คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 10
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
“คุณอี้ฟานคะ คุณหมอมาค่ะ” เอ่อะ...ผมกับ...พี่อู๋ฟาน เปลี่ยนมาเรียกแบบนี้ล่ะกันเนอะ เรากำลังจะ...อื้อ นั่นแหละ กำลังจะจูบกันอยู่แล้วววววว แต่ดันมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน พวกเราก็เลยชะงักกันไปทั้งคู่แต่ก็ไม่ได้ถอยห่างออกจากกันหรอกนะ
“มีคนมา” ถึงผมจะบอกไปอย่างนั้นแล้วพี่เค้าก็ยังไม่ยอมเอาหน้าออกห่างจากผมอยู่ดี สีหน้าก็ไม่แม้แต่จะตื่นตระหนกอะไรเลยด้วยซ้ำ
“ก็ให้เค้ารอไปก่อน”
“แต่นั่นคุณหมอนะ”
“ถึงเป็นหมอก็ต้องรอ” พี่อู๋ฟานบอกเสร็จก็เลื่อนหน้าเข้ามาอีกครั้ง ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดีไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว...ก็ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นละกัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
“ป้าจะเปิดเข้าไปแล้วนะคะ” ได้ยินเท่านั้นแหละผมก็พยายามจะดันตัวพี่เค้าออกไป แต่ดูจากขนาดตัวแล้วก็คงจะรู้ว่าไม่สำเร็จหรอก เอาไงดีวะเนี่ย?? ถ้ายังจะอยู่บนเตียงกันด้วยท่านี้ใครเข้ามาเห็นคงจะไม่ดีแน่
“ไว้ค่อยต่อนะ..” ผมเลยตัดสินใจบอกออกไปก่อนจะยื่นหน้าไปจุ๊บลงบนริมฝีปากอีกฝ่ายเบาๆ พี่เค้าก็เลยยอมปล่อยผมให้ออกมายืนทำตัวเรียบร้อยเสมือนมาเยี่ยมญาติผู้ใหญ่อยู่ข้างเตียงซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณป้าคนนั้นกับคุณหมอเข้ามาพอดี เฮ้อ โชคดีไป...ผมถอนหายใจโล่งอก ส่วนคนที่เพิ่งล้มตัวนอนนั่นจะยิ้มอะไรนักหนา คนป่วยอะไรนอนยิ้มเบิกบานเชียว บ้ารึเปล่า?? ยิ่งเห็นพี่เค้ายิ้มแบบนั้นผมยิ่งโคตรจะเขินเลย ไม่รู้กล้าทำแบบนั้นไปได้ไง แล้วไหนจะก่อนหน้านี้ที่เกือบจะจูบกันอีก ไม่ไหวๆ น่าอายจริงๆ ผมปล่อยตัวปล่อยใจมากไปแล้วมั้งเนี่ย
“ขอโทษนะคะคุณหนูลู่หาน ป้าก็ไม่อยากรบกวนแต่คุณหมอท่านรีบน่ะค่ะ ต้องไปเข้าเวรที่โรงพยาบาลต่อ” ป้าแกเข้ามาถึงก็รีบขอโทษขอโพยผมใหญ่แล้วยังเหล่ไปที่คนตัวโตที่นอนยิ้มให้หมอตรวจอยู่บนเตียงอีก
“ครับ ไม่เป็นไรครับ” แล้วทำไมผมไม่ปฏิเสธไปเนี่ยว่าไม่ได้รบกวนอะไรเล้ยยยยย ผมไม่ได้กำลังจะทำอะไรกันซักหน่อย...เนอะ
“ดูสดชื่นขึ้นนะ ให้น้ำเกลืออีกขวด นอนหลับให้เพียงพออีกซักคืนก็คงจะปกติแล้วล่ะ หายไวแบบนี้สงสัยได้กำลังใจดี” คุณหมอแว่นอายุอานามน่าจะรุ่นเดียวกับคนป่วยนั่นแหละบอกผมแล้วหันหน้ามายิ้มให้
“เป็นทั้งกำลังใจทั้งต้นเหตุให้ป่วยเลยล่ะ”
“อยากมีแฟนเด็กก็แบบนี้แหละ...” คุณหมอบอกแล้วเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋า อะไรใครเด็กหมอ ถึงเป็นหมอผมก็กล้าเหวี่ยงใส่นะขอบอก
“ยังไงก็อย่าหักโหมทำงานมากเกินไปอีกนะ ถ้ามีเรื่องเครียดๆก็ควรหาอะไรทำผ่อนคลายบ้าง”
“ครับหมอ”
“โอเค เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวหมอจะฝากพวกวิตามินกับน้ำเกลืออีกขวดไว้ที่ป้าซูนะครับ งั้นหมอขอตัวนะ ไม่รบกวนแล้ว” คุณหมอบอกยิ้มๆกับพี่อู๋ฟานเหมือนจะเข้าใจกันสองคนแล้วก็ขอตัวออกไปพร้อมๆกับคุณป้า พอประตูปิดลงผมก็ถูกดึงลงไปนั่งอยู่บนเตียงเหมือนเดิมกับก่อนหน้านั้น
“เออพี่ ม๊าหั่นแอปเปิ้ลมาให้” ผมรู้ว่าจะถูกทำอะไรเลยรีบแทรกพูดขึ้นมาก่อน ผมก้มลงคว้ากระเป๋าเป้แล้วเอากล่องที่ใส่แอปเปิ้ลออกมา
“น่ารักมั้ย??” ผมหยิบแอปเปิ้ลรูปกระต่ายที่ม๊าบรรจงหั่นขึ้นมาชูให้พี่เค้าดู
“อื้อ น่ารัก”
“อ่ะงั้นกินเลย” ผมยื่นแอปเปิ้ลทั้งกล่องไปให้แต่พี่เค้าก็ไม่ยอมรับไป
“ความจำสั้นรึเปล่า ก่อนคุณหมอจะเข้ามาเราทำอะไรค้างกันไว้อยู่นะ จำไม่ได้หรอ”
“กินแอปเปิ้ลกันเถอะพี่” พอพี่เค้าจะยื่นหน้าเข้ามาหาผมเลยยัดแอปเปิ้ลชิ้นที่ถืออยู่ยัดเข้าปากพี่เค้าไปซะเลย ฮ่าฮ่า พอทำท่าจะเคี้ยวจนหมดผมก็ยัดใส่เข้าไปอีก
“แอปเปิ้ลอร่อยใช่มั้ย ถ้าไม่รีบกินมันจะดำแล้วไม่อร่อยนะ” ผมพูดไปยัดแอปเปิ้ลใส่ปากพี่เค้าไปเรื่อยๆ พี่เค้าส่งสายตาคาดโทษมาให้ผมซึ่งผมพอจะเดาได้ว่า...แอปเปิ้ลหมดเมื่อไหร่ล่ะโดนแน่
“หมดซักที” พอเคี้ยวชิ้นสุดท้ายกลืนลงคอไปเรียบร้อยพี่เค้าก็พูดขึ้น เอาล่ะ แล้วทีนี้ผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย
“เอาน้ำมั้ย”
“ไม่เอา”
“ผมไปเอาวิตามินให้กินหน่อยดีกว่า ดูหน้าพี่ซีดๆนะ”
“พี่ว่าพี่ได้รับวิตามินจากแอปเปิ้ลของลู่หานมากเกินไปแล้วด้วยซ้ำ”
“งั้นควรกินน้ำละลายวิตามินหน่อยนะ” หลักการอะไรของผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ขอแค่ให้ตอนนี้รอดเงื้อมมือไอ้คนที่ตั้งหน้าตั้งตาจะลวนลามผมด้วยปากไปก่อนก็พอ
“ใช้น้ำเกลือแทนก็ได้มั้ง” พี่เค้าบอกแล้วยกสายน้ำเกลือให้ดู
“เอ่อ....งั้น...”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว...” จบประโยคนั้นผมก็ถูกดันจนหลังติดกับหัวเตียงตามมาด้วยอีกคนที่พลิกตัวเอาแขนมาคร่อมผมไว้ แล้วแนบริมฝีปากทาบทับผมทันที ผมตกใจตาเบิกกว้างทำอะไรไม่ถูก มือไม้ก็ไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหนเลยจับชายเสื้อยืดของตัวเองบิดจนยับไปหมด มือหนาเลื่อนมาจับที่ต้นคอผมเพื่อชักนำให้หันไปตามองศาที่ต้องการ ริมฝีปากผมถูกดูดดึงอย่างอ่อนโยนเหมือนพี่เค้าค่อยๆชิมขนมหวานทีละนิดๆจนผมเริ่มคล้อยตาม มือที่บิดชายเสื้ออยู่เริ่มคลายออก ตาที่เบิกกว้างอยู่ก็ปิดลง มือที่จับอยู่ที่ต้นคอผมเลื่อนลงมาจับมือผมให้คล้องคออีกฝ่ายก่อนที่พี่เค้าจะขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นจนอกเราแทบจะติดกันอยู่แล้ว เพียงแค่ถูกอีกฝ่ายขบริมฝีปากเบาๆผมก็เปิดโอกาสให้เค้าเข้ามาสร้างความหวาบหวามภายในอย่างง่ายดาย รสชาติแอปเปิ้ลหวานซ่านไปทั่วโพรงปากผม พี่เค้าจูบเก่งจนผมรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งตัวทำเอาผมเผลอตัวขยุ้มกลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่ายแล้วรั้งคอพี่เค้าให้กดจูบลึกลงมาอีก....
“ปากแดงหมดเลย” พี่อู๋ฟานพูดขึ้นหลังจากละริมฝีปากออกมาแต่ใบหน้าของเราก็ยังรักษาระยะความใกล้ชิดด้วยการเอาหน้าผากมาชนกัน ส่วนมือผมก้ยังคล้องอยู่ที่คอพี่เค้าเหมือนเดิม สรุปคืออยู่ท่าเดิมนั่นแหละ><
“เพราะใครล่ะ” พอผมพูดพี่เค้าก็จุ๊บลงบนริมฝีปากผมเบาๆ
“ใครกันนะกล้าทำลู่หานได้”
“คนแถวนี้แหละ” ผมพูบจบก็ถูกจุ๊บอีกที แล้วก็อีกที...อีกที...อีกที ผมว่าทำแบบนี้มันน่าอายกว่าที่เราจูบกันเมื่อกี้อีกนะ
“พอแล้วพี่”
“พอก็พอ” พูดเสร็จก็กดริมฝีปากลงบนแก้มผมแรงๆอีกทีก่อนจะยอมปล่อยผมเป็นอิสระอีกครั้ง พี่อู๋ฟานก็พลิกตัวกลับไปนอนพิงหัวเตียงตามเดิม
“น้ำเกลือใกล้หมดแล้ว ผมไปตามคุณป้ามาเปลี่ยนให้ดีกว่า”
“ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากให้ไปเลย” พี่อู๋ฟานจับมือผมไว้แล้วทำเสียงง้องแง้งเหมือนเด็กซึ่งไม่ได้เข้ากับตัวโตๆของตัวเองเลย
“ไปแป๊บเดียวเอง สัญญาว่าจะรีบกลับมา”
“ไม่เอาอ่ะ สัญญาว่าจะอยู่เฝ้าพี่ดีกว่า” พี่เค้าบอกไม่มองหน้าผมแต่เล่นอยู่กับมือเล็กๆผมนั่นแหละ
“โห...มากไปเปล่าเนี่ย”
“ไม่มากหรอก อีก2วันพี่ต้องไปทำงานที่ฮ่องกงแล้วนะ ไปตั้ง5วัน”
“ยังไม่ทันหายดีคิดเรื่องงานอีกแล้ว” ผมทำหน้าหงุดหงิดใส่ ก็จริงนี่ ป่วยอยู่แท้ๆยังจะคิดเรื่องงานอีก ให้มันได้แบบนี้สิ
“โปรเจคใหญ่ทิ้งไม่ได้จริงๆ แต่ไว้พี่จะซื้อของกลับมาฝาก อยากได้อะไรรึเปล่าล่ะ”
“ไม่ต้องเอาของมาล่อเลย ไม่ใช่เด็กๆนะ”
“รู้แล้วน่า เด็กที่ไหนจะกล้าจูบตอบได้ขนาดนั้นกัน” ไอ้บ้า....>///<
“พูดมาก ไปตามคุณป้าก่อนนะ” ผมพูดเสียงนิ่งๆข่มอาการเขินของตัวเองแต่ผมว่าพี่เค้าคงรู้แหละถึงยอมปล่อยให้ผมไปตามคุณป้าง่ายๆ คนอะไรไม่รู้อยู่ด้วยแล้วเหนื่อยจริงๆ ทำหัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะตลอดเลย
“อื้อ ก็ได้ รีบกลับมานะ ไปนานพี่คิดถึง” โอ๊ะ เกิดอะไรขึ้นกับไอ้หน้าหล่อผู้เคร่งขรึมเนี่ย ผมกลั้นยิ้มจนแก้มแทบแตกแล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คนบ้านอนยิ้มบนเตียงคนเดียวต่อไป บ้าจริงๆคนอะไรก็ไม่รู้ นี่ผมคิดผิดคิดถูกเนี่ยที่รักคนแบบนี้ไปซะแล้ว
หลังจากเปลี่ยนขวดน้ำเกลือไปเสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าคุณป้าแกจะรีบไปไหนทำเวลาเร็วมากๆ ในที่สุดผมกับพี่อู๋ฟานก็อยู่ในห้องด้วยกันสองคนเหมือนเดิมอีกจนได้
“อยู่เฝ้าไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้ ไม่ได้บอกม๊าไว้ เดี๋ยวม๊าเป็นห่วง”
“โทรไปบอกม๊าสิ อยู่กับพี่น่าห่วงที่ไหน” โทรไป ม๊าก็ให้อยู่เฝ้าดิ เรื่องอะไรจะโทร เพิ่งคบกันวันแรกจะให้มานอนค้างอ้างแรมด้วยกันแล้วหรอ ถึงผมจะเด็กสมัยใหม่แต่ก็หัวโบราณนะ...เอ้ย ว่าแต่ผมกับพี่อู๋ฟานยังไม่ได้คบซะหน่อย ถึงจะจูบกันไปแล้วก็เหอะ-*-
“ยังไงก็ไม่ได้ หมอบอกว่าพี่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะ”
“ก็พักผ่อนไง ไม่ได้คิดจะทำอะไรซักหน่อยหรือลู่หานคิด” เฮ้ยยยยยยยย ไม่ต้องมายิ้มเลย ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละ
“บ้า ไม่ได้คิดเว้ย”
“พูดจาให้มันเพราะๆหน่อย” แล้วจะมาดุผมทำไมเนี่ย
“ไม่ได้คิดคร้าบบบบบบ” เห็นว่าป่วยอยู่นะถึงยอม:P
“น่ารัก” ชมผมแล้วก็หยิกแก้มผมอีก อะไรจะเอ็นดูผมขนาดนั้นก็ไม่รู้
“เดี๋ยวอีกสิบนาทีกลับแล้วนะ” ผมดูนาฬิกาก็เห็นว่านี่ก็เกือบสี่โมงเย็นแล้วถ้าไม่กลับตอนนี้รถติดแย่เลย
“จะไม่อยู่เฝ้าจริงๆหรอ” พี่เค้าถาม ผมก็พยักหน้าตอบกลับไป ใจจริงแล้วผมก็อยากอยู่ด้วยนานๆเหมือนกันนั่นแหละ
“ใจร้าย แฟนป่วยทั้งคน”
“มั่วแล้ว ผมไปเป็นแฟนพี่ตอนไหน”
“ก็ตอนที่ลู่หานบอกรักพี่ไง” ไอ้บ้าจะพูดให้เขินทำไมเนี่ย แล้วก็นะแค่บอกรักจะมาโมเมจับผมเป็นแฟนเลยหรอ บอกรักก็ส่วนบอกรัก ขอคบก็ส่วนขอคบดิ
“ไม่เกี่ยวกันซะหน่อย”
“งั้นเป็นแฟนพี่มั้ยล่ะ”
“โห...ขอเป็นแฟนทั้งสายน้ำเกลือเนี่ยนะ โรแมนติดสุดๆอ่ะ” ขอกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอ คิดว่าผมยอมให้ถึงเนื้อถึงตัวหน่อยแล้วผมจะยอมเป็นแฟนด้วยง่ายๆรึไง ระดับผมต้องเล่นตัวหน่อย
“งั้นเอาออกก่อนก็ได้”
“เฮ้ย ไม่ต้องเลยๆ” พี่อู๋ฟานทำท่าจะดึงสายน้ำเกลือออกจริงๆผมเลยรีบร้องออกไปแล้วตีมือคนป่วยด้วยซะเลย
“อ้าวแล้วจะเอายังไง” แน่ะ...มาทำเสียงหงุดหงิดใส่ผมอีก
“ไม่เอายังไงทั้งนั้นแหละ” งอนมันซะเลยดีมั้ยเนี่ย??
“ตกลงจะไม่เป็นแฟนกันว่างั้น”
“ไม่ได้บอกอย่างนั้นซะหน่อย”
“แล้วจะให้พี่ทำยังไงล่ะ”
“ยังไงก็ได้”
“อยากมีแฟนเด็กมันลำบากขนาดนี้เลยหรอเนี่ย” พี่เค้าบ่นพึมพำแต่ก็ดังพอที่ผมจะได้ยินนั่นแหละ
“งั้นก็ไม่ต้องมีมั้ยล่ะ” พูดแบบนี้เดี๋ยวงอนจริงนะเฟร้ย
“ใจร้ายกับพี่ตลอดอ่ะ รักพี่จริงรึเปล่าเนี่ย” อ้าว...ชักจะยังไง ตอนนี้ใครงอนใครกันแน่เนี่ย เหมือนพี่เค้าจะงอนผมนะ แต่ถ้าคิดๆไปแล้วก็น่างอนอยู่อ่ะ ผมเล่นตัวเยอะไปแน่เลย พอๆเลิกๆ...เล่นตัวมากๆเดี๋ยวพี่เค้าหมดรักแล้วผมก็แย่ดิ
“ถึงผมร้ายแต่ผมก็รักพี่นะ” คนที่กะจะงอนอย่างผมเลยต้องมาง้อเค้าแทนด้วยการบอกรักรอบสอง อายปากเหมือนกันแต่ผมว่านี่เป็นวิธีง้อที่ได้ผลดีที่สุดนะ
“รักพี่แล้วทำไมถึงไม่ยอมเป็นแฟนพี่ซักทีล่ะหืม??”
“เป็นคู่หมั้นแล้วยังไม่พออีกหรอ”
“คู่หมั้นมันเรื่องของผู้ใหญ่ แต่เป็นแฟนมันเรื่องของเรานะ มาเริ่มต้นเรื่องของเราใหม่ด้วยกันเถอะนะ คบกับพี่นะครับลู่หาน”
“คบดีมั้ยน้า...” กร๊ากกกกกก คนหน้าหล่อของผมคิ้วขมวดตาดุเลย สงสัยผมจะเล่นผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย
“ฮ่าฮ่า อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ รักขนาดนี้แล้วไม่คบได้ไงล่ะ เป็นแฟนกันนะครับพี่”
“ครับ ลู่หาน” พี่อู๋ฟานตอบตกลงพร้อมรอยยิ้มมุมปากเท่บาดใจ ทำเอาผมเขินจนอยากจะมุดลงไปในผ้าห่มแต่คิดว่าไม่ทำดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ได้กลับบ้านเอา
“สิบนาทีพอดีงั้นผมกลับบ้านแล้วนะ”
“โห คบกันไม่ถึงหนึ่งนาทีทำร้ายจิตใจแฟนซะแล้ว”
“ไว้พรุ่งนี้จะรีบมาหาแต่เช้าเลย”
“ถ้าจะมาแต่เช้าก็ค้างด้วยกันซะที่นี่เลยเถอะนะ ป้าซูจะต้องดีใจแน่ๆเลยถ้าลู่หานยอมค้างด้วย”
“แล้วป้าซูเกี่ยวอะไรเนี่ย”
“ลู่หานไม่รู้หรอกว่าคนทั้งบ้านนี้รอลู่หานมานานขนาดไหน”
“พูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจ”
“เรื่องมันยาว ต้องเล่าให้ฟังทั้งคืนนนนนนนน”
“มาไม้นี้ผมก็ไม่ค้างด้วยหรอก...ไว้จะมาฟังเรื่องยาวๆนี่วันหลังล่ะกัน ต้องกลับแล้วจริงๆ”
“เฮ้อ...ตามใจๆ ป่ะ เดี๋ยวพี่ให้คนไปส่ง” พี่เค้าพยายามจะลุกมาส่งผมแต่ผมก็ดันไหล่ให้นอนลงไปเหมือนเดิม
“ไม่ต้องหรอก ผมกลับเองได้ แล้วพี่ก็ไม่ต้องลุกไปไหนด้วย นอนเฉยๆไปเลย”
“ลู่หาน พี่ไม่ได้ป่วยหนักขนาดนั้นนะ”
“พอๆ เลยมาห้านาทีแล้วเนี่ย ไม่ได้กลับซักที ไปจริงๆแล้วนะพี่ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน” ผมบอกแล้วยกมือขึ้นโบกบ๊ายบายเต็มที่แต่พี่อู๋ฟานก็ยังทำหน้ามุ่ยใส่ผมอยู่ ผมเลยยอมแพ้ก้มลงหอมแก้มคนหน้างอไปเบาๆทีนึงจึงได้เห็นรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าหล่อจนได้
“กลับดีๆนะครับ ถึงบ้านแล้วโทรหาด้วย”
“อื้อ” ผมพยักหน้าตอบกลับไป กว่าจะเดินออกไปจากห้องได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเพราะผมเดินถอยหลังไป ไม่ได้มีแค่พี่เค้าหรอกที่ไม่อยากให้ผมกลับ ผมเองก็อยากจะอยู่ด้วยนานๆ กว่าผมจะรู้ตัวว่ารักก็เสียเวลาไปตั้งเท่าไหร่แล้ว แถมยังทำให้พี่เค้าเจ็บปวดอีก ผมอยากจะชดเชยทั้งเวลาทั้งความรู้สึกของทั้งพี่อู๋ฟานและตัวผมเอง รวมถึงตอบแทนการเสียสละของเซฮุนด้วย ผมอยากจะขอโทษแต่มันก็คงจะไม่ได้ทำให้เซฮุนรู้สึกดีขึ้น ผมรู้ว่าเซฮุนเป็นคนดี ในอนาคตข้างหน้าเซฮุนจะต้องเจอคนที่ดีและรักเค้าอย่างแท้จริงแน่นอน ผมเชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น...
.
.
.
“อู๋ฟานเป็นยังไงบ้างหายดีรึยัง” พอผมก้าวเท้าเข้ามาในห้องนั่งเล่นม๊าก็เอ่ยถามขึ้นแทบจะทันที
“ก็เกือบดีแล้ว” ผมนั่งลงบนโซฟาข้างๆม๊าแล้วตอบไป
“เกือบดีแสดงว่ายังไม่หายสินะ งั้นพรุ่งนี้ม๊าฝากส้มไปให้อู๋ฟานหน่อย เพิ่มวิตามินๆ”
“ไม่ไปได้มั้ยอ่ะม๊า” ผมแกล้งงอแงไปงั้นแหละ แกล้งม๊าเล่นๆ เพราะยังไงถึงม๊าไม่สั่งผมก็จะไปอยู่แล้ว
“ไม่ไปได้ยังไง คู่หมั้นเราทั้งคน ไม่คิดจะห่วงกันบ้างเลยรึไง” เริ่มขึ้นเสียงเล็กน้อย “สงสัยบัตรเครดิตที่ม๊าทำมาให้ใหม่นี่คงจะไม่ได้ใช้งานแล้วสินะ...” ม๊าหยิบบัตรเครดิตสีดำสวยหรูไม่จำกัดวงเงินขึ้นมาแกว่งอยู่หน้าผม พอผมจะคว้าม๊าก็หลบ
“ตกลงจะไปไม่ไปพรุ่งนี้”
“ไปก็ได้”
“ดีมากเสี่ยวลู่ลูกรักของม๊า ส่วนบัตรนี่ไว้มาเอาสิ้นเดือนล่ะกัน ขอดูพฤติกรรมก่อน” โหม๊าไม่ต้องดูแล้ว ผมกับพี่อู๋ฟานตกลงปลงใจกันไปเรียบร้อยแล้ว ถึงผมจะอยากได้บัตรเครดิตนี่แทบตายแต่ผมก็อยากแกล้งม๊าอ่ะ อดทนล่ะกัน ไม่เป็นไรแฟนผมรวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกก อุว่ะฮ่าฮ่า
“อ่ะนี่แอปเปิ้ลกินมั้ย” ม๊ายื่นจานแอปเปิ้ลที่วางอยู่บนโต๊ะให้ผม
“ทำไมไม่เป็นรูปกระต่ายเหมือนของพี่อู๋ฟานล่ะม๊า”
“กินๆไปเหอะน่า ของแบบนี้มันอยู่ที่รสชาติ” ม๊าบอกแล้วหยิบเข้าปากไปชิ้นนึง “หวานมาก อร่อย”
“รู้แล้วน่า” ผมเอื้อมมือไปหยิบมากินบ้าง หวานขนาดติดลิ้นคนกินจะไม่หวานมากได้ไง><
“ยังไม่ทันกินเลย รู้ได้ไง หรือไปแย่งพี่เค้ากินห๊ะ”
“ไม่ได้แย่ง” จริงๆน้า...
“อ้าว แล้วรู้ได้ยังไงว่าหวาน หรือว่า....” ผมว่าม๊าคงจินตนาการไปไกลแล้วล่ะดูจากหน้าม๊านี่ไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
“เอาเป็นว่า..ผมรู้แล้วกันน่า” ผมยิ้มหวานขยิบตาให้ม๊าไปทีนึงกระตุ้นจินตนาการม๊าก่อนจะลุกขึ้นไม่ลืมที่จะหยิบแอปเปิ้ลติดมือไปกินระหว่างเดินขึ้นไปบนห้อง ปล่อยให้ม๊ากรีดร้องอย่างมีความสุขไปคนเดียว คาดว่าพรุ่งนี้ผมคงจะมีบัตรเครดิตวงเงินไม่จำกัดใช้แล้วล่ะ :)
TBC
-มาต่อแล้วจ้า หลังจากขมกันมานาน ตอนนี้ก็จะหวานนิดๆหน่อยๆพอให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ>< แต่งไปกินแอปเปิ้ลไปฟินมาก ฮ่าฮ่า
-พอเราบอกว่าฟิคใกล้จบแล้วก็มีหลายคนอยากให้เราเขียนต่อไปอีก แล้วก็มีให้เรารวมเล่มฟิคด้วยอ่ะ อยากจะบอกว่าดีใจมากๆTT คือแค่ทุกคนเม้นให้เรา เราก็ดีใจมากๆแล้ว ไม่เคยคิดถึงขั้นรวมเล่มฟิคเลยเพราะเราเขียนเอาสนุกสนองตัวเองไปวันๆ ฮ่าฮ่า เอาเป็นว่าขอแต่งให้จบก่อนแล้วค่อยว่ากันละกันเนอะ:) ยังอยากเขียนต่อไปอีกหน่อย ยังไม่มีซีนน้องลู่หานหึงพี่คริสเลย กร๊ากกกก (แต่งสนองตัวเองจริงๆ><)
-ขอบคุณนะคะที่ติดตามฟิคเรื่องนี้มาโดยตลอด เราจำแทบทุกคนที่เม้นได้แล้วเนี่ย อยากจะขอบคุณเป็นรายบุคคลเลย ฮ่าฮ่า ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและกำลังใจดีๆ ฝากติดตามกันต่อไปด้วยน้า
ความคิดเห็น