ตอนที่ 30 : 26 | Pole & Salvo (nc)
Chapter 26
Pole & Salvo
"Sex in a dance is in the eyes of the beholder."
- Gwen Berdon
(BGM: PLVTINUM - Champagne & Sunshine
https://www.youtube.com/watch?v=cNPPXKaSgjA)
“พี่เจน ทางนี้! ทางนี้ๆ!”
ผมโบกมือหย็อยๆ ตะโกนเรียกเขาที่หันรีหันขวางหาผมอยู่ เรานัดเจอกันหลังเขาเรียนคาบเช้าเสร็จ
พี่เจนที่ตัวสูงกว่าใครและกำลังมองข้ามหัวคนไปทั่วหยุดเมื่อหาผมพบจนได้ เขาเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“รอนานไหม”
“ก็ปกตินะ พี่เจนเรียนเสร็จหิวแย่เลย อ่ะ นี่ เจนทำแซนด์วิชมาให้”
ผมยื่นกล่องทัพเพอร์แวร์ให้เขา ผมทำมันที่คอนโดฯ นี่แหละเพราะเห็นว่าแฮมกับขนมปังรวมถึงผักสดในตู้เย็นจะเสียอาทิตย์หน้านี้อยู่แล้วเลยคิดว่าเมนูนี้เหมาะสมที่สุด
“...ให้พี่เหรอ”
“อื้อ ให้พี่สิ ทำไมอะ ไม่ชอบกินแซนด์วิชแฮมเหรอ”
“เปล่า ชอบกินสิ”
เขาพูดแล้วหยิบมันขึ้นมากัดทันทีหนึ่งคำ และยังยิ้มให้ผมด้วย ผมทำมาอย่างเยอะเลยจนเรียกว่าบุฟเฟ่ต์แซนด์วิชยังว่าได้ เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา ผมพบว่าพี่เจนไม่ใช่คนที่กินน้อยเลย แต่ก็ไม่ได้กินจุหรือตะกละหรอกนะ
“ถ้ามันเยอะไปพี่ก็ไม่ต้องฝืนกินจนหมดหรอก เจนแค่ทำมาเผื่อเฉยๆ อ่ะ”
เขาไม่ได้พูดอะไรแต่พยักหน้าทั้งที่ยังเคี้ยวหยับๆ ผมหยิบแซนด์วิชขึ้นมากินบ้างชิ้นหนึ่ง อื้ม ผมทำอร่อยนะเนี่ย ผสมมายองเนสออกมารสเยี่ยมไปเลย
“มีน้ำไหม”
“มีๆ เจนคั้นน้ำส้มมาให้พี่ นี่เลย”
ผมยื่นแก้วเก็บความเย็นที่ซื้อมาจากสตาร์บัคให้เขา คั้นเองสดๆ กับมือเมื่อเช้าก่อนทำแซนด์วิชนั่นแหละ
พี่เจนรับแก้วไปดูด แล้วผมก็เลยนั่งเขี่ยหน้าจอมือถือดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย วันนี้ผมไม่มีเรียนแล้ว พี่เจนก็ไม่มีเรียนต่อแล้วเหมือนกัน
ผมควานมือเข้าไปในกล่องทัพเพอร์แวร์เพื่อจะหยิบแซนด์วิชมากินเล่น แล้วก็ต้องตกใจเพราะไม่เจออะไรเลย
“เฮ้ย พี่กินหมดเลยเหรอ”
“อืม”
“โห หิวจัดเหรอเนี่ย ไม่อยากเชื่อว่าจะกินหมดจริงๆ ด้วย ที่เพิ่งเรียนมาคอนเทนต์มันหนักมากเลยใช่ไหม”
เขาไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มพลางเกาหัวตัวเองด้วยมือซ้ายไปด้วย
ผมยักไหล่แล้วก็เอากล่องทัพเพอร์แวร์เปล่าๆ มาถือไว้ ส่วนพี่เจนก็เปิดปฏิทินในโทรศัพท์มือถือตัวเองออกดู ผมไม่ได้สอดรู้สอดเห็นปล่อยให้เขาจัดการชีวิตตัวเองเหมือนเคย ใช่ว่าผมจะลืมเรื่องที่พุฒิพูดไว้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ .. เวลานี้ .. ผมยังไม่อยากทำลายวันดีๆ แต่หัววัน
แล้วพี่เจนก็ไม่ใช่คนโง่ ตรงกันข้าม เขาเป็นคนฉลาดมาก เขารู้จักใช้วิธีการ ใช้คนโดยที่มือตัวเองไม่ต้องเปื้อน ถ้าจะบอกว่าร้ายก็เป็นคนที่ร้ายลึก ฉะนั้นถ้าผมเอ่ยถามโต้งๆ รับรองไม่มีวันได้อะไรและยิ่งจะทำให้ไก่ตื่น ต่อจากนี้เขาคงระวังตัวแจไม่ปริปากพูดสบายๆ กับผมอีก
“วันนี้เจนไม่มีทำอะไรแล้วใช่ไหม”
“อือ ไม่มี พี่ก็ด้วยไม่ใช่เหรอ”
“ใช่” เขาตอบ ผมมองนาฬิกาข้อมือแล้วจึงเอ่ยถามต่อ
“งั้นเอาไงดีอ่ะ ไปอ่านหนังสือกันที่ห้องสมุดไหม ใกล้สอบไฟนอลแล้วด้วย”
“แต่ก่อนสอบไฟนอลเราต้องสอบลีลาศก่อนนะ” พี่เจนเตือนความจำ ผมหน้ามุ่ยทันทีเพราะไม่ว่าจะพยายามไปขอแทรกคิวกี่ครั้งห้องซ้อมก็ไม่มีคิวให้เลย และผมก็ไม่อยากจะล้มเลิกความตั้งใจที่จะซ้อม แล้วไปสอบทั้งๆ ที่ไม่พร้อมด้วย
“เอาไงดีอ่ะพี่เจน นี่เมื่อวานเจนก็ไปถามสตาฟฟ์อีกรอบนะ เขาก็บอกว่ามันไม่มีหลุดจองเลยจริงๆ”
“พี่รู้จักที่นึงที่เราไปซ้อมกันได้”
“หือ?”
ผมหันไปมองหน้าเขา แล้วก็พบว่าพี่เจนมองผมอยู่ก่อนแล้ว
“อยู่นอกมหา'ลัย แต่ขอแค่เป็นห้องกระจกรอบด้านก็พอแล้วถูกไหมล่ะ”
“พี่รู้จักจริงๆ เหรอ งั้นเราไปซ้อมกันวันนี้เลยได้ไหมอะ”
พี่แจนแย้มริมฝีปากจนเห็นเคิร์ฟสวยตรงมุม สายตาของเขาพริบพราว
“เพื่อเจน พี่ต้องทำให้ได้อยู่แล้ว”
พี่เจนจอดรถลงที่หน้าสถานที่โอ่อ่าแห่งหนึ่ง มันไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเรามากนัก แต่ก็ไม่อาจพูดได้ว่าใกล้ ผมได้แต่แหงนหน้ามองมันจากในรถ ที่นี่เนี่ยนะที่เราจะซ้อมลีลาศกัน ทำไมรู้สึกแปลกๆ นิดนึงแฮะ
“ลงมาสิ”
พี่เจนเดินอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งที่ผมนั่งให้พลางเอ่ย ผมจึงพยักหน้าแล้วเดินลงจากรถ ตามหลังเขาที่กำลังผลักประตูกระจกใสเข้าไปอย่างว่าง่าย
“สวัสดีค่ะ คอมพลีท ฟิตเนส ยินดีให้บริการค่ะ”
พนักงานสาวเอ่ยต้อนรับเราอย่างกระตือรือร้น ใช่ครับ ที่นี่เป็นฟิตเนส .. มีผู้หญิงผู้ชายท่าทางกระฉับกระเฉงในชุดออกกำลังกายหลายคนกำลังใช้พื้นที่ส่วนกลางอยู่ ผมกับพี่เจนในชุดนักศึกษาดูไม่เข้ากับสถานที่นี้เลยสักนิด แต่พี่เจนก็ไม่ได้ดูมีท่าทีไม่มั่นใจแต่อย่างใด เขาเพียงส่งยิ้มให้พนักงานสาวกลับแล้วเอ่ย
“ผมชื่อเจน แพทริค คุณแซมคงแจ้งไว้แล้วว่าวันนี้ผมจะเข้ามา”
“โอ้! แน่นอนค่ะ แจ้งไว้แล้วค่ะ” พนักงานสาวคนนั้นดูตื่นตกใจเมื่อพบว่าผู้ที่มาติดต่อคือใคร แต่เธอก็ปรับท่าทีให้กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว เธอรีบปราดออกมาจากหลังเคาน์เตอร์
“คุณเจน แพทริค เชิญทางนี้เลยค่ะ คุณแซมให้มะนาวเคลียร์ห้องไว้ให้แล้ว”
“ตามมาสิเจน”
“เอ่อ ครับๆ” ผมเดินตามหลังพี่เจนกับคุณมะนาวไป อดไม่ได้ที่จะกระซิบถามพี่เจนด้วยเสียงเบาหวิว
“ที่รัก คุณแซมคือใคร”
“เจ้าของที่นี่ .. พี่เคยให้ความช่วยเหลือเขานิดหน่อย”
“...นี่ มีใครในกรุงเทพฯ ที่ไม่ติดค้าง favor พี่บ้างไหม ไม่ดิ มีใครในประเทศนี้ที่ไม่ติดค้างอะไรกับพี่ไหม ถามจริงๆ นะ”
พี่เจนหัวเราะฟืดฟาดในลำคอจนดวงตาทั้งสองข้างของเขาโค้งลงขณะที่เราทั้งคู่เดินตามคุณมะนาวเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่มันก็ไม่ได้เป็นคำถามที่ผมเจาะจงจะเอาคำตอบอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่แล้ว ของอย่างนี้ใครมันจะไปคาดคั้นเอาคำตอบได้ เผลอๆ เขาเองก็คงไม่เคยนับว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่ติดค้างกับเขา
“เชิญคุณเจนกับเพื่อนตามสบายเลยค่ะ”
จากนั้นคุณมะนาวก็ถอยฉากออกไป พลางปิดประตูตามหลัง ผมมองไปรอบๆ ห้องอย่างสนใจ มันเป็นห้องกระจกสี่ด้านกว้างพอประมาณที่มีเสาเหล็กต้นสูงปักหลักอย่างมั่นคงอยู่สองเสา ไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรหูก็ได้ยินเสียงพี่เจนถอดเสื้อไหมพรมลงวางฟุ่บบนพื้นพร้อมกับเสียงอธิบายจากเจ้าตัว
“พี่คิดว่าที่นี่คงพอใช้ได้อยู่ ปกติห้องนี้เขาเอาไว้สอนเต้นโพลแดนซ์แบบไพรเวท”
“อ๋อ .. มิน่า เลยมีเสาเหล็กอยู่”
“ใช่ แต่มันก็มีกระจกรอบด้านเหมือนกัน พื้นกว้างขวางใช้ได้ มีเครื่องเสียงให้ต่อเพลงจากโทรศัพท์ด้วย” พี่เจนพูดขณะถอดนาฬิกาข้อมือ
“อื้ม...” ผมพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“เจนอยากพักก่อนไหม หรือจะเริ่มซ้อมกันเลย”
“ซ้อมเลยก็ได้ เจนพร้อมแล้ว”
ผมถลกแขนเสื้อไหมพรมทั้งสองข้างขึ้นทำท่าขึงขัง พี่เจนยิ้ม ก่อนเขาจะเดินไปเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือของตัวเองกับลำโพงที่ตั้งอยู่ตรงข้างห้อง เสียงเพลงจังหวะสง่างามดังขึ้น แล้วเขาก็กลับมาประจำที่พร้อมกับท่าเตรียมของเวียนนีสวอลซ์ ผมเข้าไปประกบมือและประสานร่างกายเข้าในอ้อมแขนของเขา แล้วเริ่มจึงเริ่มเต้นไปตามจังหวะที่อาจารย์รพีสอนอย่างตั้งใจ
ผมยังไม่เก่ง .. เหมือนเช่นเดิม
“เจน สมาธิ”
แต่พี่เจนก็เป็นทั้งผู้นำและผู้สอนที่ดีเยี่ยม เสียงทุ้มต่ำดุบอกให้ผมรวบรวมสติเวลาเต้น รอบกรอบหน้าของเขามีน้ำเหงื่อเกาะพราว สายตาของเขาทรงพลัง เราเต้นกันนานเสียจนคนขี้ร้อนอย่างพี่เจนเหงื่อท่วมเสื้อนักศึกษาจนมันแนบผิวเนื้อ
ผมตั้งสติกลับมาที่การซ้อม ก้าวขาอย่างพลิ้วไหวตามจังหวะที่เต้นซ้ำๆ มานานกว่าชั่วโมงครึ่ง ในที่สุดผมก็สามารถก้าวได้คล่อง แต่ยังก่อน .. ผมยังต้องใส่อินเนอร์ในการเต้นด้วยเพื่อให้มันเพอร์เฟ็กต์ เพราะเราสองคนคุยกันแล้วว่าเราจะเก็บ A เท่านั้น เราจะทำให้ได้
“ให้สง่ากว่านี้เจน สง่ากว่านี้ แหงนหน้าอีก ยกอกขึ้นเจน More, more, I said more! Good, that’s good, good boy.”
พี่เจนกระชับอ้อมแขนขวาดันแผ่นหลังผมขึ้นมาจนปลายจมูกของเราแทบแตะกัน เราต่างก็หอบหายใจกันจนตัวโยนเหมือนเพิ่งวิ่งมาพันกิโลเมตร เหงื่อกาฬไหลท่วมร่างเราทั้งสองคนจนรู้สึกเหนียวเหนอะ ผมสูดจมูก กลิ่นน้ำหอมของพี่เจนยามผสมกลิ่นเหงื่ออย่างนี้ชวนให้รู้สึกถึงกลิ่นฮอร์โมนหนุ่มที่เซ็กซี่ และแม้จะเหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่นี่เพิ่งท่าแรกเท่านั้น เรายังเหลืออีกสองท่าที่ต้องฝึกซ้อมต่อ
ผมอยากถอดเสื้อไหมพรมนี่ทิ้งเดี๋ยวนี้ ผมใส่ไว้ทำไมแต่แรกนะ
พี่เจนปล่อยมือจากผม กระชากคอเสื้อนักศึกษาของตัวเองจนกระดุมหลุดสองเม็ด แล้วจึงเสยผมขึ้นไม่ให้มันเกะกะสายตา เขาคงจะร้อนจนอยากถอดเสื้อทิ้งเสียด้วยซ้ำ
อา... เสยผมเปิดหน้าแบบนี้เขาดูหล่อเป็นบ้าเลย
“เจน เปลี่ยนเพลง เราจะไปที่สโลว์ ฟอกซ์ทร็อต”
หนทางในการซ้อมนี้ยังอีกยาวไกล
“ไม่ใช่! เจน อย่าก้าวแบบนั้น พี่บอกว่าไม่ใช่ไง”
“...!”
เสียงเข้มดุของพี่เจนทำให้ผมก้าวพลาดจนเสียหลักเท้าไถล หากแต่พี่เจนโอบประคองไว้ได้ทันผมจึงไม่กองลงไปกับพื้น เราซ้อมกันมาได้เกือบสามชั่วโมงแล้ว แล้วผมก็ยังเต้นควิ๊ก เสต็ป ได้ไม่ดี อย่างที่รู้ว่าเราไม่มีเวลากันมากนัก วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่ได้ซ้อมก่อนไปสอบจริง ดังนั้นจึงไม่มีเวลาสำหรับความผิดพลาดซ้ำซาก
“พอแล้ว”
พี่เจนเอ่ยเสียงเข้มแล้วปล่อยมือตัวเองออกจากมือผม ทำให้ผมรู้สึกตัวลีบเล็กอย่างรู้สึกผิดและประหม่า ปกติเขาเป็นคนใจเย็นมาก แต่คงเพราะความเหนื่อยล้าทางร่างกายและความร้อนอบอ้าวทำให้เขาหัวเสียขึ้นมา
“พี่เจน .. เจนขอโทษ”
เขายกมือขึ้นมาหนึ่งข้างส่งสัญญาณให้ผมไม่ต้องพูดอะไรอีกทำให้ผมได้แต่กลืนคำพูดอื่นๆ ลงท้องไปในบัดดล พี่เจนเอาแขนเสื้ออีกข้างเช็ดเหงื่อบนหน้าผากอย่างรำคาญ ก่อนเขาจะเอ่ยเสียงห้วน
“ไปที่เสานั่น เดี๋ยวนี้”
ผมที่ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงอะไรรีบเดินไปยังเสาเหล็กต้นที่เขาบอก
“ไม่ใช่ยืนแบบนั้น! หันหน้าเข้าหาเสาด้วย”
ผมรีบหมุนตัวหันหน้าประจันกับเสาหลังจากที่ยืนพิงมันในตอนแรก หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อถูกเขาดุ พี่เจนเรียนเก่งมาตลอด เขาคงไม่อยากจะต้องได้เกรด B+ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพราะผมเขาถึงได้ซีเรียสมากขนาดนี้
ผมรู้สึกได้ถึงไอร้อนจากร่างสูงที่ยืนแนบอยู่ข้างหลังผม ก่อนพี่เจนจะประกบสองมือของเขาเข้ากับมือทั้งสองข้างของผมที่วางไว้ข้างลำตัว ผมสะดุ้งเล็กๆ กับสัมผัสนั่น แล้วก็รู้สึกได้ถึงความเย็นของเนื้อเหล็กในอุ้งมือทั้งสองเมื่อเขาจัดท่าให้ผมต้องจับเสาเอาไว้
“อื้ม .. พี่เจน”
ผมหลับตา หดเกร็งคอเมื่อถูกลมหายใจอุ่นๆ รินรดก่อนจะถูกเขาซุกไซ้ที่ลำคอและบ่าขวาอย่างตะกรุมตะกราม ขนอ่อนทั้งร่างกายลุกชันกับสัมผัส
พี่เจนเพิ่งโกนหนวดแน่ๆ ..
ความคมของหนวดยิ่งทำให้ผมเสียวสยิว ผมกำเสาเหล็กแน่นขึ้น มีมือของเขาบีบทาบทับมือผมอีกที
“อย่าปล่อยเสานะเจน”
(เปิดฟังเพลง Arctic Monkeys - I Wanna Be Yours ไปด้วยจะได้อารมณ์มากๆ ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=fJLQCf4mFP0)
ผิดกฎเว็บไซต์เด็กดี ต้องไปหาอ่านกันที่เว็บไซต์อื่น
แล้วก็สำหรับ cut ซอลจะขอค่าขนมหน่อยนะคะ ตามไปข้างนอกได้เลย ถือว่าแจ้งไว้ก่อนแล้วน้า
ซอลตั้งใจแต่งมากค่ะ มากๆ อยากให้ทุกคนได้อ่านจริงๆ รับรองว่าจะคุ้มค่าแน่นอน –
ผมก็ไม่เข้าใจว่าทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน ทำไมเขาชอบบอกรักผม และถามผมว่ารักเขาไหม
เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรก… ที่ผมบอกเขาว่ารัก ทั้งที่ผมไม่ได้รัก
อย่าด่าน้องเจนกันเยอะเลยนะคะ น้องฉลาดอยู่ รออ่านไปเรื่อยๆ ก๊อนนน >__<
nc จะไม่พร่ำเพรื่อนะคะ ไม่ได้เน้นเซอร์วิส จะมีตรงที่ควรจะมี และเป็นซีนอารมณ์ที่อยากสื่อความหมายค่ะ
ตอนนี้ให้เบาๆ พักใจกันไปก่อน ยังมีเนื้อหาหนักหน่วงรอคุณอยู่ในภายภาคหน้า
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆๆๆ ค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล. มันมีเนื้อหาของตอนที่แล้วติดมาด้วยอะค่ะ ของตอนที่แล้วก้ลงเนื้อหาซ้ำ
ขอแบนน้องเจนนะคะ คนใจร้าย
ป.ล. ส่วนท่อนท้ายของบทนี้ซ้ำกับบทที่แล้วค่ะ
สำหรับเราเรายังคงคิดว่าอิพี่มันไม่ได้มีอะไรจริงๆนะนางก็ดูรักเจนจริงๆอย่าทำร้ายนางเลยน๊าได้โปรดดด
ปล.ครั้งแรกเลยนะที่เราอยู่ทีมพระเอกอ่านนิยายมาหลายปีอยู่ทีมนายเอกนางเอกหมดอิพี่ขอร้องอย่าทำชั้นผิดหวัง