My father My hero
เรื่องของลูกซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำความหวังหล่นหายไป และคนที่นำความหวังของเขากลับมาก็คือ....
ผู้เข้าชมรวม
303
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
My father my hero.
เหงื่อของผมไหลชุ่มแผ่นหลัง ทั้งๆที่อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศยังเป่าอยู่ ผมทุบตะเจ้านายดังปัง หน้าของผมแดงเพราะเลือดที่สูบฉีดเพราะความโกรธ ผิดกับชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่กำลังนั่งไขว่ห้างและมองดูผมด้วยสายตาเย้ยหยัน
“คุณทำกับผมอย่างนี้ไม่ได้นะ มันเป็นเหตุสุวิสัย” ผมตะโกนใส่เจ้านายผม แน่นอนเขาคือชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมนั่นแหละ
“ถึงคุณจะบอกว่าเป็นเหตุสุวิสัย แต่การที่คุณทำลายสินค้าของบริษัทกับการทำร้ายลูกค้านี่ เขาเรียกว่าเหตุสุวิสัยเหรอครับ คุณเอกราช” เจ้านายของผมพูด สายตาที่เขามองมายังผมไม่ต่างอะไรกับสายตาที่มองหมาข้างถนนตัวหนึ่ง
“ถ้าเขาไม่โวยวาย และเข้ามาทำร้ายผมก่อนเรื่องคงไม่เป็นอย่างนี้” ผมตะโกนอย่างเหลืออด
“ถึงยังไงทางบริษัทก็ยังยืนยันคำเดิมคือไล่คุณออก ส่วนเงินชดเชยนั่นคุณไม่ต้องรับนะ ผมหักเป็นค่าเสียหายเรียบร้อยแล้ว ผมไม่ให้คุณเป็นหนี้บริษัทก็บุญแค่ไหนแล้ว” เจ้านายผมเดินมาหาผม “แล้วก็อีกอย่างพนักงานกระจอกกระจอกอย่างคุณนะ จะไล่ออกไปซักคนทางเราก็ไม่เสียดายอยู่แล้ว” เขาใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าอกผม
ในพริบตานั้นเอง กำปั้นของผมก็ประทับเข้ากับหน้าของเจ้านาย เขาล้มลง เอามือกุมใบหน้าไว้ ผมเดินออกไปนอกห้องแล้วปิดประตูอย่างแรงจนคนรอบข้างหันมามอง
ในขณะที่ผมกำลังจะขึ้นลิฟต์ เพื่อลงไปข้างล่างพร้อมกับของที่เคยอยู่บนโต๊ะทำงานของผม ได้มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาหาผม
“เฮ้ยเอกเป็นไงบ้าง ไอ้แก่นั่นมันว่ายังไง”วิทย์เพื่อนของผมที่คบกันมาตั้งแต่เด็กนั่นเองมันถามผมแต่พอมองเห็นกล่องข้าวของมันก็รู้ทันที
“ข้าโดนไล่ออก”ผมตอบเสียงเอื่อย ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟต์ไป
“เฮ้ย เดี๋ยวๆ” วิทย์หยิบธนบัตรใบละหนึ่งพันบาทสามฉบับให้ผม “ข้าช่วยเอ็งได้แค่นี้ว่ะ โชคดี”
“ขอบใจมาก เอ็งเป็นเพื่อนที่ดีของข้าเสมอ” ผมรับธนบัตรนั้นมาและกดลิฟต์ลงไปชั้นล่าง
หลังจากออกมาจากบริษัท ผมขับรถเก่าๆของผมไปตามถนนพลางหาป้ายสมัครงานไปเรื่อยๆระหว่างทาง แต่ไม่เจอเลยตลอดทาง จนในที่สุดรถของผมก็มาหยุดที่หน้าบ้าน
บ้านของผมเป็นตึกแถวที่มีบ้านคนอื่นอยู่ติดเป็นผนังเดียวกัน
ผมขับรถเก่าๆของผมไปจอดไว้ที่ถนนข้างบ้านและเดินเข้าบ้านไป
“อ้าว ไอ้เอกทำไมกลับมาเร็วจังวะ” มีชายชราคนหนึ่งเดินมาถามผม พ่อของผมเองแหล่ะ
“เอ่อคือ” ผมอ้ำอึ้งไม่กล้าตอบเพราะกลัวพ่อจะเสียใจ
“เอ็งโดนไล่ออกใช่มั๊ย?”พ่อถามผมราวกับอ่านใจผมออก
“ครับ” ผมตอบสั้นๆแล้วเดินเข้าไปหาพ่อ “พ่อ ผมขอโทษ”
พ่อตบไหล่ผมเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอกลูก งานน่ะหาใหม่ได้ แต่ถ้าเกิด ความหวัง ของลูกหมดไปแล้ว จะเรียกคืนมา มันไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ” พ่อปลอบใจผมแล้วเดินไปนั่งจิบน้ำชา ส่วนผมเดินขึ้นห้องไป
ผมทิ้งตัวลงบนเตียงของผม แรงสะเทือนส่งไปถึงชั้นวางของข้างๆเตียง มีบางอย่างหล่นลงมาบนเตียง
ผมหยิบมันขึ้นมาดู มันเป็นตุ๊กตาไม้ เป็นของเล่นชิ้นแรก ไม่มีใครซื้อให้ พ่อเป็นคนทำให้ผมเองกับมือ
“ความหวังงั้นรึ จริงสินะ สิ่งนี้ มันเคยหายไปตอนเด็กๆ”ใช่แล้ว อดีตของของเล่นชิ้นนี้ กับคนที่พาความหวังของเรากลับมา
ผมนึกย้อนไปในสมัยที่ผมยังเด็ก
ย้อนไปประมาณ 20 ปี ซอยเดียวกับปัจจุบัน
“ตายซะ เจ้าปีศาจร้าย!!” ผมกระโดดถีบแผ่นไม้ที่โมเมเอาว่าเป็นปีศาจ จนไม้นั้นล้มลง ผมหัวเราะอย่างมีความสุข แต่ต้องรีบกลับบ้าน การ์ตูนเรื่องโปรดจะมาแล้ว
ครอบครัวของผมในสมัยนั้นฐานะปานกลางพอกินพอใช้ ฟุ่มเฟือยไม่ได้ ที่บ้านจึงไม่มีโทรทัศน์ต้องไปดูบ้านเพื่อน แต่ทุกครั้งที่ไปดูต้องขอพ่อก่อนทุกครั้ง
“พ่อครับ ไปดูการ์ตูนบ้านเพื่อนนะครับ” ผมขออนุญาตพ่อ
“ได้ๆ ไปสิ แต่อย่ากลับเย็นนักล่ะ” พ่อพูดแล้วง่วนกับงานในมือต่อ พ่อของผมรับจ้างแกะสลักและขนของ ส่งของ สารพัด
ผมเดินไปที่บ้านของเพื่อนที่หน้าปากซอยซึ่งเป็นร้านขายของชำ เพื่อนคนนั้นก็คือเจ้าวิทย์นั่นเอง
“พ่อวิทย์สวัสดีครับ แม่วิทย์สวัสดีครับ” ผมสวัสดีพ่อแม่ของวิทย์ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเจ้าวิทย์
“อ้าว เอก มาพอดีเลยเร็วๆการ์ตูนจะมาแล้ว” วิทย์เรียกผมเข้าไปนั่งดูด้วย
วันนี้การ์ตูนสนุกกว่าทุกวัน เย็นวันนั้นผมจึงกลับบ้านด้วยท่าทีร่าเริง
“อ้า เอก กลับมาแล้วหรือลูก เอ้า มากินข้าวเร็ว” ทันทีที่เห็นหน้าผม พ่อก็เรียกผมไปกินข้าวทันที
หลังอาหารเย็น พ่อกับผมคุยกันถึงเรื่องแม่ที่ตายไป
“เอก ลูกคิดถึงแม่ไหม ?” พ่อถามผม
“คิดถึงครับ แต่ว่า ผมก็ยังมีพ่ออยู่นี่นา” ผมกอดพ่อ
“หึๆ ปากหวานจริงนะเรา” พ่อลูบหัวผม “อ้าว สองทุ่มแล้วนี่ ไปนอนได้แล้ว” พ่อดูนาฬิกาก่อนไล่ผมไปนอน
เช้าวันต่อมาผมไปโรงเรียนตามปกติ แต่วันนี้เพื่อนๆไม่ออกมาเล่นที่สนามเด็กเล่นกัน
ผมเดินขึ้นห้องเรียนที่อยู่ชั้นสองอย่างรวดเร็ว และที่ห้องเรียนนี่เอง ทำให้ผมรู้ว่าทำไมพวกเพื่อนๆไม่ออกไปเล่น พวกเขากำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่
ผมเดินแทรกผ่านเพื่อนๆไทยมุงเข้าไป คนที่อยู่กลางวงล้อมนั่นคือ เจ้าเจตน์ เพื่อนของผมอีกคนหนึ่ง บ้านของเขาค่อนข้างมีฐานะจึงมีของเล่นใหม่ๆมาอวดเพื่อนเป็นประจำ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง ของเล่นที่เจตน์นำมาคือ ตุ๊กตาตัวเอกในการ์ตูนที่ผมไปดูบ้านวิทย์เป็นประจำ
“เฮ้ย เจตน์ ขอเล่นหน่อย” ผมขอเจตน์
“เอาสิแต่เล่นเบาๆนะ”เจตน์ยื่นตุ๊กตามาให้
ผมรับตุ๊กตามา มือของผมสั่นระริก ไม่น่าเชื่อว่าวีรบุรุษในการ์ตูนที่ผมชื่นชอบจะมาอยู่ในมือของผม แต่แล้วเวลาแห่งความสุขก็ถูกขัดจังหวะโดยเสียงระฆัง
“เอก เอาคืนมาได้แล้ว ระฆังดังแล้ว”
“ก็ได้”ผมส่งตุ๊กตาคืนเจตน์ด้วยความเสียดาย
วันนั้นทั้งวันผมคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องของเล่นจนกระทั่งเลิกเรียน
ผมรีบวิ่งกลับบ้านด้วยความเร็วสูง ต้องกลับไปขอพ่อก่อนที่พ่อจะไปทำงาน
เมื่อกลับไปถึงบ้านผมรีบขอพ่อทันที
“พ่อครับพ่อครับ”ผมวิ่งเข้าไปกอดพ่อ
“อ้าวเจ้าเอก”พ่อแกะผมออกจากตัว “รีบร้อนอะไรมาเนี่ย”
“พ่อครับ พ่อรักผมรึเปล่า”ผมถามพ่อ
“รักสิ เอ๊ะจู่ๆทำไมถามล่ะลูก”พ่อสงสัย
“พ่อ ซื้อของเล่นให้ผมชิ้นหนึ่งสิ” ผมเริ่มอ้อน
“จะเอาอะไรล่ะ”พ่อถาม
“มานี่สิ”
ผมดึงตัวพ่อผมไปที่ร้านขายของเล่นที่อยู่อีกซอยหนึ่ง
“นี่พ่อตัวนี้” ผมชี้ไปที่โปสเตอร์รูปของเล่นชิ้นนั้น พ่อเงียบไปชั่วขณะ
“ลูก พ่อรักลูกนะ แต่ว่า พ่อไม่มีเงินมากขนาดนี้”พ่อหันมาทางผมลูบหัวอย่างแผ่วเบา
ผมจ้องหน้าพ่อสักพัก น้ำอุ่นๆไหลมาจากตา ผมปล่อยโฮออกมาตรงนั้น
“เอกพ่อรู้ว่าลูกอยากได้แต่ พ่อไม่มีเงิน” พ่ออธิบายแล้วพาผมกลับบ้าน
ตั้งแต่วันนั้น ผมแทบไม่ได้คุยกับพ่อเลย
จนกระทั่งวันเกิดของผม วันนั้น พ่อกลับบ้านดึกมาก ผมไม่รู้ว่าพ่อกลับมาเมื่อไหร่เพราะผมหลับไปก่อนแล้ว
ในคืนนั้นผมฝันว่าพ่อซื้อของเล่นชิ้นนั้นให้ ผมดีใจมาก แต่พอผมลืมตาตื่นขึ้นมา ของเล่นชิ้นนั้นก็หายไปเสียแล้ว
ในขณะที่ผมลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อจะไปอาบน้ำนั้น แขนของผมสะดุดอะไรบางอย่าง
กล่องกระดาษกล่องหนึ่ง.........
ผมไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน แต่เมื่อผมเปิดกล่อง ก็มีอะไรบางอย่างหล่นออกมาจากกล่อง
ตุ๊กตาไม้ตัวหนึ่ง รูปร่างเหมือนกับของเล่นที่ผมอยากได้ พ่อทำมันขึ้นมาให้ผม
ผมรีบวิ่งลงไปข้างล่างก่อนที่พ่อจะไปทำงาน
เมื่อลงมาถึงข้างล่าง พ่อหันมาทางผม เราจ้องหน้ากันอยู่นาน.....
ผมวิ่งเข้าไปกอดพ่อ ใช่แล้ว พ่อ คนที่นำความหวังของผมกลับมา...
น้ำอุ่นไหลรินออกมาจากตาของผม คนที่เคยนำความหวงของผมซึ่งมันเคยหายไปกลับมา ตอนนี้ผมจะไม่ยอมเสีย “ความหวัง” ไปอีกแล้ว
ขอบคุณครับ.......พ่อ........
จบบริบูรณ์
ผลงานอื่นๆ ของ สุวดีเมธา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สุวดีเมธา
ความคิดเห็น