ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] .....MAMA Plan.....Kris x Luhan

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 10

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 55


     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

     

    “คุณอี้ฟานคะ  คุณหมอมาค่ะ”  เอ่อะ...ผมกับ...พี่อู๋ฟาน  เปลี่ยนมาเรียกแบบนี้ล่ะกันเนอะ  เรากำลังจะ...อื้อ  นั่นแหละ  กำลังจะจูบกันอยู่แล้วววววว  แต่ดันมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน  พวกเราก็เลยชะงักกันไปทั้งคู่แต่ก็ไม่ได้ถอยห่างออกจากกันหรอกนะ

     

    “มีคนมา”  ถึงผมจะบอกไปอย่างนั้นแล้วพี่เค้าก็ยังไม่ยอมเอาหน้าออกห่างจากผมอยู่ดี  สีหน้าก็ไม่แม้แต่จะตื่นตระหนกอะไรเลยด้วยซ้ำ

     

    “ก็ให้เค้ารอไปก่อน” 

     

    “แต่นั่นคุณหมอนะ”

     

    “ถึงเป็นหมอก็ต้องรอ”  พี่อู๋ฟานบอกเสร็จก็เลื่อนหน้าเข้ามาอีกครั้ง  ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดีไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว...ก็ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นละกัน

     

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

     

    “ป้าจะเปิดเข้าไปแล้วนะคะ”  ได้ยินเท่านั้นแหละผมก็พยายามจะดันตัวพี่เค้าออกไป  แต่ดูจากขนาดตัวแล้วก็คงจะรู้ว่าไม่สำเร็จหรอก  เอาไงดีวะเนี่ย??  ถ้ายังจะอยู่บนเตียงกันด้วยท่านี้ใครเข้ามาเห็นคงจะไม่ดีแน่ 

     

    “ไว้ค่อยต่อนะ..”  ผมเลยตัดสินใจบอกออกไปก่อนจะยื่นหน้าไปจุ๊บลงบนริมฝีปากอีกฝ่ายเบาๆ  พี่เค้าก็เลยยอมปล่อยผมให้ออกมายืนทำตัวเรียบร้อยเสมือนมาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่อยู่ข้างเตียงซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณป้าคนนั้นกับคุณหมอเข้ามาพอดี  เฮ้อ  โชคดีไป...ผมถอนหายใจโล่งอก  ส่วนคนที่เพิ่งล้มตัวนอนนั่นจะยิ้มอะไรนักหนา  คนป่วยอะไรนอนยิ้มเบิกบานเชียว  บ้ารึเปล่า??   ยิ่งเห็นพี่เค้ายิ้มแบบนั้นผมยิ่งโคตรจะเขินเลย  ไม่รู้กล้าทำแบบนั้นไปได้ไง  แล้วไหนจะก่อนหน้านี้ที่เกือบจะจูบกันอีก  ไม่ไหวๆ  น่าอายจริงๆ  ผมปล่อยตัวปล่อยใจมากไปแล้วมั้งเนี่ย

     

    “ขอโทษนะคะคุณหนูลู่หาน  ป้าก็ไม่อยากรบกวนแต่คุณหมอท่านรีบน่ะค่ะ  ต้องไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลต่อ”  ป้าแกเข้ามาถึงก็รีบขอโทษขอโพยผมใหญ่แล้วยังเหล่ไปที่คนตัวโตที่นอนยิ้มให้หมอตรวจอยู่บนเตียงอีก 

     

    “ครับ  ไม่เป็นไรครับ”  แล้วทำไมผมไม่ปฏิเสธไปเนี่ยว่าไม่ได้รบกวนอะไรเล้ยยยยย  ผมไม่ได้กำลังจะทำอะไรกันซักหน่อย...เนอะ

     

    “ดูสดชื่นขึ้นนะ   ให้น้ำเกลืออีกขวด  นอนหลับให้เพียงพออีกซักคืนก็คงจะปกติแล้วล่ะ   หายไวแบบนี้สงสัยได้กำลังใจดี”  คุณหมอแว่นอายุอานามน่าจะรุ่นเดียวกับคนป่วยนั่นแหละบอกผมแล้วหันหน้ามายิ้มให้

     

    “เป็นทั้งกำลังใจทั้งต้นเหตุให้ป่วยเลยล่ะ”

     

    “อยากมีแฟนเด็กก็แบบนี้แหละ...”  คุณหมอบอกแล้วเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋า  อะไรใครเด็กหมอ  ถึงเป็นหมอผมก็กล้าเหวี่ยงใส่นะขอบอก

     

    “ยังไงก็อย่าหักโหมทำงานมากเกินไปอีกนะ   ถ้ามีเรื่องเครียดๆก็ควรหาอะไรทำผ่อนคลายบ้าง”

     

    “ครับหมอ”

     

    “โอเค  เรียบร้อยแล้ว  เดี๋ยวหมอจะฝากพวกวิตามินกับน้ำเกลืออีกขวดไว้ที่ป้าซูนะครับ  งั้นหมอขอตัวนะ  ไม่รบกวนแล้ว”  คุณหมอบอกยิ้มๆกับพี่อู๋ฟานเหมือนจะเข้าใจกันสองคนแล้วก็ขอตัวออกไปพร้อมๆกับคุณป้า  พอประตูปิดลงผมก็ถูกดึงลงไปนั่งอยู่บนเตียงเหมือนเดิมกับก่อนหน้านั้น

     

    “เออพี่  ม๊าหั่นแอปเปิ้ลมาให้”  ผมรู้ว่าจะถูกทำอะไรเลยรีบแทรกพูดขึ้นมาก่อน  ผมก้มลงคว้ากระเป๋าเป้แล้วเอากล่องที่ใส่แอปเปิ้ลออกมา

     

    “น่ารักมั้ย??”  ผมหยิบแอปเปิ้ลรูปกระต่ายที่ม๊าบรรจงหั่นขึ้นมาชูให้พี่เค้าดู

     

    “อื้อ  น่ารัก”

     

    “อ่ะงั้นกินเลย”  ผมยื่นแอปเปิ้ลทั้งกล่องไปให้แต่พี่เค้าก็ไม่ยอมรับไป

     

    “ความจำสั้นรึเปล่า  ก่อนคุณหมอจะเข้ามาเราทำอะไรค้างกันไว้อยู่นะ  จำไม่ได้หรอ”

     

    “กินแอปเปิ้ลกันเถอะพี่”  พอพี่เค้าจะยื่นหน้าเข้ามาหาผมเลยยัดแอปเปิ้ลชิ้นที่ถืออยู่ยัดเข้าปากพี่เค้าไปซะเลย  ฮ่าฮ่า  พอทำท่าจะเคี้ยวจนหมดผมก็ยัดใส่เข้าไปอีก

     

    “แอปเปิ้ลอร่อยใช่มั้ย  ถ้าไม่รีบกินมันจะดำแล้วไม่อร่อยนะ”  ผมพูดไปยัดแอปเปิ้ลใส่ปากพี่เค้าไปเรื่อยๆ  พี่เค้าส่งสายตาคาดโทษมาให้ผมซึ่งผมพอจะเดาได้ว่า...แอปเปิ้ลหมดเมื่อไหร่ล่ะโดนแน่

     

    “หมดซักที”  พอเคี้ยวชิ้นสุดท้ายกลืนลงคอไปเรียบร้อยพี่เค้าก็พูดขึ้น  เอาล่ะ  แล้วทีนี้ผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย

     

    “เอาน้ำมั้ย”

     

    “ไม่เอา”

     

    “ผมไปเอาวิตามินให้กินหน่อยดีกว่า  ดูหน้าพี่ซีดๆนะ”

     

    “พี่ว่าพี่ได้รับวิตามินจากแอปเปิ้ลของลู่หานมากเกินไปแล้วด้วยซ้ำ”

     

    “งั้นควรกินน้ำละลายวิตามินหน่อยนะ”  หลักการอะไรของผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  ขอแค่ให้ตอนนี้รอดเงื้อมมือไอ้คนที่ตั้งหน้าตั้งตาจะลวนลามผมด้วยปากไปก่อนก็พอ

     

    “ใช้น้ำเกลือแทนก็ได้มั้ง”  พี่เค้าบอกแล้วยกสายน้ำเกลือให้ดู

     

    “เอ่อ....งั้น...”

     

    “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว...”  จบประโยคนั้นผมก็ถูกดันจนหลังติดกับหัวเตียงตามมาด้วยอีกคนที่พลิกตัวเอาแขนมาคร่อมผมไว้ แล้วแนบริมฝีปากทาบทับผมทันที  ผมตกใจตาเบิกกว้างทำอะไรไม่ถูก  มือไม้ก็ไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหนเลยจับชายเสื้อยืดของตัวเองบิดจนยับไปหมด  มือหนาเลื่อนมาจับที่ต้นคอผมเพื่อชักนำให้หันไปตามองศาที่ต้องการ  ริมฝีปากผมถูกดูดดึงอย่างอ่อนโยนเหมือนพี่เค้าค่อยๆชิมขนมหวานทีละนิดๆจนผมเริ่มคล้อยตาม  มือที่บิดชายเสื้ออยู่เริ่มคลายออก  ตาที่เบิกกว้างอยู่ก็ปิดลง  มือที่จับอยู่ที่ต้นคอผมเลื่อนลงมาจับมือผมให้คล้องคออีกฝ่ายก่อนที่พี่เค้าจะขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นจนอกเราแทบจะติดกันอยู่แล้ว  เพียงแค่ถูกอีกฝ่ายขบริมฝีปากเบาๆผมก็เปิดโอกาสให้เค้าเข้ามาสร้างความหวาบหวามภายในอย่างง่ายดาย  รสชาติแอปเปิ้ลหวานซ่านไปทั่วโพรงปากผม  พี่เค้าจูบเก่งจนผมรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งตัวทำเอาผมเผลอตัวขยุ้มกลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่ายแล้วรั้งคอพี่เค้าให้กดจูบลึกลงมาอีก....

     

    “ปากแดงหมดเลย”  พี่อู๋ฟานพูดขึ้นหลังจากละริมฝีปากออกมาแต่ใบหน้าของเราก็ยังรักษาระยะความใกล้ชิดด้วยการเอาหน้าผากมาชนกัน  ส่วนมือผมก้ยังคล้องอยู่ที่คอพี่เค้าเหมือนเดิม  สรุปคืออยู่ท่าเดิมนั่นแหละ><

     

    “เพราะใครล่ะ”  พอผมพูดพี่เค้าก็จุ๊บลงบนริมฝีปากผมเบาๆ

     

    “ใครกันนะกล้าทำลู่หานได้”

     

    “คนแถวนี้แหละ”  ผมพูบจบก็ถูกจุ๊บอีกที  แล้วก็อีกที...อีกที...อีกที  ผมว่าทำแบบนี้มันน่าอายกว่าที่เราจูบกันเมื่อกี้อีกนะ

     

    “พอแล้วพี่”

     

    “พอก็พอ”  พูดเสร็จก็กดริมฝีปากลงบนแก้มผมแรงๆอีกทีก่อนจะยอมปล่อยผมเป็นอิสระอีกครั้ง  พี่อู๋ฟานก็พลิกตัวกลับไปนอนพิงหัวเตียงตามเดิม

     

    “น้ำเกลือใกล้หมดแล้ว  ผมไปตามคุณป้ามาเปลี่ยนให้ดีกว่า”

     

    “ไม่เอาอ่ะ  ไม่อยากให้ไปเลย”  พี่อู๋ฟานจับมือผมไว้แล้วทำเสียงง้องแง้งเหมือนเด็กซึ่งไม่ได้เข้ากับตัวโตๆของตัวเองเลย

     

    “ไปแป๊บเดียวเอง  สัญญาว่าจะรีบกลับมา”

     

    “ไม่เอาอ่ะ  สัญญาว่าจะอยู่เฝ้าพี่ดีกว่า”  พี่เค้าบอกไม่มองหน้าผมแต่เล่นอยู่กับมือเล็กๆผมนั่นแหละ

     

    “โห...มากไปเปล่าเนี่ย”

     

    “ไม่มากหรอก  อีก2วันพี่ต้องไปทำงานที่ฮ่องกงแล้วนะ  ไปตั้ง5วัน” 

     

    “ยังไม่ทันหายดีคิดเรื่องงานอีกแล้ว”  ผมทำหน้าหงุดหงิดใส่  ก็จริงนี่  ป่วยอยู่แท้ๆยังจะคิดเรื่องงานอีก  ให้มันได้แบบนี้สิ

     

    “โปรเจคใหญ่ทิ้งไม่ได้จริงๆ  แต่ไว้พี่จะซื้อของกลับมาฝาก  อยากได้อะไรรึเปล่าล่ะ”

     

    “ไม่ต้องเอาของมาล่อเลย  ไม่ใช่เด็กๆนะ”

     

    “รู้แล้วน่า  เด็กที่ไหนจะกล้าจูบตอบได้ขนาดนั้นกัน”  ไอ้บ้า....>///<

     

    “พูดมาก  ไปตามคุณป้าก่อนนะ”  ผมพูดเสียงนิ่งๆข่มอาการเขินของตัวเองแต่ผมว่าพี่เค้าคงรู้แหละถึงยอมปล่อยให้ผมไปตามคุณป้าง่ายๆ  คนอะไรไม่รู้อยู่ด้วยแล้วเหนื่อยจริงๆ  ทำหัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะตลอดเลย 

     

    “อื้อ  ก็ได้  รีบกลับมานะ  ไปนานพี่คิดถึง”  โอ๊ะ  เกิดอะไรขึ้นกับไอ้หน้าหล่อผู้เคร่งขรึมเนี่ย  ผมกลั้นยิ้มจนแก้มแทบแตกแล้วเดินออกจากห้องไป  ปล่อยให้คนบ้านอนยิ้มบนเตียงคนเดียวต่อไป  บ้าจริงๆคนอะไรก็ไม่รู้  นี่ผมคิดผิดคิดถูกเนี่ยที่รักคนแบบนี้ไปซะแล้ว

     

     

    หลังจากเปลี่ยนขวดน้ำเกลือไปเสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว  ไม่รู้ว่าคุณป้าแกจะรีบไปไหนทำเวลาเร็วมากๆ  ในที่สุดผมกับพี่อู๋ฟานก็อยู่ในห้องด้วยกันสองคนเหมือนเดิมอีกจนได้

     

     “อยู่เฝ้าไม่ได้หรอ”

     

    “ไม่ได้  ไม่ได้บอกม๊าไว้  เดี๋ยวม๊าเป็นห่วง”

     

    “โทรไปบอกม๊าสิ  อยู่กับพี่น่าห่วงที่ไหน”  โทรไป  ม๊าก็ให้อยู่เฝ้าดิ  เรื่องอะไรจะโทร  เพิ่งคบกันวันแรกจะให้มานอนค้างอ้างแรมด้วยกันแล้วหรอ  ถึงผมจะเด็กสมัยใหม่แต่ก็หัวโบราณนะ...เอ้ย  ว่าแต่ผมกับพี่อู๋ฟานยังไม่ได้คบซะหน่อย  ถึงจะจูบกันไปแล้วก็เหอะ-*-

     

    “ยังไงก็ไม่ได้  หมอบอกว่าพี่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะ”

     

    “ก็พักผ่อนไง  ไม่ได้คิดจะทำอะไรซักหน่อยหรือลู่หานคิด”  เฮ้ยยยยยยยย  ไม่ต้องมายิ้มเลย  ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละ

     

    “บ้า  ไม่ได้คิดเว้ย”

     

    “พูดจาให้มันเพราะๆหน่อย” แล้วจะมาดุผมทำไมเนี่ย 

     

    “ไม่ได้คิดคร้าบบบบบบ”  เห็นว่าป่วยอยู่นะถึงยอม:P

     

    “น่ารัก”  ชมผมแล้วก็หยิกแก้มผมอีก  อะไรจะเอ็นดูผมขนาดนั้นก็ไม่รู้

     

    “เดี๋ยวอีกสิบนาทีกลับแล้วนะ”  ผมดูนาฬิกาก็เห็นว่านี่ก็เกือบสี่โมงเย็นแล้วถ้าไม่กลับตอนนี้รถติดแย่เลย

     

    “จะไม่อยู่เฝ้าจริงๆหรอ”  พี่เค้าถาม  ผมก็พยักหน้าตอบกลับไป  ใจจริงแล้วผมก็อยากอยู่ด้วยนานๆเหมือนกันนั่นแหละ 

     

     “ใจร้าย  แฟนป่วยทั้งคน”

     

    “มั่วแล้ว  ผมไปเป็นแฟนพี่ตอนไหน”

     

    “ก็ตอนที่ลู่หานบอกรักพี่ไง”  ไอ้บ้าจะพูดให้เขินทำไมเนี่ย  แล้วก็นะแค่บอกรักจะมาโมเมจับผมเป็นแฟนเลยหรอ  บอกรักก็ส่วนบอกรัก  ขอคบก็ส่วนขอคบดิ 

     

    “ไม่เกี่ยวกันซะหน่อย” 

     

    “งั้นเป็นแฟนพี่มั้ยล่ะ”

     

    “โห...ขอเป็นแฟนทั้งสายน้ำเกลือเนี่ยนะ  โรแมนติดสุดๆอ่ะ”  ขอกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ  คิดว่าผมยอมให้ถึงเนื้อถึงตัวหน่อยแล้วผมจะยอมเป็นแฟนด้วยง่ายๆรึไง  ระดับผมต้องเล่นตัวหน่อย

     

    “งั้นเอาออกก่อนก็ได้” 

     

    “เฮ้ย  ไม่ต้องเลยๆ”  พี่อู๋ฟานทำท่าจะดึงสายน้ำเกลือออกจริงๆผมเลยรีบร้องออกไปแล้วตีมือคนป่วยด้วยซะเลย

     

    “อ้าวแล้วจะเอายังไง”  แน่ะ...มาทำเสียงหงุดหงิดใส่ผมอีก

     

    “ไม่เอายังไงทั้งนั้นแหละ”  งอนมันซะเลยดีมั้ยเนี่ย??

     

    “ตกลงจะไม่เป็นแฟนกันว่างั้น” 

     

    “ไม่ได้บอกอย่างนั้นซะหน่อย”

     

    “แล้วจะให้พี่ทำยังไงล่ะ”

     

    “ยังไงก็ได้”

     

    “อยากมีแฟนเด็กมันลำบากขนาดนี้เลยหรอเนี่ย”  พี่เค้าบ่นพึมพำแต่ก็ดังพอที่ผมจะได้ยินนั่นแหละ

     

    “งั้นก็ไม่ต้องมีมั้ยล่ะ”  พูดแบบนี้เดี๋ยวงอนจริงนะเฟร้ย

     

    “ใจร้ายกับพี่ตลอดอ่ะ  รักพี่จริงรึเปล่าเนี่ย”  อ้าว...ชักจะยังไง  ตอนนี้ใครงอนใครกันแน่เนี่ย  เหมือนพี่เค้าจะงอนผมนะ  แต่ถ้าคิดๆไปแล้วก็น่างอนอยู่อ่ะ  ผมเล่นตัวเยอะไปแน่เลย  พอๆเลิกๆ...เล่นตัวมากๆเดี๋ยวพี่เค้าหมดรักแล้วผมก็แย่ดิ

     

    “ถึงผมร้ายแต่ผมก็รักพี่นะ” คนที่กะจะงอนอย่างผมเลยต้องมาง้อเค้าแทนด้วยการบอกรักรอบสอง  อายปากเหมือนกันแต่ผมว่านี่เป็นวิธีง้อที่ได้ผลดีที่สุดนะ

     

    “รักพี่แล้วทำไมถึงไม่ยอมเป็นแฟนพี่ซักทีล่ะหืม??” 

     

    “เป็นคู่หมั้นแล้วยังไม่พออีกหรอ”

     

    “คู่หมั้นมันเรื่องของผู้ใหญ่  แต่เป็นแฟนมันเรื่องของเรานะ  มาเริ่มต้นเรื่องของเราใหม่ด้วยกันเถอะนะ คบกับพี่นะครับลู่หาน”

     

    “คบดีมั้ยน้า...”  กร๊ากกกกกก  คนหน้าหล่อของผมคิ้วขมวดตาดุเลย  สงสัยผมจะเล่นผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย

     

    “ฮ่าฮ่า  อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ  รักขนาดนี้แล้วไม่คบได้ไงล่ะ  เป็นแฟนกันนะครับพี่”

     

    “ครับ  ลู่หาน”  พี่อู๋ฟานตอบตกลงพร้อมรอยยิ้มมุมปากเท่บาดใจ  ทำเอาผมเขินจนอยากจะมุดลงไปในผ้าห่มแต่คิดว่าไม่ทำดีกว่า  เดี๋ยวจะไม่ได้กลับบ้านเอา

     

    “สิบนาทีพอดีงั้นผมกลับบ้านแล้วนะ”

     

    “โห  คบกันไม่ถึงหนึ่งนาทีทำร้ายจิตใจแฟนซะแล้ว”

     

    “ไว้พรุ่งนี้จะรีบมาหาแต่เช้าเลย”

     

    “ถ้าจะมาแต่เช้าก็ค้างด้วยกันซะที่นี่เลยเถอะนะ  ป้าซูจะต้องดีใจแน่ๆเลยถ้าลู่หานยอมค้างด้วย”

     

    “แล้วป้าซูเกี่ยวอะไรเนี่ย”

     

    “ลู่หานไม่รู้หรอกว่าคนทั้งบ้านนี้รอลู่หานมานานขนาดไหน”

     

    “พูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจ”

     

    “เรื่องมันยาว  ต้องเล่าให้ฟังทั้งคืนนนนนนนน”

     

    “มาไม้นี้ผมก็ไม่ค้างด้วยหรอก...ไว้จะมาฟังเรื่องยาวๆนี่วันหลังล่ะกัน  ต้องกลับแล้วจริงๆ”

     

    “เฮ้อ...ตามใจๆ  ป่ะ  เดี๋ยวพี่ให้คนไปส่ง”  พี่เค้าพยายามจะลุกมาส่งผมแต่ผมก็ดันไหล่ให้นอนลงไปเหมือนเดิม

     

    “ไม่ต้องหรอก  ผมกลับเองได้  แล้วพี่ก็ไม่ต้องลุกไปไหนด้วย  นอนเฉยๆไปเลย”

     

    “ลู่หาน  พี่ไม่ได้ป่วยหนักขนาดนั้นนะ” 

     

    “พอๆ  เลยมาห้านาทีแล้วเนี่ย  ไม่ได้กลับซักที  ไปจริงๆแล้วนะพี่  แล้วพรุ่งนี้เจอกัน”  ผมบอกแล้วยกมือขึ้นโบกบ๊ายบายเต็มที่แต่พี่อู๋ฟานก็ยังทำหน้ามุ่ยใส่ผมอยู่  ผมเลยยอมแพ้ก้มลงหอมแก้มคนหน้างอไปเบาๆทีนึงจึงได้เห็นรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าหล่อจนได้

     

    “กลับดีๆนะครับ  ถึงบ้านแล้วโทรหาด้วย”

     

    “อื้อ”  ผมพยักหน้าตอบกลับไป  กว่าจะเดินออกไปจากห้องได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเพราะผมเดินถอยหลังไป  ไม่ได้มีแค่พี่เค้าหรอกที่ไม่อยากให้ผมกลับ  ผมเองก็อยากจะอยู่ด้วยนานๆ  กว่าผมจะรู้ตัวว่ารักก็เสียเวลาไปตั้งเท่าไหร่แล้ว  แถมยังทำให้พี่เค้าเจ็บปวดอีก  ผมอยากจะชดเชยทั้งเวลาทั้งความรู้สึกของทั้งพี่อู๋ฟานและตัวผมเอง  รวมถึงตอบแทนการเสียสละของเซฮุนด้วย  ผมอยากจะขอโทษแต่มันก็คงจะไม่ได้ทำให้เซฮุนรู้สึกดีขึ้น  ผมรู้ว่าเซฮุนเป็นคนดี  ในอนาคตข้างหน้าเซฮุนจะต้องเจอคนที่ดีและรักเค้าอย่างแท้จริงแน่นอน  ผมเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น...

    .

    .

    .

    “อู๋ฟานเป็นยังไงบ้างหายดีรึยัง”  พอผมก้าวเท้าเข้ามาในห้องนั่งเล่นม๊าก็เอ่ยถามขึ้นแทบจะทันที

     

    “ก็เกือบดีแล้ว”  ผมนั่งลงบนโซฟาข้างๆม๊าแล้วตอบไป

     

    “เกือบดีแสดงว่ายังไม่หายสินะ  งั้นพรุ่งนี้ม๊าฝากส้มไปให้อู๋ฟานหน่อย  เพิ่มวิตามินๆ”

     

    “ไม่ไปได้มั้ยอ่ะม๊า”  ผมแกล้งงอแงไปงั้นแหละ  แกล้งม๊าเล่นๆ  เพราะยังไงถึงม๊าไม่สั่งผมก็จะไปอยู่แล้ว

     

    “ไม่ไปได้ยังไง  คู่หมั้นเราทั้งคน  ไม่คิดจะห่วงกันบ้างเลยรึไง”  เริ่มขึ้นเสียงเล็กน้อย  “สงสัยบัตรเครดิตที่ม๊าทำมาให้ใหม่นี่คงจะไม่ได้ใช้งานแล้วสินะ...”  ม๊าหยิบบัตรเครดิตสีดำสวยหรูไม่จำกัดวงเงินขึ้นมาแกว่งอยู่หน้าผม  พอผมจะคว้าม๊าก็หลบ

     

    “ตกลงจะไปไม่ไปพรุ่งนี้”

     

    “ไปก็ได้”

     

    “ดีมากเสี่ยวลู่ลูกรักของม๊า  ส่วนบัตรนี่ไว้มาเอาสิ้นเดือนล่ะกัน  ขอดูพฤติกรรมก่อน”  โหม๊าไม่ต้องดูแล้ว  ผมกับพี่อู๋ฟานตกลงปลงใจกันไปเรียบร้อยแล้ว  ถึงผมจะอยากได้บัตรเครดิตนี่แทบตายแต่ผมก็อยากแกล้งม๊าอ่ะ  อดทนล่ะกัน  ไม่เป็นไรแฟนผมรวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกก อุว่ะฮ่าฮ่า

     

    “อ่ะนี่แอปเปิ้ลกินมั้ย”  ม๊ายื่นจานแอปเปิ้ลที่วางอยู่บนโต๊ะให้ผม

     

    “ทำไมไม่เป็นรูปกระต่ายเหมือนของพี่อู๋ฟานล่ะม๊า”

     

    “กินๆไปเหอะน่า  ของแบบนี้มันอยู่ที่รสชาติ”  ม๊าบอกแล้วหยิบเข้าปากไปชิ้นนึง  “หวานมาก  อร่อย”

     

    “รู้แล้วน่า”  ผมเอื้อมมือไปหยิบมากินบ้าง  หวานขนาดติดลิ้นคนกินจะไม่หวานมากได้ไง><

     

    “ยังไม่ทันกินเลย  รู้ได้ไง  หรือไปแย่งพี่เค้ากินห๊ะ” 

     

    “ไม่ได้แย่ง”  จริงๆน้า...

     

    “อ้าว  แล้วรู้ได้ยังไงว่าหวาน  หรือว่า....”  ผมว่าม๊าคงจินตนาการไปไกลแล้วล่ะดูจากหน้าม๊านี่ไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้

     

    “เอาเป็นว่า..ผมรู้แล้วกันน่า”  ผมยิ้มหวานขยิบตาให้ม๊าไปทีนึงกระตุ้นจินตนาการม๊าก่อนจะลุกขึ้นไม่ลืมที่จะหยิบแอปเปิ้ลติดมือไปกินระหว่างเดินขึ้นไปบนห้อง  ปล่อยให้ม๊ากรีดร้องอย่างมีความสุขไปคนเดียว  คาดว่าพรุ่งนี้ผมคงจะมีบัตรเครดิตวงเงินไม่จำกัดใช้แล้วล่ะ  :)

     

     

    TBC

     

    -มาต่อแล้วจ้า  หลังจากขมกันมานาน  ตอนนี้ก็จะหวานนิดๆหน่อยๆพอให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ><  แต่งไปกินแอปเปิ้ลไปฟินมาก ฮ่าฮ่า

    -พอเราบอกว่าฟิคใกล้จบแล้วก็มีหลายคนอยากให้เราเขียนต่อไปอีก  แล้วก็มีให้เรารวมเล่มฟิคด้วยอ่ะ  อยากจะบอกว่าดีใจมากๆTT คือแค่ทุกคนเม้นให้เรา เราก็ดีใจมากๆแล้ว  ไม่เคยคิดถึงขั้นรวมเล่มฟิคเลยเพราะเราเขียนเอาสนุกสนองตัวเองไปวันๆ ฮ่าฮ่า  เอาเป็นว่าขอแต่งให้จบก่อนแล้วค่อยว่ากันละกันเนอะ:) ยังอยากเขียนต่อไปอีกหน่อย  ยังไม่มีซีนน้องลู่หานหึงพี่คริสเลย กร๊ากกกก (แต่งสนองตัวเองจริงๆ><)

    -ขอบคุณนะคะที่ติดตามฟิคเรื่องนี้มาโดยตลอด  เราจำแทบทุกคนที่เม้นได้แล้วเนี่ย  อยากจะขอบคุณเป็นรายบุคคลเลย ฮ่าฮ่า  ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและกำลังใจดีๆ  ฝากติดตามกันต่อไปด้วยน้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×