ตอนที่ 5 : 4 | Crush
Chapter 4
Crush
It's raising my adrenaline
You're banging on a heart of tin
Please don't make too much of it baby
“เจนเล็กๆ เมื่อกี้เห็นอรผ่านมาทางนี้บ้างป้ะ"
“อ่อ ไม่เห็นเลยอ่า ขอโทษน้า" ผมเงยหน้าขึ้นจากมือถือไปตอบ
“ไม่เป็นไร~”
แล้วหลังจากคลาส Social dance คลาสนั้น ผมก็กลายเป็นเจนเล็กไปโดยสมบูรณ์ บางคนที่เพิ่งมารู้จักกันก็คือไม่เรียกกูเจนเฉยๆ แล้ว แต่เรียกเจนเล็กกันหมด พี่เจนเองก็มีชะตากรรมไม่ต่างกัน แต่ของเขายังมีคนเรียกว่าเจนเฉยๆ เยอะกว่า ก็เขาอยู่มาตั้งสี่ปีแล้วนี่
ส่วนถ้าใครอยากรู้เรื่องกระแสของที ผมก็บอกได้แค่ว่ามันซาลงไปตามเวลา ในที่สุดคนก็พูดถึงเรื่องของมันน้อยลง...น้อยลง...จนไม่ได้พูดถึงกันอีกต่อไป ทั้งที่เพิ่งผ่านมาไม่นานแต่นักศึกษาก็มีหัวข้อใหม่ๆ ให้คุยกันเสมอ มีเรื่องใหม่ๆ ให้ต้องตื่นตัวสนใจตลอดเวลา อย่างน้อย...ก็เรื่องเกมตรงหน้าผมนี่ไง
“เจน"
ไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นผมก็ถูกสองมือจับขยี้หัวอย่างเมามัน โทรศัพท์มือถือผมตกลงบนตักทันที รู้เลยแบบนี้ใคร มีอยู่คนเดียว
“พี่เจน ปล่อยเจนโว้ย อ๊ากกกก"
แค่ได้กลิ่นหอมแพงๆ ที่หลังๆ นี้คุ้นจมูกผมก็รู้แล้ว วันนี้มันคละเคล้ากับกลิ่นบุหรี่ที่เพิ่งสูบเสร็จใหม่ๆ
“สู้เหรอวันนี้"
“ปล่อยๆๆๆ ตานี้จะตายไม่ได้นะเว้ยยย โอ๊ยยย ตายจนได้ พี่เจนแม่ง!”
“บ่นอะไรน่ะ ไม่เห็นเข้าใจเลย"
ผมถูกพี่เจนจับโยกหัวไปมาจนมึนไปหมด จะสู้ก็สู้ไม่ได้อีก จนในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยหัวผม
“พี่เจนอ่ะ อีกและ หัวเจนนี่มันน่ายีมากเหรอถึงเห็นทีไรต้องปรี่มายีทุกวัน"
"งั้นมั้ง"
“พี่แม่ง ทำเจนตายเลย โห่..."
เขาไม่สนใจสีหน้าเซ็งจัดของผม แต่กลับใช้สองมือจับผมแก้มผมเชิดขึ้น แก้มทั้งสองข้างผมบี้แบนอยู่ในมือเขา
“อะไออีก!” (อะไรอีก!)
“ทำไมวันนี้เสื้อตัวใหญ่จัง"
“อื้ออิดไอ่" (ซื้อผิดไซส์)
ผมซื้อผิดตั้งแต่ปีหนึ่งเป็นไซส์ XL มันใหญ่จนผมต้องพับแขนเสื้อขึ้น ทั้งที่ตัวนี้เป็นเสื้อนักศึกษาแขนสั้น คณะผมเราไม่เคร่งเครื่องแบบนัก ชายหญิงจะใส่เสื้อสั้นเสื้อยาวได้หมด
คนฟังเลิกคิ้วอย่างสนใจ ก่อนจะละสองมือออกจากแก้มผมจนได้ แล้วก็มือบอนไปติดกระดุมเสื้อผมจนถึงเม็ดบนสุดให้หน้าตาเฉย
“พี่เจน อะไรเนี่ยยยย" ผมโวยวาย
“ไหนๆ มาสายเอ๋อแล้วก็เอ๋อให้สุดไปเลยไงวันนี้"
“ไม่เอา! แกะออกให้เลย"
“ไม่แกะ ห้ามเจนแกะด้วย เดี๋ยวถ้าขึ้นไปเรียนแอ๊บนอมอลแล้วไม่เห็นยังติดอยู่จะโดนดี"
“อะไร พี่จะทำอะไรเจน"
“จะไม่สอนเต้นต่อ"
“โหยยยย!” จังหวะบีกินส์ยังตายอยู่เลยนะ สอบท่านี้อาทิตย์หน้าแล้วด้วย
“ไปล่ะ"
“อะไรอ่ะ มาแค่นี้เนี่ยนะ"
“แค่แวะมาดูดบุหรี่ นี่เบรกอยู่ เจอกันสี่โมง"
“ค้าบ"
ผมส่งเสียงตอบ แล้วก็นั่งขัดสมาธิเอามือลูบผมให้มันเรียบลงอีกหน่อยก่อนจะเปิดเกมมาเล่นต่อ เชอร์รี่ไปกับแฟน ส่วนน้ำขิงก็กลับบ้าน ไอ้แก๊ปกับไอ้พุฒิเองก็กลับไปนอนตายที่หอ วันนี้ทุกคนไม่มีเรียนกันแล้ว ส่วนผมก็นั่นแหละ ยังมีแอ๊บนอมอลต่อไง แล้วทุกคนก็ทิ้งผมไปกันหมดเลย แอบงอนว่ะ แต่ก็เข้าใจพวกมันแหละ
“พี่คะๆ"
เป็นอีกครั้งที่ผมต้องเงยหน้าขึ้นจากจอมือถือของตัวเอง แล้วก็เห็นน้องนักศึกษาปีหนึ่งสองคนที่ไม่คุ้นหน้ามาก่อนยืนอยู่ตรงหน้า
“ว่าไงครับ มีอะไรให้พี่ช่วย"
น้องๆ มองหน้ากันเลิ่กลั่กๆ จนในที่สุดคนหนึ่งก็เอ่ยปากออกมาเพราะถูกเพื่อนถอง
“หนูชื่อนิว มาจากคณะ ICT นะคะ ส่วนนี่ป๊อป มาจากคณะศิลปศาสตร์"
"อ๋อ..." ก็ว่าไม่คุ้นหน้าเลย
"คือ พวกหนูมาจากเพจคิวท์บอยของมอเราน่ะค่ะ จะขอถ่ายรูปพี่ไปลงเพจได้ไหมคะ" เธอชูกล้องโปรในมือขึ้นมา
“หา พี่เหรอ ไม่ๆๆ ไม่เอาหรอก"
ผมปฏิเสธเป็นพัลวันทันทีอย่างตกใจ อยู่มาปีกว่าไม่เห็นเคยมีคนมาขอถ่ายรูปเลย แล้วอยู่ดีๆ ก็มาถูกขอถ่ายตอนสภาพเป็นไอ้เอ๋อกระดุมถึงคอ ผมยุ่งรุงรังแบบนี้เนี่ยนะ!
“นะคะ นะคะ ถ่ายแค่รูปเดียว พี่ปีอะไรแล้วนะคะ ชื่ออะไร"
“ชื่อเจน ปีสอง... เอ่อ น้อง พี่ไม่สะดวก อีกอย่างพี่ไม่ได้หน้าตาดีอะไร ไปขอคนอื่นเถอะ"
ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที ทำท่าจะเผ่น
“โหยยย พี่น่ารักจะตายค่ะ ลุคซนๆ ใสๆ แบบนี้สาวชอบเยอะน้า กำลังฮิตเลย"
“จริงค่ะ นอกจากจะดูซนๆ แล้วพี่ยังดูแอบนุ่มนิ่มด้วย เป็นแบบหนุ่มน้อยในฝันเลยอ่า ลุคอย่างนี้ในมอหายากมากเลยนะคะ"
นุ่มนิ่มบ้าอะไรล่ะ พี่เตะบอลนะน้อง
“นะคะ นะคะ ช่วยพวกหนูหน่อยนะคะ"
“นะคะพี่เจน"
ผมรู้สึกลำบากใจที่จะต้องปฏิเสธโดยเฉพาะกับผู้หญิง
“เอ่อ ก็ได้ รูปเดียวนะ"
“รูปเดียวจริงๆ ค่ะพี่!”
“งั้นเดี๋ยวขอพี่แกะกระดุมคอเสื้อกับหวีผมหน่อยนะ พวกน้องมีหวีไหม"
“ไม่ต้องเลยค่ะ! พี่อยู่ในสภาพนี้แหละค่ะ มันดีมากแล้ว นั่งเลยค่ะพี่เจน นั่งเลย"
ผมงงมากแต่ก็ยอมนั่งลงตามที่น้องที่ชื่อป๊อปขอ ก่อนน้องนิวจะบอกให้ผมยิ้ม แชะ รูปแรก อ่ะ... น้องเขาบอกว่ามันเกร็งไป รูปสองก็ยังเกร็ง ก็คนมันไม่เคยทำอะไรแบบนี้นี่ว้อยยยย
“พี่เจนคะ หนูขอแบบเป็นธรรมชาติกว่านี้นะคะ ขอแบบตอนพี่ยิ้มตอนที่เมื่อกี้มีเพื่อนพี่มาเล่นด้วยอ่ะค่ะ"
...หมายถึงพี่เจนน่ะเหรอ
แชะ!
“ได้แล้ว หน้าแบบนี้แหละ อ๊ายยย โคตรน่ารักเลยแกดูดิ"
น้องนิวตีแขนน้องป็อปรัวๆ แล้วสองสาวก็กรี๊ดกัน ก่อนน้องคนหนึ่งจะหันมาบอกผม
"ขอบคุณพี่เจนมากนะคะ พวกหนูไปแล้วค่า"
“อ่า โชคดีนะ"
เป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตเลยให้ตายเหอะ
“โธ่ กูนึกว่าคิวท์บอยคนใหม่จะไม่มาร่วมโต๊ะกินข้าวกับพวกกูซะแล้ว"
พุฒิตะโกนแซวเสียงดังมาแต่ไกลขณะที่ผมถือข้าวผัดกะเพราหมูกรอบเดินมาที่โต๊ะ ส่วนคนอื่นๆ ในกลุ่มก็ยิ้มยิงฟัน ผมตวาดทันที
“เงียบไปเลยมึง"
หลังจากวันที่น้องสองคนนั้นมาขอผมถ่ายรูป คืนนั้นเลย ก็มีรูปผมลงในเพจคิวท์บอยของมอเราจริงๆ ผมรู้สึกตกใจกับฟีตแบ็คที่ได้รับมาก มีคนมากมายแอดเฟสบุ๊กกับไอจีผมมาไม่หยุด ในคอมเมนต์ก็มีผู้หญิงมาคอมเมนต์กรี๊ดว่าผมน่ารัก หลายคนคิดว่าผมเรียนศิลปกรรมหรือไม่ก็สถาปัตย์เพราะลุคในรูป บางคนถึงกับทักอินบ็อกซ์มา แน่นอนว่าผมไม่ตอบและไม่รับสักคน มันวุ่นวายเอามากๆ จนผมคิดว่าจะทักไปบอกให้เขาลบรูปแล้ว เพราะผมอึดอัด ผมไม่ชอบการได้รับความสนใจอย่างนี้เลย ดีนะยังไม่มีคนมาดักรอเจอที่คณะ ไม่อย่างนั้นผมตายแน่
“แล้วนึกยังไงวะวันนั้นติดกระดุมขึ้นไปซะติดคอ" แก๊ปถาม
“ไม่ได้ติดเอง พี่... กูหมายถึงมีคนมาแกล้งติดให้กู"
ผมเลี่ยงที่จะเรียกชื่อพี่เจน เพราะพุฒิอยู่ตรงนี้แล้วผมก็จำได้ดีว่ามันเคยเตือนอะไรผมเอาไว้ ถึงแม้ตอนนี้ผมจะกล้าพูดว่าผมสนิทกับพี่เจนดีจนมั่นใจข่าวลือพวกนั้นคือขยะทั้งเพก็ยังไม่อยากที่จะเถียงกับเพื่อน ดังนั้นผมเลยตัดสินใจจะเลี่ยงไปก่อน
“พี่เจนอะเหรอ"
“...ทำไมมึงรู้อะ"
แต่การเลี่ยงของผมก็ไม่เป็นผลอยู่ดีเมื่อแก๊ปเอ่ยออกมาตรงๆ อย่างไม่คิดมาก พุฒิถึงกับหันขวับมามองหน้าผมอย่างรวดเร็ว
“มันจะไปยากอะไรวะ ก็ช่วงนี้มึงก็สนิทกับเขาเพิ่มมาอยู่คนเดียว ทำงานคู่กันนี่ ก็ธรรมดาป้ะวะ"
“เอ่อ ก็ตามนั้นแหละ"
“แถมมึงยังกลายเป็นเจนเล็กเพราะพี่เขาอีก ตอนแรกกูก็งงตอนมีคนมาถามว่าวันนี้เจนเล็กเตะบอลไหม ได้แต่ถามกลับไปว่าใครวะ เจนเล็ก คล้ายอะไรกับเส้นเล็กรึเปล่า ที่แท้ก็เพื่อนสนิทกูนี่เอง"
น้ำขิงกับเชอร์รี่หัวเราะ แต่พุฒิไม่หัวเราะสักคำ แก๊ปพูดต่อ
"จริงๆ ก็ดีนะ ช่วงนี้มึงไปกับพี่เขาบ่อยอ่ะ เวลาเรียกเจนมันต้องหันทั้งคู่ไง ถ้าเรียกเจนเล็กหรือเจนใหญ่มันก็ชัดเจนดี หันแค่คนเดียว"
“...อือ"
พุฒิมองผมเขม็งเหมือนอยากจะพูดอะไรในใจ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้พูดเพราะเราห้าคนอยู่รวมกันเหนียวแน่นจนปลีกตัวไปพูดคุยกันสองต่อสองไม่ได้เลย ไม่งั้นจะน่าสงสัย จนกระทั่งผมแยกออกมาเรียนแอ๊บนอมอล พุฒิก็ยังไม่ได้พูดเรื่องพี่เจนกับผมเลยสักคำ
“เจนเล็ก นั่งตรงนี้ก็ได้"
“ขอบคุณครับพี่ยิ้ม"
ผมขอบคุณรุ่นพี่ปีสี่ที่ชี้ที่ว่างที่เดียวที่เหลือให้เพราะว่าวันนี้ผมมาช้านิดหน่อย บอกแล้วไงว่ากลายเป็นเจนเล็กไปแล้วจริงๆ...
แล้วอาจารย์ซาแมนธาก็เริ่มเช็กชื่อเหมือนทุกที
“Big Jane”
“Here.”
“Little Jane”
“Here.”
ขนาดกับอาจารย์ต่างชาติยังเป็นบิ๊กเจนกับลิ้ตเติ้ลเจน คิดดูแล้วกัน อาจารย์ซาแมนธาบอกว่ามันเป็นการแยกที่ฉลาดมาก เธอถามมาจากนักศึกษาในห้องอีกทีนี่แหละ เพราะได้ยินพี่ปีสามคนหนึ่งเรียกพี่เจนว่าพี่เจนใหญ่ แล้วเรียกผมว่าเจนเล็ก เธอเลยถามคำแปลแล้วเอามาใช้ด้วยซะเลย (ตอนแรกเธอคิดว่าจะเรียกพวกเราว่าเจนซีเนียร์ กับเจนจูเนียร์ แต่ชื่อใหม่นี้ดีกว่า) เธอบอกว่ามันไม่สับสนดี ตอนแรกผมก็รู้สึกแปลกๆ แต่ตอนนี้ผมก็ชินกับการเป็นเจนเล็กแล้ว
วิชานี้ยังน่าสนใจเหมือนเดิม อาจารย์ซาแมนธาสามารถดึงความสนใจผมได้จนจบบทเรียนทั้งหมดของวันนี้ และก็เหลือเวลาประมาณสิบนาทีท้ายคาบ อาจารย์จึงให้เราจับคู่กับพาร์ตเนอร์ของเราเพื่อทำโปรเจ็กต์ที่เคยสั่งไว้ต่อได้ ใครไม่ได้เอาแล็ปท็อปมาก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ขอให้พูดคุยกันเพื่อจะได้มีความคืบหน้า
“ว่าไงบ้างคิวท์บอย"
“พี่เจน ไม่เบื่อบ้างเหรอ แซวตั้งแต่ในไลน์มายันตัวจริงเนี่ย กี่วันแล้วอ่ะ"
เขายิ้มกว้างแล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะหันไปเปิดแล็ปท็อปของตัวเอง ส่วนผมไม่ได้เอามาก็เลยต้องยื่นหน้าไปดูกับเขา
“เราก็ทำกันได้เยอะมากแล้วนะเนี่ย"
“ใช่ พี่คิดว่านัดกันอีกครั้งเดียวก็คงหมดแล้วล่ะ วิชานี้เราก็จะสบายกันไปยันมิดเทอม"
“แต่ก็มีลีลาศที่หนักหนามาก...”
“อันนั้นมันก็ต้องซ้อมๆ กันไป แต่แค่นี้ไม่คณาความสามารถคิวท์บอยคนใหม่หรอก ถูกไหมล่ะ"
“พี่เจนหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่ต้องเลย มันก็เพราะพี่เจนนั่นแหละมาติดกระดุมเสื้อให้เจน น้องสองคนนั้นที่ชอบของแปลกเลยผ่านมาเห็นแล้วถ่ายรูปไป พี่อ่ะแหละ"
ผมโบ้ยเป็นความผิดเขาทันทีที่ทำให้ผมต้องมามีชีวิตวุ่นวาย พี่เจนยิ้ม
“แปลว่าพี่มองขาดไง"
“มองขาดบ้าอะไร"
“ก็ขาดแบบนี้"
เขาหันหน้ามาทั้งรอยยิ้ม แล้วใช้นิ้วเรียวยาวติดกระดุมเสื้อผมให้ขึ้นไปจนสุดถึงเม็ดบนสุดอีกครั้ง เสื้อที่ผมใส่ในวันนี้ไม่ใช่เสื้อตัวใหญ่อย่างวันนั้น แต่ก็แขนสั้นเหมือนกัน
ปลายนิ้วของเขาที่พาดผ่านต้นคอและแผ่นอกของผมทำให้ผมใจหวิวไหวจนต้องลอบกลืนน้ำลาย ไรขนอ่อนบริเวณนั้นลุกชันขึ้นราวกับต้นไมยราบที่หุบใบเมื่อโดนสัมผัสจากมือมนุษย์ ต่างเพียงเป็นกลไกลที่ตรงข้าม
ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน
“เห็นไหม"
สายตาคมที่ฉ่ำน้ำช้อนขึ้นมองหน้าผม ลมหายใจนั้นร้อนผ่าวและเจือกลิ่นของนิโคลติน น้ำเสียงของเขาแผ่วพร่า เซ็กซี่อย่างไม่ตั้งใจจนส่งผลให้ผมรู้สึกเหมือนหัวใจในอกใกล้จะระเบิด...
“ติดแบบนี้น่ารักจะตาย"
“...”
มือหนาวางบนกลุ่มผมของผมแล้วลูบเบาๆ ขณะที่ไม่มีใครในห้องนี้สนใจเราสักคน เสียงทุ้มเอ่ยต่อทั้งรอยยิ้มบนหน้า
“น่ารักจะแย่แล้วเจน"
ผมได้แต่นั่งเงียบปล่อยให้เขาลูบผมตัวเองเหมือนเป็นสุนัขเชื่องๆ ผมไม่รู้เลยว่าทำไมหัวใจตัวเองถึงต้องเต้นเร็วอย่างนี้ รู้แต่ว่าวินาทีนี้นี่แหละที่ทำให้ผมตระหนักว่าผมเป็นเจนเล็กจริงๆ ด้วย ไม่ใช่แค่เพราะว่าผมเด็กกว่าเขา หรือตัวเล็กกว่าเขาตามที่ใครต่อใครตัดสินจากสายตาแล้วตั้งสมญานามให้ แต่เป็นเพราะผมอยากจะเป็นเจนเล็ก...
อยากจะเป็นเจนเล็กของคนตัวใหญ่อย่างเจนใหญ่ขึ้นมาจริงๆ
-------
ฮวัลซอล
เอาแล้วค่ะคุณตำรวจ มีคนหวั่นไหวหนึ่งอัตราค่าาาา ! XD
อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเมนต์เป็นกำลังใจ สกรีมแท็กให้นักเขียนที่ #อย่าขอพี่เจน นะคะ
เรานั่งอ่านนั่งดูทุกวันเลยค่ะ เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของเรา
หรืออยากคุยกัน อยากมาหวีดให้ฟัง ก็ไปที่ทวิตเตอร์ @_seolstuff ได้เลย อยากคุยกับทุกคนมากจริงๆ
ที่ถามกันมาว่าซอลเคยเรียนลีลาศมาเหรอ ใช่แล้วค่ะ เราเคยเรียนมา ^.^
ปล. พี่เจนไม่ได้เป็นคนทำให้ปิ๊กกับเค้กโดนรถชนนะคะ พี่เขาไม่ได้ทำจริงๆ ค่ะ 55555
ปล2. ซอลมีคำถามค่ะ คุณคิดว่าสิ่งที่พี่เจนเป็นอยู่คือตัวตนจริงๆ หรือไม่?
กด1 เป็นตัวจริง
กด2 ไม่เป็นตัวจริง
กด3 ไม่แน่ใจ XD
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไม่แน่ใจละกันค่ะ
Janeรอเลยอ่ะ คนตั้งใจกะคนไม่รู้ตัว โอกาสเจ็บต่างกัน