกัน ขณะที่เขาลุ่มหลงอยู่ในโลกสุนทรีย์ของโมเนต์และคูร์เบต์ เธอกลับไม่รู้เรื่องอะไรและคิดว่าทั้งหมดเป็นแค่รูปธรรมดาๆ เธอไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับงานศิลป์ ศิลปะเป็นเพียงแค่วิชาเรียนสมัยประถม การจ่ายเงิน 1000 เยน เพื่อเข้ามาชมภาพที่ดูแล้วไม่เข้าใจพวกนี้เป็นเรื่องพิลึกพิลั่นสิ้นดี แต่เธอก็ปล่อยให้เขาทำตามใจไป วิธีที่เขาบรรยายเรื่องภาพให้เธอฟัง วิธีที่เขาพูดเมื่อเธอดูมึนงงกับคำพูดของเขา เธอเริ่มดูออกว่าเขาคงจะเด็กกว่าและค่อยๆถามตัวเองว่าผู้หญิงไร้ค่าอย่างเธอมีความหมายอะไรต่อเขากันแน่

                    แต่จากนั้น ก็คงเป็น ความรัก (จบได้ดีนะนี่ คงจะกินใจแม่บ้านทั่วไปที่ชอบละครหลังข่าวใช่ย่อย จิตติได้ยินเสียงปรบมือชื่นชมดังขึ้นมาในใจ)

                    เธอหวนรำลึกถึงเดตครั้งแรกของทั้งสองคนที่อุเอโนะเหมือนกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน วันนั้นเป็นวันเกิดของเธอด้วย วันที่สิบสามตุลาคม แต่เธอก็รักเขามากและคงจะเกินไปถ้าเธอบอกว่านั่นเป็นวันเกิดในขณะนั้น จนกว่าทั้งคู่ได้แต่งงานกัน

                    ...และนั่นคือเรื่องราวที่ดำเนินไป... เรื่องรักแห่งโตเกียว

                    จิตติตรวจทานเรื่องแต่งของเขาอีกครั้งก่อนกดโพสต์ เขาลุกไปชงกาแฟและกลับมานั่งหน้าจอ

                    มีความคิดเห็นตอบมากมายภายในช่วงเวลาน้อยกว่าสิบนาที เขาเปิดเพลงของวงพรู อ่านความคิดเห็นในกระทู้ด้วยความเพลิดเพลินยินดี

                    “ขอร้องล่ะ เร็วๆหน่อยๆ ชั้นอยากอ่านต่อนะ”

                “หวานแหววจังเลยนะคะ ฉันอิจฉาเธอสองคนจัง”

                “ทำไมไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผมมั่งน้า”

                “ดิฉันชอบวิธีเขียนของคุณมากเลยล่ะค่ะ! หยุดอ่านแทบไม่ได้แน่ะ!

                “สามีของฉันก็เป็นชาวญี่ปุ่นเหมือนกันนี่นา แต่ว่าเรื่องของฉันไม่หวานจ๋อยเหมือนของคุณเล้ยยย ^ ^”

     

                    นี่คือยาปลุกและกล่อมประสาทของเขาสำหรับคืนนี้ การเห็นผู้คนถูกล่อลวงและสั่งการโดยถ้อยคำที่เขาแต่งขึ้น ใครๆก็ชอบเรื่องรักๆใคร่ๆ แล้วทำไมไม่สนองตอบความต้องการนั้นล่ะ? ปล่อยให้พวกนั้นหลงไปกับความฝันชั่วนิรันดร์  เติมเต็มความปรารถนาที่ต้องการพบบนโลกแห่งความเป็นจริง เป็นเครื่องค้ำจุนหัวใจที่เปล่าเปลี่ยว ซึ่งวาดหวังจะเป็นใครสักคนที่พิเศษ หรือเป็นที่ยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสังคม ไม่ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวอ้างว้างอยู่ภายนอก ทฤษฎีทางจิตวิทยาเหล่านี้อธิบายโลกเสมือนบนเว็บบอร์ดได้แจ่มชัดเป็นที่สุด

                    จิตติกดรีเฟรชกระทู้ มีข้อความส่วนตัวส่งมาหา เขากดเข้าไปอ่านด้วยหวังว่าจะได้รับคำชื่นชมอีก

                    ล็อกอินชื่อ “Recht” ส่งข้อความมาโดยไม่มีหัวเรื่อง เขาไม่เคยเห็นสมาชิกชื่อนี้มาก่อน

                    เขาเปิดข้อความและเกือบทำแก้วกาแฟหล่นลงราดคีย์บอร์ดเมื่ออ่านไปทีละคำ

                    “ผมขอโทษนะ แต่ว่าคุณคงจะเขียนอะไรผิดนิดหน่อยในกระทู้

                    เดือนตุลาคมที่ผ่านมา หอศิลป์แห่งชาติประจำกรุงโตเกียวปิดบูรณะซ่อมแซม

     

                    ผมมองโลกในแง่ดีและคิดว่าคุณคงจะลงวันที่ผิด ถึงส่งข้อความมาแทนที่จะโพสต์ถาม

                    ว่าก็ว่าเถอะ ช่วยรู้ไว้เลยว่าผมไม่เชื่อเรื่องของคุณนักหรอก ผมว่าเป็นเรื่องที่แต่งได้เยี่ยมยอดเลย แต่เมื่อคุณบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง ผมก็คงยอมรับไม่ได้

    Recht

    จิตติหยุดหายใจ ครุ่นคิดคำนึงหาเศษเสี้ยวของความทรงจำ เขาพยายามเลือกฉากของเรื่องให้เป็นหอศิลป์แห่งนี้อย่างพิถีพิถัน เขาเคยเข้าชมหอศิลป์ดังกล่าวเมื่อครั้งที่เขาไปเที่ยวญี่ปุ่นสองปีที่แล้ว และเขาก็มั่นใจว่าสถานที่ดังกล่าวไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยนัก ดังเห็นได้จักที่เขาไม่พบคนไทยเลยแม้สักคนถึงว่าตอนนั้นจะเป็นวันหยุดยาวกลางฤดูท่องเที่ยวก็ตาม ดังนั้นแม้ว่าเขาจะให้รายละเอียดผิดพลาดไปก็ไม่น่าจะมีใครสงสัย

    ไร้สาระน่า เขาคิด หอศิลป์แห่งชาติย่อมไม่ปิดบูรณะซ่อมแซมทั้งอาคาร และยิ่งกว่านั้น ในญี่ปุ่น เชียวนะ แต่ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกไม่สบายใจนักกับการที่อ่านข้อความสั้นๆที่แสนจะงี่เง่านี่ล่ะ เขาเริ่มเสียใจที่ใส่รายละเอียดลงในเรื่องมากเกินไป คิดว่าตัวเองไม่น่าเขียนเรื่องของประเทศที่เขาไม่ค่อยรู้จักมากนัก ถ้าหลีกเลี่ยงจะระบุวันที่ลงไปตรงๆ ชายคนนั้น, ตามที่เขาใช้สรรพนามแทนตัวว่าเป็นผู้ชาย อาจจะไม่มีเบาะแสที่จะสืบหาเวลาและสถานที่ก็ได้ แต่ก็ช่างมันเถิด คงจะช่วยอะไรไม่ได้เสียแล้ว เขาต้องการรู้ว่าข้อกล่าวหานั่นจริงหรือเปล่า จิตติเปิดบราวเซอร์และค้นหาเว็บเพจของหอศิลป์แห่งญี่ปุ่น

    ผลลัพธ์นั้นน่าตกใจ หอศิลป์ปิดบูรณะซ่อมแซมจริงๆ และนิทรรศการทั้งหมดแม้กระทั่งส่วนนิทรรศการถาวรก็ปิดด้วย ตัวอาคารหอศิลป์ทั้งหมดถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และรัฐสภาก็ได้ลงมติให้บูรณปฏิสังขรณ์เป็นการด่วน จิตติเอากำปั้นทุบโต๊ะอย่างแรง แก้วกาแฟร่วงลงบนพื้นพรม เขาเลินเล่อขนาดนี้ได้อย่างไรกัน? แต่กระนั้นก็เถอะ ใครมันจะไปรู้ได้ล่ะ ไม่มีใครหรอกที่จะหยั่งรู้ความจริงข้อนี้เพียงแค่อ่านเรื่องในกระทู้ผ่านไปแค่สิบนาที ถ้าชาย หรืออาจจะเป็นผู้หญิง คนที่ว่าไม่ตามรอยเขามาตั้งแต่เริ่ม ใครสักคนที่เคียดแค้นตัวเขาเป็นการส่วนตัว ตัวการที่แกะรอยเขาจากจุดเริ่มต้น พยายามค้นหาข้อผิดพลาดและในที่สุดก็ค้นพบจากจุดเล็กๆเพียงจุดเดียวนี่เอง!

    จิตติตอบข้อความ โดยเขาต้องแก้สำนวนหลายครั้งกว่าจะกดส่งไปได้ ความแตกตื่นของเขาเกือบทำให้เสียความสามารถในการเขียนสำนวนแบบผู้หญิงไป

    “นายมีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาว่าเรื่องของฉันมันไม่จริง? ฉันก็แค่อยากเล่าเรื่องดีๆให้ฟังเท่านั้นล่ะย่ะ ถ้าวุ่นวายนักอย่างที่ว่า ก็ลองเขียนเองสิ!

    เขาปิดเพลง คำถามล่องลอยอยู่ในหัว เขาจะทำอย่างไรดี? จะเขียนอะไรอีก? จะพูดอย่างไร? จะปฏิเสธอย่างไร? ไม่หรอก เขาไม่ได้โกหกสักหน่อย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เขาแค่แต่งเรื่องที่คนทั่วไปเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เขาไม่เคยพูดสักคำว่านั่นเป็นความจริง อย่าตระหนกนักเลย เขายังเป็นตัวเขาอยู่ ผู้ไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใดทั้งนั้น เขาเหยียดแขนก้มลงเก็บแก้วกาแฟ มันมีรอยร้าวรอยใหญ่และนั่นก็เป็นแก้วกาแฟใบโปรดเสียด้วย ตอนนี้เขาโกรธไอ้ Recht นั่นจริงๆเสียแล้ว การการยามเครียดของจิตติทำให้เขาอยากอัดควันบุหรี่เข้าให้เต็มปอด แต่การบำบัดอาการติดบุหรี่ในอดีตยังหลอนอยู่ในใจจนจิตใต้สำนึกเตือนว่าอย่าทำอย่างนั้นเด็ดขาด จิตติจึงเข้าไปในครัว เขวี้ยงแก้วกาแฟที่แตกทิ้งแล้วชงกาแฟแก้วใหม่ เขากลับมานั่งที่เดิมด้วยสายตาปวดร้าว แต่จากนั้นเขานึกขึ้นได้ว่ายังมีงานค้างอยู่ เขาต้องเขียนบทความลงวารสารของโรงพยาบาลในวาระครบรอบวันสถาปนา ตอนนี้สามทุ่มแล้ว เขาดื่มกาแฟไปสามแก้วและคงต้องซดมันอีก เขาไม่อยากนอนตอนนี้ ตอนที่เขายังทำอะไรไม่เสร็จไปสักอย่าง โดยเฉพาะการฆาตกรรมไอ้คนชื่อ Recht นั่นให้หายไปจากโลกออนไลน์ เขาต้องทำให้ไอ้บ้านั่นสับสนด้วยคำพูดของมันเองแล้วจนแต้มไปในที่สุด ฝูงชนบนอินเตอร์เน็ตต้องเข้าข้างเขา พวกนั้นล้วนมือถือสากปากถือศีลเกินกว่าจะสงสัยเขา และเขาจะชนะในที่สุด

    จิตติริเฟรชเบราเซอร์อีกหน ข้อความใหม่ถูกส่งเข้ามา

    “แน่นอนว่าเรื่องของคุณไม่มีข้อผิดพลาดอะไรที่ชัดเจนหรอก แต่วิธีที่คุณเล่าถึงชายชาวญี่ปุ่นคนนั้น มันช่างเหมือนกับนิยายของนักเขียนญี่ปุ่นที่ผมเคยอ่านเมื่อก่อนเลย ผมคงจะช่างสงสัยเกินไปเอง ผมต้องขอโทษอย่างสุดซึ้งด้วย

    Recht”  

    ประชด, นี่คือคำประชดแดกดัน ตอนนี้คนผู้นี้กำลังหัวร่องอหายหน้าจออยู่แน่ๆ มันเป็นใครกัน? เด็กมัธยมหัวเกรียนที่ริจะเป็นนักสืบออนไลน์งั้นรึ? ไม่ใช่เด็กมัธยมแน่ มันรู้จักทานิซากิ อาจจะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยอายุสัก 27-29 คงเป็นอาจารย์ใหม่เพิ่งจบมาหมาดๆ ฉลาดเป็นกรดและชอบประชดประชัน หรือเป็นนักเรียนนอก ไม่ว่ามันเป็นใคร จิตติต้องหยุดมันให้ได้ก่อนที่มันจะเปิดโปงตัวตนของเขาบนโลกออนไลน์

    ไม่จำเป็นต้องส่งข้อความโต้ตอบกลับไปอีกแล้ว จิตติไม่อยากโดนล้อเล่นอีก

    เขาเพิ่มอีเมล์ของ Recht ลงไปในรายชื่อแมสเซนเจอร์ ภายในจิตใจส่วนลึกแท้จริงแล้วจิตติอยากพบหน้าชายผู้ที่ฉีกหน้ากากความภาคภูมิใจของเขาออกเป็นริ้วๆ นี่คือความท้าทายที่เขาไม่พบมานานแสนนาน จิตติไม่เคยพบบุคคลที่ฉลาดทันกันกับเขามาก่อน ทั้งหมดล้วนเป็นอัตตาและความสงสัยส่วนตัว เมื่อเขาคิดอีกครั้งว่าอีเมล์ดังกล่าวอาจจะไม่ใช่อีเมล์ที่ใช้จริง (เขาใช้แมสเซนเจอร์ก็ต่อเมื่ออยากหลอกคนอ่านบางคนเล่น หรือลองจีบใครดู)

    จิตติกดยืนยันและทันใดนั้นก็มีสัญญาณเตือนว่า Recht ได้ยอมรับคำขอของเขาแล้ว

    ทั้งคู่ออนไลน์ และนี่คือเวลาเผชิญหน้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×