ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO SNSD INFINITE]Change!!

    ลำดับตอนที่ #6 : CHANGE : CHAPTERS 4

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ย. 57



     

     

    Chapters 4

     

                ฉันก้มหัวขอบคุณแม่บ้านที่ขึ้นมาเปิดประตูเพื่อทำความสะอาดดาดฟ้าอย่างที่เซฮุนบอก เธอดูตกใจมากที่เห็นพวกเราสองคนอยู่บนนี้ แถมยังมองด้วยสายตาแปลกๆจนฉันอดไม่ได้ต้องหันไปแก้ตัว

                “พวกเราเป็นเพื่อนกันนะคะป้า”

                “หึๆ ไปได้แล้ว”เซฮุนหัวเราะในลำคอก่อนที่เขาจะดึงมือฉันลงไปที่ชั้นล่าง

                “นี่นาย ให้ฉันแน่ใจก่อนสิ ว่าป้าเขาจะไม่เข้าใจเราผิดไปน่ะ”

                “ปล่อยให้เข้าใจไปสิ ดีจะตาย”

                “ดีตรงไหนเล่า”ฉันพึมพำเบาๆแต่ก็ปล่อยเลยตามเลยเพราะทำอะไรไม่ได้แล้ว

                ตอนนี้ที่อาคารเรียนเงียบมากถึงมากที่สุด อาจเป็นเพราะตอนนี้มันห้าโมงเย็นแล้ว คงไม่มีใครอยู่หรอก ทันทีที่บอกเวลาเลิกเรียน นักเรียนโรงเรียนนี้ก็วิ่งแจ้นกันอย่างกับแผ่นดินไหว

                “ปริ๊นเซส”

                “หืม?”

                ฉันหันไปมองเซฮุน เริ่มรู้สึกชินแล้วกับคำเรียกของเขา “มีอะไร”

                “ไม่หิวเหรอ ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่กลางวันแล้วนี่”

                “จะว่าไป ก็หิวนะ”

                “ถ้างั้นไปหาอะไรกินกันไหม”

                ฉันมองเขาอย่างครุ่นคิด ลูบท้องตัวเอง พอพูดว่าหิว ก็หิวขึ้นมาทันทีเลยแฮะ “อื้ม เอาสิ”

                “งั้น เดี๋ยวไปเอากระเป๋าแล้วลงไปเจอกันข้างล่างนะ”

                “อ่าฮะ”

                ฉันพยักหน้า เดินแยกมาอีกทางเนื่องจากห้องเรียนของฉันกับเขามันอยู่คนละชั้นกัน ฉันเดินไปตามทาง ห้องเรียนริมสุดนั่นคือห้องของฉัน แต่เมื่อเข้าไปในห้องที่คิดว่าไม่น่ามีใครอยู่แล้ว ฉันกลับเห็นว่ามีใครยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่บอกได้ว่าโมโหสุดๆ

                “..เสี่ยว ลู่หาน”

                เขาไม่พูดอะไร แต่หยิบกระเป๋าฉันแล้วเดินมายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับบีบต้นแขนฉันอย่างที่เขาชอบทำอยู่บ่อยๆ จนฉันว่ามันคงเริ่มจะช้ำๆบ้างแล้วล่ะ เพราะเจอหน้ากันกี่ครั้งเขาก็กระชากแขนฉันอยู่ทุกที

                “โอ๊ย”

                “ฉันบอกให้เธอรออยู่ในห้อง แล้วหายไปไหนมา”เขาพูดเสียงต่ำ มองฉันด้วยสายตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

                “คือฉัน ฉันติดอยู่บนดาดฟ้า”

                “ขึ้นไปทำอะไรบนนั้นล่ะ ก็ฉันสั่งแล้วไง ว่าให้เธอรออยู่ที่นี่ ห้ามไปไหน”

                “ฉัน..”

                “อย่าทำเป็นเก่งกล้าสามารถนักเลยนะจูฮยอน เธอไม่ใช่ซอฮยอน ถ้าเป็นซอฮยอน ยัยนั่นคงไม่ทำตัวแบบนี้แน่”

                ฉันเม้มปาก มองหน้าเขาด้วยความน้อยใจ ทำให้ผลักเขาออก แต่เขากลับจับแขนฉันแน่นมากกว่าเดิมจนเจ็บไปหมดแล้ว

                “ใช่ไง ฉันไม่ใช่ซอฮยอน ฉันจูฮยอน เพราะงั้นนายก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ปล่อยฉัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”

                “ฉันไม่ปล่อย จนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง”

                “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนายแล้วไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ”

                “ไม่ปล่อย”

                แปะๆๆๆๆ

                “เพิ่งรู้ว่าแกมีนิสัยแบบนี้นะ ..ผู้หญิงบอกให้ปล่อย ก็ปล่อยสิวะ”

                ทั้งฉันและลู่หานต่างก็หันไปที่ประตูห้อง และเป็นลู่หานที่พูดเสียงแข็งกลับไป “ไม่ใช่เรื่องของแก อย่ามายุ่ง”

                “อัศวินเขามีหน้าที่ปกป้องไม่ใช่เหรอ ไหงกลายเป็นฝ่ายรังแกเองแบบนี้ล่ะ”

                “บอกว่าไม่ใช่เรื่องของแกไง หุบปากไปซะ ไอ้มยองซู”

                มยองซูหันมาสบตาฉัน ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะเข้ามา คงไม่ได้ยินที่เราสองคนพูดกันก่อนหน้านี้หรอกนะ

                “อา อันที่จริงแค่มาหยิบของที่ลืมไว้”พูดจบเขาก็เดินมาที่โต๊ะของเขา หยิบโทรศัพท์ออกมาจากใต้โต๊ะ แล้วมาหยุดอยู่ข้างฉัน “บอกฉันสิว่ามันเป็นเรื่องของฉัน แล้วฉันจะพาเธอออกไป”

                “ซอฮยอน”

                ฉันหันกลับมามองลู่หานที่เรียกฉัน เหมือนเขาจะหงุดหงิดมาก แต่มันใครกันที่ควรจะหงุดหงิด มันควรเป็นฉันสิ เขาไม่ถามฉันสักคำว่าทำไมติดอยู่บนดาดฟ้า เอาแต่พูดถึงซอฮยอนอยู่ได้ ทั้งที่เขาก็รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือจูฮยอน ถ้าฉันจูฮยอนคนนี้มันน่ารำคาญมากนักแล้วมายุ่งกับฉันทำไม

                แล้วมือตานี่ก็เหนียวหนึบชะมัดเลย

                “มยองซู”

                “...”

                “..มันเป็นเรื่องของนายด้วย”

                พลั่ก

                ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อจู่ๆมยองซูก็เหวี่ยงหมัดใส่ลู่หานอย่างแรงจนเขาล้มลงไปกองกับพื้น มือที่จับฉันไว้ถูกปล่อยออก ก่อนที่มยองซูจะดึงมือฉันออกมาอย่างเร็ว ฉันยังไม่ทันหันกลับไปมองลู่หานเลยด้วยซ้ำ เผลอแป็บเดียวเราก็เดินมาที่หน้าโรงเรียนแล้ว

                กะ กระเป๋าฉันล่ะ T^T

                มยองซูปล่อยมือฉันก่อนที่จะเดินเงียบๆ ฉันเลยตามไปเดินข้างเขา

                “นายต้องลู่ เสี่ยวลู่ทำไม”

                “ถ้าไม่ต่อย มันก็ไม่ปล่อยสิ”

                “-o-

                “ในเมื่อเธอบอกว่ามันเป็นเรื่องของฉัน นั่นก็คือวิธีจัดการในแบบของฉัน”

                เหลือเชื่อ เขาตอบง่ายๆ ต่อยคนง่ายๆแบบนั้นได้ยังไง แถมยังแรงมากด้วยนะ ฉันเชื่อนะว่าลู่หานน่ะสู้เก่ง แต่เขายังได้เป็นแค่ไนต์เลย แล้วไฟท์เตอร์อย่างมยองซูจะขนาดไหน แค่คิดก็กลัวแล้ว

                “ตอนบ่ายหายไปไหนมา”

                “เอ่อ ติดอยู่บนดาดฟ้าน่ะ”

                “เห๊อะ ข้ออ้างของการโดดเรียนชัดๆ”

                ฉันดึงแขนเขา ส่ายหน้าไปมา “ฉันติดอยู่บนนั้นจริงๆนะ”

                “ทำอย่างกับว่าเพิ่งเคยติดอยู่บนนั้นครั้งแรกงั้นแหละ”

                “เอ๋?”

                เขายิ้มมุมปาก หยุดเดินแล้วหันมามองฉัน “เธอน่ะมีคนไม่กล้าสู้ด้วยตรงๆตั้งเยอะแยะ เพราะงั้นพวกนั้นก็ชอบขังเธออยู่บนนั้นตลอด แต่เธอก็ลงมาได้ตลอดนี่”

                “ลง? จะ จากดาดฟ้า”

                “กระโดดลงมาไง เธอกระโดดลงมาที่ระเบียงห้องดี แล้วก็กลับมาที่ห้อง แต่ครั้งนี้แปลกที่ยอมให้ถูกขัง นั่นแหละ ฉันถึงได้พูดไง อยากโดดก็บอก”

                ฉันอ้าปากค้างก่อนจะรีบหุบปากเพื่อกันพิรุธ พยักหน้าเออออตามไป “แฮ่ๆ ก็คงงั้น”

                ไม่อยากจะเชื่อ นี่ฉันแค่คิดเล่นๆนะ แต่ยัยซอฮยอนทำจริงเหรอ ยัยนั่นกระโดดลงไปเนี่ยนะ พระเจ้า พี่สาวฝาแฝดฉันไม่ใช่คน แต่เป็นลิงงั้นเหรอเนี่ย?!

                แต่เอ๊ะ เหมือนฉันจะลืมอะไรไปเลยแฮะ

                ..ดาดฟ้า ดาดฟ้า ให้ตาย!!!

                …

                นายโวยวาย ฉันลืมเซฮุนไปสนิทเลย

                “เอ่อ มยองซู ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ”

                “อะไร”

                “คือ ..ถ้าผู้ชายคนนึงพูดว่าจะรอน่ะ นายว่าเขาจะรออย่างที่พูดไหม”

                “??”

                “ฉันหมายถึง เอ่อ ถ้าเกิดว่าคนที่เขาบอกว่าจะรอไม่ไปเจอเขา เขาก็รอจนยี่สิบนาที หรืออาจจะเกือบๆครึ่งชั่วโมง นายว่าเขาจะยังรออยู่หรือเปล่า”

                “เธอหมายถึงผู้ชายแบบไหนล่ะ ถ้าผู้ชายแบบฉัน คงไม่รอ เพราะฉันไม่ชอบรอ”

                ฉันคิดว่าฉันรู้อยู่นะ -.-

                “เอ่อ งะ งั้น ถ้าเป็นแบบ ..ปริ๊นซ์ล่ะ เซฮุนน่ะ”

                “คนอย่างมันก็คงไม่รอเหมือนกันแหละ”

                ฮู่ววว โล่งอก เขาคงไม่รอ

                “แต่ถ้าคนที่มันบอกว่าจะรอเป็นเธอ ..ต่อให้คืนนี้เธอยังไม่ไป มันก็ยังรอ”

                เฮือก!!!!! แย่แล้วววววววววววววววววว





















     

     

     

     

                ฉันบอกลามยองซูไม่ลืมที่จะขอบคุณเขาก่อนที่จะวิ่งย้อนกลับมาที่โรงเรียนอีกครั้ง จะหกโมงเย็นนี่ก็ใกล้มืดลงไปทุกที ถ้าเซฮุนยังรออยู่ เขาก็รอฉันเกือบชั่วโมงแล้ว ไม่นานเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ควรให้เขาต้องรออยู่ดี

                เมื่อมาถึงตึกเรียน ฉันก็กวาดสายตามองหาร่างสูงที่คาดว่าน่าจะยืนอยู่ แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า บางทีมยองซูอาจจะเดาผิด เขาไม่น่าจะรู้จักสนิทสนมกับเซฮุนขนาดนั้น อีกอย่าง ตอนถูกมยองซูพาลงมาฉันก็ไม่เห็นเขานี่นา

                ค่อยยังชั่ว ที่นายโวยวายไม่ได้รอแล้ว

                “มาสายไปสี่สิบเจ็ดนาที ต้องให้ทำโทษยังไงดีนะปริ๊นเซส”

                ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูดังอยู่ข้างหลัง เมื่อหันไปมองก็ได้แต่ทำหน้ารู้สึกผิด เพราะนายโวยวายยืนปากคว่ำอยู่ตรงนั้น ฉันเลยเดินไปหาเขาจ๋อยๆ

                “เอ่อ..”

                “ไม่รับฟังคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้น”

                “...”ฉันเงียบไปทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น เขาคงโกรธฉันแหงๆ

                หมับ

                “ไปกันเถอะ ^^ ท้องร้องจนจะเป็นเพลงแร็พอยู่แล้วเนี่ย”

                “-o-

                ฉันมองเขาอย่างงงๆ กว่าจะรู้สึกตัวก็ถูกลากออกไปจากโรงเรียนตรงไปยังรถที่จอดโดดเดี่ยวอยู่บริเวณที่จอดรถแล้ว เขาดันฉันเข้าไป ก่อนที่ตัวเองจะขึ้นไปประจำที่คนขับแล้วขับออกไปทันที

                แถมยังผิวปากฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีอีกต่างหาก

                “นี่..”

                “หืม”

                “ไม่ได้โกรธฉันหรอกเหรอ”

                “ไม่นี่ โกรธทำไมอ่ะ”

                “อ่า กะ ก็นายบอกว่าไม่รับฟังคำแก้ตัว ฉันมาหานายช้า นายไม่กะ..”

                “ไม่โกรธหรอก ฉันรู้ว่าเธอมีเหตุผล อีกอย่างตอนนี้เธอก็มาแล้วนี่นา อ้อ! แล้วก็อีกอย่าง ถ้าฉันโกรธ ฉันก็คงต้องหายเองอีกแหละ เพราะเธอจะไม่ง้อฉันไง ใช่ไหม”

                “..ก็ ถ้าฉันผิด ก็ง้อนะ”

                เอี๊ยดดดดดดดด

                “เฮือก”

                ฉันร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆเขาก็เหยียบเบรกจนตัวฉันแทบจะกระเด็นออกนอกรถดีที่คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ “ทำอะไรของนายเนี่ย”

                “ขอย้อนกลับไปโกรธหน่อยได้ไหม”

                “ฮะ?”

                “เสียดายชะมัด เธอบอกว่าจะง้อฉัน ปัดโธ่ไอ้งั่งเซฮุน ทำไมไม่งอนฟะ อดเห็นปริ๊นเซสง้อเลย”

                “ไอ้บ้า”ฉันด่าเบาๆ แต่ก็อดยิ้มกับท่าทางของเขาไม่ได้

                “มันมีโอกาสแค่ครั้งเดียวเองนะ ฉันรู้จักเธอ ชอบเธอมาตั้งปีกว่าแล้ว เธอหลบหน้าฉัน ด่าฉัน ตบฉัน ไล่ฉัน สารพัดที่โคตรทำร้ายจิตใจ แต่นี่เธอบอกว่าเธอจะง้ออ่ะถ้าฉันโกรธ”เขาพูดรัวๆ สีหน้าดูตื่นเต้นมาก

                ฉันเลยจ้องหน้าเขานิ่งๆ ครุ่นคิดอะไรเล็กน้อย

                “นายนี่ ..ดูท่าทางจะชอบซอฮยอนมากเลยนะ”

                “>< ปริ๊นเซสแทนตัวเองด้วยชื่อด้วย”

                เอ่อ ลืมตัวอีกแล้วแฮะ

                “บอกมาตามตรงเถอะ เริ่มหลงรักฉันแล้วใช่ไหมล่ะ”เขาพูด จิ้มแก้มฉันเบาๆ

                “ก็..”ฉันปัดมือเขาออก เบือนหน้าไปอีกทาง ไม่ได้ๆ ฉันคือซอฮยอน ท่องไว้ ท่องเอาไว้ “ไอ้ประสาทเอ๊ย”

                ...ก็

                ไม่รู้สินะ

                ...ทำไมซอฮยอนมีแต่ผู้ชายแปลกๆมาพัวพันแบบนี้

                ...

                หัวใจของฉัน มันชักเข้าสู้ช่วงอันตรายขึ้นทุกทีแล้วสิ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                เซฮุนพาฉันมาที่ร้านอาหารในห้างที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก ดูเหมือนที่นี่จะเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นจากหลายโรงเรียน และเมื่อทุกคนเห็นฉัน ก็เป็นเหมือนกับในโรงเรียนไม่มีผิด พวกเขากระซิบกระซาบและมองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลกๆ

                “อะไรกันนักหนา”และนั่นทำให้ฉันเผลอโวยออกมา ทุกคนเลยพากันสลายตัวไปในทันที ฉันหันไปมองเซฮุนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “คนพวกนั้นเป็นอะไรกัน ทำไมต้องมองฉันแบบนั้นด้วย”

                “ไม่เห็นแปลกเลย”          

                “อะไรที่ว่าไม่แปลกฮะ ฉันมีขาสามขา หรือว่ามีจมูกสองอันหรือไง”

                “ฮ่าๆๆๆๆ”เขาหัวเราะราวกับว่าสิ่งที่ฉันพูดมันตลกมากมาย “ข้อหนึ่ง เพราะทุกคนเข้าใจว่าเธอถูกทำร้ายสาหัส”

                “...”

                “มันก็เป็นแค่ข่าวลือน่ะ ไม่แปลกที่พวกนั้นจะตกใจที่เห็นปริ๊นเซสยังอยู่ดีครบสามสิบสอง”

                “..แล้ว ข่าวลือมันมากจากไหน ลือยังไง”ฉันถาม บางทีถ้ารู้ที่มาของข่าวลือ ฉันอาจจะได้รู้ว่าใครที่ทำร้ายซอฮยอน

                “มันลือต่อๆกันมาอ่ะ ถ้าจะให้หาที่มาน่ะยาก”

                “อืม..”ฉันพยักหน้า รู้สึกเสียดายเล็กน้อย

                “สอง ปกติเธอไม่เดินห้าง ซึ่งฉันก็แปลกใจเหมือนกันที่เธอมาห้าง”

                “เอ่อ.. ฉัน”

                “ทุกครั้งที่มาห้าง ก็คือเธอพร้อมจะมาสู้กับใครสักคน พวกเขาก็คงแปลกใจอีก ที่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

                ฉันก้มหน้า กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ ฉันจะแสดงเป็นซอฮยอนได้เนียนสักแค่ไหนกัน ในเมื่อยัยนั่นแตกต่างจากฉันโดยสิ้นเชิง นอกจากไม่ชอบมีเรื่องกับใคร ฉันยังไม่สู้คนด้วย น่ากลัวจะตาย

                “แต่ฉันเข้าใจนะ เธอบอกฉันว่าเธอก็เริ่มเหนื่อยกับการมีเรื่องแล้ว”

                ฉันเงยหน้ามองเซฮุน พยักหน้ารัวๆทันที “ใช่ๆๆๆๆ มันเป็นแบบนั้นแหละ”         

                “อื้ม และอีกเหตุผลสุดท้ายที่พวกนั้นกระซิบกระซาบกันก็คือ”

                “??”

                “การที่เจ้าแม่อย่างเธอ มาเดินกับปริ๊นอย่างฉัน”

                “เอ่อ นั่นมันก็..”

                ปกติซอฮยอนคงไม่ทำแบบนี้ อันนี้ฉันน่าจะรู้ แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อตอนนี้ฉันรู้สึกไว้ใจนายโวยวายนี่มากที่สุดนี่ นอกจากเขาไม่มีเรื่องกับใครให้ฉันต้องโดนลูกหลงแล้ว เขาก็ดูจะชอบฉันมาก ฉันหมายถึงซอฮยอนน่ะ เขาคงน่าจะดูแลฉันได้ดีล่ะมั้ง

                “ดีเหมือนกัน เพราะงั้นฉันจะสร้างข่าวลือขึ้นมาใหม่”

                “หืม”

                ฉันมองเขาอย่างสงสัย และวินาทีนั้นก็เหมือนว่าเวลาได้หยุดเดินไปเลยเมื่อจู่ๆเซฮุนก็ขยับมาใกล้แล้วจู่โจมหอมแก้มฉันอย่างเร็ว

                “O//////////O

                “ทุกคนจะได้เข้าใจว่าเธอคือปริ๊นเซสของฉันจริงๆ”

                ...

                กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด 







     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×