ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เภสัชกรปริศนา กับร้านขายยาพิศวง

    ลำดับตอนที่ #1 : ชื่อ....ปริศนา?

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 51


    ตอนที่ ๑

    ......๑....

    แฮ่ก แฮ่ก ฟู่......
    นี่ผมกำลังจะตายสินะ.....
    ไอ้โรคหอบหืดบ้านี่ กรุงเทพฯเป็นเมืองที่ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคทางเดินหายใจอย่างผมแม้แต่นิดเดียว ไหนว่าผู้ว่าฯหน้าหล่อประกาศให้เจริญกรุงเป็นถนนควบคุมมลพิษแล้วไงล่ะ ที่ไหนได้พอลงจากรถปอ.มา เกือบสิ้นใจ
    แฮ่ก แฮ่ก.....

    ยาพ่นที่ติดตัวมา ก็ดันมาหมดเอาตอนคับขันแบบนี้ เฮงซวยชะมัด ตอนออกจากบ้านแม่บอกให้แวะหาลุงหมอคลินิกปากซอยก่อน รู้งี้แวะซะก็ดีหรอก

    ไอ้คนกรุงเทพฯมันก็ใจจืดใจดำสมคำเค้าว่ากันจริงๆ คนหอบจะตายอยู่ต่อหน้ายังเดินชนเฉยตุ่ย ดีไม่ดีพรุ่งนี้กลายเป็นข่าวพาดหัวไม้หน้าหนึ่งว่า “โจ๋ดับกลางถนน สังเวยควันพิษกรุงเทพ” อาแปะอาซิ้มแถวนี้จะว่าไงวะเนี่ย
    แฮ่ก แฮ่ก ฟู่ ฟู่.....

    กริ๊ง กรุ๋งๆ กริ๊งๆ....
    ใครมาสั่นกระดิ่งกรอกหูคนกำลังจะตายวะเนี่ย
    คงไม่ใช่แมวของยมทูต ที่จะถือเคียวอันเท่าตัวลอยลงมาบอกว่าเธอถึงที่ตายแล้วหรอกนะ ถึงจะเพิ่งอ่านมาแปดเล่มรวดเมื่อวานก็เถอะ ผมไม่น่าจะหลอนตัวเองได้ถึงขั้นนั้น

    อ้าว แมวจริงๆด้วย เฮ้ย!
    แฮ่ก แฮ่ก..............ฟู่...................
    ทำไมผมรู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ หรือว่าเพราะผมกำลังจะตายจริงๆ โอ้ เจ้าพ่อเสือช่วยลูกด้วย ที่ลูกบนไว้ก่อนสอบแอดมิชชันยังไม่ทันได้แก้บนเลย ถ้าท่านยังไม่อยากได้ลูกไปเป็นบริวารรับใช้ก่อนวัยอันควรก็ช่วยลูกด้วยก่อนเถอะ ลูกบนต่อด้วยเนื้อหมูติดมันอีกสองโลเลยเอ้า แถมเจดีย์น้ำตาลด้วยก็ได้

    แฮ่กๆๆๆๆๆๆ......
    ไหงยิ่งหอบกว่าเดิมอีกล่ะ ไอ้เหมียวจะไปไหน! มานี่ก่อน! ถ้ายมทูตจะมารับก็ให้ผมตายสบายๆเหอะ อย่าให้ทรมานหอบจนตายแถวแผงขายไผ่กวนอิมริมถนนเลย ทุเรศพิกล ถ้าจะตายก็ขอนอนตายอย่างสงบ กุมมือคนรัก(ที่อยู่มาจะยี่สิบปียังไม่เคยมีหญิงหน้าไหนหลงผิดซักที) แล้วหลับตาสิ้นใจแบบหนังเกาหลีไม่ได้เรอะไง

    เอ แล้วที่นี่มันแถวไหนล่ะเนี่ย มัวแต่หอบกับตามแมว(ยมทูต)มา มืดๆพิกล หรือว่านี่จะเป็นเมืองลับแลทางสองแพร่งก่อนเข้าถึงยมบาลอย่างที่เขาร่ำลือกัน

    ฮะ! ไอ้แมวบ้านิ กระโดดใส่กันได้ แน่ะ ทำมาขู่ฟ่อๆอีก เหมียวนะเหมียว เจ้าของอยู่ไหนเนี่ย คุณยมทูตครับ จะมาก็มาทีเถอะ อย่ามาล้อเล่นแบบนี้เลย
    “เสียดายที่ผมไม่ใช่ยมทูตนะครับ”

    เสียงใครหว่า...... เหยย! คุณพี่สุดสวยมาจากไหนไม่รู้ ไม่ให้สุ้มให้เสียงเอาซะเล้ย
    แต่ว่า ไหงคำว่า “ผม” กับ “ครับ” ออกมาจากปากคุณพี่สาวสุดสวยในเสื้อกาวน์ขาวคนนี้ได้ล่ะหว่า

    “ก็ผมเป็นผู้ชายนี่ครับ”

    หา! เป็นไปไม่ได้ ถึงน้องปอยมิสทิฟฟานี่จะสวยก็จริง แต่นั่นก็ยังพอดูรู้ว่าเป็นกะเทยแปลงเพศล่ะน่า แต่คุณพี่คนนี้..... โอ้มายเจ้าแม่กวนอิม สาวๆที่มหา’ลัยชิดซ้ายตกคูไปเลย โลกนี้มันสิ้นหวัง.....

    อ้าว แต่เราหายหอบหืดตั้งแต่เมื่อไรกันนะเนี่ย
    แล้วผมคิดดังจนคุณพี่เค้าได้ยินเชียวเรอะ ต้องพิจารณาตัวเองซะแล้ว ขืนไปคิดดังๆต่อหน้าน้องมะนาวดาวคณะล่ะก็ เสร็จกัน

    “นิสัยอย่างคุณคิดไปอย่างไร ดาวคณะเขาก็คงไม่แลหรอกครับ ที่สำคัญมายืนอยู่ตรงนี้ขวางทางหน้าร้านคนทำมาหากินนะครับ”

    ผมค่อยๆเงยหน้าจากแมวหันไปข้างๆ แล้วพบว่าผมกำลังยืนกร่างขวางไปขวางมาหน้าร้านขายยาที่คุณพี่ชายหน้าสวยเฝ้าหน้าร้านอยู่พอดี มันก็ดูเหมือนร้านขายยาแผนปัจจุบันบวกร้านขายยาจีนทั่วไปแถวเยาวราช ที่แบ่งครึ่งฝั่งตู้ยาฝรั่งกับเก๊ะยาจีน ด้านหน้ามีกระถางไผ่กวนอิมกับอ่างบัว ตู้กระจกหน้าร้านก็มีพวกปลากระเบน เขาสัตว์ กะโหลกคน(ผมคิดว่าของปลอมนะ) ตามประสาร้านยาจีนทั่วไป พอผมเงยหน้าขึ้นไปดูชื่อร้าน..... [ปริศนาเภสัช] ชื่อแปลกพิลึก แถวนี้เคยเห็นแต่ชื่อร้านขายยาจำพวก [อ้วยอันโอสถ] [ไต้ตงฟาร์มาซี] แถมร้านนี้ทำเลยังซอกหลืบจนไม่น่าจะมีคนแวะเข้ามาอีก ถ้าผมไม่มัวหอบแฮ่กๆวิ่งตามแมวก็คงไม่มีวันเห็นร้านขายยาร้านนี้หรอก

    “ก็เพราะหอบไม่ใช่หรือครับ ถึงได้เข้ามาพบร้านของผม คุณไม่ได้กำลังอยากได้ยาพ่นแก้หอบหืดหรือครับ เดินเข้ามาสิ รอสักครู่ แล้วก็คนเขามีชื่อนะครับ ไอ้การชมว่าสวยน่ะเอาไปใช้กับดาวคณะของคุณแทนเถอะ”

    หือไม่ขึ้นแฮะ กับคุณพี่หน้าสวยคนนี้ แล้วผมจะไปรู้ชื่อคุณพี่ได้ไงล่ะคร้าบ

    “ถึงไม่ได้เรียนเภสัชฯอยู่ คุณก็น่าจะรู้นะว่าหน้าร้านขายยาทุกร้านต้องมีป้ายชื่อเภสัชกรปริญญาผู้จ่ายยาประจำร้านติดหน้าร้าน พร้อมด้วยเวลาประจำการมิฉะนั้นร้านขายยาอาจมีโทษทั้งจำทั้งปรับ” คุณพี่หน้าสวยจ้องตาโตๆดุใส่ผม

    “โธ่ คุณพี่ก็รู้ๆกันอยู่ ยิ่งผมเรียนเภสัชศาสตร์ยิ่งรู้ว่าไอ้ป้ายชื่อเภสัชกรปริญญามันก็โกหกทั้งเพ เท่าที่เห็นก็ซื้อชื่อมาสวมแล้วจ่ายเงินค่าใช้ชื่อให้เท่านั้นแหละ รุ่นพี่ๆผมทำกันถมเถไป ผมจะรู้ได้ไงว่าคุณพี่น่ะเป็นเภสัชกรตัวจริงตามป้ายชื่อรึเปล่า”

    เอ๊ะ ผมเพิ่งได้อ้าปากพูดออกเสียงจริงๆนี่หว่า แล้วที่ผ่านมาคุณพี่หน้าสวยรู้ความคิดผมได้ยังไงกันวะเนี่ย

    “เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่เลิกเรียกผมว่าคุณพี่หน้าสวยซักที นั่นป้ายชื่อผม ผมจบมาพร้อมด้วยศักดิ์และสิทธิ์ของปริญญาเต็มขั้น รับพระราชทานปริญญาจากพระหัตถ์ในหลวงต่อเบื้องพระพักตร์ก็แล้วกัน”

    อืม [ภก. ปริศนา นิรันดรโอสถ, ภบ.(เกียรตินิยม) M.S.(Pharmaceutical)] ท่าจะของจริง จบนอกซะด้วย เห็นหน้าอ่อนๆอย่างนี้ เจ๋งใช่ย่อยแฮะ

    “เอ้า นี่ยาพ่นแก้หอบหืดของคุณ ผมหวังว่าคุณคงจะไม่มาเป็นหอบหืดทำท่าประหลาดๆอยู่หน้าร้านผมบ่อยนักนะ ลูกค้าหายหมด”

    ลูกค้าไหนกันหว่า ร้านขายยาซอกหลืบขนาดนี้ จะมีลูกค้าได้ไง สงสัยจะเป็นอาแปะอาซิ้มอาซ้อที่หลงเสน่ห์หน้าตามาซื้อยาเป็นขาประจำซะล่ะมั้ง แต่ผมก็ไม่ได้พูดออกไปหรอก ขนาดคิดเฉยๆคุณพี่เภสัชกรปริศนาหน้าสวยคนนี้ยังทำท่าเหมือนรู้ทันความคิดทุกเรื่อง ถ้าพูดไปตรงๆมีหวังโดนโยนออกจากร้านแถมด้วยเรียกตำรวจมาดำเนินคดีข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้าเอา ยิ่งท่าทางดุยังกะจะไปกัดกับเจ้าพ่อเสือได้อยู่

    “อ่ะ ครับ แล้วค่ายา.........”

    “ไม่เป็นไร แค่ไปให้ไกลๆจากหน้าร้านผมก็พอ เข้าใจนะครับ คุณตรีชวา?”

    เออ เข้าใจก็ได้วะ แต่ว่า ผมไปบอกชื่อผมให้คุณพี่ปริศนารู้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ?

    ช่างมันเหอะ ยังไงผมก็คงไม่มีวันได้มาแถวนี้แล้วล่ะ อากาศเป็นพิษเกิน ไม่ไหว ทีหลังบอกให้คุณนายแม่มาซื้อของไหว้แถวนี้เองดีกว่า ผมขอลาขาด

    แต่ไม่นานต่อมาผมก็รู้ว่านั่นเป็นการคาดคะเนที่ผิดอย่างสาหัสสากรรจ์ที่สุดในชีวิตเลย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×