ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องสั้นสารพันสารเพของเทราสเฟียร์

    ลำดับตอนที่ #1 : อัลฟา

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 49


    ++นำ++

    โลกหลังจากผ่านความแตกแยกอย่างรุนแรงในปีคริสตศักราช 2012 จักรวรรดิทุนนิยมอเมริกันและสาธารณรัฐอิสลามต่างก็บอบช้ำเกินที่จะเยียวยาไหว จีนจึงแผ่อิทธิพลเข้าครอบงำตะวันออกกลางและจับมือกับสหภาพยุโรปอย่างไม่มีใครเคยคิดว่าจะเป็นไปได้ สร้างสหพันธรัฐยูเรเชียและเข้ายึดครองทวีปอเมริกาอย่างรวดเร็ว ประกาศตนตั้งรัฐบาลโลกที่มีอายุสั้นเพียงพันวัน เพราะเกิดการกบฏยึดคลังอาวุธนิวเคลียร์ดั้งเดิมของสหรัฐอเมริกา อิหร่าน ปากีสถาน อินเดีย และรัสเซียและเปิดสงครามขีปนาวุธปรมาณูจนฝุ่นกัมมันภาพรังสีปกคลุมโลกกว่าสิบปี พืชและสัตว์สูญพันธุ์นับไม่ถ้วน แต่หลังจากฝุ่นกัมมันตภาพรังสีเจือจางลงจึงพบว่า นักวิทยาศาสตร์ชาวยิวและกลุ่มไซออนนิสต์ได้สร้างโครงการลับ “เรือของโนอา” สร้างหลุมหลบภัยโลกใต้พิภพและเก็บรักษาชิ้นส่วนพันธุกรรมของพืชและสัตว์กว่าแสนชนิดไว้ รวมถึงโครงการลับแบบเดียวกันขนาดเล็กกว่าในสมาคมลับต่างๆทั่วโลก ทำให้มีผู้รอดชีวิตจากสงครามนิวเคลียร์ครั้งนี้มากกว่าสิบล้านคนจากประชากรโลกหกพันล้าน หลังจากนั้นความสำนึกเสียใจและความสามัคคีระดับโลกก็เกิดขึ้นในมนุษยชาติเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก สถาปนารัฐบาลแห่งโลกอันถาวรในปี 2025 เริ่มศักราชแห่งอวกาศ (อ.ศ)

    โลกที่มีรัฐบาลเดียวและประชาชาติเดียวได้เพิ่มจำนวนประชากรอย่างรวดเร็ว จน โลกที่สภาพธรรมชาติยังมิอาจฟื้นฟูทันก็สุดที่จะรับไหว รัฐบาลโลกจึงมีมติแสวงหาและจัดตั้งอาณานิคมบนพิภพอื่น เริ่มจากดวงจันทร์และดาวอังคาร หลังจากนั้นจึงสร้างสถานีอวกาศโคจรรอบดาวศุกร์เพื่อควบคุมโรงพลังงานคลื่นไมโครเวฟและเหมืองแร่หุ่นยนต์บนดาวพุธ ใช้ดวงจันทร์กาลิเลียนทั้ง 4 ของดาวพฤหัสเป็นฐานในการนำไฮโดรเจนและฮีเลียมบนดาวพฤหัสมาใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยตั้งอาณานิคมบนมหาสมุทรแห่งดวงจันทร์ยูโรปา สร้างเหมืองแร่กำมะถันและเหล็กบนไอโอ ปรับสภาพและสร้างสถานีอวกาศโคจรรอบคาลลิสโตและกานีมีด ทำให้การตั้งอาณานิคมในอวกาศกระจายไปอย่างรวดเร็วสู่ดวงจันทร์ต่างๆของดาวเสาร์ ยูเรนัส เนปจูน และสภาสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์อวกาศแห่งมนุษย์ก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นที่สุดขอบสุริยจักรวาล ณ ดาวพลูโต ที่กลายเป็นพิภพที่เขียวขจีด้วยอำนาจและการสนับสนุนของนักวิทยาศาสตร์ที่ยังทรงอำนาจอยู่บางคนในรัฐบาลโลก แต่น่าเสียดายยิ่งนักที่ความเศร้าเสียใจและสำนึกผิดที่ทำให้เกิดความสามัคคีถูกกัดกร่อนด้วยการแย่งชิงอำนาจและการแก่งแย่งทรัพยากรกันอย่างรวดเร็ว ดาวอังคารจึงเป็นอาณานิคมแรกที่แยกตัวออกเป็นอิสระภายใต้ระบอบสภากษัตริย์ ก่อตั้งราชพิภพอังคารนำโดย ศรายุธมหาราชที่ 1 ในปี อ.ศ. 387

    ดาวศุกร์ หลังจากมีการคิดค้นวิทยาการการปรับพื้นผิวพิภพ(Terraforming) ในปี อ.ศ. 532 ก็เปลี่ยนจากสถานีทดลองและควบคุมแหล่งทรัพยากรกลายเป็นอาณานิคมที่ใหญ่ที่สุดและแยกตัวออกจากการปกครองของโลก ยึดเอาเหมืองดาวพุธไปเป็นของตน สร้างระบอบสาธารณรัฐไตรภาคีแห่งเวนุสขึ้นมาแข่งขันกับโลก
    หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มดวงจันทร์กาลิเลียนก็ประกาศเอกราชเพราะทนการขูดรีดทรัพยากรจากโลกไม่ไหว ตั้งตัวเป็นสหพันธพิภพกาลิเลียนและพฤหัสในปี 590 ตามด้วยสาธารณรัฐไททันแห่งดาวเสาร์ เครือพิภพอิสระมิรันดาและไตรตัน โลกจึงเหลือเพียงแค่อาณานิคมเซเลเน่บนดวงจันทร์และสถาบันวิจัยฯบนพลูโตเท่านั้น
    เมื่อรัฐบาลโลกถูกกดดันจากอาณานิคมที่แยกตัวเป็นเอกราชทำให้ขาดแคลนทรัพยากรและอาหารอย่างรุนแรง จึงมีการตั้งอาณานิคมระลอกใหม่ออกจากสุริยจักรวาลโดยเริ่มที่ระบบดาวฤกษ์ที่ใกล้ที่สุดเพียง 4.2 ปีแสงด้วยระบบเดินทางผ่านอวกาศชั้นสูง(ไฮเปอร์สเปซ) แน่นอน มันคือระบบดาวอัลฟาเซนทอรี

    ************************************************************************************************

    ++1++
    แสงอาทิตย์อัสดงของพิภพอัลฟานั้นน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แสงสีส้มแดงของดาวฤกษ์อัลฟา เซนทอรีที่กำลังลับขอบฟ้า หมายถึงเวลาสนธยาและอรุณรุ่งไปพร้อมกัน เพราะเพียงไม่นานนัก แสงสีเหลืองซีดของเบตา เซนทอรีก็จะเข้ามาแทน ในความเคยชินของชาวพิภพโลกก็คงรู้สึกว่ามันเหมือนดวงจันทร์อยู่ไม่น้อย เพียงแต่มันเป็นพระจันทร์ที่เต็มดวงอยู่ตลอดทั้งคาบการโคจร ที่เสมือนจะเรียกได้ว่าเดือน

    ผมคือผู้บัญชาการกองเรือสำรวจและจัดตั้งอาณานิคมแห่งอัลฟา เมลคิเซเดค ดี. ลิวอิส บนยานแม่ ซาเลม(ไม่แน่ใจว่ารัฐนาวีโลกบังเอิญหรือจงใจกันแน่) อาณานิคมแห่งแรกนอกสุริยจักรวาลของมนุษย์แห่งนี้ก่อตั้งได้อย่างราบรื่น จนแทบจะเรียกได้ว่า ราบรื่นจนน่ากลัว เหมือนคลื่นลมที่สงบก่อนจะเกิดพายุใหญ่ แต่ผมอาจคิดมากไปเองก็ได้กระมัง เพราะชาวโลกที่เดินทางมาตั้งรกรากที่อัลฟานี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษในไม่ว่าสาขาใดก็สาขาหนึ่งทั้งนั้น

    “ท่านผู้บัญชาการครับ รายงานล่าสุดจากเขตก่อสร้าง B20 ครับ”
    “ทีหลังรายงานชื่อและสังกัดก่อนที่จะพูดด้วยนะ ทหาร”
    “ครับ ผม สิบตรีจอห์น บี. เดลจากหน่วยโยธาที่ 4 ครับ” หน่วยโยธาที่4 เป็นหน่วยบุกเบิกและสำรวจของคณะเรา
    “ขอบใจ”

    ผมนำไมโครดิสก์มาเข้าเครื่องอ่าน ตอนแรกมันเป็นเพียงแค่รายงานการขุดค้นและก่อสร้างธรรมดา แต่มีสิ่งประหลาดแวบเข้ามาในหัวผมชั่วครู่หนึ่ง เมื่อมาพิจารณาดุอีกทีพบว่าเกิดสิ่งไม่ชอบมาพากลขึ้นที่เขต B20 แล้ว

    ผมติดต่อหาเลขานุการในทันที
    “ใครเป็นผู้รับผิดชอบ การขุดครั้งนี้”
    “ดร.วิลเฮล์มิน่า กรุนฮิลด์จากสภาสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์อวกาศค่ะ ท่านผู้บัญชาการ”
    “ติดต่อให้ผมทันที มีเรื่องด่วนมาก และให้มีคำสั่งห้ามกระทำการใดๆโดยพลการ จนกว่าผมจะมีคำสั่ง”
    “ค่ะ ผู้การ”

    “ท่านผู้บัญชาการคะ มีอะไรหรือคะ?” หน้าตาท่าทางใสซื่อของดร.วิลเฮล์มิน่าที่มีท่าทางกระหืดกระหอบที่ส่งมาให้เห็นผ่านไฮเปอร์ทรานสมิตเตอร์ลิงค์ก็ดูดีอยู่หรอก แต่ไม่ใช่เวลานี้

    “ในฐานะผู้บัญชาการ ผมขอสั่งให้คุณหยุดการสำรวจในเขตนั้นเดี๋ยวนี้!”
    “อ้าว ทำไมล่ะคุณ ดิฉันไม่ได้ทำอะไรพลาดนี่ คุณไม่มีสิทธิ์ปลดดิฉันออกจากการปฏิบัติหน้าที่ให้กับสภาฯหรอกนะ ถึงแม้คุณจะเป็นผู้บัญชาการก็เถอะ”
    โอย ผมรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที

    “นี่เป็นเหตุผลด้านความปลอดภัย เข้าใจมั้ย คุณ อะไรนะ?”
    “ดร.วิลเฮล์มิน่าค่ะ จะเรียกมีน่าก็ได้ แต่ความปลอดภัยอะไรคะ ทำไมไม่พูดให้รู้เรื่องกว่านี้หน่อย”
    “เธอออกมาจากเขตนั้นก่อน แล้วผมจะคุยให้ฟังเป็นวันก็ยังได้ ตกลงมั้ย?”
    “ไม่ค่ะ ดิฉันจะไม่ออกไปไหนจนกว่าจะพบสิ่งที่ดิฉันต้องการเจอ หรือคุณบอกเหตุผลกับดิฉันก่อน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไม่!!!”
    แล้วสัญญาณก็ขาดหายไป

    “ประกาศเรียกระดมพลทั้งหมด ยกพลไปยังเขต B20 เดี๋ยวนี้!”

    สิ่งที่ผมเคยกลัวได้เกิดขึ้นแล้ว








    ++2++

    อวกาศศักราชที่ 571 ณ มหาวิทยาลัยกลางแห่งโลก
    ในห้องเรียนวิชาดาราศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจอแจของพวกที่ลงเรียนเพื่อเก็บเกรดที่เซฟตัวเองในช่วงซัมเมอร์ ยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งฟังการบรรยายอย่างตั้งอกตั้งใจ

    “นักศึกษาทุกคน ดวงดาวในสากลจักรวาลมีมากกว่าแสนล้าน ความเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงภูมิปัญญาอื่นนั้นมีมากกว่ามาก โดยไม่จำเป็นจะต้องกำเนิดมาตามหลักการของสิ่งมีชีวิตที่พวกเรารู้อยู่ ดาวฤกษ์ที่ทรงพลังทั้งหลายอาจมีมนุษย์เพลิงที่ดำรงชีพด้วยพลังงานความร้อน ดาวแห่งท้องสมุทรอาจให้กำเนิดมนุษย์มัจฉาที่ต้องอาศัยของเหลวและลักษณะประหลาดอื่นๆของดวงดาวที่อาจเกิดสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดไปจากเราอีกนับไม่ถ้วน ดูง่ายๆเช่นระบบดาวที่ใกล้สุริยจักรวาลมากที่สุด อัลฟา เซนทอรี ที่รัฐบาลโลกกำลังมีโครงการส่งหุ่นดรอยด์ไปสำรวจเพื่อพัฒนาให้เป็นอาณานิคมใหม่ของมนุษย์โลกนี่ล่ะตัวดี ระบบดาวฤกษ์ที่เป็นดาวคู่ จะส่งผลต่อการถือกำเนิดของสิ่งมีชีวิตที่พิสดารเท่าไรไม่มีใครรู้ ส่งหุ่นยนต์ไปสำรวจมันก็ไม่มีทางรู้ เพราะมันไม่สามารถตัดสินใจจากความคิดและวิจารณญาณของตนเองได้ สุดท้ายแล้ว คนที่ต้องเสี่ยงภัยคือมนุษย์เราเอง เอ้า วันนี้พอแค่นี้ ผมคิดว่าพวกคุณคงไม่สนใจกันแล้วกระมัง ไปได้แล้ว”

    หลังจากที่ศาสตราจารย์บรรยายจบ ชายหนุ่มคนนั้นวิ่งตามไปอย่างเร็ว
    “ศาสตราจารย์จันทรคุปต์ครับ ผมมีข้อสงสัย”
    “อืม ฉันนึกว่าจะไม่มีใครฟังซะแล้ว ยังดีที่มีตั้งคน อยู่ปีไหนล่ะ นักศึกษา”
    “ไม่ครับ ผมเป็นนักเรียนมัธยม พ่อของผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ควบคุมหุ่นยนต์โครงการอัลฟ่า เซนทอรี ผมเลยอยากศึกษาเรื่องดาราศาสตร์ ผมอยากเป็นเหมือนพ่อครับ”
    “ดีทีเดียว งั้นไปที่ห้องพักของภาควิชาแล้วกัน แล้วฉันจะบรรยายแบบจริงจังให้เธอฟัง แล้วเธอชื่ออะไรล่ะ?”
    “เมลครับ ชื่อเต็มคือเมลคิเซเดค ดี. ลิวอิส”
    “งั้นก็ลูกชายของนายเมธ-หมายถึงเมธูเซลาห์น่ะสิ ได้เป็นถึงนักวิทยาศาสตร์ประจำโครงการยักษ์ใหญ่ขนาดนั้นเทียวรึ นึกว่าเพิ่งจบไปไม่นานนี่เอง พ่อเธอก็เป็นนักศึกษาที่ดีมากเชียวนะ ฉันยังจำเวลาที่พ่อเธอไปแข่งขันออกแบบหุ่นยนต์สำรวจดวงดาวได้เลย เขาทำได้ยอดเยี่ยมอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นเชียวล่ะ อ้าว คุยเพลิน ถึงภาควิชาพอดี เข้ามานั่งก่อนสิ เอาน้ำชาหรือกาแฟดี?”
    “เป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ แต่ผมขอน้ำเปล่าก็พอครับ”
    “งั้นเราเริ่มกันเลยนะ - อัลฟา เซนทอรี เป็นดวงดาวนอกระบบสุริยจักรวาลดวงแรกๆที่มนุษย์สามารถวัดระยะทางจากโลกไปได้ มันประกอบด้วยระบบดาวฤกษ์คู่แฝดที่โคจรรอบกันและกันแต่อีกดวงเล็กกว่ามาก คือเบตา เซนทอรี จึงเป็นเสมือนดาวบริวารเท่านั้น ว่ากันว่าหากดาวพฤหัสมีมวลมากกว่านี้อีกสิบเท่า ระบบสุริยะของเราก็จะเป็นระบบดาวคู่แฝดเช่นกัน ปัจจุบันพบดาวเคราะห์ที่มีโอกาสปรับสภาพให้อยู่อาศัยได้ราวเจ็ดดวง โดยถ้าเราเดินทางโดยการโจนผ่านไฮเปอร์สเปซก็จะใช้เวลาราวๆ สัปดาห์นึงคงถึงล่ะนะ”

    “เออ ขอโทษนะครับ ข้อมูลเบื้องต้นนั้นผมก็พอรู้ครับ แต่ผมอยากทราบเรื่องโอกาสพบสิ่งมีชืวิตที่แปลกประหลาดต่างหาก”

    “โอย โทษที คนอย่างเธอก็น่าจะรู้แล้วล่ะนะ ฉันไม่น่าสอนหนังสือสังฆราชนะ เราเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน

    อย่างที่รู้กันว่าดาวแต่ละดวงย่อมมีแรงดึงดูดเป็นของตัวเอง นี่เป็นกฏทางฟิสิกส์ตั้งแต่ยุคก่อนสงครามแล้วโดยเฉพาะดาวฤกษ์ที่มีมวลมากยิ่งมีแรงดึงดูดสูง และแรงดึงดูดนั้นๆก็ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตด้วย ดูง่ายๆก็เช่นเวลาที่พระจันทร์เต็มดวง แรงดึงดูดของดวงจันทร์ขึ้นสูงสุดมีผลต่อพฤติกรรมของสัตว์ต่างๆ เช่นแมลง การผสมพันธุ์ของปะการังรึฟองน้ำ และสัตว์น้ำต่างๆ แม้แต่มนุษย์ที่ยังมีกลุ่มอาการทางจิตบางประเภทที่จะเกิดขึ้นเฉพาะคืนวันเพ็ญเท่านั้น อย่างตำนานมนุษย์หมาป่ารึปีศาจในนิทานโบราณก็ออกอาละวาดตอนพระจันทร์เต็มดวง แล้วไม่คิดบ้างรึไงว่า อัลฟาเซนทอรีที่มีแรงดึงดูดของคู่ดาวฤกษ์จะไม่มีอะไรผิดปกติไปจากโลก”

    “น่าสนใจมากเลยครับ แล้วศาสตราจารย์เคยลองคิดโอกาสที่จะพบสิ่งมีชีวิตเป็นเปอร์เซ็นต์มั้ยครับ?”

    “ฉันว่าถ้าดาวเคราะห์ในเขตนั้นมีลักษณะเอื้อต่อการมีชีวิตล่ะก็ ร้อยทั้งร้อยไม่เหมือนที่โลกแน่”

    “ได้เวลาที่ผมต้องไปแล้วครับ ป่านนี้พ่อผมคงกลับบ้านแล้ว พ่อสัญญาว่าจะมางานเลี้ยงวันเกิดผมนี่”
    “ยินดีด้วยนะ พ่อหนุ่ม แล้วอย่าลืมสอบเข้ามาเรียนกับฉันให้ได้ล่ะ เอ๊ะ นั่นเสียงอะไรมาจากทางศูนย์ข่าวอวกาศ”

    “ข่าวด่วน ยานอวกาศอมตา 4 ที่รับภารกิจสำรวจระบบดาวอัลฟา เซนทอรี หายสาบสูญในอวกาศชั้นสูงระหว่างการเดินทางกลับสู่โลก รายนามนักวิทยาศาสตร์ผู้ควบคุมที่หายสาบสูญมีดังนี้
    ดร.วินธัย ทาเลส
    ดร.เมธูเซลาห์ ลิวอิส
    ดร.เอริค กูเทนสบูร์ก
    ดร................................
    ..................................
    .................................................................................................................................................................”

    “ไม่นะ ต้องไม่ใช่พ่อ!!!”
    แล้วเมลก็ทรุดสลบลงไป







    ++3++

    หลังจากนั้นการสำรวจอัลฟาก็ได้ยุติลงระยะหนึ่ง แต่ต่อมาหลังจากสาธารณรัฐไททันและเครือรัฐอิสระมิรันดา-ไตรตันประกาศแยกตัวออกจากการควบคุมของโลก จึงจำเป็นต้องมีการค้นหาแหล่งทรัพยากรใหม่อีกครั้ง โครงการอัลฟาจึงถูกนำมาปัดฝุ่นใช้ใหม่ ท่ามกลางกระแสต่อต้านของประชาคมอวกาศ และผมก็เปลี่ยนเส้นทางมาเป็นทหาร แต่ก็ยังเกี่ยวข้องกับวงการอวกาศจนได้รับคัดเลือกให้มาเป็นผู้บัญชาการกองเรือนี้
    “หมดเวลารำลึกอดีตแล้ว ได้เวลาแก้ปัญหาล่ะ!”

    ภาพที่ผมนึกเอะใจหลังจากที่ผ่านตาไป มันคือหุ่นยนต์สำรวจ ใช่ หุ่นยนต์รุ่นที่พ่อผมควบคุมมา แต่มันดูไม่เหมือนหุ่นที่ผมเคยเห็นในห้องทดลองที่พ่อเคยพาผมเข้าไปเลย มันต้องมีอะไรที่ผิดปกติควบคุมอยู่

    “ถึงเขต B 20 แล้วครับท่าน”
    “อะไรนั่น กองทัพหุ่นยนต์สำรวจรึยังไง ลองใช้โปรแกรมคำสั่งซิ”
    “..........ไม่ได้ผลครับท่าน”
    “เรา/เรา/เรา ไม่/ไม่/ไม่ ใช่/ใช่/ใช่ หุ่นยนต์ เรา/เรา/เรา คือ/คือ/คือ อัลฟา”
    “พวกท่านต้องการอะไร?”
    “เรา/เรา/เรา ไม่/ไม่/ไม่ ต้องการ คน/คน/คน โลก/โลก/โลก”
    “พวกเขาหมายถึงไม่ต้องการให้พวกเรายุ่งเกี่ยวกับดาวดวงนี้!”
    “ดร.วิลเฮล์มิน่า! ผมยินดีที่คุณปลอดภัย”
    “ช่างดิฉันเถอะ ฉันผิดเองที่ไม่เชื่อคุณ”

    หุ่นที่อ้างตัวว่า เป็นอัลฟ่าตัวหนึ่งส่งสัญญาณให้หุ่นตัวอื่นๆคุมกองโยธาที่ 4 และดร.วิลเฮล์มิน่าออกมายังยานขนส่ง ดูสภาพพวกเขาแล้วก็ยังปลอดภัยดีทุกคน

    “พวกท่านคือใคร ทำไมมีรูปร่างเหมือนหุ่นยนต์ของพ่อผม?”

    “เราคืออัลฟ่า ผู้เริ่มต้น พวกเจ้า คนโลกเรียกเราเช่นนี้ ที่เรามีรูปร่าง เพราะเราแฝงรูปร่างแล้วก่อใหม่ ที่นี่เป็นของอัลฟ่าไม่ใช่ของคนโลก จงไปเสียโดยดีมิเช่นนั้นจะเป็นเหมือนคนโลกชุดที่แล้ว ไม่เหลือเลย ไม่เหลือเลย”

    แผ่นดินเริ่มยุบตัวเข้าหากัน คลื่นน้ำทะเลที่อยู่ไกลๆม้วนตัวสูงจนเห็นได้ชัด ฟ้าและเมฆลอยต่ำลงเหมือนจะกลืนกินพวกเราเอาไว้

    “ท่านผู้บัญชาการ โปรดให้คำสั่ง สู้หรือถอย ด่วนครับ”
    “ท่านผู้บัญชาการคะ เมล เมล กลับกันเถอะ โลกนี้เป็นของเขา ไม่ใช่ของเรา พูดตรงๆก็คือ เขา/อัลฟา คือพิภพนี้”
    “พวกมันฆ่าพ่อผม!”
    “ไม่ใช่เวลาของเราค่ะ ไปก่อนเถอะ ก่อนที่จะสาย”
    “พวกมันฆ่าพ่อผม!!!”
    “พูดไม่รู้เรื่องรึไงหา! ไปกันได้แล้ว!” แล้วเธอก็ลากผมขึ้นไปยังยานลำเลียงและเข้าสู่ยานแม่อย่างรวดเร็ว

    “เดินหน้าเต็มที่ เป้าหมาย กลับโลก อืม ก่อนจากไปพิภพที่มีสิ่งมีชีวิตเช่นนี้เป็นอันตรายแน่ หน่วยขีปนาวุธ ยิงเทอร์รา แพลเน็ต บัสเตอร์ เป้าหมายทำลายอัลฟา!”

    “ครับ เตรียมยิง 3…..2….1….ยิง!!!!!!!!!!”

    เสียงระเบิดสลายอะตอมขนาดทำลายล้างพิภพดังขึ้น แต่ไม่ใช่ที่อัลฟา เป็นที่ยานแม่ซาเลมนั่นเอง
    สิ้นสติสำนึกสุดท้าย ผมได้แต่สงสัยว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ แต่พอคิดดูดีๆแล้ว ทำไมผมไม่เอะใจเลยว่า คำพูดสุดท้ายที่ดร.วิลเฮล์มิน่าพูดกับผมก่อนขึ้นยานคือ
    “ลา/ลา/ลา แล้ว อัลฟ่า!”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×