ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
สองมือแกร่งที่ร้อนดังไฟนั้นลากไปทั่วร่างของเธอไม่หยุด เฉกเช่นเดียวกับร่างกายท่อนล่างที่โถมเข้าใส่เป็นจังหวะ
จากลำคอสู่เนินไหล่ วกกลับมาผ่านเนินเนื้อช่วงหน้าอกและลูบไปตามชายโครงเล็กของหุ่นผอมบาง ทุกสัมผัสที่มือหนานั้นลากผ่านทำเอาผิวกายบริเวณนั้นทวีความร้อนรุ่มขึ้นอีกเท่าตัว ทั้งวาบหวามเสียวซ่าน ทั้งความปรารถนาที่รุมร้อน ทำเธอแทบขาดใจ
"รุ่นพี่คะ...อึก..." สาวน้อยวัยสิบแปดหน่อยๆที่อยู่ใต้ร่างเขา ปรือตาขึ้นมองเขาด้วยความสิเน่หา...และเปี่ยมล้นด้วยความต้องการที่ใกล้จะถึงจุดทะลักทลายในไม่ช้า
เพียงคำสั้นๆ แต่ก็เพียงพอจะทำให้ร่างสูงของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเทียบชั้นดาวมหาลัยเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของเขากับเธอ
"เข้าใจแล้ว" เขาเอ่ยด้วยแรงหอบกระชั้นที่ตัวเองก็แทบจะรั้งความต้องการของตนไว้ไม่ไหว
เขามองร่างของเธอ ผิวกายสะอาดเนียนนุ่มทั้งยังขาวดั่งน้ำนมไหววูบไปมาตามแรงที่เขากระแทกใส่ จนกระทั่งทั้งคู่ไปถึงจุดหมายในเวลาเดียวกัน จึงค่อยๆทิ้งกายเอนตัวลงนอนเคียงข้างเด็กสาว
"เสร็จกี่ที" เขาถามหน้าตาย
หญิงสาวถลึงตามองเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ เธอคว้าหมอนใบเล็กข้างตัวมาปิดหน้าด้วยความอาย
"สองค่ะ" เธอตอบเสียงงุบงิบ สายตามองหาชั้นในของเธอที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นเป็นการแก้เขิน
เบียคุยะหย่อนของใช้แล้วเหล่านั้นที่ห่อหุ้มด้วยกระดาษทิชชูอย่างแน่นหนาลงถังขยะก่อนจะกลับมานอนลงข้างๆเธอ "น้อยกว่าปกตินะ" อ้อมแขนอุ่นดึงรั้งสาวน้อยสู่อ้อมกอดแล้วกระซิบอีก "พอหรือเปล่า? ถ้าไม่พอจะต่อก็ได้นะ"
ลูเคียแสร้งทำเมินทั้งที่อายสุดขีด เธอดึงผ้าห่มมาห่มร่างจนถึงคอ "แค่นี้หนูก็เหนื่อยจะแย่แล้วนะคะ รุ่นพี่"
ชายหนุ่มพยักหน้า แต่ใต้ผ้าห่มนั้น เขากลับล้วงมือควานไปยังร่างที่ยังร้อนฉ่าของเธอ "แน่ใจนะว่าพอ? ใช้นิ้วให้เอาไหม?"
"พอแล้วค่ะ!" ลูเคียตอบพลางรีบคว้ามือเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะทำการรุกรานร่างกายเธออีกเป็นคำรบสอง
เบียคุยะยิ้มน้อยๆ ดึงมือออกจากผ้าห่มอย่างยอมแพ้แล้วเชยคางเธอขึ้นมาจูบเบาๆ
เขา...นักศึกษาปีสี่ ผู้เป็น "รุ่นพี่" ของเธอ
และเธอ...นักศึกษาปีหนึ่ง เข้าใหม่หมาดๆยังไม่ทันจะครบสามเดือนดีด้วยซ้ำ
"หนูรักรุ่นพี่นะคะ" ลูเคียช้อนสายตาหวานขึ้นมองขณะบอกรักเขา
วงแขนบางโอบรอบกายเปลือยของอีกฝ่ายอย่างหวงแหน
"ผมรู้..." เบียคุยะเอ่ยตอบพร้อมกับย้ำจุมพิตลงไปอีกหน
แต่คนฟังรู้สึกเจ็บแปลบในอกเล็กๆ เพราะเธอทุ่มเททุกอย่างให้เขา แม้กระทั่งร่างกายของตน...แต่เขาก็ไม่เคยเอ่ยสักคำว่ารักเธอ ไม่เคยจะหลุดปากออกมาแม้สักหน
เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่าเพียงเท่านี้ก็ดีแค่ไหน สำหรับการหลงรักรุ่นพี่ที่เป็นหนึ่งในที่นิยมของคณะเธอได้ขนาดนี้
แค่ได้เป็นเจ้าของร่างกายเขา...ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?
แถมระยะเวลาแค่สามเดือน...จะไปหวังอะไรให้มันมากมายกันเล่า?
เธอคิดแบบนั้นแล้วก็ยิ้มหวานออกมา ดันศีรษะตัวเองไปซุกกับอกอุ่นที่ยังชื้นเหงื่อจากกิจกรรมที่เพิ่งทำ
"เพิ่งจะห้าโมงเย็น หลับซะหน่อยสิ" เขาไล่ปลายจมูกมาหอมที่หน้าผากเธอ "ถึงเวลาไปห้องเชียร์เมื่อไหร่ ผมจะปลุก"
ลูเคียพยักหน้าทั้งที่หลับตาไปแล้ว ความเหนื่อยอ่อนและหมดแรงจากการร่วมรักกับเขา ทำให้เธอไม่มีแรงจะปฏิเสธอะไร...เพียงได้นอนกอดเขาและหลับไปในอ้อมแขนอุ่นแบบนี้
เธอก็มีความสุขมากที่สุดแล้ว...
ย้อนความ....
เธอได้เจอเขาครั้งแรก...ในห้องเชียร์ของคณะวิทยาศาสตร์
เธอก็เหมือนคนอื่นๆร่วมรุ่น คือเป็นเด็กปีหนึ่งที่ถูกเพื่อนชักชวนเข้าห้องเชียร์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ว่าไปเพื่อหาเพื่อนใหม่ที่อยู่ต่างสาขาหรือไปเป็นเพื่อนให้กับเพื่อนที่คอยกรี๊ดพี่เชียร์ทั้งหลายอยู่ก็เถอะ และในที่สุด เธอก็ได้พบเขา...ที่เป็นพี่ว๊าก
สีหน้านิ่ง กับ เสียงเข้มๆ แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขามทำให้ครั้งแรกที่เธอได้ยินนั้นรู้สึกครั่นคร้าม มันช่างดูมีเอกลักษณ์เหลือเกินยามที่อยู่ท่ามกลางเสียงตวาดห้าวหาญใส่เด็กใหม่อื้ออึงในการสั่งให้ก้มหน้าลงไปของบรรดาพี่ว๊ากคนอื่น ตั้งแต่เข้ามาในห้องเชียร์นี้แทนพี่เชียร์ผู้อ่อนหวานทั้งหลาย พวกเขาก็เอาแต่ใช้เสียงข่มขวัญเด็กใหม่ว่าอย่าได้ริอาจหาญกล้าเงยหน้าขึ้นมอง จนบรรยากาศเข้มเครียดหนักแน่นและขุ่นมัว ความกดดันของบรรยากาศหนักอึ้งทำได้แค่ก้มหน้ามองพื้นดังที่พวกเขาสั่ง
แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันไม่เคยเข้าใครออกใคร ถึงจะถูกสั่งแบบนั้น แต่ใจที่อยากรู้มันมีมากกว่า จึงได้หาโอกาสแอบเงยหน้าขึ้นมอง...และเธอก็ได้เห็นเขา ผู้เป็นเจ้าของเสียงต่ำทุ้มแต่ดุดันเหลือทนคนนั้น
ร่างผอมสูงสมส่วนในชุดสีดำทั้งตัวเดินเข้ามาใกล้เธอ ผมยาวประบ่าแกว่งไกวน้อยๆยามที่เขาเคลื่อนกาย แต่แทนที่จะเป็นใบหน้าเหี้ยมโหดดั่งมหาโจรอย่างที่เธอคิด กลับกลายเป็นใบหน้าที่หล่อเหลือใจ ไม่แพ้ดาราดังๆที่เธอเคยเห็นจากในทีวีหรือหนังสือนิตยสารเลยแม้แต่นิด
ในตอนนั้นเอง เธอก็รู้ตัวเลยว่า เธอหลงรักเขาเข้าให้แล้ว
...รักแรกพบ...
รูปร่าง หน้าตา แบบนี้แหละ ใช่เลย!...ผู้ชายที่เธอใฝ่ฝันอยากจะได้มาเป็นแฟน อยากจะได้มาครอบครอง!
เพียงสบตา...ร่างเธอก็เหมือนจะละลายลงไปตรงนั้น หัวใจมันร่ำร้องทันทีว่ารักเขา รักเขา รักเขา และรักเขา
รู้จักกันหรือ? ก็เปล่า...รู้จักชื่อหรือ? ก็เปล่า
รู้แต่ว่าผู้ชายคนนี้แหละคือชายในสเป็คของเธอที่วาดฝันเอาไว้มานมนาน
แต่พอคิดถึงความเป็นไปได้ ใจคอก็พลันห่อเหี่ยว
หล่อขนาดนี้...จะไม่มีแฟนได้ยังไง?
คงจะเหลือมาถึงมือเธอหรอก? เธอนึกประชดความคิดตัวเอง
แถมเพื่อนร่วมรุ่นของเธอที่สวยกว่าเธอมีมากมาย อึ๋มกว่าก็มีเยอะแยะ สมบูรณ์แบบอย่างพวกลีดก็มีอีกไม่ใช่น้อย...ยังไม่นับพวกโดดเด่นสะดุดตาอย่างพวกบ้ากิจกรรม ชอบวิ่งเข้าหารุ่นพี่นั่นอีกเล่า
"คุณชื่ออะไร!?"
กำลังคิดไปเรื่อย เขาก็เดินมาหยุดตรงหน้าเธอด้วยใบหน้าเย็นชากับเสียงเคร่งเครียดที่ตวาดเอาๆ
"มองหน้าผมทำไม!?"
"อ๊ะ?!" ทั้งตกใจที่เขามายืนตรงหน้า ทั้งตกใจจนไม่ทันได้ฟัง ได้แต่อ้าปากเหวอด้วยความเปิ่นเฉิ่มเต็มที่
"ผมถามว่าคุณชื่ออะไร?! มองหน้าผมทำไม?!" เขาขึ้นเสียงใส่อีก
แต่แทนที่เธอจะตกใจกลัวดั่งครั้งแรกที่ได้ยินเสียงเขา เธอกลับรู้สึกว่าเสียงเขานั้นช่างไพเราะเพราะพริ้งเหลือเกิน และเมื่อสังเกตดีๆ ก็เห็นว่าตาของเขานั้นช่างเป็นสีเทาสวยจับใจนัก
และ...ตอนนี้เขาก็กำลังถามชื่อเธอ...
"ลูเคียค่ะ!" เธอตอบออกไปด้วยเสียงที่ฟังดูกระตือรือล้นและตื่นเต้นจนดูไม่เหมือนเด็กสาวที่กำลังถูกดุเลยแม้แต่น้อย ซึ่งก็จริงตามนั้น เพราะอยู่ๆเธอก็มีความสุขเหลือเกินที่ได้สนทนากับเขา...ถึงจะเป็นสถานการณ์แบบนี้ก็เถอะ
"คุณมองหน้าผมทำไม?!" เขาถามย้ำเสียงดุดันหวังจะให้เธอกลัว แต่เปล่าเลย เธอก้าวข้ามมันไปแล้ว
"ก็รุ่นพี่..." เธอเกือบจะพูดออกไปแล้วว่า //ก็รุ่นพี่หล่อ// แต่ฟังดูไม่ดีมั้ง เธอก็เลยเปลี่ยนใจเป็นตอบอย่างอื่น "...ก็หนูก้มหน้าแล้วเมื่อย" เธอแสร้งตอบๆไป
"ผมยังไม่ได้สั่งให้เงยหน้าขึ้นมา! ก้มหน้าลงไป!" เขาตวาดใส่เสียงดัง ใบหน้ายังนิ่งเฉย
ลูเคียก็เลยได้แต่ก้มหน้ากลับลงไปตามคำสั่งนั้น ก่อนจะได้ยินเขายื่นหน้ามากระซิบที่ข้างหูเธอ
"ชื่อลูเคียสินะ..."
เธอเบิกตากว้าง รีบหันไปมองเขาอย่างลืมตัวว่าเขาเพิ่งสั่งให้ก้มหน้า แต่พอหันไป...เขาก็เดินหนีไปแล้ว
"แค่ทำตามแค่นี้ยังทำไม่ได้ จบออกไปจะทำอะไรกิน?!" เสียงเขายังดังต่อไป แต่สำหรับเธอ มันกลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้ยินเพลงคลาสสิคที่บรรเลงโดยเหล่าเทวทูตจากสรวงสวรรค์
"พูดอะไรไม่เคยเชื่อ! พูดอะไรก็ไม่ฟัง! คำสั่งง่ายๆมันทำยากนักหรือไง!"
อา...มันช่างเป็นสิ่งที่บันเทิงใจเหลือเกินที่ได้นั่งฟังเสียงของเขาแบบนี้...
"เงยหน้าอีกแล้ว! ก้มลงไป! ไม่ต้องมาอยากมองหน้าผม!"
ลูเคียรู้สึกตัวสั่น...//ก็รุ่นพี่หล่อแบบนี้ ใครๆก็อยากมองเป็นธรรมดานี่นา//
"นั่งเฉยๆก็มีปัญหา! ถ้าอย่างนั้นก็ร้องเพลง!"
//หนูร้องเพลงรักได้ไหมคะ?// เธอคิดแล้วกลั้นหัวเราะเพียงลำพัง
"เพลงประจำคณะร้องได้หรือยัง! เอ้า! ร้องซักที! ผมรอฟังอยู่!"
//หนูไม่อยากร้องเพลง หนูอยากฟังเสียงพี่พูดอ่ะค่ะ พี่พูดต่อไม่ได้เหรอ// ลูเคียครวญครางในใจ แต่แน่ล่ะ ใครจะบ้าพูดออกไป ได้แต่ร้องเพลงพะงาบๆไปพร้อมๆกับเพื่อน
ร้องได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ร้องถั่วงาบ้าง อะไรบ้าง...จนกระทั่งมันสิ้นสุดลงทั้งห้องว๊าก และห้องเชียร์
คืนนั้นลูเคียกลับหอไปด้วยความร่าเริงเต็มพิกัด และนอนฝันดีไปตลอดคืน
..
หลังจากจบห้องเชียร์วันแรกแล้ว หลายคนก็บ่นกันอุบอิบว่าพี่ว๊ากนั้นแสนดุ ใช่...เธอเห็นด้วย แต่ในความดุนั้น ช่างเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เหลือหลายทลายหัวใจจริงๆ
และหลายคนก็บ่นอีกว่า...พี่ว๊ากนั้นหล่อลากไส้เสียจริง และเธอก็เห็นด้วยอย่างไร้ข้อโต้เถียงอีกเช่นกัน
หลังจากนั้นเพื่อนฝูงของเธอก็แห่แหนกันไปกรี๊ดพี่ว๊ากกันอย่างออกนอกหน้าออกตา สาวๆหลายคนเริ่มปฏิบัติการขุดคุ้ยชื่อเสียงเรียงนามและประวัติส่วนตัวของบรรดาเหล่าพี่ว๊ากออกมาแฉเป็นรายบุคคล
ซึงนั่นมันเป็นประโยชน์กับเธอเหลือเกิน เพราะมันทำให้เธอได้รู้จักเขา
คุจิกิ เบียคุยะ ปีสี่ เอกฟิสิกส์ สูง 183 เซนติเมตร หนัก 64 กิโลกรัม กรุ๊ปเลือดเอบี เกิดวันที่ 31 มกราคม เกรดเฉลี่ย 3.86 อยู่ชมรมยิงธนูและคัดอักษร และที่สำคัญเหนืออื่นใด...สถานภาพ โสด
เธอก็ได้แต่เฝ้ารอวันเข้าห้องเชียร์อย่างใจจดใจจ่อที่จะทำให้เธอได้ใกล้ชิดกับเขา
ไม่ได้เป็นแฟน อย่างน้อยได้ฟังเสียงทุกวันก็ยังดี...เธอปลอบใจตัวเอง
แต่ชะตาฟ้าลิขิต...หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น ก็มีเหตุการณ์ทำให้เขากับเธอได้รู้จักกันมากขึ้น
ในวันนั้น...เป็นวันที่ฟ้าสดใสเหลือเกิน เธอเองก็เข้าห้องเชียร์ไปด้วยความเบิกบาน รอคอยช่วงเวลาที่เหล่าพี่ว๊ากจะปรากฏกาย และมันก็เกิดขึ้นอย่างเป็นกิจวัตรเหมือนอย่างเคย
พี่ว๊ากโผล่เข้ามาไล่บรรดาพี่เชียร์ออกไป ปิดห้องว๊ากน้องไปเรื่อยๆอย่างปรกติ...ทุกอย่างดำเนินต่อไปจนจบ
เด็กๆและรุ่นพี่แยกย้ายกันกลับหอ เธอที่ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ส่วนตัวก็จำต้องเดินกลับหอพักของคณะที่อยู่ไม่ไกลกับเพื่อนคนอื่นๆ
แต่ระหว่างเดินๆไปนั้น ฝนก็สาดลงมาห่าใหญ่
คนอื่นๆรีบวิ่งไปหาที่หลบฝนกันหมด แต่เธอกลับไม่คิดอย่างนั้น ไหนๆก็เปียกแล้ว วิ่งตากฝนไปน่าจะถึงเร็วกว่า
เธอยกกระเป๋าขึ้นเทินเหนือหัว แล้วเตรียมจะออกวิ่ง
"ลูเคีย?"
เสียงนั้นมาพร้อมกับร่างสูงที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจอดข้างเธอ...พี่ว๊ากในฝันของเธอคนนั้น
"ให้ไปส่งไหม?"
เขาถามขณะที่เธอยืนกระพริบตาปริบๆอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เขา...จำเธอได้
เขา...กำลังชวนเธอไปด้วยกัน
โอกาสงามๆขนาดนี่มีหรือเธอจะปล่อยให้มันหลุดมือไป?!
"ค่ะ" ร่างเล็กรีบขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เขาอย่างเร็วแข่งกับสายฝนที่สาดลงไม่ไม่ลืมหูลืมตาอย่างไม่สนใจมารยาทอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว
"ไปหอแปดค่ะ" เธอตะโกนบอกเขาแข่งกับเสียงฝน
ไม่มีเสียงตอบจากเขา มีแต่เสียงเร่งเครื่องยนต์แรงเพื่อจะพาเธอกับเขาออกไปจากตรงนี้ไปยังจุดหมายให้เร็วที่สุด
ลูเคียเอากระเป๋ามาวางกั้นไว้ระหว่างแผ่นหลังเขากับตัวของเธอโดยที่เธอกอดกระเป๋าแนบตัวไว้แน่น ใจก็อยากอยู่หรอกที่จะแอบฉวยโอกาสกอดเอวเขา...แต่แหม เกรงใจ
สุดท้ายก็เลยไม่ทำและเพียงอึดใจเขาก็พาเธอมาถึงหอหญิงที่แปดของเธอได้ในพริบตา เขาจอดรถไว้ตรงที่จอดรถในร่มที่มีหลังคามิดชิดและแสงไฟส่องสว่าง
ลูเคียก้าวลงมาหยุดยืนและรีมก้มหัวขอบคุณ "ขอบคุณค่ะ รุ่นพี่"
"ไม่เป็นไร" เขาตอบเสียงเย็นชาเหมือนตอนอยู่ในห้องเชียร์
ลูเคียพยายามยิ้มหวานที่สุดเท่าที่จะหวานได้ให้เขา หวังว่ามันจะทำให้เขาประทับใจในตัวเธอบ้างสักนิดก็ยังดี
และจากทีแรกที่เธอคิดว่าจะเดินเข้าหอกลับขึ้นห้องไปเลย แต่พอเห็นเขาตัวเปียกโชกแบบนั้น และฝนก็ยังไม่ยอมหยุด มันก็เลยไม่มีทางเลือกมากนักนอกจาก...
"เอ่อ ถ้ารุ่นพี่ไม่รีบกลับ ไปนั่งรอฝนซาตรงใต้หอก่อนดีไหมคะ?"
ชั่วขณะหนึ่งเธอนึกเสียดายที่หอเป็นหอหญิง ซึ่งแปลว่าไม่สามารถพาผู้ชายเข้าไปได้ แต่ยังดีที่ทางหอก็จัดเตรียมห้องโถงตรงใต้ถุนตึกเอาไว้ให้สำหรับการอ่านหนังสือรวมทั้งการพบปะพูดคุยกับเพื่อนหรือแขกที่มาเยี่ยมเยียน
เบียคุยะมองไปยังห้องโถงรับแขกและพยักหน้าตอบรับ "ก็ดีเหมือนกัน" เพราะยังไงเขาก็ทำอะไรไปมากกว่ารอฝนหยุดไม่ได้อยู่แล้ว
ลูเคียจึงรีบพาเขาเข้าไปตรงชุดรับแขก แต่เขาก็ดูกระอักกระอ่วนที่จะนั่งบนโซฟาทั้งที่ตัวเปียกชุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า
ลูเคียมองออกทันที "รุ่นพี่รอหน่อยได้ไหมคะ เดี๋ยวหนูขึ้นไปเอาผ้าขนหนูมาให้ค่ะ ตัวเปียกแบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอาน่ะค่ะ" เธอบอกเขาเร็วปรื๋ออย่างตื่นๆ
"จะทำให้คุณวุ่นวายไปหรือเปล่า?"
ลูเคียรู้สึกได้ถึงความเกรงใจในน้ำเสียงเขาจึงรีงบอกต่อ
"ไม่เลยค่ะ! หนูเสียอีกที่ทำให้รุ่นพี่วุ่นวาย รุ่นพี่อุตสาห์ยอมเสียเวลามาส่งหนูจนตัวเปียกไปหมด" เธอพูดจากใจจริง "ให้หนูได้ตอบแทนเถอะค่ะ"
"งั้นก็คงต้องรบกวนคุณแล้ว" เขาตอบตกลง
ลูเคียจึงรีบวิ่งไปที่ประตูกระจกที่เป็นทางผ่านไปยังลิฟท์สำหรับผู้อาศัย เธอแตะนิ้ววางบนแป้นเล็กๆที่ทำการสแกนนิ้วมือเธออย่างเร็วและมีเสียงกริ๊กเบาๆเป็นการปลดล็อกประตูอัตโนมัติ
เธอหันมองเขาอีกครั้งให้แน่ใจว่าเขายังอยู่ก่อนจะรีบขึ้นลิฟท์กลับห้องตัวเอง เพียงห้านาทีเธอก็กลับมาในชุดใหม่ที่แห้งสะอาดลายหมีน้อยพร้อมกับหอบข้าวของพะรุงพะรังจนเบียคุยะยังแปลกใจ
ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กหนึ่งผืน ผืนใหญ่อีกหนึ่งผืน แก้วกาแฟสองใบ ขวดน้ำเปล่าอีกขวด
"ตรงโน้นมีห้องน้ำสำหรับแขกค่ะ รุ่นพี่เอาผืนเล็กนี้ไปเช็ดตัวก่อนนะคะ พอตัวแห้งหน่อยค่อยเอาผืนใหญ่ใช้คลุม ร่างกายจะได้อุ่นๆ"
เธอรีบบอกและยัดเยียดผ้าขนหนูผืนนุ่มมาให้เขา
เบียคุยะทำหน้าลังเลเพราะเขาไม่คิดว่าจะทำให้เธอวุ่นวายขนาดนี้ แต่ในที่สุดก็รับไปและเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเอง
ในห้องน้ำ เบียคุยะถอดเสื้อยืดสีดำออกมาบิดน้ำออกจนหมาด เอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กนั้นซับน้ำออกจากผมพอให้ไม่มีน้ำหยดลงมาอีก และซับต่อที่ผิวกายเปียกจนแห้ง แม้จะยังอึนๆก็จำใจต้องใส่เสื้อชื้นๆนั้นกลับเข้าไป และทำอย่างเดียวกันกับกางเกงของตน
เมื่อกลับออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่คลุมไหล่ก็พบว่าเธอนั่งรออยู่พร้อมกับแก้วกาแฟที่คราวนี้มีน้ำอยู่เกือบเต็มและส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ
เธอยิ้มกว้างและส่งแก้วให้เขาใบหนึ่ง "ช็อกโกแลตร้อนค่ะ"
เบียคุยะนั่งลงฝั่งตรงข้ามและรับมาดื่ม อากาศเย็นๆแบบนี้ได้เครื่องดื่มร้อนๆเข้าไป ร่างกายจึงค่อยรู้สึกอุ่นขึ้นมา
"ขอโทษนะคะ พอดีหนูไม่มีกาแฟ มีแต่ช็อกโกแลตร้อน" เธอว่าแล้วหัวเราะแหะๆ
"ไม่เป็นไร แบบนี้ก็อร่อยเหมือนกัน" เขาบอก ขณะที่สังเกตได้ว่าเจ้าช็อกโกแลตร้อนที่เธอชงนี้ช่างไม่เหมือนกับที่เขาเคยกินมาเลย เธอคงมีสูตรพิเศษประจำตัวล่ะมั้ง
ลูเคียยังคงยิ้มหน้าบานเมื่อถูกชมว่าช็อกโกแลตร้อนที่เธอชงนั้นอร่อยถูกปากเขา
"เอ่อ...รุ่นพี่ คุจิกิ...ใช่ไหมคะ?" เธอรีบหาเรื่องสนทนากับเขาต่อ
"อืม คุจิกิ เบียคุยะ" เขาแนะนำตัวสั้นๆ แล้วลดแก้วช็อกโกแลตลงเพื่อสบตาเธอ "แล้วคุณ..."
"ชิรายูกิ ลูเคีย ค่ะ" คราวนี้ลูเคียบอกทั้งชื่อและนามสกุล เบียคุยะจึงพยักหน้าเบาๆยกแก้วขึ้นดื่มต่อ
ลูเคียมองเขาที่ดูจะชอบช็อกโกแลตร้อนนี้มากด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
"เอ่อ รุ่นพี่คะ..." เธอเรียกเขาด้วยสีหน้าลังเล เมื่อครู่ระหว่างที่วิ่งขึ้นไปหยิบของลงมานั้นเธอก็นึกอะไรดีๆขึ้นมาได้
มันคือ "ข้ออ้าง" ที่เธอหวังว่าจะใช้มันเพื่อสานสัมพันธ์กับเขา…อย่างน้อย ได้เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันก็ยังดี
หากอยากจะได้เขา...แต่ไม่ลงมือทำอะไร ก็คงไม่มีวันได้เชยชมเขาอย่างแน่นอน
เธอจึงได้ตัดสินใจ แม้หากผลมันออกมากลายเป็นว่าเขากับเธออาจจบลงที่การเป็นเพียงรุ่นพี่รุ่นน้อง เธอก็จะไม่เสียใจเลย เพราะตอนนี้ เธอขอแค่ได้ "รัก" เขา มันก็ดีมากมายแล้ว ไม่ว่าเขาจะเห็นเธอเป็นอะไรก็ตามที
"คือ หนูอยากจะเลี้ยงข้าวตอบแทนรุ่นพี่น่ะค่ะ" ลูเคียจ้องตาเขาขณะเอ่ยตอบ แก้วตาหวานสีลาเวนเดอร์เข้มนั้นพยายามทำให้ดูจริงใจและอ้อนขอให้มากที่สุด
"ตอบแทน?" เขาทวนคำ "เรื่องอะไร? เรื่องที่ผมมาส่งน่ะเหรอ?"
"ค่ะ" เสียงหัวใจในอกเต้นตุบตับระงมขณะรอฟังคำตอบเขาอย่างใจจดใจจ่อ
เบียคุยะกลับทำท่าหนักใจและวางแก้วช็อกโกแลตร้อนลงบนโต๊ะ
"ผมขอโทษ แต่ผมคงจะต้องบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้..."
*** รูปประกอบจากแอดมินหนึ่ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น