ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3
เหตุการณ์สุดระทึกใจของวันนั้น ผ่านไปโดยที่มันยังติดตรึงอยู่ในหัวใจของลูเคียตลอดมา แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เธอก็ทั้งรู้สึกกระชุ่มกระชวยและอยากเขกหัวตัวเองไปพร้อมๆกัน
เฉิ่มต่อหน้าเขาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่นั่งคุยกับเขาโดยไม่ได้ดูสารรูปตัวเองนี่สิ...มันน่าตีตัวเองให้ตายนักเชียว!
และเพราะเหตุนั้น หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เธอก็ไม่กล้าส่งข้อความหาเขาอีก เพราะเธอกลัวว่าหากทำแบบนั้น อาจจะทำให้เขารู้สึกว่าก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆที่อยากเป็นแฟนเขาจนตัวสั่น แม้ว่ามันจะจริงอยู่ที่เธอก็อยากเป็นแฟนเขา แต่ถ้ารุกมากไป มันก็เท่ากับการไล่เขาทางอ้อมนั่นแหละ เธอจึงเลือกที่จะนั่งรอให้ถึงวันปิดห้องเชียร์เร็วๆ หรืออย่างน้อยก็ให้ถึงวันที่มีห้องเชียร์และได้เจอเขาในห้องว๊ากก็ยังดี
แต่เพราะหลังจากวันนั้น มันดันเป็นช่วงวันหยุดยาวถึงห้าวันเสียนี่ ทำให้ห้องเชียร์ก็ไม่มี แถมลองเอาปฏิทินมาดูก็ยิ่งห่อเหี่ยวเมื่อเจอว่าอีกตั้งเดือนถึงจะปิดห้องเชียร์
แค่รอไปนั่งฟังเสียงเขา แอบมองเขาตอนเดินว๊ากอีกห้าวัน ยังแทบจะรอไม่ไหว กว่าจะได้ไปกินข้าวกับเขาอีกเดือน เธอจะรอไหวไหมเนี่ย?!
ไม่ได้ๆ...ต้องทนให้ไหว!
ลูเคียคิดอย่างให้กำลังใจตัวเอง เสร็จแล้วก็หยิบเสื้อคลุมแขนยาวออกมาใส่เตรียมจะออกไปข้างนอกเพื่อหาข้าวกลางวันทาน ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของเธอ ที่หอในสำหรับนักศึกษาที่เธออยู่นั้น อยู่ไม่ไกลจากแหล่งชุมชนข้างๆ มหาวิทยาลัยเท่าไรนัก เดินไปแค่ห้าถึงสิบนาทีก็มีร้านข้าวแกงกะหรี่อร่อยๆ ให้กินแล้ว
ปกติเธอก็ไม่ค่อยได้ออกไปบ่อยนักหรอก อย่างมากก็อาทิตย์ละหนเท่านั้น เพราะอาหารข้างนอกค่อนข้างจะแพงกว่าข้างในมหาลัย ลำพังเงินเดือนสำหรับนักเรียนทุนของเด็กกำพร้าอย่างเธอ มันก็ไม่มากมายอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าใช้ประหยัดๆหน่อย ก็จะมีเหลือเก็บบ้าง เธอก็เลยเลือกที่จะกินข้าวที่ร้านข้าวในมหาลัยเป็นหลักแทน
คิดอะไรเพลินๆ เดินไปฮัมเพลงไป ไม่นานก็เดินพ้นรั้วมหาลัยถึงร้านรวงอันแสนยั่วยวนทั้งหลาย
เธอเดินตรงปรี่ไปยังร้านขนมปังเจ้าประจำที่เธอต้องมาอุดหนุนทุกครั้งที่ออกมา
ลูเคียทักทายป้าเจ้าของร้านอย่างเป็นกันเองและแทบจะไม่ต้องไปหยิบอะไร ป้าเจ้าของร้านแสนใจดีนั้นก็ยื่นถุงที่ข้างในมีขนมปังห้าหกอันมาให้อย่างรู้ใจ
"เมลอนปังวันนี้เพิ่งจะเสร็จออกมาจากเตาร้อนๆเลยล่ะ" คุณมาซาคิรีบบอกขณะหยิบเมลอนปังที่พูดถึงนั้นใส่ลงไปในถุงให้อีก
แต่ลูเคียรีบผลักมันคืนหน้าตาตื่น เพราะขืนรับมา ก็เท่ากับว่ามันเกินงบที่เธอตั้งไว้น่ะสิ!
"ม...ไม่เป็นไรค่ะ เอาแค่อย่างเดิมก็พอค่ะ" ลูเคียบอกเสียงอ่อยๆ
"เอาน่ะ ป้าแถมให้จ้ะ!" ถึงจะเป็นคุณป้าแล้ว แต่ทั้งรูปร่างหน้าตานั้นยังสะสวยเหลือเกิน ผมยาวสีทองเป็นลอนสวย ทรวดทรงองค์เอวก็งามขนาดที่ว่าไปเป็นนางแบบได้สบายๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีลูกแล้วถึงสามคน และคนโตก็อายุก็ไล่ๆ กับเธอ
"จะดีเหรอคะ?" ลูเคียฟังแล้วชักจะเกรงใจ
"งั้นแถมสองอันเลย!"
โดนคนขายมาไม้นี้ ลูเคียเลยต้องตาลีตาลานคว้าถุงขนมกลับมา
"อันเดียวดีกว่าค่ะ!"
มาซาคิหัวเราะคิกคัก เพราะลูเคียเป็นลูกค้าประจำที่มาซื้อแบบเดิมทุกอาทิตย์ แค่นี้เธอก็พอจะรู้แล้วว่าเด็กสาวคงจะพวกเด็กทุนที่มีเงินใช้ค่อนข้างจำกัด เธอก็เลยรู้สึกเอ็นดูเป็นพิเศษ แถมอะไรได้ก็มักจะแถมให้เสมอ
"ขอบคุณนะคะ" ลูเคียยิ้มแห้งๆ แล้วรีบควักกระเป๋าเงินออกมาจ่ายค่าขนม
วันหยุดยาวๆแบบนี้ เด็กมหาลัยส่วนมากก็มักจะกลับบ้านกัน ทำให้ร้านรวงแถวนี้เงียบเหงาไปถนัดตา ไม่เว้นแม้แต่ร้านขายขนมปังเล็กๆ ร้านนี้
อารมณ์เหงาปาก มาซาคิก็นึกอยากจะชวนลูเคียคุยเหมือนกัน แต่ติดว่ามีลูกค้าเดินเข้าร้านมา เลยต้องไปต้อนรับลูกค้าใหม่แทน ขณะที่ลูเคียก็เดินแกว่งถุงขนมออกไปจากร้าน
เด็กสาวเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นแมวดำเดินนวยนาดผ่านหน้าไป วิญญาณคนบ้าแมวเข้าสิงเธอทันที เห็นแมวที่ไหนเป็นไม่ได้ อยากจะเข้าไปเล่นด้วยตลอด ว่าแล้วก็เดินไปนั่งข้างๆมัน แต่พอจะจับตัวมัน มันก็ดันเดินหนีไปเสียนี่
แต่ไปได้ไม่ไกล มันก็ไปหยุดที่หน้าหอพักไม่ไกลจากร้านขนมปัง
มันทิ้งตัวนอนลงกับพื้นแล้วเริ่มเลียทำความสะอาดหางตัวเอง
ลูเคียยิ้มกริ่ม รีบเดินตามไปติดๆ นั่งลงแล้วเอามือลูบคางลูบหัวอย่างมันเขี้ยว เจ้าเหมียวร้องแง๊วง๊าวเบาๆ ลูเคียก็เลยหยิบถุงขนมขึ้นมาดู เผื่อจะมีอะไรแบ่งให้มันกินได้บ้าง
"เค้าว่าห้ามแมวกินนมวัว ห้ามกินช็อคโกแลต...แล้วแกจะกินอะไรได้มั่งนะ เจ้าเหมียว"
เธอรื้อถุงขนมดังแครกๆ โดยไม่ทันสังเกตว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลัง...
"เจ้านี่มันกินอาหารเม็ด มันไม่กินขนมปังหรอก เก็บไปเถอะ"
เสียงคุ้นๆ แบบนั้น เล่นเอาเด็กสาวตัวแข็งไปทั้งตัว
"มาซื้อของแถวนี้เหรอ?" เสียงนั้นถามอีก ทั้งที่ยังยืนค้ำหัวเธอนั่นแหละ
คราวนี้ลูเคียรีบลุกพรวด สีหน้าตื่นๆ "รุ่นพี่?!"
เบียคุยะแค่มองเธอ เหมือนจะไม่เข้าใจเท่าไรว่าเธอจะตกใจไปทำไมกะอีแค่มาเจอเขา
เขาก้มมองก็เห็นถุงขนมปังที่ถืออยู่ ป้ายร้านบนถุงก็เป็นของร้านข้างๆนี่เอง
"ขนมปังร้านนี้...อร่อยเหรอ?" เขาถามอีก
"ก็...ใช้ได้ค่ะ มันถูกดี" ลูเคียรีบตอบออกไปเร็วปรื๋อด้วยความประหม่า คิดอะไรได้ก็พูดไปอย่างนั้น
เบียคุยะแค่พยักหน้ารับรู้
"แล้วรุ่นพี่...มาทำอะไรแถวนี้คะ?" ลูเคียเป็นฝ่ายถามบ้าง เพราะรู้สึกว่าเขาเองก็หมดเรื่องจะถามเธอแล้ว และเธอก็แอบสังเกตเห็นว่าเขาไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจคันนั้นมาด้วย
"ผมอยู่หอนี้" เขาบอกสั้นๆ หน้าหันไปมองตึกสูงที่ทั้งคู่ยืนอยู่ข้างๆ
"เอ๋?!" ลูเคียตาโตเมื่อหันมองตัวตึกที่เขาบอกว่าเป็นหอของเขาตาม
นี่น่ะ...เป็นหอที่แพงที่สุดในย่านนี้เลยไม่ใช่เหรอ?!
"รุ่นพี่...อยู่หอนี้? เหรอคะ?" เธอถามย้ำ
"อืม" เขาทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง "ผมอยู่คนเดียวน่ะ จะขึ้นไปนั่งเล่นหน่อยไหม?"
ช...ชวนขึ้นห้อง...!!!!
ลูเคียแทบอยากกระอักเลือดออกมาตรงนั้นเพราะในหัวมันคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว...
ชวนเด็กผู้หญิงขึ้นห้อง...
สองต่อสอง...
นั่งคุยกัน...
ขยับเข้ามาใกล้กัน...
เริ่มโอบเอว...
เริ่มกอด...
เริ่มจูบ...
เริ่ม...
"ไม่ดีมั้งคะ!" ลูเคียส่ายหน้าดิกรัวๆเมื่อตอนนี้คิดไปถึงภาพที่ทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างเปลื้องผ้าผ่อนของตัวเองเรียบร้อยแล้ว...
"งั้นก็ตามใจ..." เบียคุยะว่าเสียงนิ่งไม่เปลี่ยน
ลูเคียชักเริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวเองพลาดไปถนัดใจเพราะมัวแต่คิดลามก!
จะเล่นตัวเสียหน่อย อีกฝ่ายเล่นตัดรอนอย่างไม่เหลือไยเลยทีเดียว
"เอ่อ...แต่..." แต่อะไรดีล่ะ! หาข้ออ้างเร็วๆสิยัยบ๊อง! คิดมากจนรุ่นพี่จะหลุดมือแล้วเนี่ย!
"ผมไปล่ะ" เขาตัดบทแล้วหมุนตัวจะจากไป
"รุ่นพี่คะ!" ลูเคียรีบรั้งเขาไว้ได้ก่อน ร่างสูงนั้นชะงักไปเล็กน้อย "หนู...หนูอยากขอเข้าห้องน้ำสักหน่อย จะได้ไหมคะ"
เธอว่าเสียงอ่อย ขณะที่ในหัวกำลังสาปส่งตัวเองที่หาข้ออ้างได้ทุเรศสิ้นดี
"เอาสิ" เขาตอบสั้นๆ ทำเอาคนฟังหัวใจพองโต
แต่แล้วเขาก็ดับหวังเธออีกด้วยการชี้มือไปยังห้องรับแขก
"ห้องรับแขกมีห้องน้ำอยู่ตรงนั้นน่ะ"
ลูเคียหน้าม้าน อุตสาห์หลงดีใจนึกว่าจะพาไปเข้าห้องน้ำที่ห้องตัวเอง!!!
แต่ถึงตอนนี้จะทำอะไรได้อีกล่ะ?!
เด็กสาวยิ้มแหยแล้วก้มหัวให้เขาน้อยๆ "ขอบคุณค่ะ"
"อืม ไม่เป็นไร" เขาว่าตัดบทอีกหนแต่ไม่เดินไปไหน ราวกับจะรอดูว่าเธอจะไปเข้าห้องน้ำจริงหรือเปล่า
ลูเคียได้แต่กลั้นใจทำเป็นเอามือนวดท้องแล้วเดินเซๆ ไปในห้องรับแขก เดินเลี้ยวเข้าห้องน้ำตามป้ายบอกทางไปอย่างหมดแรง
ร่างเล็กกระแทกร่างลงกับชักโครก ทั้งที่ยังไม่ถอดกางเกง มือบางกำหมัดแล้วชกขมับตัวเองแรงๆอย่างขุ่นใจ
//บ้าๆๆๆๆๆ//
//พลาดแล้วไหมล่ะ!//
คิดแล้วถอนใจเฮือกแรงๆ หลายครั้งติดๆ กันๆ
โอกาสดีๆ...หลุดมือไปซะแล้ว
เธอกดชักโครกรัวๆ เหมือนกับจะให้มันดูดความโชคร้ายจากเธอไปให้หมด
ออกมาล้างมือและกลับมายังห้องรับแขก...ที่มีร่างสูงยังนั่งอยู่ที่โซฟา และมองเธอตาไม่กระพริบ
//ยังอยู่อีกเร๊อะ?!//
ตาสีเทาที่มองมา คล้ายกับจะดึงเธอให้เดินไปหา และร่างของเธอก็เดินไปหาเขาอย่างช้าๆเหมือนถูกสะกดจิต
เธอนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขา เขามองหน้าเธอ...เอนหลังพิงพนักท่าทางสบายใจ ขณะที่ลูเคียนั่งตัวเกร็ง
ต่างคนต่างมองหน้ากัน...เขามองเธอ เธอมองเขา
ลูเคียไม่รู้เลยว่ามองเขาอยู่นานแค่ไหน รู้สึกตัวอีกทีก็...
"ไม่กลับเหรอ?"
คำถามนั้นทำเอาลูเคียสติขาดผึง เธอคว้าหมอนอิงสีน้ำตาลแก่ข้างตัวได้ก็ลุกขึ้นแล้วฟาดมันเข้ากับร่างสูงนั้นเต็มแรง
"คนผีทะเล!"
//แบบนี้มันแกล้งกันชัดๆ!!//
//คนบ้าๆๆๆๆๆๆ!!!!//
"คนผีทะเล?!" เบียคุยะทวนคำอย่างงงๆขณะยกแขนขึ้นกันแรงฟาดจากหมอนที่เธอฟาดใส่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพูดหรือทำอะไรผิดไปตรงไหน..
ลูเคียหน้าแดงเรื่ออย่างขุ่นใจ เธอเหวี่ยงหมอนใบนั้นใส่เตรียมจะเดินหนีไป แต่เขากลับยื่นมือมาดึงเธอไม่ให้ไป
"เป็นอะไร?" เบีบคุยะถามหน้าตาย แต่ยิ่งเขาถามแบบนั้น กลับยิ่งทำให้ลูเคียอารมณ์เสียมากขึ้นไปอีกที่เขาแกล้งเธอได้หน้าตาเฉยแบบนี้
ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้เบียคุยะไม่ปล่อยมือจากเธอไปง่ายๆ เขาออกแรงดึง ยื้อยุดกับเธอ และในเมื่อแรงผู้ชายมันเยอะกว่า ในที่สุดเขาก็ดึงร่างเล็กนั้นปลิวลงบนโซฟาข้างตัวเขา เสียงเขาถอนใจเบาๆ
"ปล่อยหนู! หนูจะกลับแล้ว!" เธอสะบัดหน้าอย่างไม่อยากมองหน้าเขา
"กลับ? กลับหอน่ะเหรอ?"
"เมื่อกี๊ยังไล่หนูอยู่เลยไม่ใช่เหรอ!?" เธอขึ้นเสียงน้อยๆ "หนูจะไปไหนก็เรื่องของหนู!"
"ผม...ไล่? เมื่อไหร่?" ดวงตาเย็นชานั้นกลับเต็มไปด้วยคำถามอย่างไม่เข้าใจคำพูดของเธอ
ลูเคียหายใจแรงเม้มกัดริมฝีปากล่าง "ก็ถามอยู่นี่คะ ว่า 'ไม่กลับเหรอ' นั่นน่ะ! แบบนี้ไม่เรียกว่าไล่หรือคะ?!"
เบียคุยะถอนใจอีก "ผมแค่ตั้งใจจะถามว่าหยุดหลายวัน ไม่กลับบ้านอย่างคนอื่นเขารึไง ก็เท่านั้น..."
"อ้ะ!?" ลูเคียได้แต่อุทานออกมาเบาๆ เมื่อเข้าใจแล้วว่าเธอเข้าใจผิดไปไกลโขเลยทีเดียว!
"ถ้าผมจะไล่ ผมจะมานั่งรอคุณเข้าห้องน้ำทำไม" เขาบอกอีก ด้วยหวังว่ามันจะทำให้เธอเข้าใจ
"ห...หนูก็นึกว่า..." คราวนี้ลูเคียก้มหน้างุดเอาแต่มองรองเท้าตัวเองอย่างไม่กล้าสู้หน้า
"นึกว่าผมไล่น่ะเหรอ?" เบียคุยะถามอย่างเริ่มโล่งใจ อย่างน้อยก็ปรับความเข้าใจกันได้
ลูเคียพยักหน้าหงึกๆแล้วลุกขึ้นยืนด้วยความอายที่ทำอะไรเสร่อๆ ต่อหน้าเขาเป็นหนที่สอง
"ขอโทษค่ะที่เข้าใจผิด ห...หนู หนูกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ"
//จะอยู่ต่อก็บ้าแล้ว! เอาหมอนฟาดเอาๆ แบบนั้น จะสู้หน้าได้ยังไงเล่า!!//
"เดี๋ยวสิ..."
ลูเคียหยุดนิ่งเหมือนถูกตรึง...นี่เขากำลังรั้งเธอไว้ ไม่อยากให้เธอกลับสินะ
หัวใจเต็มตื้นนักที่เขาทำท่าแคร์ความรู้สึกเธอ
แต่แล้ว ชั่วขณะที่น้ำตากำลังจะรื้นอย่างซึ้งใจนั้น ก็เห็นเขายื่นถุงขนมปังของเธอมาให้พร้อมกับบอกหน้าตาย
"ลืมขนมน่ะ"
ทำเอาลูเคียฉุนกึกทันควัน แต่ไม่ทันได้ทำอะไรเขาก็หัวเราะออกมา
"ผมล้อเล่นน่ะ"
หญิงสาวกำหมัดแน่น...ขอต่อยซักทีจะได้ไหมเนี่ย?!
"จะไม่คิดดูหน่อยเหรอ เรื่องไปนั่งกินขนมกับผมน่ะ"
ลูเคียสะบัดหน้าอย่างงอนๆ เบียคุยะก็เลยพูดต่อ "ผมแค่...อยากคุยด้วย...อยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้..."
เด็กสาวอมยิ้มน้อยๆ ถึงจะยังโมโหเขานิดๆที่ถูกเขาแกล้งเอาเมื่อกี๊ แต่พอเขาเปิดทางให้ขนาดนี้...จะไม่รับได้ยังไงกันล่ะ
"ก็ได้ค่ะ" ลูเคียหันมาตอบตกลงแล้วยิ้มกว้าง
*****
"ห้องสวยจัง..." ลูเคียเพ้อออกมาเมื่อหยุดยืนที่หน้าประตูเมื่อเบียคุยะเปิดห้องพักของเขาที่อยู่บนชั้นบนสุดของคอนโดที่เป็นแบบเพนท์เฮาส์ขนาดย่อส่วนออกต้อนรับเธอ
ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยเห็นห้องกว้างแสนน่าอยู่แบบนี้มาก่อน ยังไม่นับรวมถึงว่านี่เป็นห้องที่ดูสะอาดมากจนแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นห้องของผู้ชาย
ห้องผู้ชายมันต้องรกๆ ระเกะระกะ สกปรกและไม่เป็นระเบียบไม่ใช่เหรอ?!
แต่นี่มันสะอาดและตกแต่งสวยอย่างกับ...โรงแรมที่เธอเห็นในนิตยสารไม่มีผิด!
"จะไม่เข้ามาเหรอ?" เสียงเบียคุยะถามขณะเปิดตู้เย็นรินน้ำผลไม้ใส่แก้วให้เธอ ใจก็นึกขำกับท่าทางเปิ่นๆทำตัวไม่ถูกของลูเคียไม่น้อย
"เอ่อ..ค่ะ!" ลูเคียรีบหันไปดึงประตูห้องมาปิดและจัดการเปลี่ยนรองเท้าเป็นสลีปเปอร์เดินไปนั่งที่โซฟาหนังสีดำตัวยาว
เธอยื่นมือไปรับแก้วน้ำผลไม้มาจากเขา "ขอบคุณค่ะ"
ดวงตาก็กวาดมองไปรอบห้องอย่างสนใจใคร่รู้ ส่วนเบียคุยะก็กำลังแกะซองคุกกี้ออกมาใส่จานเล็กๆให้
ห้องนี้เป็นห้องรับแขก มีเคาท์เตอร์ครัวอยู่ด้านในติดกับระเบียงห้อง เธอไม่เห็นห้องนอน แต่มีประตูสองบานที่ปิดอยู่
"ด้านนั้นเป็นห้องน้ำแขก และด้านนี้เป็นห้องนอนผม" เขาบอกเสียงนิ่งๆ มือก็ชี้อธิบายว่าหลังประตูสองบานนั้นคืออะไร
ลูเคียห่อปากอย่างทึ่งๆ...ห้องชุดที่มีห้องนอนแยกจากห้องรับแขกแบบนี้ราคาคงจะแพงหูฉี่เอาเรื่อง แถมห้องยังกว้างกว่าห้องเท่าแมวดิ้นตายของเธอที่หอใน ราวๆ สี่ซ้าห้าสิบเท่าเห็นจะได้
"อยากดูห้องนอนด้วยไหม?" เขาถามอีก
ลูเคียตกใจ แทบจะพ่นน้ำผลไม้ในปากออกมา...และนั่นทำให้เธอสำลัก ไอออกมายกใหญ่
เบียคุยะดึงกระดาษทิชชูส่งให้ เธอไม่ใช่แค่เปิ่นเท่านั้น ยังขี้อายมากอีกด้วย
"แค่กๆๆๆๆ" ลูเคียไอใส่กระดาษจนหน้าดำหน้าแดง เบียคุยะฉวยโอกาสนี้ย้ายที่นั่งไปช่วยลูบหลังให้เบาๆ
ลูเคียสะดุ้ง ไหวตัวหลบนิดๆอย่างรู้สึกไม่คุ้นที่ถูกผู้ชายมาจับเนื้อต้องตัว แต่เธอก็รู้ว่าเขาเป็นห่วง สุดท้ายก็เลยยอมให้เขาลูบหลังให้
เมื่อเสียงไอแห้งๆ ของลูเคียเริ่มแผ่วลง เขาก็ส่งแก้วน้ำให้ใหม่ ลูเคียรับไปจิบเล็กน้อยและหันมาขอบคุณ
"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่เสียมารยาท" ลูเคียยิ้มแหยๆ
"สำลักน้ำมันเสียมารยาทตรงไหน?" เบียคุยะถามอย่างไม่นึกจริงจังนัก เขายังคงนั่งอยู่ข้างเธอ ไม่ได้ย้ายกลับมาที่เดิม "คิดมากไปหรือเปล่า?" เขาแกล้งแซวต่อ
ลูเคียได้แต่หัวเราะแหะๆ แว่บหนึ่งในความรู้สึกตอบคำถามของเขาว่า เพราะเขาดูเหมือนพวกคุณชายจากตระกูลผู้ลากมากดีล่ะมั้ง เธอจึงกลัวจะเสียมารยาทด้วย
เธอคิดอย่างเกร็งๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
"รุ่นพี่...อยู่คนเดียวเหรอคะ?" เธอตัดสินใจชวนคุย
พยายามมองไปรอบๆ เพื่อดูว่าจะมีอะไรบ่งบอกความเป็นตัวตนของเขาบ้าง แต่ก็ไม่มีพวกกรอบรูปอย่างรูปครอบครัวหรือแม้แต่เพื่อนฝูงเลย
"คนเดียวน่ะ" เขาตอบและเอนกายพิงพนักแล้วหันหน้ามาทางลูเคีย ลูเคียก็ยิ่งทึ่ง ห้องแพงแบบนี้กลับอยู่คนเดียวโดยไม่ต้องเพื่อนมาช่วยหารค่าห้อง ชักอยากรู้แล้วล่ะว่าเขาเป็นลูกคุณชายบ้านไหนกัน
"แล้ว...รุ่นพี่ไม่มีแฟนเหรอคะ?" ลูเคียตัดสินใจถามสิ่งที่อยากรู้ที่สุด
"เคยมี" เขาตอบสั้นๆ สายตายับคงไม่ละไปจากใบหน้ากลมหวานๆของเธอ
ลูเคียพยักหน้าอย่างไม่แปลกใจ หล่อขนาดนี้ ไม่เคยมีแฟนมาบ้างก็เป็นเกย์แล้วล่ะ "แล้วเกิดอะไรขึ้นคะ?"
"เราไปกันไม่ได้" เขาตอบหน้าตาย แต่เธอก็รู้สึกถึงความเสียใจในน้ำเสียงนั้น "คบกันมาตั้งแต่มัธยม แต่สุดท้าย เราก็ไปกันไม่ได้ เพิ่งเลิกกันเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา"
ลูเคียปั้นหน้าเหมือนกับจะบอกว่าเสียใจด้วย (ตามมารยาท) จะให้ปลอบ ก็ไม่รู้จะปลอบยังไง
"แล้วเราล่ะ มีแฟนหรือยัง?" เบียคุยะเป็นฝ่ายถามบ้าง
เด็กสาวรุ่นน้องส่ายหน้าช้าๆ และยื้มเจื่อนๆ "ไม่มีค่ะ แล้วก็ไม่เคยมีด้วย"
เบียคุยะมองดวงตาใสสีม่วงแสนจริงใจนั้นก็รู้ว่าเธอพูดจริง "อย่าบอกนะว่าไม่มีใครมาจีบ ผมไม่เชื่อเด็ดขาดเลย"
ลูเคียฟังแล้วแอบเขิน เธอหัวเราะ "ไม่มีจริงๆค่ะ มาจีบบ้างก็พอมี แต่หนูไม่ได้สนใจก็เลยไม่ได้คบใครเป็นพิเศษน่ะค่ะ" เธอตอบอย่างพยายามเปิดทางเต็มที่
"ก็แปลว่าเราไม่มีเจ้าของทั้งคู่สินะ" เขาเปรยเบาๆ ตาที่มองลูเคียมันมีประกายบางอย่างที่ลูเคียดูไม่ออกว่ามันคืออะไร...รู้แต่ว่าเขินขึ้นมาเป็นริ้วๆ
ได้แต่รีบหาเรื่องมาชวนคุยกลบเกลื่อนก่อนจะอายตายอยู่ต่อหน้าเขา "เพื่อนหนูชอบรุ่นพี่กันเกือบทุกคนเลยล่ะค่ะ" เธอว่าออกไป
"เหรอ ประหลาดดีนะ ชอบพี่ว๊ากเนี่ย ถ้าชอบพวกพี่เชียร์ก็ไม่ค่อยแปลกใจหรอก" เบียคุยะว่าแล้วยิ้มน้อยๆ
"พี่เชียร์ก็ชอบค่ะ แต่พวกสาวๆเค้าว่าพี่ว๊ากทำตัวดุ น่าค้นหามากกว่าน่ะค่ะ"
"แล้วคุณล่ะ?" พี่ว๊ากของเธอถามออกมาตรงๆ...แทงใจดวงเล็กจนแทบสะดุ้งโหยง
"ชอบพี่ว๊ากหรือพี่เชียร์มากกว่า?"
ลูเคียเม้มปากแน่น หลบสายตาเขาด้วยความอายจัดที่ต้องตอบแบบเผยความในใจออกไป
"หรือว่าไม่ชอบเลย?" เขายังพูดต่อ ตาก็ชำเลืองท่าทางของรุ่นน้องผู้น่ารักไปด้วย
"ช...ชอบพี่ว๊ากค่ะ" เธอตอบไม่เต็มเสียงนัก รู้สึกอย่างกับกำลังเป็นฝ่ายสารภาพรักเขาอยู่
ตอบไปกลางแบบนี้...จะดีหรือเปล่านะ?
ระบุไปด้วยดีไหมว่า...ชอบเฉพาะรุ่นพี่คนเดียว?
แต่ก็ได้แต่คิด ไม่กล้าพอจะพูดออกไปทั้งหมด ตอบไปแค่ครึ่งๆกลางๆแบบนั้น
"ใคร?" อยู่ๆเสียงเขาก็เข้มเครียดขึ้นมา
"คะ?" ลูเคียเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจคำถาม
"ก็คุณบอกว่าชอบพี่ว๊าก" เขาถามซ้ำ "ผมก็เลยอยากรู้ว่าใคร พี่ว๊ากคนไหนที่คุณชอบ?"
"ก็...เอ่อ..." ลูเคียอึกอักที่ถูกเขาไล่ต้อน แต่ในพริบตานั้นเธอก็กลั้นใจตอบออกไป "หนูชอบรุ่นพี่ค่ะ!"
"ผมเหรอ?" แม้จะถามย้ำ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ประหลาดใจเลย
เด็กสาวพยักหน้มจนศีรษะคลอนไปมา "หนู...ชอบรุ่นพี่...ที่สุดเลยค่ะ"
"ผม..."
ตรื้ดดด ตรื้ดดดด –
เสียงโทรศัพท์กลับดังขัดจังหวะ เบียคุยะทำท่าอารมณ์เสียเล็กน้อยขณะหยิบมือถือขึ้นมาดู
ใบหน้าคมคายนั้นจ้องดูที่หน้าจอก่อนจะคว่ำโทรศัพท์นั้นลงเพื่อให้มันหยุดร้อง เขาหันมาถอนหายใจเบาๆ กับลูเคีย
"ผมขอตัวสักครู่นะ" เขาบอกแล้วไม่รอให้ลูเคียตอบรับก็ลุกเดินเข้าไปรับโทรศัพท์นั้นในห้องนอน
ลูเคียจะว่ากระไรได้ เธอพยักหน้าทั้งที่ยังปรับอารมณ์ไม่ทันเท่าไหร่หลังจากพยายามแทบตายกว่าจะได้บอกว่าชอบเขาออกไป แต่กลับถูกขัดจังหวะเสียนี่...ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันนะ
โชคดีที่ไม่ต้องทนกระอักกระอ่วนต่ออีกหน่อย หรือโชคร้ายที่ไม่ได้ฟังสิ่งที่เขาจะพูดก็ไม่รู้
พอเธอมองไปยังห้องนอนของเขา เธอก็สังเกตได้ว่า...ประตูมันแง้มอยู่
ความอยากรู้อยากเห็นทำให้ร่างเล็กลืมเรื่องมารยาทไปหมด ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็มาหยุดยืนหน้าประตู ทำตัวลีบแนบผนัง กลั้นหายใจและเงี่ยหูฟังอย่างสุดความสามารถ
"เราเลิกกันแล้ว หยุดวุ่นวายกับผมสักทีเถอะ!" เสียงเบียคุยะตวาดใส่ปลายสายอย่างเกรี้ยวกราด
ลูเคียแอบสะดุ้งด้วยความตกใจแต่ไม่ส่งเสียงอะไรเพราะกลัวเขาจะจับได้ว่าเธอแอบฟัง
จากคำพูดนั้นของเขา เธอรู้ได้ทันทีว่าคนที่โทรมาเป็นใคร...แฟนเก่าของเขา
"คุณอยากจะได้อะไร ผมก็ให้ไปหมดแล้ว อยากไปเสวยสุขกับผู้ชายคนนั้นผมก็ยอมปล่อยคุณไป ยังจะเรียกร้องอะไรอีก!"
คราวนี้ลูเคียขมวดคิ้ว ฟังๆดู อย่างกับว่าเขาโดนแฟนเก่าสวมเขาจนเขาจับได้แล้วต้องเลิกกัน
"ผมขอเตือนอีกครั้ง อย่าโทรมาอีก ไม่งั้นเราได้เห็นดีกันแน่!" เสียงเขาขู่ใส่ปลายสายก่อนจะมีเสียงเหวี่ยงโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นกระแทกใส่กำแพงจนแตกเป็นชิ้นๆ
ลูเคียขนลุกซู่แล้วรีบสาวเท้ากลับมานั่งทำหน้าตายเหมือนไม่ได้ยิน ไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
อึดใจต่อมาเขาก็เดินปวกเปียกออกมาจากห้องและนั่งลงข้างโซฟา สีหน้าอมทุกข์
"มีอะไรเหรอคะ?" ลูเคียทำตาใส ถามด้วยความเป็นห่วง แต่ในใจรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังเสแสร้งทำตัวเป็นแม่พระ
"แฟนเก่าผมน่ะ" เขาตอบพลางใช้ฝ่ามือทั้งสองลูบหน้าอย่างพยายามระงับอารมณ์
"เราเลิกกันไม่ค่อยดีนักเพราะมีมือที่สาม ผมก็ไม่อยากจะรั้งเค้าไว้"
"แล้วที่เค้าโทรมา..."
"ขอคืนดี" เบียคุยะตอบสั้นๆ
ลูเคียใจหายวาบ แต่ดูจากท่าทางกับคำพูดตอนโทรศัพท์ของเขาแล้วก็คิดว่าเขาไม่ยอมแน่ๆ
"เค้าจะเลิกกับทางโน้นเหรอคะ?" ลูเคียทำเป็นถามอย่างเห็นใจอีก "ถ้ายังรักกันอยู่จะกลับมาคบกันก็ไม่แปลกหรอกค่ะ" เธอฝืนทำเป็นพูดดี แต่ใจแอบหวั่นไหว...และเสียดาย
"ไม่ ยังไงผมก็ไม่กลับไปคบกับเค้าอีกเด็ดขาด" เบียคุยะพูดเสียงแข็ง
ลูเคียพยักหน้า...ใจชื้นขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยเธอก็ยังมีลุ้นอยู่
"คนรักกัน เค้าไม่ทำแบบนั้นกันหรอก" เบียคุยะเอ่ยราวกับระบายความในใจ "ผมกับเค้าก็เหมือนแก้วที่มันแตกไปแล้ว มันซ่อมคืนมาไม่ได้แล้ว"
ลูเคียทำหน้าเห็นใจ "พูดมาเถอะค่ะ หนูจะรับฟังให้เอง จะไม่เอาไปบอกใครด้วยค่ะ" เธอว่าติดตลก หวังให้เขาสบายใจขึ้นบ้าง
เบียคุยะหันมาแค่นยิ้ม "ขอโทษนะ อุตสาห์มานั่งคุยเป็นเพื่อนผมแท้ๆ แต่ผมกลับมีแต่เรื่องไร้สาระมาบ่นให้คุณฟัง"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ได้ระบายออกมาบ้าง จะได้ไม่เครียดค่ะ"
"ขอบใจนะ" เบียคุยะดูอารมณ์ดีขึ้นมาทันที เขายื่นมือมาปัดปอยผมที่ตกมาบนหน้าเธอไปทัดไว้ที่หูให้
ลูเคียหัวใจเต้นแรงสนั่นหวั่นไหวยามที่รู้สึกถึงไอร้อนจากมืออุ่นที่แตะผ่านแก้มนุ่มของเธอไป
อยู่ๆเธอก็ยกมือขึ้นกุมมือเขาไว้อย่างลืมตัว
"รุ่นพี่คะ...ให้หนู..."
ก๊อก ก๊อก ก๊อก! –
คราวนี้สิ่งที่เข้ามาขัดจังหวะคือเสียงเคาะประตู
"เบียคุยะ!" เสียงห้าวที่ดังเรียกเจ้าของห้องอยู่นั้นคุ้นหูลูเคียเหลือเกิน
"รอเดี๋ยวนะ สงสัยจะเป็นพวกเพื่อนๆผมน่ะ" เขาบอกและลุกไปเปิดประตู
ลูเคียมองตาม จนเมื่อประตูเปิดออกเธอก็อดร้องหูวออกมาไม่ได้
ฮิซางิ ชูเฮย์ หนึ่งในพี่ว๊ากที่จัดว่าเป็นที่นิยมพอตัว กับ ไอเซ็น โซสึเกะ หัวหน้าพี่เชียร์ ที่ยัยโมโมะเพื่อนสนิทเธอหลงหัวปักหัวปำ
"เอาชีทมาให้น่ะ--" ชูเฮย์ยื่นกระดาษหนึ่งปึกให้เบียคุยะก่อนจะหันมาเป็นลูเคีย เขาทำตาโต ร่างสูงนั้นยืนแข็งอย่างกับหิน
"เบียคุยะ...นั่นมัน...น้องปีหนึ่งไม่ใช่เหรอ?"
"อืม ลูเคียน่ะ" เบียคุยะแนะนำสั้นๆขณะพาเพื่อนเดินเข้ามานั่ง
ลูเคียรีบลุกจากโซฟาแล้วก้มศีรษะให้ "ชิรายูกิ ลูเคีย ปีหนึ่งเอกไบโอ (ชีววิทยา) ค่ะ" เธอแนะนำตัว
"ไปไงมายังไงล่ะเนี่ย" ไอเซ็นถาม ใบหน้านั้นเจือรอยยิ้มพรายทรงเสน่ห์
"เอ่อ...ก็..."
"วันก่อนฝนตก ก็เลยแวะรับน้องเค้าจากกลางทางไปส่งที่หอน่ะ" เบียคุยะสรุปอย่างง่ายๆ
"อ้อ อย่างนี้นี่เอง" ไอเซ็นยังคงยิ้ม
"น้องลูเคียครับ มีแฟนหรือยังครับ?" ชูเฮย์รีบยื่นหน้ามาถามสีหน้าจริงจัง "พี่ยังโสด ปิดห้องเชียร์แล้วมาคบกับพี่เถอะครับ!"
ลูเคียถึงกับหลุดหัวเราะพรืดออกมา ในห้องเชียร์ชูเฮย์ทำตัวเก๊กมาดเข้มตลอด ใครจะรู้ว่านอกห้องเชียร์จะเป็นคนทะลึ่งทะเล้นขนาดนี้
"ชูเฮย์" เสียงเบียคุยะเรียกอย่างปรามๆ ทำเอาชูเฮย์หันไปบุ้ยปากใส่
"จะจีบเองก็แปะป้ายจองด้วยสิ" ชูเฮย์ทำปากบ่นงุบงิบ แต่สายตาเป็นประกายอย่างนึกสนุก
คำพูดของชูเฮย์เล่นเอาลูเคียอายวูบ หน้าแดงขึ้นมา ยิ่งเบียคุยะไม่แก้ตัวด้วยแล้ว...เธอก็ยิ่งรู้สึกอายแทบบ้า
ไอเซ็นจึงพูดขึ้น "พวกนายอย่าไปแกล้งน้องเค้าสิ หน้าแดงหมดแล้วนั่นน่ะ"
ชูเฮย์ก็เลยถอยออกมานั่งพิงเก้าอี้ท่าทางสบายๆ พร้อมรอยยิ้มสนุกสนาน
"จริงสิลูเคีย เธอบอกว่าอยู่เอกไบโอใช่ไหม?" ไอเซ็นถามลูเคีย ใบหน้ายังคงใจดี "รู้จัก ฮินาโมริ โมโมะ หรือเปล่า?"
"ค่ะ โมโมะ เป็นเพื่อนสนิทหนูค่ะ ทำไมเหรอคะ?"
"ผมเป็นปู่รหัสเค้าน่ะ เผื่อวันหลังจะฝากขนมไปแทค (แทคแคร์) หน่อย" แว่บหนึ่งลูเคียเห็นแววตานั้นฉายแววเจ้าเล่ห์บางอย่าง
แต่ก็คิดว่าคงคิดไปเอง
"ค่ะ! ด้วยความยินดีค่ะ!" เธอตอบรับอย่างยินดี ไม่ค่อยแปลกใจนัก เพราะพวกพี่เชียร์กับพี่ว๊ากไม่ได้ถูกสั่งแค่ห้ามยุ่งกับน้องปีหนึ่งเท่านั้น แม้แต่กับสายรหัสตัวเองก็ยังเป็นความลับเช่นกัน
"อย่าบอกเค้าล่ะว่าผมเป็นปู่รหัส" ไอเซ็นย้ำ
"ค่ะ หนูจะไม่บอกหรอกค่ะ!" เธอบอก นึกไม่ออกเลยว่าวันปิดห้องเชียร์ยัยโมโมะจะดีใจขนาดไหนที่ปู่รหัสของตัวเองเป็นที่แอบปลื้มอยู่แบบนี้
"หิวชะมัด เบียคุยะ มีอะไรกินบ้างอ่ะ" ชูเฮย์ถือวิสาสะเดินไปเปิดตู้เย็นอย่างกับเป็นห้องตัวเอง "ไรเนี่ย มีแต่ของสด ของพร้อมกินน่ะไม่มีบ้างหรือไง"
"จริงสิ อยู่หลายๆคนแบบนี้สั่งพิซซ่ามากินกันเถอะ" ไอเซ็นเสนอ
"เยี่ยมเลยไอเซ็น!" ชูเฮย์หันมายกนิ้วโป้งให้
"ลูเคียจังก็อยู่ทานด้วยกันก่อนนะ" ไอเซ็นพูดอีก ไม่มีใครถามความสมัครใจของเบียคุยะสักคำ
"จะดีเหรอคะ?" ลูเคียยิ้มเจื่อนๆพลางพยายามสบตาเบียคุยะ ไม่ใช่แค่เกรงใจ แต่เธอกลัวจะมีตังไม่พอหารค่าพิซซ่า "หนูว่าหนูขอตัวดีกว่าค่ะ"
"อยู่กินด้วยกันเถอะ" เบียคุยะบอกเสียงจริงจัง "ไม่เป็นไรหรอก"
ลูเคียมองเงาของชูเฮย์ที่ออกไปโทรสั่งพิซซ่าที่นอกระเบียง ตัดสินใจพยักหน้าเบาๆ ถือว่าเป็นการทำความรู้จักเขากับเพื่อนๆก็แล้วกัน
เบียคุยะทำหน้าพอใจมากทีเดียวที่ลูเคียยินยอมเช่นนั้น...
************
กว่ามื้อเที่ยงอันแสนเฮฮาจะจบลง ก็กินเวลาเข้าไปเกือบเย็น
พิซซ่าถาดใหญ่ ไก่ย่าง ไอศกรีม แป๊บซี่ และของทานเล่นอีกหลายอย่างทำเอาเธอจุกไปถึงมื้อเย็นเลยทีเดียว
เมื่อเห็นเวลามันล่วงเลย แถมชูเฮย์ก็นอนเหยียดยาวหลับไปบนโซฟาด้วยความอิ่มจัด เธอก็ขอตัวกลัวหอของตัวเองเพราะเห็นว่ารบกวนเขามาพอแล้ว และการที่เธอได้รับเกียรติจากเขาพาไปเที่ยวห้องและร่วมกินข้าวกับเพื่อนๆ ของเขา แค่นี้เธอก็รู้สึกว่าเหนือกว่าสาวๆคนไหนหลายเท่าตัวแล้ว
เบียคุยะยืนกรานไม่ยอมให้เธอเดินกลับ เขาบอกว่าช่วงนี้เป็นวันหยุด คนน้อย หากเขาจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งก็คงไม่ค่อยมีคนสังเกตเห็น ลูเคียก็เลยยินยอมตามนั้น
"นี่ค่าพิซซ่าค่ะ" ลูเคียล้วงหยิบเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ใบจ้อยที่เธอเย็บขึ้นเองออกมาให้หลังจากลงจากมอเตอร์ไซค์ของเขา
"ไม่ต้องหรอก เก็บไว้เถอะ" เขาปฏิเสธที่จะรับเงินนั้น
"ไม่ดีหรอกค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจมากแล้วค่ะ"
"ไม่ต้องเกรงใจ"
"แต่ว่า..."
"ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว ผมเลี้ยงได้" เบียคุยะตอบและดันมือเล็กที่กำเงินไว้กลับไป
เขายืนกรานแบบนั้น ลูเคียก็เลยไม่กล้าจะดึงดันต่อ "งั้นคราวหน้าให้หนูเลี้ยงบ้างนะคะ"
"ตกลง" เขาพยักหน้า เด็กสาวเลยเก็บเงินกลับเข้ากระเป๋าตัวเอง
"งั้นหนู..." เธอมองเขาตาละห้อย รู้สึกมีความสุขเหลือเกิน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ได้ใช้ไปกับเขา เธอรู้สึกว่ารู้จักเขามากขึ้นอีกนิดนึงแล้วล่ะ
"ขึ้นห้องเถอะ เดี๋ยวคืนนี้ผมโทรหานะ"
ลูเคียเบิกตากว้างอย่างไม่คาดคิด...เขาพูดว่า จะโทรหาเธอ
ไม่รู้หรอกว่าเขาคิดยังไง แต่เธอน่ะ ดีใจจนตัวจะลอยอยู่แล้ว!!
"ค่ะ ขอบคุณสำหรับมื้อเที่ยงนะคะ ฝากขอบคุณพี่ชูเฮย์ด้วยค่ะ"
"อืม ผมไปล่ะ"
เธอยิ้มกว้าง ถอยห่างออกมาจากเขาเล็กน้อย เสียงเขาสตาร์ทรถและขี่ออกไป ทิ้งให้เธอยืนตาลอยฝันหวานอยู่หน้าหอนั้นเอง....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น