ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♛DangerousCafe'♛คาเฟ่อันตรายของยัยแม่มด

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 4 : ความสัมพันธ์ประหลาด (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 60


          

    ตูมมมมม!!! 


          เสียงระเบิดดังลั่น คฤหาสน์ทั้งหลังสั่นสะเทือน แต่แจกันและแก้วใบหรูราคาแพงที่ทำท่าว่าจะตกแตกกลับนิ่งอยู่บนชั้นวางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขตอาคมป้องกันบ้านพังของแม่มดสาวได้ผล เพราะตั้งแต่พาพวกเขามาอยู่ด้วยกัน จนถึงวันนี้ที่มีสมาขิกใหม่คนสุดท้ายเพิ่มเข้ามา ก็มักจะมีเหตุการณ์ให้บ้านพังอยู่ตลอด จนเธอขี้เกียจจะร่ายเวทซ่อมของที่พังทีละชิ้นแล้ว เธอเลยต้องทำเขตอาคมขึ้นมา


          ห้าเดือนก่อนหน้าที่จะสร้างมิติของฮิบาริ เซเว่นและเซโร่ทะเลาะกัน พวกเขาสู้กันจนห้องโถงข้างล่างเละไม่เหลือซาก 

       

          สองเดือนถัดมาคาร์ลอสกับเซเว่นก็ทะเลาะกันอีก คราวนี้ห้องนอนชั้นบนหายไปทั้งแถบ

      

          พอกันที พวกหนุ่มเลือดร้อนนี่มันยังไงกันนะ ชอบพังบ้านคนอื่นมากนักหรือไง!  


          ร่างบางก้าวยาวๆออกมาจากประตูบ้าน ตั้งใจจะมาดูให้ชัดๆว่าใครเป็นคนก่อเรื่อง เพราะเธอจะจัดการขั้นเด็ดขาดแล้วนะ! 


          เคร้ง!! ฉัวะ!!! 


          " กรี้ดดดดด!!!! " 


          แม่มดสาวถึงกับต้องแผดเสียงร้องด้วยความตกใจ เมื่อสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาเบื้องหน้าคือร่างที่โชกเลือดของฮิบาริ เคียวยะ ชายหนุ่มที่เธอเพิ่งจะไปรับเขามาจากมิติที่เธอสร้าง


         " เคียวยะ!!!! "

        

         เธอเรียกชื่อเขาแล้วรีบพุ่งเข้าไปประคองร่างที่กำลังจะล้มลงกับพื้นนั้น เสื้อเชิตของเขาขาดเป็นรอยคล้ายของมีคมบาดจนเนื้อขาวๆที่หน้าท้องถูกเฉือนเป็นแผลลึก ใบหน้าของเขามีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด สภาพเขาตอนนี้เละมาก แทบดูไม่ได้ ทอนฟาที่เขายังจับแน่นเปื้อนคราบเลือดสีเงิน ที่ดูแล้วก็รู้ว่าเป็นของใคร


         " เซเว่น! เอาอีกแล้วนะ เธอจะฆ่าเขาหรือไง!!! " 


          ตัวต้นเหตุยังยืนนิ่ง รอยแผลบนตัวของชายหนุ่มนั้นแทบไม่มี มีเพียงรอยช้ำที่มุมปากเท่านั้น นั่นคงเป็นสาเหตุที่เลือดของเขามาติดอยู่บนทอนฟาของฮิบาริสินะ 


          โอ้ยยย คนสวยอยากจะบ้าตาย ผู้ชายที่ชอบดันทะเลาะกัน!


          สาเหตุที่เคียวยะต้องมาแพ้ราบคาบแบบนี้ เป็นเพราะเซเว่นไม่ใช่มนุษย์ เธอพาเขามาจากมิติที่ไม่เหมือนกับโลกของเราด้วยซ้ำไป มันเป็นโลกที่มีแต่แวมไพร์ และเขาก็เป็นเหมือนผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารในโลกนั้น เขาเป็นโจรปล้นโจรที่มีฝีมือเก่งกาจระดับพระกาฬ เป็นแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ที่รู้จักแต่การเข่นฆ่า ไม่เคยรู้จักความปราณี เขาเกือบฆ่าเธอได้หลายครั้งในช่วงแรกๆที่เธอไปจับเขามา แต่ด้วยพลังเวทที่มากกว่าเขา ดังนั้นเขาจึงทำร้ายเธอไม่ได้อยู่ดี เพราะพันธนาการที่เธอสร้างไว้เหมือนกับของเคียวยะ


           เขาน่ะร้ายที่สุดแล้ว แล้วก็รับมือยากที่สุดด้วย นิสัยชอบต่อสู้นั่นก็เหมือนกัน เลยทำให้หลายๆครั้งเขาต้องปะทะกับคนอื่นจนบ้านของเธอพังตลอด


          " ช่วยไม่ได้ มันอยากอวดเก่งดีนัก " เซเว่นเช็ดเลือดที่มุมปาก " แค่สั่งสอนน่า เจ้าอย่าทำหน้าแบบนั้นจะได้มั้ย ข้าจะยิ่งหมั่นไส้มันมากกว่าเก่า "


           แม่มดสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วรีบดูอาการของคนที่อยู่ในอ้อมแขนตัวเอง เขาตัวเย็นมาก เพราะเสียเลือดไปเยอะ แล้วก็ไม่มีแรงจะมาต่อต้านไม่ให้เธอแตะต้องตัวเขาเหมือนอย่างเก่า


           " ถ้าเขาตายขึ้นมาจริงๆ ฉันจะโกรธเซเว่นจริงๆด้วย "


           แม่มดสาวทำหน้าบึ้งตึงใส่แวมไพร์หนุ่ม ก่อนที่เธอจะใช้พลังแบกร่างของฮิบาริ เคียวยะเข้าไปรักษาภายในบ้าน เพราะกลัวว่าถ้าข้าไปกว่านี้เขาจะเสียเลือดจนตาย แถมแถวนี้ยังมีแวมไพร์ขี้โมโหอยู่ด้วยกันถึง 2 ตนอีก เธอจะไม่ปล่อยให้กลิ่นเลือดของเขาไปกระตุกต่อมความกระหายของพวกเขาแน่ๆ


          อ้อ ใช่แล้ว ฟังไม่ผิดหรอก ที่นี่มีแวมไพร์อยู่ด้วยกัน 2 ตน


          คนหนึ่งก็คือจอมวายร้ายที่ชื่อ เซเว่น คนนั้นนั่นแหละ ส่วนอีกคน คือพ่อแวมไพร์หน้านิ่ง เซโร่ ที่มีใบหน้าเหมือนกับเซเว่นอย่างกับแกะ แถมชื่อยังเป็นหมายเลขเหมือนกัน ต่างกันแค่เพียงสีของดวงตาของเขาที่เป็นสีอเมทีสต์ และลักษณะนิสัยที่สุขุมและนิ่งมากกว่า (ระดับหนึ่ง)


          พูดไม่ทันขาดคำเจ้าของชื่อก็โผล่มา


          " นึกว่าหมอนี่ตายแล้วซะอีก " 

        

          เซโร่เดินเข้ามาจากด้านหลังวิว่าที่กำลังวางฮิบาริลงบนโซฟาตัวใหญ่ กลิ่นเลือดที่เตะจมูกทำให้เขาต้องออกมาสมเพชคนที่เขาเตือนแล้วแต่ไม่ฟังซักหน่อย เขารู้อยู่แล้วว่าเซเว่นจะต้องชนะหากสู้กัน เพราะหมอนี่เป็นแค่มนุษย์ ถึงจะมีพลังหรือไหวพริบการต่อสู้ที่เก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่อาจไปเทียบชั้นกับแวมไพร์จอมวายร้ายอย่างหมอนั่นได้ 


          ... แล้วจากสภาพที่เป็นแบบนี้ เจ้าเซเว่นคงหมั่นไส้มันมาก เล่นเอาซะยับเยินไม่เป็นท่า


          " อย่าแช่งสิ ฉันเสียพลังไปมากกับเขาคนนี้ ฉันจะไม่ให้เขามาตายเพราะพวกโดนเธอแกล้งหรอก " วิว่าพูดเสียงเบา เธอกำลังใช้พลังที่มีอยู่รักษาแผลเหวอะหวะบนตัวเขา คนป่วยที่ตอนนี้สติเลือนรางทำได้เพียงกัดฟันกั้นความเจ็บปวด 


          แสงสีขาวนวลดูอบอุ่นเปล่งประกายออกมาจากมือเล็กๆคู่นั้นที่กำลังทาบอยู่บนแผลของเคียวยะ แผลเหวอะหวะที่ตอนนี้กำลังสมานตัวอย่างน่าเหลือเชื่อทำให้สีหน้าของฮิบาริดีขึ้นนิดหน่อย เซโร่ยืนมองอยู่ห่างๆ เขาเองก็เคยถูกเธอรักษาแผลให้แบบนี้เหมือนกัน ครั้งนั้นที่ต้องสู้กับเซเว่น เขาก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็มีมือคู่นี้แหละที่ช่วยเอาไว้


         " ไม่เป็นไรแล้วนะ " วิว่ากระซิบเบาๆ พร้อมทั้งลูบผมของฮิบาริเบาๆเหมือนคนเป็นแม่กำลังปลอบเด็กน้อย โดยที่คนถูกลูบแม้จะทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีแรงจะต่อต้าน ซักพักก็หลับไปเพราะร่างกายยังต้องฟื้นฟู 


          .... เห็นแล้วก็หมั่นไส้จริงๆนั่นแหละ 


          เซโร่คิด แล้วหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น 

     

          เขาเป็นแวมไพร์ที่มาจากมิติอื่นเหมือนกัน ถึงจะมีหน้าตาเหมือนกับเซเว่น แต่ความจริงแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรู้จักอะไรกันมาก่อน พลังของเขาก็ครึ่งๆกลางๆ เพราะเขาไม่ได้เป็นพวกเลือดบริสุทธิ์ เป็นมนุษย์ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์เท่านั้น ครั้งแรกที่เจอกันเขายังแปลกใจด้วยซ้ำว่ามีคนที่เหมือนเขาขนาดนี้อยู่ด้วย 


          เขามาถึงที่นี่หลังจากเซเว่นไม่กี่เดือน ตามมาด้วยเจ้าคาร์ลอส พวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะออกไปจากที่นี่ได้ แถมยังไร้ทางต่อกรกับผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้อีก เพราะเธอฉลาดมาก เธอบอกว่าเธอได้เปลี่ยนอนาคตของพวกเขาไปแล้ว ... เพียงแค่จูบครั้งเดียวเท่านั้น


         แรกๆเขาก็ไม่ชอบที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่ผ่านไปไม่กี่เดือน เขาก็พบความจริงบางอย่าง 


          ผู้หญิงคนนั้นค่อยๆเข้ามาในชีวิตของพวกเขาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว การเปลี่ยนอนาคตที่ว่า แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่ทั้งๆที่ในใจตอนแรกเกลียดยัยตัวดีคนนี้นักหนา ไปๆมาๆกลับค่อยๆแง้มประตูให้เธอเข้าไปทีละนิด


           แล้วจู่ๆก็มีคนแบบหมอนั่นโผล่เข้ามาอีก 


           ยัยแม่มดเคยบอกไว้ว่าร้านจะสมบูรณ์ได้ ต้องมีพนักงานของเธอครบสี่คน ซึ่งตอนนี้ก็ครบแล้วเรียบร้อย 


          นั่นหมายความว่าหมอนี่เป็นคนสุดท้ายที่จะเข้ามาอยู่ที่นี่ เป็นคนที่ถูกเลือกโดยแม่มดคนสุดท้าย และถูกเปลี่ยนอนาคตคนสุดท้าย


          .... เขาเข้าใจ ว่าเธอก็แค่ทำตามเป้าหมายให้มันสำเร็จ


          แต่อยู่ดีๆก็เริ่มไม่ชอบขึ้นมา ไม่รู้ว่าไม่ชอบอะไร แต่มันจะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นยัยนั่นใส่ใจคนอื่นเป็นพิเศษ


           ช่างมันเถอะ เขาขี้เกียจสนใจแล้ว เธออยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ตอนนี้เขาสนใจแค่ทำงานของยัยนั่นให้ครบจำนวน 20 คนก็พอแล้วนี่ จะได้กลับไปอยู่ที่ๆเดิมของเขา


          คิดเสร็จ ชายหนุ่มก็เปิดประตูห้องของตัวเอง เดินเข้าไป แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง หลับตา และพยายามจะลบภาพวุ่นวายที่อยู่ในหัวออกให้หมด เพราะกลัวว่าซักวันมันจะทำให้เขาไม่เหมือนเดิม...









    คืนวันนั้นเอง 


           ฮิบาริที่หมดสติไปหลังจากการต่อสู้กับแวมไพร์จอมวายร้ายของบ้าน ฝันถึงอะไรบางอย่าง


          เขาฝันเห็นตัวเองในอีกสิบปีข้างหน้า ยืนอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง แม้เขาจะเห็นหน้าหล่อนไม่ชัด แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าเคยเห็นเธอมาก่อน 


          ในฝัน พวกเขายืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งริมทะเล มีเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงสองคนวิ่งเล่นกันอยู่หน้าบ้าน 


           .... เด็กผู้ชายหน้าเหมือนเขาตอนเด็กๆไม่มีผิด ส่วนเด็กผู้หญิง มีผมสีน้ำตาลเหมือนใครบางคน แต่มีดวงตาเหมือนเขา 


           เขารู้สึกได้ว่ามันเป็นเรื่องจริง แม้จะอยู่ในฝัน แต่ทุกอย่างมันสมจริงเสียจนขนลุก 


           เขาในอีกสิบปีข้างหน้ากุมมือของผู้หญิงข้างกายแน่น แน่นเสียจนเขาที่เป็นคนฝันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอุ่นตอนจับมือเธอคนนั้น เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกหนักแน่นผ่านสายตาที่เขาในอีกสิบปีข้างหน้ามีให้กับหญิงสาวปริศนาข้างกาย 

          

          ....นี่มันเกิดอะไรขึ้น


           ฮิบาริในฝันยังคงสับสน เขาที่ไม่เคยคิดจะรักใคร เกลียดการสุมหัว รำคาญการอยู่ร่วมกับคนเยอะๆ แต่อีกสิบปีข้างหน้าจะแต่งงาน มีลูก อย่างนั้นเหรอ? 


           แล้วก่อนที่เขาจะได้ฝันอะไรไปมากกว่านั้น เขาก็ตื่นเสียก่อน 


          ชายหนุ่มเหงื่อตก สิ่งที่เขาเห็นในฝันทำให้หัวใจที่แสนเย็นชาของเชาเริ่มกระตุก จังหวะของเขามันแกว่งไปเล็กน้อยเมื่อเขาพยายามนึกภาพเรื่องราวในฝัน 


         ...บ้าเอ๊ย!!! 


         เขาสบถในใจเมื่อตื่นขึ้นมาพบกับความจริงที่ว่าเขากำลังอยู่ในโลกที่ไม่ใช่โลกของตัวเอง เขาอยู่ในห้องที่แม้ดูเหมือนจะอยู่ที่บ้านแต่ก็ไม่ใช่ พลันภาพหญิงสาวคนเดิมที่กำลังทำให้เขาหงุดหงิดก็แล่นเข้ามาในหัว แต่เป็นใบหน้าของเธอที่กำลังเข้ามาช่วยเขา ความกังวลฉายชัดอยู่ในแววตานั่น พร้อมทั้งระลึกถึงความรู้สึกอบอุ่นที่แล่นเข้ามาขณะยัยนั่นรักษาบาดแผลให้เขา 


         ....เป็นไปไม่ได้ 


         ....เขาเกลียดเธอคนนั้น ที่บังอาจมาออกคำสั่งเขา


         แล้วทำไมถึงต้องมารู้สึกบ้าๆแบบนี้


          ฮิบาริเอามือกุมขมับ พยายามไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัวทันที แล้วรวบรวมสติใหม่ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา คราวนี้เขาจะไม่ยอมให้ยัยนั่นเข้ามาในหัวของเขาอีก 


         " ฉันจะขย้ำยัยบ้านั่นให้เละ " 


    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .




          ฮิบาริที่ได้สติแล้วเดินลงมาชั้นล่าง ตอนนี้ในห้องโถงใหญ่มีคนสี่คนนั่งอยู่กับพร้อมหน้าบนโซฟาคนละตัว เหลือที่ว่างให้เขาอีกหนึ่งตัวราวกับจะเชื้อเชิญให้มานั่งยังไงยังงั้น


         " เคียวยะคุง " วิว่าเรียกเขา " นั่งสิ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย "


          ฮิบาริลังเลเล็กน้อย แต่ก็เดินเข้าไปนั่งยังโซฟาตัวที่ว่างอยู่ ซึ่งมันเป็นตัวที่ตำแหน่งอยู่ตรงข้ามกับเซเว่น เขาลืมมันไปได้ยังไง ไอ้หมอนี่มันเพิ่งจะอัดเขาซะน่วมไปหยกๆ 


         พอถูกเขามองด้วยสายตาหาเรื่อง เซเว่นก็มองเขากลับด้วยสายตาเยาะเย้ยจนเขาได้แต่กำหมัดแน่น เขารู้ว่าสู้กับไอ้หมอนี่ไม่ได้ มันน่าเจ็บใจที่สุด เพราะความเร็วและพละกำลังของหมอนั่นมันไม่ใช่มนุษย์ ภายในเวลาไม่กี่นาทีเขาถึงโดนมันเล่นงาน ในขณะที่เขาทำได้แค่ต่อยมันไปหมัดเดียวเท่านั้น เขาเจ็บใจสุดๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย


         " ฉันจะแนะนำแต่ละคนให้เธอรู้จัก เพราะพวกเธอต้องทำงานด้วยกัน ควรจะต้องรู้จักกันไว้นะ " 


         ฮิบาริ เคียวยะที่ไม่ชอบการสุมหัว แต่ต้องมานั่งล้อมวงแบบนี้ เขาล่ะไม่ชอบใจสุดๆ 


         " คนนั้นคือ คาร์ลอส เธอยังไม่เคยเจอกับเขาเพราะเมื่อกลางวันคาร์ลอสออกไปทำงานให้ฉัน เขามาอยู่ที่นี่ก่อนหน้าเธอได้ซักพัก เขาเป็นปีศาจ ในโลกของคาร์ลอสเรียกปีศาจระดับสูงนี้ว่าโอพัสต์ เขาเป็นแม่ทัพคนโปรดของราชาปีศาจ ฝีมือการต่อสู้สูสีกับเซเว่น เคยทะเลาะกันแล้วบ้านชั้นบนของฉันหายไปทั้งแถบ " วิว่าพูดแล้วกุมขมับ ถึงแม้เธอจะชินแล้วกับเหตุการณ์แบบนี้ แต่เธอก็ไม่อยากให้เกิดอยู่ดี 


          ชายหนุ่มคนที่ชื่อคาร์ลอส ปรายตามองฮิบารินิ่งๆ เขามีผมสีดำสนิทยาวระต้นคอ ใบหน้าคมคายงดงามราวกับรูปสลัก ดวงตาสีทอง แน่ล่ะว่าไม่ใช่มนุษย์ ทั้งรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ หน้าตาแสนเพอร์เฟคต์ ทุกอย่างรวมอยู่ในตัวหมอนี่หมด 


         " ส่วนอีกสองคนตรงนั้น เธอคงเคยพบกับเขาแล้ว พวกเขาคือเซเว่น และ เซโร่ ทั้งสองคนเป็นแวมไพร์ ถึงจะหน้าตาเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นฝาแฝดหรือรู้จักกันมาก่อน พงกเขามาจากคนละมิติ เซโร่เคยเป็นมนุษย์ แต่ถูกเปลี่ยนให่เป็นแวมไพร์ด้วยการกัด ส่วนเซเว่นนั้นเป็นแวมไพร์โดยสายเลือดอยู่แล้ว และมิติของเซเว่นแวมไพร์สายพันธุ์ของเขาจะแข็งแกร่งที่สุด นอกจากนั้นเขายังเคยเป็นโจรอีก ดังนั้นคนที่ไม่น่ามีเรื่องด้วยที่สุดก็คือเซเว่น นอกเสียจากว่าคนๆนั้นจะเป็นฉัน " 


          วิว่าอธิบายไปพลาง ส่งสายตาเขม่นเจ้าคนตัวยุ่งไปพลาง แต่เซเว่นก็ยังทำเมิน ไม่สนใจสายตาเหน็บแนมที่ส่งมาเป็นระยะจากแม่มดสาว เขาออกจะชอบใจด้วยซ้ำที่ยั่วโมโหเธอได้ 


          ฮิบาริคิดอยู่ในใจ เขาคือมนุษย์คนเดียวที่นี่... เป็นคนจริงๆ ไม่มีพลังพิเศษอะไรอยู่ในตัว แล้วเขามาทำอะไรเนี่ย!


          " ฉันเคยเล่าเรื่องของเคียวยะให้ทุกคนฟังแล้ว ทุกคนรู้ว่าเธอจะมา แล้วฉันต้องขอโทษด้วยที่เซเว่นไปแกล้งเธอ เขาชอบทำแบบนี้เสมอเวลามีคนเข้ามาใหม่ แล้วเขาก็จะแก้ตัวกับฉันตลอดว่ามันคือการรับน้องใหม่ "


          พอวิว่าพูดจบ คราวนี้สายตาทุกคู่ในห้องจ้องเขม็งไปที่เจ้าของชื่อทันที ตอนนี้ฮิบาริรู้แล้วว่าไม่ได้มีแค่เขาที่ไม่ชอบขี้หน้ามัน แล้วไอที่เขาโดนเมื่อกลางวันนั่นเรียกว่าการรับน้องงั้นเหรอ เขาคิดแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ


          บรรยากาศในห้องดำเนินไปเรื่อยๆ แม่มดสาวเริ่มอธิบายถึงงานของเธอให้ฮิบาริฟัง โดยที่ชายหนุ่มทั้งสี่มีอาการเบื่ออย่างเห็นได้ชัด เพราะทั้งสามคนเคยฟังแบบนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่งรอบ ขณะเดียวกันก็มีสายตาอาฆาตเพ่งเล็งกันไปกันมาตลอด 


          จากที่ยอมทนฟังมาครึ่งชั่วโมง ฮิบาริเข้าใจคร่าวๆ ว่าร้านของยัยแม่มดเป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเมืองที่ชื่อโตเกียว ย่านอากิฮาบาระ โดยที่ร้านก็จะขายทั้งขนมเค้ก เครื่องดื่ม และอาหารทั่วไป โดยวิว่าและเซโร่ที่ได้รับตำแหน่งพ่อครัวประจำร้านเป็นคนทำ ส่วนพนักงานต้อนรับจะได้ตำแหน่งว่าเป็นพ่อบ้านประจำร้าน ซึ่งก็คือคาร์ลอส และเขา ซึ่งพรุ่งนี้เขาจะต้องลองฝึกงานกับคาร์ลอสก่อนจะเริ่มงานจริงในวันมะรืน 


          ส่วนเซเว่น หมอนั่นอยู่มานานที่สุด และเข้าใจระบบการทำงานของร้านเป็นอย่างดี หมอนั่นจะคอยช่วยวิว่าวางแผนแก้ปัญหาของลูกค้าพิเศษ และถ้าเกิดมีอะไรเหนือความคาดหมายหรือเหนือการควบคุม วิว่าจะส่งเซเว่นไปจัดการเป็นคนแรก 


         เขาเข้าใจว่าทุกคนได้ทำพันธสัญญากับปากกาวาจาสิทธิ์เหมือนกับเขา เพราะยัยแม่มดเป็นบอก ว่าตอนนี้ เซเว่นได้ทำงานให้กับลูกค้าพิเศษของเธอได้ 17 คนแล้ว ส่วนเซโร่ได้ 13 คาร์ลอส ที่มาช้าหน่อยก็ได้ 6 คน ส่วนเขา ยังไม่ได้เริ่มแม้แต่คนเดียว


          โดยลูกค้าของแต่ละคนจะต้องไม่ซ้ำกัน ยกเว้นในกรณีที่ปัญหาของลูกค้านั้น คนๆเดียวไม่สามารถแก้ไขได้ และต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นๆในทีม วิว่าจะอนุญาตให้เข้าช่วยเหลือ และนับแต้มรวมกันได้ 


          ซึ่งถ้าไม่ได้รับอนุญาตแล้วร่วมทำงานกันไปก่อน เธอจะตัดแต้มคนละ 1 แต้ม


         จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครถูกตัดคะแนนแบบนั้นเลย เพราะแต่ละคนหวงแต้มของตัวเองมาก เคร่งครัดกับกฏสุดๆ ดูท่าแล้วก็คงอยากกลับโลกของตัวเองกันทุกคน


         แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เซโร่ เซเว่น และคาร์ลอส ทั้งสามคนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา ครั้งนั้นทำให้ทั้งสามคนได้แต้มไปพร้อมๆกัน แต่ยัยแม่มดไม่ได้บอกว่าเป็นปัญหาอะไร 


          เธอบอกว่า ถ้าให้ความร่วมมือกับเธอ เธอจะปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระ ถ้าครบ 20 คนเมื่อไหร่ เธอจะปล่อยพวกเขากลับไปยังมิติเดิมทันที เหมือนดังที่สัญญาไว้


          " พอจะเข้าใจการทำงานคร่าวๆแล้วใช่มั้ยเคียวยะคุง "


          เจ้าของชื่อพยักหน้า แต่ก็ยังเมิน ไม่ยอมหันมาสบตากับเธอดีๆ ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกคันยุบยิบเพราะผื่นน่าจะขึ้น ให้ตายเหอะ ไม่น่ามาสุมหัวรวมกับเจ้าพวกนี้เลย


          แม่มดสาวเหมือนจะอ่านใจเขาได้เมื่อเห็นอาการยุกยิกนิดๆของเขา เธอหัวเราะเบาๆ แล้วเดินเข้ามาหา แล้วนั่งลงข้างๆบนโซฟาตัวเดียวกับฮิบาริ


          " ผื่นขึ้นสินะ " เธอพูดไปยิ้มไป


          " เออ ฉันไม่ชอบสุมหัวรวมกับคนอื่น " เขาตอบห้วนๆ


          " อ่ะ ฉันให้ " 


          แม่มดสาวหยิบกระปุกสีเงินเล็กๆเป็นรูปหัวใจออกมา แล้วยัดมันใส่มือของเขา 


           " มันคือยาแก้ผื่น ฉันทำเอง เพราะรู้ว่านายไม่ชอบอยู่กับคนเยอะๆ แต่หลังจากนี้เราต้องทำงานด้วยกัน พกไว้นะ " 


         เธอพูดแล้วส่งยิ้มมาให้อีกรอบ เขาแปลกใจเล็กน้อยที่คนตรงหน้าใส่ใจกับอะไรเล็กน้อยแบบนั้นด้วย


          ....นึกว่าจะเป็นแค่ยัยแม่มดเอาแต่ใจซะอีก


         แม้ฮิบาริจะไม่ชอบที่จะต้องมาอยู่ที่นี่ แต่เขาไม่มีทางเลือก ขนาดเจ้าพวกสามคนนั่นที่มีพลังเหนือมนุษย์กันทั้งนั้นยังไม่สามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้ นับประสาอะไรกับเขาที่เป็นมนุษย์ธรรมดาๆเท่านั้น


         แต่ก็ไม่แย่ขนาดนั้น... 


        เขาอยากจะเก่งขึ้น บางทีนี่อาจเป็นโอกาสที่ทำให้เขาได้พัฒนาตัวเอง 


        ...ถึงแม้คู่ต่อสู้จะไม่ใช่มนุษย์ก็ตาม


    ---- จบตอนที่ 4


    แล้วตัวละครก็ออกมาครบทุกคนแล้วจ้าา

    คราวนี้มีตัวละครเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

    ไว้เดี๋ยวจะไปอัพรายละเอียดพร้อมรูปตัวละครลงใน "ห้องเก็บของ " นะคะ 


    ติดตามแล้วก็คอมเม้นกันบ้างนะค้า 

    ไรต์จะได้มีกำลังใจเขียน❤️



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×