เช้าวันต่อมา...
เสียงมือถือหน้าตาโบราณสุดกู่ทั้งร้องทั้งสั่นเมื่อถึงเวลาที่ผู้เป็นเจ้าของตั้งปลุกเอาไว้
ลูเคียโงหัวขึ้นมาเล็กน้อยแล้วกวาดมือควานหาเจ้าตัวต้นเสียงไปทั่วทั้งที่ยังงัวเงีย
ไอ้โทรศัพท์บ้า อยู่ไหนล่ะเนี่ย?!
เธอมักจะวางมันไว้ข้างหมอนตอนก่อนนอนเสมอ แต่ทำไมวันนี้มันถึงไม่อยู่ข้างหมอนเหมือนอย่างเคย? แม้จะกางแขนทั้งสองข้างออกกวาดไปมา ก็ยังหาเจ้าโทรศัพท์นั่นไม่เจอ
...หรือมันจะตกพื้น?
เธอคิดแล้วเริ่มกลิ้งตัวเบาๆ กะแค่ให้ไปหยุดแค่ขอบเตียง
กลิ้งหนึ่งรอบ...
..?!..
ขอบเตียงหาย!?
ลูเคียตาสว่าง รีบลุกพรวดขึ้นมานั่ง...ขอบเตียงไม่ได้หาย แต่เตียงเธอหายไปทั้งเตียงเลยต่างหาก!!
แต่แล้วร่างเล็กก็เอามือปิดหน้า ทิ้งตัวลงกับเตียงดังตุ้บ
ใช่ที่ไหนกันเล่า ยัยบ๊อง!!
นี่มันเตียงของ "เขา" ต่างหาก!
ตาสีม่วงปรือเหม่อลอย เหยียดแขนไปหยิบโทรศัพท์เจ้ากรรมที่มาปิดเสียง ขณะที่ในใจคิดถึงแต่เรื่องเมื่อวาน
แต่ถามว่าเธอเสียใจไหมที่ทำสิ่งนั้นลงไป? ไม่เลย...ไม่เสียใจเลยสักนิด
อย่างน้อยเธอก็ได้ให้สิ่งสำคัญไปกับคนที่เธอรัก...แม้เขาจะไม่ได้รักเธอเลยก็เถอะ
"ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงของเบียคุยะถามขึ้นเมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาในห้องหลังจากได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือของลูเคีย
"ค่ะ" ลูเคียทำหน้าสะลึมสะลือตอบแล้วดึงร่างตัวเองขึ้นนั่ง
"หลับสบายหรือเปล่า?" เขาถามอีกขณะเดินเข้ามาหา
ลูเคียพยักหน้าไปพลาง ขยี้ตาไปพลาง "เตียงนุ่มมาก ดูดวิญญาณสุดๆไปเลยล่ะค่ะ"
ได้ยินเสียงฝีเท้าเขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ลูเคียก็รีบก้มมองตัวเองก่อนจะรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นว่าตนนั้นไม่ได้ใส่เสื้อชุดเดียวกับที่ใส่มาเมื่อวานหรืออยู่ในสภาพตัวเปล่าเล่าเปลือยแต่อย่างใด แต่เธอสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก็อตอยู่
ราวกับเบียคุยะจะรู้ว่าลูเคียคิดอะไร เขาชิงพูดถึงก่อน "กลัวคุณจะเป็นหวัด ผมก็เลยปลุกขึ้นมาใส่เสื้อให้"
แต่ลูเคียกลับทำหน้าเหมือนจำไม่ได้ ใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นแหยเก ดวงตากวาดไปมาเลิ่กลั่กอย่างพยายามนึกให้ออก
"จำไม่ได้เลยเหรอ?"
"เอ่อ...ก็..." ลูเคียอึกอัก คลับคล้ายคลับคลาว่าจะรู้สึกตัวอยู่เหมือนกันแต่ไม่ค่อยแน่ใจนัก "จำได้นิดหน่อย"
ชายหนุ่มเห็นแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆและพูดเปลี่ยนเรื่องไป
"อาบน้ำก่อนไหม?" เขาถาม ร่างสูงหมุนตัวไปหยุดยืนหน้าตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดที่ลูเคียใส่มาเมื่อคืนซึ่งเขาเก็บมาใส่ไม้แขวนไว้อย่างดีออกมาจากตู้พร้อมกับผ้าเช็ดตัว
ทีแรกลูเคียก็นึกจะตอบปฏิเสธเพราะอยากกลับไปอาบน้ำที่หอตัวเองมากกว่าแต่พอคิดว่า เธอไม่ได้อาบน้ำมาตั้งแต่เมื่อวานเย็น แล้วถ้าจะซ้อนรถมอไซค์เขากลับไปในสภาพตัวเหม็นแบบนี้...ยอมตายดีกว่า!
"รบกวนด้วยนะคะ" เด็กสาวลุกขึ้นมารับผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าของตัวเองไป แต่ระหว่างที่ลุกขึ้นยืนนั้น เธอก็รู้สึกว่าร่างกายช่วงล่างมันเจ็บแปลบขึ้นมา...โดยเฉพาะตรงส่วนนั้น
ร่างเล็กเซและทรุดลงทันใด เบียคุยะรีบโอบแขนคว้าร่างนั้นไว้ได้ทันก่อนจะร่วงลงถึงพื้น
"เจ็บเหรอ?" เขากระซิบถาม มือก็พยุงเธอขึ้นยืน น้ำเสียงนั้นบอกเธอว่าเขาเป็นห่วงเธอไม่น้อย
ลูเคียพยักหน้าด้วยความอาย แก้มใสที่ถูกแอร์เย็นเป่าใส่จนซีดดูมีสีแดงเรื่อขึ้นมา
"อีกครั้งสองครั้งก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ"
เด็กสาวหันขวับมองหน้าเขาอย่างแทบไม่เชื่อหู แต่อีกฝ่ายกลับส่งสายตาใสซื่อกลับมาจนลูเคียต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้หลบสายตาไปก่อน
"คนบ้า..." ลูเคียบ่นอุบแล้วรีบดึงตัวเองออกห่างเขาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ประตูห้องน้ำปิดลงพร้อมกับแผ่นหลังของร่างเล็กทิ้งตัวยืนพิง เธอถอนใจออกมาอีกก่อนจะมองไปรอบๆห้องน้ำ
กลิ่นครีมอาบน้ำหอมละมุนกรุ่นไปทั่วห้อง ลูเคียจำกลิ่นนั้นได้ทันทีที่กลิ่นนั้นเตะจมูกเพราะมันคือกลิ่นเดียวกับที่เธอได้กลิ่นจากร่างกายเขาเมื่อคืนนี้...หอมเหลือเกิน
ไออุ่นจากน้ำร้อนที่เขาเพิ่งอาบไปยังอบอวลและชวนให้รู้สึกอบอุ่นนัก เธอแขวนเสื้อกับผ้าเช็ดตัวเอาไว้ที่ราวสแตนเลส ถอดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งออกจากร่างและหย่อนมันใส่ตะกร้าไม้ข้างอ่างล้างหน้า มองไปรอบๆก็สังเกตเห็นว่า แค่ห้องน้ำของเขาก็ใหญ่พอๆกับห้องนอนในหอของเธอแล้ว ด้านในฝั่งซ้ายเป็นตู้อาบน้ำ ส่วนด้านขวาเป็นอ่างอาบน้ำที่น่าลงไปนอนแช่สุดๆ แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลาจะทำอะไรแบบนั้นหรอก
เธอเดินเข้าตู้อาบน้ำ สังเกตเห็นว่าชุดอุปกรณ์อาบน้ำอย่างครีมอาบน้ำ หรือยาสระผมที่เขามี มันบรรจุอยู่ในขวดที่ดูหรูหราอย่างมาก และไม่ใช่ยี่ห้ออย่างที่มีขายทั่วไป เธอนึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอหันไปปรับเครื่องทำน้ำร้อนกะให้อุ่นพอดีและปล่อยให้สายน้ำชะล้างร่างกาย สายน้ำอุ่นที่ไหลผ่านร่างจากเบื้องบนสู่เบื้องล่าง สู่เส้นทางลับของร่างเด็กสาวทำเอาเธอร้องซี้ดออกมา
แม้จะเจ็บจนไม่อยากจับ แต่เธอก็ต้องทำความสะอาดมันอยู่ดี เธอกดสบู่เหลวใส่มือแล้วกลั้นใจแตะมือลงที่ส่วนบอบบางของตัวเองช้าๆ ริมฝีปากบางเม้มแน่นเมื่อรู้สึกได้เลยว่าส่วนนั้นของเธอมันบวมฉึ่ง...ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ็บตอนลุกขึ้นเดิน
ลงด้วยเป็นแบบนี้ แล้วเธอจะเดินไปเรียนไหวไหมล่ะเนี่ย?! เธอนึกฉงนก่อนจะส่ายหน้ารัวๆ
ไม่ได้! จะให้เรื่องพวกนี้มาทำให้เสียการเรียนไม่ได้!
เธอกลั้นใจล้างจุดซ่อนเร้นอันอ่อนไหวของตัวเองอย่างเบามือจนเสร็จแล้วค่อยหันมาจัดการกับร่างตัวเอง และพอใกล้จะเสร็จก็ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก ลูเคียสะดุ้งเฮือกรีบหันหลังให้ประตูทันที ความตกใจทำเอาลืมคิดไปเลยว่าเขาน่ะ เห็นร่างกายเธอหมดทุกส่วนไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
"ผมเอาแปรงสีฟันมาให้ วางอยู่ข้างอ่างล้างหน้านะ" เสียงเขาบอกเพียงแค่นั้นและประตูก็ปิดลงโดยที่ลูเคียยังไม่ทันจะได้พูดอะไร
เธอปิดน้ำแล้วเดินมาแปรงฟัน ใส่เสื้อผ้าจนเรียบร้อย หันไปมองนาฬิกาก็ยังแค่หกโมงห้าสิบ...ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ
(ไรท์เตอร์: ปรกติที่ญี่ปุ่นเค้าแปรงฟันกันหลังกินข้าว แต่โลเกชันในเรื่องมันไม่ใช่ญี่ปุ่นนี่นะ...)
ลูเคียเดินออกมาก็เห็นว่าเบียคุยะนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์รอเธออยู่ที่โต๊ะกินข้าวเรียบร้อยแล้ว เธอชะงักไปนิดหนึ่ง ภาพพจน์ของผู้ชายตรงหน้ามันจะดูห่างไกลกับสถานะนักศึกษาเกินไปแล้ว!!
เบียคุยะหันมาเห็นว่าลูเคียออกมาจากห้องน้ำแล้วก็ลงหนังสือพิมพ์ลงเล็กน้อย "นั่งสิ ผมทำอาหารเช้าไว้ให้" เขาบอก ทำหน้าพยักเพยิดไปยังที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา ตรงนั้นมีจานอาหารเช้าแบบฝรั่งวางอยู่
ออมเล็ตพร้อมไส้กรอกอันเล็กๆสองอันกับเบคอนกริลล์กรอบๆอีกสองเส้น แซนวิชหนึ่งคู่...และน้ำส้มอีกหนึ่งแก้ว
"เอาซีเรียลกับนมด้วยไหม?" เขาถามเมื่อเห็นลูเคียยืนมองนิ่งๆ
ลูเคียรีบสั่นหัวรัวแล้วนั่งลง "แค่นี้หนูก็ไม่รู้ว่าจะกินหมดหรือเปล่าแล้วค่ะ" เธอรู้สึกตัวเกร็งนิดๆ ไม่คิดเลยว่าเขาจะลงทุนทำอาหารเช้าให้ด้วยแบบนี้ แถมหน้าตาก็น่ากินสุดๆ อย่างกับอาหารเช้าตามโรงแรมในทีวีเลย
"ผมไม่ค่อยได้ทำมื้อเช้าเท่าไหร่ คงจะพอกินได้นะ" เบียคุยะบอกแล้วหันไปจิบกาแฟ
ลูเคียแอบชำเลืองมองเขาตอนที่เริ่มจัดการกับอาหารเช้า...ท่าทางแบบนั้น มันเหมือนนักธุรกิจชะมัด
"ขนาดไม่ค่อยได้ทำ หนูยังว่าอร่อยมากเลยค่ะ" เธอพยายามชวนคุยไปด้วย ตาก็มองหนังสือพิมพ์หน้าที่เขาอ่านอยู่ไปด้วย อย่างน้อยก็อยากจะรู้จักเขาให้มากขึ้นกว่านี้
"ไว้วันหลังจะทำให้กินอีก" เบียคุยะว่า แต่สายตายังคงจดจ่ออยู่กับหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ
"ค่ะ" ถึงจะรู้สึกเกรงใจ แต่ก็ดีใจไม่น้อยที่ได้ยินแบบนั้น "เอ่อ รุ่นพี่ชอบเรื่องเศรษฐกิจเหรอคะ?"
"เปล่า ไม่ได้ชอบ แต่ต้องอ่านไว้เพราะบ้านผมทำธุรกิจน่ะ"
ลูเคียหูผึ่ง ชักไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าทำไมทุกอย่างของเขา ทั้งห้องหับหรือกระทั่งท่าทางถึงได้ดูเหมือนนักธุรกิจนัก
"แล้วทำไมถึงมาเรียนฟี่ (ฟี่ = ฟิสิกส์) ล่ะคะ?"
"ผมไม่อยากทำอะไรที่มันซ้ำซากจำเจ บริหารน่ะเรียนเมื่อไหร่ก็ได้"
เด็กสาวรุ่นน้องก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ...ท่าทางหนุ่มที่เธอปลื้มหนักหนาจะหัวดื้อน่าดู
"ทางบ้านยอมหรือคะนั่น?"
"จะยอมหรือไม่ยอม ผมก็ไม่สนหรอก" เขาว่าเสียงเฉยชาจนลูเคียแอบกลืนน้ำลายเอื้อกแล้วหันกลับไปตั้งหน้าตั้งตากินออมเล็ตนั้นต่อทั้งที่ใจก็ไม่อยากจะเร่งอะไรนัก แต่ว่าเธอยังต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอก่อนไปเรียนอีก ขืนมัวโอ้เอ้จะเข้าเรียนคาบแรกไม่ทันเอา
มือเช้าแสนอร่อยหมดลงในเวลาไม่นาน เธอทำท่าจะเก็บจานไปไว้ในอ่างล้างจานแต่เขาห้ามไว้ก่อน
"ไม่ต้องเก็บหรอก ต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หออีกไม่ใช่เหรอ มัวมาล้างจานเดี๋ยวก็สายพอดี" เขาว่าแล้วพับหนังสือพิมพ์ไว้บนโต๊ะ ทิ้งถ้วยกาแฟของตัวเองไว้เหมือนเธอ "เดี๋ยวแม่บ้านก็มาเก็บเองนั่นแหละ"
"แม่บ้าน?"
"ที่บ้านผมส่งมาไว้ช่วยเก็บกวาดห้องกับเอาเสื้อผ้าไปซักให้น่ะ แค่มาแล้วก็ไป ไม่ได้อยู่ทั้งวันหรอก" เบียคุยะบอกแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถ เดินนำไปทางประตู ส่วนลูเคียเดินตามหลังไปอย่างนึกขนลุก
แบบนี้ที่บ้านเขาก็รู้น่ะสิ ว่าเขาพาผู้หญิงมานอนด้วยน่ะ?!
"เรื่องเมื่อคืน...จะดีเหรอคะ?" เธอพึมพำ "เอ่อ...หนูหมายถึงว่า ถ้าที่บ้านรุ่นพี่รู้เข้า..."
"ช่างสิ" เขาตอบแบบไม่แคร์ "รู้ก็รู้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"
ลูเคียทำหน้าแหยแบบไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี ได้แต่เดินตามเขาลงมาที่รถเพื่อให้เขามาส่งที่หอและต่างคนต่างแยกย้ายกันไป...
********************
ลูเคียยืดคอ ชะเง้อดูกระดานไวท์บอร์ดว่ามีใครฝากอะไรถึงเธอบ้างไหมเมื่อเรียนเสร็จและกลับมาถึงหอในตอนเย็น เธออมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นชื่อกับเบอร์ห้องของเธอปรากฏอยู่บนนั้น เธอเดินไปยังเคาท์เตอร์ของคุณป้าเฝ้าหอแล้วถาม คุณป้ายิ้มหวานและก้มลงไปหยิบถุงกระดาษสองถุงขึ้นมาให้
ลูเคียรีบรับมาและกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินขึ้นห้องของตัวเองไป วางสัมภาระลงและนั่งบนเตียง เธอหยิบถุงกระดาษถุงแรกมาดู ภายในนั้นมีถุงกระดาษอีกหลายถุงรวมกันอยู่ ระหว่างถุงเหล่านั้นมีกระดาษโน้ตใบเล็กๆเสียบแทรกอยู่ ลูเคียหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่าน
//ฝากให้โมโมะด้วย ขอบคุณมาก...ไอเซ็น โซซึเกะ//
ตัวหนังสือของข้อความนั้นประณีตบรรจงบอกถึงนิสัยความมีระเบียบของคนเขียนได้เป็นอย่างดี
ส่วนอีกถุง...เป็นลายมือหวัดๆอย่างยุ่งเหยิง แตกต่างกันกับของไอเซ็นราวฟ้ากับเหว
//ของเทคแคร์จ้า ขอโทษด้วยที่วันก่อนไม่ได้เอาของเทคไปให้หลังห้องเชียร์ ทานให้อร่อยนะ!!...โคเท็ตสึ คิโยเนะ//
ลูเคียหัวเราะออกมาเมื่อนึกถึงท่าทางห้าวๆของหญิงสาวที่ตัวเล็กพอๆกับเธอ...ผู้เป็นพี่รหัสของเธอเอง
ส่วนมากแล้วคิโยเนะมักจะเอาของเทคมาให้หลังเลิกห้องเชียร์ แต่วันก่อนไม่ได้มาก็เลยเอามาฝากไว้ที่หอให้วันนี้แทนซึ่งลูเคียก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอก
หยิบออกมาจากถุงก็พบว่า ของที่พี่รหัสเธอมาฝากไว้ให้นั้นเป็นส้มลูกสวยหกลูก เธอหยิบขึ้นมาลูกหนึ่งแล้วปอกเปลือกส้มออกเป็นกลีบๆอย่างสวยงามและส่งเข้าปาก
ส้มหวานกรอบที่ซ่านอยู่ในปากทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากทีเดียวในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวอย่างนี้ แว่บหนึ่งเธอนึกถึงเบียคุยะขึ้นมา
เขาจะทำอะไรอยู่นะ?...
คิดแล้วก็ถอนหายใจอย่างไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับชีวิตต่อดี
อยากจะไปหาเขาอยู่หรอก แต่ก็กลัว กลัวเขาจะหาว่าเป็นผู้หญิงใจง่าย
ผ่านมายังไม่ถึงวัน ก็คิดถึงเขาแทบบ้า เธอเขกหัวตัวเองเบาๆ...ทำไมต้องไปรักคนที่ไม่ควรจะรักด้วยนะ?
เมื่อคืนก็ยังหาเหตุไปหาเขาได้โดยอ้างว่าเป็นห่วง...แต่หลังจากวันนี้ไปล่ะ? เขาอาจจะไม่อยากเจอเธออีกแล้วก็เป็นได้
นอกจากเขาจะไม่รักเธอแล้ว เธอยังบอกไปอีกว่าไม่ต้องการให้เขามารับผิดชอบ...แค่นี้มันก็ทำให้เขาตีตัวออกห่างได้ง่ายๆเลยไม่ใช่เหรอ?
ถ้าเขาจะหายหน้าไป เธอก็ไม่แปลกใจหรอกนะ
ลูเคียคิดแล้วพ่นลมหายใจออกมาอีก แล้วก็เอาแต่นั่งมองโทรศัพท์จนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เธอจ้องมันราวกับกำลังเพ่งกระแสจิตให้เขาโทรหาเธอสักนิดก็ยังดี...แต่ก็มีแค่ความเงียบที่เปล่งประกายออกมาจากโทรศัพท์รุ่นเก่ากึ๊ก
หนำซ้ำ ฟ้าด้านนอกก็มืดลงเรื่อยๆ ขณะที่ท้องเธอเริ่มคร่ำครวญหาอาหารมื้อเย็น ลูเคียมองไปยังบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่วางข้างกระติกน้ำร้อนอันเล็ก ก่อนจะเมินหนีด้วยความรู้สึกไม่อยากกิน
อยากกินอะไรหวานๆ...จริงสิ!
จู่ๆ ลูเคียก็นึกอะไรแผนการดีๆออก เธอรีบลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วคว้ากระเป๋าสะพายกับมือถือออกไปจากห้องอย่างเร็ว...
***********
สิบนาทีต่อมา ร่างเล็กของเธอก็มายืนหัวเราะต่อกระซิกอยู่กับคุณป้ามาซาคิที่ร้านขนมปังใกล้ๆกับหอพักของเขา
แม้ปากจะยังสนทนาฉอเลาะอยู่กับมาซาคิแต่สายตากลับลุกลนคอยแต่จะชะเง้อมองหาเงาของร่างสูงที่คุ้นตาไปด้วย
"ดีจังเลยนะคะ เคยไปเรียนทำขนมที่ฝรั่งเศสด้วย" เด็กสาวว่าปนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"จ้ะ ช่วงนั้นคุณลุงเค้าไปทำงานที่โน่นช่วงสั้นๆพอดีก็เลยได้เจอกันน่ะจ้ะ" มาซาคิเล่าไปก็ยิ้มไปเมื่อนึกถึงความหลังครั้งเจอสามีของตน
"โรแมนติกจังนะคะ"
"จ้ะ ไว้ลูเคียจังหาโอกาสไปสิ ฝรั่งเศสน่ะมีแต่เมืองสวยๆทั้งนั้นเลยล่ะจ้ะ"
"หนูก็หวังว่าสักวันจะมีโอกาสแบบคุณป้าบ้าง" ลูเคียยิ้มจริงใจ
"ต้องมีแน่ๆจ้ะ!" มาซาคิให้กำลังใจลูเคียอย่างกระตือรือล้น
"แม่ฮะ! เห็นกระเป๋าผมหรือเปล่า?!"
จู่ๆก็มีเสียงห้าวของเด็กหนุ่มดังแทรกการสนทนามาจากหลังร้าน พร้อมกับร่างสูงผมสีส้มชะโงกออกมาถามมาซาคิผู้เป็นแม่
มาซาคิยังคงหัวเราะคิกคัก เรือนร่างงามนั้นก้มหยิบกระเป๋าหนังสีน้ำตาลจากใต้เคาท์เตอร์มายื่นให้ลูกชายคนโต
เด็กวัยรุ่นคนนั้น...ถ้าเธอจำไม่ผิดรู้สึกจะชื่ออิจิโกะ ที่มาซาคิเล่าว่าอายุไล่ๆกับเธอ
ลูเคียมองสองแม่ลูกคุยกันอย่างไม่คิดจะเข้าขัดจังหวะ แต่เธอมองอะไรผิดไปเสียแล้วเมื่อมาซาคิหันมาทำตาลุกวาวใส่ลูเคียจนเธอสังหรณ์ใจแปลกๆทันทีกับสายตาแบบนั้น
เด็กหนุ่มยื่นมือมา ทำท่าจะคว้ากระเป๋าไปจากมาซาคิ แต่ผู้เป็นแม่กลับดึงกระเป๋านั้นกลับมาที่ตัวเองอย่างไม่ยอมให้ไปง่ายๆ
"อิจิโกะ มารู้จักกับลูเคียจังก่อนสิจ๊ะ" มาซาคิบอกแล้วหันมาขยิบตาให้ลูเคีย
คิ้วลูเคียกระตุก...ไม่นะ ไม่นะ อย่านะ!!
"ลูกค้าไม่ใช่เหรอ?" อิจิโกะเองก็ทำท่าไม่สบายใจเหมือนกันที่ถูกดึงมาร่วมวงสนทนา
เขายื่นมือมาขอกระเป๋าอีก แต่มาซาคิยังอุ้มกระเป๋าของลูกชายไว้กับตัว
"ลูเคียจัง นี่อิจิโกะ ลูกชายป้าจ้ะ เรียนปีสามแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกนะ อยู่มหาวิทยาลัยอื่นน่ะจ้ะ ช่วงนี้กลับมาเที่ยวบ้านเฉยๆ" มาซาคิอธิบายฉอดๆอย่างไม่สนสีหน้าลำบากใจของคนทั้งสองเลยสักนิด
"อือ สวัสดี" อิจิโกะหันมาทำเป็นยิ้มกว้างแบบเสแสร้งสุดๆใส่ลูเคียแล้วฉวยจังหวะนั้นแย่งกระเป๋าตัวเองกลับคืนมา
"อิจิโกะ!" มาซาคิบุ้ยปากใส่ลูกชายอย่างงอนๆเมื่อเห็นอิจิโกะทำท่าไม่แยแสขนาดนี้ ทั้งยังรีบเดินไปทางประตูอีก
"ไปแล้วๆ เร็นจิมารับแล้ว ไปถึงแล้วจะโทรหา!" อิจิโกะว่าตัดบทพลางเอามือหยิบครัวซองค์บนชั้นใส่ปากแล้วเดินออกไปทันที
มาซาคิได้แต่ส่ายหน้าเมื่อลูกชายตัวดีไม่ยอมฟังอะไรเลย เธอหันมาขอโทษลูเคียที่ทำเสียมารยาทแบบนั้น
"ขอโทษด้วยนะจ๊ะ นิสัยใช้ไม่ได้เลย เจ้าลูกคนนี้"
ลูเคียหัวเราะแหะๆ "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ" ไม่ใช่แค่เธอจะดีใจที่อิจิโกะไม่ได้มีท่าทีสนใจเธอเท่านั้น แต่ยังรู้สึกโล่งอกมากๆทีเดียว
...ก็สายตาของมาซาคิน่ะ เหมือนกำลังจะเชียร์ให้เธอคบกับลูกชายตัวเองยังไงยังงั้นแหละ!
เสียใจด้วยนะ หัวใจกับร่างกายเธอน่ะ...ให้ใครอีกคนไปหมดแล้วล่ะ ไม่เหลือไว้มองใครอีกแล้ว...
ว่าแล้วก็อดมองออกไปนอกร้านอีกไม่ได้ แต่ก็ยังคงไม่เห็นเขาเดินผ่านมาอยู่ดี
มีแต่แผ่นหลังของอิจิโกะที่ยืนอยู่หน้าร้าน ก่อนที่จะมีมอเตอร์ดไซค์คันใหญ่ที่ขับโดยผู้ชายตัวใหญ่ๆผมสีแดง มีรอยสักเตะตาที่หน้าจอดตรงหน้าของอิจิโกะ และรับอิจิโกะซ้อนท้ายออกไปด้วยกัน
ลูเคียพ่นลมหายใจออกจากปากอย่างหมดหวัง วันนี้แผนการเธอแป้กไม่เป็นท่าซะแล้ว คิดว่าจะมาแอบซุ่มเจอเขาแล้วแกล้งทำเป็นบังเอิญเจอกันสักหน่อย สงสัยต้องกลับไปซดน้ำแห้วที่หอตามเดิมซะล่ะมั้ง
"งั้น...หนูขอตัวก่อนนะคะ มืดซะแล้วน่ะค่ะ" ลูเคียรีบบอกข้ออ้างของตัวเองกับมาซาคิ ก่อนที่มาซาคิจะร่ายยาวชีวประวัติของอิจิโกะให้เธอฟัง
มาซาคิทำหน้าผิดหวัง "จ้ะ กลับดีๆนะจ๊ะ"
เด็กสาวยิ้มแกนๆแล้วรีบออกมาจากร้าน
**************
ความคิดเห็น