คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CHANGE : CHAPTERS 3
Chapters 3
“ค่ะแม่ หนูรู้แล้วค่ะ ตอนนี้ที่นี่ไม่มีปัญหาอะไร สบายมากค่ะ”
(มีอะไรก็โทรบอกแม่นะเข้าใจไหม หรือถ้ามันจวนตัวจริงๆหนูก็โทรไปบอกพ่อหนู)
“รับทราบค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะ ว่าแต่ ซอฮยอนเป็นไงบ้างคะ”
(ก็เหมือนเดิม แต่เมื่อเช้าตอนแม่เข้าไปเช็ดตัวให้ นิ้วซอฮยอนขยับนิดหน่อย)
“จริงเหรอคะ”ฉันถามอย่างตื่นเต้น เอียงคอหนีบโทรศัพท์เพื่อใส่รองเท้าที่วางอยู่หน้าบ้าน
(แต่คุณแดนนี่เขาบอกว่ามันเป็นอาการปกติน่ะ แค่เป็นการตอบสนอง ไม่ได้หมายความว่าซอฮยอนจะฟื้นขึ้นมา)
ทันทีที่ได้ยินฉันก็จ๋อยไปนิดหน่อย แต่ก็กลับมายิ้มใหม่ “แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูเชื่อว่าซอฮยอนจะต้องตื่นขึ้นมาแน่ ตอนนี้คงเหนื่อยเลยอยากนอนพักเฉยๆน่ะ”
(จ้ะลูก)
“งั้นหนูไปเรียนก่อนนะคะ รักแม่นะคะ”
ฉันวางสายจากแม่ เก็บโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วเดินออกไปที่ถนนใหญ่หลังจากล็อคบ้านเรียบร้อยแล้ว แต่แล้วแขนของฉันกลับถูกคว้าเอาไว้จนเซเกือบจะล้ม
“อ๊ะ”
“กว่าจะออกมาได้นะ”เสียงพร้อมกับใบหน้ายุ่งๆของลู่หานส่งมาทักทายฉันเป็นอันดับแรก
ฉันยิ้มแห้งๆ ดึงแขนตัวเองออก “นายนี่ชอบดึงแขนฉันจังเลยนะ เสี่ยวลู่”
“อยู่กันสองคนเธอเรียกฉันว่าลู่หานก็ได้ มันแปลกๆ ถ้าเธอเรียกฉันว่าเสี่ยวลู่”
“...”ฉันเงียบ ไม่ได้พูดอะไรออกมา เดินตามเขาในขณะที่ตาก็มองแต่พื้นข้างล่าง
หรือว่าชื่อเสี่ยวลู่จะมีไว้ให้ซอฮยอนเรียกคนเดียว.. ก็ฉันไม่ใช่ซอฮยอนนี่ ฉันคือจูฮยอน
“เมื่อวานเป็นยังไงบ้าง”
“ก็.. ไปซื้อของ แล้วก็กลับบ้าน”ฉันตอบเสียงแผ่ว รู้สึกยังไงก็ไม่รู้ อธิบายไม่ถูกเลย
“อืม กลับยังไง เดิน?”
“มยองซูมาส่งน่ะ”
กึก
ลู่หานหยุดเดินทันทีที่ฉันพูดจบ เขาหันมามองฉัน บีบไหล่ฉันเบาๆ “ทำไมมันมาส่งเธอ”
“..ฉันบังเอิญเจอเขาที่มาร์เก็ตเมื่อวาน”
“ทำไมหลบตา เงยหน้าขึ้นมา”
“...”ฉันเบี่ยงหน้าหนีมือของลู่หานที่พยายามจะจับให้ฉันเงยหน้ามองเขา แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น จนต้องเงยหน้ามองเขาอยู่ดี
“ใครทำอะไรเธอ”เขาถามเสียงเครียด เอื้อมมือมาลูบที่แก้มฉันเบาๆ แต่ฉันก็ปัดออกอย่างรวดเร็ว
“..ฉันไม่รู้จักหรอก หมอนั่นบอกว่าซอฮยอนเอาตีเขาทั้งที่เขามาสารภาพรัก”
“..ไอ้คังแทสินะ”ลู่หานพูดก่อนจะสบถคำหยาบออกมา
ฉันบิดแขนของตัวเองออกจากการเกาะกุมของเขา เดินตรงไปเรื่อยๆโดยไม่พูดอะไร ลู่หานเดินมาเคียงข้างฉัน ก่อนที่เราจะเดินกันเงียบๆจนมาถึงป้ายรถเมล์ ฉันยืนรอเพราะไม่มีที่ว่างเหลือให้นั่ง ในขณะที่ลู่หานก็ยืนเงียบอยู่ข้างกัน
“...”
“...”
“..เจ็บหรือเปล่า”
“ก็เจ็บ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”ฉันตอบเขาแค่นั้น แล้วรถเมล์ก็มา หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกจนถึงโรงเรียน เขาเดินมาส่งฉันที่หน้าห้องเหมือนอย่างเคย
“เดี๋ยวตอนกลางวันมารับ รออยู่ในห้องนะ”
“อืม”
“...”ลู่หานเดินออกไปหลังจากที่เขาทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูด
ฉันเดินมานั่งที่ของตัวเอง หยิบหนังสือมาอ่านทบทวนก่อนที่อาจารย์จะมา ไม่นานนักที่ว่างข้างๆก็มีคนมานั่ง มยองซูนั่งลงแล้วเขาก็ฟุบลงไปกับโต๊ะ
จริงสินะ หลังจากที่เขาไปส่งฉันที่บ้านเมื่อวาน(ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขารู้ได้ไงว่าบ้านฉันอยู่ที่ไหน) เขาก็กลับไปเลย ฉันยังไม่ได้พูดขอบคุณที่เขาช่วยฉันเลย
จึกๆ
ฉันใช้นิ้วจิ้มแขนเขาเบาๆ ก่อนที่เขาจะเงยหน้ามามองฉันด้วยใบหน้าแบบนี้ -_-*
“เอ่อ..”
“...”
“เมื่อวานนี้ ขอบคุณมากนะที่ไปส่ง แล้วก็ขอบคุณด้วยที่มาช่วยได้ทัน ไม่ได้นายฉันคงแย่แน่ๆเลย”
เขาจ้องหน้าฉันนิ่งๆ ใบหน้าหล่อกระชากตับไตไส้พุงของเขาทำเอาฉันใจสั่น แต่แล้วจู่ๆเขาก็ยิ้ม
=[ ]= ช็อคโลก นี่เขายิ้ม เขายิ้มให้ฉันเหรอ
“เธอนี่เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ”
“...”
“เอาเถอะ ก็บอกแล้วไงว่าถ้าเธอจะทำเรื่องนั้นจริงอย่างที่พูด ฉันคงปล่อยให้เธอทำคนเดียวไม่ได้”
“..อ่า อื้ม ก็คงงั้น”ฉันพยักหน้าเออออตามไป แม้จะไม่รู้ว่าเรื่องอะไรก็ตาม
มยองซูยิ้มให้ฉันอีกนิด ก่อนที่เขาจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะตามเดิม ฉันได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆหน้าห้อง แต่เมื่อฉันหันไปมอง พวกเธอก็รีบหันเข้าหากระดานทันที แต่ก็ยังได้ยินอยู่ดีน่ะนะ ว่าพวกเธอพูดอะไรกัน
“เขายิ้ม ไฟท์เตอร์ยิ้มด้วย เมื่อกี้เห็นเหมือนกันหรือเปล่า”
“ทำไมจะไม่เห็นล่ะ หล่อ หล่อมากเลยอ่ะ ฉันว่าถ้าเขายิ้มบ่อยๆ เขาต้องขึ้นอันดับหนึ่งแทนคิงแหงๆ”
“ช่ายยยย อิจฉาซอฮยอนจังเลยอ่ะ”
และนั่นทำให้ฉันต้องหันมามองมยองซูอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะฟุบอยู่กับโต๊ะก็ตาม
“ฉันเห็นด้วยกับพวกนั้นนะ”
“...”
“เวลานายยิ้ม นายหล่อออร่ากระจายเลยอ่ะ ><”
“หึ”
ถึงเขาจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาแต่ฉันก็ได้ยินนะว่าเขาหัวเราะ อืม.. บางทีคนที่ซอฮยอนชอบอาจจะเป็นมยองซุนี่ก็ได้ เขาว่ากันว่าฝาแฝดจะชอบอะไรคล้ายๆกันไม่ใช่เหรอ
ใช่ไหม?
ตอนนี้เป็นเวลาพักกลางวันแล้ว คนอื่นๆต่างก็พากันเดินออกไปจากห้อง จนสุดท้ายก็เหลือแค่ฉัน วันนี้อาจารย์ปล่อยเร็วแค่ห้องฉันน่ะ คงอีกนานกว่าลู่หานจะมา บอกตรงๆฉันรู้สึกไม่อยากเจอหน้าเขาตอนนี้เลยแฮะ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ทะเลาะกับเขานะ แต่ถ้าจะให้ฉันไปนั่งกินข้าวคนเดียวมันก็แปลกๆอีก เท่าที่เจอมาเมื่อวานฉันก็เชื่อแล้วล่ะ ว่าซอฮยอนศัตรูเยอะจริง จะชวนมยองซูให้ไปด้วยกันยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย ในเมื่ออีตานั่นออกไปจากห้องก่อนอาจารย์อีกมั้ง
ฉันเองก็ไม่ค่อยหิวด้วยสิ ถ้างั้น ดาดฟ้าโรงเรียนนี้บรรยากาศจะเป็นยังไงกันนะ
คิดได้แบบนั้นฉันก็เดินออกมานอกห้อง ขึ้นบันไดไปเรื่อยๆจนถึงประตูของดาดฟ้า เมื่อลองหมุนลูกบิดดูก็เห็นว่ามันไม่ได้ล็อค ฉันเลยเดินเข้าไป สูดอากาศเข้าเต็มปอด
“อา สบายดีจัง ลมเย็นด้วยแฮะ”
ปัง
ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆประตูก็ปิดอย่างแรง ฉันรีบวิ่งไปที่ประตู หมุนลูกบิดซ้ำไปซ้ำมาแต่ก็เปิดไม่ออกเหมือนว่ามันถูกล็อคเอาไว้จากข้างนอก ฉันเองก็ไม่ได้โง่ และไม่ได้มองโลกในแง่ดีขนาดนั้นน่ะนะ
โดนแกล้งแล้วสิเรา
อยากจะรู้จริงๆว่าถ้าเป็นซอฮยอน ยัยนั่นจะทำยังไง กระโดดลงไปเลยหรือเปล่านะ ฉันเดินย้อนกลับมาที่ริมระเบียง ชะโงกหน้าลงไปแล้วก็ต้องถอนหายใจยาวๆ นี่มันดาดฟ้าชั้นหกนะ โดดลงไปไม่ตายก็คงพิการแหงๆ
“ทำไมฉันต้องซวยแบบนี้ด้วยเนี่ย T^T”
“นั่นดิ ทำไมต้องซวยขนาดนี้ด้วยนะ”
ฉันสะดุ้งอีกครั้ง หันไปมองข้างหลังเมื่อได้ยินเสียงของใครอีกคนที่อยู่บนนี้ ดีใจจัง ได้เพื่อนร่วมชะตากรรมแล้ว แต่เอ่อ.. ทำไมต้องเป็นนายนี่ด้วยเนี่ย
“ปริ๊นเซส อันยอง”เขาทักฉันเสียงร่าเริง
“ก็เพราะว่ามันชอบซอฮยอนไง ปริ๊นเซสคือตำแหน่งว่างในโรงเรียน และผู้หญิงที่จะมาเป็นปริ๊นเซสได้ ก็คือแฟนของปริ๊น ซึ่งมันคาดหวังให้เป็นเธอ ไม่สิ เป็นซอฮยอน เพียงแต่ยัยนั่นไม่ชอบเท่าไหร่”
“...”
“เพราะงั้นเวลาที่เจอมัน อย่าแจกยิ้มหวาน ให้ด่ากลับไปเลยว่าไอ้ประสาท เพราะซอฮยอนทำอย่างนั้นทุกครั้ง”
“อะ ไอ้ประสาท”
“^^”
ฮะ? อะไรกัน นี่ขนาดโดนด่าทำไมนายนี่ยังยิ้มอยู่ล่ะ เริ่มจะไม่แปลกใจแล้ว ว่าทำไมซอฮยอนเรียกหมอนี่ว่าไอ้ประสาท ดูท่าทางสมองจะผิดปกติจริงๆด้วย
“นะ นาย ยิ้มอะไรของนาย”
“ค่อยนอนหลับหน่อย รู้ไหมว่าหลายวันที่ผ่านมาฉันนอนหลับๆตื่นๆตลอดเลย เพราะไม่ได้ยินปริ๊นเซสด่าฉันน่ะ”
“-o-“
“คืนนี้กลับไปต้องหลับฝันดีแน่เลย”
“=[ ]= อะ ไอ้ประสาท”
ฉันด่าเขาอีกครั้งแต่ก็เหมือนเดิม นายนี่ยังยิ้มอยู่ ฉันเลยต้องมาปั้นหน้าโหดแทน “นะ นายขึ้นมาทำอะไรบนนี้”
“นอน”
“ฮะ?”
“ขี้เกียจเรียน อาจารย์สอนในเรื่องที่รู้อยู่แล้วก็เลยโดดขึ้นมานอนข้างบน”
“อ่า..”
“แล้วก็แจ็คพอตแตก ได้มาถูกขังอยู่กับปริ๊นเซสบนนี้ จากความซวยเลยเปลี่ยนเป็นโชคดีแทน”
ฉันมองเขาที่พูดอย่างร่าเริง รอยยิ้มของเขาก็สดใส ทำไมซอฮยอนไม่ชอบนายนี่ล่ะ เขาก็ดู.. น่ารักดีออกนี่นา
“หึๆ”
“โอ๊ะ เธอยิ้มให้ฉันด้วยอ่ะ”
“หืม?”ฉันทำเสียงขึ้นจมูก ยักไหล่ให้เขา “ปกติฉันไม่ยิ้มให้นายหรือไงล่ะ”
“ก็ไม่น่ะสิ เธอน่ะ เจอหน้าฉันไม่ด่าก็ตบ”
“เอ่อ ฉะ ฉัน คงไม่โหดขนาดนั้นมั้ง”
“โหดสิ โหดมากด้วย”
ฉันยิ้มเจื่อนๆ หันหน้าออกไปทางด้านนอกรับลมเย็นๆที่พัดมา “งั้นต่อไปนี้จะไม่โหดใส่แล้วก็ได้ ^^”
“...”
เมื่อเห็นว่าเขาเงียบไป ฉันเลยหันไปมองเขา “ทำไม? ไม่ชอบเหรอ”
“ก็ไม่ใช่ไม่ชอบหรอก แต่แค่แปลกใจน่ะ”
“งั้น.. ฉันกลับมาโหดเหมือนเดิมก็ได้นะ”
เขารีบส่ายหน้าแถมยังถือวิสาสะมาจับมือฉันอีกต่างหาก “ปริ๊นเซสเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ฉันชอบแบบนี้กว่าเยอะเลย"
“^^”
“สัญญาแล้วนะว่าจะไม่โหดใส่ ไม่เมินใส่แล้วน่ะ”
“แน่นอน ฉันสัญญา”
“^^”
“ว่าแต่ เราจะออกไปจากนี่ได้ยังไงล่ะ”
“อ๋อ พอหมดเวลาพักเดี๋ยวแม่บ้านเขาก็ต้องขึ้นมาทำความสะอาดบนนี้อยู่ดี แค่รอให้มันหมดเวลาเท่านั้นแหละ”
“อ่าฮะ”
ดีแล้วที่ไม่ต้องโทรให้คนมาช่วย เพราะฉันไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยน่ะสิ ไม่รู้เหมือนกัน ป่านนี้ลู่หานคงด่าฉันเละเทะแน่ที่หายไปแถมยังไม่หยิบโทรศัพท์มาด้วยอีก
แต่พอคิดๆดู บางทีเขาอาจจะไม่สนใจก็ได้
ก็ฉันคือจูฮยอน ไม่ใช่ซอฮยอนนี่
“นี่นาย ทำไมป่านนี้ยังไม่มีใครมาเปิดประตูอีกล่ะ”
“แปลกจัง ปกติแม่บ้านต้องขึ้นมาทำความสะอาดดาดฟ้าตามคำสั่งผอ.นี่นา”นายโวยวายบ่นงึมงำ แต่สุดท้ายก็ยักไหล่เพราะหาคำตอบไม่ได้
“ไม่ต้องรอแล้วล่ะ จะได้เวลาเรียนคาบบ่ายแล้วนะ ฉันว่า นายโทรตามให้เพื่อนนายขึ้นมาเปิดให้เถอะ”ฉันพูดหลังจากมองนาฬิกาข้อมือที่บอกว่าอีกห้านาทีจะเริ่มเรียนแล้ว
“อ่า อยากจะโทรให้นะ แต่ว่าฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์ขึ้นมาน่ะสิ”เซฮุนพูด ทำหน้าราวกับเสียดายอย่างสุดซึ้ง “บางที ถ้าตอนกลางวันแม่บ้านไม่มาทำความสะอาด เราอาจจะต้องรอตอนเย็นแทน”
“งั้นนายหมายถึงว่าเราจะต้องโดดเรียนตอนบ่ายจนถึงเลิกเรียนเลยงั้นสิ!!!!”ฉันโวยวายเสียงดัง ก่อนจะโผไปตีแขนเขา “ทำไมไม่พกโทรศัพท์ฮะ ทำไมไม่พกมา!!!!”
“โอ๊ยๆๆ ไหนบอกจะไม่โหดใส่แล้วไง”เขาร้องเสียงหลง หลบมือฉันให้วุ่น “ก็คนโดดเรียนอ่ะ จะพกโทรศัพท์ให้โดนโทรตามทำไมเล่าปริ๊นเซส”
“ฮึ่ย”
ฉันไม่อยากโดดเรียนนี่
“แล้วทำไมปริ๊นเซสไม่เอามาล่ะ”
“ก็.. แค่กะขึ้นมาแป็บเดียว ไม่นึกว่าจะต้องมาโดนขัง”ฉันตอบเบาๆ หันหน้ากลับไปทางด้านนอกพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
เซฮุนเดินมายืนอยู่ข้างๆฉัน เขายืนท่าเดียวกันแต่หันหน้ามาทางฉัน “ปกติไอ้ลู่หานมันติดหนึบไม่ใช่เหรอ แล้วไหงวันนี้มันไม่มาด้วยล่ะ”
“...ไม่ต้องพูดถึงหมอนั่นหรอกน่า”
“อ๊ะ ทะเลาะกันเหรอ”
“...”
เมื่อเห็นว่าฉันเงียบ เซฮุนก็เลยไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาหันหน้าออกไปข้างนอกเหมือนกัน และคราวนี้มันก็เงียบเกินไปจนน่าอึดอัดด้วย “นี่ ..เซฮุน”
“หืม?”
“เมื่อก่อนน่ะ ซอฮยอนเป็นยังไงเหรอ”
“เอ๋..”
“ฉัน หมายถึงว่า เมื่อก่อนฉันในสายตาคนอื่นๆน่ะ เป็นยังไง”ฉันรีบเปลี่ยนคำถามทันที เมื่อกี้ลืมตัวไป คิดว่าตัวเองคือจูฮยอนอยู่เรื่อยเลยแฮะ
“อ๋อ”เขาลากเสียงยาว หันมาจ้องหน้าฉันอีกครั้ง “ก็เป็นเจ้าแม่น่ะ ยัยโหดที่มีเรื่องตบตีได้ไม่เว้นแต่ละวันเลย ออกไปนอกโรงเรียนก็ไปตีกับผู้ชาย ไม่ค่อยสุงสิงอะไรกับใครเท่าไหร่ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรอก”
“งั้น.. ทำไมไม่มีใครห้ามฉันบ้างล่ะ”
“ใครจะไปห้ามได้ล่ะ ก็ได้แต่เป็นห่วงอยู่แบบนี้แหละเวลาเห็นเธอออกไปมีเรื่อง ฉันทำอะไรไม่ได้เลย เธอเกลียดขี้หน้าฉันจะตาย ขนาดไอ้ลู่หานที่เป็นเพื่อนเธอยังไม่ฟังเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนอย่างฉันที่เธอเกลียด”
ฉันหันไปมองหน้าหงอยๆของเขา แตะไหล่เขาเบาๆ “..อันที่จริงก็ไม่ได้เกลียดหรอก”
“^^”
“..แล้วก็ต่อไปพยายามจะไม่มีเรื่องด้วย บะ บางทีมันก็เหนื่อยๆน่ะ”
“ดีแล้วล่ะ ฉันขี้เกียจคอยตามช่วยเธออยู่ห่างๆ อุ๊บ”เขายกมือขึ้นมาปิดปากราวกับว่าเพิ่งหลุดพูดอะไรออกมา เมื่อเห็นว่าฉันเลิกคิ้วมองเขาเลยส่ายหน้า “ไม่ทันสินะ หลุดปากจนได้”
“หึๆ นายนี่ก็ ..น่ารักดีนะ”
“-o- ปริ๊นเซส”
ฉันยิ้ม หันหน้ามองข้างนอกอีกครั้งปล่อยให้นายโวยวายทำหน้าเพ้อฝันต่อไป แต่แล้วกลับมีตัวอะไรบางอย่างบินมาข้างๆ และเมื่อฉันหันไปเห็น
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด”ฉันร้องกรี๊ดลั่น โผเข้ากอดนายโวยวายแน่น
“ฮะ เฮ้ย”
“ผะ ผะ ผีเสื้ออ่ะ นายเอามันออกไป ไล่มันไป ฮือ”
“ดะ เดี๋ยวนะ”
“ไล่มันไปเร็วๆสิ”ฉันเร่ง ร้องไห้และกอดเขาแน่น “เร็วๆ ฮือ ไล่มันไป”
“มันไม่ยอมไปอ่ะ”เขาพูด เอื้อมมือมากอดตอบฉัน
“ฮือ ไล่มันเร็วๆสิ มันไปหรือยัง มันไปไหม”
“ยังๆ มันยังไม่ไปเลย”
“แง้ ฉันไม่ชอบนะ เอามันไปไกลๆ”
“มันไม่ยอมไปไหนเลยอ่ะ”
“ฮือ”
“ไม่ไปไหนจริงๆนะเนี่ย”
ฉันหยุดร้องไห้ เริ่มรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ เมื่อเงยหน้ามอง(เขาตัวสูงมาก)ก็เห็นหมอนี่ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์อยู่ฉันเลยผลักเขาออก ก็เห็นว่าผีเสื้อไม่มีแล้ว
“หน็อย”
“แฮ่ๆ”
พลั่ก
“อ๊ากกกก เจ็บนะปริ๊นเซส”เซฮุนโวยก่อนจะกุมเข่าตัวเองแน่น “เตะมาได้ไงเนี่ย”
“ก็นายมันเจ้าเล่ห์ หลอกกอดฉัน”
“ก็มันแบบ.. แหม ขอนิดๆหน่อยๆไม่ได้หรือไง”
“ชิ”
“ผีเสื้อมันไปตั้งแต่เธอกรี๊ดแล้ว”เขาพูด ทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ “เพิ่งรู้นะว่านักสู้แบบเธอนี่กลัวผีเสื้อ”
“-_- นายไม่เป็นฉันไม่รู้หรอก”ฉันพูดเบาๆ เริ่มขนลุกเมื่อนึกถึง “ตอนเด็กๆ ผีเสื้อมันบินมาที่ช้อนข้าวฉันนี่ แล้วฉันไม่เห็นก็เลยเอาเข้าปาก จู่ๆมันก็บินอยู่ในปากฉัน”
“แล้วเธอกินมันหรือเปล่า”
“ไม่อ่ะ มันบินออกมาทัน แหวะ แค่คิดก็อยากจะร้องไห้อีกแล้วเนี่ย”ฉันเบะ อยากจะร้องไห้จริงๆ
“โอ๋ๆๆๆๆ ไม่เอาไม่ร้อง”พูดจบเขาก็ดึงหัวฉันไปซบที่อกเขาอย่างเนียนๆ
“นี่เซฮุน”
“ครับ”
“..โนเตะอีกสักทีดีไหมห๊า!!!!!!!!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
ไอ้ประสาททททททททททททท
จูงมือหนุ่มนัมเบอร์ทรีมาแนะนำ
โอเซฮุน
ปริ๊นรูปหล่อประจำโรงเรียน หนุ่มขี้เล่น ที่ยอมโดนนางเอกทำร้ายร่างกายขอแค่ได้เข้าใกล้
ก็ไม่รู้สิว่าจะมีสิทธิ์เป็นพระเอกมากน้อยแค่ไหน ถึงทำให้ซอฮยอนสาวแกร่งหวั่นไหวไม่ได้
แต่ก็ทำให้จูฮยอนสาวหวานชมได้แล้วล่ะว่า “นายนี่ก็น่ารักดีนะ”
ความคิดเห็น