คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ซุซุกิ!!!! (1)
-2-
“ว่าไงพวกนาย สนุกกันมากไหม”
“อ่า...แหะๆ”
“แหะๆ”
“...” มิราจมองสภาพ 1 แมวดำ กับอีก 1 ลูกเจี๊ยบร่างเด็กชายวัย 10 ปีที่เดินมาหายังอาณาเขตที่อยู่ของตนภายในโรงเลี้ยงสัตว์ รู้สึกว่าตัวเองคิ้วกระตุกเล็กน้อยจนถึงมากที่สุด อเล็กซ์ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เสื้อผ้าหลุดลุย แถมยังเปรอะเปื้อนด้วยดิน ส่วนเจ้าแมวดำมีก้อนดินและเศษใบไม้ติดตามตัว มีกลิ่นโคลนโชยมาจางๆ อ้อ แล้วยังตุ๊กตาเต่าซุซุกิ...มันอยู่ในสภาพดี สะอาดเอี่ยมอ่อง คงต้องชื่นชมความสามารถในการรักษาของของเจ้าลูกเจี๊ยบจำไมนี่สักหน่อย แต่ไม่ใช่ ณ เวลานี้หรอกนะ
“ข้ารอพวกเจ้าเป็นเวลา 5 ชั่วโมงเต็ม รอตั้งแต่บ่ายโมงจนถึงตอนนี้ 5 โมงเย็น เฮอะ ข้าเพิ่งรู้ว่าการไปเดินเล่นที่ทะเลสาบเล็กๆนั้นใช้เวลาเพียงแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง แล้วการเดินเล่นที่ทะเลสาบเล็กๆยังต้องกลับมาในสภาพเละเทะแบบนี้ด้วย” หมาป่าหิมะที่วันนี้ดูอารมณ์บ่จอยเป็นพิเศษจงใจพูดเน้นคำเพื่อกระตุ้นต่อมรู้สึกผิดของอีกฝ่าย ปกติมิราจไม่เคยบ่นหรือประชดใครอื่นเท่าไรนอกจากเจ้านายของตน แต่วันนี้ดูท่าจะไปกินรังแตนมา หรืออาจเป็นเพราะเคลียร์กับเจ้าหมาป่าอีกตนไม่รู้เรื่องก็ไม่รู้
“ขอโทษฮับมิราจ”
“ฮื่อ ขอโทษมิราจ”
“ขอโทษ? ขอโทษข้าเรื่องอะไร? เรื่องที่ทิ้งข้าให้อยู่คนเดียวแล้วหนีไปเดินเล่นกัน 2 คน หรือเรื่องที่ปล่อยให้ข้ารอถึง 5 ชั่วโมงกันล่ะ”
“ผมขอโทษจริงๆฮับมิราจ เพราะผมเผลอทำซุซุกิตกน้ำ เลยต้องรอให้ซุซุกิแห้งก่อนน่ะฮับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”อเล็กซ์กล่าวขอโทษน้ำตาคลอ เรียกคะแนนความสงสารจากคนที่กำลังโกรธได้มากโข หมาป่าหิมะถอนใจเฮือก
“ช่างเถอะๆ ข้าเองก็ไม่ควรพาลใส่พวกเจ้า”
“ฮับ จริงสิ ผมเก็บแอปเปิ้ลมาให้มิราจด้วย” เด็กชายหยิบซุซุกิขึ้นมาแล้วทุบหัวมันหนึ่งที เจ้าเต่าซุซุกิก็อ้าปากออกพร้อมแอปเปิ้ลผลสีแดงสดที่ปรากฎในปากของมัน
“...ตกลงว่าเจ้าซุซุกินี่เป็นกระเป๋าใส่ของใช่ไหม แล้วจุของได้เท่าไรล่ะ”ไคลน์เอ่ยขึ้นพร้อมเอาเท้าหน้าแหย่เข้าไปในปากซุซุกิด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ไม่รู้สิฮับ แต่คาร์เรลบอกว่า เท่าไรก็ได้ไม่จำกัดฮับ”
“เป็นกระเป๋าที่เชื่อมต่อกับอีกมิติหนึ่งรึเปล่า เหมือนกับกระเพาะ 4 มิติของมิราจไง ”พูดขณะที่กำลังเอาหัวมุดเข้าไป
“เรียกว่าเป็นประตูเชื่อมต่อระหว่างมิติดีกว่า กระเพาะ 4 มิติมันหมายถึง คนกินจุ แล้วข้าก็ไม่ใช่พวกกินจุ”
“คร้าบบ ๆ”
“ฮ้า~ คุณไคลน์ มุดเข้าไปทั้งตัวแบบนั้นระวังออกมาไม่ได้นะฮับ” ถึงจะร้องเตือน แต่คนพูดก็ไม่ได้มีท่าทีเป็นห่วงอะไรมากนัก เพราะถ้าหลุดเข้าไปจริงๆ แค่ทุบหัวซุซุกิไคลน์ก็ออกมาได้แล้ว ที่สำคัญจะเตือนตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วด้วยเพราะเจ้าเหมียวมุดเข้าไปทั้งตัวเรียบร้อย
“ซนจริงๆ”
“ข้างในเป็นยังไงบ้างฮับคุณไคลน์”
“ ดูเหมือนจะไม่ใช่ประตูเชื่อมระหว่างมิตินะ มันมีจุดสิ้นสุดด้วย มีพื้นที่ซัก 1 เอเคอร์ได้ ( 400ไร่ ) ถ้าเป็นประตูเชื่อมจริงๆ ก็คงเป็นมิติที่แคบมาก” เพราะโดยปกติแล้ว มิติหนึ่งต้องมีพื้นที่เท่ากับหนึ่งประเทศเป็นอย่างน้อย หืมม์ แสงสีเขียวเรืองตรงนั้นมันอะไรกัน... ไคลน์จ้องมองแสงสีเขียวตรงหน้า แสงนั่นให้ความรู้สึกคุ้นเคยและน่าหลงใหลอย่างประหลาด เท้าทั้ง 4 ค่อยๆก้าวเดินไปยังจุดกำเนิดแสงช้าๆราวกับต้องมนตร์สะกด
ปึก
“โอ๊ย! อะไรกัน พื้นที่ 1 เอเคอร์มันน่าจะไปต่อได้อีกหน่อยไม่ใช่เรอะ”เจ้าเหมียวสะบัดหัวแรงๆไล่ความมึนงงเมื่อตนเดินชนกำแพงที่มองไม่เห็นเข้าไปเต็มเปา มันคือเครื่องบ่งบอกถึงจุดสิ้นสุดอาณาเขต
แสงนั่น...ทำไมเขาถึงรู้สึกต้องการแสงนั่น เวทมนตร์งั้นเหรอ เป็นไปไม่ได้ ไม่เคยมีมนตร์เสน่ห์บทไหนล่อลวงให้เขาหลงใหลได้มาก่อน แล้วก็จะไม่มีทางมีด้วย ...มีอะไรไม่ชอบมาพากล หรือแสงนั่นจะทำหน้าที่เหมือนกับดักหลอกล่อผู้หลงใหลให้จมดิ่งสู่ความมืด แต่ทำไมอเล็กซ์ถึงมีของอันตรายแบบนี้ ไม่สิ ซุซุกิเป็นของคาร์เรลนี่นา
ดวงตาสีควันไฟเพ่งตรงไปยังจุดกำเนิดแสง ที่มาของแสงแปลกประหลาดนี่คือลูกแก้วใสขนาดเท่าลูกปัด มันส่องประกายอย่างสวยงามท่ามกลางหมอกสีมรกตที่โอบล้อม ทำให้แสงที่สะท้อนออกมากลายเป็นสีเขียวเรือง
“คุณไคลน์ฮับ”
เฮือก
“!!! อเล็กซ์!” แมวดำสะดุ้งเฮือกเมื่อมือเล็กๆสัมผัสเข้าที่หางของตน เล็บคมถูกเรียกออกมาจากอุ้งเท้าทั้ง 4 ตามสัญชาตญาณการป้องกันตัว
“ขอโทษฮับ ผมเห็นคุณเข้ามาในนี้ตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว กดหัวซุซุกิคุณก็ไม่ออกมา ผมเลยเข้ามาตามฮับ” เด็กชายพูดพลางยิ้มขำกับท่าตลกๆเวลาเจ้าแมวตรงหน้าตกใจ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มราวฟากฟ้ายามไร้แสงแห่งสุริยากวาดมองไปรอบๆอย่างสนอกสนใจ ขณะที่อีกคนรู้สึกตะหงิดๆกับประโยคเมื่อครู่ เขาไม่มีนาฬิกาก็จริง แต่เขาสาบานได้ว่าตั้งแต่เขามุดตัวเข้ามา เขาอยู่ในนี้ไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ
“ว้าว ในนี้กว้างจังนะฮับ”
“ก็ไม่กว้างเท่าไรนะถ้าเทียบกับมิติอื่น ...ลูกแก้วกับหมอกสีเขียวนั่นมันอะไรน่ะ”พูดจบก็กระโดดตัวเบาเกาะไหล่เด็กชายเจ้าของสถานที่
“ไม่รู้สิฮับ คาร์เรลสั่งห้ามไม่ให้ผมเข้ามาที่นี่เด็ดขาด แต่ลูกแก้วนั่นดูแปลกๆนะฮับ”
“อย่ามองมันมาก ถึงมันจะน่าหลงใหลก็เถอะ นายไม่มีภูมิต้านทานมนตร์เสน่ห์ใช่ไหม ถ้าจ้องมากๆจะถูกดูดเข้าไปนะ”
“หลงใหล? ผมว่ามันไม่ได้ให้ความรู้สึกน่าหลงใหลสักหน่อย แต่ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกมันดูดแฮะ”
“หือ?” ดวงตาสีเทามองตามสายตาอเล็กซ์ไปยังจุดกำเนิดแสงสีเขียวอีกครั้ง แต่แล้วเจ้าแมวเหมียวก็ต้องลืมตาโพลง
“อเล็กซ์! หลบ!” เร็วเท่าความคิด ไคลน์เปลี่ยนร่างเป็นชายหนุ่มคว้าอเล็กซ์กอดแนบอกพร้อมกระโจนหนีลูกแก้วใสซึ่งภายในอัดแน่นไปด้วยหมอกมรกตที่พุ่งเข้ามาโดยฉับพลัน
อะไรน่ะ ทำไมจู่ๆมันถึงพุ่งเข้ามาทั้งๆที่เขาจ้องมันตั้งนานยังไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ แต่พออเล็กซ์เข้ามามันก็...
“เป็นอะไรไปอเล็กซ์ อย่าดิ้นเซ่”
“ผม...รู้สึก คุณไคลน์ ลูกแก้วนั่นกำลังเรียกหาผม ปล่อยผมลง” ชายหนุ่มเหลือบมองเสี้ยวหน้าของเด็กน้อยในอ้อมกอดที่ดิ้นทุรนทุรายพลางหลีกหนีวัตถุน่าสงสัยที่พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูงจนน่ากลัว
“ฮึ่มมม หลับตาซะอเล็กซ์ ถ้าไปหามัน นายจะกลับไปพบหน้าคาร์เรลอีกไม่ได้นะ” กรงเล็บทั้ง 5 ถูกเรียกขึ้นมาบนมือข้างที่ว่าง ทันทีที่เขาสะบัดมือด้วยความเร็วสูง สายลม 5 สายก็บังเกิดขึ้นกลางอากาศแล้วพุ่งเข้าหาลูกแก้วที่ส่องประกาย มันเป็นสายลมที่ฉีกกระฉากทุกสิ่งที่พัดผ่าน ทว่ามันกลับทำอะไรลูกแก้วนั่นไม่ได้เลย หนำซ้ำเมื่อสายลมพัดถูกลูกแก้ว ร่างเล็กในอ้อมกอดกลับยิงดิ้นทุรนทุรายราวกับเป็นฝ่ายถูกทำร้ายเสียเอง
“ปล่อยผม คุณไคลน์ คุณต้องปล่อยผม!!”
“ไม่ได้อเล็กซ์ ตั้งสติไว้” ขณะที่ร่างสูงเสียสมาธิกับเด็กชาย ลูกแก้วซึ่งบรรจุหมอกเขียวก็ถือโอกาสพุ่งเข้าหาร่างของคนทั้งสองด้วยความเร็วเทียบเท่าความเร็วแสง
“บ้าเอ๊ย” หลบไม่ทันแล้ว! ไคลน์หันเอาหลังของตนรับการพุ่งชนของวัตถุเปล่งประกาย มือใหญ่โอบกอดอเล็กซ์แน่น
ฟุ่บบบ
ตุมมมมมมมม
“อ๊าาาาาา!!!!!”
“อเล็กซ์!!!”
----------------------------------------
ตอนนี้เผลอแต่งยาวไปหน่อย เลยมีตอนที่สองต่อ แหะๆ วาไม่อยากให้คิดว่าเป็นคนละตอนกันเลยใส่ (1) (2) ไปด้วย
ความคิดเห็น