ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5
ลูเคียเดินแกว่งถุงขนมที่ซื้อจากร้านมาซาคิไประหว่างทางกลับหอ
ฟ้ากลายเป็นสีดำสนิทไปแล้ว แต่ลูเคียมองไม่เห็นดวงดาวเพราะไฟในมหาวิทยาลัยมันส่องสว่างไปทั่วทั้งฟ้า
ก้มดูนาฬิกา...เวลาก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว
หมดไปอีกวันอย่างเหงาๆ...
แต่แล้วมือถือในมือก็สั่นกึกๆเพราะมีสายเข้า ลูเคียก้มลงมองแล้วหัวใจก็หยุดเต้น
เขาโทรมา!...
เขาโทรหาเธอด้วย!!...
ความตื่นเต้นทำเอามือไม้สั่นพั่บจนแทบทำมือถือตกจากมือ แต่ก็รีบกดรับก่อนที่จะคิดฟุ้งซ่านอะไรมากไปกว่านี้จนพลาดโอกาสดีๆไป
"ค่ะ ลูเคียค่ะ"
"ทำอะไรอยู่"
"เอ่อ...กำลังกลับหอค่ะ ออกไปซื้อขนมปังมา" เธอตอบรัวๆอย่างไม่ต้องคิดมาก ก็สติมันกระเจิงไปหมดแล้ว คิดอะไรไม่ออกหรอก
"ว่างอยู่หรือเปล่า"
"ค่ะ ว่างค่ะ" สำหรับรุ่นพี่แล้วหนูว่างเสมอค่ะ!! ว่างมากๆด้วย!!!
"ผมจะไปซื้อของในเมืองน่ะ ไปด้วยกันไหม?"
โธ่...นึกว่าจะชวนไปหาที่ห้อง
ลูเคียคิดเสียดายในใจ
เฮ้ย! บ้าเหรอ?! เค้าจะชวนไปที่ห้องทำไมกันเล่า?!
"ค่ะ ไม่มีอะไรทำอยู่พอดีค่ะ" ไปนั่งเล่นที่ห้องรุ่นพี่ก่อนได้ไหมคะ?
ได้แต่คิด...ไม่กล้าจะพูดเรื่องน่าอายแบบนั้นออกไปหรอกน่า!
"ตอนนี้อยู่ที่ไหน? ถึงหอรึยัง?" เขาถามอีก
ลูเคียหันมองรอบตัว "ยังค่ะ อยู่ตรงสนามแบดน่ะค่ะ"
"งั้นรออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวผมไปรับ" เสียงเขาบอกก่อนจะตัดสายไปห้วนๆแบบนั้น
ลูเคียเอามือถือมาเพ่งดูทั้งที่ปลายสายมันตัดไปแล้ว เธอทำหน้าเหมือนไม่แน่ใจว่าฟังผิดหรือเปล่า
ก็แถวนี้น่ะเป็นสนามกีฬา มีคนมาเล่นกีฬาอยู่เต็มไปหมด จะขี่รถมารับตอนคนเยอะๆแบบนี้มันผิดกฎพี่ว๊ากไม่ใช่รึไง?
แต่ตอนนี้เธอก็ทำอะไรมากไม่ได้นัก นอกจากยืนรอเขาอยู่ตรงนั้นตามที่เขาบอก
ไม่นานนักก็มีรถยนต์คันนึงมาจอดตรงที่เธอหยุดยืน แต่ลูเคียไม่ได้สนใจ เธอเอาแต่มองหารถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของเขา จนกระทั่งกระจกรถของรถยนต์คันนั้นเลื่อนลงมาพร้อมกับเสียงเรียกคุ้นหู
"ลูเคีย ขึ้นรถสิ"
"รุ่นพี่?!" ลูเคียเบิกตากว้าง เพราะเธอไม่ได้นึกถึงมาก่อนเลยว่าเขาจะขับรถยนต์มาแบบนี้...นึกว่าเขามีแต่รถมอเตอร์ไซค์เสียอีก!
"จะไปไหม?" เขาย้ำเมื่อเห็นเธอยืนเก้ๆกังๆ ไม่ยอมขึ้นรถสักที
"ไปค่ะ ไป" ว่าแล้วรีบเปิดประตูเข้ามานั่งพร้อมหัวใจเต้นแรง "นี่รถรุ่นพี่เองเหรอคะ?"
รถญี่ปุ่นคันขนาดกระทัดรัดเริ่มเคลื่อนตัวไปพร้อมๆกับที่ตอนเบียคุยะพูดตอบ "อืม จริงๆก็ไม่ชอบคันนี้เท่าไหร่หรอก แต่มันดูไม่เตะตาดีเวลาเอามาขับแถวนี้"
"แปลว่าที่บ้านมีอีกหลายคัน?"
"ก็หลายคัน"
ลูเคียย่นคิ้วน้อยๆ ฟังดูเป็นลูกผู้ดีมีชาติตระกูล พร้อมสรรพด้วยทรัพย์สฤงคารจริงๆ หันกลับมาดูตัวเองที่เกิดมาแบบไม่เพียงจะไร้สมบัติติดตัว แม้แต่ครอบครัวก็พากันลาโลกหนีเธอไปกันหมดตั้งแต่เธอเกิดมา
เธอตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่จะอิจฉาตาร้อนในโชคลาภวาสนาของเขาไปมากกว่านี้
"รุ่นพี่ทานข้าวหรือยังคะ?"
"ยัง" เขาตอบแล้วหันมาเห็นถุงขนมปังในมือของลูเคีย คิ้วนั้นขมวดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจจนลูเคียรู้สึกได้ "ไปซื้อขนมปังร้านนั้นอีกแล้วเหรอ?"
ลูเคียได้แต่พยักหน้า แต่ไม่กล้าพูดความจริงหรอกว่า จริงๆแล้วน่ะเธอไม่อยากกินหรอก แค่อยากไปดักรอ เผื่อฟลุกเจอเขาก็เท่านั้นแหละ
"ร้านนี้ขายถูกดีค่ะ"
"ผมไม่ถูกกับร้านนั้น" เขาบอกเสียงเครียด น้ำเสียงเหมือนจะเข้าขั้นเกลียดเลยด้วยซ้ำ
ลูเคียคาดไม่ถึงมาก่อน ได้แต่ทำหน้ากระอักกระอ่วน "งั้นหนูเลิกซื้อขนมปังร้านนี้ก็ได้"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดี"
เด็กสาวนึกคันปากอยากจะถามเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องไปเกลียดกันขนาดนั้น แต่ก็กลัวจะละลาบละล้าวหรือไปโดนแผลใจอะไรเขาเข้า ยิ่งเจอน้ำเสียงแบบไม่อยากพูดถึงร้านขนมปังของมาซาคิแบบนั้นด้วยแล้ว เธอก็คงต้องเลิกไปซื้อร้านนั้นตามที่รับปากไว้ ถึงแม้ใจจะนึกเสียดายอยู่หน่อยก็เถอะ
"แล้วนี่รุ่นพี่จะไปซื้ออะไรหรือคะ?" ลูเคียถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อเส้นทางที่เขาขับรถพาเธอไปนั้น มันชักจะเปลี่ยวขึ้นทุกทีๆ และไม่ใช่ทางที่จะเข้าไปยังตัวเมืองที่เขาบอกว่าจะไปซื้อของ
"ไม่ซื้อ"
"เอ๋!?" เธออุทานเสียงสูง "ก็ไหนเมื่อกี๊บอกว่า-"
"ก็แค่ข้ออ้าง อยากหาเรื่องมารับไปนั่งรถเล่น"
"ปกติก็ไปด้วยอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องอ้างอะไรเลยนี่คะ?" ลูเคียแปลกใจจริงๆ
"หลังจากเรื่องเมื่อคืน ผมกลัวคุณจะไม่ยอมมาด้วย" เขาละสายตาจากหน้ารถมามองเธอแว่บหนึ่ง "ตกลงคุณไม่โกรธใช่ไหม?"
"ทำไมต้องโกรธ ในเมื่อหนูยอมเอง รุ่นพี่ไม่ได้ขืนใจหนูเสียหน่อย"
"ถ้าอย่างนั้น..." เบียคุยะพูดค้างไว้แล้วตบไฟเลี้ยวเพื่อจอดตรงข้างถนน ลูเคียมองอย่างงงๆปนไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของเขา
เบียคุยะเปิดรถเดินลงมาเปิดประตูฝั่งลูเคียเป็นการเชิญเธอลงจากรถ ลูเคียลงมาแบบมึนๆ ไม่ทันได้ถามอะไรก็สังเกตเห็นว่าเขาพาเธอมายังสถานที่แห่งหนึ่งที่ดูคล้ายอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีไฟถนนสีส้มอยู่ห่างกันเป็นจุดๆ แต่ละจุดค่อนข้างไกลกันและไม่ได้ส่องสว่างมากนัก และตรงที่เขาจอดรถ ก็นับว่ามืดพอดู
"รุ่นพี่...จะทำอะไรคะ?" เธอถามอย่างนึกหวั่นเล็กน้อย อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาฆ่าเธอปิดปากตรงที่ๆเปลี่ยวแบบนี้ อีกนานไหมกว่าจะมีคนมาพบศพเธอ
"มาตรงนี้สิ" เบียคุยะยื่นมือไปให้เธอจับ แม้ลูเคียจะหวาดๆอยู่บ้างแต่ก็ยื่นมือไปจับมือเขาแต่โดยดี
หรือจะโดนจับกดน้ำกันนะ?
ไม่เอานะ! ศพขึ้นอืดในน้ำมันทุเรศจะตาย!
แต่สิ่งที่เธอเดาและคิดไปเองอยู่ในใจก็ไม่ได้เกิดขึ้น เมื่อเขาจูงมือเธอผ่านแนวต้นไม้สูงที่เรียงตัวเป็นรั้วรอบทะเลสาบจนเห็นทิวทัศน์สวยสดเบื้องหน้า
ดวงจันทร์กลมสุกใสส่องสว่างอยู่กลางฟ้า ไร้เมฆหมอกใดมาบดบังความงาม จันทร์สีขาวที่ลอยเด่นท่ามกลาวฟ้าที่มืดมิดเพราะไร้ดาวที่จะเปล่งแสงแข่งขันไม่ใช่สิ่งเดียวที่ดึงดูดความสนใจของลูเคีย
จันทร์สีขาวอีกดวงที่สะท้อนจากผิวน้ำที่มีระลอกคลื่นเล็กๆนั้นต่างหากที่ทำให้ลูเคียหลงใหลมันแทบจะในทันที
ทะเลสาบยามค่ำ ณ ตอนนี้มันทำหน้าที่คล้ายกระจกบานใหญ่ที่ส่องสะท้อนทุกสิ่งอย่างบนฟากฟ้า และกำลังขับเงาดวงจันทร์แข่งกับจันทราดวงจริงที่สุกสกาว ทิวทัศน์รอบด้านนั้นเงียบสงบ สายน้ำทำให้รู้สึกเย็น และความงามไร้คำบรรยายทำให้ลูเคียค่อยๆนั่งลงกับพื้นหญ้าอ่อนนุ่ม โดยที่เบียคุยะนั่งลงข้างๆกัน
"ชอบไหม?"
"ชอบค่ะ มันสวยมากเลย" ลูเคียตอบอย่างไม่สามารถละสายตาจากความสวยงามเบื้องหน้าได้เลย
"นี่เป็นสถานที่ลับของผม เวลาคิดอะไรไม่ออก ผมชอบมานั่งที่นี่คนเดียวเงียบๆ"
"ฟังดูเหมือนเป็นฐานทัพลับของเด็กประถมเลยนะคะ" เธอหัวเราะ
"จะว่าไปก็คล้ายๆอย่างนั้น" เขายิ้มน้อยๆ ภาพตรงหน้ามันสวยเสียจนทำให้เขานั่งดูมันได้ครึ่งค่อนคืนเลยเชียวล่ะ
"มองแล้วรู้สึกสบายใจมากๆเลยค่ะ"
"ผมก็เหมือนกัน"เบียคุยะพูดแล้วทำท่าล้วงของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง
ลูเคียผงะไปเล็กน้อยก่อนจะเห็นว่าที่เขาหยิบออกมาคือพวงกุญแจ
"กุญแจห้องผมน่ะ" เขาบอกและเอื้อมมือมาคว้ามือลูเคียให้แบออกเพื่อจะยัดมันใส่มือของเธอ
เด็กสาวรุ่นน้องมองเขากลับอย่างไม่แน่ใจ...คนที่ให้กุญแจห้องของตัวเองกับอีกฝ่ายไว้ มันเท่ากับจะบอกเป็นนัยๆว่าเธอเป็นของเขา มีสิทธิ์ในตัวเขาและแม้แต่ห้องของเขา...ไม่ใช่รึ?!
"รุ่นพี่คะ นี่มัน-"
"ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าถึงผมจะเมาแต่ผมก็จริงจังกับคุณ"
ลูเคียทั้งอึ้งทั้งตกใจ ไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขาจะมาถึงจุดนี้ในเวลาไม่นาน และไม่คิดด้วยว่าเขาจะมีใจให้เธอ
"จากนี้ไป คุณจะมาห้องผมเมื่อไหร่ก็ได้ ทุกอย่างของผมก็คือของของคุณเช่นกัน" เขาเอ่ยเนิบๆเหมือนผิวน้ำในทะเลสาบ
"แน่ใจแล้วหรือคะ?" ลูเคียถาม ถึงแม้หล่อนจะดีใจ แต่ก็แปลกใจอยู่ในที "หนูน่ะยังไงก็ได้ เพราะยังไงก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะรักรุ่นพี่ต่อไป แต่ถ้ารุ่นพี่ต้องฝืนใจทำอะไรแบบนี้เพราะต้องการรับผิดชอบหนูล่ะก็ มันไม่ได้ทำให้หนูดีใจหรอกนะคะ"
"ลูเคีย..."
"หนูรอได้ จนกว่ารุ่นพี่จะหันมารักหนูบ้าง หรือจะเลิกกัน จะทิ้งกันไปก็ไม่เป็นไร เพราะหนูทำใจไว้แล้ว" คำพูดจากหัวใจดวงน้อยๆพรั่งพรูออกมาด้วยความอัดอั้น "หรือถ้าวันไหนรุ่นพี่ไปรักผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่หนู ก็ขอแค่ให้บอกมา หนูจะไม่รั้งรุ่นพี่ไว้หรอกค่ะ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องฝืนตัวเองหรอกนะคะ"
"พูดจบหรือยัง?" เขากลับถามเสียงหงุดหงิดจนลูเคียใจเสีย แต่ทันใดนั้นเขาก็ดึงร่างเธอไปกอดเอาไว้ "หยุดพูดอะไรแบบนี้สักที"
"แต่หนู..." ดวงตานั้นหม่นลง "...แค่อยากบอกเอาไว้"
"ผมบอกให้หยุดพูด" เขาบอกเสียงดุดันราวกับสวมบทพี่ว๊ากในห้องเชียร์อยู่ "แล้วฟังสิ่งที่ผมพูดบ้าง"
"รุ่นพี่..."
"จะให้บอกอีกกี่ครั้ง ผมก็จะยืนยันว่าผมจริงจัง" เขากอดเธอแน่น แม้จะเป็นความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มแต่เขาก็หมายความตามที่พูด "จริงอยู่ที่ผมยังไม่ได้ไปถึงขั้นรักคุณ แต่คุณให้โอกาสผมสักนิดจะได้ไหม?"
ลูเคียพยักหน้าแรงๆ... เพื่อเขาแล้วเธอพร้อมจะทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ แล้วนี่ เขาขอแค่โอกาส ทำไมเธอจะให้ไม่ได้
เสียงเบียคุยะถอนหายใจอย่างโล่งอก "อยู่กับผม อย่าทิ้งผมไปนะ" เขากระซิบเสียงอ่อน
คำพูดนั้นทำใจลูเคียอ่อนยวบ จากที่คิดมาตลอดว่าเธอควรจะเป็นฝ่ายเฝ้ารอว่าจะถูกเขาทิ้งเมื่อไหร่ กลับกลายเป็นว่าเขาเองก็กลัวจะเสียเธอไป...มันเป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงมาก่อน
เธอกุมมือเขาที่กอดเอวเธอไว้แล้วบีบเบาๆ "หนูสัญญา หนูจะไม่ทิ้งรุ่นพี่ไปไหน"
"ขอบคุณ"
ลูเคียรู้สึกได้ว่าเขาก้มหน้าแนบกับศีรษะของเธอ เธอยิ้มออกมาบางๆ
"ผมชอบคุณมากจริงๆนะ"
ลูเคียยิ้มกว้างขึ้น ถึงจะเป็นแค่ชอบ...แต่ความหวังที่มันจะกลายเป็นรักในอนาคต ก็ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียว
ดวงตาสีม่วงมองไปไกลด้วยใจที่สงบเยือกเย็น...ขอเพียงเขาต้องการเธออยู่ข้างกาย เพียงเท่านี้ เธอก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว...
********
หนึ่งเดือนต่อมา...
สองมือแกร่งที่ร้อนดังไฟนั้นลากไปทั่วร่างของเธอไม่หยุด เฉกเช่นเดียวกับร่างกายท่อนล่างที่โถมเข้าใส่เป็นจังหวะ
จากลำคอสู่เนินไหล่ ลูบไปตามชายโครงเล็กของหุ่นผอมบาง ทุกสัมผัสที่มือหนานั้นลากผ่านทำเอาผิวกายบริเวณนั้นทวีความร้อนรุ่มขึ้นอีกเท่าตัว ทั้งวาบหวามเสียวซ่าน ทั้งความปรารถนาที่รุมร้อน ทำเธอแทบขาดใจ
"รุ่นพี่คะ...อึก..." สาวน้อยวัยสิบแปดหน่อยๆที่อยู่ใต้ร่างเขา ปรือตาขึ้นมองเขาด้วยความสิเน่หา...และเปี่ยมล้นด้วยความต้องการที่ใกล้จะถึงจุดทะลักทลายในไม่ช้า
เพียงคำสั้นๆ แต่ก็เพียงพอจะทำให้ร่างสูงของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเทียบชั้นดาวมหาลัยเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของเขากับเธอ
"เข้าใจแล้ว" เขาเอ่ยด้วยแรงหอบกระชั้นที่ตัวเองก็แทบจะรั้งความต้องการของตนไว้ไม่ไหว
เขามองร่างของเธอ ผิวกายสะอาดเนียนนุ่มทั้งยังขาวดั่งน้ำนมไหววูบไปมาตามแรงที่เขากระแทกใส่ จนกระทั่งทั้งคู่ไปถึงจุดหมายในเวลาเดียวกัน จึงค่อยๆทิ้งกายเอนตัวลงนอนเคียงข้างเด็กสาว
"เสร็จกี่ที" เขาถามหน้าตาย
หญิงสาวถลึงตามองเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ เธอคว้าหมอนใบเล็กข้างตัวมาปิดหน้าด้วยความอาย
"สองค่ะ" เธอตอบเสียงงุบงิบ สายตามองหาชั้นในของเธอที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นเป็นการแก้เขิน
เบียคุยะหย่อนของใช้แล้วเหล่านั้นที่ห่อหุ้มด้วยกระดาษทิชชูอย่างแน่นหนาลงถังขยะก่อนจะกลับมานอนลงข้างๆเธอ "น้อยกว่าปกตินะ" อ้อมแขนอุ่นดึงรั้งสาวน้อยสู่อ้อมกอดแล้วกระซิบอีก "พอหรือเปล่า? ถ้าไม่พอจะต่อก็ได้นะ"
ลูเคียแสร้งทำเมินทั้งที่อายสุดขีด เธอดึงผ้าห่มมาห่มร่างจนถึงคอ "แค่นี้หนูก็เหนื่อยจะแย่แล้วนะคะ รุ่นพี่"
ชายหนุ่มพยักหน้า แต่ใต้ผ้าห่มนั้น เขากลับล้วงมือควานไปยังร่างที่ยังร้อนฉ่าของเธอ "แน่ใจนะว่าพอ? ใช้นิ้วให้เอาไหม?"
"พอแล้วค่ะ!" ลูเคียตอบพลางรีบคว้ามือเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะทำการรุกรานร่างกายเธออีกเป็นคำรบสอง
เบียคุยะยิ้มน้อยๆ ดึงมือออกจากผ้าห่มอย่างยอมแพ้แล้วเชยคางเธอขึ้นมาจูบเบาๆ
เขา...นักศึกษาปีสี่ ผู้เป็น "รุ่นพี่" ของเธอ
และเธอ...นักศึกษาปีหนึ่ง เข้าใหม่หมาดๆยังไม่ทันจะครบสามเดือนดีด้วยซ้ำ
"หนูรักรุ่นพี่นะคะ" ลูเคียช้อนสายตาหวานขึ้นมองขณะบอกรักเขา
วงแขนบางโอบรอบกายเปลือยของอีกฝ่ายอย่างหวงแหน
"ผมรู้..." เบียคุยะเอ่ยตอบพร้อมกับย้ำจุมพิตลงไปอีกหน
แต่คนฟังรู้สึกเจ็บแปลบในอกเล็กๆ เพราะเธอทุ่มเททุกอย่างให้เขา แม้กระทั่งร่างกายของตน...แต่เขาก็ไม่เคยเอ่ยสักคำว่ารักเธอ ไม่เคยจะหลุดปากออกมาแม้สักหน
เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่าเพียงเท่านี้ก็ดีแค่ไหน สำหรับการหลงรักรุ่นพี่ที่เป็นหนึ่งในที่นิยมของคณะเธอได้ขนาดนี้
แค่ได้เป็นเจ้าของร่างกายเขา...ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?
แถมระยะเวลาแค่สามเดือน...จะไปหวังอะไรให้มันมากมายกันเล่า?
เธอคิดแบบนั้นแล้วก็ยิ้มหวานออกมา ดันศีรษะตัวเองไปซุกกับอกอุ่นที่ยังชื้นเหงื่อจากกิจกรรมที่เพิ่งทำ
"เพิ่งจะห้าโมงเย็น หลับซะหน่อยสิ" เขาไล่ปลายจมูกมาหอมที่หน้าผากเธอ "ถึงเวลาไปห้องเชียร์เมื่อไหร่ ผมจะปลุก"
ลูเคียพยักหน้าทั้งที่หลับตาไปแล้ว ความเหนื่อยอ่อนและหมดแรงจากการร่วมรักกับเขา ทำให้เธอไม่มีแรงจะปฏิเสธอะไร...เพียงได้นอนกอดเขาและหลับไปในอ้อมแขนอุ่นแบบนี้
เธอก็มีความสุขมากที่สุดแล้ว...
******************
การรับน้องจบลงแล้ว...พร้อมกับการปิดตัวลงของห้องเชียร์
เสียงเด็กปีหนึ่งคุยกันเจี๊ยวจ๊าว ต่างก็แย่งกันพูดคุยเมาท์มอยถึงความประทับใจในเหตุการณ์พิธีปิดห้องเชียร์เมื่อครู่ ขณะที่เหล่าเด็กสาวต่างรุมส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดและเข้าไปพูดคุยกับพี่เชียร์พี่ว๊ากที่ตนคลั่งไคล้หลงใหล
เวลาแห่งการเปิดเผยตัวตนมาถึงแล้ว พี่ว๊ากทั้งหลายก็ไม่จำเป็นต้องทำลับๆล่อๆหลบหน้าพวกน้องๆอีกต่อไป ทั้งยังไม่ต้องสวมหัวโขน ตีหน้าดุ ทำเสียงเกรี้ยวกร๊าด อย่างในห้องว๊ากอีกด้วย
ลูเคียแอบมองเบียคุยะที่ถูกเด็กปีหนึ่งรุ่นเดียวกับเธอ ทั้งสาขาเดียวกันและต่างสาขาพากันรุมล้อมหน้าล้อมหลังแล้วถอนหายใจ...ช่างเป็นคนเสน่ห์แรงอะไรอย่างนี้นะ?!
แต่แล้วลูเคียก็อดยิ้มเยาะไม่ได้ขณะที่คิดในใจว่า ต่อให้สาวๆพวกนี้หลงเบียคุยะมากแค่ไหน ก็มีสิทธิ์แค่ได้ยลโฉมเขาเท่านั้นแหละ ในขณะที่ตัวเธอนั้นเป็นคนที่ได้ครอบครองร่างกายของเขา ไม่ว่าจะร่างกายส่วนไหนของเขา มันก็ผ่านมือเธอคนนี้มาหมดแล้ว!
ลูเคียคิดพลางกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างรู้สึกว่าตนเหนือกว่าสาวๆพวกนั้นหลายขุม
หนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น ถึงแม้เธอจะรับกุญแจห้องของเขาไว้ตามที่เขาขอร้อง แต่เธอก็ไม่เคยถือวิสาสะใช้มันเองเลยสักครั้ง จะมีก็แต่เขาโทรหาเธอในตอนเย็นหลังเลิกเรียนหรือหลังห้องเชียร์เสมอ และเขาก็เป็นฝ่ายเรียกหาเธอทุกครั้งให้มาหาที่ห้อง...และทุกครั้งนั้น ก็จบลงบนเตียงของเขาเสมอมา
อย่างน้อย การไม่ทำตัวง่ายจนเกินไปอย่างการไปเสนอตัวให้เขาถึงที่และเป็นฝ่ายนั่งรอโทรศัพท์เชิญชวนจากเขาแทน ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกว่ายังมีค่าสำหรับเขาอยู่ เพราะนั่นมันหมายถึงว่าเขาต้องการเธอ
หันไปอีกฝั่งก็เห็นรุ่นพี่ไอเซ็นพยายามเดินฝ่าวงล้อมน้องๆไปหาฮินาโมริที่ยืนคุยกับพี่รหัสของตัวเองที่ชื่อ อิเสะ นานาโอะ
ลูเคียยิ้มและพยายามกลั้นหัวเราะเต็มที่เพราะรู้ว่าวันนี้ไอเซ็นจะเดินเข้าไปบอกโมโมะว่าตนเองนั้นเป็นปู่รหัสที่คอยฝากขนมนมเนยไปให้อยู่เสมอ ลูเคียจ้องอย่างไม่อาจละสายตาด้วยอยากเห็นสีหน้าและท่าทางของโมโมะเต็มแก่ว่าจะเป็นยังไงเมื่อรู้ความจริง
ไอเซ็นพยายามปลีกตัวจากบรรดาเด็กสาวได้สำเร็จเมื่อเดินไปถึงตรงที่โมโมะยืนอยู่ โมโมะมองไอเซ็นด้วยความประหลาดใจและเขินจัดที่เห็นคนที่ตนแอบชอบมาปรากฏกายอยู่เบื้องหน้า แสงไฟสปอร์ตไลท์ที่ส่งไปทั่ว ทำให้มองเห็นแก้มแดงๆของโมโมะได้ชัดเจน
ลูเคียเห็นไอเซ็นยิ้มกว้างก่อนจะเริ่มพูดคุยกับเพื่อนของเธอ ซึ่งลูเคียเดาเอาว่าเขาต้องกำลังบอกความจริงอยู่แน่ๆ ลูเคียเห็นรอยยิ้มกระจ่างบนใบหน้าเด็กสาวค้างอยู่อย่างนั้น ก่อนที่นาทีถัดมาร่างเล็กๆนั้นก็ล้มทั้งยืนด้วยความช็อคสุดขีด
ลูเคียถอนใจ...ยัยโมโมะตกใจจนเป็นลมล้มพับไปแล้ว ร้อนถึงไอเซ็นต้องอุ้มไปทางหน่วยพยาบาลที่อยู่ไม่ไกล
"ลูเคียจางงงง" เสียงเรียกของพี่รหัสเธอนั้นมาก่อนที่ตะปรากฏตัวเสียอีก
หันไปก็เจอร่างเล็กๆตันๆพุ่งเข้ากอดเธอด้วยความเร็วสูง
"ปิดห้องเชียร์ซะทีน้า!!" คิโยะเนะบอกอย่างร่าเริง แต่ยังไม่ทันที่ลูเคียจะตอบ ก็มีมือแกร่งคว้าตัวคิโยเนะถอยออกไปจากการกอดรัดฟัดเหวี่ยง
"เดี๋ยวลูเคียจังก็หายใจไม่ออกตายพอดี!" เจ้าของเสียงนั้นคือลุงรหัสของเธอ โคสึบากิ เซ็นทาโร่ ที่ใจดีกับเธอไม่แพ้กัน
"นิดๆหน่อยๆน่า" คิโยเนะหันไปบุ้ยปากใส่พร้อมต่อล้อต่อเถียง "เอ...หรือว่าพี่อยากจะกอดลูเคียบ้างแต่กอดไม่ได้ก็เลยอิจฉาน่ะ!"
เซ็นทาโร่เลยถลึงตาเข้าใส่ "จะบ้าเหรอ! ใครจะบ้าทำอย่างอย่างนั้นกันฟระ?!"
"ไม่อยากก็ไม่อยาก เอ้า! เอาขนมมาให้น้องได้แล้ว!" คิโยเนะว่าพลางดึงถุงขนมที่อยู่ในมือเซ็นทาโร่มาให้ลูเคีย แต่เซ็นทาโร่ก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ทั้งยังยื้อแย่งกลับไป
"เฮ้ย! อันนี้ของชั้น เธอมาเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย?!" เซ็นทาโร่ว่าแล้วกระชากถุงขนมกลับไป
"โธ่ ของพี่กับของชั้นก็เหมือนๆกันนั่นแหละ!" คิโยเนะพูดอย่างชวนทะเลาะ แล้วดึงถุงขนมนั้นกลับไปให้ลูเคียจนได้
ลูเคียมองพี่รหัสกับลุงรหัสของตัวเองแล้วก็ได้แต่หัวเราะ ในใจก็คิดว่าสองคนนี้นี่เข้ากันได้ดีจริงๆ
เธอรับถุงขนมมาแล้วเอ่ยขอบคุณ "ขอบคุณค่ะ ของเก่าหนูก็ยังกินไม่หมดเลย"
"กินไปเถอะ กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ" คิโยเนะว่าสีหน้าระรื่น ส่วนเซ็นทาโร่ทำท่าหันรีหันขวางเหมือนมองหาใครบางคน
"คงไม่โตไปกว่านี้แล้วล่ะค่ะ" ลูเคียหัวเราะ จากนั้นก็รีบเสนอความคิดที่คิดมาตั้งแต่เมื่อคืน "พี่คิโยเนะคะ ถ้ายังไง เดี๋ยวเราไปนั่งร้านนมกันไหมคะ เดี๋ยวหนูเลี้ยงเอง"
"ดีๆ เอาเลย!" พี่รหัสเธอตกปากรับคำทันควันแบบไม่ต้องคิดพร้อมกับหันไปหาเซ็นทาโร่ "งั้นรอ "พี่" เค้ามาแล้วเราก็ไปกันเถอะนะ!"
"เออๆ" เซ็นทาโร่พูดตอบแบบส่งๆ เพราะสายตายังกวาดไปทั่ว "เอาตามนี้ก็ได้"
ลูเคียเห็นแล้วก็แปลกใจ ยิ่งมีการพูดถึง "พี่" ที่ไม่รู้ว่าพี่ไหนกัน เธอก็ยิ่งไม่เข้าใจ ด้วยความสงสัยก็เลยกระซิบถามคิโยเนะ "พี่เซ็นทาโร่มองหาใครเหรอคะ?"
"ความลับ!" คิโยเนะกลับไม่ยอมบอกเธอเสียดื้อๆซะอย่างนั้น
"อ้าว แล้วกัน" ลูเคียบุ้ยปาก แต่ก็มองตามสายตาของเซ็นทาโร่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนัยน์ตาที่กลอกไปมาของลุงรหัสเธอหยุดลงที่ใครคนหนึ่ง
ลูเคียขมวดคิ้วอย่างไม่แน่ใจว่ามองไปถูกที่หรือเปล่า...ปลายทางที่เซ็นทาโร่มองนั้นน่ะ
คือ เบียคุยะ...
คิ้วบางสั้นของเด็กสาวขมวดหนักกว่าเดิมขณะมองต้นทางสลับกับปลายทางของสายตานั้น
...ไม่จริงนะ...อย่าบอกนะว่า...
แล้วเซ็นทาโร่ก็ยกมือขึ้นสูงโบกไปมา...เบียคุยะยกมือตอบคล้ายจะบอกว่ารู้แล้ว
ลูเคียรู้สึกเหมือนจะหน้ามืดขึ้นมาหลัดๆ ยิ่งเบียคุยะเดินแหวกฝูงเด็กสาวที่ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่มายังเธอ เธอก็รู้สึกอย่างกับลมจะใส่
"นั่นไงๆ มาโน่นแล้ว!" เสียงคิโยเนะดังอยู่ข้างๆ แต่ลูเคียได้ยินไม่ค่อยชัดหรอก เพราะตอนนี้หูอื้อตาลายไปหมดแล้ว
แล้วเบียคุยะก็มาหยุดยืนตรงหน้าของเธอ...อยู่ในวงล้อมของครอบครัวเล็กๆของเธอ
เซ็นทาโร่ยิ้มกว้างแล้วผายมือไปทางเบียคุยะ น้ำเสียงเข้มกังวานเอ่ยอย่างภาคภูมิให้ลูเคียฟัง
"ลูเคีย นี่ปู่รหัสของเรานะ ชื่อ คุจิกิ เบียคุยะ"
**********************************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น