คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ ๒
เมืองพรหมเทพที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามที่งามดั่งสรงลวงสวรรค์แต่ความจริงนั้นกลับตรงกันข้าม ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอันตรายมากมายจากมนุษย์ด้วยกัน..รวมถึงเหล่าอมนุษย์ที่มีอยู่มากในเมืองนี้
ผู้คนต่างหวาดกลัวสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าอยู่ทุกคืน หลังจากที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าบ้านทุกหลังจะถูกปิดสนิท ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรที่เกิดขึ้นด้านนอกจะไม่มีใครสนใจหรือโผล่ออกมาดูแม้แต่คนเดียว
วันนี้เป็นอีกครั้งที่เมืองพรหมเทพได้ต้อนรับสมาชิกถึงสองคน คนหนึ่งมาเพื่อทำใจเรื่องความเจ็บปวดจากความรักและถือเป็นการกลับมาบ้านเกิดอีกครั้ง อีกคนมาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างที่วาดหวัง
ควอน ยูริ หญิงสาวร่างสูง ผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้าสวยคม ผู้ที่ดั้นด้นมาที่นี่เพื่อเริ่มชีวิตใหม่ ไม่ว่างานอะไรเธอทำได้หมดของแค่ได้เงินและเป็นงานสุจริตเป็นพอ การมาครั้งนี้ของเธอลงทุนมากถึงขนาดเหมารถแท็กซี่ให้มาส่องเธอถึงที่
...แต่รถก็หยุดลงเมื่อถึงหน้าประตูเมือง
“ลุงส่งแค่นี้นะ ที่เหลือเดินไปแล้วกัน”
“ทำไมล่ะลุง?”
ยูริถามลุงคนขับอย่างหัวเสีย ลุงคนนั้นทำท่าเลิกลั่กและมองเข้าไปด้านในเมืองอย่างหวาดกลัว
“ก็ที่นี่มันน่ากลัว แม่หนูแน่ใจแล้วเหรอว่าจะอยู่ที่นี่?”
“ก็แน่ใจสิ ไม่งั้นไม่มาถึงที่นี่หรอก”
“งั้น..ก็โชคดีมีชีวิตรอดแล้วกัน”
ยูริขมวดคิ้วกับคำพูดของลุงคนขับก่อนที่เธอจะยอมลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ เธอลากกระเป๋าเดินเข้ามาในตัวเมืองอย่างยากลำบาก
..ตัวเมืองแท้ๆ กลับแทบไม่มีคนเลย..
ตามที่ต่างๆ ในเมืองแห่งนี้เงียบเหงามราวกับเป็นวันหยุดที่ผู้คนจะอยู่แต่ในบ้าน ร้านค้าต่างๆ เปิดตามปกติแต่กลับไม่มีลูกค้าเลยแม้แต่คนเดียว ระหว่างทางที่เธอเดินมานานๆ ทีถึงจะเจอใครสักคน เธอลากกระเป๋าของเธอมาเรื่อยๆ ตามแผนที่ก่อนจะเจอเป้าหมาย
อาพาร์ตเมนต์ขนาดไม่ใหญ่มากนักตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ยูริลากกระเป๋าของเธอเข้ามาด้านในทันที
“ฉันยูริคะ มาเอากุญแจห้อง 403 ที่จองไว้คะ”
หญิงชราท่าทางไม่เป็นมิตรที่อยู่ตรงเคาว์เตอร์เงยหน้าขึ้นมามองยูริด้วยใบหน้านิ่ง สายตาว่างเปล่าก่อนจะหยิบกุญแจมายื่นให้กับเธอ
“ขอบคุณคะ”
ยูริขอบคุณพร้อมกับฉีกยิ้มให้แล้วรีบลากกระเป๋าขึ้นห้องทันทีแต่เสียงแหบพร่าของหญิงชรากลับเรียกไว้ก่อน
“เดี๋ยว!”
ยูริเดินกลับมาหาหญิงชราอีกครั้ง
“คะ?”
“เมืองนี้มีกฎอยู่ 1 ข้อที่ทุกคนควรรู้และปฏิบัติ เวลากลางคืนหลังพระอาทิตย์ตกดินห้ามออกมาจากห้องเด็ดขาดไม่ว่าได้ยินเสียงอะไร”
“ทำไมล่ะคะ?”
“มันเป็นกฎ”
กฎบ้าอะไรเนี่ย ยูริลากกระเป๋าขึ้นมาที่ห้องหลังจากที่ทราบกฎที่หญิงชราบอก ถึงแม้เธอจะสงสัยแต่ถ้าถามไปก็คงไม่ได้คำตอบอยู่ดี ดูจากท่าทางนั้นก็คงรู้
ข้าวของต่างๆ ถูกเก็บใส่ตู้ และจัดแจงอย่างเป็นระเบียบก่อนที่ยูริจะออกมาด้านนอกเพื่อหาอะไรทานเป็นมื้อเย็นของวันนี้ เธอมาที่ร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนักซึ่งเป็นร้านเดียวที่ยังคงเปิดอยู่
“เอ่อ..จะปิดร้านแล้วเหรอคะ?”
ยูริเอ่ยถามเมื่อเห็นหญิงสาวเพียงคนเดียวในรานนี้กำลังเก็บเก้าอี้ หญิงสาวคนนั้นหันมาตอบเธอด้วยท่ามองเป็นมิตรและขอโทษในคราวเดียว
“คะ ขอโทษด้วยนะคะ บังเอิญร้านต้องปิดก่อนพระอาทิตย์ตกดินน่ะคะ”
“คะ?”
ยูริงงหนักเพราะเมื่อกี้หญิงชราก็บอกเธอคล้ายๆ แบบนี้
“คุณเองก็ควรรีบกลับได้แล้วนะคะ พระอาทิตย์ตกดินเมื่อไหร่จะไม่ปลอดภัย”
“ทำไมคะ? ฉันไม่เข้าใจ”
“ไว้พรุ่งนี้เช้าถ้าคุณแวะมา ฉันจะเล่าให้ฟัง”
ยูริจำต้องยอมเดินออกมาจากร้านเสียไม่ได้ ตั้งแต่เข้ามาในเมืองนี้ก็มีเรื่องต่างๆ ให้เธอสงสัยไม่จบสิ้นแต่ทุกเรื่องก็ล้วนแต่ยังไม่มีคำตอบให้กับเธอ
แสงไฟสว่างจ้าออกมาจากบ้านหลังเล็กที่เงียบและมืดมานานหลายปี แต่เพราะหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของบ้านได้กลับมาทำให้บ้านหลังนี้กลับมาสว่างอีกครั้ง
หญิงสาวใบหน้าสวย ดวงตากลมโตแต่แฝงด้วยความหม่นเศร้ากำลังทำความสะอาดบ้านอย่างเอื่อยช้า เธอมองบ้านข้างๆ ที่ตอนนี้มืดสนิทจนเธอเองก็ตกใจ เพราะเมื่อก่อนตอนฟ้ามืดแบบนี้จะได้ยินเสียงคุยกันจอแจออกมาจากบ้านแต่ตอนนี้..กลับเงียบเหมือนบ้านร้างก็ไม่ปาน
แสงของพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับหายไปอย่างช้าๆ พร้อมกับความมืดที่เข้ามาแทนที่แต่หญิงสาวกลับเดินเหม่อลอยอย่างไม่รู้ทิศทาง จนตอนนี้เธอย่างกรายเข้ามาในที่ที่ไม่สมควรที่สุด
บรรยากาศที่เงียบสงัดกับไอเย็นของยามค่ำปะทะเข้ากับผิวกายของเธอจนขนลุกชัน มือบางเอื้อมมาลูบแขนตัวเองเพื่อบรรเทาความหนาวเหน็บนั้น น้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยอาบแก้มให้เปียกแฉะ ในความคิดของหญิงสาวมีแต่ใบหน้าของคนๆ นั้น..คนที่ทำร้ายเธอ
“ฮึก”
ซอ จูฮยอน หญิงสาวที่เจ็บปวดกับความรักที่ไม่สมหวังทำให้เธอต้องกลับมาที่นี่เพื่อทำใจ เธอเดินผ่านป่าที่เริ่มมืดจนมองไม่เห็นทางมาอย่างไร้ทิศทางจนมาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่งที่มีสะพานเล็กทอดออกมาเล็กน้อย
เธอเดินมาจนสุดสะพานเล็กนั้น ดวงตาที่เปียกชุ่มด้วยน้ำมองทอดออกไปยังผืนน้ำที่ตอนนี้เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำของรัตติกาล
เมื่อตะวันลับขอบฟ้าจะเป็นเวลาที่อันตรายและป่าเถื่อนที่สุดของพรหมเทพ เหล่าปิศาจและอสุรกายออกมาเผ่นพล่านเพื่อหาอาหาร ชายหนุ่มเจ้าของคฤหาสน์กลางป่าสัมผัสได้ถึงผู้บุกรุกที่ของเขาและอีกอย่างที่เขาสัมผัสได้..คือผู้บุกรุกเป็นมนุษย์
ความมืดที่เข้ามาปกคลุมทั่วทุกทิศก็ยิ่งทำให้จิตใจของซอฮยอนยิ่งหม่นหมองชั่วขณะที่สมองของเธอสั่งการ เท้าข้างหนึ่งของเธอก็ก้าวออกมาโผล่พ้นสะพานที่ด้านล่างเป็นผืนน้ำที่เย็นเฉียบและลึก แค่เสี้ยววินาทีที่ถูกความคิดนั้นครอบงำ
“ถ้าฉันตาย พี่คงจะดีใจใช่ไหม?”
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยพร้อมกับเปือกตาที่ปิดลง เธอก้าวขาออกไปพร้อมกับร่างที่เตรียมดิ่งลงสู่เบื้องล่างของผืนน้ำด้วยแรงโน้มถ่วง
ขวับ!
สัมผัสหนักๆ โอบรัดตัวของเธอพร้อมกับแรงกระชากจนแผ่นหลังติดกับอกแกร่งด้านหลัง ซอฮยอนลืมตาขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับหันมามองเจ้าของอ้อมแขนนั้น
“เธอรู้ตัวไหม? ว่าเธอบุกรุกที่ของฉัน”
ร่างหนากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของเธอด้วยนำเสียงเจ้าเล่ห์ ซอฮยอนดีดตัวเองออกจากอ้อมแขนของเขา เธอมองใบหน้าของเขาอย่างพิจารณา
ใบหน้าซีดขาว ริมฝีปากสีชมพู จมูกโด่งได้รูป หากแต่ดวงตาคู่นั้นกลับดูเจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอก ชายหนุ่มตรงหน้าจัดว่าหล่อเหลาทีเดียวที่จะสามารถสะกดหญิงสาวหลายคนได้แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่เธอ
“คุณเป็นใคร? มาช่วยฉันทำไม?”
ซอฮยอนเอ่ยถามพร้อมกับน้ำตาของเธอที่ตอนนี้แห้งสนิท
“ฉันเป็นเจ้าของที่แห่งนี้ และเธอก็บุกรุกที่ของฉัน”
“ที่ของคุณ?”
ซอฮยอนหันมองรอบตัวของเธอที่มองไปทางไหนก็มีแต่ป่าที่มืดสนิท เธอไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเธอมาที่นี่ได้ยังไง และมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“มัวแต่เหม่อจนไม่รู้มาที่นี่ ถ้าเป็นคนอื่นไม่ใช่ผมมาพบคุณ ผมว่าคุณคงไม่อยู่ ในสภาพปกติแบบนี้ แน่”
ชายหนุ่มมองซอฮยอนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์นั้นของเขา รอยยิ้มปรากฏให้เห็นอย่างไม่น่าไว้ใจ ถึงเธอจะเคยอยู่ที่นี่มาก่อนแต่เธอก็ไม่เคยรู้เลยว่าที่เมืองพรหมเทพมีที่แห่งนี้อยู่ด้วย
“เธอไม่รู้รึไงว่าที่นี่เวลามืดเป็นเวลาอันตราย”
“รู้”
เธอตอบออกไปอย่างถือดี เธอเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เท่าไหร่เพราะเธอจากที่นี่ไปหลายปีแล้วพอกลับมาทุกอย่างก็แปลกตาไปหมด แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าที่นี่ไม่ได้เป็นที่อยู่ของมนุษย์อย่างเดียว
“แล้วคุณล่ะ มืดๆ แบบนี้ออกมาทำไม?”
“ที่นี่เป็นที่ของผม ผมจะไปไหนมาไหนก็ได้ อีกอย่างผมไม่จำเป็นต้องกลัว”
เขาตอบออกมาอย่างสบายๆ ผิดกับเธอที่มองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
“ฉันก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเหมือนกัน ใครอยากทำอะไรฉันก็เชิญเพราะฉันอยากตายอยู่แล้ว”
“ทำไมถึงอยากตายล่ะ? พวกผู้หญิงนี่จริงๆ แค่ถูกทิ้งก็อยากตายแล้ว”
คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากของชายหนุ่มตรงหน้า เขากระตุกยิ้มเมื่อซอฮยอนมีท่าทีสงสัยในตัวเขา
“รู้ได้ยังไง?”
“ไม่มีอะไรที่ผมอยากรู้แล้วไม่รู้”
ชายหนุ่มหันหลังกลับแล้วเดินกลับมาที่ฝั่งอย่างไม่สนใจในตัวเธอ ซอฮยอนเดินตามชายหนุ่มมาเพราะความอยากรู้โดยไม่สนใจว่าเขากำลังไปที่ไหน
“ฉันถามว่าคุณรู้ได้ยังไง?”
“เพราะผมคือคยูฮยอน หมาป่าเจ้าเล่ห์ยังไงล่ะ คุณไม่รู้จักเหรอ?”
คยูฮยอน เธอทำท่านึกเหมือนเธอเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเมื่อนานมาแล้วแต่นึกเท่าไหร่กลับนึกไม่ออก เขายังคงเดินมาเรื่อยๆ โดยมีซอฮยอนเดินตามมาไม่ห่าง
“ฉันจำไม่ได้”
“เธอนี่เฉยชะมัด ใครๆ เขาก็รู้จักผมกันทั้งนั้นแหละ ไม่เชื่อลองไปถามคนในเมืองนี้ดู”
“คุณรู้อะไรเกี่ยวกับฉันอีก”
“ทุกอย่าง”
คยูฮยอนหยุดเดินแล้วหันกลับมามองซอฮยอนด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ เธอเองก็มองตอบด้วยใบหน้านิ่ง
“เลิกเสียใจเพราะคนแบบนั้นได้แล้วนะ มันไม่คุ้มกันหรอก”
“เรื่องของฉัน”
“ก็ได้ เข้าบ้านซะก่อนจะถูกอะไรลากไปกิน”
ซอฮยอนหันมองรอบตัวของเธออีกครั้งก่อนจะพบว่าเธอยืนอยู่หน้าบ้านของตัวเอง เธอเดินตามเขามาโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่
เธอหันกลับมาหาคยูฮยอนอีกครั้งแต่กลับไม่พบเขา ไม่ว่าจะมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอจนทำให้เธอเริ่มสงสัยว่าเขา..อาจไม่ใช่มนุษย์
“คุณเป็นใครกันแน่?”
ความคิดเห็น