ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Give me a KISS [ จูบนาย...ให้ฉันเถอะ]

    ลำดับตอนที่ #1 : เจ้าหมาป่าหิมะอารมณ์เสีย

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 53




                     - 1 -

    “ฮิๆๆๆ” เสียงหวานใสราวระฆังแก้วดังขึ้นเป็นระรอก ณ บริเวณหนึ่งของโรงเลี้ยงสัตว์แห่ง Samjarn School  เหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงเพศเมียพากันไปรวมตัวบริเวณนั้นและพูดคุยกันอย่างสนิทสนม  นับเป็นอาหารตาชั้นยอดสำหรับบรรดาสัตว์เลี้ยงหนุ่มๆที่พากันนอนอืดอยู่ในอาณาเขตของตน  

    จะออกไปเดินเล่นตามตึกอาคารในโรงเรียนก็ไม่ได้เพราะช่วงนี้มีคนภายนอกผลุบเข้าผลุบออกเป็นว่าเล่น  ทางโรงเรียนเกรงว่าหากให้คนภายนอกเห็นสัตว์เลี้ยงประมาณว่า... มีร่างหุ้มด้วยเปลวเพลิง  หมาป่าตัวบะเอ้ก  ตุ๊กตากระต่ายยัดนุ่นพูดได้ หรือเจ้าสัตว์หน้าขนจู่ๆก็กลายเป็นคนขึ้นมามันคงดูไม่ดีนัก

                    จะจับกลุ่มคุยจ้อกันเหมือนที่พวกสาวๆทำ มันก็ดูเสียเชิงชายไปหน่อย  หนำซ้ำน้อยคนนักที่จะมีคู่หูคู่ซี้เอาไว้คุยเล่นแก้เซ็ง   ส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกคู่ซี้ม่องเท่งไว้กัดกันเล่นยามว่างเท่านั้น  พอจะสู้กันขึ้นมาก็ถูกขู่ว่าหากมีเรื่องกันระหว่างที่ยังมีบุคคลภายนอกเข้าออกโรงเรียนอยู่  ทางโรงเรียนจะไม่ซ่อมอะไรก็ตามที่บุบสลายจะการต่อสู้รวมถึงรักษาบาดแผลให้  ดังนั้นทางที่ดีที่สุดสำหรับพวกเพศผู้ทั้งหลายคือ  ตัวใครตัวมัน  ใครใคร่นอน  นอน  ใครใคร่จ้องสาวๆ จ้อง   แต่พวกหนุ่มๆลืมไปว่า ทางโรงเรียนแค่ไม่อนุญาตให้เข้าไปบริเวณอาคารเรียน  แต่ถ้าแค่เดินเล่นในสวนใกล้ๆโรงสัตว์เลี้ยง ...มันก็ได้อยู่หรอก

    สวนเล็กนอกโรงเลี้ยงสัตว์

    “อ่า...วันนี้พวกพี่สาวดูอารมณ์ดีกันเป็นพิเศษนะฮับ มิราจ”

    “แน่สิ  สัปดาห์หน้าจะมีงานเลี้ยงเต้นรำกันแล้วนี่  คงมีเรื่องมาให้เม้าท์แตกเยอะแยะจนน่ารำคาญ  คุยจ้อกันไม่หยุดตั้งแต่เช้า  ขนาดออกมาข้างนอก ข้ายังได้ยินเสียงแม่พวกนั้นอยู่เลย”มิราจ...หมาป่าหิมะหนุ่มตอบคำถามเด็กชายวัย 10 ปี ที่ขี่หลังตนพลางทำหน้ามู่ทู่    คนถามเบ้ปากเล็กน้อยเอี้ยวตัวไปกระซิบแมวดำที่เกาะบ่าในระดับเสียงที่ได้ยินกัน 2 คน

    “คุณไคลน์  ผมทำอะไรผิดรึเปล่า  ทำไมมิราจถึงอารมณ์เสียแบบนั้น”ไคลน์หาววอด ดวงตาสีเทาเหลือบเห็นหมาป่าหนุ่มสีน้ำตาลแดงที่แอบอยู่หลังพุ่มไม้ทางหางตา  หมาป่าตนนั้นกำลังมองมาทางพวกเขา...ไม่สิ มองมาทางเจ้าหมาป่าหิมะที่กำลังอารมณ์กรุ่นๆอยู่ต่างหาก   เจ้าแมวเหมียวกระโดดพลิ้วลงจากไหล่เล็ก  ทันทีที่เท้าทั้ง 4 แตะพื้นดิน  ร่างของไคลน์ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นร่างชายหนุ่มชาวมนุษย์   เขาแสยะยิ้มมุมปาก  คว้าตัวเด็กหนุ่มอุ้มขึ้นบ่า

    “เอาล่ะอเล็กซ์  ฉันว่าเราไปเดินเล่นอีกรอบกันดีกว่า  อยู่แถวนี้เดี๋ยวจะพาลโดนฆ่าฐานเป็นก้างขวางคอเอา”ว่าจบก็ขยิบตาเป็นสัญญาณให้กับหมาป่าหนุ่มผู้กำลังรอคอยโอกาสประมาณว่า ฉันเปิดโอกาสให้  เคลียร์กันให้จบแล้วกัน

    “เอ๋  ก้างขวาง อุ๊บ...  อื้อๆๆ”

     “อ้าว  เฮ้ย  พวกนายจะไปไหนกันน่ะ  ข้าไปด้วยสิ”

     “โทษทีมิราจ  ผมจะพาเจ้าลูกเจี๊ยบจำไมนี่ไปเดินเล่นสักหน่อย  เดินเล่นแถวๆ...ทะเลสาบ   คุณคงไม่อยากเล่นน้ำตอนนี้ใช่ไหม  งั้นผมไปกับอเล็กซ์แล้วกัน”ไคลน์เอามือปิดปากอเล็กซ์ก่อนที่เจ้าสิ่งมีชีวิตขี้สงสัยจะพูดอะไรๆออกไปแล้วเผ่นแน่บออกจากสถานที่แห่งนั้น  ทิ้งให้ 2 หมาป่าคุยกันเอาเอง

     

    “อื้อๆๆ   อื้อๆๆๆๆ!!!  ฮึ่มมม”

    “โอ๊ย! กัดฉันทำไมอเล็กซ์”ไคลน์สะบัดมือเร่าๆ รีบวางร่างคนกัดลงกับพื้นในทันใด  ดวงตาสีเทามองหน้าบึ้งๆของคนกัดอย่างงงๆ  และเมื่อสบกับดวงตากลมสีท้องฟ้ายามราตรีที่มองมาเขียวปั๊ดก็นึกถึงสาเหตุของการเจ็บตัวในครั้งนี้ออก

    “แหะๆ  ขอโทษที  ฉันเผลอเอามือปิดจมูกนายสินะ”

    “ฮับ” อเล็กซ์ตอบพลางสูดหายใจเข้าออกลึกๆหลายรอบเพื่อตักตวงออกซิเจนให้ได้มากที่สุดราวกับว่าออกซิเจนกำลังจะหมดภายใน 2- 3 นาทีนี้ ต้องรีบตุนให้ได้มากที่สุด!   ดวงหน้าเล็กแดงระเรื่องด้วยแรงหอบ  เส้นผมสีน้ำตาลเข้มเปลือกไม้ลู่แนบแก้มด้วยแรงยึดจากหยาดเหงื่อ  ไคลน์ยิ้มเอ็นดู  ใช้แขนเสื้อของตนเช็ดเหงื่อให้เจ้าตัวน้อยตรงหน้า

    “วิ่งก็ไม่ได้วิ่ง  ทำไมเหงื่อแตกซะแล้วล่ะ หืมม์?”

    “คุณไคลน์ลองถูกอุดจมูกอุดปากสัก 2-3 นาทีดูไหมล่ะฮับ”เด็กน้อยค้อนคนตัวโตควับ  มือเล็กกอดตุ๊กเต่าสีเขียวที่ตนเรียกว่า คุณซุซุกิ แน่น   ซุซุกิเป็นตุ๊กตาสุดรักสุดหวงของคาร์เรลซึ่งเป็นเจ้านายของอเล็กซ์  คาร์เรลมอบมันให้อเล็กซ์ด้วยเหตผลบางประการ  ซึ่งเจ้าตัวก็มักจะพกซุซุกิไปไหนมาไหนตลอด  และเพราะเหตุนี้ จึงไม่ค่อยมีใครเห็นอเล็กซ์ในร่างลูกเจี๊ยบสีเหลืองทองตัวเล็กนัก เนื่องจากเจ้าซุซุกิมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่เจ้าลูกเจี๊ยบจะลากไปไหนมาไหนได้

    “ขอโทษๆ”แมวดำร่างชายหนุ่มฉีกยิ้มแห้งๆ  ไคลน์เป็นชายร่างสูงโปร่ง  ดวงตาสีนิลดูขี้เล่นเส้นผมสีเดียวกันยาวระต้นคอ ถามว่า หล่อไหม... เอาง่ายๆแล้วกัน  รูปร่างหน้าตาของทั้งอเล็กซ์และไคลน์เป็นที่ต้องการของบรรดาแม่ยกในตลาดมืดอย่างยิ่ง  ครั้งหนึ่ง เจ้านายของมิราจที่เป็นนักล้วงมือเซียนเคยลองถ่ายรูปทั้งคู่ไปเสนอราคาประมูลในตลาดมืด  พบว่าราคาค่าตัวของทั้งคู่พุ่งกระฉูดจนน่าตกใจ!

    “ฮับ  ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจผมก้ยกโทษให้  แล้ว... ทำไมต้องหนีมิราจมาด้วยฮับ”

    “หนีที่ไหน  ฉันจะพานายมาทะเลสาบต่างหาก แต่มิราจไม่ชอบน้ำ”

    “คุณโกหก  ผมเห็นนะคุณโทโบยจ้องมิราจตั้งแต่ตอนที่เราออกมานอกโรงเลี้ยงสัตว์”

    “หืมม์  นายนี่เห็นซื่อๆก็ฉลาดเหมือนกันนี่นา อเล็กซ์”

    “แล้วทำไมคุณปล่อยให้มิราจอยู่คุณโทโทย  ถ้าคุณโทโบยทำร้ายมิราจล่ะฮับ””

    “...  นายรู้เหตุการณ์เกือบ 100% แต่นายกลับเดาเหตุการณ์ไม่ถูกเนี่ยนะ  ฮะๆๆ”

    “คุณไคลน์~

    “ฮะๆๆๆ  ก็ได้ๆ  อย่าทำแก้มป่องสิ  เอาเป็นว่า มิราจไม่ถูกทำร้ายหรอก เขาแค่งอน  ส่วนเหตผล...  เอาไว้นายโตก่อนแล้วฉันจะบอก”ว่าจบก็ขยี้ผมคนตรงหน้าอย่างถือวิสาสะ  เรียกสายตาเขียวปั๊ดมาจากผู้ถูกกระทำได้อีกโข

    “ผมโตแล้วนะฮับ!

    “ยัง  ยังเด็กอยู่”

    “ผมไม่ใช่เด็กนะ  คาร์เรลบอกว่าผมโตแล้ว”

    “ยัง  เด็กน้อย  นายยังไม่โต  นายยังเป็นเจ้าลูกเจี๊ยบจำไมตัวกระเปี๊ยกอยู่เลย”

    “คุณไคลน์~!!!” เจ้าลูกเจี๊ยบจำไมตัวกระเปี๊ยกตะโกนก้อง  ก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่คนตัวโตจนกลิ้งขลุกๆไปทั้งคู่   เสียงหัวเราะสดใสและนุ่มลึกดังเคล้ากันไปทั่วสวนเล็ก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×