คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 투명 우산 (Don't Let Me Go) [TaeKey]
Title : 투명 우산 (Don't Let Me Go)
Pairing : Taemin × Key
A/N : มันคือการตีความเพลงนี้ของเราล่ะ
...ภาพที่แสนอบอุ่นนั่น
...เลือนลางลงทุกที…
“แทมิน!!”
เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือก ดินสอไม้หล่นจากมือกระแทกพื้น
แทมินหันไปมองคุณพยาบาลประจำตัวแล้วส่งยิ้มหวานไปแก้ขัด
“ไม่ต้องมายิ้มหวานเลยนะ ผมบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามัวแต่วาดรูปจนลืมทานข้าวน่ะ” พยาบาลหนุ่มเดินเข้ามาช่วยหยิบดินสอขึ้น ก่อนจะหันไปยกถาดอาหารที่โต๊ะด้านข้าง “ดูสิ เย็นชืดหมดแล้ว ผมจะเอาไปอุ่นใหม่ให้นะ”
แทมินมองประตูที่ปิดลงเบาๆ
รอยยิ้มบนริมฝีปากจางลง
...คิดถึง...
.
.
.
“แทมิน!! นี่ต้องให้บ่นอีกกี่รอบเนี่ย ไป-กิน-ข้าว!”
“อีกแปบนะพี่คีย์ ขอลงสีให้เสร็จก่อน” แทมินต่อรอง สายตายังคงจับจ้องไปที่ผลงานตรงหน้า มือตวัดพู่กันแต่งแต้มสีสันต่างๆลงบนผืนผ้าใบ
“จะไม่กินใช่มั้ย? งั้นก็ไม่ต้องกิน! เปลือง!!” คีย์จึ๊ปากอย่างไม่พอใจ ก่อนจะยกอาหารที่ตนอุตส่าห์ตั้งใจทำออกจากห้องไป
...กลิ่นอาหารหอมๆ เรียกให้แทมินต้องละสายตาจากผลงานไปมองคนที่เพิ่งทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
“มองอะไร ก็ลงสีต่อไปสิ ต้องลงให้เสร็จไม่ใช่รีไง”
แล้วก็มีช้อนที่เต็มไปด้วยข้าวผัดร้อนๆส่งกลิ่นหอมยื่นมาตรงหน้า
จิตรกรหนุ่มยิ้มกว้าง ก่อนจะรับมื้อกลางวันเข้าปากเคี้ยวโดยไม่พูดอะไร
“ไม่ต้องมายิ้มเลย นายก็เป็นอย่างนี้ทุกที มัวแต่ทำงานแล้วไม่ยอมกินข้าว นี่ถ้าป่วยขึ้นมาจะทำยังไง”
“ผมมีพี่แล้วไง พี่ดูแลผมดีขนาดนี้ผมไม่ป่วยหรอก”
แก้มขาวของคีย์ร้อนผ่าว ขึ้นสีอย่างช่วยไม่ได้
“พูดมาก! กินเร็วๆ”
.
.
.
พยาบาลหนุ่มเปิดประตูเข้ามา แล้วก็ชะงักกึก
ร่างโปร่งเหม่อลอย รอยยิ้มบางประดับบนริมฝีปากก็จริง แต่ดวงตาคู่สวยกลับเศร้าหมอง
และนั่นทำให้เขาไม่กล้าเดินเข้ามาในห้อง
...อะไรกันนะ ที่ทำให้แทมินมีสีหน้าเศร้าสร้อยแบบนั้น
“...อ้าว คุณคิม ขอโทษที” แววตาเศร้าหมองหายไป แทมินหันมายิ้มให้เขาอีกครั้ง “ได้เวลาอาหารแล้วเหรอ?”
“วันนี้เป็นซุปข้าวโพดของโปรดคุณ! คุณต้องทานเยอะๆนะรู้มั้ย” ชายหนุ่มรีบปรับสีหน้าตัวเอง ดึงรอยยิ้มสดใสขึ้นมาประดับหน้า พยาบาลคิมดึงโต๊ะเข้ามาใกล้เพื่อวางถาดอาหาร
“วันนี้ผมขอกินเองนะ”
“เอาสิ งั้นฝากสมุดคุณไว้ที่ผมก่อนมั้ย จะได้ไม่เปื้อน” พยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้มเหมือนเคย มือเรียวยื่นไปรับสมุดวาดภาพมาวางไว้บนตัก ก่อนจะช่วยแทมินเลื่อนโต๊ะเข้าไปใกล้ๆ
“ผมเห็นคุณวาดรูปบ่อย ปกติคุณวาดรูปอะไรเหรอ?” คุณพยาบาลถามขณะพลิกสมุดเล่มหนาบนตักไปมา “อ่า...ผมขอดูได้มั้ย?”
แทมินหัวเราะ
“แน่นอนสิ! ไม่มีใครขอดูรูปของผมมาสักพักแล้วล่ะ…” หางเสียงแทมินแผ่วลงอย่างน่าสงสาร
“ว้าว! คุณวาดรูปเก่งมากอะ!” พยาบาลคิมร้องขึ้นเสียงดัง เพื่อกลบเกลื่อนความเศร้าจางๆที่ลอยอยู่ในอากาศ “เอ๋? ทำไมรูปพวกนี้ไม่มีหน้าล่ะ?”
...กว่าครึ่งของภาพวาดในสมุดเป็นภาพใบหน้าของคนคนนึง แต่ภาพพวกนั้นกลับไม่มีรายละเอียดของใบหน้าเลยสักนิด เป็นเพียงภาพร่าง ราวกับเป็นแค่เพียงภาพเงา…
มือที่กำลังตักซุปอุ่นๆชะงัก แทมินวางช้อนลง ดวงตาเหม่อออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง
“ผม...จำหน้าเขาไม่ได้น่ะ”
“......”
“ก็ไม่เชิงจำไม่ได้หรอก เหมือนภาพเขาที่ผมพอจะจำได้มันจางเกินไปน่ะ แต่ผมจำเขาได้นะ… เขาเป็นคนสำคัญคนเดียวของผม ผมมันพวกหลงฝูงน่ะ นิสัยผมเป็นแบบนี้ คุณคงพอเดาได้ใช่มั้ยล่ะ เลยไม่ค่อยจะมีเพื่อน ก็มีแค่เขานี่แหล่ะ ที่คอยอยู่เป็นเพื่อน คอยรับฟังอะไรหลายๆอย่าง ถึงบางทีผมจะพูดไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ เป็นคนเดียวที่ทนกับนิสัยบ้างานของผมได้ แล้วก็เป็นคนเดียวที่คอยย้ำคอยเตือนให้ผมกินข้าวให้ตรงเวลา” แทมินหันมามองพยาบาลประจำตัว แล้วส่งยิ้มกว้าง “แต่ตอนนี้ก็มีคุณอีกคนแล้วล่ะ” เสียงหัวเราะเบาลอยฟุ้งในอากาศ
“คุณ...คิดถึงเขามากมั้ย?...”
“มากๆเลยล่ะ ผมคิดถึงเสียงใสๆของเขา คิดถึงรอยยิ้ม คิดถึงเสียงหัวเราะ แล้วก็คิดถึงอาหารฝีมือเขา คุณคิมรู้มั้ย เขาน่ะ ชอบทำอาหารมากๆเลยนะ แล้วผมก็ต้องเป็นหนูทดลองสูตรใหม่เขาอยู่เรื่อย แต่อย่าหาว่าผมอวยเลย เขาทำอาหารเก่งมากๆ อร่อยทุกเมนู ทุกสูตรที่ทำนั่นแหล่ะ แต่ผมมันขี้แกล้งไงเลยบอกว่าไม่อร่อย ผมชอบเห็นเขาโวยวาย มันน่ารักดี” แทมินเล่ากลั้วหัวเราะ นึกย้อนไปถึงความทรงจำเก่าๆที่ยังคงจำได้
“อ่า ฝนตกซะแล้ว…”
นอกหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เม็ดฝนกำลังโปรยปราย ส่งเสียงเปาะแปะยามกระทบเข้ากับพื้นผิว
“...ดูคุณจะรักเขามากๆเลย”
“รักมากที่สุดเลยล่ะ… ถ้าไม่ได้เขา ผมอาจจะไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ ผมก็คงจะเป็นแค่จิตรกรโนเนม หรืออาจจะยอมแพ้กับสิ่งที่ผมรักไปเลยก็ได้ เขาเป็นคนที่อยู่ฉุดให้ผมลุกขึ้นตอนที่ผมล้ม ทั้งผลักทั้งลากให้ผมเดินต่อทั้งที่ผมถอดใจไปแล้ว เขาชอบบอกให้ผมเชื่อตัวเองให้มากกว่านี้ ‘เชื่อในตัวเองให้เท่าที่ฉันเชื่อในตัวนายสิ!’ เป็นการให้กำลังใจที่ดีที่สุดในโลกเลย พี่คีย์น่ะ เป็นแรงบันดาลใจของผม”
ดวงตาคู่สวยที่ทอดมองออกไปข้างนอกว่างเปล่า และเศร้าหมอง
“...แรงบันดาลใจที่ไม่มีอีกแล้ว…”
“...ทำไม…”
“ทำไมเขาถึงไม่อยู่แล้วเหรอ?” แทมินยกยิ้มอีกครั้ง “ผมไล่เขาไปเองแหล่ะ บ้าใช่มั้ย? แต่ผมไม่อยากให้ชีวิตเขาต้องมาจมอยู่กับคนป่วยแบบผม เขายังมีโอกาสดีๆอีกเยอะแยะ ผมไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวที่รั้งเขาไว้ ...”
“......”
"แต่ไม่รู้สิ เหมือนว่าตอนนี้จู่ๆผมก็กลัวขึ้นมา กลัวว่าจะลืมเขา กลัวว่าจะจำเขาไม่ได้... ผมก็รู้ตัวนะ ว่าเรื่องของเขากำลังจางหายไป ถึงผมจะเพิ่งบอกคุณไปว่าผมจำได้ก็เถอะ จริงๆแล้วผมจำไม่ได้หรอก มันเป็นแค่ภาพจางๆ ที่จู่ๆก็โผล่ขึ้นมา ขาดๆหายๆ ที่ผมจำได้จริงๆก็คงเป็นแค่ความรู้สึกมั้ง พูดตรงๆ ผมเริ่มจะเสียใจที่ไล่เขาไปแล้วล่ะ บางที...ถ้าผมรั้งเขาไว้ ผมอาจจะยังไม่ลืมเรื่องพวกนั้นก็ได้ แต่มันเป็นไปไม่ได้แล้ว ผมกำลังลืมเขา กำลังลืมเรื่องของเรา..."
"......"
“นี่ผมบ่นอะไรเนี่ย” แทมินส่งเสียงหัวเราะแห้งๆ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ก่อนจะหันกลับมามองคุณพยาบาลที่ทนนั่งฟังเรื่องไร้สาระของเขา
“คุณคิม?? เป็นอะไรรึเปล่า?”
“เปล่าครับๆ เดี๋ยวผมไปจัดยามาให้นะ”
แทมินมองตามพยาบาลคิมที่รีบวิ่งออกไปอย่างงุนงง
ถ้าตาไม่ฝาด เขาคิดว่าเขาเห็น‘น้ำตา’บนแก้มขาวนั่น…
.
.
.
ร่างบางทิ้งตัวพิงประตูที่เพิ่งปิดสนิทลง แข้งขาอ่อนแรงจนยืนไม่อยู่ ชายหนุ่มไถลตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม ไหล่บางสั่นระริกด้วยแรงสะอื้น
เขาไม่คิด ว่าเรื่องเล่าธรรมดาๆของแทมินจะทำให้เขาร้องไห้หนักขนาดนี้
เขาไม่คิด ว่าแทมินจะยังจำ‘คนรักเก่า’ได้ดีขนาดนี้
เขาไม่คิด ว่าแทมินจะยังเก็บความทรงจำพวกนั้นไว้
เขาคิดว่า แทมินจะลืมทุกอย่าง
เขาคิดว่า ความทรงจำเกี่ยวกับ‘คิมคีย์บอม’จะจางหายไปกับเวลา เขาคิดว่า ตัวตนของเขาหายไปแล้ว ตั้งแต่วันที่เขากลับมาหาแทมินในฐานะพยาบาลคิม
……
‘คีย์’ไม่คิด ว่าความทรงจำสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่
...จะเป็นความทรงจำระหว่างเขากับแทมิน
.
.
.
ความคิดเห็น